เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซ่งหยางก็โกรธขึ้นมาจริง ๆไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร หากกล้าทำลายความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับคุณชายเย่ เขาสัญญาว่าจะทำให้อีกฝ่ายตายอย่างน่าสมเพชแน่นอน สุดท้าย ถ้าหากคุณชายเย่ไม่ให้ความช่วยเหลือ ตระกูลของพวกเขาก็คงจบสิ้นแล้วล่ะปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ ตระกูลซ่งต้องเจอกับหายนะครั้งใหญ่น้องสาวของเขาไปยั่วโมโหคุณชายหลี่ว์เจิ้งแห่งตระกูลหลี่ว์เข้า แม้ว่าคุณชายคนนี้จะมีชื่อเสียงที่ดี แต่ในฐานะมนุษย์แม้จะโกรธเคืองเล็กน้อยก็เอาคืนอย่างสาสม จิตใจโหดเหี้ยมอัมหิตตระกูลซ่งพยายามคิดหาทางออกอย่างเต็มที่ อีกฝ่ายไม่เพียงเรียกค่าเสียหายพันล้นเท่านั้น แต่ยังต้องการให้ซ่งหลิงคอยติดตามเขาอีกหนึ่งเดือน เพื่อให้เขาได้เล่นสนุกเสียก่อนเมื่อเป็นแบบนี้ พ่อลูกซ่งหยางจะยอมรับปากได้อย่างไรไม่ต้องพูดเลยว่ายังไงพวกเขาก็ไม่มีทางยอมเสียสละซ่งหลิงแบบนี้แน่นอน แค่พูดถึงเงินพันล้าน ต้องการให้พวกเขาเอาออกมาจริงๆ ก็ไม่ต่างจากการฆ่าตระกูลซ่งไปครึ่งแล้วแม้ว่าตระกูลซ่จะมีทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้าน แต่ทรัพย์สินก็คือทรัพย์สิน เทียบกับเงินจริงแล้วไม่เหมือนกันยิ่งไปกว่านั้นก็คือ อีกฝ่ายให้เวลาเพียงห
อีกอย่าง พี่เย่เองก็เป็นคนดีไม่เลวเลยดังนั้น เธอจึงอยากที่จะแก้ต่างให้เย่เทียนหยู่เย่เทียนหยู่เปิดปากพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ใครบอกพวกคุณว่าฉันเสแสร้งกัน”“ยังไม่ยอมรับอีกเหรอ เมื่อกี้แกบอกว่าจะโทรศัพท์นี่ ทำไมยังแสร้งแกล้งทำเป็นรับโทรศัพท์อยู่ล่ะ ไม่ใช่ว่าไม่มีเบอร์ตั้งแต่แรกหรอกนะ”ซ่งอวี่หัวเราะเยาะ“เสแสร้งแกล้งทำ?”เย่เทียนหยู่ส่ายหัว พูดผ่านโทรศัพท์อย่างใจเย็น “ซ่งหยาง คุณคงต้องบอกเขาเองแล้วล่ะ ว่าฉันแกล้งคุยโทรศัพท์หรือเปล่า?”เมื่อพูดจบ หลายคนก็ต่างตะลึงไปพักหนึ่งแต่ไม่นานซ่งอวี่ก็ระเบิดหัวเราะพูดจาเสียงดัง “จนถึงตอนนี้แกก็ยังเสแสร้งอยู่อีกนะ แกกำลังหมายถึง เมื่อกี้ซ่งหยางโทรหาแกงั้นเหรอ?”“ฮ่าฮ่า ฉันหัวเราะจะตายอยู่แล้ว นี่มันตลกดีจริงๆ ”“ตลกมาหรือไง?” เย่เทียนหยู่พูดไม่ออก“ก็ต้องตลกอยู่แล้วน่ะสิ แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน แถมซ่งหยางยังโทรหาแกอีก แล้วอีกอย่าง จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนั้นบนโลกนี้ด้วยเหรอ เมื่อกี้เราให้แกโทรหาซ่งหยาง ซ่งหยางก็โทรหาแกพอดี ”ซ่งหยางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็โกรธมาก พูดด้วยความโกรธ “ฉันคือซ่งหยาง แกคือตระกูลซ่งไหนกัน ถึงได้กล้าพูดแบบนี้กับคุณชายเ
ซ่งอวี่รู้สึกหวาดกลัวสุดขีดด้านตระกูลซ่งนอกจากสายเลือดหลักแล้ว ก็มีญาติห่างๆ อีกมากในหมู่เคลือญาติก็มีที่โดดเด่นไม่น้อย ต่ำแหน่งก็ใช้ได้ เหมือนกับพวกเขา เกือบจะจัดเป็นตระกูลรองแล้ว ที่สำคัญหากไม่มีความสามารถไม่มีผลงาน เดิมทีก็จะไม่ได้รับความสนใจเลยแต่เมื่อกี้เขาทำอะไรไป พูดว่าซ่งหยาง นั่นไม่ใช่นายน้อยของตระกูลซ่งที่ปกติเขาจะเรียกด้วยความเครพนับถือตลอดไม่ใช่หรือต่อหน้าเย่เทียนหยู่วันนี้ เพราะไม่สามารถควบคุมได้ พูดมั่วซั่วมากจนเกินไป แม้แต่กล่าวหาด่าว่าอีกฝ่ายโกหกสารพัดนั่นคือสิ่งที่ตัวเองทำลงไปในวันนี้ แม้ว่านายน้อยซ่งจะไล่ตัวเขาออกจากแผนผังตระกูลซ่งก็ตาม เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดแก้ตัวทั้งนั้นในสถานการณ์เช่นนี้ จะไม่ให้เขากลัว ไม่กังวลได้ยังไงเขากลัวกระทั่งตัวเองก็สติหลุดลอยหัวว่างเปล่าไปหมด ไม่รู้ว่าเดิมทีตัวเองอยู่ที่ไหนแต่แม่หลิวกลับไม่รู้ แม้กระทั่งคิดว่าเย่เทียนหยู่คนนี้ก็ช่างหน้าไม่อายเสียจริง ทั้งหมดถูดเปิดโปงแล้วว่าเป็นของปลอมแล้ว ยังจะเสแสร้งแกล้งทำอยู่ที่นี่อีกนึกไม่ถึงว่าจะตั้งใจหาคนมาสวมรอยเป็นซ่งหยาง“พอที เย่เทียนหยู่ แกเสร็จหรือยัง ตัวเองเป็นนักต้มตุ๋นไม่พอ
“ใช่ใช่ ผมเอง นั่นผมเอง” ซ่งอวี่รีบพูดทันทีเพราะว่าเปิดสปีกเกอร์โฟนอยู่ แม่หลิวและคนอื่นก็ได้ยินเช่นกัน สักพักก็มีท่าทางตกตะลึงไปหมดนึกไม่ถึงเลยว่าคุณซ่งคนนี้จะเป็นผีพนัน แถมยังโดนนักทวงหนี้ตามล่าอีกและฟังจากน้ำเสียงของนายน้อยซ่งตัวจริงแล้ว เดิมทีก็ไม่ได้รู้จักเขาเลย ถ้าอย่างนั้นเขาเป็นคุณซ่งอะไรกันล่ะเย่เทียนหยู่ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ซ่งหยาง เขาบอกเขาเป็นนายน้อยตระกูลซ่ง นายไม่รู้สึกคุ้นเคยกับเข้าบ้างเหรอ?” คำถามนี้ เป็นคำถามเดียวกับที่แม่หลิวและคนอื่นๆ อยากรู้เช่นกัน“นายน้อยตระกูลซ่ง?”“ไร้สาระ!ไม่ใช่สิ คุณชายเย่ ไม่ได้หมายถึงคุณนะ แค่หมายถึงว่าเขาเป็นนายน้อยซ่งที่ไหนกันน่ะ!”“เจ้าคนนี้อันที่จริงนิสัยไม่ดีนัก ชอบเล่นพนัน ก่อนหน้านี้มีหนี้สินก้อนโต อันที่จริงก็เพราะพ่อของผมเห็นแก่หน้าเหล่าสมาชิก ถึงได้ยอมช่วยแก้ปัญหาให้เขา”“ด้วยนิสัยของเขา ทั้งยังชอบเล่นพนันมาก นึกไม่ถึงว่าจะยอมขายผู้หญิงของตัวเองให้กับไนต์คลับเพื่อแลกกับเงิน คนแบบนี้ยังเป็นนายน้อยซ่งอยู่อีก แถมเขายังไม่ถูกไล่ออกจากวงศ์ตระกูล เขาควรที่จะจุดธูปขอขมาได้แล้ว”ซ่งหยางโกรธมาก จนหยุดต่อว่าไม่ได้ซ่ง
“คุณชายเย่ ต้องขอโทษจริงๆ ไม่ว่ายังไง เขาก็คือคนของตระกูลซ่ง กล้าดียังไงถึงได้กล้าทำให้คุณขุ่นเคือง ผมจะต้องให้คำอธิบายกับคุณแน่นอน”“ส่วนคนนั้นที่มันกล้าดูถูกคุณอย่างซ่งอวี่ ปล่อยให้คุณจัดการก็แล้วกันครับ!”“ไม่ว่าคุณจะฆ่าเขาก็ได้ ผมซ่งหยางจะรับผิดชอบเอง!”ซ่งหยางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำทันทีที่พูดจบ ซ่งอวี่ก็แทบจะฉี่ราดอยู่ตรงนั้นแล้ว เขาที่ยืนอยู่ก็แขนขาอ่อนแรงจนล้มลงไปแม่หลิวอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านในใจ ต้องโหดเหี้ยมขนาดนี้เลยหรือ แค่ทำให้ต้องขุ่นเคืองแบบนี้ ถึงกับต้องฆ่าแกงกันเลยหรือไง มาคิดดูถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเมื่อครู่ คงทำให้เย่เทียนหยู่ไม่พอใจจนตายแน่เลยไม่ใช่ว่าต้องถูกดาบนับพันนับหมื่นสับเป็นชิ้นๆ หรอกนะ ไม่ได้ ต้องรีบให้ลูกสาวช่วยตัวเธอร้องขอความเมตตาหลิวซือซือเองก็ตกตะลึงครู่หนึ่ง“ก็ดี งั้นวางสายก่อนแล้วกัน” เย่เทียนหยู่วางสายโทรศัพท์ลงซ่งหยางที่อยู่อีกฝั่งก็ทำอะไรไม่ถูก เดิมทีเขาจะขอความช่วยเหลือ ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มองไปทางพ่อและคนในตระกูลที่อยู่ข้างเขาแล้วสรุปสถานการณ์อย่างเรียบง่ายพวกเขาฟังจบ ก็โกรธกันมาก มีหลายคนที่ต้องการให้จัดการกับ
เพียงแต่แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้จัดการเขา เขาก็จบสิ้นอยู่แล้ว ขี้เกียจที่จะลงมือก็เท่านั้นปัง!แก้วเหล้ากระแทกเข้าที่หัวของซ่งอวี่โดยตรง แตกออกเป็นเสี่ยงๆ หน้าผากเลือดไหลไม่หยุดแม่หลิวตกใจอย่างมาก ดูเย่เทียนหยู่พูดง่ายขนาดนี้ เธอต้องเตรียมสืบหาอย่างละเอียดเสียหน่อย ดูว่าจริงๆ แล้วมีอะไรอยู่แต่ตอนนี้กังวลนิดหน่อย อารมณ์แปรปรวนมากๆ น่ะอีกอย่าง ตัวเองก็เคยสร้างความขุ่นเคืองมาก่อน จะทำยังไงถ้ามีการคิดบัญชีย้อนหลังด้วย นี่ทำให้เธอหวาดกลัวและกังวลนิดหน่อยซ่งอวี่ถึงกับหน้าถอดสี แต่เขาก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หน้าผากเลย เอาแต่พูดขอโทษซ้ำๆ “ครับ ครับ ขออภัยครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ จะออกไปตอนนี้เลยครับ”พูดจบ ก็หันกลับแล้วรีบเดินไปทันทีไม่รู้ว่าเพราะประหม่า หรือเพราะความกลัว ไม่ระวังจนไปชนเข้ากับบางอย่าง ล้มลงอย่างจัง แต่ก็ลุกขึ้นทันทีอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเดินออกไปทุกคนมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่ขณะที่ซ่งอวี่เดินจากไป แม่หลิวก็ประหม่า ลังเลที่จะพูดพ่อหลิวใช้แขนจับเธอไว้สักพักแม่หลิวรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไปในที่สุด “คือว่า เย่
เมื่อเวลานั้นหลิวซือซือได้เห็นในข่าว จำได้ว่าตระกูลซูมีผู้นำตระกูลคนใหม่แล้ว ยังแปลกใจไม่นึกว่าจะยังอายุน้อยขนาดนี้ เพิ่งจะเคยเห็นนี่แหละ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆสุดท้ายทำงานฝ่ายขาย ก็ทำให้รู้ไม่น้อยเหมือนกันเท่าที่เธอรู้ ตระกูลซูเป็นตระกูลที่ทรงอำนาจมากในเมืองเทียนไห่ ให้พูดก็คือเป็นตระกูลระดับมหาเศรษฐีในตำนาน ด้วยสถานะของพวกเขาเป็นไปไม่ได้เลยที่จะติดต่อกัน“ใช่สิ เธอคือ?”ซูเหวินหวามองหน้าเย่เทียนหยู่ พูดอย่างระมัดระวัง “พี่สะใภ้?”คำว่าพี่สะใภ้ ทำให้หลิวซือซือหน้าแดงขึ้นมาทันที ทั้งรู้สึกเขินทั้งมีความสุขไปด้วยเย่เทียนหยู่ทำอะไรไม่ถูก จะให้เขาพูดว่ายังไงดี“ใช่ ใช่แล้ว เธอคือแฟนของคุณชายเย่” แม่หลิวไม่กล้าแม้แต่จะเรียกชื่อของเย่เทียนหยู่เลยด้วยซ้ำ จึงพูดแนะนำอย่างรวดเร็วจากท่าทางของลูกสาวที่แสดงออกให้เห็นเลย นายน้อยซูคนนี้ดูทรงพลังมาก รอบตัวเย่เทียนหยู่รายล้อมไปด้วยคนที่ทรงพลังแบบนายน้อยคนนี้หรือเปล่านะ?ซูเหวินหวาได้ยินดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาอย่างประหลาดใจ อีกอย่างพี่เย่ยังคงยอดเยี่ยม บ่อยครั้งที่มักจะเปลี่ยนผู้หญิง ที่สำคัญเลยคือทุกคนต่างก็งามระดับประเทศทั้งนั้น เป
“ถ้าจะให้พูด ครั้งแรกที่เห็นเย่เทียนหยู่เป็นคนซื่อตรง บุคลิกก็ดี แต่ก็ยังกังวลใจว่าลูกสาวเธอจะต้องทนทุกข์ทรมาน ในความคิดฉัน ถ้าต้องสูญเสีย เย่เทียนหยู่ก็สูญเสียเช่นกัน”แม่หลิวบ่นไปพูดไป “ซือซือ ได้ยินหรือยัง จากนี้ต้องคอยฟังที่เย่เทียนหยู่พูดดีๆ เขาพูดอะไร เธอจะทำอะไร ก็ไม่ต้องใช้อารมณ์”“......”หลิวซือซือถึงกับพูดไม่ออก ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าใครกันที่พูดว่าพี่เย่เป็นคนไร้ประโยชน์ ตอนนี้เห็นว่าเขาแข็งแกร่ง ก็เปลี่ยนไปยังกับคนละคนแบบนี้พ่อหลิวไม่มีทางเลือก ปล่อยวาง ลูกสาวก็มีวาสนาของลูกสาวเอง ที่สำคัญ แม้ว่าจะเพิ่งคบกันไปไม่นาน แต่เขาก็รู้สึกว่าเย่เทียนหยู่เป็นคนดีไม่เลวเลยเย่เทียนหยู่ไม่มีความเขินอาย พูดรับประกันว่า “ผมเข้าใจว่าคุณลุงกังวลเรื่องอะไร คุณโปรดวางใจเถอะ ก่อนที่จะแต่งงาน ผมจะไม่นอนด้วยกันกับซือซือแน่นอน”“ดี ดีเลย นายพูดแบบนี้ ฉันก็ค่อยวางใจหน่อย” พ่อหลิวกล่าว“วางใจอะไรกันล่ะ พูดเรื่อยเปื่อย ตอนนี้มันยุคไหนกันแล้ว คนหนุ่มสาวไม่น้อยก็มีลูกก่อนแต่งทั้งนั้น มีแต่คุณนั้นแหละที่ยังหัวโบราณอยู่”แม่หลิวพูดโต้กลับอย่างรวดเร็ว “เทียนหยู่ นายอย่าไปสนใจเขาเลย นายกับซือซือ