กงซุนจื้อพูดเสร็จ ก็ไม่รอคำตอบ แล้วพูดต่อ “ถ้าเป็นอย่างที่พูด เขาก็คงจะเป็นแบบนกเฟิ่งหวง เกิดมาด้วยความยากจน สลักปมด้อยไว้ในกระดูก และมีปณิธานที่มั่นคง”เพราะปมด้อยของตน หวังจะเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นด้วยการคุยโว แล้วได้รับความพอใจ ในขณะเดียวกัน เมื่อต้องเผชิญกับบางสิ่งบางอย่าง ก็มักจะคิดว่าตัวเองเก่งกาจอยู่เสมอ“คนแบบนี้ ชัดเจนแล้วว่ามีลักษณะนิสัยที่บกพร่อง เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็จะลงมือกับคุณ ลงมือกับตระกูลหลิน”“ตามนั้น เรื่องของฉันกับเย่เทียนหยู่ คุณไม่ต้องยุ่งหรอก”“คุณนี่เอง รบกวนช่วยยกเลิกคำขอแต่งงานที อย่าว่าแต่สามวันเลย ต่อให้สามเดือน ฉันก็ไม่มีทางเห็นด้วย” หลินหว่านหรูพูดอย่างเย็นชาทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น กงซุนจื้อก็เสียใจมากแล้วพูด “หว่านหรู ไม่คิดเลย นี่ก็ผ่านมาไม่กี่ปี คุณก็ลืมเรื่องที่เคยสัญญากันไว้เมื่อก่อนแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะโหดร้ายกับฉันได้ขนาดนี้”“แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังไม่ยอมแพ้จากเธอ ขอแค่ภายในสามวัน เมื่อเธอหย่ากับเย่เทียนหยู่เมื่อไหร่ ฉันก็ไม่ลังเลเลยที่จะแต่งเธอเข้าบ้านทันที”หลังจากพูดจบ กงซุนจื้อก็วางสายโทรศัพท์ จากนั้นก็ปาโทรศัพท์ลงที่พื้นและพูดสาปแช
หลินหว่านหรูตัดสินใจแบกรับภาระนี้ไว้เพียงคนเดียว เธอไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอการแต่งงานกับกงซุนจื้อ แต่ปัญหาคือ ตอนนี้คุณปู่ไม่ยอมให้เธอไป แม้กระทั่งยอมขังเธอเอาไว้ในบ้านไม่ได้ เธอจะถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้หลินหว่านหรูใช้โทรศัพท์โทรหาซูถิง ให้ซูถิงมาอีกรอบ เพื่อดูว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้ตัวเธอหนีออกไปจากตระกูลหลินได้สำหรับเธอแล้ว นอกจากเย่เทียนหยู่ ก็มีซูถิงที่เธอไว้ใจมากที่สุดซูถิงมาถึงอย่างรวดเร็ว จึงได้ขอเข้าไปจากการชักชวนในนามของหลินหว่านหรูได้ยินว่าหลินหว่านหรูจะหนีจากการแต่งงานที่กงซุนจื้อเสนอให้ เธอก็แสร้งทำเป็นคิดหาวิธี เพียงแค่คิดวกไปวนมา ไม่ว่ายังไงก็ไม่พอวิธีอะไรที่ดีเลยนี่ไม่ใช่ประเด็นหลักอีกต่อไปแล้วตอนนี้ซูถิงฉลาดขึ้นมาก ไม่พูดตรงๆ อะไรที่ไม่ดีกับเย่เทียนหยู่ แค่พูดยอตระกูลกงซุน และกงซุนจื้อ เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบแต่หลินหว่านหรูก็ได้ยินอย่างรวดเร็ว ซูถิงสนับสนุนเธอให้แต่งงานกับกงซุนจื้อ นี่ทำให้เธอเกิดความหวาดระแวงขึ้นมาไม่น้อยเมื่อได้ยินว่าหลินหว่านหรูปฏิเสธกงซุนจื้อหลังชนฝา ซูถิงก็รีบพูด “อาจจะยังพอมีวิธี ฉันจะหานักสู้ยอดฝีมือ เพื่อพาเธอออกไปให
ทุกคนอดสงสัยไม่ได้ ที่ผ่านมาหลิวซือซือจงใจทำให้ตัวเองดูไม่สวยสมบูรณ์อย่างนั้นหรือเปล่าณ จุดนี้ พวกเขาเดาไม่ผิดจริงๆหลิวซือซือรู้แก่ใจ ทำการค้าขายต้องเจอกับผู้คนมากมายหลากหลายประเภทถ้าหากตัวเองสวย มันก็เป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง แต่สำหรับตัวเองที่ไม่สนใจกับระเบียบพวกนั้น เกรงว่าอาจจะนำมาซึ่งหายนะครั้งใหญ่ด้วยเช่นกันดังนั้นตัวเธอจึงไม่สนใจที่จะแต่งตัว แม้บางครั้งก็ตั้งใจแกล้งทำเป็นน่าเกลียดด้วยก็ตามแต่ตอนนี้เธอออกไปด้วยกันกับพี่เย่ แน่นอนว่าต้องเผยด้านที่สมบูรณ์แบบที่สุดของตัวเองออกมาทั้งสองขึ้นรถแล้ว ยังไปได้ไม่ถึงสิบนาที โทรศัพท์ของหลิวซือซือก็ดังขึ้น เป็นสายเรียกจากแม่หลิว“ซือซือ เลิกงานหรือยัง พวกเราทุกคนถึงแล้ว รอแค่เธอ”“มาแล้วค่ะ หนูเพิ่งจะเลิกงาน รอหนูอีกสักครึ่งชั่วโมงนะคะ” หลิวซือซือคำนวณจากระยะทาง คาดว่าอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงร้านอาหารริมทะเล “ได้ รีบหน่อยก็แล้วกัน”แม่หลิววางสายแล้วรีบพูด “คุณซ่ง รอสักครู่ อีกครึ่งชั่วโมง ลูกสาวฉันก็จะมาถึงแล้ว คุณวางใจเถอะ เธอสวยกว่าในรูปเยอะเลยล่ะ”ตลอดมา เธออยากให้ลูกสาวได้แต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยในสักวันหนึ่ง ที่ส
แม่หลิวรีบเดินไปข้างหน้าพร้อมกับตะโกนว่า “ซือซือ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ ทำไมถึงมาช้าอย่างนี้!”“ช้าที่ไหนกัน หนูก็รีบสุดๆ แล้วนะ”“แม่ ขอแนะนำคุณสักครู่ นี่คือแฟนหนู เย่เทียนหยู่” หลิวซือซือรีบแนะนำให้รู้จักในทันทีอะไรนะ?แฟน?แม่หลิวชะงักไปครู่หนึ่ง ลูกสาวพาแฟนมาจริงๆ หรือนี่ที่เธอพูดในตอนนั้นว่าให้หลิวซือซือมานัดบอดในตอนกลางคืน หลิวซือซือก็บอกเธอมีแฟนแล้วแม่หลิวรีบพูด งั้นก็พาแฟนของเธอมาด้วยแต่ว่า เธอจะไปรู้ได้ยังไง ว่าลูกสาวจะพาแฟนมาจริง ๆเธอได้สติกลับมา ไม่แม้แต่จะหันหน้าไปมองเย่เทียนหยู่ด้วยซ้ำ และพูดด้วยความโกรธ “ซือซือ เธอทำอะไร เธอไปมีแฟนตั้งแต่ตอนไหนกัน”“เราเพิ่งจะคบกันเมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เอง แล้วก็วางแผนว่าจะบอกคุณพอดี” หลิวซือซือกลัวว่าแม่จะมองข้าม เลยจงใจพูดว่าไม่กี่วัน“ไม่ได้!”แม่หลิวได้ยินดังนั้น ก็รีบคัดค้านในทันที “ฉันไม่เห็นด้วย พวกเธอรีบเลิกกันเดี๋ยวนี้เลย”ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่แม้แต่จะหันไปมองเย่เทียนอยู่เลยสักนิดชันเจนมาก เธอไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าเย่เทียนหยู่จะเป็นคนแบบไหนเพราะไม่ว่ายังไงก็ตาม จะไปเทียบกับคุณชายซ่งผู้มั่งคั่งได้ยังไงกันหลิวซือซ
นึกไม่ถึงว่าคุณซ่งจะพูด “คุณป้า ในเมื่อมาแล้ว งั้นก็ถือว่าทุกคนเป็นแขก ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ”เพราะระยะทางไม่ไกลกันมาก ซ่งอวี่ก็สังเกตเห็นแล้ว และคาดเดาถึงความเป็นไปได้ ใบหน้าก็ดูไม่ได้ขึ้นมาทันทีแต่เขาเก็บซ่อนมันเอาไว้ และพูดด้วยความเย็นชาอยู่ในใจจะดีมากถ้าหากเจ้าเด็กนี่ไม่ได้แตะต้องหลิวซือซือ ไม่อย่างนั้น เขาจะทำให้เจ้าเด็กน้อยที่น่าสงสารนั่นรู้จักกับคำว่าความกลัวเห็นว่าคุณซ่งออกปาก แม่หลิวก็ทำได้เพียงต้องปล่อยวาง พร้อมกับจ้องไปที่เย่เทียนหยู่อย่างไม่ลดละ และพูดด้วยความโกรธว่า “เจ้าหนู แกระวังคำพูดให้ดีหน่อยล่ะ ไม่อย่างนั้นก็อย่ามาโทษที่ฉันหยาบคาย”เย่เทียนหยู่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ แล้วก็เดินตามไปแม่หลิวรีบแนะนำเขาอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะแนะนำว่าลูกสาวตัวเองยอดเยี่ยมแค่ไหน ส่วนเย่เทียนหยู่ บอกแค่ว่าเป็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของลูกสาว ที่บังเอิญพบกันพอดีแต่หลิวซือซือรีบพูดทันที “พี่เย่ไม่ได้เป็นแค่เพื่อนร่วมงานของฉัน พ่อคะ อยากแนะนำให้คุณรู้จักพอดี นี่คือแฟนของหนู เย่เทียนหยู่!”ทันทีที่พูดเสร็จ แม่หลิวก็โกรธขึ้นมาทันที มันสายเกินไปแล้วที่จะหยุดเธอ จึงพูดด้วยความโกรธ “หลิวซือ
“เอ่อ บุหรี่พิเศษที่คนใหญ่คนโตในเมืองหรงตูสูบ?” แม่หลิวชะงักไปครู่หนึ่ง ตัวสั่นแล้วยื่นบุหรี่ให้กับซ่งอวี่“ใช่แล้ว บุหรี่แพนด้าพวกนี้พิเศษจริงๆ หาซื้อข้างนอกไม่ได้ ต่อให้มีเงินมากแค่ไหนก็ตาม แต่ปัญหาคือ บุหรี่แพนด้านี่ไม่ใช่ของจริง”ความจริงแล้วซ่งอวี่ไม่ได้ดูให้ดีเสียก่อน เพราะว่าตัวเขาเองก็ไม่เคยสูบมาก่อน จะบอกถึงความต่างได้อย่างไร“ของปลอมเหรอ?”ได้ยินเช่นนั้น แม่หลิวก็เป็นบ้าไปในทันทีแล้วพูดด้วยความโกรธ “เจ้าหนู แกนี่มันช่างหน้าไม่อายจริงๆ เจอพวกเราครั้งแรก ก็ให้บุหรี่ปลอม?”“หลอกให้พวกเราสับสนเพราะความไม่รู้ใช่ไหม ถ้าวันนี้คุณซ่งไม่อยู่นี่ ดีไม่ดีพวกเราคงจะถูกแกหลอกไปแล้ว”“คุณเตรียมตัวที่จะพูดหรือยัง คุณเป็นคุณชายจากไหนในเมืองหรงตู ใช่แล้ว คุณสกุลเย่ ใช่คุณชายตระกูลเย่หรือเปล่า?”แม่หลิวระเบิดอารมณ์แต่เธอกลับไม่รู้ ที่ตัวเองพูดโดยไม่ใส่ใจก่อนหน้า แต่กลับพูดถูกซ่งอวี่ส่ายหัวเล็กน้อย คุณชายตระกูลเย่?ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาก็ต้องรีบคุกเขาลงไปในทันทีไม่ใช่ แม้ว่าจะเป็นคุณชายตระกูลซ่ง ผู้นำตระกูลซ่งมา ยังไงทั้งหมดก็ต้องรีบคุกเข่าลง งั้นคุณชายผู้สูงศักดิ์ ทำไมถึงมาอย
ณ ตอนนี้แม่หลิวลนลาน นี่เป็นความหวังเดียวที่จะได้แต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวย รีบยืนขึ้นแล้วพูดด้วยความโกรธ “ยังไม่ลุกขึ้นอีก รินเหล้าให้คุณซ่งเพื่อเป็นการขอโทษซะ”ใบหน้าของซ่งอวี่ดูไม่ได้เลย เดิมคิดว่าคืนนี้จะได้สนุกสนานผ่อนคลาย แน่นอนว่า ไม่นานก็หาโรงแรมเพื่อที่จะได้ใช้เวลาร่วมกันทั้งคืนกับสาวสวยคนนี้ให้ได้แต่ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะรับมือด้วยยากขนาดนี้ อย่างแรกเลยคือแฟนที่ปรากฏตัวมา ตอนนี้ยังเมินเฉยต่อการอวดความยอดเยี่ยมของตัวเองอย่างสิ้นเชิงอีก รู้หรือเปล่าว่าพูดกับตัวเขาแบบนี้ มันรนหาที่ตายชัดๆ ณ เวลานี้ เขาเรื่มโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้วต้องเข้าใจ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นายน้อยของตระกูลซ่งที่แท้จริง แต่ก็เป็นถึงทายาทของตระกูลซ่ง สนิทชิดเชื้อกับตระกูลซ่งมาก มีฐานะอันสูงส่งขนาดนี้จะปล่อยให้คนชั้นต่ำคนหนึ่งไม่เชื่อฟังได้ยังไงแม่หลิวสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่าคุณซ่งกำลังโกรธ จึงพูดดุไปอีกครั้ง “ซือซือ ยังนิ่งอยู่ทำไม รีบลุกขึ้นไปขอโทษคุณซ่งสักทีสิ”“ไม่เด็ดขาด!”“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรผิด ที่ต้องขอโทษ ก็คือเขาที่ต้องขอโทษกับพี่เย่”หลิวซือซือไม่เห็นด้วย พี่เย่มาที่นี่เพื่อช่วยตัวเธอ เธอจะปล่อย
เมื่อมองไปยังลูกสาวที่กำลังครุ่นคิดอย่างวิตกกังวลแบบนี้ แม่หลิวก็โกรธแล้วพูด “ซือซือ เธอยังลังเลอะไรอีก”“เย่เทียนหยู่เป็นเพียงพนักงานบริษัทคนหนึ่ง ถูกกำหนดให้เป็นลูกจ้างไปตลอดชีวิต คบกับคนแบบนี้ ต่อไปก็ไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปาก”เมื่อเทียบกันแล้ว คุณซ่งเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นนายน้อยตระกูลซ่ง อำนาจก็มี บุคลิกก็ดี ใครที่ได้แต่งงานกับเขา นั่นคงจะมีความสุขที่สุดแล้วล่ะได้ยินคำพูดเหล่านี้ ซ่งอวี่ก็มีสีที่หน้าภูมิใจตามที่คาดไว้ ยังต้องย้ายพวกนี้ออกไปถึงจะปกติที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คุณชายตระกูลกงซุนจริงๆ แต่สุดท้ายก็ยังมีความเกี่ยวพันธ์กันอยู่บ้าง แต่ก็เป็นญาติกันห่างๆพ่อหลิวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ภายในใจของเขาจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ชอบซ่งอวี่เท่าไหร่นัก โดยเฉพาะตอนนี้ที่ซ่งอวี่กำลังข่มขู่ในที่สาธารณะ ถ้าอย่างนั้น ลูกสาวแต่งงานไปแล้ว เกรงว่าก็คงจะไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายหรอกไม่อยากพูดเลย ทายาทเศรษฐีแบบนี้ ท่าทีแบบนี้ ไม่แน่ว่าจะแต่งงานกับลูกสาวตัวเองแน่นอนไหมแต่แม่หลิวในสายตาหมกมุ่นอยู่แต่กับเงิน โดยเฉพาะอะไรหลายพันล้าน ที่มันทั้งคนดีแล้วก็คนเลว แท้จริงแล้วทั้งทรงอำนาจท
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก