“กงซุนจื้อ ผมบอกให้คุณไปได้แล้วเหรอ?”เย่เทียนหยู่หันไปมองที่ประตูแล้วพูดอย่างใจเย็นกงซุนจื้อมาถึงประตูห้องแล้ว แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขากลับก้าวขาไม่ออกราวกับถูกยึดไว้ ต่อให้อยู่ห่างกับประตูแค่คืบ แต่เข้าใกล้ไปกว่านี้ไม่ได้เขามองไปที่เย่เทียนหยู่ที่กำลังเดินมาหาเขาทีละก้าว ลืมไปสนิทว่าตัวเขาเองก็มีวรยุทธ์ แถมยังมีฝีมืออยู่พอตัว และเขาก็พูดด้วยความกลัวบนใบหน้า: “แกอย่าเข้ามานะเว้ย!”“กูเป็นทายาทตระกูลกงซุนนะ ถ้ามึงกล้าแตะต้องกู ตระกูลกงซุนจะไม่ปล่อยมึงไปแน่”“ตระกูลกงซุน?”“คุณคิดว่าผมยังกลัวอยู่อีกเหรอ?” ใบหน้าของเย่เทียนหยู่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยใบหน้าของกงซุนจื้อซีดลงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ถูกต้อง ในช่วงเวลาสั้น ๆ เย่เทียนหยู่ได้สังหารผู้มากฝีมือของตระกูลกงซุนไปหลายคน รวมถึงคุณปู่ยงคนที่เป็นระดับพลังผลัดเปลี่ยนขั้นปลายด้วยนั่นคือคุณปู่ยงนะ คนที่เป็นสุดยอดผู้มากฝีมือของแท้ แต่เย่เทียนหยู่ฆ่าคุณปู่ยงได้ยังไง หรือเป็นการวางยา หรือเป็นแผนการอะไรกันไม่อย่างนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร ถ้าเย่เทียนหยู่มาที
ไม่ว่าคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหน เย่เทียนหยู่ก็ไม่มีทางเป็นปรมาจารย์มีปู่ของเขาอยยู่ที่นี่กับปรมาจารย์ของตระกูลกงซุน เย่เทียนหยู่ผู้สิ้นหวังจะต้องตายโดยไม่มีสถานที่ฝังศพอย่างแน่นอน ในความเห็นของเขาเย่เทียนหยู่แค่มีวรยุทธ์เท่านั้นเมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เทียนหยู่กังวลเล็กน้อยว่ากงซุนจื้ออาจจะแค่ยอมรับไปก่อน เธอจึงถามว่า: “เทียนหยู่ คุณคิดว่าเราจะให้เขาทำตามสัญญาได้ยังไงเหรอ”“ไม่ต้องกังวลครับ ถ้าเขากล้าผิดสัญญา เขาต้องชดใช้อย่างแสนสาหัสแน่นอน” เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ“อืม!”หลินหว่านหรูพยักหน้าและพูดว่า “กงซุนจื้อคุณได้ยินไหม?”“ได้ยินแล้วครับ ประธานหลินไม่ต้องกังวล ผมสาบานได้เลยว่าผมจะทำตามสัญญา ผมจะโทรหาคุณปู่หลินตอนนี้และบอกให้เขายกเลิกการหมั้น”กงซุนจื้อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดหมายเลขของท่านปู่หลิน แล้วบอกเรื่องนี้กับเขาทันทีคุณปู่ตระกูลหลินตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดขึ้นมาทันที: “คุณกงซุน คุณหมายความว่ายังไง ทำไมคุณถึงยกเลิกกะทันหัน? หว่านหรูพูดอะไรหรือเปล่า หรือว่าทำเรื่องอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ”“ไม่ ไม่ต้องกังวลหรอก มันไม่เกี่ยวอะไร
