“อะไรนะ บุหรี่นี่มูลค่าหนึ่งแสนต่อมวน พวกเขาสูบทองคำหรือไงกันนะ?”ใบหน้าของแม่หลิวเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ“บุหรี่อาจจะไม่สมราคาก็จริง แต่ของหายากมีมูลค่าเสมอ ผู้ที่จะได้บุหรี่นี้ ต้องรวยมีเกียรติ ที่แสดงถึงฐานะ การออกไปเจรจาธุรกิจก็จะทำให้ได้เปรียบไม่น้อยเลยล่ะ”พ่อหลิวอธิบาย“ถ้าเป็นอย่างนั้นแหละก็ งั้นบุหรี่นี่ เทียนหยู่ นายเอามันกลับไปเถอะ” แม่หลิวพูดก็จริง แต่บุหรี่ยังอยู่ในมือ เห็นได้ชัดเลยว่าเธอไม่อยากคืนให้“ไม่เป็นไรหรอกครับ ของที่ให้ไปแล้ว ไม่มีเหตุผลที่ต้องเอาคืน”เย่เทียนหยู่ปฏิเสธพ่อหลิวยังมีอะไรจะพูด โทรศัพท์เย่เทียนหยู่ก็ดังขึ้นมาพอดี ดูจากหมายเลขแล้ว คือหมายเลขของซ่งหยางที่เพิ่งจะโทรมาเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนว่า พวกเขาคงจะมีปัญหาอะไรจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่รีบร้อนขนาดนี้“ผมขอรับโทรศัพท์ก่อน”เย่เทียนหยู่ยืนขึ้นแล้วเดินไปเห็นว่าเย่เทียนหยู่ไปแล้ว แม่หลิวก็ลุกขึ้นเดินไปข้างๆ หลิวซือซือในทันที พูดกระซิบเบาๆ “ซือซือ เธอบอกมา ตัวตนของเย่เทียนหยู่คนนี้เป็นใครกันแน่ ถึงได้ดูแข็งแกร่งขนาดนี้”“หนูจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ!”หลิวซือซือพูดด้วยท่าทางทำอะไรไม่ถูก “หนูก็ไม่ร
“นี่เป็นเรื่องในตระกูลซ่งของพวกนาย” เย่เทียนหยู่พูดเบาๆ“นั่นก็ใช่ครับ ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงคำขอโทษ พวกเรายินดีที่จะมอบวิลล่าหลังหนึ่งในเขตหงติ่งเพื่อเป็นการชดเชยให้กับท่าน”“ฉันไม่ต้องการการชดเชยอะไรนั่นหรอก ถ้าคุณจริงจังล่ะก็ ชดเชยให้กับผู้หญิงที่เกือบจะถูกเขาหลอกเถอะ ถ้าวันนี้ฉันไม่อยู่ที่นี่เธอคงจบเห่แล้วล่ะ”“ได้ครับได้ครับ”ซ่งเหวินป๋อพยักหน้า“ตามนั้นแหละ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันวางแล้วนะ”“ช้าก่อนครับ!”“ซ่งเหวินป๋อได้ยินก็กังวล”“ยังมีอีกเหรอ?”“ถ้างั้น คุณชายเย่ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้คุณสะดวกไหม ผมอยากจะเชิญคุณมากินเลี้ยงด้วยกันสักมื้อ?” ซ่งเหวินป๋อพูดอย่างระมัดระวัง ในใจก็ประหม่าเขากังวลจริงๆ ว่าเย่เทียนหยู่จะไม่เห็นด้วย“ไม่ว่าง!”เย่เทียนหยู่ตอบตรงไปตรงมาพูดจบ ซ่งเหวินป๋อก็ถึงกับอึ้ง ท่าทางเปลี่ยนไปคนที่ได้ยินแบบเดียวกับเขาแต่ละคนก็มีท่าทางที่เปลี่ยนไป ทั้งหมดต่างก็สิ้นหวังจบสิ้นแล้ว คุณชายเย่คงจะยังโกรธมากเพื่อไม่ให้เกิดการสนทนาที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นในระหว่างการสนทนา ทุกคนจึงรวมปรึกษาหารือกัน ที่ซ่งเหวินป๋อโทรในครั้งนี้ ก็ได้ทำการเปิดสปีกเกอร์โฟนด้วยเดิมทีซ่ง
จัดการเขาเหรอ?ซ่งเหวินป๋อได้ยินไม่กี่คำ ต่างก็พากันสงสัยว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่านั่นคือตระกูลใหญ่ของเมืองหรงตู คิดจะหาเรื่องเขาตรงๆ งั้นหรือ?พี่ใหญ่ คุณไม่ได้ยินหรือเปล่าว่าคู่ต่อสู้ของพวกเราที่ต้องเจอเป็นใครน่ะ สมาชิกตระกูลซ่งของเขา ต่างก็เหมือนกันทีละคน ทั้งหมดต่างก็มีท่าทางตกตะลึง บางส่วนก็ไม่อยากจะเชื่อกับหูตัวเอง“ถ้างั้น คุณชายเย่ ตระกูลหลี่ว์คือตระกูลใหญ่ประจำเมืองหรงตู ความแข็งแกร่งก็ทรงพลังอย่างมาก ตระกูลเล็กๆ อย่างพวกเรานี้ เทียบกันไม่ติดเลย”ซ่งเหวินป๋อตัดพ้อตัวเอง อันที่จริงเขากำลังบอกเย่เทียนหยู่อย่างอ้อมๆ ถึงความแข็งแกร่งของตระกูลหลี่ว์“ฉันรู้หรอก”เย่เทียนหยู่กล่าว “แน่นอนว่าพวกนายอาจไม่ใช่คู่มือ แต่ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าเขามาแล้ว ก็มาบอกฉัน ฉันจะจัดการเขาเอง ไม่ต้องให้ถึงมือพวกนายหรอก”พูดจบ ซ่งเหวินหว่าก็เข้าใจแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังคงพูดจาใหญ่โตอยู่อีก หรือว่าเขาจะสามารถรับมือกับตระกูลหลี่ว์ได้จริงๆ?เพียงแต่ ตระกูลซ่งของตัวเขาก็ไม่ได้ให้ผลประโยชน์อะไรมากนัก เป็นเพียงวิลล่าหนึ่งหลังเท่านั้น มันจะคุ้มค่า
แม้ว่าเขาก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่ดูจากท่าทางของหยางต้าฝูถึงได้เข้าใจ เย่เทียนหยู่ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน คนที่ไม่เหมือนกันคนธรรมดา จะเป็นคนแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ“แต่ว่า นี่ก็น่ากลัวจริงๆ เลยนะ”“เขาสกุลเย่ หรือว่าจะเป็นคนตระกูลเย่แห่งเมืองหรงตู?” ทันใดนั้น ซ่งหยางก็เอ่ยปากพูด เพราะเหตุการณ์ของหลี่ว์เจิ้ง พวกเขาจึงได้รู้จักกับตระกูลแห่งเมืองหรงตูพยายามหาคนมาช่วยแทบตาย แต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ“ตระกูลเย่แห่งหรงตู?”“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”“คุณชายตระกูลเย่แห่งหรงตู จะมาอยู่ในที่เล็กๆ แบบนี้ได้ยังไงเป็นไปไม่ได้เลย”ซ่งเหวินป๋อโต้กลับในทันที ตระกูลเย่แห่งหลงตู นั้นคือหนึ่งในตระกูลชั้นนำในเมืองหรงตูไม่กี่ตระกูล คุณชายของพวกเขา เป็นถึงอัจฉริยะท่ามกลางคนหนุ่มสาวในประเทศ“ก็จริงอยู่ แต่ตัวตนของเขาเป็นใครกันแน่”ซ่งเหวินป๋อยิ้มเจื่อนแล้วพูด “ไม่ว่าจะยังไง คุณชายเย่ก็รับปากจะช่วยแล้ว บางทีวิกฤติของพวกเราอาจจะถูกคลี่คลายจริงๆ ก็เป็นได้”“จะกลัวก็แต่ เขาด่วนสรุปเร็วจนเกินไปก็เท่านั้น” ผู้อาวุโสคนหนึ่งถอนหายใจในขณะเดียวกัน ซ่งหลิงก็เดินเข้ามา ท่าทางเศร้าหมอง รีบพูด “พ่อคะ พี่คะ คุ
แม่หลิวเห็นว่าทั้งสองคนสนิทกันดี สีหน้ายิ้มแย้ม พูดอย่างมีความสุข “เทียนหยู่ คุณเป็นผู้ชายที่ดีจริงๆ ให้ฝากซือซือของฉันไว้ ป้าก็วางใจ”“ถ้าพวกเธอรู้สึกเหนื่อยแล้ว ใกล้ๆ นี้มีโรงแรมอยู่ บรรยากาศดีมากเลย เหมาะสำหรับคู่รักหนุ่มสาวอย่างพวกเธอได้พักผ่อน”“หรือไม่ก็ ให้ฉันจองให้พวกเธอตอนนี้เลยไหม จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีห้อง”หลังจากพูดจบ หลิวซือซือก็หน้าแดงเพราะเขินอายเย่เทียนหยู่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว จำเป็นต้องรีบส่งตัวลูกสาวออกมาขนาดนั้นเลยเหรอหลิวซือซือกลัวว่าเย่เทียนหยู่จะถูกจับได้ จึงรีบพูด “ไม่ต้องหรอกค่ะ พวกเราจัดการกันเองได้”“ดี ดีเลย งั้นคืนนี้พวกเธอสองคน เล่นกันให้สนุกนะ ฉันกับพ่อเธอ จะไม่ยุ่งกับเรื่องแบบนั้นแล้วล่ะ” แม่หลิวพูดเสร็จ ก็พาพ่อหลิวเดินจากไปเย่เทียนหยู่รู้สึกทำตัวไม่ถูกนิดหน่อย ทุกอย่างนี่มันอุตลุดอะไรแบบนี้นะ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ หันกลับมาดู ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นเรียบร้อยแล้วเหรอ!เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่ใครอื่น คือหลินหว่านหรูใช่แล้ว ยังมีซูถิงอีกคนหลินหว่านหรูใบหน้าซีดเซียว เพื่อต่อต้านการบังขับจากครอบครัว จึงห
สีหน้าของหลิวซือซือดูไม่ดีนัก แต่นึกถึงสิ่งที่ตัวเธอทำลงไปนั้นได้ทำลายพี่เย่ ทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขา ทำได้เพียงเงียบปากอย่างสงบเสงียมเท่านั้นเย่เทียนหยู่เริ่มที่จะทนไม่ไหวนิดหน่อยแล้ว แต่ก็อดทนต่อไปแล้วพูด “หว่านหรู นี่มันเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ นะ ทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ คงไม่ใช่ว่ามีคนจงใจพาเธอมาหรอกนะ?”“จงใจพาฉันมา?”“เย่เทียนหยู่ จนถึงตอนนี้คุณก็ยังคิดจะโยนความรับผิดชอบให้คนอื่นอีกเหรอ?”“หรือคุณกำลังจะบอกว่า ทั้งหมดนี่เป็นเพราะซูถิงที่เจตนาพาฉันมาที่นี่ ตั้งใจจะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราร้าวฉานงั้นเหรอ?”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเต็มไปด้วยความโกรธ พูดอย่างเย็นชา“ไม่ใช่งั้นหรือไง?” เย่เทียนหยูเหลือบมองไปที่หน้าซูถิง แววตาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกซูถิงถูกเย่เทียนหยู่มองหน้า ก็ตกใจอย่างเห็นได้ชัด ในใจรู้สึกลนลานอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร หลินหว่านหรูก็พูดด้วยความโกรธ “ไม่ใช่แน่นอน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับซูถิง มาที่นี่ ทั้งหมดเป็นความคิดของฉันเอง”ซูถิงได้ยินดังนั้นก็โล่งใจ เดิมทีเธอคิดที่จะพาหลินหว่านหรูมาที่นี่อยู่แล้ว ด้วยความบังเอิญ หลินหว่านหรูพูดออกมาพอดีว่าอ
ได้ยินที่หลินหว่านหรูพูด ซูถิงก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความดีใจสำเร็จ นึกไม่ถึงว่าจะสำเร็จจริงๆทั้งหมดนี้ นึกไม่ถึงจริงๆ ทั้งหมดนี้เป็นไปอย่างราบรื่นในตอนนี้ คุณชายกงซุนจะต้องให้รางวัลกับตัวเธอจำนวนมหาศาลอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่ตะลึงนิดหน่อย อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น จากที่เขาดู หลินหว่านหรูคงพูดไปเพราะความโกรธแต่ว่า ตอนนี้หลินหว่านหรูโกรธมากจนไม่สนอะไรแล้ว ไม่แม้แต่จะสนใจเขาด้วยซ้ำผู้อาวุโสหลินถึงกับอึ้ง เกิดอะไรขึ้นกับหลานสาวกัน ทำไมจู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนความคิด แต่นั่นมันไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือหลานสาวเห็นด้วยแล้วเขาตื่นเต้นจนแทบบ้าในทันที แล้วพูด “ดี ดี อย่างนี่สิหลานรักของฉัน”แม้ว่าจะแต่งงานกับคุณชายคุณชายตระกูลหลี่ว์แห่งเมืองหรงตูหลี่ว์เจิ้งได้ แต่ก็ยังสามารถแต่งงานกับคุณชายตระกูลกงซุนจากเมืองหลวงได้อยู่ นั่นก็ไม่เลวเหมือนกันวางสายแล้ว พ่อหลินแม่หลินทราบข่าวคราว ก็ดีใจมากคนในบ้านต่างก็พากันดีใจราวกับฉลองปีใหม่อย่างนั้นเลยมีแค่หลินหว่านหรูเท่านั้นที่มีสีหน้าดูไม่ได้ หลังจากระบายความโกรธกับเย่เทียนหยู่แล้ว ก็หันหลังจากไปซูถิงเองก็รีบตา
ผู้อาวุโสหลินยังกลัวว่าหลานสาวจะเปลี่ยนใจ อยากจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงเวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคยิ่งมีมาก“ได้ครับ ผมจะไปพรุ่งนี้แต่เช้าตรู่”กงซุนจื้อพูดในทันที“ตกลง”ผู้อาวุโสหลินเห็นด้วย แล้วก็โทรศัพท์หาหลินหว่านหรู ให้เธอรีบกลับบ้านด่วน มีเรื่องต้องหารือหลินหว่านหรูเดาได้ในทันทีเลยว่าจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับกงซุนจื้อ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “วันนี้หนูไม่อยากกลับบ้าน ถ้ามีเรื่องอะไรค่อยพูดกันพรุ่งนี้”“พูดอะไรพรุ่งนี้ รีบกลับมาด่วนเลย”“ฉันจะบอกเธอนะ เธอยอมรับข้อเสนอแต่งงานแล้ว กงซุนจื้อเป็นคนมีความสามารถ แล้วยังมีประสบการณ์การศึกษาในต่างประเทศอีก ฐานะเท่าเทียมกับเธอ ช่างเหมาะสมกันจริงๆ”ผู้อาวุโสหลินกล่าวสีหน้าของหลินหว่าหรูดูไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าเธอรู้สึกเสียใจภายหลังจริงๆ แม้ว่าเธอจะโกรธเย่เทียนหยู่มาก แต่ก็ไม่ควรรับปากเร็วแบบนี้เลยสุดท้าย เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับกงซุนจื้อ ไร้ความรู้สึกจริงๆ แม้จะคิดถึงสิ่งที่เขาทำเมื่อไม่นานนี้ ก็ยังรู้สึกรังเกียจอยู่นิดหน่อยถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาคือขอทานตัวน้อย ก็ไม่ได้สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะว่าคิดว่าเขาเป็นขอ