แม่หลิวเห็นว่าทั้งสองคนสนิทกันดี สีหน้ายิ้มแย้ม พูดอย่างมีความสุข “เทียนหยู่ คุณเป็นผู้ชายที่ดีจริงๆ ให้ฝากซือซือของฉันไว้ ป้าก็วางใจ”“ถ้าพวกเธอรู้สึกเหนื่อยแล้ว ใกล้ๆ นี้มีโรงแรมอยู่ บรรยากาศดีมากเลย เหมาะสำหรับคู่รักหนุ่มสาวอย่างพวกเธอได้พักผ่อน”“หรือไม่ก็ ให้ฉันจองให้พวกเธอตอนนี้เลยไหม จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีห้อง”หลังจากพูดจบ หลิวซือซือก็หน้าแดงเพราะเขินอายเย่เทียนหยู่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว จำเป็นต้องรีบส่งตัวลูกสาวออกมาขนาดนั้นเลยเหรอหลิวซือซือกลัวว่าเย่เทียนหยู่จะถูกจับได้ จึงรีบพูด “ไม่ต้องหรอกค่ะ พวกเราจัดการกันเองได้”“ดี ดีเลย งั้นคืนนี้พวกเธอสองคน เล่นกันให้สนุกนะ ฉันกับพ่อเธอ จะไม่ยุ่งกับเรื่องแบบนั้นแล้วล่ะ” แม่หลิวพูดเสร็จ ก็พาพ่อหลิวเดินจากไปเย่เทียนหยู่รู้สึกทำตัวไม่ถูกนิดหน่อย ทุกอย่างนี่มันอุตลุดอะไรแบบนี้นะ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ หันกลับมาดู ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นเรียบร้อยแล้วเหรอ!เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่ใครอื่น คือหลินหว่านหรูใช่แล้ว ยังมีซูถิงอีกคนหลินหว่านหรูใบหน้าซีดเซียว เพื่อต่อต้านการบังขับจากครอบครัว จึงห
สีหน้าของหลิวซือซือดูไม่ดีนัก แต่นึกถึงสิ่งที่ตัวเธอทำลงไปนั้นได้ทำลายพี่เย่ ทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขา ทำได้เพียงเงียบปากอย่างสงบเสงียมเท่านั้นเย่เทียนหยู่เริ่มที่จะทนไม่ไหวนิดหน่อยแล้ว แต่ก็อดทนต่อไปแล้วพูด “หว่านหรู นี่มันเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ นะ ทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ คงไม่ใช่ว่ามีคนจงใจพาเธอมาหรอกนะ?”“จงใจพาฉันมา?”“เย่เทียนหยู่ จนถึงตอนนี้คุณก็ยังคิดจะโยนความรับผิดชอบให้คนอื่นอีกเหรอ?”“หรือคุณกำลังจะบอกว่า ทั้งหมดนี่เป็นเพราะซูถิงที่เจตนาพาฉันมาที่นี่ ตั้งใจจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราร้าวฉานงั้นเหรอ?”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเต็มไปด้วยความโกรธ พูดอย่างเย็นชา“ไม่ใช่งั้นหรือไง?” เย่เทียนหยูเหลือบมองไปที่หน้าซูถิง แววตาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกซูถิงถูกเย่เทียนหยู่มองหน้า ก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัด ในใจรู้สึกลนลานอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร หลินหว่านหรูก็พูดด้วยความโกรธ “ไม่ใช่แน่นอน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับซูถิง มาที่นี่ ทั้งหมดเป็นความคิดของฉันเอง”ซูถิงได้ยินดังนั้นก็โล่งใจ เดิมทีเธอคิดที่จะพาหลินหว่านหรูมาที่นี่อยู่แล้ว ด้วยความบังเอิญ หลินหว่านหรูพูดออกมาพอดีว่าอ
ได้ยินที่หลินหว่านหรูพูด ซูถิงก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความดีใจสำเร็จ นึกไม่ถึงว่าจะสำเร็จจริงๆทั้งหมดนี้ นึกไม่ถึงจริงๆ ทั้งหมดนี้เป็นไปอย่างราบรื่นในตอนนี้ คุณชายกงซุนจะต้องให้รางวัลกับตัวเธอจำนวนมหาศาลอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่ตะลึงนิดหน่อย อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น จากที่เขาดู หลินหว่านหรูคงพูดไปเพราะความโกรธแต่ว่า ตอนนี้หลินหว่านหรูโกรธมากจนไม่สนอะไรแล้ว ไม่แม้แต่จะสนใจเขาด้วยซ้ำผู้อาวุโสหลินถึงกับอึ้ง เกิดอะไรขึ้นกับหลานสาวกัน ทำไมจู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนความคิด แต่นั่นมันไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือหลานสาวเห็นด้วยแล้วเขาตื่นเต้นจนแทบบ้าในทันที แล้วพูด “ดี ดี อย่างนี่สิหลานรักของฉัน”แม้ว่าจะแต่งงานกับคุณชายคุณชายตระกูลหลี่ว์แห่งเมืองหรงตูหลี่ว์เจิ้งได้ แต่ก็ยังสามารถแต่งงานกับคุณชายตระกูลกงซุนจากเมืองหลวงได้อยู่ นั่นก็ไม่เลวเหมือนกันวางสายแล้ว พ่อหลินแม่หลินทราบข่าวคราว ก็ดีใจมากคนในบ้านต่างก็พากันดีใจราวกับฉลองปีใหม่อย่างนั้นเลยมีแค่หลินหว่านหรูเท่านั้นที่มีสีหน้าดูไม่ได้ หลังจากระบายความโกรธกับเย่เทียนหยู่แล้ว ก็หันหลังจากไปซูถิงเองก็รีบตา
ผู้อาวุโสหลินยังกลัวว่าหลานสาวจะเปลี่ยนใจ อยากจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงเวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคยิ่งมีมาก“ได้ครับ ผมจะไปพรุ่งนี้แต่เช้าตรู่”กงซุนจื้อพูดในทันที“ตกลง”ผู้อาวุโสหลินเห็นด้วย แล้วก็โทรศัพท์หาหลินหว่านหรู ให้เธอรีบกลับบ้านด่วน มีเรื่องต้องหารือหลินหว่านหรูเดาได้ในทันทีเลยว่าจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับกงซุนจื้อ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “วันนี้หนูไม่อยากกลับบ้าน ถ้ามีเรื่องอะไรค่อยพูดกันพรุ่งนี้”“พูดอะไรพรุ่งนี้ รีบกลับมาด่วนเลย”“ฉันจะบอกเธอนะ เธอยอมรับข้อเสนอแต่งงานแล้ว กงซุนจื้อเป็นคนมีความสามารถ แล้วยังมีประสบการณ์การศึกษาในต่างประเทศอีก ฐานะเท่าเทียมกับเธอ ช่างเหมาะสมกันจริงๆ”ผู้อาวุโสหลินกล่าวสีหน้าของหลินหว่าหรูดูไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าเธอรู้สึกเสียใจภายหลังจริงๆ แม้ว่าเธอจะโกรธเย่เทียนหยู่มาก แต่ก็ไม่ควรรับปากเร็วแบบนี้เลยสุดท้าย เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับกงซุนจื้อ ไร้ความรู้สึกจริงๆ แม้จะคิดถึงสิ่งที่เขาทำเมื่อไม่นานนี้ ก็ยังรู้สึกรังเกียจอยู่นิดหน่อยถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาคือขอทานตัวน้อย ก็ไม่ได้สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะว่าคิดว่าเขาเป็นขอ
หลังจากที่หลินหว่านหรูเตรียมพร้อมทุกอย่างดีแล้ว หายใจเข้าลึกๆ กดหมายเลขโทรศัพท์หากงซุนจื้อกงซุนจื้อรับโทรศัพท์ รีบพูดอย่างมีความสุขในทันที “ประธานหลิน ไม่สิ ต้องเป็นหว่านหรู ขอบคุณที่เธอยอมรับฉัน ฉันมีความสุขจริงๆ”“คุณวางใจเถอะ เรื่องนี้ฉันได้ให้พ่อทราบก่อนหน้านี้แล้ว แล้วก็บอกเหล่าผู้อาวุโสเรียบร้อย พวกเขาทั้งหมดก็เห็นพ้องต้องกัน”“พรุ่งนี้เช้าตรู่ ฉันจะไปสู่ขอด้วยตัวเอง!”อะไร?ถ้าเลื่อนเวลาออกไปอีกสักหน่อย ก็ควรจะแจ้งให้หลายๆ คนรู้ต้องเข้าใจก่อนว่า ตั้งแต่ที่ตอบรับข้อเสนอของคุณปูที่ชายหาด จนถึงตอนนี้นับรวมกันทั้งหมดใช้เวลาไปแค่ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง เห็นได้ชัดว่าหลินหว่านหรูหยุดเสียใจไม่ได้ ถ้ารู้เร็วกว่านี้คงไม่ทำอะไรหุนหันพลันแล่นแบบนี้ แต่ก็ยังอดทนกัดฟันพูด “คุณชายกงซุน เรื่องนั้น คุณปู่ของฉันอาจจะพูดผิดไป จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิด” “เข้าใจผิด?”“หว่านหรู ที่คุณพูดหมายความว่ายังไง?” น้ำเสียงของกงซุนจื้อเปลี่ยนไปในทันที“ก็คือ ฉันยังไม่พร้อมที่รับข้อเสนอของคุณไงล่ะ”“อะไรนะ!”“หว่านหรู นี่คุณล้อเล่นอะไรอยู่”น้ำเสียงของกงซุนจื้อเปลี่ยนไปทันที พูดด้วยความโกรธ “ถ้
ซูถิงพูดด้วยท่าทางโกรธหลินหว่านหรูยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูด “บางทีจะโทษเขาทุกอย่างก็ไม่ได้ สุดท้ายเพราะเขาคือตัวแทนของตระกูลกงซุน อีกอย่างเมื่อกี้เขาก็บอกอยู่ ตัวเขาเต็มใจที่จะให้โอกาสฉัน”“ถ้าเป็นอย่างที่พูดมา คุณชายกงซุนคนนี้เป็นคนดีไม่เลวเลย เธอแต่งงานกับเขา บางทีอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรก็ได้”ซูถิงพูดแบบนี้ ก็เห็นว่าหลินหว่านหรูท่าทางเปลี่ยนไป จึงรีบพูดต่อว่า “แต่น่าเสียดาย เดิมทีเธอไม่ได้ชอบเขา เธอชอบแค่ไอ้สารเลวเย่เทียนหยู่นั่นเท่านั้น”“แบบนี้ ฉันจะไปติดต่อเพื่อนบางคน ดูว่าเขาพอจะมีวิธีบ้างไหม”“เกรงว่าคงจะทำอะไรไม่ได้เลย” เพราะนั่นคือตระกูลกงซุนแห่งเมืองหลวง ขนาดตัวเองยังไม่มีวิธีเลย ซูถิงจะไปมีวิธีได้ยังไงกัน“ไม่มีทางออกก็ต้องคิดหาทางออก เธอวางใจเถอะ ฉันจะขอให้คุณปู่บอกคุณย่าให้ช่วยกันคิดหาวิธี” ซูถิพูดอย่างแน่วแน่คำพูดนี้ทำให้หลินหว่านหรูซาบซึ้งใจมาก แล้วพูด “เอาล่ะ ถ้างั้นต้องรบกวนเธอแล้วซูถิง แต่เธอไม่ต้องทุ่มเทมากนักหรอก ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ผล สุดท้ายเธอก็ทำเพื่อฉันมามากแล้ว”“ทำไมถึงพูดอย่างนั้นล่ะ อย่าลืมสิ ว่าพวกเราเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดน่ะ”คำพูดของซูถิงน่าฟังอย
หรือว่า ที่กงซุนจื้อขโมยจี้หยกของเฉินเข่อซิน เพื่อจะหลอกหลินหว่านหรู เขาจะห้อยจี้หยก แล้วจงใจมาปรากฏตัวต่อหน้าหลินหว่านหรูให้หลินหว่านหรูเกิดความเข้าใจผิดเพราะว่าตอนยังเด็กตัวเขาได้มอบจี้หยกรูปกริชให้หลินหว่านหรูเส้นหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งมอบให้กับเฉินเข่อซิน ทั้งสองเส้นสามารถเอามารวมเข้าด้วยกันได้ถ้าเป็นอย่างที่พูดล่ะก็ หลินหว่านหรูคงเข้าใจผิดว่ากงซุนจื้อคือตัวเขาในตอนนั้นแน่ ในท้ายด้วยความสอดคล้องเช่นนี้ การจะหาจี้หยกที่เข้าคู่กันได้พอดีนั้นเป็นเรื่องยากเลยทีเดียวจำได้ว่าตัวเขาในตอนนั้นพูดกับหลินหว่านหรูว่า อีกครึ่งหนึ่งอยู่ที่เขาแต่ว่า กงซุนจื้อทำไมถึงรู้ว่าหลินหวานหรูมีจี้หยกนี้ซูถิง?ต้องเป็นซูถิงแน่ หลินหว่านหรูต้องบอกเรื่องตอนที่ยังเด็กให้ซูถิงฟังแน่นอน จากนั้นซูถิงก็ไปบอกกงซุนจื้อ แล้วใช้โอกาสหลอกหลินหว่านหรูจากเรื่องนี้ทั้งหมดนี้มันชัดเจนแล้วสำหรับเรื่องที่กงซุนจื้อพบจี้หยกที่อยู่กับเฉินเข่อซินได้ยัง เดิมทีนั้นไม่สำคัญแล้ว ที่สำคัญคือ เขาขโมยจี้หยกจากเฉินเข่อซินต่างหากคิดได้ทั้งหมดแล้ว เย่เทียนหยู่ก็มีสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม เขาไม่นึกเลย ขนาดเรื่องของตัวเขาสมัยยัง
ช่างเถอะ ไม่ว่าจะมาไม้ไหนก็รับมือได้ทั้งนั้นแหละหลินหว่านหรูนึกถึงคำพูดของปู่ ตัดสินใจกลับไปเสียก่อนซูถิงแสดงอาการเป็นห่วงเธอ ต้องการที่จะกลับไปพร้อมกับเธอ อยู่เป็นเพื่อนเธอคืนนี้หลินหว่านหรูเห็นด้วยตามปกติ จนถึงตอนนี้ ก็มีแค่ซูถิงคนเดียวที่อยู่กับเธอตลอดจริงๆ อยู่เผชิญความลำบากเคียงข้างเธออย่างที่ว่าไว้ มีแค่เพื่อนแท้เท่านั้นที่จะเชื่อถือได้ส่วนคนอื่น โดยเฉพาะผู้ชาย ทั้งหมดก็เป็นไอ้สารเลวทั้งนั้นก็เหมือนเย่เทียนหยู่นั้นแหละ เธอทุกเทอย่างเต็มที่เพื่อเขา เขาเอาแต่ไปมาหาสู่กับหญิงงามพวกนั้น ไม่สนใจอะไรเลยสักอย่างผู้อาวุโสหลินวางโทรศัพท์จากหลินหว่านหรู รีบรายงานข่าวให้กับกงซุนจื้อในทันที ต่อจากนั้นก็รอแค่คำตอบของหลินหว่านหรูเพียงอย่างเดียวส่งผลลัพธ์ไปได้ไม่นาน ก็ยังไม่มีการตอบกลับเหมือนเดิม เขาอดไม่ได้ที่จะโทรศัพท์ไปถามได้ยินว่าหลินหว่าหรูกำลังขับรถอยู่ เพื่อกลับมาที่บ้าน เขามีท่าทางดีใจ ในที่สุดก็สำเร็จแล้วพ่อหลินแม่หลินได้ก็แล้วก็มีความสุขมากมีเพียงหลินจื่อตงที่ได้ยินเรื่องนี้ตอนกลับมาเท่านั้น ก็สับสน เก็บความโกรธไว้ไม่อยู่ พูดทันทีว่าพวกเขานั้นเลอะเลือน ทั้งยังบอก
เย่เทียนหยู่รู้สึกตกใจนิดหน่อย เขาไม่รู้จักอีกฝ่ายด้วยซ้ำ จึงได้แต่ยักไหล่ ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เคยสู้ด้วยสักหน่อย ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”“แต่ฉันรู้ค่ะ!”“ราชามังกรแห่งพรรคมังกร ผู้นำแห่งสำนักเงา หรือจะให้ฉันเรียกว่าคุณชายเย่ดีคะ?” เยว่เหลียนเวยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนี้ เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง อีกฝ่ายน่าจะมาจากสำนักดอกไม้ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สถานะพวกนี้ของเขาแน่นอน เขาจึงพูดขึ้นอย่างเร่งรีบออกไปว่า “คุณน่าจะเป็นผู้อาวุโสของสำนักดอกไม้สินะ?”“ผู้อาวุโสอะไรกันคะ ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย ฉันชื่อว่าเยว่เหลียนเวยค่ะ คุณเรียกฉันว่าพี่เยว่ก็ได้!” เยว่เหลียนเวยยิ้มเล็กน้อย หลังจากที่เธอเผยรอยยิ้มออกมา เสน่ห์ในตัวเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเยว่หลิงตกตะลึงไปชั่วขณะ อาจารย์รองเป็นอะไรไป เรียกว่าพี่เยว่งั้นเหรอ ไอ้เด็กนั่นมันเป็นใครกันแน่“เอ่อ สวัสดีครับ พี่เยว่!” ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากถูกเรียกแบบนั้น เย่เทียนหยู่จึงทำได้แค่เริ่มทักทายใหม่อีกครั้ง“ค่ะ คุณชายเย่ไม่เลวเลยนะคะ ฉันชอบค่ะ”เยว่เหลียนเวยเ
เยว่หลิงแทบไม่สามารถต่อต้านได้เลย และพบว่าตัวเองกำลังถูกชายคนหนึ่งกดทับด้วยมือเอาไว้อยู่ เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอันแรงกล้าของผู้ชายจากอีกฝ่าย สีหน้าเธอก็แดงก่ำทันทีแม้ว่าเธอมักจะใช้วิชาเสน่ห์อาคมอยู่บ่อย ๆ แต่เธอก็ไม่เคยให้ผู้ชายเข้าใกล้มากขนาดนี้มาก่อน นั่นจึงทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาแบบนี้เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากตรงหน้า เขาก็พูดพลางหัวเราะออกมาว่า “ฟังจากน้ำเสียงของคุณแล้ว ผมยังคิดอยู่เลยว่าคุณคงจะเป็นคนที่เปิดกว้างมาก คิดไม่ถึงว่าจะเขินได้ง่ายขนาดนี้”“นาย นายรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” เยว่หลิงวิตกกังวลอย่างมาก เธอคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีวิชากังฟู่ที่น่ากลัวอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนที่ชั่วร้ายมากอีกต่างหากถ้ารู้แต่แรก ก็คงไม่มาคนเดียวแบบนี้หรอก พวกเธอได้ทำการนัดพบกับคนในสำนักที่นี่ และตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลานัดแล้วด้วยเมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารและวิตกกังวลของเธอ เย่เทียนหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งหยอกล้อเธอ พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ผมจะปล่อยคุณไปก็ได้ แต่คุณต้องขอร้องผมก่อน”“เพราะไม่อย่างนั้น ผมคงไม่อาจทำใจแยกจากความงามอันน่าหลงใหลเช่นนี้ได้แน่”ในขณะที่พูด เย่
ช่วงเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง เย่เทียนหยู่และหลินหว่านหรูก็กลับมาถึงเมืองตะวันออกกันแล้ว เวลาที่เหลือก็ค่อนข้างเยอะ ทั้งสองจึงทานข้าวด้วยกันก่อน แล้วค่อยส่งหลินหว่านหรูกลับบริษัทจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงค่อยออกเดินทาง แต่ขณะที่เขากำลังจะขึ้นรถ เขาก็ได้ยินเสียงอันอ่อนหวานดังเข้ามาในหู “คุณเย่คะ ท่าทางรีบร้อนแบบนั้น คุณจะรีบไปไหนเหรอคะ?”เย่เทียนหยู่ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมอง ตรงหน้าเขาปรากฏร่างที่มีเสน่ห์และสง่างามของหญิงสาวคนหนึ่ง มองผิวเผินรู้สึกว่าเธอยังเด็กอยู่มาก ราวกับว่าเธอเพิ่งจะสี่สิบต้น ๆ เท่านั้นเองรูปร่างหน้าตาของเธอดูอ่อนเยาว์กว่าจูเก่อหลิวหลีนิดหน่อย แต่ความเซ็กซี่และเสน่ห์ที่เธอแสดงออกมานั้น โดยเฉพาะความขาวที่ถูกเผยให้เห็นเพียงเล็กน้อย เพียงเท่านั้นก็ทำให้ผู้คนต่างพากันใจเต้นแล้วขาเรียวยาวสองข้างที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใย นี่ถือเป็นค่านิยมของผู้หญิงที่นับว่าเป็นอันตรายต่อผู้ชายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน เย่เที่ยนหยู่เองก็เคยเห็นผู้หญิงมามากมายนับไม่ถ้วนจนเคยชินหมดแล้ว โดยเฉพาะเทพธิดาสองสามคนที่สวยกว่าหลินหว่านหรู่ก็เคยเจอมาหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงไ
แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าแม่ตระกูลหลินจะทำให้เธอต้องอับอายมากขนาดนี้เห็นได้ชัดว่าเฉินเว่ยไม่อาจทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ เธอจึงแสดงเจตจำนงที่ต้องการจะลาออกทันทีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นแบบนั้น เธอก็รีบอนุมัติให้ทันทีโดยที่ไม่คิดลังเลเลยแม้แต่น้อย กระทั่งคนอีกสองสามคนที่ต้องการจะลาออกตามเฉินเว่ยเองก็ถูกอนุมัติด้วยเช่นกันถึงยังไง เธอก็ยังมีคนที่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างเหอรุ่ยอยู่ แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วเห็นได้ชัดว่าเฉินเว่ยไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม่ตระกูลหลินจะมุ่งมั่นมากขนาดนี้ ทำให้เธอตกตะลึงไปชั่วขณะได้จริง ๆ แต่เมื่อลองย้อนนึกดู แม้แต่คนอย่างเหอรุ่ยก็สามารถปีนข้ามหัวเธอได้ การที่เธอจากไปตอนนี้ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเมื่อถึงตอนนั้น ตอนที่เครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์เกิดปัญหาขึ้นมาจริง ๆ ไม่แน่อาจจะมีปัญหามากมายตามมาเพิ่มก็ได้ตามที่หลิวเหวินเคยพูดถึงความคิดของแม่ตระกูลหลิน บวกกับเรื่องที่จู่ ๆ เหอรุ่ยก็ได้รับตำแหน่งผู้จัดการ เรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นกับเครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์ก็คงขึ้นอยู่กับเวลาแล้วล่ะ เพราะงั้นจากไปเร็วหน่อยก็ดีเหมือนกันเมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของเฉินเ
“หากเป็นเช่นนั้น งั้นเรื่องก็ง่ายมากเลยล่ะครับ มีวิธีอีกมากมายนับไม่ถ้วน” เหอรุ่ยรีบพูดขึ้นมา หากเขายังบอกว่าทำไม่ได้อีก แล้วตนจะยังมีประโยชน์อะไร นั่นเท่ากับตนจะพลาดโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่รึไงเมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของแม่ตระกูลหลินก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ตอนนี้บริษัทมีทางรอดแล้วคนอย่างหลิวเหวินไม่รู้เรื่องอะไรเอาเสียเลย แถมยังบอกว่าหมดหนทางอีกแต่เมื่อตนเป็นคนออกโรงเอง ก็สามารถหาคนเก่งมาได้ในทันที ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย!และเท่าที่ฟังมา เหมือนว่าคนที่ตนเลือกจะมีวิธีแก้ปัญหามากมายนับไม่ถ้วนอีกต่างหากเมื่อเห็นแบบนี้แล้ว แม่ตระกูลหลินก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ดีมาก หากเฉินเว่ยกล้ามาจริง ๆ ฉันก็จะไล่มันออกทันที แล้วให้เธอมารับตำแหน่งแทนหล่อนซะ”“ครับ ขอบคุณประธานหลิวมากครับ ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อรับใช้คุณ!” เหอรุ่ยรีบพูดประจบประแจงขึ้นมาทันที“ดีมาก ไม่เลวเลย เธอยังหนุ่มยังแน่น ต่อไปจะต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน!”เมื่อแม่ตระกูลหลินได้ยินว่าอีกฝ่ายยินดีรับใช้ตน สีหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในใจก็รู้สึกพอใจอย่างมาก“ประธานหลิวชมเกินไปแล้วคร
“แต่ว่า ประธานเย่เองก็ไม่ใช่คนนอกนี่คะ”“ประธานเย่อะไร ใครคือประธานเย่กัน บริษัทนี้มีตำแหน่งเขาด้วยรึไง? หลิวเหวิน เธอเป็นอะไรไป หรือว่าเธอไม่อยากที่จะอยู่ในบริษัทนี้ต่ออย่างงั้นเหรอ?”แม่ตระกูลหลินด่าทอด้วยความโกรธวันนี้เย่เทียนหยู่ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากทักทายตนเลยด้วยซ้ำ คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหนกันต่อให้เขาจะเก่งกาจมากแค่ไหน สุดท้ายก็ยังเดินตามหลังลูกสาวตนอยู่ดี ยังเป็นลูกเขยที่เชื่อฟังของเธออยู่กล้าดียังไงที่เมินเฉยกันแบบนี้!ไม่มีมารยาทเลยแม้แต่น้อย น่าโมโหเสียจริง!เมื่อถูกด่าทอแรง ๆ แบบนี้ สีหน้าของหลิวเหวินดูเศร้าหมองมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอก็รู้สึกโกรธจนแทบทนไม่ไหว เธอไม่สามารถอดทนต่อไปได้แล้วจริง ๆ แต่เวลานี้แม่ตระกูลหลินก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมาว่า “เอาล่ะ หลิวเหวิน ฉันจะไม่พูดไร้สาระกับเธออีก วัตถุดิบที่เธอต้องการมันไม่มีอีกแล้วล่ะ”“ตอนนี้ สิ่งที่เธอต้องทำก็คือ รีบหาวัตถุดิบตัวใหม่เพื่อมาทดแทนโดยเร็วที่สุด”“ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ!” หลิวเหวินตอบ“ทำไม่ได้ก็คิดหาวิธีสิ หากยังไม่ได้อีก เธอก็หาอย่างอื่นที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงมาไม่ได้รึไง ขอแค่ผลลัพธ์ออกมาคล้ายกัน แค
ประจวบเหมาะกับที่หลินหว่านหรูเองก็เกือบจะจัดการธุระเสร็จแล้ว เย่เทียนหยู่มองดูนาฬิกาครู่หนึ่ง เวลาเพิ่งจะสิบโมงกว่า ๆ ดังนั้นจึงมีเวลาอีกเหลือเฟือให้เขารีบกลับไป“แม่ของคุณกับคนอื่น ๆ ล่ะ หรือพวกเขากลับไปกันแล้ว?” เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย นานแล้วที่ไม่ได้เจอพวกเขา แถมยังเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นอีก ไม่คิดจะอยู่พูดคุยกันหน่อยรึไง“กลับไปกันแล้ว!”สีหน้าของหลินหว่านหรูเริ่มมืดมนลงเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าคุณต้องรีบกลับไปจัดการธุระเหรอคะ พวกเราเองก็กลับกันเถอะ”“ได้!”เย่เทียนหยู่พยักหน้า เขาสตาร์ทรถและขับออกไปทันที ระหว่างทาง เขาหันไปมองหลินหว่านหรูที่ดูเหมือนว่าเธอมีอะไรอยากจะพูดแต่ก็ไม่กล่าเอ่ยปาก เขาจึงถามออกไปว่า “หว่านหรู คุณเป็นอะไรรึเปล่า หรือมีเรื่องอะไรที่ทำให้คุณลำบากใจรึเปล่า?”“หรือจะเป็นเรื่องสูตรนั่น?”เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่เป็นฝ่ายเริ่มพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน หลินหว่านหรูก็พยักหน้าทันที ก่อนจะพูดซ้ำสิ่งที่แม่ของเธอเพิ่งจะพูดไปออกมาเย่เทียนหยู่ส่ายหัว พร้อมพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่สูตรส่วนผสมสูตรเดียวเอง ผมเขียนให้ตอนนี้เลยก็ได้ และจะ
“ได้สิ”ทันทีที่แม่ตระกูลหลินพูดจบ เธอก็รีบเดินจากไป พร้อมกับสาปแช่งอยู่ในใจใครขอให้แกมากัน ไม่รู้จะมาทำไม มาแย่งบริษัทไปจากฉันรึไงฝันไปเถอะ!หลินซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่สิ่งที่แกคิดจะเอาก็เอาไปได้ง่าย ๆ หรอกนะ!ถ้าเธอรู้แต่แรก ว่าอีกไม่นานหลินหว่านหรูจะได้นั่งตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของเทียนเฟิงกรุ๊ป และได้กลายเป็นผู้จัดการระดับสูงของกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านแบบนี้ เธอไม่มีทางคิดเช่นนี้แน่พ่อตระกูลหลินรู้สึกทำอะไรไม่ถูก อันที่จริง เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการของแม่ตระกูลหลินสักเท่าไหร่ แต่ถึงยังไงเมื่อก่อนทุกการตัดสินใจก็มักจะขึ้นอยู่กับแม่ตระกูลหลิน แถมตอนนี้ท่าทีของเธอก็ยิ่งเหมือนบูเช็คเทียนเข้าไปทุกวัน ไม่ว่าเธอพูดจะอะไร ตนก็ได้แต่ต้องทำตามเท่านั้น ในขณะเดียวกันนั้นเอง เย่เทียนหยู่ก็เดินตามหาหลงเจี๋ยจนเจอ จากนั้นหลงเจี๋ยก็ถามออกไปด้วยความโกรธทันที “เย่เทียนหยู่ นี่คุณหมายความว่ายังไง ก่อนหน้านี้ทำไมคุณถึงต้องหลอกฉันด้วย?”“ผมหลอกคุณงั้นเหรอ?” เย่เทียนหยูรู้สึกสับสน“ยังไม่ยอมรับอีกงั้นเหรอ เห็น ๆ อยู่ว่าคุณคือราชามังกรแห่งพรรคมังกร ไม่บอกฉันก็ช่างเถอะ แต่นี่ยังจะแสร้งบ
เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากนี้ ก็อดส่ายหัวไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า “หว่านหรู ในเมื่อทางนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พอดีเมื่อกี้คุณตำรวจหลงมีเรื่องที่ต้องคุยกับผมน่ะ ผมขอไปหาเธอหน่อยนะ”“อือ คุณไปเถอะ”เมื่อกี้ตอนที่หลงเจี๋ยเชิญเขา หลินหว่านหรูที่อยู่ข้าง ๆ เองก็รู้เรื่องนี้ดีหลังจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงเดินจากไปเมื่อเย่เทียนหยู่เดินจากไปแล้ว คนที่เหลือก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดี หลังจากที่สื่อสารกันไปมาสักพัก หลินหว่านหรูก็ได้เซ็นลงไปส่วนเรื่องเงินชดเชย แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการเลยสักบาทเมื่อเห็นว่าในที่สุดปัญหาก็ได้คลี่คลายลงแล้ว แม่ตระกูลหลินก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เธอจึงกอดหลินหว่านหรูเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดด้วยความซาบซึ้งออกไปว่า “หว่านหรู ขอบคุณมากนะ!”“ก่อนหน้านี้แม่ทำผิดพลาดไปมากมาย แต่ลูกก็ยังปกป้องแม่ตลอด ลูกเป็นลูกสาวที่ดีที่สุดในโลกเลย แม่รักลูกนะ!”คำพูดที่หวานซึ้งเช่นนี้ หลินหว่านหรูถึงกับทนรับเอาไว้ไม่ไหว แต่การที่แม่สามารถแสดงมันออกมาได้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากแล้ว“หว่านหรู ลูกวางใจได้ ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าตัวเองผิด ต่อไปจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีก แม่จะดูแลบริษัทใ