Share

บทที่ 613

Author: สาวฉกรรจ์จอมต๊อง
เมื่อเห็นท่าทางที่มุ่งมั่นของลูกสาว แม่ตระกูลหลิวก็เปลี่ยนท่าทีในพริบตา และเริ่มขอร้อง “เทียนหยู่บอกว่าได้แล้วนะ ซือซือ ถึงลูกจะไม่อยากรับไว้ แต่แม่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต ก็ถือซะว่าเป็นการเลี้ยงแม่ยามแก่ไม่ได้เหรอ?”

“หรือลูกอยากเห็นพ่อทำงานหนักไปทั้งชีวิตหรือไง?”

“หนูจะหาเงินมาเลี้ยงทุกคนเองค่ะ”

“ด้วยเงินเล็กน้อยของลูกน่ะเหรอ แล้วแม่จะได้อยู่วิลล่าเมื่อไร” แม่ตระกูลหลิวตอบโต้ และยังพูดด้วยความกังวลต่ออีกว่า “ซือซือ นี่มันมาถึงมือลูกแล้วลูกยังไม่รับ อยากจะบังคับแม่หรือยังไง”

“ไม่ใช่นะคะ!”

หลิวซือซือยิ้มอย่างขมขื่นและพูดอย่างช่วยไม่ได้: “แม่ ไม่ใช่ว่าหนูไม่อยากรับหรอกนะคะ แต่ว่ามัน ใช่ คือเราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันนะคะ”

“ไม่ใช่สามีภรรยากัน แต่เป็นแฟนกันจะให้ของขวัญกันก็เป็นเรื่องปกติ เทียนหยู่มีฐานะเป็นถึงอะไร การที่เขามอบวิลล่าให้ก็เหมือนคนทั่วไปมอบของเล็กๆ น้อยๆ ให้นั่นละ” แม่ตระกูลหลิวกล่าว

“แต่เรา ไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ ด้วยซ้ำค่ะ” หลิวซือซือไม่มีทางเลือกอื่น ต่อให้พ่อแม่จะดุด่าเธอ เธอก็ต้องยอมเพื่อจะอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน

ไม่อย่างนั้นแค่รับวิลล่ามาจะเป็นอะไรไป

ทันทีที่สิ้นคำพ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 614

    แม่ตระกูลหลิวร้อนใจจนใช้ความตายเข้าขู่หลิวซือซือทำอะไรไม่ถูกจริงๆ แต่ในขณะนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นคุณแม่ตระกูลหลิวก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตูทันที ผู้มาเยือนคือซ่งหยางตามดังที่คาดไว้ เธอต้อนรับซ่งหยางเข้ามาด้วยในด้วยความตื่นเต้นดีอกดีใจทันที เพราะเธอรู้เหตุการณ์ต่อจากนี้เป็นอย่างดีมาถึงตอนนี้ หลิวซือซือก็ไม่ได้ห้ามอีกต่อไป เธอคิดว่าถึงยังไงพี่เย่ก็พูดแล้ว รวมกับคำขู่ของแม่เมื่อครู่นี้ เธอหมดหนทางจริงๆสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลังจากได้ฟังคำพูดของแม่แล้ว หลิวซือซือก็รู้สึกว่าพี่เย่ชอบเธอเหมือนกันในเมื่อพี่เย่ชอบเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะยอมรับไว้ อย่างมากถ้าพี่เย่ต้องการตัวเธอเมื่อไร เธอก็แค่ยอมอุทิศร่างกายให้เขาไปก็พอเป็นที่แน่ชัดว่าเย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าคำพูดสบายๆ ของเขาจะทำให้สองแม่และลูกทะเลาะกันอยู่นาน หลังจากที่เขาขึ้นรถ เขาก็โทรออกสองสามสาย ให้พวกเขาบอกสถานที่ที่กงซุนจื้อซ่อนตัวอยู่มาเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตามหาตำแหน่งของพวกกงซุนจื้อเจอคนพวกนี้ซ่อนเก่งจริงๆ ทำเรื่องสวนทางกับที่ชาวบ้านเขาทำกันหมด ถึงกับกล้าซ่อนในโรงแรมสุดหรู แถมยังจองเป็นห้องเพรสซิเดน แล้วยังอยู่รว

