หลินหว่านหรูจะไม่รู้ว่ากงซุนจื้อกำลังคิดอะไรอยู่ได้ยังไงถ้าฟังจากคำพูดเขา สีหน้ารังเกียจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอทันทีเธอเปลี่ยนจากไม่ชอบเป็นน่ารังเกียจเขาสุดๆ เมื่อสิ้นคำพูดเมื่อครู่ เธอก็รู้สึกรังเกียจมากยิ่งขึ้น“ทำไมคุณไม่พูดอะไรหน่อยล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมจะวางแล้ว” กงซุนจื้อดูเย่อหยิ่งและภาคภูมิใจมาก มาขอร้องกันถึงที่ขนาดนี้ ยังแกล้งทำเป็นบริสุทธิ์ไร้เดียงสา“ถ้างั้นก็วางเถอะ”หลินหว่านหรูไม่อยากพูดอะไรอีก เธอวางสายโทรศัพท์ไปทันทีคุยกับคนแบบนี้เท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์กงซุนจื้อดูตกตะลึงและสับสนอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่ควรขอร้องเขาเหรอ หรืออาจะเป็นการริเริ่มมาหาเขาแล้วยอมให้เขาเล่นกับเธอยังไงก็ได้?เขามีสีหน้าโกรธเคืองปนเปไปกับความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าหลินหว่านหรูจะไม่ได้ตระหนักถึงความน่ากลัวของอำนาจเขาเลยสินะรอก่อน ผมจะทำให้คุณเสียใจขณะที่กงซุนจื้อโกรธมากจนแทบอาเจียนเป็นเลือด เขาก็ได้รับโทรศัพท์ ความประหลาดใจปรากฏบนใบหน้าของเขา “อะไรนะ คุณปู่ยง คุณจะมาที่นี่ตอนหกโมงเย็นเหรอครับ?”“ครับ ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้”น้ำเสียงของกงซุนยงไม่ดีนัก การต่อสู้กับตระกูลไป๋เพิ่งสิ้นสุดลง และเข
เขารู้สึกว่าปัญหาต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้น ตอนที่ตระกูลกงซุนลงมือจริง ๆ ตระกูลหลินได้เจอหายนะแน่ทันทีที่คุณปู่หลินมาถึงประตูโรงแรม เขาก็พบว่ากงซุนจื้อเองก็อยู่ตรงประตูด้วย เขาตกใจเล็กน้อยก่อนจะรีบรุดหน้าเข้าไปเรียกเขา “คุณชายกงซุน!”“คุณมาทำอะไรที่นี่” กงซุนจื้อถามด้วยท่าทีหงุดหงิด อีกไม่นานคุณปู่ของเขาก็ใหล้จะมาแล้ว ไม่สิ รถคันหน้านี่ก็มาแล้ว“คือผมอยากคุยกับคุณเรื่องหลานสาวของผมน่ะครับ” คุณปู่ตระกูลหลินรีบพูดขึ้นมาทันที“ไม่มีเวลา!”“ตอนนี้ผมไม่มีเวลาให้เรื่องไร้สาระนั่น”กงซุนจื้อไม่สนใจเขาและรีบไปข้างหน้าคุณปู่หลินรู้สึกสับสนเล็กน้อย เรื่องที่หลานสาวจะแต่งงานกับเขากลายเป็นเรื่องไม่สำคัญอย่างนั้นเหรอ?แต่ในไม่ช้าเขาก็ได้เข้าใจ เพราะเขาเห็นกงซุนจื้อทักทายท่านปู่ที่กำลังลงจากรถด้วยความเคารพ และพูดอย่างมีความสุข: “คุณปู่ยง!”เมื่อเห็นสีหน้าแสดงความเคารพของกงซุนจื้อ รวมกับที่เขาเรียกคุณปู่ยง จากการตรวจสอบของเขา คนที่ทำให้กงซุนจื้อยอมเรียกเขาว่าปู่ยงได้ก็คือ กงซุนยง บุคคลระดับสูงของตระกูลกงซุนนั่นคือบุคคลที่ทรงพลังติดอันดับหนึ่งในห้าของตระกูลกงซุนจบกัน เ
