เมื่อมองไปยังลูกสาวที่กำลังครุ่นคิดอย่างวิตกกังวลแบบนี้ แม่หลิวก็โกรธแล้วพูด “ซือซือ เธอยังลังเลอะไรอีก”“เย่เทียนหยู่เป็นเพียงพนักงานบริษัทคนหนึ่ง ถูกกำหนดให้เป็นลูกจ้างไปตลอดชีวิต คบกับคนแบบนี้ ต่อไปก็ไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปาก”เมื่อเทียบกันแล้ว คุณซ่งเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นนายน้อยตระกูลซ่ง อำนาจก็มี บุคลิกก็ดี ใครที่ได้แต่งงานกับเขา นั่นคงจะมีความสุขที่สุดแล้วล่ะได้ยินคำพูดเหล่านี้ ซ่งอวี่ก็มีสีที่หน้าภูมิใจตามที่คาดไว้ ยังต้องย้ายพวกนี้ออกไปถึงจะปกติที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คุณชายตระกูลกงซุนจริงๆ แต่สุดท้ายก็ยังมีความเกี่ยวพันธ์กันอยู่บ้าง แต่ก็เป็นญาติกันห่างๆพ่อหลิวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ภายในใจของเขาจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ชอบซ่งอวี่เท่าไหร่นัก โดยเฉพาะตอนนี้ที่ซ่งอวี่กำลังข่มขู่ในที่สาธารณะ ถ้าอย่างนั้น ลูกสาวแต่งงานไปแล้ว เกรงว่าก็คงจะไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายหรอกไม่อยากพูดเลย ทายาทเศรษฐีแบบนี้ ท่าทีแบบนี้ ไม่แน่ว่าจะแต่งงานกับลูกสาวตัวเองแน่นอนไหมแต่แม่หลิวในสายตาหมกมุ่นอยู่แต่กับเงิน โดยเฉพาะอะไรหลายพันล้าน ที่มันทั้งคนดีแล้วก็คนเลว แท้จริงแล้วทั้งทรงอำนาจท
ซ่งอวี่ท่าทางภูมิใจมาก มองเยาะเย้ยไปที่เย่เทียนหยู่ เจ้าเด็กนี่จำได้สักทีว่าตัวเขามีฐานะเป็นคุณชายตระกูลซ่ง ตอนนี้ก็คงจะกลัวจนฉี่ราด แล้วคุกเข่าขอความเมตตาแน่“สาย?”“ไม่เห็นสายเลยสักนิด!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึฮึแล้วพูด “ที่ฉันพูดแบบนี้ เพราะว่าฉันรู้จักคุณชายตระกูลซ่งคนหนึ่งอยู่พอดี ไม่รู้ว่าคุณพอจะรู้จักไหม?”“ยังมีคุณชายตระกูลซ่งไหนอีก?”“เย่เทียนหยู่ ใกล้จะตายอยู่แล้วแกยังทำอะไรแบบนี้อีก ฉันจะบอกแกไว้นะ วันนี้ไม่ว่าใครจะมา แกก็จบแล้ว มิตรภาพอะไรก็ไม่ช่วยหรอก” ซ่งอวี่ท่าทางมั่นใจไอ่เจ้าสารเลวนี่ กล้าดียังไงมาขโมยหัวใจของเทพธิดาที่ตัวเขาชอบ แม้กระทั่งเต็มใจยอมเสียสละครั้งใหญ่เพื่อเขา เขาจะยอมทนได้ยังไงกันเย่เทียนหยู่พูดไม่ออก มองดูคนอื่นๆ แม้กระทั่งหลิวซือซือเองก็คิดว่าตัวเขากำลังพยายามสร้างสัมพันธ์ แล้วพูดตรงๆ ว่า “ฉันพูดตรงๆ เลยนะ ฉันรู้จักซ่งหยางนายน้อยตระกูลซ่ง ไม่รู้ว่าคุณรู้จักไหม? ”ซ่งหยาง?นั่นไม่ใช่คุณชายใหญ่ของพวกเขาตระกูลซ่งหรอกหรือ ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล ทำไมเขาจะไม่รู้จักเพียงแต่บุคคลแบบนั้น เดิมทีเขาก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้ติดต่อมากนัก แม้ว่าซ่งหยางจะอยู่นั
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซ่งหยางก็โกรธขึ้นมาจริง ๆไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร หากกล้าทำลายความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับคุณชายเย่ เขาสัญญาว่าจะทำให้อีกฝ่ายตายอย่างน่าสมเพชแน่นอน สุดท้าย ถ้าหากคุณชายเย่ไม่ให้ความช่วยเหลือ ตระกูลของพวกเขาก็คงจบสิ้นแล้วล่ะปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ ตระกูลซ่งต้องเจอกับหายนะครั้งใหญ่น้องสาวของเขาไปยั่วโมโหคุณชายหลี่ว์เจิ้งแห่งตระกูลหลี่ว์เข้า แม้ว่าคุณชายคนนี้จะมีชื่อเสียงที่ดี แต่ในฐานะมนุษย์แม้จะโกรธเคืองเล็กน้อยก็เอาคืนอย่างสาสม จิตใจโหดเหี้ยมอัมหิตตระกูลซ่งพยายามคิดหาทางออกอย่างเต็มที่ อีกฝ่ายไม่เพียงเรียกค่าเสียหายพันล้นเท่านั้น แต่ยังต้องการให้ซ่งหลิงคอยติดตามเขาอีกหนึ่งเดือน เพื่อให้เขาได้เล่นสนุกเสียก่อนเมื่อเป็นแบบนี้ พ่อลูกซ่งหยางจะยอมรับปากได้อย่างไรไม่ต้องพูดเลยว่ายังไงพวกเขาก็ไม่มีทางยอมเสียสละซ่งหลิงแบบนี้แน่นอน แค่พูดถึงเงินพันล้าน ต้องการให้พวกเขาเอาออกมาจริงๆ ก็ไม่ต่างจากการฆ่าตระกูลซ่งไปครึ่งแล้วแม้ว่าตระกูลซ่จะมีทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้าน แต่ทรัพย์สินก็คือทรัพย์สิน เทียบกับเงินจริงแล้วไม่เหมือนกันยิ่งไปกว่านั้นก็คือ อีกฝ่ายให้เวลาเพียงห
อีกอย่าง พี่เย่เองก็เป็นคนดีไม่เลวเลยดังนั้น เธอจึงอยากที่จะแก้ต่างให้เย่เทียนหยู่เย่เทียนหยู่เปิดปากพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ใครบอกพวกคุณว่าฉันเสแสร้งกัน”“ยังไม่ยอมรับอีกเหรอ เมื่อกี้แกบอกว่าจะโทรศัพท์นี่ ทำไมยังแสร้งแกล้งทำเป็นรับโทรศัพท์อยู่ล่ะ ไม่ใช่ว่าไม่มีเบอร์ตั้งแต่แรกหรอกนะ”ซ่งอวี่หัวเราะเยาะ“เสแสร้งแกล้งทำ?”เย่เทียนหยู่ส่ายหัว พูดผ่านโทรศัพท์อย่างใจเย็น “ซ่งหยาง คุณคงต้องบอกเขาเองแล้วล่ะ ว่าฉันแกล้งคุยโทรศัพท์หรือเปล่า?”เมื่อพูดจบ หลายคนก็ต่างตะลึงไปพักหนึ่งแต่ไม่นานซ่งอวี่ก็ระเบิดหัวเราะพูดจาเสียงดัง “จนถึงตอนนี้แกก็ยังเสแสร้งอยู่อีกนะ แกกำลังหมายถึง เมื่อกี้ซ่งหยางโทรหาแกงั้นเหรอ?”“ฮ่าฮ่า ฉันหัวเราะจะตายอยู่แล้ว นี่มันตลกดีจริงๆ ”“ตลกมาหรือไง?” เย่เทียนหยู่พูดไม่ออก“ก็ต้องตลกอยู่แล้วน่ะสิ แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน แถมซ่งหยางยังโทรหาแกอีก แล้วอีกอย่าง จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนั้นบนโลกนี้ด้วยเหรอ เมื่อกี้เราให้แกโทรหาซ่งหยาง ซ่งหยางก็โทรหาแกพอดี ”ซ่งหยางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็โกรธมาก พูดด้วยความโกรธ “ฉันคือซ่งหยาง แกคือตระกูลซ่งไหนกัน ถึงได้กล้าพูดแบบนี้กับคุณชายเ
ซ่งอวี่รู้สึกหวาดกลัวสุดขีดด้านตระกูลซ่งนอกจากสายเลือดหลักแล้ว ก็มีญาติห่างๆ อีกมากในหมู่เคลือญาติก็มีที่โดดเด่นไม่น้อย ต่ำแหน่งก็ใช้ได้ เหมือนกับพวกเขา เกือบจะจัดเป็นตระกูลรองแล้ว ที่สำคัญหากไม่มีความสามารถไม่มีผลงาน เดิมทีก็จะไม่ได้รับความสนใจเลยแต่เมื่อกี้เขาทำอะไรไป พูดว่าซ่งหยาง นั่นไม่ใช่นายน้อยของตระกูลซ่งที่ปกติเขาจะเรียกด้วยความเครพนับถือตลอดไม่ใช่หรือต่อหน้าเย่เทียนหยู่วันนี้ เพราะไม่สามารถควบคุมได้ พูดมั่วซั่วมากจนเกินไป แม้แต่กล่าวหาด่าว่าอีกฝ่ายโกหกสารพัดนั่นคือสิ่งที่ตัวเองทำลงไปในวันนี้ แม้ว่านายน้อยซ่งจะไล่ตัวเขาออกจากแผนผังตระกูลซ่งก็ตาม เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดแก้ตัวทั้งนั้นในสถานการณ์เช่นนี้ จะไม่ให้เขากลัว ไม่กังวลได้ยังไงเขากลัวกระทั่งตัวเองก็สติหลุดลอยหัวว่างเปล่าไปหมด ไม่รู้ว่าเดิมทีตัวเองอยู่ที่ไหนแต่แม่หลิวกลับไม่รู้ แม้กระทั่งคิดว่าเย่เทียนหยู่คนนี้ก็ช่างหน้าไม่อายเสียจริง ทั้งหมดถูดเปิดโปงแล้วว่าเป็นของปลอมแล้ว ยังจะเสแสร้งแกล้งทำอยู่ที่นี่อีกนึกไม่ถึงว่าจะตั้งใจหาคนมาสวมรอยเป็นซ่งหยาง“พอที เย่เทียนหยู่ แกเสร็จหรือยัง ตัวเองเป็นนักต้มตุ๋นไม่พอ
“ใช่ใช่ ผมเอง นั่นผมเอง” ซ่งอวี่รีบพูดทันทีเพราะว่าเปิดสปีกเกอร์โฟนอยู่ แม่หลิวและคนอื่นก็ได้ยินเช่นกัน สักพักก็มีท่าทางตกตะลึงไปหมดนึกไม่ถึงเลยว่าคุณซ่งคนนี้จะเป็นผีพนัน แถมยังโดนนักทวงหนี้ตามล่าอีกและฟังจากน้ำเสียงของนายน้อยซ่งตัวจริงแล้ว เดิมทีก็ไม่ได้รู้จักเขาเลย ถ้าอย่างนั้นเขาเป็นคุณซ่งอะไรกันล่ะเย่เทียนหยู่ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ซ่งหยาง เขาบอกเขาเป็นนายน้อยตระกูลซ่ง นายไม่รู้สึกคุ้นเคยกับเข้าบ้างเหรอ?” คำถามนี้ เป็นคำถามเดียวกับที่แม่หลิวและคนอื่นๆ อยากรู้เช่นกัน“นายน้อยตระกูลซ่ง?”“ไร้สาระ!ไม่ใช่สิ คุณชายเย่ ไม่ได้หมายถึงคุณนะ แค่หมายถึงว่าเขาเป็นนายน้อยซ่งที่ไหนกันน่ะ!”“เจ้าคนนี้อันที่จริงนิสัยไม่ดีนัก ชอบเล่นพนัน ก่อนหน้านี้มีหนี้สินก้อนโต อันที่จริงก็เพราะพ่อของผมเห็นแก่หน้าเหล่าสมาชิก ถึงได้ยอมช่วยแก้ปัญหาให้เขา”“ด้วยนิสัยของเขา ทั้งยังชอบเล่นพนันมาก นึกไม่ถึงว่าจะยอมขายผู้หญิงของตัวเองให้กับไนต์คลับเพื่อแลกกับเงิน คนแบบนี้ยังเป็นนายน้อยซ่งอยู่อีก แถมเขายังไม่ถูกไล่ออกจากวงศ์ตระกูล เขาควรที่จะจุดธูปขอขมาได้แล้ว”ซ่งหยางโกรธมาก จนหยุดต่อว่าไม่ได้ซ่ง
“คุณชายเย่ ต้องขอโทษจริงๆ ไม่ว่ายังไง เขาก็คือคนของตระกูลซ่ง กล้าดียังไงถึงได้กล้าทำให้คุณขุ่นเคือง ผมจะต้องให้คำอธิบายกับคุณแน่นอน”“ส่วนคนนั้นที่มันกล้าดูถูกคุณอย่างซ่งอวี่ ปล่อยให้คุณจัดการก็แล้วกันครับ!”“ไม่ว่าคุณจะฆ่าเขาก็ได้ ผมซ่งหยางจะรับผิดชอบเอง!”ซ่งหยางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำทันทีที่พูดจบ ซ่งอวี่ก็แทบจะฉี่ราดอยู่ตรงนั้นแล้ว เขาที่ยืนอยู่ก็แขนขาอ่อนแรงจนล้มลงไปแม่หลิวอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านในใจ ต้องโหดเหี้ยมขนาดนี้เลยหรือ แค่ทำให้ต้องขุ่นเคืองแบบนี้ ถึงกับต้องฆ่าแกงกันเลยหรือไง มาคิดดูถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเมื่อครู่ คงทำให้เย่เทียนหยู่ไม่พอใจจนตายแน่เลยไม่ใช่ว่าต้องถูกดาบนับพันนับหมื่นสับเป็นชิ้นๆ หรอกนะ ไม่ได้ ต้องรีบให้ลูกสาวช่วยตัวเธอร้องขอความเมตตาหลิวซือซือเองก็ตกตะลึงครู่หนึ่ง“ก็ดี งั้นวางสายก่อนแล้วกัน” เย่เทียนหยู่วางสายโทรศัพท์ลงซ่งหยางที่อยู่อีกฝั่งก็ทำอะไรไม่ถูก เดิมทีเขาจะขอความช่วยเหลือ ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มองไปทางพ่อและคนในตระกูลที่อยู่ข้างเขาแล้วสรุปสถานการณ์อย่างเรียบง่ายพวกเขาฟังจบ ก็โกรธกันมาก มีหลายคนที่ต้องการให้จัดการกับ
เพียงแต่แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้จัดการเขา เขาก็จบสิ้นอยู่แล้ว ขี้เกียจที่จะลงมือก็เท่านั้นปัง!แก้วเหล้ากระแทกเข้าที่หัวของซ่งอวี่โดยตรง แตกออกเป็นเสี่ยงๆ หน้าผากเลือดไหลไม่หยุดแม่หลิวตกใจอย่างมาก ดูเย่เทียนหยู่พูดง่ายขนาดนี้ เธอต้องเตรียมสืบหาอย่างละเอียดเสียหน่อย ดูว่าจริงๆ แล้วมีอะไรอยู่แต่ตอนนี้กังวลนิดหน่อย อารมณ์แปรปรวนมากๆ น่ะอีกอย่าง ตัวเองก็เคยสร้างความขุ่นเคืองมาก่อน จะทำยังไงถ้ามีการคิดบัญชีย้อนหลังด้วย นี่ทำให้เธอหวาดกลัวและกังวลนิดหน่อยซ่งอวี่ถึงกับหน้าถอดสี แต่เขาก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หน้าผากเลย เอาแต่พูดขอโทษซ้ำๆ “ครับ ครับ ขออภัยครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ จะออกไปตอนนี้เลยครับ”พูดจบ ก็หันกลับแล้วรีบเดินไปทันทีไม่รู้ว่าเพราะประหม่า หรือเพราะความกลัว ไม่ระวังจนไปชนเข้ากับบางอย่าง ล้มลงอย่างจัง แต่ก็ลุกขึ้นทันทีอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเดินออกไปทุกคนมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่ขณะที่ซ่งอวี่เดินจากไป แม่หลิวก็ประหม่า ลังเลที่จะพูดพ่อหลิวใช้แขนจับเธอไว้สักพักแม่หลิวรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไปในที่สุด “คือว่า เย่
เย่เทียนหยู่รู้สึกตกใจนิดหน่อย เขาไม่รู้จักอีกฝ่ายด้วยซ้ำ จึงได้แต่ยักไหล่ ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เคยสู้ด้วยสักหน่อย ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”“แต่ฉันรู้ค่ะ!”“ราชามังกรแห่งพรรคมังกร ผู้นำแห่งสำนักเงา หรือจะให้ฉันเรียกว่าคุณชายเย่ดีคะ?” เยว่เหลียนเวยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูราบเรียบเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนี้ เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าการคาดเดาของเขานั้นถูกต้อง อีกฝ่ายน่าจะมาจากสำนักดอกไม้ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สถานะพวกนี้ของเขาแน่นอน เขาจึงพูดขึ้นอย่างเร่งรีบออกไปว่า “คุณน่าจะเป็นผู้อาวุโสของสำนักดอกไม้สินะ?”“ผู้อาวุโสอะไรกันคะ ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย ฉันชื่อว่าเยว่เหลียนเวยค่ะ คุณเรียกฉันว่าพี่เยว่ก็ได้!” เยว่เหลียนเวยยิ้มเล็กน้อย หลังจากที่เธอเผยรอยยิ้มออกมา เสน่ห์ในตัวเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเยว่หลิงตกตะลึงไปชั่วขณะ อาจารย์รองเป็นอะไรไป เรียกว่าพี่เยว่งั้นเหรอ ไอ้เด็กนั่นมันเป็นใครกันแน่“เอ่อ สวัสดีครับ พี่เยว่!” ในเมื่ออีกฝ่ายไม่อยากถูกเรียกแบบนั้น เย่เทียนหยู่จึงทำได้แค่เริ่มทักทายใหม่อีกครั้ง“ค่ะ คุณชายเย่ไม่เลวเลยนะคะ ฉันชอบค่ะ”เยว่เหลียนเวยเ
เยว่หลิงแทบไม่สามารถต่อต้านได้เลย และพบว่าตัวเองกำลังถูกชายคนหนึ่งกดทับด้วยมือเอาไว้อยู่ เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอันแรงกล้าของผู้ชายจากอีกฝ่าย สีหน้าเธอก็แดงก่ำทันทีแม้ว่าเธอมักจะใช้วิชาเสน่ห์อาคมอยู่บ่อย ๆ แต่เธอก็ไม่เคยให้ผู้ชายเข้าใกล้มากขนาดนี้มาก่อน นั่นจึงทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาแบบนี้เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากตรงหน้า เขาก็พูดพลางหัวเราะออกมาว่า “ฟังจากน้ำเสียงของคุณแล้ว ผมยังคิดอยู่เลยว่าคุณคงจะเป็นคนที่เปิดกว้างมาก คิดไม่ถึงว่าจะเขินได้ง่ายขนาดนี้”“นาย นายรีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” เยว่หลิงวิตกกังวลอย่างมาก เธอคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีวิชากังฟู่ที่น่ากลัวอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนที่ชั่วร้ายมากอีกต่างหากถ้ารู้แต่แรก ก็คงไม่มาคนเดียวแบบนี้หรอก พวกเธอได้ทำการนัดพบกับคนในสำนักที่นี่ และตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลานัดแล้วด้วยเมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารและวิตกกังวลของเธอ เย่เทียนหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งหยอกล้อเธอ พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ผมจะปล่อยคุณไปก็ได้ แต่คุณต้องขอร้องผมก่อน”“เพราะไม่อย่างนั้น ผมคงไม่อาจทำใจแยกจากความงามอันน่าหลงใหลเช่นนี้ได้แน่”ในขณะที่พูด เย่
ช่วงเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง เย่เทียนหยู่และหลินหว่านหรูก็กลับมาถึงเมืองตะวันออกกันแล้ว เวลาที่เหลือก็ค่อนข้างเยอะ ทั้งสองจึงทานข้าวด้วยกันก่อน แล้วค่อยส่งหลินหว่านหรูกลับบริษัทจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงค่อยออกเดินทาง แต่ขณะที่เขากำลังจะขึ้นรถ เขาก็ได้ยินเสียงอันอ่อนหวานดังเข้ามาในหู “คุณเย่คะ ท่าทางรีบร้อนแบบนั้น คุณจะรีบไปไหนเหรอคะ?”เย่เทียนหยู่ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมอง ตรงหน้าเขาปรากฏร่างที่มีเสน่ห์และสง่างามของหญิงสาวคนหนึ่ง มองผิวเผินรู้สึกว่าเธอยังเด็กอยู่มาก ราวกับว่าเธอเพิ่งจะสี่สิบต้น ๆ เท่านั้นเองรูปร่างหน้าตาของเธอดูอ่อนเยาว์กว่าจูเก่อหลิวหลีนิดหน่อย แต่ความเซ็กซี่และเสน่ห์ที่เธอแสดงออกมานั้น โดยเฉพาะความขาวที่ถูกเผยให้เห็นเพียงเล็กน้อย เพียงเท่านั้นก็ทำให้ผู้คนต่างพากันใจเต้นแล้วขาเรียวยาวสองข้างที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใย นี่ถือเป็นค่านิยมของผู้หญิงที่นับว่าเป็นอันตรายต่อผู้ชายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน เย่เที่ยนหยู่เองก็เคยเห็นผู้หญิงมามากมายนับไม่ถ้วนจนเคยชินหมดแล้ว โดยเฉพาะเทพธิดาสองสามคนที่สวยกว่าหลินหว่านหรู่ก็เคยเจอมาหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงไ
แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าแม่ตระกูลหลินจะทำให้เธอต้องอับอายมากขนาดนี้เห็นได้ชัดว่าเฉินเว่ยไม่อาจทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ เธอจึงแสดงเจตจำนงที่ต้องการจะลาออกทันทีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นแบบนั้น เธอก็รีบอนุมัติให้ทันทีโดยที่ไม่คิดลังเลเลยแม้แต่น้อย กระทั่งคนอีกสองสามคนที่ต้องการจะลาออกตามเฉินเว่ยเองก็ถูกอนุมัติด้วยเช่นกันถึงยังไง เธอก็ยังมีคนที่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาอย่างเหอรุ่ยอยู่ แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วเห็นได้ชัดว่าเฉินเว่ยไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม่ตระกูลหลินจะมุ่งมั่นมากขนาดนี้ ทำให้เธอตกตะลึงไปชั่วขณะได้จริง ๆ แต่เมื่อลองย้อนนึกดู แม้แต่คนอย่างเหอรุ่ยก็สามารถปีนข้ามหัวเธอได้ การที่เธอจากไปตอนนี้ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเมื่อถึงตอนนั้น ตอนที่เครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์เกิดปัญหาขึ้นมาจริง ๆ ไม่แน่อาจจะมีปัญหามากมายตามมาเพิ่มก็ได้ตามที่หลิวเหวินเคยพูดถึงความคิดของแม่ตระกูลหลิน บวกกับเรื่องที่จู่ ๆ เหอรุ่ยก็ได้รับตำแหน่งผู้จัดการ เรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นกับเครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์ก็คงขึ้นอยู่กับเวลาแล้วล่ะ เพราะงั้นจากไปเร็วหน่อยก็ดีเหมือนกันเมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของเฉินเ
“หากเป็นเช่นนั้น งั้นเรื่องก็ง่ายมากเลยล่ะครับ มีวิธีอีกมากมายนับไม่ถ้วน” เหอรุ่ยรีบพูดขึ้นมา หากเขายังบอกว่าทำไม่ได้อีก แล้วตนจะยังมีประโยชน์อะไร นั่นเท่ากับตนจะพลาดโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่รึไงเมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของแม่ตระกูลหลินก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ตอนนี้บริษัทมีทางรอดแล้วคนอย่างหลิวเหวินไม่รู้เรื่องอะไรเอาเสียเลย แถมยังบอกว่าหมดหนทางอีกแต่เมื่อตนเป็นคนออกโรงเอง ก็สามารถหาคนเก่งมาได้ในทันที ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย!และเท่าที่ฟังมา เหมือนว่าคนที่ตนเลือกจะมีวิธีแก้ปัญหามากมายนับไม่ถ้วนอีกต่างหากเมื่อเห็นแบบนี้แล้ว แม่ตระกูลหลินก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ดีมาก หากเฉินเว่ยกล้ามาจริง ๆ ฉันก็จะไล่มันออกทันที แล้วให้เธอมารับตำแหน่งแทนหล่อนซะ”“ครับ ขอบคุณประธานหลิวมากครับ ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อรับใช้คุณ!” เหอรุ่ยรีบพูดประจบประแจงขึ้นมาทันที“ดีมาก ไม่เลวเลย เธอยังหนุ่มยังแน่น ต่อไปจะต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน!”เมื่อแม่ตระกูลหลินได้ยินว่าอีกฝ่ายยินดีรับใช้ตน สีหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในใจก็รู้สึกพอใจอย่างมาก“ประธานหลิวชมเกินไปแล้วคร
“แต่ว่า ประธานเย่เองก็ไม่ใช่คนนอกนี่คะ”“ประธานเย่อะไร ใครคือประธานเย่กัน บริษัทนี้มีตำแหน่งเขาด้วยรึไง? หลิวเหวิน เธอเป็นอะไรไป หรือว่าเธอไม่อยากที่จะอยู่ในบริษัทนี้ต่ออย่างงั้นเหรอ?”แม่ตระกูลหลินด่าทอด้วยความโกรธวันนี้เย่เทียนหยู่ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากทักทายตนเลยด้วยซ้ำ คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหนกันต่อให้เขาจะเก่งกาจมากแค่ไหน สุดท้ายก็ยังเดินตามหลังลูกสาวตนอยู่ดี ยังเป็นลูกเขยที่เชื่อฟังของเธออยู่กล้าดียังไงที่เมินเฉยกันแบบนี้!ไม่มีมารยาทเลยแม้แต่น้อย น่าโมโหเสียจริง!เมื่อถูกด่าทอแรง ๆ แบบนี้ สีหน้าของหลิวเหวินดูเศร้าหมองมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอก็รู้สึกโกรธจนแทบทนไม่ไหว เธอไม่สามารถอดทนต่อไปได้แล้วจริง ๆ แต่เวลานี้แม่ตระกูลหลินก็ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมาว่า “เอาล่ะ หลิวเหวิน ฉันจะไม่พูดไร้สาระกับเธออีก วัตถุดิบที่เธอต้องการมันไม่มีอีกแล้วล่ะ”“ตอนนี้ สิ่งที่เธอต้องทำก็คือ รีบหาวัตถุดิบตัวใหม่เพื่อมาทดแทนโดยเร็วที่สุด”“ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ!” หลิวเหวินตอบ“ทำไม่ได้ก็คิดหาวิธีสิ หากยังไม่ได้อีก เธอก็หาอย่างอื่นที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงมาไม่ได้รึไง ขอแค่ผลลัพธ์ออกมาคล้ายกัน แค
ประจวบเหมาะกับที่หลินหว่านหรูเองก็เกือบจะจัดการธุระเสร็จแล้ว เย่เทียนหยู่มองดูนาฬิกาครู่หนึ่ง เวลาเพิ่งจะสิบโมงกว่า ๆ ดังนั้นจึงมีเวลาอีกเหลือเฟือให้เขารีบกลับไป“แม่ของคุณกับคนอื่น ๆ ล่ะ หรือพวกเขากลับไปกันแล้ว?” เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย นานแล้วที่ไม่ได้เจอพวกเขา แถมยังเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นอีก ไม่คิดจะอยู่พูดคุยกันหน่อยรึไง“กลับไปกันแล้ว!”สีหน้าของหลินหว่านหรูเริ่มมืดมนลงเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าคุณต้องรีบกลับไปจัดการธุระเหรอคะ พวกเราเองก็กลับกันเถอะ”“ได้!”เย่เทียนหยู่พยักหน้า เขาสตาร์ทรถและขับออกไปทันที ระหว่างทาง เขาหันไปมองหลินหว่านหรูที่ดูเหมือนว่าเธอมีอะไรอยากจะพูดแต่ก็ไม่กล่าเอ่ยปาก เขาจึงถามออกไปว่า “หว่านหรู คุณเป็นอะไรรึเปล่า หรือมีเรื่องอะไรที่ทำให้คุณลำบากใจรึเปล่า?”“หรือจะเป็นเรื่องสูตรนั่น?”เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่เป็นฝ่ายเริ่มพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน หลินหว่านหรูก็พยักหน้าทันที ก่อนจะพูดซ้ำสิ่งที่แม่ของเธอเพิ่งจะพูดไปออกมาเย่เทียนหยู่ส่ายหัว พร้อมพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่สูตรส่วนผสมสูตรเดียวเอง ผมเขียนให้ตอนนี้เลยก็ได้ และจะ
“ได้สิ”ทันทีที่แม่ตระกูลหลินพูดจบ เธอก็รีบเดินจากไป พร้อมกับสาปแช่งอยู่ในใจใครขอให้แกมากัน ไม่รู้จะมาทำไม มาแย่งบริษัทไปจากฉันรึไงฝันไปเถอะ!หลินซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่สิ่งที่แกคิดจะเอาก็เอาไปได้ง่าย ๆ หรอกนะ!ถ้าเธอรู้แต่แรก ว่าอีกไม่นานหลินหว่านหรูจะได้นั่งตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของเทียนเฟิงกรุ๊ป และได้กลายเป็นผู้จัดการระดับสูงของกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านแบบนี้ เธอไม่มีทางคิดเช่นนี้แน่พ่อตระกูลหลินรู้สึกทำอะไรไม่ถูก อันที่จริง เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการของแม่ตระกูลหลินสักเท่าไหร่ แต่ถึงยังไงเมื่อก่อนทุกการตัดสินใจก็มักจะขึ้นอยู่กับแม่ตระกูลหลิน แถมตอนนี้ท่าทีของเธอก็ยิ่งเหมือนบูเช็คเทียนเข้าไปทุกวัน ไม่ว่าเธอพูดจะอะไร ตนก็ได้แต่ต้องทำตามเท่านั้น ในขณะเดียวกันนั้นเอง เย่เทียนหยู่ก็เดินตามหาหลงเจี๋ยจนเจอ จากนั้นหลงเจี๋ยก็ถามออกไปด้วยความโกรธทันที “เย่เทียนหยู่ นี่คุณหมายความว่ายังไง ก่อนหน้านี้ทำไมคุณถึงต้องหลอกฉันด้วย?”“ผมหลอกคุณงั้นเหรอ?” เย่เทียนหยูรู้สึกสับสน“ยังไม่ยอมรับอีกงั้นเหรอ เห็น ๆ อยู่ว่าคุณคือราชามังกรแห่งพรรคมังกร ไม่บอกฉันก็ช่างเถอะ แต่นี่ยังจะแสร้งบ
เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากนี้ ก็อดส่ายหัวไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า “หว่านหรู ในเมื่อทางนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พอดีเมื่อกี้คุณตำรวจหลงมีเรื่องที่ต้องคุยกับผมน่ะ ผมขอไปหาเธอหน่อยนะ”“อือ คุณไปเถอะ”เมื่อกี้ตอนที่หลงเจี๋ยเชิญเขา หลินหว่านหรูที่อยู่ข้าง ๆ เองก็รู้เรื่องนี้ดีหลังจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงเดินจากไปเมื่อเย่เทียนหยู่เดินจากไปแล้ว คนที่เหลือก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดี หลังจากที่สื่อสารกันไปมาสักพัก หลินหว่านหรูก็ได้เซ็นลงไปส่วนเรื่องเงินชดเชย แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการเลยสักบาทเมื่อเห็นว่าในที่สุดปัญหาก็ได้คลี่คลายลงแล้ว แม่ตระกูลหลินก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เธอจึงกอดหลินหว่านหรูเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดด้วยความซาบซึ้งออกไปว่า “หว่านหรู ขอบคุณมากนะ!”“ก่อนหน้านี้แม่ทำผิดพลาดไปมากมาย แต่ลูกก็ยังปกป้องแม่ตลอด ลูกเป็นลูกสาวที่ดีที่สุดในโลกเลย แม่รักลูกนะ!”คำพูดที่หวานซึ้งเช่นนี้ หลินหว่านหรูถึงกับทนรับเอาไว้ไม่ไหว แต่การที่แม่สามารถแสดงมันออกมาได้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากแล้ว“หว่านหรู ลูกวางใจได้ ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าตัวเองผิด ต่อไปจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีก แม่จะดูแลบริษัทใ