เย่เทียนหยู่ไม่รู้ความคิดของหลินหว่านหรู เขาเก็บโทรศัพท์ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยปาก “กงซุนจื้อ ผมได้ให้โอกาสคุณไปแล้ว แต่ขนาดคนที่มีเมตตาอย่างหลินหว่านหรูยังไม่ยอมคุยกับนายเลย”“อย่าโทษผมก็แล้วกัน เกิดชาติหน้าทำตัวเป็นคนดีเถอะ”“ไม่นะ อย่า...”“ขอร้องละ ขอร้อง จะอะไรผมก็ให้ได้หมดทุกอย่าง”“ขอแค่คุณยอมปล่อยผมไป ผมจะยกทุกอย่างที่เป็นของตระกูลกงซุนให้คุณ”ทันทีที่กงซุนจื้อได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่เขาก็กลัวสุดขีดแต่แล้ววินาทีต่อมา มือขวาของเย่เทียนหยู่ก็กดลงเล็กน้อย “ตั้งแต่ตอนที่ผู้อารักขาเฟยหลงปรากฏตัว ตระกูลกงซุนก็ถูกชี้ชัดให้ต้องย่อยยับอยู่แล้ว คุณจะไปมีของอะไรให้ผมได้ยังไง”“ไม่นะ อ้ากกก!”กงซุนจื้อโหยหวน เขาเพียงรู้สึกได้ว่ามีพลังกระแทรกเข้ามาในอวัยวะทั้งห้าและเส้นชีพจรทั้งหกภายในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหัวใจ จากนั้นเขาก็อ้าปากกว้างแล้วล้มลงกระแทกพื้น!จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายก่อนชีวิตจะปลิดปลิว เขาก็ยังคุกเข่าขอร้อง เห็นได้ชัดว่าเขาหวังจะได้มีชีวิตต่อไปเพียงใดผู้มากฝีมือรอบด้านมองดูฉากเบื้องหน้าก่อนที่ต่างคนต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป แต่กลับไร้ซึ่งหนทาง เพราะความกลัวกำลังแล่นไปถึงพวกเ
หลังจากพบแล้ว เขาก็รีบตรงมาทันที แต่เมื่อเขาเข้ามาด้านใน เขาพบว่าทั้งกงซุนจื้อและกงซุนมิ่วตายแล้ว และคนอื่นๆ ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตรวจสอบอย่างระมัดระวังทันที แต่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆเพียงแต่เมื่อพิจารณาจากอาการบาดเจ็บ คนที่ลงมือนั้นมีพลังมหาศาล เกรงว่าคงเป็นจอมยุทธ์ที่เกือบเป็นระดับปรมาจารย์คิดไม่ถึงเลยว่า ในเมืองเทียนไห่เล็กๆ นี้จะมีจอมยุทธ์ที่ใกล้กับระดับปรมาจารย์อยู่ด้วยแม้ทั้งคู่จะตายไปแล้ว แต่ร่างของพวกเขาถูกทิ้งไว้ที่นี่ ก็ยังพอใช้เป็นข้อแก้ต่างได้ แค่ว่าเขาเป็นคนจัดการพวกเขาเองก็พอส่วนคนที่เขาพามา ต่างก็เป็นคนที่เขาสนิทด้วย ให้พวกเขาพูดอะไรพวกเขาก็จะพูดอย่างนั้นขณะเดียวกัน เย่เทียนหยู่พาคนสี่ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย เขาวางพวกเขาลงแล้วจากไปทันทีพวกเขาทั้งสี่มองดูแผ่นหลังของเย่เทียนหยู่ด้วยสายตาตกตะลึงไม่น่าแปลกใจเลยที่อีกฝ่ายมั่นใจมากขนาดนี้ ชายที่แข็งแกร่งและน่าสะพรึงกลัวจะสนใจเรื่องว่าพวกเขาจะทรยศต่อตนเองได้ยังไง บางทีเขาอาจจะพูดถูก เขาแค่ไม่อยากฆ่าคนมากเกินไป ก็เลยให้โอกาสตัวเองและคนอื่น ๆ มีชีวิตรอดตามที่เย่เทียนหยู่โทรศัพท์ไป
“อะไรนะกันหว่านหรู หลานรู้ไหมว่าหลานกำลังพูดอะไรออกมา”“คนอย่างเย่เทียนหยู่น่ะเหรอเอาชนะหัวหน้าตระกูลกงซุน?”“อย่าว่าแต่ผู้นำตระกูลกงซุนเลย แค่เขาต้านทานกระบวนท่าของผู้ติดตามผู้นำตระกูลกงซุนได้ ปู่คงไม่ดูถูกเขาขนาดนั้นหรอก!”คุณปู่หลินตะโกนด้วยความโกรธทันทีหลานสาวคนนี้หมกมุ่นอยู่กับเย่เทียนหยู่มากถึงขั้นพูดจาเหนือความเป็นจริงขนาดนี้เลยหรือแต่เมื่อลองคิดดูอีกครั้ง หลานสาวไม่เข้าใจโลกแห่งจอมยุทธ์ เธอไม่รู้ว่าจอมยุทธ์อย่างกงซุนมิ่วมีสถานะระดับไหนแต่หลินหว่านหรูไม่เชื่อ และพูดว่า: “สิ่งที่หนูพูดเป็นความจริง หนูเพิ่งคุยกับเทียนหยู่ทางโทรศัพท์เมื่อไม่นานมานี้ และเขาก็จัดการกงซุนมิ่วกับพรรคพวกของเขาแล้ว”“เขาทำสำเร็จแล้วเหรอ?”ดวงตาของคุณปู่หลินเต็มไปด้วยความตกใจและความเหลือเชื่อ“ใช่ เทียนหยู่บอกด้วยว่าตระกูลกงซุน วิชาวรยุทธ์ของพวกนั้นอ่อนแอเกินไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ขอบเขาเลย เพราะงั้นพวกปู่ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ”หลินหว่านหรูตอบกลับ“เป็นไปไม่ได้!”“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”“เขาต้องกำลังหลอกหลานอยู่แน่”คุณปู่หลินส่ายหน้าซ้ำๆ แล้วพูดว่า: “ไม่ว่ายังไงก็ตาม เราซ่อนก่อนเถอะ ถ้าเขาทำสำเร็
แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เธอเข้าใจเย่เทียนหยู่ผิดทุกครั้งเลยไม่ใช่เหรอ เพราะอย่างนั้นในครั้งนี้ เธออดไม่ได้ที่จะเชื่อในเย่เทียนหยู่มากกว่าเธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “คุณชายเย่ คุณจัดการพวกเขาแล้วจริงเหรอคะ เป็นคุณฆ่าพวกเขาเองเหรอ?”คำถามนี้ถามเย่เซวียน แต่เขาก็ตอบยืนยันอย่างรวดเร็ว: “แน่นอนสิครับ ประธานหลินไม่เชื่อเหรอ?”“ไม่ใช่นะคะ!”หลินหว่านหรูรีบพูด “ฉันแค่อยากจะยืนยันน่ะค่ะ เพราะคนของตระกูลกงซุนอันตรายเกินไป”“เป็นแบบนั้นจริงๆ ถึงตระกูลกงซุนจะเป็นแค่มดสำหรับผมก็เถอะ แต่เทียบกับตระกูลหลินก็คงจะเป็นยักษ์ใหญ่ทีเดียว”เย่เซวียนพูดเป็นนัยถึงพลังของตระกูลเย่แล้วถามว่า: “คุณหลิน คุณสนใจไปที่หลงตูเพื่อหาความก้าวหน้าหรือเปล่าครับ ถ้าไปที่นั่น ผมคนนี้สามารถให้ความช่วยเหลือคุณได้มาก”หลินหว่านหรูได้ฟังดังนั้นแล้วจะไม่รู้ได้ยังไงว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร “ขอบคุณคุณชายเย่นะคะ แต่ตอนนี้ธุรกิจของตระกูลฉันยังแข็งแกร่งไม่พอ เราเลยยังไม่มีแผนการนั้นเลยค่ะ!” เธอรีบตอบ“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะ”เขาพูดไปขนาดนั้นแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับยังไม่รู้จักน้อมรับอีก เย่เซวียนจึงไม่อยากอยู่ที่น
“ขอความเมตตาอะไร? เห็นด้วยตาตัวเองหรือเปล่า” ท่านปู่หลินถาม“ไม่ได้เห็นหรอกค่ะ”“แค่นั้นแหละ เขาคงหาบันทึกเสียงมาหลอกหลาน อีกอย่าง ถ้าหลานเชื่อเขามาก ทำไมเมื่อกี้หลานไม่ถามคุณชายเย่ล่ะ? แค่เปรียบเทียบทั้งสองคน ความจริงก็ปรากฏออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ?” ท่านปู่หลินถามกลับ“หนูก็เคนคิดแบบนั้นค่ะ แต่เห็นได้ชัดว่าคุณชายเย่กำลังโกหก ถ้าหนูเปิดเผยเขา ก็เป็นการทำให้เขาอับอายไม่ใช่เหรอคะ?” หลินหว่านหรูถามอันที่จริงเธอยังมีข้อกังวลอีกประการหนึ่ง นั่นคือ เย่เทียนหยู่บอกเธอว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร การบอกคนในตระกูลถือเป็นการละเมิดไปแล้วหากเขาบอกคุณชายเย่อีก ก็ไม่รู้ว่ามันจะนำมาปัญหาแบบไหนไปหาเทียนหยู่ อีกอย่างถ้าคุณชายเย่ถูกเปิดเผยว่าเป็นคนพูดโกหก แล้วเกิดโกรธจัด ก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้บ้างคุณปู่หลินโกรธและทำอะไรไม่ถูก หลานสาวคนนี้ถูกเย่เทียนหยู่หลอกจนจมปลักไปแล้ว แต่เด็กนั่นก็เก่งวรยุทธ์มาก ขนาดหาคนไปจัดการเขายังทำไม่สำเร็จดูท่าคงมีแต่ต้องทำให้หลินหว่านหรูมองแผนการหลอกลวงของเย่เทียนหยู่ออกเท่านั้นในเมื่อตระกูลกงซุนก็เกิดเรื่องไปแล้ว พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องจากไปไหน หลินหว่านหรูกลับไปที่ห้อ
เป็นสาวพราวเสน่ห์ที่ช่างดึงดูดจริงๆ“คุณคงเป็นเย่เทียนหยู่สินะ?” ถึงหญิงสาวจะไม่เคยเจอตัวจริงของเย่เทียนหยู่ แต่เธอเคยเห็นรูปถ่าย วันนี้เธอจึงจงใจมาหาเขาถึงที่เย่เทียนหยู่ชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้สักหน่อย เขาพยักหน้า “ผมเองครับ คุณคือ?”“คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นใคร ยังจะทำมาบอกว่าช่วยตระกูลของฉันได้ แถมยังหลอกเอาวิลล่าระดับไฮเอนด์ของตระกูลซ่งเราไปอีก”หญิงสาวถามด้วยความโกรธทันทีเมื่อเขาได้ยินแบบนั้น เย่เทียนหยู่ก็รู้ที่มาของหญิงสาว อีกทั้งท่าทางโหดเหี้ยมและโดดเด่นเช่นนี้ เกรงว่าคงเป็น ซ่งหลิง ต้นเหตุของปัญหาครั้งนี้สินะ“อะไร นายไม่มีอะไรจะพูดเหรอ?” ซ่งหลิงตะคอกอย่างเย็นชาชายที่อยู่ข้างๆ เขาถึงกับพูดว่า: “เจ้าหนู กล้าจริงๆ ถึงกับกล้าหลอกเอาวิลล่าของตระกูลซ่ง ไม่กลัวตายอยู่ในนั้นหรือไง?”เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วและถามว่า “คุณเป็นใครอีก”“ผมเป็นใคร บอกไปคงทำนายกลัว”ชายหนุ่มเผยสีหน้าเย่อหยิ่ง “แต่จะบอกให้ก็ได้ ฉันคือหม่าเผิง ทายาทของหงหม่ากรุ๊ป หงหม่ากรุ๊ปเคยได้ยินหรือเปล่า ทรัพย์สินมากกว่าห้าพันล้านเลยนะ”“หลายพันล้านนั่นเยอะแล้วเหรอ?” เย่เทียนหยู่ตอยเสียงเรีย
เมื่อได้ยินคำถามนี้ ซ่งหลิงก็ลังเลและถามว่า “หม่าเผิง คุณบอกว่าคุณชอบฉันและเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อฉันใช่ไหม?”“แน่นอน สำหรับคุณ ผมเต็มใจทำทุกอย่าง จะให้บุกน้ำลุยไฟผมก็ไม่ลังเลเลย” หม่าเผิงสัญญาทันทีก็ผู้หญิงชอบฟังคำพูดแบบนี้ทุกคนไม่ใช่รึไงแน่นอนว่าเมื่อฟังคำพูดเหล่านี้ ซ่งหลิงก็รู้สึกประทับใจมากทั้งสองมักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน แม้จะไม่เคยยอมรับความรักของหม่าเผิง แต่หม่าเผิงก็หน้าตาดี ตระกูลของเขาถือว่าร่ำรวยและมีอำนาจ เป็นคู่ครองที่เหมาะสมกับเธอ แต่เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะรักเธอมากขนาดนี้“หลิงหลิง