ขณะกำลังมองดูกงซุนจื้อเดินออกไป หลินหว่านหรูก็แอบยิ้มอย่างขมขื่น นิสัยของเทียนหยู่นี่จริง ๆ เลย เป็นแบบนี้แล้ว ทำไมยังต้องไปยั่วยุกงซุนจื้ออีกถ้าเรื่องร้ายแรง จะหยุดไม่ให้ตระกูลกงซุนมาตามแก้แค้นได้ยังไงแต่แน่นอนว่าเธอจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเย่เทียนหยู่อีกต่อไป แค่ถามว่า: “เทียนหยู่ เขาจะรักษาสัญญาของเขาจริงๆ เหรอก”“ไม่หรอก!”เย่เทียนหยู่พูดตามตรง จากสายตาวาบหนึ่งของกงซุนจื้อตอนที่เขาจากไป เขาก็เห็นแล้วว่าเจ้านั่นมันกำลังระงับความเกลียดชังและความโกรธในใจ“อ่า……”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “แล้วทำไมนายไม่พูดตั้งแต่เมื่อกี้เหล่า แล้วยังปล่อยไปง่าย ๆ แบบนั้นอีก?”“แล้วถ้าไม่ปล่อยเขาไปล่ะ? จะฆ่าเขาไม่ได้ แต่คงเก็บเขามาเลี้ยงก็ไม่ได้ใช่ไหม”เย่เทียนหยู่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้“เรื่องนั้น……”หลินหว่านหรูยิ้มแห้ง มันเป็นความผิดของเธอเองทั้งหมด แต่แม้ว่าเขาจะไม่ยอมปล่อย หรือต้องฆ่าคนจริงๆ เหรอ เธอถามอย่างช่วยไม่ได้: “แล้วเราควรทำยังไงดี?”“ไม่จำเป็นต้องทำอะไรหรอกครับ ไม่ต้องกังวล เขาสร้างปัญหาไม่ได้หรอก” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้ม“จริงเหรอ?”“จริงอยู่แ
“ไม่ ผมจริงจังนะครับ ผมไม่ได้กำลังล้อเล่น”“พอแล้ว ฉันไม่ได้ถามสักหน่อย ไม่ต้องแก้ต่างแล้ว”หลินหว่านหรูพูดต่อ “สิ่งสำคัญที่สุดของเราในตอนนี้ คือการหาวิธีจัดการกับการแก้แค้นของตระกูลกงซุนในวันพรุ่งนี้”“ไม่ต้องกังวล ผมมีทางแก้แน่นอนอยู่แล้ว สำหรับคุณไม่ต้องกังวล แค่กลับไปนอนหลับฝันดีก็พอ” เย่เทียนหยู่กล่าวหากตระกูลกงซุนส่งใครมาที่นี่อีกจริง ๆ เขาก็คงไม่รังเกียจที่จะช่วยผู้อารักขาเฟยหลงจัดการกับตระกูลกงซุนสักหน่อยในความเห็นของเขา หากกงซุนจื้อคิดจะเชิญใครมาอีก เกรงว่าคงจะมีเพียง กงซุนมิ่ว ปรมาจารย์ระดับสูงของตระกูลกงซุนเท่านั้นที่จะมาด้วยตนเอง หรืออาจกระทั่งต้องพาผู้มากฝีมือคนอื่นมาพร้อมกันหากเป็นกรณีนี้จริง จะต้องช่วยผู้อารักขาเฟยหลงมากแน่เพราะพรุ่งนี้ ผู้อารักขาเฟยหลงจะจู่โจมตระกูลกงซุนเพื่อจับกุมผู้คนหากไม่เป็นแบบนั้น เย่เทียนหยู่จะคงไม่บอกให้หลินหว่านหรูทำใจให้สงบ แล้วไม่ต้องไปตั้งคำถามกับเรื่องนี้อีกเพียงแต่ไม่คิดว่ากงซุนจื้อจะน่ารังเกียจและไร้ยางอายขนาดนี้ คืนนี้เขาเริ่มลงมือทันที แล้วยังหลอกหลินหว่านหรูไปด้วยโชคดีที่เขาตอบสนองไว ไม่อย่างนั้นคงเกิดหายนะ ถ้าเป็นอย่า
ทันทีที่สิ้นคำพูด พ่อแม่ตระกูลหลินก็ตกใจเล็กน้อยแต่สีหน้าของหลินหว่านหรูกลับเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย เธอคิดว่าคุณปู่เองก็คงไม่สังเกตเห็น แต่ดูเหมือนว่าคุณปู่จะเดาได้แล้ว“ในสถานการณ์แบบนั้น คุณชายกงซุนโทรมา เห็นได้ชัดว่าเขาถูกข่มขู่ แต่พวกแกกลับโง่ ที่เรื่องแค่นี้ก็ดูไม่ออก”คุณปู่ตระกูลหลินพูดอย่างขมขื่น: “แค่เขารับปากก็ปล่อยตัวเขา พอเขาไปแล้ว คำพูดนั้นไม่ใช่คำสัญญา แต่เป็นการไปเคลื่อนทัพมาล้างแค้น”“กลัวว่าตอนนี้ตระกูลกงซุนคงสั่นสะเทือนไปแล้ว พรุ่งนี้ต้องมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่แน่”“อ่า……”“คงจะไม่เร็วขนาดนั้นหรอกใช่ไหมคะ?”หลินหว่านหรูก็ตกใจเช่นกัน ใบหน้าของเธอก็ซีดเล็กน้อยแม่ตระกูลหลินหวาดกลัวจนสติแทบแตก ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าตกตะลึง “พ่อ นี่พ่อหมายความว่ากงซุนจื้อจะล้างแค้นพวกเราเหรอ?”“แน่นอน!”คุณปู่ตระกูลหลินพูดอย่างเย็นชา: “หลินหว่านหรู ปกติหลานเป็นคนฉลาดแท้ ๆ ทำไมถึงได้ทำเรื่องผิดพลาดโง่ ๆ พรรคนี้ หรือหลานถูกไอ้เย่เทียนหยู่นั่นทำเอาหลงจนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว”“หนู...” หลินหว่านหรูอยากตอบโต้“เอาล่ะ มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรตอนนี้” คุณปู่ตระกูลหลินขัดจังหวะหลินหว่านห
“อือ ผมเข้าใจแล้ว” เย่เทียนหยู่กล่าวอย่างใจเย็น“ทำไมคุณถึงใจเย็นขนาดนี้ ฉันขอบอกไว้ก่อนว่าอย่าไปสนใจ ตระกูลหลินของเราอาจไม่มีใครเก่งกว่านายหรอก แต่ปู่ของฉันจะหาคนมาได้แน่นอน”เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่ไม่ได้ร้อนรนใจ หลินหว่านหรูจึงรีบเตือนเขา“ไม่ต้องห่วง ผมยังไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณเลย ไม่เกิดเรื่องขึ้นง่ายๆ หรอกครับ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้ม“อะไรของนาย!”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีแดง และเธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคืนนั้นในโรงแรม แค่ว่าเธอไม่มีความทรงจำมากนัก แต่ถึงอย่างนั้น ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ก็ถาโถมเข้ามาหาเธอแม้หลังจากวางสายแล้ว หลินหว่านหรูก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยหลังจากการตรวจสอบ ผู้คนที่คุณปู่หลินจัดไปก็พบบ้านของเย่เทียนหยู่ในที่สุด เพียงแต่พวกเขาจะไปเป็นคู่ต่อสู้ของเทียนหยู่ได้ยังไง ทำให้แต่ละคนถูกเตะโด่งออกมากันอย่างง่ายดายคุณปู่หลินนอนไม่หลับทั้งคืนเพื่อรอข่าวดี แต่เขาไม่คาดคิดว่าคนที่เขาหาไปจะไม่สามารถเอาชนะเย่เทียนหยู่ได้เรื่องนี้ทำให้เขาโกรธจัด คิดว่าเย่เทียนหยู่คงฝึกวรยุทธ์อย่างหนักบนภูเขามาตั้งแต่เด็ก และคนธรรมดาก็เอาชนะเขาไม่ได้แต่ไม่ว
อะไรนะ!ทันทีที่สิ้นคำพูดเหล่านี้ คุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ก็สับสนเล็กน้อยจนแทบไม่เข้าใจสถานการณ์ พวกเขาใช้เวลานานในการตอบสนอง และเขาก็ถามด้วยความโกรธทันที“เย่เทียนหยู่ แกบ้าไปแล้วเหรอ?”“แกรู้ไหมว่าแกกำลังทำอะไร? แกจงใจยั่วยุตระกูลกงซุนและนำพวกเขามาตระกูลหลิน แกอยากให้ตระกูลหลินของเราถูกทำลายหรือไง?”เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่เทียนหยู่ก็หัวเราะและพูดว่า “คุณปู่คิดแบบนั้นมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อคุณเชื่อว่าผมต้องการทำร้ายตระกูลหลินของคุณ ผมก็จะทำตามที่คุณต้องการ”“แก!”“เย่เทียนหยู่ แกไม่คิดว่ามันมากเกินไปหน่อยเหรอ? ปู่ดูแลเอาใจใส่แกเป็นพิเศษมาตลอด แต่แกตอบแทนความเมตตาด้วยความเกลียดชังแบบนี้รึไง” คุณปู่ตระกูลหลินพูดด้วยความโกรธ“เอาใจใส่เป็นพิเศษเหรอ?”“หาคนมาจัดการผมครั้งแล้วครั้งเล่า พยายามฆ่าผม นั่นเป็นการดูแลเหรอ งั้นมันคงเป็นการ ‘เอาใจใส่เป็นพิเศษ’ จริงๆ นั่นละ”“นี่แกตอบแทนพวกฉันด้วยความเกลียดชังเหรอ?”“ยังไม่รู้เลยว่าใครกันแน่ต้องตอบแทนบุญคุณใคร”เห็นได้ชัดว่าเย่เทียนหยู่รู้สึกเบื่อหน่ายกับท่าทางของตระกูลหลิน เขาไม่สนใจหลินว่านหรูแม้แต่น้อยด้วยซ้ำ แถมยังพูดจาไม่เกรงใจ
“นั่นสินะ ฉันลืมลืมไปสนิทเลยว่านายสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ แต่ว่าพวกเขาจะเริ่มลงมือวันนี้เหรอ?” หลินหว่านหรูรีบถาม“ใช่!”“พวกเขาตามเรามาแล้ว กำลังมาทางบ้านตระกูลหลิน”เย่เทียนหยู่ได้รับข่าวที่แน่นอนมาแล้ว“จริงเหรอ ยอดไปเลยเทียนหยู่ ไม่คิดเลยว่านายจะมีอำนาจมากขนาดนี้ ถึงกับสามารถเชิญพวกเขามาจัดการกับตระกูลกงซุนได้”หลินหว่านหรูพูดทันทีว่ เพราะเธอตั้งใจจะให้เครดิตเย่เทียนหยู่แม้ว่าเย่เทียนหยู่จะไม่ได้เป็นคนเรียกคนพวกนั้นมา เป็นตระกูลกงซุนประสบปัญหาเองจนดึงดูดผู้อารักขาเฟยหลง แต่ทางตระกูลไม่รู้เรื่องนี้ เธอเลยหลอกล่อพวกเขาอย่าว่าแต่พวกเธอเลย แม้แต่เย่เทียนหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อยเขาไปบอกหลินหว่านหรูเมื่อไหร่ ว่าเขาเจอคนที่จะจัดการกับตระกูลกงซุน คิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้แน่นอนว่าทุกคนในตระกูลหลินต่างสับสน พวกเขาพูดด้วยความตกใจ: “หว่านหรู หลานกำลังพูดเรื่องอะไร นี่พวกหลานไปพาใครมา แล้วใครกันที่แข็งแกร่งขนาดสามารถจัดการตระกูลกงซุนได้”“แน่นอน เทียนหยู่ได้พบบุคคลที่ทรงพลังอย่างยิ่งแล้ว”หลินหว่านหรูกล่าวอย่างมีความสุข“เป็นไปไม่ได้ นั่นมันแค่เรื่องไร้สาระของเขา เขาจะหา
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก