หรือว่าเทียนหยู่ก็มาจากตระกูลเย่เช่นกัน?ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของหลินหว่านหรูแต่เธอก็ส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว จะเป็นไปได้ยังไง แม้ว่าเย่เทียนหยู่จะดูดีมีเสน่ห์ แต่เขาไม่มีท่าทางแบบพวกชนชั้นสูงเลยเขาดูเหมือนคนธรรมดามากกว่า แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ยิ่งมองเขาก็ยิ่งสบายใจพ่อแม่ตระกูลหลินมองดูนายน้อยที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา เขาดูสงบและเย่อหยิ่ง แต่งกายด้วยเสื้อผ้าเรียบหรูหรา ท่าทางโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เมื่อเทียบกับเขาแล้ว กงซุนจื้อก็แค่คนไร้ค่าเรื่องนี้ทำให้พวกเขาทุกคนตื่นเต้นมาก คุณชายเย่คนนี้ต่างหากที่จะเป็นคู่ครองที่ดีสำหรับลูกสาวของพวกเขา ทำไมลูกสาวของพวกเขาถึงไม่พบชายหนุ่มแบบนี้บ้าง?กงซุนมิ่วรู้สึกประหม่าอย่างยิ่ง และรอคำตอบของนายน้อยอย่างเงียบ ๆคุณชายเย่ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา ก่อนจะพูดอย่างโหดเหี้ยม “คุณจะรู้เหตุผลเฉพาะตอนคุณไปถึงเมืองหลงตู หรือคุณจะเลือกต่อต้านผมก็ได้”“อวดดี แกคิดว่าตระกูลกงซุนของเราเป็นใครวะ? แค่ประโยคเดียวก็คิดจะพาตัวปู่ไปเหรอ ฝันไปเถอะวะ”กงซุนจื้อทนไม่ไหว เขาจะไม่ยอมให้ตระกูลกงซุนต้องอับอายขนาดนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าหลินหว่านหรูและตระกูลหลิน เมื่อคุณชายเย่
เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที “คุณชายเย่ หัวหน้าตระกูลกงซุนคนนี้กำลังรังแกเราเพราะอำนาจของตระกูลเขาค่ะ ขอร้องละ อย่าเห็นด้วยกับเขานะคะ” เธอรีบพูดเมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินแบบนั้น เธอก็รีบพูดว่า: “หว่านหรูพูดอะไรอยู่ คุณเย่จะทำอะไรลูกมีสิทธิ์ไปยุ่งหย่ามตั้งแต่เมื่อไร คุณเย่ อย่าสนใจเลยนะคะ ทำทุกอย่างได้ตามที่ต้องการเลยค่ะ”“อีกอย่างไอ้เย่เทียนหยู่ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร ฆ่าเขาซะได้ก็ถือเป็นการช่วยเหลือชาวเรานะ”“แม่!”หลินหว่านหรูโกรธมาก เธอรู้สึกว่าแม่ของเธอไปไกลเกินจะกู่กลับแล้ว นี่มันชีวิตคนแท้ ๆเมื่อเย่เซวียนได้ยินคำพูดของหลินหว่านหรูเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันศีรษะไปมอง ดวงตาของเขาอดไม่ได้ที่จะเปล่งประกาย ช่างเป็นผู้หญิงที่งดงามจริง ๆ โดยเฉพาะดวงตาที่คมชัดของเธอ ดวงตาที่สว่างราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าไม่มีผิดเขายิ้มแล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงชื่ออะไร?”“ฉันชื่อหลินหว่านหรูค่ะ ตระกูลกงซุนรังควานตระกูลของฉันเพราะฉันเองค่ะ ฉันเห็นแล้วว่าคุณชายเย่เป็นคนดีมีคุณธรรม ได้โปรดอย่าให้เขากลับมาทำเรื่องเลวร้ายอีกเลยนะคะ” หลินหว่านหรูรีบกล่าวสมาชิกในตระกูลหลินต่