ทำไมคุณไม่พูดต่อ?” หม่าเผิงมองไปที่ซ่งหลิง เห็นได้ชัดว่าเธอประทับใจ เขาจึงแอบภูมิใจ หากได้แต่งงานกับลูกสาวของตระกูลซ่งละก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาธุรกิจของเขา ยิ่งกว่านั้น ระนะนี้ธุรกิจที่บ้านเขาไม่ราบรื่นสักเท่าไร“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ไม่คิดว่าคุณจะชอบฉันมากขนาดนี้ จริงๆ แล้วครั้งนี้ฉันประสบปัญหาใหญ่น่ะ”“ปัญหาใหญ่เหรอ?”“เรื่องยุ่งยากอะไรกัน คุณบอกผม ต่อให้ผมต้องใช้อำนาจของคนทั้งตระกูลผมก็จะช่วยคุณ คงไม่ใช่เรื่องหลี่ว์เจิ้งนั่นหรอกใช่ไหม?” หม่าเผิงถามทันที“เป็นเขาค่ะ เขาเป็
หมายความว่า พี่ชายก็ไม่เห็นด้วยกับการให้วิลล่าไปหลังจากกลับบ้านแม้ว่าจะสายไปหน่อย แต่ซ่งหลิงก็ยังไปหาซ่งหยางด้วยท่าทางลึกลับ ก่อนที่เธอจะพูดอย่างมีความสุขว่า “พี่คะ รู้ไหมว่าวันนี้ฉันไปทำอะไรมา”“ทำอะไร ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญนะ อย่าเพิ่งทำเรื่องวุ่นวาย” ซ่งหยางรู้สึกหวาดหวั่นอย่างไม่อาจอธิบาย“ไม่ต้องกังวล ฉันเป็นคนประเภทที่ยุ่งวุ่นวายรึไงคะ วันนี้ฉันไปหา เย่เทียนหยู่ นักต้มตุ๋นคนนั้นมาค่ะ” ซ่งหลิงพูดอย่างมีความสุข“อะไรนะ!”ซ่งหยางตกใจกลัว ใบหน้าของเขาซีดเผือด: “หลิงหลิง คุณกำลังพูดเรื่องอะไร คุณไปหาคุณชายเย่แล้วเหรอ ไปเขาทำไม ไม่ได้ทำอะไรมั่วซั่วไปใช่ไหม” เขาพูดรีบพูดด้วยความวิตกกังวล“จะไปทำมั่วซั่วได้ยังไงละคะ หนูไปหาเขาเพื่อขอวิลล่าคืน ไม่สิ วิลล่าไม่ได้คืน แต่เขาโอนเงินมาให้ร้อยห้าสิบล้านค่าวิลล่าค่ะ พี่ว่า ฉันเก่งสุดๆ ไปเลยใช่ไหมคะ”ซ่งหลิงพูดอย่างตื่นตระหนก“อะไรนะ!”“……”ซ่งหยางตกตะลึงสุดขีดพร้อมกับชะงักอยู่กับที่ด้วยสีหน้าคร่ำเครียด เขายกมือขวาขึ้นมาและอยากจะตบเธอแรงๆตั้งแต่เด็กจนโตเขารักน้องสาวคนนี้มากที่สุด แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะไปสร้างหายนะครั้งใหญ่เช่นนี้“พี
“อะไรนะ!”ถึงจะเดาได้ว่าเย่เทียนหยู่ต้องการช่วยก่อตั้งบริษัททำเพลงให้ก็เถอะ แต่การที่ลงทุนให้ตั้งห้าหมื่นล้านก็ทำให้เหอฉุนรู้สึกตกใจมาก เพราะโดยทั่วไปแล้ว ไม่มีบริษัทที่ไหนจำเป็นต้องใช้เงินมากขนาดนั้นแล้วยังมาพูดอีกว่า แค่ช่วยออกเงินลงทุนให้ห้าหมื่นล้านเท่านั้น เงินก็คือเงินไม่ใช่รึไง?เหอฉุนไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า อีกฝ่ายต้องรู้สึกยังไง ถึงสามารถทำให้คนคนหนึ่งหยิบเงินออกมาลงทุนเป็นหมื่นล้านโดยไม่คิดอะไรได้ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไปเพื่อยืนยันความจริง “เฟยเฟย เธอบอกว่าเป็นเงินเท่าไหร่นะ ห้าหมื่นล้านงั้นเหรอ?”“ใช่แล้ว ห้าหมื่นล้าน หรือว่ามันยังไม่พอเหรอคะ?”“ถึงแม้ว่าจะไม่พอก็ไม่เป็นไร พี่เย่บอกเอาไว้แล้ว ว่าให้เอาเงินห้าหมื่นล้านนี้ไปใช้เล่น ๆ ก่อน หากยังไม่พอ เขาก็สามารถเพิ่มเงินลงทุนได้ทุกเมื่อเลยค่ะ” เฉินเฟยเฟยไม่ได้มีแนวคิดเกี่ยวกับการลงทุนมากนักตอนนั้นเธอเองก็ถูกตัวเลขที่เย่เทียนหยู่พูดทำให้ตกใจเช่นกัน แต่พี่เย่ก็บอกเอาไว้แล้วว่า เงินจำนวนนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะเขามีเงินที่ไม่ว่าจะใช้ยังไงก็ใช้ไม่หมดอยู่แล้วต่อให้เป็นแสนล้านเขาก็มี!ตัวเลขเหล่านั้น เธอแ
สีหน้าของเฉินเฟยเฟยดูเศร้าหมอง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “พี่เย่คะ ถ้าหากข้างกายที่มีผู้หญิงคนอื่นได้ แล้วทำไมถึงเพิ่มฉันอีกสักคนไม่ได้ล่ะคะ?”“หา......”เย่เทียนหยู่รู้สึกงงงวย ข้างกายตนมีผู้หญิงอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“พี่เย่คะ ไม่ว่าพี่จะคิดยังไง”“ชีวิตนี้ ฉันเกิดมาเพื่อเป็นของพี่ค่ะ ตายไปก็ยังเป็นวิญญาณของพี่ จะไม่มีวันไปเป็นของคนอื่นอย่างแน่นอน”ดูเหมือนว่าเฉินเฟยเฟยจะตัดสินใจแล้ว จู่ ๆ เธอก็พุ่งตัวเข้าไปกอดเย่เทียนหยู่ทันที แถมยังยื่นริมฝีปากเล็ก ๆ ของเธอไปจูบเย่เทียนหยู่อีกด้วยความรู้สึกนุ่มละมุน รสสัมผัสที่หวานหอม ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ยากจะจินตนาการก็ผุดขึ้นมาในใจเย่เทียนหยู่รู้สึกงงงวยขึ้นมาทันที ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้ใจร้อนกันนักนะ แบบนี้จะให้เขารับมือยังไงดีหรือจะผลักออกไปเลยดี?แต่นั่นมันก็ทำร้ายจิตใจเกินไป!แต่ถ้าหากไม่ผลักออก แบบนี้มันจะดูไม่ดีเกินไปไหมแล้วอีกอย่าง ความรู้สึกแบบนี้มันก็ดีมากจริง ๆ!สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป เขาก็ตระหนักได้ว่า ในใจของเขา เฉินเฟยเฟยยังคงมีสถานะที่สำคัญกับเขามากเฉินเฟยเฟยรู้สึกเขินอายจนหน้าแดง โดยเฉพา
หนานกงเล่อพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามร่างของบอดี้การ์ดวัยกลางคนออกไปแต่ก่อนที่จะจากไป เย่เทียนหยู่เหลือบมองไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว ไอ้เด็กนี่ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกสิ้นหวังเท่านั้น แต่กลับดูเหมือนว่าจะมีความหวังในการมีชีวิตอยู่ยังไงอย่างงั้น ทั้งยังรู้สึกถึงความเกลียดชังอย่างเห็นได้ชัดคงไม่ใช่ว่าจะมีวิธีฟื้นฟูกลับมาได้หรอกนะ แต่นั่นก็เป็นไปไม่ได้ ตนเป็นคนลงมือ ยังไงตนก็รู้ดีที่สุดเว้นเสียแต่ว่า เขาจะไปฝึกวิชาจากตำราขุยฮวาอะไรนั่น!เดี๋ยวนะ ตำราขุยฮวาไม่ได้อยู่ในคลังสมบัติของอาณาจักรมังกรหรอกเหรอ งั้นหนานกงเล่อก็มีโอกาสที่จะได้มันมา นี่ก็เท่ากับว่าเขากำลังสร้างศัตรูให้ตัวเองไม่ใช่รึไงเขาไม่กลัวหากว่าหนานกงเล่อต้องการจะแก้แค้นตน แต่เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายคนรอบข้างมากกว่าดูท่าแล้ว จะปล่อยหนานกงเล่อคนนี้ไปไม่ได้ ความเกลียดชังของคนที่เคยถูกทำร้ายไม่ควรมองข้าม เกิดว่าอีกฝ่ายพุ่งเป้าทำร้ายคนรอบข้างเข้า ก็อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ได้อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเขาได้ให้สัญญากับตระกูลหนานกงไปแล้ว เขาจึงไม่สามารถลงมืออย่างเปิดเผยได้
แต่หากทำการสืบค้นต่อไป ข้อมูลนั้นจะต้องถูกค้นพบเข้าสักวันเนื่องจากเธอรู้ถึงความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของเย่เทียนหยู่ บวกกับที่ได้ทราบข่าวว่าหนานชายเจ้าชู้ของตนก็อยู่ที่เมืองตะวันออกด้วยเช่นกัน เธอจึงกลัวว่าเขาจะเผลอไปสนใจหลินหว่านหรูเข้า จนทำให้เย่เทียนหยู่ไม่พอใจถึงยังไง หลินหว่านหรูก็มีความงามที่ทำให้ทุกคนต้องตะลึงอยู่แล้วถ้าหากหลานชายคนนี้เห็นเข้า คงจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาแน่นอน ถ้าเกิดเผลอไปยั่วยุเย่เทียนหยู่เข้า ตอนนี้คงจะกลายเป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวปัจจุบันตระกูลหนานกงก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญเพื่อพัฒนาให้เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่อยู่ ดังนั้นจึงไม่ควรมีศัตรูที่น่ากลัวอย่างพรรคมังกรเพิ่มขึ้นมาเด็ดขาดแต่คิดไม่ถึงเลยว่า ตนจะช้าไปหนึ่งก้าว ยังไม่ทันที่จะเตือน หลานชายของเธอก็ไปพัวพันเข้าจนได้ถึงแม้จะไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร แต่เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็น่าจะเกี่ยวกับผู้หญิงเมื่อเห็นว่าป้าของตนเงียบไปนาน สีหน้าของหนานกงเล่อก็ยิ่งหมดหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่เย่เทียนหยู่ทำตัวหยิ่งยโสและอวดดีมากขนาดนี้ หรือพวกเขาจะไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ?ทั้งตระกูลหนานกงจะจัดการกับเ
การสนทนาเช่นนี้ ทำให้หนานกงเล่อรู้สึกตกใจอย่างสิ้นเชิงเสียงของป้าดังมาก แล้วก็โกรธมากด้วย แม้จะอยู่ห่างกัน แต่ก็ยังได้ยินเสียงที่ค่อนข้างชัดเจนยิ่งไปกว่านั้น เขายังตั้งใจเปิดโหมดลำโพงอีกด้วย เพราะเขาต้องการให้พวกเฉินเฟยเฟยได้สัมผัสถึงความน่ากลัวของตระกูลหนานกง ทำให้พวกเธอรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวังแต่คิดไม่ถึงเลยว่า การสนทนาจะเป็นแบบนี้ไปได้แม้จะรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่นั้นมีพลังที่ไม่ธรรมดา แต่ก็มักจะรู้สึกว่านั่นเป็นเพราะตนคิดมากไปเท่านั้น เลยเข้าใจผิด ยังไงซะ ใครบ้างที่ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของอำนาจตระกูลหนานกงยิ่งไปกว่านั้น ทั้งที่ป้าโกรธมากขนาดนั้น แล้วทำไมป้ายังต้องการพูดกับอีกฝ่ายให้ได้ เห็นได้ชัดว่าต้องการจะสั่งสอนอีกฝ่าย กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเนื้อหาที่พูดคุยกันจะเป็นแบบนี้แต่ฟังดูสิ เขาพูดว่าอะไร เขาแทบไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าตระกูลหนานกงจะขุ่นเคืองรึเปล่า แถมยังจะใช้ฝ่ามือเดียวจัดการอีกต่างหากเขาไม่เห็นตระกูลหนานกงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยหากคำพูดเช่นนี้ถูกพูดต่อหน้าเขาก็ช่างเถอะ แต่นี่คือป้าของเขา เธอถือเป็นตัวแทนคนสำคัญของตระกูลหนานกงเชียวนะ เขากล้าพูดแบบนั้นไปได้ยังไง
“มันเป็นใครกันแน่?”หนานกงย่าเปิดเผยตัวตนออกมาอย่างสมบูรณ์ ตงลงแล้วเป็นใครกันแน่ ถึงลงมือได้โหดเหี้ยมมากขนาดนี้“เป็นเขา เขาเป็นคนทำ” หนานกงเล่อที่อยู่ภายใต้ความสิ้นหวังและความโกรธ เขาไม่แม้แต่จะรู้สึกกลัวเย่เทียนหยู่เลยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโหมดเป็นกล้องถ่ายรูป และบันทึกภาพเย่เทียนหยู่เอาไว้เหอฉุนรู้สึกตกใจ ก่อนจะรีบพูดเตือนขึ้นว่า “คุณเย่คะ รีบหลบไปสิคะ!”“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมต้องหลบด้วย”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูน่าเกลียดมาก ไม่เพียงแต่ไม่หลบเท่านั้น แต่ถึงขั้นเดินหน้าไปอีกสองสามก้าว เพื่อให้ตัวเองถูกถ่ายรูปได้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วยเหอฉุนพูดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง นี่คุณเย่รู้จริง ๆ รึเปล่า ว่าตระกูลหนานกงนั้นน่ากลัวมากแค่ไหนในตอนนั้นเอง หนานกงเล่อก็รู้สึกงงงวยอีกครั้ง และตกตะลึงไปชั่วขณะเขากำลังจะถูกกำจัดแท้ ๆ ไอ้เด็กนี่เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้หยิ่งผยอง และแปลกประหลาดได้มากขนาดนี้สิ่งที่ทำให้หนานกงเล่อตกใจยิ่งกว่าก็คือ เมื่อเขาพลิกโทรศัพท์กลับมา ก็สังเกตเห็นว่าป้า ซึ่งเป็นคนที่รักเขามากที่สุด ก็กำลังรู้สึกตกตะลึงด้วยเช่นกันสีหน้าของหนานกงย่าดูไม่ดีมากนั
เสียงร้องที่เจ็บปวดของหนานกงเล่อดังขึ้นอย่างน่าสงสาร!อ้าก!เสียงกรีดร้องที่น่าสยดสยองนี้ แสดงให้เห็นว่าหนานกงเล่อได้ก้าวเข้าสู่วงการขันทีอย่างเป็นทางการแล้ว เขานั่งกองอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าซีดเซียว และเลือดก็ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องทำไมกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!หรือนี่คือบทลงโทษจากสวรรค์ที่เมื่อก่อนตนเคยทำร้ายผู้หญิงมามากมายอย่างนั้นน่ะเหรอ?สิ่งที่ทำให้เขาทุกข์ทรมานและสิ้นหวังมากที่สุดคือ เขาไม่เพียงแต่ถูกตอนธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นการตัดตอนแบบถอนรากถอนโคน จนไม่อาจฟื้นฟูกลับมาได้อีกแล้วหากว่ามันไม่ได้หนักเหมือนตอนนี้ หากว่าเขาสามารถไปถึงโรงพยาบาลได้ทันเวลา บางทีอาจจะพอมีทางรักษาได้ แต่อีกฝ่ายกลับทำลายความหวังของเขาไปอย่างสิ้นเชิงในเวลานี้ หนานกงเล่อเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเจ็บปวด เขาจ้องมองเย่เทียนหยู่ด้วยสีหน้าแสดงโกรธแค้นและเกลียดชัง ราวกับว่าต้องการให้เขาถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ ณ เดี๋ยวนั้นเลยสีหน้าของเหอฉุนดูซีดเซียว เดิมเธอคิดว่าเย่เทียนหยู่อาจแค่ต้องการขู่หนานกงเล่อเท่านั้นแต่ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ เขากล้าที่จะทำมันจริง ๆเราจบเห่แน่!พวกเราคงต้องจบเห่แ
ตระกูลหนานกงนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะพูดออกไปว่า “คุณเย่คะ ความสามารถของคุณนั้นแข็งแกร่งมากก็จริง แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับตระกูลหนานกงก็ได้นี่คะ”เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจออกไปว่า “งั้นตามที่เธอพูด การที่มันทำเรื่องเลวทรามขนาดนี้ รังแกเฟยเฟยขนาดนี้ ก็คิดจะปล่อยมันไปง่าย ๆ เลยอย่างนั้นน่ะเหรอ?”“เอ่อ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ เราสามารถให้คุณชายหนานกงทำการชดเชยบางอย่างได้นี่คะ” เหอฉุนกล่าวอย่างไร้หนทางแต่ยิ่งเหอฉุนทำแบบนี้มากเท่าไหร่ หนานกงเล่อก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองมีความมั่นใจมากขึ้นเท่านั้นก่อนหน้านี้อีกฝ่ายยังดูไม่ฟังคำพูดของเหอฉุนอยู่เลย ตอนนี้กลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิงจะต้องถูกความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของตระกูลหนานกงทำให้ตกใจแล้วแน่ ๆ ดังนั้นหนานกงเล่อจึงพูดด้วยท่าทีใด้ใจขึ้นว่า “ไม่จำเป็นต้องชดใช้แล้วล่ะมั้ง เมื่อกี้คุณชายเย่ก็เพิ่งจะตบหน้าฉันไป ก็ถือว่าเป็นการชดใช้เลยก็แล้วกัน”เหอฉุนที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปทันที ไม่เห็นรึไงว่าอารมณ์ของคุณเย่คนนี้แทบจะระเบิดออกมาเต็มกลืนแล้ว ฉันพยายามแทบตายกว่าจะทำให
เมื่อมองไปยังสายตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าของเย่เทียนหยู่ หนานกงเล่อก็รู้สึกว่าตนอาจจะตัดสินใจผิดไป ไอ้เด็กนี่อาจจะไม่ต้องการเจรจากับเขาจริง ๆเขาต้องการที่จะทำลายไอ้นั่นของตนจริง ๆแม้ไอ้นั่นของเขาที่อยู่หว่างขาจะสั้นและไม่มีประโยชน์ และมักจะต้องพึ่งยาอยู่เสมอแต่อย่างน้อยก็ยังใช้การได้อยู่ จะให้มันหายไปไม่ได้ครั้งนี้หนานกงเล่อตกใจมากจริง ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัว จนต้องเดินถอยหลัง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คะ คุณชายเย่ อย่าทำแบบนั้นเลยนะครับ ผมผิดไปแล้ว คุณอยากให้ผมชดใช้ยังไง บอกผมมาได้เลยครับ ขอแค่เป็นสิ่งที่ผมให้ได้ ไม่ว่าอะไรผมก็จะให้คุณทุกอย่าง!”“แกให้ไม่ได้หรอก”เย่เทียนหยู่พูดพลางส่ายหัว“ให้ได้สิครับ ขอแค่คุณเอ่ยออกมา ผมก็ให้ได้ทั้งนั้น” หนานกงเล่อรู้สึกลนลานมากจริง ๆ“ถ้าฉันบอกว่าต้องการทั้งตระกูลหนานกงล่ะ แกให้ได้ไหม?” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาพอจะรู้เรื่องที่ตระกูลหนานกงกดดันตระกูลเย่มาอยู่บ้างบวกกับเรื่องที่คนของตระกูลหนานกงเพิ่งจะมาหาเรื่องหลินหว่านหรูไป ตอนนี้ก็มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกสำหรับตระกูลหนานกงแล้ว เย่เทียนหยู่ไม่ได้รู้สึกดีด้ว