ไม่ว่าคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหน เย่เทียนหยู่ก็ไม่มีทางเป็นปรมาจารย์มีปู่ของเขาอยยู่ที่นี่กับปรมาจารย์ของตระกูลกงซุน เย่เทียนหยู่ผู้สิ้นหวังจะต้องตายโดยไม่มีสถานที่ฝังศพอย่างแน่นอน ในความเห็นของเขาเย่เทียนหยู่แค่มีวรยุทธ์เท่านั้นเมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เทียนหยู่กังวลเล็กน้อยว่ากงซุนจื้ออาจจะแค่ยอมรับไปก่อน เธอจึงถามว่า: “เทียนหยู่ คุณคิดว่าเราจะให้เขาทำตามสัญญาได้ยังไงเหรอ”“ไม่ต้องกังวลครับ ถ้าเขากล้าผิดสัญญา เขาต้องชดใช้อย่างแสนสาหัสแน่นอน” เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ“อืม!”หลินหว่านหรูพยักหน้าและพูดว่า “กงซุนจื้อคุณได้ยินไหม?”“ได้ยินแล้วครับ ประธานหลินไม่ต้องกังวล ผมสาบานได้เลยว่าผมจะทำตามสัญญา ผมจะโทรหาคุณปู่หลินตอนนี้และบอกให้เขายกเลิกการหมั้น”กงซุนจื้อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดหมายเลขของท่านปู่หลิน แล้วบอกเรื่องนี้กับเขาทันทีคุณปู่ตระกูลหลินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดขึ้นมาทันที: “คุณกงซุน คุณหมายความว่ายังไง ทำไมคุณถึงยกเลิกกะทันหัน? หว่านหรูพูดอะไรหรือเปล่า หรือว่าทำเรื่องอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ”“ไม่ ไม่ต้องกังวลหรอก มันไม่เกี่ยวอะไร
ขณะกำลังมองดูกงซุนจื้อเดินออกไป หลินหว่านหรูก็แอบยิ้มอย่างขมขื่น นิสัยของเทียนหยู่นี่จริง ๆ เลย เป็นแบบนี้แล้ว ทำไมยังต้องไปยั่วยุกงซุนจื้ออีกถ้าเรื่องร้ายแรง จะหยุดไม่ให้ตระกูลกงซุนมาตามแก้แค้นได้ยังไงแต่แน่นอนว่าเธอจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเย่เทียนหยู่อีกต่อไป แค่ถามว่า: “เทียนหยู่ เขาจะรักษาสัญญาของเขาจริงๆ เหรอก”“ไม่หรอก!”เย่เทียนหยู่พูดตามตรง จากสายตาวาบหนึ่งของกงซุนจื้อตอนที่เขาจากไป เขาก็เห็นแล้วว่าเจ้านั่นมันกำลังระงับความเกลียดชังและความโกรธในใจ“อ่า……”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “แล้วทำไมนายไม่พูดตั้งแต่เมื่อกี้เหล่า แล้วยังปล่อยไปง่าย ๆ แบบนั้นอีก?”“แล้วถ้าไม่ปล่อยเขาไปล่ะ? จะฆ่าเขาไม่ได้ แต่คงเก็บเขามาเลี้ยงก็ไม่ได้ใช่ไหม”เย่เทียนหยู่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้“เรื่องนั้น……”หลินหว่านหรูยิ้มแห้ง มันเป็นความผิดของเธอเองทั้งหมด แต่แม้ว่าเขาจะไม่ยอมปล่อย หรือต้องฆ่าคนจริงๆ เหรอ เธอถามอย่างช่วยไม่ได้: “แล้วเราควรทำยังไงดี?”“ไม่จำเป็นต้องทำอะไรหรอกครับ ไม่ต้องกังวล เขาสร้างปัญหาไม่ได้หรอก” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้ม“จริงเหรอ?”“จริงอยู่แ
“ไม่ ผมจริงจังนะครับ ผมไม่ได้กำลังล้อเล่น”“พอแล้ว ฉันไม่ได้ถามสักหน่อย ไม่ต้องแก้ต่างแล้ว”หลินหว่านหรูพูดต่อ “สิ่งสำคัญที่สุดของเราในตอนนี้ คือการหาวิธีจัดการกับการแก้แค้นของตระกูลกงซุนในวันพรุ่งนี้”“ไม่ต้องกังวล ผมมีทางแก้แน่นอนอยู่แล้ว สำหรับคุณไม่ต้องกังวล แค่กลับไปนอนหลับฝันดีก็พอ” เย่เทียนหยู่กล่าวหากตระกูลกงซุนส่งใครมาที่นี่อีกจริง ๆ เขาก็คงไม่รังเกียจที่จะช่วยผู้อารักขาเฟยหลงจัดการกับตระกูลกงซุนสักหน่อยในความเห็นของเขา หากกงซุนจื้อคิดจะเชิญใครมาอีก เกรงว่าคงจะมีเพียง กงซุนมิ่ว ปรมาจารย์ระดับสูงของตระกูลกงซุนเท่านั้นที่จะมาด้วยตนเอง หรืออาจกระทั่งต้องพาผู้มากฝีมือคนอื่นมาพร้อมกันหากเป็นกรณีนี้จริง จะต้องช่วยผู้อารักขาเฟยหลงมากแน่เพราะพรุ่งนี้ ผู้อารักขาเฟยหลงจะจู่โจมตระกูลกงซุนเพื่อจับกุมผู้คนหากไม่เป็นแบบนั้น เย่เทียนหยู่จะคงไม่บอกให้หลินหว่านหรูทำใจให้สงบ แล้วไม่ต้องไปตั้งคำถามกับเรื่องนี้อีกเพียงแต่ไม่คิดว่ากงซุนจื้อจะน่ารังเกียจและไร้ยางอายขนาดนี้ คืนนี้เขาเริ่มลงมือทันที แล้วยังหลอกหลินหว่านหรูไปด้วยโชคดีที่เขาตอบสนองไว ไม่อย่างนั้นคงเกิดหายนะ ถ้าเป็นอย่า
ทันทีที่สิ้นคำพูด พ่อแม่ตระกูลหลินก็ตกใจเล็กน้อยแต่สีหน้าของหลินหว่านหรูกลับเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย เธอคิดว่าคุณปู่เองก็คงไม่สังเกตเห็น แต่ดูเหมือนว่าคุณปู่จะเดาได้แล้ว“ในสถานการณ์แบบนั้น คุณชายกงซุนโทรมา เห็นได้ชัดว่าเขาถูกข่มขู่ แต่พวกแกกลับโง่ ที่เรื่องแค่นี้ก็ดูไม่ออก”คุณปู่ตระกูลหลินพูดอย่างขมขื่น: “แค่เขารับปากก็ปล่อยตัวเขา พอเขาไปแล้ว คำพูดนั้นไม่ใช่คำสัญญา แต่เป็นการไปเคลื่อนทัพมาล้างแค้น”“กลัวว่าตอนนี้ตระกูลกงซุนคงสั่นสะเทือนไปแล้ว พรุ่งนี้ต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่แน่”“อ่า……”“คงจะไม่เร็วขนาดนั้นหรอกใช่ไหมคะ?”หลินหว่านหรูก็ตกใจเช่นกัน ใบหน้าของเธอก็ซีดเล็กน้อยแม่ตระกูลหลินหวาดกลัวจนสติแทบแตก ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าตกตะลึง “พ่อ นี่พ่อหมายความว่ากงซุนจื้อจะล้างแค้นพวกเราเหรอ?”“แน่นอน!”คุณปู่ตระกูลหลินพูดอย่างเย็นชา: “หลินหว่านหรู ปกติหลานเป็นคนฉลาดแท้ ๆ ทำไมถึงได้ทำเรื่องผิดพลาดโง่ ๆ พรรคนี้ หรือหลานถูกไอ้เย่เทียนหยู่นั่นทำเอาหลงจนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว”“หนู...” หลินหว่านหรูอยากตอบโต้“เอาล่ะ มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรตอนนี้” คุณปู่ตระกูลหลินขัดจังหวะหลินหว่านห
“อือ ผมเข้าใจแล้ว” เย่เทียนหยู่กล่าวอย่างใจเย็น“ทำไมคุณถึงใจเย็นขนาดนี้ ฉันขอบอกไว้ก่อนว่าอย่าไปสนใจ ตระกูลหลินของเราอาจไม่มีใครเก่งกว่านายหรอก แต่ปู่ของฉันจะหาคนมาได้แน่นอน”เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่ไม่ได้ร้อนรนใจ หลินหว่านหรูจึงรีบเตือนเขา“ไม่ต้องห่วง ผมยังไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณเลย ไม่เกิดเรื่องขึ้นง่ายๆ หรอกครับ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้ม“อะไรของนาย!”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีแดง และเธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคืนนั้นในโรงแรม แค่ว่าเธอไม่มีความทรงจำมากนัก แต่ถึงอย่างนั้น ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ก็ถาโถมเข้ามาหาเธอแม้หลังจากวางสายแล้ว หลินหว่านหรูก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยหลังจากการตรวจสอบ ผู้คนที่คุณปู่หลินจัดไปก็พบบ้านของเย่เทียนหยู่ในที่สุด เพียงแต่พวกเขาจะไปเป็นคู่ต่อสู้ของเทียนหยู่ได้ยังไง ทำให้แต่ละคนถูกเตะโด่งออกมากันอย่างง่ายดายคุณปู่หลินนอนไม่หลับทั้งคืนเพื่อรอข่าวดี แต่เขาไม่คาดคิดว่าคนที่เขาหาไปจะไม่สามารถเอาชนะเย่เทียนหยู่ได้เรื่องนี้ทำให้เขาโกรธจัด คิดว่าเย่เทียนหยู่คงฝึกวรยุทธ์อย่างหนักบนภูเขามาตั้งแต่เด็ก และคนธรรมดาก็เอาชนะเขาไม่ได้แต่ไม่ว
อะไรนะ!ทันทีที่สิ้นคำพูดเหล่านี้ คุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ก็สับสนเล็กน้อยจนแทบไม่เข้าใจสถานการณ์ พวกเขาใช้เวลานานในการตอบสนอง และเขาก็ถามด้วยความโกรธทันที“เย่เทียนหยู่ แกบ้าไปแล้วเหรอ?”“แกรู้ไหมว่าแกกำลังทำอะไร? แกจงใจยั่วยุตระกูลกงซุนและนำพวกเขามาตระกูลหลิน แกอยากให้ตระกูลหลินของเราถูกทำลายหรือไง?”เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่เทียนหยู่ก็หัวเราะและพูดว่า “คุณปู่คิดแบบนั้นมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อคุณเชื่อว่าผมต้องการทำร้ายตระกูลหลินของคุณ ผมก็จะทำตามที่คุณต้องการ”“แก!”“เย่เทียนหยู่ แกไม่คิดว่ามันมากเกินไปหน่อยเหรอ? ปู่ดูแลเอาใจใส่แกเป็นพิเศษมาตลอด แต่แกตอบแทนความเมตตาด้วยความเกลียดชังแบบนี้รึไง” คุณปู่ตระกูลหลินพูดด้วยความโกรธ“เอาใจใส่เป็นพิเศษเหรอ?”“หาคนมาจัดการผมครั้งแล้วครั้งเล่า พยายามฆ่าผม นั่นเป็นการดูแลเหรอ งั้นมันคงเป็นการ ‘เอาใจใส่เป็นพิเศษ’ จริงๆ นั่นละ”“นี่แกตอบแทนพวกฉันด้วยความเกลียดชังเหรอ?”“ยังไม่รู้เลยว่าใครกันแน่ต้องตอบแทนบุญคุณใคร”เห็นได้ชัดว่าเย่เทียนหยู่รู้สึกเบื่อหน่ายกับท่าทางของตระกูลหลิน เขาไม่สนใจหลินว่านหรูแม้แต่น้อยด้วยซ้ำ แถมยังพูดจาไม่เกรงใจ
“นั่นสินะ ฉันลืมลืมไปสนิทเลยว่านายสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ แต่ว่าพวกเขาจะเริ่มลงมือวันนี้เหรอ?” หลินหว่านหรูรีบถาม“ใช่!”“พวกเขาตามเรามาแล้ว กำลังมาทางบ้านตระกูลหลิน”เย่เทียนหยู่ได้รับข่าวที่แน่นอนมาแล้ว“จริงเหรอ ยอดไปเลยเทียนหยู่ ไม่คิดเลยว่านายจะมีอำนาจมากขนาดนี้ ถึงกับสามารถเชิญพวกเขามาจัดการกับตระกูลกงซุนได้”หลินหว่านหรูพูดทันทีว่ เพราะเธอตั้งใจจะให้เครดิตเย่เทียนหยู่แม้ว่าเย่เทียนหยู่จะไม่ได้เป็นคนเรียกคนพวกนั้นมา เป็นตระกูลกงซุนประสบปัญหาเองจนดึงดูดผู้อารักขาเฟยหลง แต่ทางตระกูลไม่รู้เรื่องนี้ เธอเลยหลอกล่อพวกเขาอย่าว่าแต่พวกเธอเลย แม้แต่เย่เทียนหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อยเขาไปบอกหลินหว่านหรูเมื่อไหร่ ว่าเขาเจอคนที่จะจัดการกับตระกูลกงซุน คิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้แน่นอนว่าทุกคนในตระกูลหลินต่างสับสน พวกเขาพูดด้วยความตกใจ: “หว่านหรู หลานกำลังพูดเรื่องอะไร นี่พวกหลานไปพาใครมา แล้วใครกันที่แข็งแกร่งขนาดสามารถจัดการตระกูลกงซุนได้”“แน่นอน เทียนหยู่ได้พบบุคคลที่ทรงพลังอย่างยิ่งแล้ว”หลินหว่านหรูกล่าวอย่างมีความสุข“เป็นไปไม่ได้ นั่นมันแค่เรื่องไร้สาระของเขา เขาจะหา
เมื่อมองดูคุณปู่ตระกูลหลินกระเด็นออกไป สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนทันที ด้วยท่าทางสบาย ๆ แบบนั้น แต่กลับทำให้คนคนหนึ่งกระเด็นออกไปไกลหลินหว่านหรูวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว โชคดีที่คุณปู่ของเธอไม่เป็นอะไรมาก ไม่ได้ล้มจนบาดเจ็บอันที่จริงแล้ว เป็นเพราะเย่เทียนหยู่ที่ยืนอยู่ไม่ไกล ได้ใช้กำลังพยุงตัวท่านปู่เอาไว้มิฉะนั้น คุณปู่ตระกูลหลินจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจนลุกยืนไม่ได้แล้วพ่อแม่ตระกูลหลินก็ดูกังวลเช่นกันโดยเฉพาะคุณแม่ตระกูลหลิน ขาของเธอสั่นเทา แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของกงซุนมิ่วเรื่องเย่เทียนหยู่ เธอก็โวยวายขึ้นมาทันที เธอชี้ไปที่เย่เทียนหยู่แล้วพูดว่า: “เขา เขาก็คือเย่เทียนหยู่!”“เราสนับสนุนคุณกงซุนมาตลอด แล้วก็จะให้ได้แต่งงานกัน แต่มันนี่แหละค่ะ มันเป็นคนที่ก่อให้เกิดความหายนะและทำเรื่องเลว ๆ มาตลอด”เมื่อได้ยินแบบนั้น กงซุนมิ่วก็จ้องไปที่เย่เทียนหยู่ที่อยู่อีกฟากของเขาทันที และพูดอย่างเย็นชาว่า: “แกเองสินะเย่เทียนหยู่ คนที่เมื่อกี้รับพลังของฉันไปส่วนหนึ่งทำให้เขาตกกระแทกพื้นไม่แรง”“ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถทีเดียว ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขากล้าที่จะหยิ่งผยองขนาดนี้”ทันทีที่สิ้นคำพู
“อะไรนะ!”ถึงจะเดาได้ว่าเย่เทียนหยู่ต้องการช่วยก่อตั้งบริษัททำเพลงให้ก็เถอะ แต่การที่ลงทุนให้ตั้งห้าหมื่นล้านก็ทำให้เหอฉุนรู้สึกตกใจมาก เพราะโดยทั่วไปแล้ว ไม่มีบริษัทที่ไหนจำเป็นต้องใช้เงินมากขนาดนั้นแล้วยังมาพูดอีกว่า แค่ช่วยออกเงินลงทุนให้ห้าหมื่นล้านเท่านั้น เงินก็คือเงินไม่ใช่รึไง?เหอฉุนไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า อีกฝ่ายต้องรู้สึกยังไง ถึงสามารถทำให้คนคนหนึ่งหยิบเงินออกมาลงทุนเป็นหมื่นล้านโดยไม่คิดอะไรได้ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไปเพื่อยืนยันความจริง “เฟยเฟย เธอบอกว่าเป็นเงินเท่าไหร่นะ ห้าหมื่นล้านงั้นเหรอ?”“ใช่แล้ว ห้าหมื่นล้าน หรือว่ามันยังไม่พอเหรอคะ?”“ถึงแม้ว่าจะไม่พอก็ไม่เป็นไร พี่เย่บอกเอาไว้แล้ว ว่าให้เอาเงินห้าหมื่นล้านนี้ไปใช้เล่น ๆ ก่อน หากยังไม่พอ เขาก็สามารถเพิ่มเงินลงทุนได้ทุกเมื่อเลยค่ะ” เฉินเฟยเฟยไม่ได้มีแนวคิดเกี่ยวกับการลงทุนมากนักตอนนั้นเธอเองก็ถูกตัวเลขที่เย่เทียนหยู่พูดทำให้ตกใจเช่นกัน แต่พี่เย่ก็บอกเอาไว้แล้วว่า เงินจำนวนนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะเขามีเงินที่ไม่ว่าจะใช้ยังไงก็ใช้ไม่หมดอยู่แล้วต่อให้เป็นแสนล้านเขาก็มี!ตัวเลขเหล่านั้น เธอแ
สีหน้าของเฉินเฟยเฟยดูเศร้าหมอง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “พี่เย่คะ ถ้าหากข้างกายที่มีผู้หญิงคนอื่นได้ แล้วทำไมถึงเพิ่มฉันอีกสักคนไม่ได้ล่ะคะ?”“หา......”เย่เทียนหยู่รู้สึกงงงวย ข้างกายตนมีผู้หญิงอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“พี่เย่คะ ไม่ว่าพี่จะคิดยังไง”“ชีวิตนี้ ฉันเกิดมาเพื่อเป็นของพี่ค่ะ ตายไปก็ยังเป็นวิญญาณของพี่ จะไม่มีวันไปเป็นของคนอื่นอย่างแน่นอน”ดูเหมือนว่าเฉินเฟยเฟยจะตัดสินใจแล้ว จู่ ๆ เธอก็พุ่งตัวเข้าไปกอดเย่เทียนหยู่ทันที แถมยังยื่นริมฝีปากเล็ก ๆ ของเธอไปจูบเย่เทียนหยู่อีกด้วยความรู้สึกนุ่มละมุน รสสัมผัสที่หวานหอม ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ยากจะจินตนาการก็ผุดขึ้นมาในใจเย่เทียนหยู่รู้สึกงงงวยขึ้นมาทันที ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้ใจร้อนกันนักนะ แบบนี้จะให้เขารับมือยังไงดีหรือจะผลักออกไปเลยดี?แต่นั่นมันก็ทำร้ายจิตใจเกินไป!แต่ถ้าหากไม่ผลักออก แบบนี้มันจะดูไม่ดีเกินไปไหมแล้วอีกอย่าง ความรู้สึกแบบนี้มันก็ดีมากจริง ๆ!สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป เขาก็ตระหนักได้ว่า ในใจของเขา เฉินเฟยเฟยยังคงมีสถานะที่สำคัญกับเขามากเฉินเฟยเฟยรู้สึกเขินอายจนหน้าแดง โดยเฉพา
หนานกงเล่อพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามร่างของบอดี้การ์ดวัยกลางคนออกไปแต่ก่อนที่จะจากไป เย่เทียนหยู่เหลือบมองไปที่เขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว ไอ้เด็กนี่ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกสิ้นหวังเท่านั้น แต่กลับดูเหมือนว่าจะมีความหวังในการมีชีวิตอยู่ยังไงอย่างงั้น ทั้งยังรู้สึกถึงความเกลียดชังอย่างเห็นได้ชัดคงไม่ใช่ว่าจะมีวิธีฟื้นฟูกลับมาได้หรอกนะ แต่นั่นก็เป็นไปไม่ได้ ตนเป็นคนลงมือ ยังไงตนก็รู้ดีที่สุดเว้นเสียแต่ว่า เขาจะไปฝึกวิชาจากตำราขุยฮวาอะไรนั่น!เดี๋ยวนะ ตำราขุยฮวาไม่ได้อยู่ในคลังสมบัติของอาณาจักรมังกรหรอกเหรอ งั้นหนานกงเล่อก็มีโอกาสที่จะได้มันมา นี่ก็เท่ากับว่าเขากำลังสร้างศัตรูให้ตัวเองไม่ใช่รึไงเขาไม่กลัวหากว่าหนานกงเล่อต้องการจะแก้แค้นตน แต่เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายคนรอบข้างมากกว่าดูท่าแล้ว จะปล่อยหนานกงเล่อคนนี้ไปไม่ได้ ความเกลียดชังของคนที่เคยถูกทำร้ายไม่ควรมองข้าม เกิดว่าอีกฝ่ายพุ่งเป้าทำร้ายคนรอบข้างเข้า ก็อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ได้อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเขาได้ให้สัญญากับตระกูลหนานกงไปแล้ว เขาจึงไม่สามารถลงมืออย่างเปิดเผยได้
แต่หากทำการสืบค้นต่อไป ข้อมูลนั้นจะต้องถูกค้นพบเข้าสักวันเนื่องจากเธอรู้ถึงความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของเย่เทียนหยู่ บวกกับที่ได้ทราบข่าวว่าหนานชายเจ้าชู้ของตนก็อยู่ที่เมืองตะวันออกด้วยเช่นกัน เธอจึงกลัวว่าเขาจะเผลอไปสนใจหลินหว่านหรูเข้า จนทำให้เย่เทียนหยู่ไม่พอใจถึงยังไง หลินหว่านหรูก็มีความงามที่ทำให้ทุกคนต้องตะลึงอยู่แล้วถ้าหากหลานชายคนนี้เห็นเข้า คงจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาแน่นอน ถ้าเกิดเผลอไปยั่วยุเย่เทียนหยู่เข้า ตอนนี้คงจะกลายเป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวปัจจุบันตระกูลหนานกงก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญเพื่อพัฒนาให้เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่อยู่ ดังนั้นจึงไม่ควรมีศัตรูที่น่ากลัวอย่างพรรคมังกรเพิ่มขึ้นมาเด็ดขาดแต่คิดไม่ถึงเลยว่า ตนจะช้าไปหนึ่งก้าว ยังไม่ทันที่จะเตือน หลานชายของเธอก็ไปพัวพันเข้าจนได้ถึงแม้จะไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร แต่เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็น่าจะเกี่ยวกับผู้หญิงเมื่อเห็นว่าป้าของตนเงียบไปนาน สีหน้าของหนานกงเล่อก็ยิ่งหมดหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่เย่เทียนหยู่ทำตัวหยิ่งยโสและอวดดีมากขนาดนี้ หรือพวกเขาจะไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ?ทั้งตระกูลหนานกงจะจัดการกับเ
การสนทนาเช่นนี้ ทำให้หนานกงเล่อรู้สึกตกใจอย่างสิ้นเชิงเสียงของป้าดังมาก แล้วก็โกรธมากด้วย แม้จะอยู่ห่างกัน แต่ก็ยังได้ยินเสียงที่ค่อนข้างชัดเจนยิ่งไปกว่านั้น เขายังตั้งใจเปิดโหมดลำโพงอีกด้วย เพราะเขาต้องการให้พวกเฉินเฟยเฟยได้สัมผัสถึงความน่ากลัวของตระกูลหนานกง ทำให้พวกเธอรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวังแต่คิดไม่ถึงเลยว่า การสนทนาจะเป็นแบบนี้ไปได้แม้จะรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่นั้นมีพลังที่ไม่ธรรมดา แต่ก็มักจะรู้สึกว่านั่นเป็นเพราะตนคิดมากไปเท่านั้น เลยเข้าใจผิด ยังไงซะ ใครบ้างที่ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของอำนาจตระกูลหนานกงยิ่งไปกว่านั้น ทั้งที่ป้าโกรธมากขนาดนั้น แล้วทำไมป้ายังต้องการพูดกับอีกฝ่ายให้ได้ เห็นได้ชัดว่าต้องการจะสั่งสอนอีกฝ่าย กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเนื้อหาที่พูดคุยกันจะเป็นแบบนี้แต่ฟังดูสิ เขาพูดว่าอะไร เขาแทบไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าตระกูลหนานกงจะขุ่นเคืองรึเปล่า แถมยังจะใช้ฝ่ามือเดียวจัดการอีกต่างหากเขาไม่เห็นตระกูลหนานกงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยหากคำพูดเช่นนี้ถูกพูดต่อหน้าเขาก็ช่างเถอะ แต่นี่คือป้าของเขา เธอถือเป็นตัวแทนคนสำคัญของตระกูลหนานกงเชียวนะ เขากล้าพูดแบบนั้นไปได้ยังไง
“มันเป็นใครกันแน่?”หนานกงย่าเปิดเผยตัวตนออกมาอย่างสมบูรณ์ ตงลงแล้วเป็นใครกันแน่ ถึงลงมือได้โหดเหี้ยมมากขนาดนี้“เป็นเขา เขาเป็นคนทำ” หนานกงเล่อที่อยู่ภายใต้ความสิ้นหวังและความโกรธ เขาไม่แม้แต่จะรู้สึกกลัวเย่เทียนหยู่เลยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นโหมดเป็นกล้องถ่ายรูป และบันทึกภาพเย่เทียนหยู่เอาไว้เหอฉุนรู้สึกตกใจ ก่อนจะรีบพูดเตือนขึ้นว่า “คุณเย่คะ รีบหลบไปสิคะ!”“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมต้องหลบด้วย”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูน่าเกลียดมาก ไม่เพียงแต่ไม่หลบเท่านั้น แต่ถึงขั้นเดินหน้าไปอีกสองสามก้าว เพื่อให้ตัวเองถูกถ่ายรูปได้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วยเหอฉุนพูดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง นี่คุณเย่รู้จริง ๆ รึเปล่า ว่าตระกูลหนานกงนั้นน่ากลัวมากแค่ไหนในตอนนั้นเอง หนานกงเล่อก็รู้สึกงงงวยอีกครั้ง และตกตะลึงไปชั่วขณะเขากำลังจะถูกกำจัดแท้ ๆ ไอ้เด็กนี่เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้หยิ่งผยอง และแปลกประหลาดได้มากขนาดนี้สิ่งที่ทำให้หนานกงเล่อตกใจยิ่งกว่าก็คือ เมื่อเขาพลิกโทรศัพท์กลับมา ก็สังเกตเห็นว่าป้า ซึ่งเป็นคนที่รักเขามากที่สุด ก็กำลังรู้สึกตกตะลึงด้วยเช่นกันสีหน้าของหนานกงย่าดูไม่ดีมากนั
เสียงร้องที่เจ็บปวดของหนานกงเล่อดังขึ้นอย่างน่าสงสาร!อ้าก!เสียงกรีดร้องที่น่าสยดสยองนี้ แสดงให้เห็นว่าหนานกงเล่อได้ก้าวเข้าสู่วงการขันทีอย่างเป็นทางการแล้ว เขานั่งกองอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าซีดเซียว และเลือดก็ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องทำไมกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!หรือนี่คือบทลงโทษจากสวรรค์ที่เมื่อก่อนตนเคยทำร้ายผู้หญิงมามากมายอย่างนั้นน่ะเหรอ?สิ่งที่ทำให้เขาทุกข์ทรมานและสิ้นหวังมากที่สุดคือ เขาไม่เพียงแต่ถูกตอนธรรมดาเท่านั้น แต่ยังเป็นการตัดตอนแบบถอนรากถอนโคน จนไม่อาจฟื้นฟูกลับมาได้อีกแล้วหากว่ามันไม่ได้หนักเหมือนตอนนี้ หากว่าเขาสามารถไปถึงโรงพยาบาลได้ทันเวลา บางทีอาจจะพอมีทางรักษาได้ แต่อีกฝ่ายกลับทำลายความหวังของเขาไปอย่างสิ้นเชิงในเวลานี้ หนานกงเล่อเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเจ็บปวด เขาจ้องมองเย่เทียนหยู่ด้วยสีหน้าแสดงโกรธแค้นและเกลียดชัง ราวกับว่าต้องการให้เขาถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ ณ เดี๋ยวนั้นเลยสีหน้าของเหอฉุนดูซีดเซียว เดิมเธอคิดว่าเย่เทียนหยู่อาจแค่ต้องการขู่หนานกงเล่อเท่านั้นแต่ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ เขากล้าที่จะทำมันจริง ๆเราจบเห่แน่!พวกเราคงต้องจบเห่แ
ตระกูลหนานกงนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะพูดออกไปว่า “คุณเย่คะ ความสามารถของคุณนั้นแข็งแกร่งมากก็จริง แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับตระกูลหนานกงก็ได้นี่คะ”เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจออกไปว่า “งั้นตามที่เธอพูด การที่มันทำเรื่องเลวทรามขนาดนี้ รังแกเฟยเฟยขนาดนี้ ก็คิดจะปล่อยมันไปง่าย ๆ เลยอย่างนั้นน่ะเหรอ?”“เอ่อ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ เราสามารถให้คุณชายหนานกงทำการชดเชยบางอย่างได้นี่คะ” เหอฉุนกล่าวอย่างไร้หนทางแต่ยิ่งเหอฉุนทำแบบนี้มากเท่าไหร่ หนานกงเล่อก็ยิ่งรู้สึกว่าตนเองมีความมั่นใจมากขึ้นเท่านั้นก่อนหน้านี้อีกฝ่ายยังดูไม่ฟังคำพูดของเหอฉุนอยู่เลย ตอนนี้กลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิงจะต้องถูกความแข็งแกร่งที่น่ากลัวของตระกูลหนานกงทำให้ตกใจแล้วแน่ ๆ ดังนั้นหนานกงเล่อจึงพูดด้วยท่าทีใด้ใจขึ้นว่า “ไม่จำเป็นต้องชดใช้แล้วล่ะมั้ง เมื่อกี้คุณชายเย่ก็เพิ่งจะตบหน้าฉันไป ก็ถือว่าเป็นการชดใช้เลยก็แล้วกัน”เหอฉุนที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปทันที ไม่เห็นรึไงว่าอารมณ์ของคุณเย่คนนี้แทบจะระเบิดออกมาเต็มกลืนแล้ว ฉันพยายามแทบตายกว่าจะทำให
เมื่อมองไปยังสายตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าของเย่เทียนหยู่ หนานกงเล่อก็รู้สึกว่าตนอาจจะตัดสินใจผิดไป ไอ้เด็กนี่อาจจะไม่ต้องการเจรจากับเขาจริง ๆเขาต้องการที่จะทำลายไอ้นั่นของตนจริง ๆแม้ไอ้นั่นของเขาที่อยู่หว่างขาจะสั้นและไม่มีประโยชน์ และมักจะต้องพึ่งยาอยู่เสมอแต่อย่างน้อยก็ยังใช้การได้อยู่ จะให้มันหายไปไม่ได้ครั้งนี้หนานกงเล่อตกใจมากจริง ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัว จนต้องเดินถอยหลัง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คะ คุณชายเย่ อย่าทำแบบนั้นเลยนะครับ ผมผิดไปแล้ว คุณอยากให้ผมชดใช้ยังไง บอกผมมาได้เลยครับ ขอแค่เป็นสิ่งที่ผมให้ได้ ไม่ว่าอะไรผมก็จะให้คุณทุกอย่าง!”“แกให้ไม่ได้หรอก”เย่เทียนหยู่พูดพลางส่ายหัว“ให้ได้สิครับ ขอแค่คุณเอ่ยออกมา ผมก็ให้ได้ทั้งนั้น” หนานกงเล่อรู้สึกลนลานมากจริง ๆ“ถ้าฉันบอกว่าต้องการทั้งตระกูลหนานกงล่ะ แกให้ได้ไหม?” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาพอจะรู้เรื่องที่ตระกูลหนานกงกดดันตระกูลเย่มาอยู่บ้างบวกกับเรื่องที่คนของตระกูลหนานกงเพิ่งจะมาหาเรื่องหลินหว่านหรูไป ตอนนี้ก็มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกสำหรับตระกูลหนานกงแล้ว เย่เทียนหยู่ไม่ได้รู้สึกดีด้ว