ทุกคนในตระกูลหลินโล่งใจและแสดงสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข ขณะที่ทุกคนแยกย้าย โดยเฉพาะสมาชิกในตระกูลกงซุนที่ถูกพาตัวไปคราวนี้โชคดีที่คุณชายเย่ปรากฏตัวคุณแม่ตระกูลหลินรู้สึกขอบคุณและตื่นเต้นเล็กน้อย เธอรีบพูดขึ้นมาทันที: “หว่านหรู เห็นไหมว่าคุณชายเย่มองลูกต่างจากคนอื่นน่ะ คงไม่ใช่ว่าชอบลูกหรอกนะ”“แม่กำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรคะ!”หลินหว่านหรูพูดด้วยความโมโหทันที: “นายน้อยเย่มีฐานะระดับไหนจะมาชอบคนฐานะแบบหนูได้ยังไงคะ?”“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ผู้ชายต้องรวย มีอำนาจและมีอิทธิพล ไม่อย่างก็แค่ขยะ” หลังจากพูดแบบนี้ คุณแม่หลินก็เหลือบมองเย่เทียนหยู่แล้วพูดว่า “สำหรับผู้หญิง ขอแค่ดีพอและสมบูรณ์แบบ ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว”“มีสุภาษิตที่ว่า ผู้หญิงพิชิตโลกด้วยการพิชิตผู้ชาย และผู้ชายพิชิตผู้หญิงด้วยการพิชิตโลก”หลินหว่านหรูพูดอะไรไม่ออก เธอเลิกสนใจแม่ของเธอ เธอก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “เทียนหยู่ ครั้งนี้ต้องขอบคุณจริง ๆ นะ ถ้าไม่ใช่เพราะนาย คุณชายเย่คงไม่มาและพวกเราคงจบเห่ไปแล้ว”ขณะที่พูด เธอก็ส่งซิกบอกใบ้ให้เย่เทียนหยู่ในตอนแรกเย่เทียนหยู่แอบชะงัก จากนั้นจึงเข้าใจความคิดของหลินหว่านหรูอย่างรวด
เขาถามทันที: “เทียนหยู่ ในเมื่อคุณรู้จักคุณชายเย่และเป็นคนพาเขามาที่นี่เพื่อจัดการตระกูลกงซุนแล้วทำไมเมื่อกี้ไม่ทักทายเขาหน่อยล่ะ”เย่เทียนหยู่ตกตะลึงเล็กน้อย เขาควรจะตอบเรื่องนี้ยังไงคุณแม่ตระกูลหลินเองก็ได้สติ เธอมองไปที่เย่เทียนหยู่โดยไม่พูดอะไร หรือว่าเมื่อกี้พวกเขาถูกหลอกหลินหว่านหรูเป็นกังวลเล็กน้อยและกำลังคิดวิธีหลอกพวกเขาแต่ในขณะนี้เอง เย่เซวียนปรากฏตัว เขาว่องไวมากราวกับสายอัศนีไม่มีผิดทุกคนในตระกูลหลินตกสะดุ้งเฮือก แต่คุณปู่หลินก็รีบพูดด้วยความเคารพ: “คุณชายเย่!”แต่ในสายตาของเย่เซวียนกลับไม่มีเขาอยู่เลย เขาไม่แม้แต่จะเหลือบมอง “คุณหลิน ผมขอโทษด้วยนะ เมื่อครู่จู่ ๆ กงซุนมิ่วก็ลงมือ เขาพาหลานชายของเขากับพวกผู้มากฝีมือหนีไปแล้ว”“อะไรนะ!”พอทุกคนในตระกูลหลินได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเพราะยังไงกงซุนจื้อก็เกลียดพวกเขามาก โดยเฉพาะเย่เทียนหยู่ และเย่เทียนหยู่ที่กงซุนจื้อเกลียดที่สุด ก็อยู่ที่จวนตระกูลกงซุน และมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะบุกฆ่าเขาเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่ากงซุนจื้อจะถูกพาตัวไป แต่จริง ๆ แล้วเขาสามารถกำจัดการจับกุมและหนีไปด้วยต