“ไม่ใช่!”“อย่านะคะ!”หลินหว่านหรูตกใจมาก เธอจะให้ปู่คุกเข่าต่อหน้าเธอได้ยังไง “ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ หนูจะไม่ทิ้งตระกูลหลินแน่นอน” เธอรีบพูดทันที“ก็แค่ เรารอดูไประยะหนึ่งก่อนได้ไหมคะ รออีกสักหน่อย!”“ไม่ได้นะ ไม่เห็นที่ปู่พูดหรือไง กงซุนจื้อให้เวลาเรามาแล้ว ถ้าคืนนี้หลานไม่ไป พรุ่งนี้เช้าตระกูลหลินของเราต้องราบเป็นหน้ากลอง”คุณแม่ตระกูลหลินพูดทันที“ไม่ ยังมีวิธีอื่นอยู่อีกนะ”คุณปู่ตระกูลหลินเห็นหลานสาวไม่เต็มใจ จึงเกิดความคิดขึ้นมา: “เราลองทำแบบนี้ก็ได้นะ หว่านหรู คืนนี้หลานไปจัดการกับกงซุนจื้อ ให้เขาทนรอสักสองสามวัน”“หลานรับปากเขาให้หมดทุกอย่าง แต่ต้องรออีกสองสามวันถึงจะมีอะไรกันได้ ถ้าอย่างนั้นละก็ ถ้าอีกไม่กี่วันเย่เทียนหยู่จัดการตระกูลกงซุนได้ ทุกอย่างก็จะคลี่คลาย”“ถ้าไม่ มันก็พิสูจน์ได้ว่าเย่เทียนหยู่เป็นคนโกหก เขาหลอกลูก และใช้โอกาสนี้ทำร้ายตระกูลหลินของเราด้วย”“ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ การแต่งงานกับกงซุนจื้อคือตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด”เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินแบบนั้น เธอก็ตอบตกลงทันที “ใช่ ๆ เป็นความคิดที่ดีมากเลย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว จะได้เห็นใบหน้าแท้จริงอุบ
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลของกงซุนจื้อเองก็ทรงพลังมากในขณะนี้กงซุนจื้อกำลังปรนิบัติกงซุนยงด้วยไวน์ชั้นเลิศกับอาหารแสนอร่อยเขาไม่กล้าอวดตัวต่อหน้ากงซุนยง เพราะยังไง กงซุนยงก็เป็นปรมาจารย์ระดับพลังผลัดเปลี่ยนขั้นปลาย คนที่มีสถานะแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ไหนก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งจนน่ากลัวหลังจากการต้อนรับ กงซุนกยงก็รู้สึกดีขึ้นมาก: “เสี่ยวจื้อ เด็กหนุ่มผู้ทรงพลังอะไรกัน ถึงขนาดขอให้หัวหน้าตระกูลส่งผมมาช่วย?” เขาพูดอย่างเหยียดหยามทันทีที่กงซุนจื้อได้ยินแบบนั้น เขาก็รีบอธิบายสถานการณ์ทันที โดยเฉพาะเรื่องของ หูเหยียนลี่ บอดี้การ์ดของเขาที่ถูกอีกฝ่ายจัดการเขายังบอกให้ผู้เฒ่าหวังไปก่อกวนเย่เทียนหยู่ด้วย แต่เขาก็หายตัวไปทันที สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเย่เทียนหยู่ยังโทรมาเยาะเย้ยเขา“หมายถึงหวังหย่งรึ ปกติแล้วเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไร จะถูกคู่ต่อสู้ฆ่าก็ไม่แปลกหรอก”“เด็กนั่นเก่งกาจมาก แล้วมันก็บ้าบิ่นมากด้วยครับ”กงซุนจื้อพูดด้วยความหงุดหงิด “หลังอาหารเย็น ข้าจะไปจัดการกับเขาเอง เขาก็แค่เด็กหนุ่ม ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็เป็นเรื่องง่ายจะจัดการอยู่ดี”“ใช่แล้วครับ คุณปู่ยงลงมือเอง ต่อให้เด็กนั่นเป
เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น เธอก็โกรธทันที เธออยากจะล้มเลิกความคิดที่จะไปหาเขาซะเดี๋ยวนี้ แต่เมื่อคิดถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินเธอก็พูดอย่างช่วยไม่ได้: “ตกลง ฉันจะไปโรงแรมเดี๋ยวนี้!”หลังจากวางสาย กงซุนจื้อก็ตื่นเต้นมากจนแทบจะหันหลังกลับโรงแรม เพราะยังไงนั่นก็คือหลินหว่านหรูผู้หญิงที่เขาใฝ่ฝันที่จะทำให้ตกอยู่ในกำมือเพียงแต่คิดถึงสัญญาที่ให้ไว้กับปู่ยงว่าจะรอสักพัก แต่ยิ่งรอนานก็ยิ่งกังวล สุดท้ายเขาก็ไม่อยากรออีกต่อไป เขาจึงบอกคนขับรถ ส่วนตัวเองก็เรียกรถกลับไปก่อนยังไงซะ คุณปู่ยงมีความสุขมากก็ถูกใจอาหารของเขาในคืนนี้มาก เมื่อครู่ก็อนุญาตให้เขากลับก่อนได้ น่าจะไม่เป็นไรสิ่งสำคัญที่สุดคือต่อให้ปู่ยงมีปัญหาเขาก็ขอไม่สน อย่างแย่ที่สุดก็ถูกบ่น เพราะปู่ยงทำอะไรเขาไม่ได้แต่เขาไม่รู้เลยว่า คงเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะได้เห็นคุณปู่ยงอีกในอนาคตที่แท้แล้วก่อนหน้านี้กงซุนยง ใช้ความแข็งแกร่งอันทรงพลังของเขาบุกเข้าไปในวิลล่าที่เย่เทียนหยู่อาศัยอยู่โดยไม่มีใครสังเกตเห็นเขากำลังจะแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความสามารถในการซ่อนตัวของเขาโดยไม่คาดคิด เย่เทียนหยู่พูดว่า: “ออกมาซะ ผมเห็นคุณแล้ว
“เหอะ ต่อหน้าข้าคนนี้เจ้ากำลังยโสอะไรกัน!”“เจ้าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงดึงมิสเตอร์หวางออกมา? เจ้าแค่อยากจะบอกว่าเจ้ามีพลังมากจนสามารถฆ่ามิสเตอร์หวางได้”“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าทำไมเจ้าต้องพูดถึงผู้เฒ่าหวัง นอกเสียจากว่าอยากบอกว่าเจ้ามีความสามารถมากฆ่าได้กระทั่งผู้เฒ่าหวัง”“แต่ข้าบังเอิญรู้สถานการณ์ของผู้เฒ่า พลังของเขาถูกมนต์แยกพลังทำให้พลังมันถดถอยไปนานแล้ว อย่าว่าแต่ระดับพลังผลัดเปลี่ยนขั้นกลางเลย แค่ขั้นต้นยังแสดงพลังออกมาไม่ได้ด้วยซ้ำ”“ส่วนเจ้าแค่โชคดี ที่บังเอิญไปเก็บโดนขยะนั่น!”กงซุนยงเยาะเย้ย: “เสียดายที่ข้าดันรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว”เย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้นและสงสัยว่า: “งั้นเหรอครับ? ไม่น่าจะใช่นะ ผมจำได้ว่าเขามีระดับพลังผลัดเปลี่ยนขั้นกลางหรืออาจระดับพลังผลัดเปลี่ยนขั้นปลายเลยด้วยนะ เพราะเขาไม่น่าจะแตกต่างจากคุณมากนัก”“คิดว่าข้าจะเชื่อรึไง?”กงซุนจื้อเหยียดหยามและพูดว่า: “เอาล่ะ ไร้สาระพอแล้ว ข้าจะให้ลองชิมหัตย์ตะลานกัดกินใจของข้าเสียหน่อย”ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วปานสายฟ้ามาปรากฏตัวตรงหน้าเย่เทียนหยู่ และตบเขาด้วยฝ่ามือ“แค่นั้นเหรอ?
น่าเสียดายที่เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้น เขาก็หัวเราะและพูดเสียงเรียบ : “แน่นอนว่าผมรู้ความสามารถของผู้อารักขาเฟยหลง แต่คนที่ผู้อารักขาเฟยหลงจะดำเนินการต่อต้านไม่ใช่ผมหรอก แต่เป็นตระกูลกงซุนของคุณ”“ไม่ต้องกังวล ตระกูลกงซุนจะถูกทำลายในไม่ช้านี้ จะมีคนตามคุณไปปรโลกแน่ คุณไม่เหงาหรอก”“อะไร พูดอะไร...”สีหน้าของกงซุนยงเปลี่ยนไป คำพูดของอีกฝ่ายมีข้อมูลมากเกินไปจนเขาคิดไม่ออก เขาเห็นเพียงแสงที่วูบเข้ามาก่อนที่เขาจะล้มลงกับพื้นและหนึ่งชีวิตก็หายไปจนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำให้ใครขุ่นเคือง แต่เขารู้ว่าไอ้สารเลวกงซุนจื้อนั้นได้สร้างความขุ่นเคืองครั้งใหญ่เรื่องนี้ถึงขั้นทำให้ตระกูลกงซุนล่มสลายเมื่อมองไปที่กงซุนยงที่ล้มลงกับพื้น เขาก็มองไปรอบ ๆ อีกครั้ง แม้ว่าเขาจะระมัดระวัง แต่เขาก็ยังสร้างความเสียหายเล็กน้อยเขาอดไม่ได้ที่จะแอบส่ายหน้า กงซุนจื้อคนนี้น่ารำคาญจริงๆ เอาแต่คนพวกนี้มาตายที่นี่ ทำให้เขาต้องทำความสะอาดอยู่เรื่อยหลังจากผ่านไปสักพัก เย่เทียนหยู่ก็เก็บทุกอย่างและกำลังจะนั่งลง แต่โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นเป็นสายของหลินหว่านหรูยัยเด็กนี่ทนไม่ไ
หลินหว่านหรูกลัวเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของกงซุนจื้อและรีบพูดจุดประสงค์ของเธอ: “ฉันจะแต่งงานกับคุณค่ะ แต่คุณต้องให้โอกาสฉันสามวัน ให้ฉันได้ทำใจก่อนสามวัน”“แต่งงานกับคุณ?”“หลินหว่านหรูคุณคิดผิดแล้ว ผมเคยอยากแต่งงานกับคุณ แต่ตอนนี้ผมแค่อยากเล่นกับคุณ ไม่อย่างนั้น ตระกูลหลินก็ย่อยยับไปซะ”กงซุนจื้อเยาะเย้ย ใครใช้ให้เมื่อก่อนเธอได้ใจถึงขั้นกล้าตัดสายผมล่ะ วันนี้คุณคงเสียใจแล้วสินะทันทีที่คำพูดเหล่านี้สิ้นสุด หลินหว่านหรูก็โกรธมาก แต่เธอก็ยังต้องระงับอารมณ์ของตนเองเอาไว้ เธอไม่มีคิดจะอยู่กับอีกฝ่าย ไม่ว่าจุดประสงค์ของเขาจะเป็นยังไง “ไม่ว่าคุณต้องการอะไร หลังจากนี้สามวันฉันจะยอมทำตามทุกอย่าง” เธอพูด“เหอะ หลินหว่านหรู คิดว่าผมจะยอมรอสามวันหรือยังไง?”“ผมยังนึกว่าเรื่องอะไรซะอีก ถ้าเป็นเรื่องนี้ละก็ ไม่มีทาง” กงซุนจื้อกล่าวขณะที่เขาลุกขึ้นและเริ่มลงมือเขาแทบจะรอผู้หญิงที่สวยราวกับนางฟ้าคนนี้ไม่ไหวแล้ว“รอเดี๋ยว!”หลินหว่านหรูเริ่มวิตกกังวลและพูดว่า: “กงซุนจื้อ แค่สามวันเท่านั้น คุณรอสามวันไม่ได้เหรอ?”“ฮึ อย่าว่าแต่สามวันเลย ตอนนี้ผมรอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว ผมจะจัดคุณเดี๋ยวนี้เล