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 615

    หลังจากที่เสียงนั้นดังขึ้น สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป เพราะพวกเขาฟังออก นี่มันเสียงของเย่เทียนหยู่คนเมื่อกลางวันไม่ใช่เหรอกลุ่มคนหันกลับไปมองทันที ประตูถูกเปิดออกเบาๆ ก่อนจะเผยเป็นร่างของเย่เทียนหยู่เย่เทียนหยู่มาที่นี่ได้ยังไงกัน!แน่นอนว่าพวกเขาไม่กลัวเย่เทียนหยู่ สิ่งที่พวกเขากลัวก็คือถ้าเย่เทียนหยู่พบสถานที่แห่งนี้ เย่เซวียนและคนอื่นๆ ก็อาจจะตามเจอเหมือนกันกงซุนมิ่วจ้องเย่เทียนหยู่ตาไม่กะพริบ ต้องบอกว่าเด็กนี่เก่งจริงๆ แต่เขาระแวดระวังเบื้องหลังของเย่เทียนหยู่เสียมากกว่าเพื่อจะดูว่ามีใครมาปรากฏตัวกับเขาเพิ่มอีกหรือไม่ดวงตาของกงซุนจื้อน่ากลัวอย่างยิ่ง เขาอยากจะฉีกเย่เทียนหยู่เป็นชิ้นๆ ราวกับว่าเย่เทียนหยู่ทำเรื่องผิดต่อเขาเอาไว้มากมายเมื่อเผชิญหน้ากับสายตาทิ่มแทงดุร้ายของกลุ่มคนที่กำลังจ้องเขม็ง เย่เทียนหยู่กลับสงบไม่เผยท่าที แล้วยังค่อยๆ ปิดประตูด้วยถึงแม้ตัวล็อกจะถูกพังไปแล้วระหว่างที่เขายังไม่ทันได้ขยับ แต่เขาก็ยังรวมมันเข้าด้วยกันได้อย่างง่ายดาย หรืออย่างน้อยมองจากภายนอกก็มองไม่ออกกงซุนจื้อจ้องมองเย่เทียนหยู่ด้วยสายตาโหดเหี้ยม ก่อนจะพูดด้วยความโมโห “เย่เทียนหยู่ มึ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 616

    “แกมันรนหาที่ตาย!”กงซุนมิ่วโกรธจัด เขารวมพลังไปที่ฝ่ามือขวา ร่างกายของเขาระเบิดพลังออกมาในทันที จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่เย่เทียนหยู่ หมัดนี้เขายังไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดเพราะยังไงเขาก็มีพลังมากเกินไปหากเขาโจมตีด้วยพละกำลังทั้งหมด เย่เทียนหยู่อาจถูกสังหารภายในหนึ่งกระบวนท่าแต่เขาสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ เย่เทียนหยู่เผยรอยยิ้มบนใบหน้าและโบกมือขวาของเขา จากนั้นพลังอำนาจก็ถูกซัดออกมาตึง!ทันทีที่เกิดเสียงปะทะ สีหน้าของกงซุนมิ่วเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะกระเด็นไปทันที และเพราะกระบวนท่าเมื่อครู่ อีกฝ่ายส่งพลังอันน่ากลัวออกมาจากฝ่ามือคิดไม่ถึงว่าจะเทียบได้กับพลังสามในสิบของเขาเลยทีเดียวหลังจากที่กงซุนมิ่วตกลงบนพื้น สายตาของเขาก็เผยความตกใจออกมา “แกเจ้าหนู คิดไม่ถึงเลยว่าคนอายุน้อยแบบแกจะมีพลังมหาศาลขนาดนี้ เกรงว่าแกคงมีระดับพลังผลัดเปลี่ยนขั้นปลายแล้วใช่ไหม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“พลังผลัดเปลี่ยนขั้นปลาย?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะห้วเราะ“ไม่ใช่เหรอ ทำไม หรือแกอยากจะบอกว่าแกมีพลังระดับผลัดเปลี่ยนขั้นสูงสุด แกคิดว่าฉันจะเชื่อแกรึไง” กงซุนมิ่วเยาะเย้ย“แน่นอนว่าไม่ ผม...” เย่เทียน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 617

    อะไรนะ!ผู้มากฝีมือระดับปรมาจารย์!ทันทีที่คำนี้ดังออกมา ตระกูลกงซุนทุดคนต่างก็ตกตะลึงถึงขีดสุด แต่ละคนใบหน้าซีดเผือด ต่อให้พวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน ถ้าเจอผู้มากฝีมือระดับปรมาจารย์ก็มีแต่ต้องตายเท่านั้นปรมาจารย์?เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เกงซุนมิ่วส่ายหัวไม่หยุดเขาเชื่อไม่ลงจริงๆ ว่าคนที่ตัวเองดูถูกดูแคลนมาตลอด เย่เทียนหยู่ผู้ไร้ซึ่งพลังอำนาจจะเป็นถึงปรมาจารย์ผู้มากฝีมือถ้าเขาเป็นปรมาจารย์ผู้มากฝีมือจริง ทำไมเขาทำเรื่องเลลวร้ายไปมากขนาดนั้นเขาถึงไม่เคยลงมือกับเขาเลยสำหรับเขา เขาคิดว่าเย่เทียนหยู่ไม่ทำอะไรเขาเพราะกลัวผู้นำตระกูลของเขาก็เลยกลัวการลงมือ“เสี่ยวจื้อ!”กงซุนมิ่วตะโกนเรียกกงซุนจื้อที่กำลังสติหลุด สายตาจ้องไปที่เย่เทียนหยู่เขม็ง และหวังว่าจะได้รับคำตอบที่แน่ชัดจากปากของอีกฝ่ายเย่เทียนหยู่สีหน้าสงบนิ่ง การมาเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่กำลังจะตายทำให้เขาไม่มีอะไรต้องปิดบัง เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณพูดถูก ผมมีพลังระดับปรมาจารย์จริงๆ”เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด ปรมาจารย์ที่อายุยังน้อยขนาดนี้กงซุนมิ่วรู้สึกว่าทุกอย่างมันช่างเหลวไหลสิ้นดีหลานชายผู้ล้ำค่าของเขายั่ว

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 618

    นี่สวรรค์ตั้งใจทำลายตระกูลกงซุนของเขาชัดๆ ทำไมกัน ทำไมตระกูลกงซุนถึงได้ไปล่วงเกินคนที่เป็นอย่างเทพขุนพลคนนี้ด้วยเห็นได้ชัดว่า พวกเขาไม่รู้เลยว่าเย่เทียนหยู่ได้ทะลวงถึงระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว แต่นี่เป็นไพ่ใบไม้ตายของเขา เขาไม่อยากจะเปิดเผยมันง่ายดายขนาดนั้นเขาคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเป็นใครกันแน่ที่คิดจะทำลายตระกูลกงซุนจนย่อยยับ และเป็นใครกันที่ทำเรื่องทั้งหมดนี้ได้แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาไม่เห็นเย่เทียนหยู่อยู่ในสายตาเลย คิดเพียงว่าเขาไม่มีความสามารถแบบนั้นหรอก แต่นในวินาทีนี้ ในที่สุดเขาก็คิดออกแล้ว“ที่กงซุนจื้อถูกผู้อารักขาเฟยหลงตามจับเป็นเพราะเจ้าเหรอ?” กงซุนมิ่วถามด้วยอาการสั่นเทาเย่เทียนหยู่ชะงักไปเล็กน้อย แต่เขาก็ตอบอย่างไม่ปิดบัง “ใช่! โทษที่หลานชายคุณทำเรื่องเกินควรก็แล้วกันนะ กล้ามาหลอกลวงและพยายามลวงเกินภรรยาผมตั้งหลายครั้ง”“อย่างที่คิดไม่ผิด ไม่ผิดจริงๆ!”“เสี่ยวจื้อ แกนี่มันหลานตัวดีจริงๆ”กงซุนมิ่วสิ้นหวัง อาจเพราะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงผันผวนมากเกินไป เขาจึงกระอักเลือดออกมาเต็มปากและหมดลมหายใจไปในทันทีพอจะมองออกว่าเขาโกรธและเจ็บปวดอยู่ภายในมากเพียงใด หลานชายคนส

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 619

    กงซุนจื้อหวาดกลัวจริงๆ โดยเฉพาะการถูกผู้อารักขาเฟยหลงหมายหัวแบบนี้ คุณปู่ของเขาก็ตายไปแล้ว และคนตรงหน้าก็ไม่ได้เพียงน่ากลัว แต่เขายังดันไปยั่วยุอีกฝ่ายเอาไว้มากเขาเสียใจจริงๆ ถ้ารู้ว่าเย่เทียนหยู่น่ากลัวขนาดนี้ ให้เขามีความกล้าอีกนับหมื่นนับพันเท่าเขาก็คงไม่กล้าไปล่วงเกินหลินหว่านหรู ไม่กล้ายั่วยุเย่เทียนหยู่แต่โลกใบนี้ไม่มียาแก้ความเสียใจในยามนี้ นอกจากการคุกเข่าลงขอร้อง เขาคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ“แค่นี้ก็ยอมคุกเข่าแล้วเหรอ ตอนเริ่มแรกคุณพูดเอาไว้ว่ายังไง?”“คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้ผมคุกเข่าขอร้องคุณ?” เย่เทียนหยู่พูดเยาะเย้ยเขา“ไม่หรอกครับ ไม่หรอก คุณมีฐานะสูงส่ง ควรจะเป็นผมที่ก้มหัวให้คุณสิครับ!”“โอ้ ตอนนี้ผมเป็นคนมีฐานะสูงส่ง ไม่ใช่คนที่มาจากภูเขาแล้วเหรอ?”“ขอโทษครับ ขอโทษครับ ก่อนหน้านี้ผมมันโง่เอง ผมมันสมองพิการไม่รู้เรื่องอะไร คุณเป็นผู้มีเมตตากับคนตัวเล็กๆ แบบผม ปล่อยผมไปเถอะนะครับ”“ขอแค่คุณยอมปล่อยผมไป ผมจะยอมทุกอย่างเลยครับ”กงซุนจื้อรู้สึกหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เขาคำนับซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่พูด อีกทั้งยังทำโดยไม่คิดจะหลอกลวง เขาพูดจริงทำจริง จนในไม่ช้า

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 620

    หลินหว่านหรูได้ยินเสียงขอร้องอย่างน่าสงสาร ทำเองเธอตกตะลึงไปทันทีคิดไม่ถึงว่ากงซุนจื้อจะก้มหัวคุกเข่าอย่างไร้ยางอายเช่นนี้นี่มันเหนือคาดสุดๆ!แต่ปัญหาก็คือ นี่มันเป็นเสียงของกงซุนจื้อจริงๆ เธออดไม่ได้ที่จะถาม “กงซุนจื้อจริงๆ เหรอ คงไม่ได้ใช้เสียงที่อัดไว้แล้วมาหลอกฉันใช่ไหม”เย่เทียนหยู่ยิ้มแห้ง ภรรยาเขาคนนี้พลังจินตนาการเปี่ยมล้นดีจริงๆก่อนเขาจะทันได้พูด กงซุนจื้อก็รีบตอบอย่างแทบรอไม่ไหว “ไม่ใช่บันทึกเสียง ถ้าเป็นบันทึกเสียง ผมคงตอบโต้คุณไม่ได้”“คุณชายเย่แข็งแกร่งเกินไป เราไม่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเลย ประธานหลิน ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้ว ได้โปรดช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วยนะครับ”ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ในที่สุดหลินหว่านหรูก็แน่ใจว่าเย่เทียนหยู่จับกงซุนจื้อได้ ไม่อย่างนั้นกงซุนจื้อคงไม่กลัวขนาดนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลหลินถูกฆ่า เทียนหยู่จึงเลยไปหาคนของตระกูลกงซุนจริงๆ เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อตระกูลหลิน แต่ปู่ของเขาและคนอื่นๆ กลับไม่เคยเข้าใจเขาเลย“นาย นี่นายจัดการพวกเขาได้จริงเหรอ?”“ครับ แต่เรื่องนี้ไม่เหมาะให้คนรู้กันเยอะเท่าไร ให้ดีคุณอย่าบอกใครดีกว่า” เย่เทียนหยู่คิดถึงเรื่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 621