แน่นอนว่าหลังจากท่านปู่หลินได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็น่าเกลียดสุด ๆ เขาหันไปจ้องหน้าเย่เทียนหยู่เขม็ง เตรียมพร้อมจะสั่งสอนเย่เทียนหยู่หลินหว่านหรูไม่กล้าให้คุณปู่ได้เอ่ยปาก เพราะถ้าคุณชายเย่รู้ว่าเย่เทียนหยู่กล้าแอบอ้างชื่อของเขา แถมยังใช้เขามาสร้างความดีความชอบให้ตัวเองเช่นเรื่องที่ว่าเย่เทียนหยู่เป็นคนเชิญคุณชายเย่มา ถ้าเป็นแบบนั้นคุณชายเย่ไม่โกรธถึงจะแปลก โดยเฉพาะเมื่อมองดูสีหน้าหยิ่งยโสราวกับเป็นหนึ่งในใต้หล้าของเขาเมื่อครู่“ปู่คะ แค่ล้อเล่นกันน่ะค่ะ”หลินหว่านหรูรีบรับคำทันที “คุณชายเย่ไปทำธุระก่อนเถอะค่ะ เราไม่รบกวนคุณดีกว่า”“เหอะ!”เย่เซวียนส่งเสียงเหอะอย่างเย็นชาก่อนจะออกไปทันที ถึงผู้หญิงคนนี้จะพอเข้าตาเขาอยู่บ้าง แต่กลับอยู่ไม่เป็นเอาเสียเลยรอจนเขาไปแล้ว เธอจะต้องเสียใจแน่แต่การจับกุมกงซุนจื้อในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เขาต้องออกมาจัดการภารกิจสำคัญถึงขนาดนี้เพียงลำพัง หากทำไม่สำเร็จ ก็คงทำให้ตระกูลที่อบรมสั่งสอนเขามาต้องผิดหวังดังนั้นเขาจึงไม่พูดพร่ำ และออกไปตามหาและจับกงซุนจื้อทันทีเขาเองก็คิดไม่ถึง ว่าตัวเองกลับเกิดสนใจผู้หญิงคนหนึ่งถึงขั้นตั้งใจกลับมาแจ้
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็อาจจะทำได้ทั้งนั้นเพราะตอนนี้พวกเขาเป็นนักโทษหลบหนีของผู้อารักขาเฟยหลง ถ้าหากถูกจับได้คงไม่มีทางรอดชีวิตแต่ ในสถานการณ์แบบนี้ไม่ว่าต้องทำอะไรก็อาจจะมีความเป็นไปได้ทั้งนั้นทันทีที่เย่เทียนหยู่จากออกมา โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น พอมองดูก็เห็นว่าหลิวซือซือโทรมา เขาจึงรับสาย“พี่เย่ ตอนนี้พี่สะดวกไหมคะ?” หลิวซือซือถามอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะที่คราวก่อนเธอให้พี่เย่แสดงเป็นแฟนหนุ่มของเธอ จนทำให้ภรรยาของเขาเข้าใจผิด ไม่รู้ว่าตอนนี้คืนดีกันหรือยัง“สะดวกสิ มีเรื่องอะไรว่ามาได้เลย” เย่เทียนหยู่พูด“พี่ พี่คืนดีกับเธอหรือยังคะ” เพราะแม่ของเธออยู่ข้างๆ หลิวซือซือจึงไม่กล้าพูดตรงเกินไป เพราะถึงยังไงพ่อกับแม่ก็ยังไม่รู้ว่าพี่เย่มีภรรยาแล้ว“ไม่มีอะไรแล้วละ นี่โทรมาถามเรื่องนี้เหรอ ไม่ต้องกังวลหรอกครับ”“ไม่ใช่นะ!”หลิวซือซือรีบพูด “ยังมีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ!”“เรื่องอะไร?”“เมื่อวานซ่งหยาง คุณชายตระกูลซุนมาที่บ้านเราด้วยตัวเองค่ะ แถมยังเอามอบวิลล่าที่เขตหงติ่งให้ด้วย บอกว่าเป็นของขวัญขอโทษ”หลิวซือซือพูดเมื่อวานตอนเช้า ซ่งหยางเอากุญแจวิลล่ามาให้ด้วยตัวเองพร้อมกับของ
เมื่อเห็นท่าทางที่มุ่งมั่นของลูกสาว แม่ตระกูลหลิวก็เปลี่ยนท่าทีในพริบตา และเริ่มขอร้อง “เทียนหยู่บอกว่าได้แล้วนะ ซือซือ ถึงลูกจะไม่อยากรับไว้ แต่แม่ทำงานหนักมาทั้งชีวิต ก็ถือซะว่าเป็นการเลี้ยงแม่ยามแก่ไม่ได้เหรอ?”“หรือลูกอยากเห็นพ่อทำงานหนักไปทั้งชีวิตหรือไง?”“หนูจะหาเงินมาเลี้ยงทุกคนเองค่ะ”“ด้วยเงินเล็กน้อยของลูกน่ะเหรอ แล้วแม่จะได้อยู่วิลล่าเมื่อไร” แม่ตระกูลหลิวตอบโต้ และยังพูดด้วยความกังวลต่ออีกว่า “ซือซือ นี่มันมาถึงมือลูกแล้วลูกยังไม่รับ อยากจะบังคับแม่หรือยังไง”“ไม่ใช่นะคะ!”หลิวซือซือยิ้มอย่างขมขื่นและพูดอย่างช่วยไม่ได้: “แม่ ไม่ใช่ว่าหนูไม่อยากรับหรอกนะคะ แต่ว่ามัน ใช่ คือเราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันนะคะ”“ไม่ใช่สามีภรรยากัน แต่เป็นแฟนกันจะให้ของขวัญกันก็เป็นเรื่องปกติ เทียนหยู่มีฐานะเป็นถึงอะไร การที่เขามอบวิลล่าให้ก็เหมือนคนทั่วไปมอบของเล็กๆ น้อยๆ ให้นั่นละ” แม่ตระกูลหลิวกล่าว“แต่เรา ไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ ด้วยซ้ำค่ะ” หลิวซือซือไม่มีทางเลือกอื่น ต่อให้พ่อแม่จะดุด่าเธอ เธอก็ต้องยอมเพื่อจะอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนไม่อย่างนั้นแค่รับวิลล่ามาจะเป็นอะไรไปทันทีที่สิ้นคำพ
แม่ตระกูลหลิวร้อนใจจนใช้ความตายเข้าขู่หลิวซือซือทำอะไรไม่ถูกจริงๆ แต่ในขณะนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นคุณแม่ตระกูลหลิวก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตูทันที ผู้มาเยือนคือซ่งหยางตามดังที่คาดไว้ เธอต้อนรับซ่งหยางเข้ามาด้วยในด้วยความตื่นเต้นดีอกดีใจทันที เพราะเธอรู้เหตุการณ์ต่อจากนี้เป็นอย่างดีมาถึงตอนนี้ หลิวซือซือก็ไม่ได้ห้ามอีกต่อไป เธอคิดว่าถึงยังไงพี่เย่ก็พูดแล้ว รวมกับคำขู่ของแม่เมื่อครู่นี้ เธอหมดหนทางจริงๆสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลังจากได้ฟังคำพูดของแม่แล้ว หลิวซือซือก็รู้สึกว่าพี่เย่ชอบเธอเหมือนกันในเมื่อพี่เย่ชอบเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะยอมรับไว้ อย่างมากถ้าพี่เย่ต้องการตัวเธอเมื่อไร เธอก็แค่ยอมอุทิศร่างกายให้เขาไปก็พอเป็นที่แน่ชัดว่าเย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าคำพูดสบายๆ ของเขาจะทำให้สองแม่และลูกทะเลาะกันอยู่นาน หลังจากที่เขาขึ้นรถ เขาก็โทรออกสองสามสาย ให้พวกเขาบอกสถานที่ที่กงซุนจื้อซ่อนตัวอยู่มาเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตามหาตำแหน่งของพวกกงซุนจื้อเจอคนพวกนี้ซ่อนเก่งจริงๆ ทำเรื่องสวนทางกับที่ชาวบ้านเขาทำกันหมด ถึงกับกล้าซ่อนในโรงแรมสุดหรู แถมยังจองเป็นห้องเพรสซิเดน แล้วยังอยู่รว
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก