“แกมันรนหาที่ตาย!”กงซุนมิ่วโกรธจัด เขารวมพลังไปที่ฝ่ามือขวา ร่างกายของเขาระเบิดพลังออกมาในทันที จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่เย่เทียนหยู่ หมัดนี้เขายังไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดเพราะยังไงเขาก็มีพลังมากเกินไปหากเขาโจมตีด้วยพละกำลังทั้งหมด เย่เทียนหยู่อาจถูกสังหารภายในหนึ่งกระบวนท่าแต่เขาสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ เย่เทียนหยู่เผยรอยยิ้มบนใบหน้าและโบกมือขวาของเขา จากนั้นพลังอำนาจก็ถูกซัดออกมาตึง!ทันทีที่เกิดเสียงปะทะ สีหน้าของกงซุนมิ่วเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะกระเด็นไปทันที และเพราะกระบวนท่าเมื่อครู่ อีกฝ่ายส่งพลังอันน่ากลัวออกมาจากฝ่ามือคิดไม่ถึงว่าจะเทียบได้กับพลังสามในสิบของเขาเลยทีเดียวหลังจากที่กงซุนมิ่วตกลงบนพื้น สายตาของเขาก็เผยความตกใจออกมา “แกเจ้าหนู คิดไม่ถึงเลยว่าคนอายุน้อยแบบแกจะมีพลังมหาศาลขนาดนี้ เกรงว่าแกคงมีระดับพลังผลัดเปลี่ยนขั้นปลายแล้วใช่ไหม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“พลังผลัดเปลี่ยนขั้นปลาย?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะห้วเราะ“ไม่ใช่เหรอ ทำไม หรือแกอยากจะบอกว่าแกมีพลังระดับผลัดเปลี่ยนขั้นสูงสุด แกคิดว่าฉันจะเชื่อแกรึไง” กงซุนมิ่วเยาะเย้ย“แน่นอนว่าไม่ ผม...” เย่เทียน
อะไรนะ!ผู้มากฝีมือระดับปรมาจารย์!ทันทีที่คำนี้ดังออกมา ตระกูลกงซุนทุดคนต่างก็ตกตะลึงถึงขีดสุด แต่ละคนใบหน้าซีดเผือด ต่อให้พวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน ถ้าเจอผู้มากฝีมือระดับปรมาจารย์ก็มีแต่ต้องตายเท่านั้นปรมาจารย์?เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เกงซุนมิ่วส่ายหัวไม่หยุดเขาเชื่อไม่ลงจริงๆ ว่าคนที่ตัวเองดูถูกดูแคลนมาตลอด เย่เทียนหยู่ผู้ไร้ซึ่งพลังอำนาจจะเป็นถึงปรมาจารย์ผู้มากฝีมือถ้าเขาเป็นปรมาจารย์ผู้มากฝีมือจริง ทำไมเขาทำเรื่องเลลวร้ายไปมากขนาดนั้นเขาถึงไม่เคยลงมือกับเขาเลยสำหรับเขา เขาคิดว่าเย่เทียนหยู่ไม่ทำอะไรเขาเพราะกลัวผู้นำตระกูลของเขาก็เลยกลัวการลงมือ“เสี่ยวจื้อ!”กงซุนมิ่วตะโกนเรียกกงซุนจื้อที่กำลังสติหลุด สายตาจ้องไปที่เย่เทียนหยู่เขม็ง และหวังว่าจะได้รับคำตอบที่แน่ชัดจากปากของอีกฝ่ายเย่เทียนหยู่สีหน้าสงบนิ่ง การมาเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่กำลังจะตายทำให้เขาไม่มีอะไรต้องปิดบัง เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณพูดถูก ผมมีพลังระดับปรมาจารย์จริงๆ”เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด ปรมาจารย์ที่อายุยังน้อยขนาดนี้กงซุนมิ่วรู้สึกว่าทุกอย่างมันช่างเหลวไหลสิ้นดีหลานชายผู้ล้ำค่าของเขายั่ว
นี่สวรรค์ตั้งใจทำลายตระกูลกงซุนของเขาชัดๆ ทำไมกัน ทำไมตระกูลกงซุนถึงได้ไปล่วงเกินคนที่เป็นอย่างเทพขุนพลคนนี้ด้วยเห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่รู้เลยว่าเย่เทียนหยู่ได้ทะลวงถึงระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว แต่นี่เป็นไพ่ใบไม้ตายของเขา เขาไม่อยากจะเปิดเผยมันง่ายดายขนาดนั้นเขาคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเป็นใครกันแน่ที่คิดจะทำลายตระกูลกงซุนจนย่อยยับ และเป็นใครกันที่ทำเรื่องทั้งหมดนี้ได้แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาไม่เห็นเย่เทียนหยู่อยู่ในสายตาเลย คิดเพียงว่าเขาไม่มีความสามารถแบบนั้นหรอก แต่นในวินาทีนี้ ในที่สุดเขาก็คิดออกแล้ว“ที่กงซุนจื้อถูกผู้อารักขาเฟยหลงตามจับเป็นเพราะเจ้าเหรอ?” กงซุนมิ่วถามด้วยอาการสั่นเทาเย่เทียนหยู่ชะงักไปเล็กน้อย แต่เขาก็ตอบอย่างไม่ปิดบัง “ใช่! โทษที่หลานชายคุณทำเรื่องเกินควรก็แล้วกันนะ กล้ามาหลอกลวงและพยายามลวงเกินภรรยาผมตั้งหลายครั้ง”“อย่างที่คิดไม่ผิด ไม่ผิดจริงๆ!”“เสี่ยวจื้อ แกนี่มันหลานตัวดีจริงๆ”กงซุนมิ่วสิ้นหวัง อาจเพราะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงผันผวนมากเกินไป เขาจึงกระอักเลือดออกมาเต็มปากและหมดลมหายใจไปในทันทีพอจะมองออกว่าเขาโกรธและเจ็บปวดอยู่ภายในมากเพียงใด หลานชายคนส
กงซุนจื้อหวาดกลัวจริงๆ โดยเฉพาะการถูกผู้อารักขาเฟยหลงหมายหัวแบบนี้ คุณปู่ของเขาก็ตายไปแล้ว และคนตรงหน้าก็ไม่ได้เพียงน่ากลัว แต่เขายังดันไปยั่วยุอีกฝ่ายเอาไว้มากเขาเสียใจจริงๆ ถ้ารู้ว่าเย่เทียนหยู่น่ากลัวขนาดนี้ ให้เขามีความกล้าอีกนับหมื่นนับพันเท่าเขาก็คงไม่กล้าไปล่วงเกินหลินหว่านหรู ไม่กล้ายั่วยุเย่เทียนหยู่แต่โลกใบนี้ไม่มียาแก้ความเสียใจในยามนี้ นอกจากการคุกเข่าลงขอร้อง เขาคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ“แค่นี้ก็ยอมคุกเข่าแล้วเหรอ ตอนเริ่มแรกคุณพูดเอาไว้ว่ายังไง?”“คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้ผมคุกเข่าขอร้องคุณ?” เย่เทียนหยู่พูดเยาะเย้ยเขา“ไม่หรอกครับ ไม่หรอก คุณมีฐานะสูงส่ง ควรจะเป็นผมที่ก้มหัวให้คุณสิครับ!”“โอ้ ตอนนี้ผมเป็นคนมีฐานะสูงส่ง ไม่ใช่คนที่มาจากภูเขาแล้วเหรอ?”“ขอโทษครับ ขอโทษครับ ก่อนหน้านี้ผมมันโง่เอง ผมมันสมองพิการไม่รู้เรื่องอะไร คุณเป็นผู้มีเมตตากับคนตัวเล็กๆ แบบผม ปล่อยผมไปเถอะนะครับ”“ขอแค่คุณยอมปล่อยผมไป ผมจะยอมทุกอย่างเลยครับ”กงซุนจื้อรู้สึกหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เขาคำนับซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่พูด อีกทั้งยังทำโดยไม่คิดจะหลอกลวง เขาพูดจริงทำจริง จนในไม่ช้า
หลินหว่านหรูได้ยินเสียงขอร้องอย่างน่าสงสาร ทำเองเธอตกตะลึงไปทันทีคิดไม่ถึงว่ากงซุนจื้อจะก้มหัวคุกเข่าอย่างไร้ยางอายเช่นนี้นี่มันเหนือคาดสุดๆ!แต่ปัญหาก็คือ นี่มันเป็นเสียงของกงซุนจื้อจริงๆ เธออดไม่ได้ที่จะถาม “กงซุนจื้อจริงๆ เหรอ คงไม่ได้ใช้เสียงที่อัดไว้แล้วมาหลอกฉันใช่ไหม”เย่เทียนหยู่ยิ้มแห้ง ภรรยาเขาคนนี้พลังจินตนาการเปี่ยมล้นดีจริงๆก่อนเขาจะทันได้พูด กงซุนจื้อก็รีบตอบอย่างแทบรอไม่ไหว “ไม่ใช่บันทึกเสียง ถ้าเป็นบันทึกเสียง ผมคงตอบโต้คุณไม่ได้”“คุณชายเย่แข็งแกร่งเกินไป เราไม่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเลย ประธานหลิน ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้ว ได้โปรดช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วยนะครับ”ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ในที่สุดหลินหว่านหรูก็แน่ใจว่าเย่เทียนหยู่จับกงซุนจื้อได้ ไม่อย่างนั้นกงซุนจื้อคงไม่กลัวขนาดนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลหลินถูกฆ่า เทียนหยู่จึงเลยไปหาคนของตระกูลกงซุนจริงๆ เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อตระกูลหลิน แต่ปู่ของเขาและคนอื่นๆ กลับไม่เคยเข้าใจเขาเลย“นาย นี่นายจัดการพวกเขาได้จริงเหรอ?”“ครับ แต่เรื่องนี้ไม่เหมาะให้คนรู้กันเยอะเท่าไร ให้ดีคุณอย่าบอกใครดีกว่า” เย่เทียนหยู่คิดถึงเรื่
เย่เทียนหยู่ไม่รู้ความคิดของหลินหว่านหรู เขาเก็บโทรศัพท์ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยปาก “กงซุนจื้อ ผมได้ให้โอกาสคุณไปแล้ว แต่ขนาดคนที่มีเมตตาอย่างหลินหว่านหรูยังไม่ยอมคุยกับนายเลย”“อย่าโทษผมก็แล้วกัน เกิดชาติหน้าทำตัวเป็นคนดีเถอะ”“ไม่นะ อย่า...”“ขอร้องละ ขอร้อง จะอะไรผมก็ให้ได้หมดทุกอย่าง”“ขอแค่คุณยอมปล่อยผมไป ผมจะยกทุกอย่างที่เป็นของตระกูลกงซุนให้คุณ”ทันทีที่กงซุนจื้อได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่เขาก็กลัวสุดขีดแต่แล้ววินาทีต่อมา มือขวาของเย่เทียนหยู่ก็กดลงเล็กน้อย “ตั้งแต่ตอนที่ผู้อารักขาเฟยหลงปรากฏตัว ตระกูลกงซุนก็ถูกชี้ชัดให้ต้องย่อยยับอยู่แล้ว คุณจะไปมีของอะไรให้ผมได้ยังไง”“ไม่นะ อ้ากกก!”กงซุนจื้อโหยหวน เขาเพียงรู้สึกได้ว่ามีพลังกระแทรกเข้ามาในอวัยวะทั้งห้าและเส้นชีพจรทั้งหกภายในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหัวใจ จากนั้นเขาก็อ้าปากกว้างแล้วล้มลงกระแทกพื้น!จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายก่อนชีวิตจะปลิดปลิว เขาก็ยังคุกเข่าขอร้อง เห็นได้ชัดว่าเขาหวังจะได้มีชีวิตต่อไปเพียงใดผู้มากฝีมือรอบด้านมองดูฉากเบื้องหน้าก่อนที่ต่างคนต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป แต่กลับไร้ซึ่งหนทาง เพราะความกลัวกำลังแล่นไปถึงพวกเ
หลังจากพบแล้ว เขาก็รีบตรงมาทันที แต่เมื่อเขาเข้ามาด้านใน เขาพบว่าทั้งกงซุนจื้อและกงซุนมิ่วตายแล้ว และคนอื่นๆ ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตรวจสอบอย่างระมัดระวังทันที แต่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆเพียงแต่เมื่อพิจารณาจากอาการบาดเจ็บ คนที่ลงมือนั้นมีพลังมหาศาล เกรงว่าคงเป็นจอมยุทธ์ที่เกือบเป็นระดับปรมาจารย์คิดไม่ถึงเลยว่า ในเมืองเทียนไห่เล็กๆ นี้จะมีจอมยุทธ์ที่ใกล้กับระดับปรมาจารย์อยู่ด้วยแม้ทั้งคู่จะตายไปแล้ว แต่ร่างของพวกเขาถูกทิ้งไว้ที่นี่ ก็ยังพอใช้เป็นข้อแก้ต่างได้ แค่ว่าเขาเป็นคนจัดการพวกเขาเองก็พอส่วนคนที่เขาพามา ต่างก็เป็นคนที่เขาสนิทด้วย ให้พวกเขาพูดอะไรพวกเขาก็จะพูดอย่างนั้นขณะเดียวกัน เย่เทียนหยู่พาคนสี่ไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย เขาวางพวกเขาลงแล้วจากไปทันทีพวกเขาทั้งสี่มองดูแผ่นหลังของเย่เทียนหยู่ด้วยสายตาตกตะลึงไม่น่าแปลกใจเลยที่อีกฝ่ายมั่นใจมากขนาดนี้ ชายที่แข็งแกร่งและน่าสะพรึงกลัวจะสนใจเรื่องว่าพวกเขาจะทรยศต่อตนเองได้ยังไง บางทีเขาอาจจะพูดถูก เขาแค่ไม่อยากฆ่าคนมากเกินไป ก็เลยให้โอกาสตัวเองและคนอื่น ๆ มีชีวิตรอดตามที่เย่เทียนหยู่โทรศัพท์ไป
“อะไรนะกันหว่านหรู หลานรู้ไหมว่าหลานกำลังพูดอะไรออกมา”“คนอย่างเย่เทียนหยู่น่ะเหรอเอาชนะหัวหน้าตระกูลกงซุน?”“อย่าว่าแต่ผู้นำตระกูลกงซุนเลย แค่เขาต้านทานกระบวนท่าของผู้ติดตามผู้นำตระกูลกงซุนได้ ปู่คงไม่ดูถูกเขาขนาดนั้นหรอก!”คุณปู่หลินตะโกนด้วยความโกรธทันทีหลานสาวคนนี้หมกมุ่นอยู่กับเย่เทียนหยู่มากถึงขั้นพูดจาเหนือความเป็นจริงขนาดนี้เลยหรือแต่เมื่อลองคิดดูอีกครั้ง หลานสาวไม่เข้าใจโลกแห่งจอมยุทธ์ เธอไม่รู้ว่าจอมยุทธ์อย่างกงซุนมิ่วมีสถานะระดับไหนแต่หลินหว่านหรูไม่เชื่อ และพูดว่า: “สิ่งที่หนูพูดเป็นความจริง หนูเพิ่งคุยกับเทียนหยู่ทางโทรศัพท์เมื่อไม่นานมานี้ และเขาก็จัดการกงซุนมิ่วกับพรรคพวกของเขาแล้ว”“เขาทำสำเร็จแล้วเหรอ?”ดวงตาของคุณปู่หลินเต็มไปด้วยความตกใจและความเหลือเชื่อ“ใช่ เทียนหยู่บอกด้วยว่าตระกูลกงซุน วิชาวรยุทธ์ของพวกนั้นอ่อนแอเกินไปไม่ใช่คู่ต่อสู้ขอบเขาเลย เพราะงั้นพวกปู่ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ”หลินหว่านหรูตอบกลับ“เป็นไปไม่ได้!”“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”“เขาต้องกำลังหลอกหลานอยู่แน่”คุณปู่หลินส่ายหน้าซ้ำๆ แล้วพูดว่า: “ไม่ว่ายังไงก็ตาม เราซ่อนก่อนเถอะ ถ้าเขาทำสำเร็