    เย่เทียนหยู่ไม่รู้ความคิดของหลินหว่านหรู เขาเก็บโทรศัพท์ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยปาก “กงซุนจื้อ ผมได้ให้โอกาสคุณไปแล้ว แต่ขนาดคนที่มีเมตตาอย่างหลินหว่านหรูยังไม่ยอมคุยกับนายเลย”“อย่าโทษผมก็แล้วกัน เกิดชาติหน้าทำตัวเป็นคนดีเถอะ”“ไม่นะ อย่า...”“ขอร้องละ ขอร้อง จะอะไรผมก็ให้ได้หมดทุกอย่าง”“ขอแค่คุณยอมปล่อยผมไป ผมจะยกทุกอย่างที่เป็นของตระกูลกงซุนให้คุณ”ทันทีที่กงซุนจื้อได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่เขาก็กลัวสุดขีดแต่แล้ววินาทีต่อมา มือขวาของเย่เทียนหยู่ก็กดลงเล็กน้อย “ตั้งแต่ตอนที่ผู้อารักขาเฟยหลงปรากฏตัว ตระกูลกงซุนก็ถูกชี้ชัดให้ต้องย่อยยับอยู่แล้ว คุณจะไปมีของอะไรให้ผมได้ยังไง”“ไม่นะ อ้ากกก!”กงซุนจื้อโหยหวน เขาเพียงรู้สึกได้ว่ามีพลังกระแทรกเข้ามาในอวัยวะทั้งห้าและเส้นชีพจรทั้งหกภายในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหัวใจ จากนั้นเขาก็อ้าปากกว้างแล้วล้มลงกระแทกพื้น!จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายก่อนชีวิตจะปลิดปลิว เขาก็ยังคุกเข่าขอร้อง เห็นได้ชัดว่าเขาหวังจะได้มีชีวิตต่อไปเพียงใดผู้มากฝีมือรอบด้านมองดูฉากเบื้องหน้าก่อนที่ต่างคนต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป แต่กลับไร้ซึ่งหนทาง เพราะความกลัวกำลังแล่นไปถึงพวกเ

Latest chapter

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1237

    “ฮ่า ๆ ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะ พอดีเมื่อกี้มีธุระนิดหน่อย เลยทำให้มาช้า”ทั้งสองคนแต่งตัวค่อนข้างเรียบร้อย ทั้งดูดีและมีเกียรติมากโดยเฉพาะเจวี๋ยเทียน เขาสวมชุดสีม่วง ท่าเดินก็ดูองอาจ ซึ่งเปี่ยมไปด้วยรัศมีแห่งความยิ่งใหญ่และความสง่างามเครื่องแต่งกายของเขาค่อนข้างคล้ายคลึงกับชุดที่มู่หรงชิงเคยสวมใส่ในตอนนั้น ซึ่งทำให้สีหน้าของมู่หรงอินดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เมื่อเห็นทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้น ดวงตาของหยางผั่วจวินก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปยังพวกเขาในทันที และพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อร่องรอยที่เจวี๋ยเทียนเคยทิ้งเอาไว้ในตอนที่เขาไปเยือนสำนักราชาผี ซึ่งนั่นก็ทำให้หยางผั่วจวินตกตะลึงอย่างมากหยางผั่วจวินเองก็สัมผัสได้ ไม่ว่ายังไงตนในตอนนั้นก็ไม่มีทางสู้อีกฝ่ายได้แต่ก่อนที่จะมาที่นี่ หลังจากที่เย่เทียนหยู่ใช้ของวิเศษของพรรคมารช่วยให้เขาพัฒนาตนเอง เขาก็สามารถทะลุจนเลื่อนขั้นสู่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้แล้ว แถมยังทะลุไปถึงคอขวด จนเกือบจะถึงจุดที่สามารถเลื่อนขั้นได้แล้วด้วยซ้ำตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขา นับว่าอยู่ในจุดที่ไม่ธรรมดาแล้วดังนั้น เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้เห็นคู่ต่อสู้ที

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1236

    เขาไม่อาจเรียกเธอว่านายน้อยได้ แต่ให้เรียกว่าคุณหนูก็ถือยังทำได้อยู่อีกสองคนยังคงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็กลับยืนนิ่ว และกว่าวทักทายออกมาว่า “คารวะคุณหนู!”มู่หรงอินขมวดคิ้วอย่างเย็นชา ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทีที่ดูเมินเฉยว่า “เหอะ ในสายตาของพวกท่านยังเห็นข้าเป็นคุณหนูอยู่ด้วยงั้นเหรอ?”เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็มืดมนลงเล็กน้อย โดยเฉพาะตู๋เปียนฝู เขาพูดอย่างเย็นชาออกไปว่า “มู่หรงอิน การที่พวกเรายอมเรียกเธอว่าคุณหนู ก็เพื่อเป็นการไว้หน้าผู้นำคนเก่า อย่าได้เหลิงไปหน่อยเลย!”หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้ มู่หรงอินก็กลับไม่ได้โกรธอะไร กลับกัน สีหน้าของเย่เทียนหยู่กลับดูเย็นชาขึ้นมา จิตสังหารที่เย็นยะเยือกก็เกือบจะเผลอทะลักออกมา หากยังต้องทนฟังคำพูดของตู๋เปียนฝูต่อไป มู่หรงอินเกรงว่าเย่เทียนหยู่อาจจะเผลอทำอะไรที่หุนหันพันแล่นออกไปได้ เธอจึงรีบส่งสัญญาณด้วยสายตาเพื่อหยุดเขาในทันที เพราะตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาเปิดเผยความแข็งแกร่งออกมาเมื่อเห็นสายตาแจ้งเตือนให้ยั้งมือของแม่ เย่เทียนหยู่ก็รีบระงับพลังเอาไว้ทันที ทันใดนั้นจิตสังหารก็หายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากพลังที่เขาใช้ปกปิดนั้นค่อ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1235

    “ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวหรอก หากตอนนั้นพวกเราทั้งสี่คนร่วมมือกัน พวกเราคงครอบครองโลกใบนี้ไปแล้ว ใครกันจะกล้าขวาง!”ในขณะเดียวกันนี้เอง ชายชรารูปร่างผอมบางคนหนึ่ง ใบหน้าดูเศร้าหมอง ริมฝีปากเรียวเล็กก็ปรากฏตัวขึ้น“ตู๋เปียนฝู?”ในใจทูตใหญ่รู้สึกตกตะลึง“ยังมีข้าอีกคน บรรพจารย์หวงเฉวียน!”หลังจากที่ทั้งสี่ก้าวออกมาพูด สีหน้าของทูตใหญ่ก็ดูไม่ค่อนสู้ดีมากนัก สมญานามของพวกเขาในปีนั้นคือสี่ทูตใหญ่แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์ แต่ละคนต่างก็มีความแข็งแกร่งที่ทรงพลังมากการดำรงอยู่ของอำนาจพวกเขาเป็นรองก็แค่ผู้นำสำนักศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้นำสำนักเลยแม้แต่น้อย กระทั่งอาจจะแข็งแกร่งกว่าเสียด้วยซ้ำคิดไม่ถึงเลยว่าอีกสามคนที่เหลือจะอยู่ที่นี่กันหมด และดูจากท่าทีของพวกเขาแล้ว เหมือนว่าพลังจะมีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ละคนต่างก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดกันทั้งนั้นในกรณีนี้ แทบจะเท่ากับว่าผู้นำของนิกายจืดจางคือผู้นำที่แท้จริงของนิกายศักดิ์สิทธิ์แล้วในสถานการณ์เช่นนี้ แทบจะเท่ากับว่าตำแหน่งผู้นำสำนักศักดิ์สิทธิ์จะต้องตกเป็นของผู้นำสำนักเจวี๋ยฉิงยังไงอย่างงั้นเมื่อสองพี่น้อง

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1234

    นี่เป็นการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวและทรงพลังระดับไหนกันแน่ถ้าจะให้พูดตรง ๆ ก็คือ เธอรู้สึกขาดความมั่นใจอย่างมาก และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมช่วงนี้พวกเธอจึงเอาแต่กักตัวบำเพ็ญตนแต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่เข้าใจเลยก็คือ เหตุใดมู่หรงอินถึงได้มั่นใจมากขนาดนั้น โดยเฉพาะลูกชายของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าก็แข็งแกร่งมากจริง ๆแต่เมื่อเทียบกับสองพี่น้องเจวี๋ยเทียนแล้ว เกรงว่าความแต่งต่างอาจจะยังห่างชั้นกันอยู่แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็คงทำได้แค่เดินหน้าทำตามแผนต่อไป หากยังไม่ได้ผล ก็คงต้องสู้ตายเท่านั้นเวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่าณ ภูเขารกร้าง!สถานที่แห่งนี้อยู่หากจากเมืองตงเฉิงออกไปกว่าสามร้อยกิโลเมตร ซึ่งล้อมรอบไปด้วยภูเขารกร้าง เป็นที่ที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แต่สำนักศักดิ์ กลับตั้งหลักอยู่จุดที่ลึกที่สุดของภูเขาเช่นนี้ซึ่งมีทางเข้าและทางออกเพียงสองทางเท่านั้นแน่นอน หากพูดถึงทางเข้าออกลับที่มีอยู่ ไม่ได้มีเพียงแค่สองทางอย่างแน่นอน ซึ่งมันเป็นทางที่คนธรรมดาไม่สามารถหาเจอได้อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะบริเวณทางเข้ามีม่านพลังปิดเอาไว้อยู่ หากเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยกับ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1233

    เย่เทียนหยู่รู้สึกตกใจนิดหน่อย เขาไม่รู้จักอีกฝ่ายด้วยซ้ำ จึงได้แต่ยักไหล่ ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เคยสู้ด้วยสักหน่อย ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”“แต่ฉันรู้ค่ะ!”“ราชามังกรแห่งพรรคมังกร ผู้นำแห่งสำนักเงา หรือจะให้ฉันเรียกว่าคุณชายเย่ดีคะ?” เยว่เหลียนเวยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนี้ เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง อีกฝ่ายน่าจะมาจากสำนักดอกไม้ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สถานะพวกนี้ของเขาแน่นอน เขาจึงพูดขึ้นอย่างเร่งรีบออกไปว่า “คุณน่าจะเป็นผู้อาวุโสของสำนักดอกไม้สินะ?”“ผู้อาวุโสอะไรกันคะ ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย ฉันชื่อว่าเยว่เหลียนเวยค่ะ คุณเรียกฉันว่าพี่เยว่ก็ได้!” เยว่เหลียนเวยยิ้มเล็กน้อย หลังจากที่เธอเผยรอยยิ้มออกมา เสน่ห์ในตัวเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเยว่หลิงตกตะลึงไปชั่วขณะ อาจารย์รองเป็นอะไรไป เรียกว่าพี่เยว่งั้นเหรอ ไอ้เด็กนั่นมันเป็นใครกันแน่“เอ่อ สวัสดีครับ พี่เยว่!” ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากถูกเรียกแบบนั้น เย่เทียนหยู่จึงทำได้แค่เริ่มทักทายใหม่อีกครั้ง“ค่ะ คุณชายเย่ไม่เลวเลยนะคะ ฉันชอบค่ะ”เยว่เหลียนเวยเ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1232

    เยว่หลิงแทบไม่สามารถต่อต้านได้เลย และพบว่าตัวเองกำลังถูกชายคนหนึ่งกดทับด้วยมือเอาไว้อยู่ เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอันแรงกล้าของผู้ชายจากอีกฝ่าย สีหน้าเธอก็แดงก่ำทันทีแม้ว่าเธอมักจะใช้วิชาเสน่ห์อาคมอยู่บ่อย ๆ แต่เธอก็ไม่เคยให้ผู้ชายเข้าใกล้มากขนาดนี้มาก่อน นั่นจึงทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาแบบนี้เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากตรงหน้า เขาก็พูดพลางหัวเราะออกมาว่า “ฟังจากน้ำเสียงของคุณแล้ว ผมยังคิดอยู่เลยว่าคุณคงจะเป็นคนที่เปิดกว้างมาก คิดไม่ถึงว่าจะเขินได้ง่ายขนาดนี้”“นาย นายรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” เยว่หลิงวิตกกังวลอย่างมาก เธอคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีวิชากังฟู่ที่น่ากลัวอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนที่ชั่วร้ายมากอีกต่างหากถ้ารู้แต่แรก ก็คงไม่มาคนเดียวแบบนี้หรอก พวกเธอได้ทำการนัดพบกับคนในสำนักที่นี่ และตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลานัดแล้วด้วยเมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารและวิตกกังวลของเธอ เย่เทียนหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งหยอกล้อเธอ พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ผมจะปล่อยคุณไปก็ได้ แต่คุณต้องขอร้องผมก่อน”“เพราะไม่อย่างนั้น ผมคงไม่อาจทำใจแยกจากความงามอันน่าหลงใหลเช่นนี้ได้แน่”ในขณะที่พูด เย่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1231

    ช่วงเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง เย่เทียนหยู่และหลินหว่านหรูก็กลับมาถึงเมืองตะวันออกกันแล้ว เวลาที่เหลือก็ค่อนข้างเยอะ ทั้งสองจึงทานข้าวด้วยกันก่อน แล้วค่อยส่งหลินหว่านหรูกลับบริษัทจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงค่อยออกเดินทาง แต่ขณะที่เขากำลังจะขึ้นรถ เขาก็ได้ยินเสียงอันอ่อนหวานดังเข้ามาในหู “คุณเย่คะ ท่าทางรีบร้อนแบบนั้น คุณจะรีบไปไหนเหรอคะ?”เย่เทียนหยู่ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมอง ตรงหน้าเขาปรากฏร่างที่มีเสน่ห์และสง่างามของหญิงสาวคนหนึ่ง มองผิวเผินรู้สึกว่าเธอยังเด็กอยู่มาก ราวกับว่าเธอเพิ่งจะสี่สิบต้น ๆ เท่านั้นเองรูปร่างหน้าตาของเธอดูอ่อนเยาว์กว่าจูเก่อหลิวหลีนิดหน่อย แต่ความเซ็กซี่และเสน่ห์ที่เธอแสดงออกมานั้น โดยเฉพาะความขาวที่ถูกเผยให้เห็นเพียงเล็กน้อย เพียงเท่านั้นก็ทำให้ผู้คนต่างพากันใจเต้นแล้วขาเรียวยาวสองข้างที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใย นี่ถือเป็นค่านิยมของผู้หญิงที่นับว่าเป็นอันตรายต่อผู้ชายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน เย่เที่ยนหยู่เองก็เคยเห็นผู้หญิงมามากมายนับไม่ถ้วนจนเคยชินหมดแล้ว โดยเฉพาะเทพธิดาสองสามคนที่สวยกว่าหลินหว่านหรู่ก็เคยเจอมาหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงไ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1230

    แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าแม่ตระกูลหลินจะทำให้เธอต้องอับอายมากขนาดนี้เห็นได้ชัดว่าเฉินเว่ยไม่อาจทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ เธอจึงแสดงเจตจำนงที่ต้องการจะลาออกทันทีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นแบบนั้น เธอก็รีบอนุมัติให้ทันทีโดยที่ไม่คิดลังเลเลยแม้แต่น้อย กระทั่งคนอีกสองสามคนที่ต้องการจะลาออกตามเฉินเว่ยเองก็ถูกอนุมัติด้วยเช่นกันถึงยังไง เธอก็ยังมีคนที่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างเหอรุ่ยอยู่ แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วเห็นได้ชัดว่าเฉินเว่ยไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม่ตระกูลหลินจะมุ่งมั่นมากขนาดนี้ ทำให้เธอตกตะลึงไปชั่วขณะได้จริง ๆ แต่เมื่อลองย้อนนึกดู แม้แต่คนอย่างเหอรุ่ยก็สามารถปีนข้ามหัวเธอได้ การที่เธอจากไปตอนนี้ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเมื่อถึงตอนนั้น ตอนที่เครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์เกิดปัญหาขึ้นมาจริง ๆ ไม่แน่อาจจะมีปัญหามากมายตามมาเพิ่มก็ได้ตามที่หลิวเหวินเคยพูดถึงความคิดของแม่ตระกูลหลิน บวกกับเรื่องที่จู่ ๆ เหอรุ่ยก็ได้รับตำแหน่งผู้จัดการ เรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นกับเครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์ก็คงขึ้นอยู่กับเวลาแล้วล่ะ เพราะงั้นจากไปเร็วหน่อยก็ดีเหมือนกันเมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของเฉินเ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1229

    “หากเป็นเช่นนั้น งั้นเรื่องก็ง่ายมากเลยล่ะครับ มีวิธีอีกมากมายนับไม่ถ้วน” เหอรุ่ยรีบพูดขึ้นมา หากเขายังบอกว่าทำไม่ได้อีก แล้วตนจะยังมีประโยชน์อะไร นั่นเท่ากับตนจะพลาดโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่รึไงเมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของแม่ตระกูลหลินก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ตอนนี้บริษัทมีทางรอดแล้วคนอย่างหลิวเหวินไม่รู้เรื่องอะไรเอาเสียเลย แถมยังบอกว่าหมดหนทางอีกแต่เมื่อตนเป็นคนออกโรงเอง ก็สามารถหาคนเก่งมาได้ในทันที ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย!และเท่าที่ฟังมา เหมือนว่าคนที่ตนเลือกจะมีวิธีแก้ปัญหามากมายนับไม่ถ้วนอีกต่างหากเมื่อเห็นแบบนี้แล้ว แม่ตระกูลหลินก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ดีมาก หากเฉินเว่ยกล้ามาจริง ๆ ฉันก็จะไล่มันออกทันที แล้วให้เธอมารับตำแหน่งแทนหล่อนซะ”“ครับ ขอบคุณประธานหลิวมากครับ ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อรับใช้คุณ!” เหอรุ่ยรีบพูดประจบประแจงขึ้นมาทันที“ดีมาก ไม่เลวเลย เธอยังหนุ่มยังแน่น ต่อไปจะต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน!”เมื่อแม่ตระกูลหลินได้ยินว่าอีกฝ่ายยินดีรับใช้ตน สีหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในใจก็รู้สึกพอใจอย่างมาก“ประธานหลิวชมเกินไปแล้วคร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status