จัดการเขาเหรอ?ซ่งเหวินป๋อได้ยินไม่กี่คำ ต่างก็พากันสงสัยว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่านั่นคือตระกูลใหญ่ของเมืองหรงตู คิดจะหาเรื่องเขาตรงๆ งั้นหรือ?พี่ใหญ่ คุณไม่ได้ยินหรือเปล่าว่าคู่ต่อสู้ของพวกเราที่ต้องเจอเป็นใครน่ะ สมาชิกตระกูลซ่งของเขา ต่างก็เหมือนกันทีละคน ทั้งหมดต่างก็มีท่าทางตกตะลึง บางส่วนก็ไม่อยากจะเชื่อกับหูตัวเอง“ถ้างั้น คุณชายเย่ ตระกูลหลี่ว์คือตระกูลใหญ่ประจำเมืองหรงตู ความแข็งแกร่งก็ทรงพลังอย่างมาก ตระกูลเล็กๆ อย่างพวกเรานี้ เทียบกันไม่ติดเลย”ซ่งเหวินป๋อตัดพ้อตัวเอง อันที่จริงเขากำลังบอกเย่เทียนหยู่อย่างอ้อมๆ ถึงความแข็งแกร่งของตระกูลหลี่ว์“ฉันรู้หรอก”เย่เทียนหยู่กล่าว “แน่นอนว่าพวกนายอาจไม่ใช่คู่มือ แต่ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าเขามาแล้ว ก็มาบอกฉัน ฉันจะจัดการเขาเอง ไม่ต้องให้ถึงมือพวกนายหรอก”พูดจบ ซ่งเหวินหว่าก็เข้าใจแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังคงพูดจาใหญ่โตอยู่อีก หรือว่าเขาจะสามารถรับมือกับตระกูลหลี่ว์ได้จริงๆ?เพียงแต่ ตระกูลซ่งของตัวเขาก็ไม่ได้ให้ผลประโยชน์อะไรมากนัก เป็นเพียงวิลล่าหนึ่งหลังเท่านั้น มันจะคุ้มค่า
แม้ว่าเขาก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ดูจากท่าทางของหยางต้าฝูถึงได้เข้าใจ เย่เทียนหยู่ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน คนที่ไม่เหมือนกันคนธรรมดา จะเป็นคนแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ“แต่ว่า นี่ก็น่ากลัวจริงๆ เลยนะ”“เขาสกุลเย่ หรือว่าจะเป็นคนตระกูลเย่แห่งเมืองหรงตู?” ทันใดนั้น ซ่งหยางก็เอ่ยปากพูด เพราะเหตุการณ์ของหลี่ว์เจิ้ง พวกเขาจึงได้รู้จักกับตระกูลแห่งเมืองหรงตูพยายามหาคนมาช่วยแทบตาย แต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ“ตระกูลเย่แห่งหรงตู?”“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”“คุณชายตระกูลเย่แห่งหรงตู จะมาอยู่ในที่เล็กๆ แบบนี้ได้ยังไงเป็นไปไม่ได้เลย”ซ่งเหวินป๋อโต้กลับในทันที ตระกูลเย่แห่งหลงตู นั้นคือหนึ่งในตระกูลชั้นนำในเมืองหรงตูไม่กี่ตระกูล คุณชายของพวกเขา เป็นถึงอัจฉริยะท่ามกลางคนหนุ่มสาวในประเทศ“ก็จริงอยู่ แต่ตัวตนของเขาเป็นใครกันแน่”ซ่งเหวินป๋อยิ้มเจื่อนแล้วพูด “ไม่ว่าจะยังไง คุณชายเย่ก็รับปากจะช่วยแล้ว บางทีวิกฤติของพวกเราอาจจะถูกคลี่คลายจริงๆ ก็เป็นได้”“จะกลัวก็แต่ เขาด่วนสรุปเร็วจนเกินไปก็เท่านั้น” ผู้อาวุโสคนหนึ่งถอนหายใจในขณะเดียวกัน ซ่งหลิงก็เดินเข้ามา ท่าทางเศร้าหมอง รีบพูด “พ่อคะ พี่คะ คุ
แม่หลิวเห็นว่าทั้งสองคนสนิทกันดี สีหน้ายิ้มแย้ม พูดอย่างมีความสุข “เทียนหยู่ คุณเป็นผู้ชายที่ดีจริงๆ ให้ฝากซือซือของฉันไว้ ป้าก็วางใจ”“ถ้าพวกเธอรู้สึกเหนื่อยแล้ว ใกล้ๆ นี้มีโรงแรมอยู่ บรรยากาศดีมากเลย เหมาะสำหรับคู่รักหนุ่มสาวอย่างพวกเธอได้พักผ่อน”“หรือไม่ก็ ให้ฉันจองให้พวกเธอตอนนี้เลยไหม จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีห้อง”หลังจากพูดจบ หลิวซือซือก็หน้าแดงเพราะเขินอายเย่เทียนหยู่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว จำเป็นต้องรีบส่งตัวลูกสาวออกมาขนาดนั้นเลยเหรอหลิวซือซือกลัวว่าเย่เทียนหยู่จะถูกจับได้ จึงรีบพูด “ไม่ต้องหรอกค่ะ พวกเราจัดการกันเองได้”“ดี ดีเลย งั้นคืนนี้พวกเธอสองคน เล่นกันให้สนุกนะ ฉันกับพ่อเธอ จะไม่ยุ่งกับเรื่องแบบนั้นแล้วล่ะ” แม่หลิวพูดเสร็จ ก็พาพ่อหลิวเดินจากไปเย่เทียนหยู่รู้สึกทำตัวไม่ถูกนิดหน่อย ทุกอย่างนี่มันอุตลุดอะไรแบบนี้นะ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ หันกลับมาดู ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นเรียบร้อยแล้วเหรอ!เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่ใครอื่น คือหลินหว่านหรูใช่แล้ว ยังมีซูถิงอีกคนหลินหว่านหรูใบหน้าซีดเซียว เพื่อต่อต้านการบังขับจากครอบครัว จึงห
สีหน้าของหลิวซือซือดูไม่ดีนัก แต่นึกถึงสิ่งที่ตัวเธอทำลงไปนั้นได้ทำลายพี่เย่ ทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขา ทำได้เพียงเงียบปากอย่างสงบเสงียมเท่านั้นเย่เทียนหยู่เริ่มที่จะทนไม่ไหวนิดหน่อยแล้ว แต่ก็อดทนต่อไปแล้วพูด “หว่านหรู นี่มันเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ นะ ทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ คงไม่ใช่ว่ามีคนจงใจพาเธอมาหรอกนะ?”“จงใจพาฉันมา?”“เย่เทียนหยู่ จนถึงตอนนี้คุณก็ยังคิดจะโยนความรับผิดชอบให้คนอื่นอีกเหรอ?”“หรือคุณกำลังจะบอกว่า ทั้งหมดนี่เป็นเพราะซูถิงที่เจตนาพาฉันมาที่นี่ ตั้งใจจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราร้าวฉานงั้นเหรอ?”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเต็มไปด้วยความโกรธ พูดอย่างเย็นชา“ไม่ใช่งั้นหรือไง?” เย่เทียนหยูเหลือบมองไปที่หน้าซูถิง แววตาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกซูถิงถูกเย่เทียนหยู่มองหน้า ก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัด ในใจรู้สึกลนลานอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร หลินหว่านหรูก็พูดด้วยความโกรธ “ไม่ใช่แน่นอน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับซูถิง มาที่นี่ ทั้งหมดเป็นความคิดของฉันเอง”ซูถิงได้ยินดังนั้นก็โล่งใจ เดิมทีเธอคิดที่จะพาหลินหว่านหรูมาที่นี่อยู่แล้ว ด้วยความบังเอิญ หลินหว่านหรูพูดออกมาพอดีว่าอ
ได้ยินที่หลินหว่านหรูพูด ซูถิงก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความดีใจสำเร็จ นึกไม่ถึงว่าจะสำเร็จจริงๆทั้งหมดนี้ นึกไม่ถึงจริงๆ ทั้งหมดนี้เป็นไปอย่างราบรื่นในตอนนี้ คุณชายกงซุนจะต้องให้รางวัลกับตัวเธอจำนวนมหาศาลอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่ตะลึงนิดหน่อย อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น จากที่เขาดู หลินหว่านหรูคงพูดไปเพราะความโกรธแต่ว่า ตอนนี้หลินหว่านหรูโกรธมากจนไม่สนอะไรแล้ว ไม่แม้แต่จะสนใจเขาด้วยซ้ำผู้อาวุโสหลินถึงกับอึ้ง เกิดอะไรขึ้นกับหลานสาวกัน ทำไมจู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนความคิด แต่นั่นมันไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือหลานสาวเห็นด้วยแล้วเขาตื่นเต้นจนแทบบ้าในทันที แล้วพูด “ดี ดี อย่างนี่สิหลานรักของฉัน”แม้ว่าจะแต่งงานกับคุณชายคุณชายตระกูลหลี่ว์แห่งเมืองหรงตูหลี่ว์เจิ้งได้ แต่ก็ยังสามารถแต่งงานกับคุณชายตระกูลกงซุนจากเมืองหลวงได้อยู่ นั่นก็ไม่เลวเหมือนกันวางสายแล้ว พ่อหลินแม่หลินทราบข่าวคราว ก็ดีใจมากคนในบ้านต่างก็พากันดีใจราวกับฉลองปีใหม่อย่างนั้นเลยมีแค่หลินหว่านหรูเท่านั้นที่มีสีหน้าดูไม่ได้ หลังจากระบายความโกรธกับเย่เทียนหยู่แล้ว ก็หันหลังจากไปซูถิงเองก็รีบตา
ผู้อาวุโสหลินยังกลัวว่าหลานสาวจะเปลี่ยนใจ อยากจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงเวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคยิ่งมีมาก“ได้ครับ ผมจะไปพรุ่งนี้แต่เช้าตรู่”กงซุนจื้อพูดในทันที“ตกลง”ผู้อาวุโสหลินเห็นด้วย แล้วก็โทรศัพท์หาหลินหว่านหรู ให้เธอรีบกลับบ้านด่วน มีเรื่องต้องหารือหลินหว่านหรูเดาได้ในทันทีเลยว่าจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับกงซุนจื้อ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “วันนี้หนูไม่อยากกลับบ้าน ถ้ามีเรื่องอะไรค่อยพูดกันพรุ่งนี้”“พูดอะไรพรุ่งนี้ รีบกลับมาด่วนเลย”“ฉันจะบอกเธอนะ เธอยอมรับข้อเสนอแต่งงานแล้ว กงซุนจื้อเป็นคนมีความสามารถ แล้วยังมีประสบการณ์การศึกษาในต่างประเทศอีก ฐานะเท่าเทียมกับเธอ ช่างเหมาะสมกันจริงๆ”ผู้อาวุโสหลินกล่าวสีหน้าของหลินหว่าหรูดูไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าเธอรู้สึกเสียใจภายหลังจริงๆ แม้ว่าเธอจะโกรธเย่เทียนหยู่มาก แต่ก็ไม่ควรรับปากเร็วแบบนี้เลยสุดท้าย เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับกงซุนจื้อ ไร้ความรู้สึกจริงๆ แม้จะคิดถึงสิ่งที่เขาทำเมื่อไม่นานนี้ ก็ยังรู้สึกรังเกียจอยู่นิดหน่อยถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาคือขอทานตัวน้อย ก็ไม่ได้สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะว่าคิดว่าเขาเป็นขอ
หลังจากที่หลินหว่านหรูเตรียมพร้อมทุกอย่างดีแล้ว หายใจเข้าลึกๆ กดหมายเลขโทรศัพท์หากงซุนจื้อกงซุนจื้อรับโทรศัพท์ รีบพูดอย่างมีความสุขในทันที “ประธานหลิน ไม่สิ ต้องเป็นหว่านหรู ขอบคุณที่เธอยอมรับฉัน ฉันมีความสุขจริงๆ”“คุณวางใจเถอะ เรื่องนี้ฉันได้ให้พ่อทราบก่อนหน้านี้แล้ว แล้วก็บอกเหล่าผู้อาวุโสเรียบร้อย พวกเขาทั้งหมดก็เห็นพ้องต้องกัน”“พรุ่งนี้เช้าตรู่ ฉันจะไปสู่ขอด้วยตัวเอง!”อะไร?ถ้าเลื่อนเวลาออกไปอีกสักหน่อย ก็ควรจะแจ้งให้หลายๆ คนรู้ต้องเข้าใจก่อนว่า ตั้งแต่ที่ตอบรับข้อเสนอของคุณปูที่ชายหาด จนถึงตอนนี้นับรวมกันทั้งหมดใช้เวลาไปแค่ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง เห็นได้ชัดว่าหลินหว่านหรูหยุดเสียใจไม่ได้ ถ้ารู้เร็วกว่านี้คงไม่ทำอะไรหุนหันพลันแล่นแบบนี้ แต่ก็ยังอดทนกัดฟันพูด “คุณชายกงซุน เรื่องนั้น คุณปู่ของฉันอาจจะพูดผิดไป จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิด” “เข้าใจผิด?”“หว่านหรู ที่คุณพูดหมายความว่ายังไง?” น้ำเสียงของกงซุนจื้อเปลี่ยนไปในทันที“ก็คือ ฉันยังไม่พร้อมที่รับข้อเสนอของคุณไงล่ะ”“อะไรนะ!”“หว่านหรู นี่คุณล้อเล่นอะไรอยู่”น้ำเสียงของกงซุนจื้อเปลี่ยนไปทันที พูดด้วยความโกรธ “ถ้
ซูถิงพูดด้วยท่าทางโกรธหลินหว่านหรูยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูด “บางทีจะโทษเขาทุกอย่างก็ไม่ได้ สุดท้ายเพราะเขาคือตัวแทนของตระกูลกงซุน อีกอย่างเมื่อกี้เขาก็บอกอยู่ ตัวเขาเต็มใจที่จะให้โอกาสฉัน”“ถ้าเป็นอย่างที่พูดมา คุณชายกงซุนคนนี้เป็นคนดีไม่เลวเลย เธอแต่งงานกับเขา บางทีอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรก็ได้”ซูถิงพูดแบบนี้ ก็เห็นว่าหลินหว่านหรูท่าทางเปลี่ยนไป จึงรีบพูดต่อว่า “แต่น่าเสียดาย เดิมทีเธอไม่ได้ชอบเขา เธอชอบแค่ไอ้สารเลวเย่เทียนหยู่นั่นเท่านั้น”“แบบนี้ ฉันจะไปติดต่อเพื่อนบางคน ดูว่าเขาพอจะมีวิธีบ้างไหม”“เกรงว่าคงจะทำอะไรไม่ได้เลย” เพราะนั่นคือตระกูลกงซุนแห่งเมืองหลวง ขนาดตัวเองยังไม่มีวิธีเลย ซูถิงจะไปมีวิธีได้ยังไงกัน“ไม่มีทางออกก็ต้องคิดหาทางออก เธอวางใจเถอะ ฉันจะขอให้คุณปู่บอกคุณย่าให้ช่วยกันคิดหาวิธี” ซูถิพูดอย่างแน่วแน่คำพูดนี้ทำให้หลินหว่านหรูซาบซึ้งใจมาก แล้วพูด “เอาล่ะ ถ้างั้นต้องรบกวนเธอแล้วซูถิง แต่เธอไม่ต้องทุ่มเทมากนักหรอก ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ผล สุดท้ายเธอก็ทำเพื่อฉันมามากแล้ว”“ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะ อย่าลืมสิ ว่าพวกเราเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดน่ะ”คำพูดของซูถิงน่าฟังอย
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก