เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของหลินหว่านหรูก็ดูมืดมนไปเล็กน้อยถ้าเย่เทียนยู่แต่งงานกับคนตระกูลหยางจริง ๆ เธอและเย่เทียนยู่ก็คงถึงจุดจบเมื่อคิดถึงเรื่องนี้เธอก็รู้สึกไม่สบายใจแต่นี่คือความจริงที่อยู่ตรงหน้าเธอ และเธอก็หนีไม่พ้น ไม่อย่างนั้นมันจะต้องทำให้ทุกอย่างวุ่นวายมากขึ้นแน่“อะไรนะ!”“อย่างนั้นเองเหรอ!”สีหน้าของคุณพ่อตระกูลหลินและคุณแม่ตระกูลหลินเปลี่ยนไปและทั้งสองก็มองหน้ากันโดยเฉพาะคุณแม่ตระกูลหลิน เธอกำลังคิดกับตัวเองก็ว่าอยู่แล้วเชียว ว่าไอ้คนบ้านนอกอย่างเย่เทียนหยู่จะมีอำนาจบารมีขนาดนั้นได้ยังไงกัน?แค่ไม่คิดว่าเขาจะโชคดีขนาดสามารถดึงดูดความสนใจของลูกสาวของประธานหยางได้ แต่หากเป็นแบบนั้นวิธีการของเธอก็คงต้องเปลี่ยนหากเย่เทียนหยู่ได้รับอำนาจจากการอยู่กับหยางเฉียนเฉียน เขาก็คบกับลูกสาวของเธอต่อไม่ได้แล้ว ถ้าเขาอยู่กับลูกสาว ไม่เพียงแต่เขาจะเสียอำนาจไป แต่เขาอาจทำให้ประธานหยางขุ่นเคืองอาจถึงขั้นทำให้ตระกูลหลินตกที่นั่งลำบากหาจุดหวนคืนไม่ได้อีกเลยเมื่อพวกเขารู้เรื่องนี้แล้ว พวกเขาก็พากันด่าลูกสาวแสนโง่เขลาของพวกเขาที่เกือบจะพาตระกูลหลินไปถึงจุดจบ โชคดีที่เธอเล่
เมื่อสิ้นคำแนะนำ ไม่ต้องพูดเลยว่าหลินหว่านหรูงุนงงขนาดไหน แม้แต่หลินจื่อตงก็ยังตกตะลึงเรื่องอะไรกันช่างยุ่งเหยิงแบบนี้หลินหว่านหรูโกรธมาก เรื่องอะไรถึงให้เธอกับเย่เทียนหยู่สาบานเป็นพี่น้องกัน?เย่เทียนหยู่ก็เองตกใจกับความคิดของคุณแม่ตระกูลหลินเช่นกันแต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ การที่คุณพ่อตระกูลหลินพูดต่อว่า “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว อันที่จริงพ่อมีความคิดที่ดีกว่านี้นะ” “เอาอย่างนี้ไหม เทียนหยู่ เราเองก็สนิทกันมากขนาดนี้แล้ว คุณก็ยอมรับเราเป็นพ่อแม่บุญธรรมไปเลย ต่อจากนี้ไป เราก็จะได้เป็นครอบครัวกันจริง ๆ กันยังไงล่ะ”ต้องขอบอกว่า ทั้งคู่ช่างคิดได้สวยงามจริง ๆแต่เย่เทียนหยู่กลับพูดไม่ออก ความสัมพันธ์ของเราดีขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร? สถานการณ์นี้ทำเอาทัศนคติในหัวเขาแทบระเบิดหลินหว่านหรูทนไม่ไหวอีกต่อไป “พ่อกับแม่พอสักที มาใครเป็นเป็นอะไรกัน?”“อะไรเป็นอะไร ก็เทียนหยู่กับคุณหนูหยางน่ะเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง พวกเขาถูกกำหนดมาให้อยู่ด้วยกัน ที่เราจัดการแบบนี้ก็เพราะลูก?”คุณแม่ตระกูลหลินถามกลับ ตัวเองทำเพื่อลูกสาวหมดทั้งหัวใจขนาดนี้ ทำไมเธอถึงได้ไม่เข้าใจกันนะเพราะถึ
หลินหว่านหรูรู้สึกมีความสุขอยู่ภายในใจ แต่เธอกลับพูดว่า: “ไม่ว่านายจะคิดยังไง ฉันก็ไม่สนใจนายอยู่แล้ว”“แล้วคุณเสียใจเรื่องที่ยกเลิกการหย่าหรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม“ถ้าอยากจะคืนคำก็คืนเถอะ”หลังจากพูดจบ หลินหว่านหรูก็เดินกลับไปแต่เธอก็แอบก่นด่าอยู่ในใจ เรื่องอะไรไม่ควรพูดก็ยังพูดถูกยกเลิกไปแล้วแท้ ๆ ต่อไปก็ไม่มีข้อตกลงนั้นอยู่แล้ว ยังจะพูดเรื่องนั้นขึ้นมาทำไมอีกรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่เทียนหยู่ เขาเริ่มตระหนักได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้มีเขาอยู่ในใจ เพียงแค่ว่าเธอปากเธอดันเอาแต่ไม่ยอมรับก็เท่านั้น แต่นั่นก็ไม่สำคัญหรอก เพราะเขาไม่สนใจเรื่องนั้นโดยเฉพาะเวลาที่เขาคิดถึงวัยเด็กของเขา ถ้าหลินหว่านหรูไม่ช่วยเขา เขาอาจจะตายไปนานแล้วแน่นอนว่าสำหรับนางฟ้าในหัวใจของเขา เขาย่อมมีความอดทนต่อเธอมากกว่าคนอื่นทันทีที่หลินหว่านหรูกลับมาข้างใน คุณแม่ตระกูลหลินก็ถามทันที: “หว่านหรูบอกแม่ตรง ๆ ซะ ว่าตอนนี้ลูกคิดยังไงกันแน่?”“คิดยังไงอะไรคะ?”“ก็เรื่องเย่เทียนหยู่น่ะสิ แม่ขอบอกลูกก่อนเลยนะ ว่าอย่าคิดที่จะคบกับเย่เทียนหยู่เด็ดขาด เคยคิดบ้างไหมว่าประธานหยางจะทำยังไงกับตระก
หลังจากเย่เทียนหยู่ขึ้นรถและจากไปได้ไม่นานทันใดนั้น รถสีดำคันหนึ่งก็ขับตรงมาขวางหน้ารถและหยุดเขาไว้จากนั้นบอดี้การ์ดชายหลายคนในชุดสูทก็ลงมา ผู้นำเคาะหน้าต่างรถของเย่เทียนหยู่ แล้วพูดอย่างเย็นชา: “ลงจากรถแล้วมากับเราซะ นายน้อยของเราอยากพบคุณ”เย่เทียนหยู่ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด เขาพูดตอบอย่างใจเย็น: “ไม่มีเวลาแล้ว ถ้านายน้อยของคุณอยากพบผม ก็ให้เขามาหาผมเอง ทำไม เขาพิการเหรอหรือไม่มีหน้าออกมาเจอใครแล้ว?”“บังอาจ!”เมื่อชายคนนั้นได้ฟัง เขาก็โกรธทันทีและพูดอย่างเย็นชา: “ไอ้เปี๊ยก แกควรคืนคำพูดที่แกพูดซะ ไม่อย่างนั้นแกได้เจอบทเรียนแน่”“โทษทีนะ แต่คำที่พูดออกไปแล้วก็เหมือนการสาดน้ำ เอาคืนกลับไปไม่ได้หรอก”“คุณต่างหาก ถ้าไม่อยากตายก็อยู่ให้ห่างจากผมซะ”เย่เทียนหยู่ขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับอีกฝ่าย“รนหาที่ตาย!”ชายคนนั้นเริ่มโกรธ เขายื่นมือขวาออกไปราวกับคิดว่าจะคว้าตัวเย่เทียนหยู่และดึงตัวออกไปทางหน้าต่างรถเสียเลยแต่ทันทีที่เขาเอื้อมมือเข้าไป มือขวาก็ถูกคว้าไปกระแทกกับหน้าต่างอย่างแรงก่อนจะได้ยินเสียงกึก จากนั้นเขารู้สึกถึงกระดูกข้อมือที่หักได้อย่างชัดเจนต่อจากนั้นเขาถึงถูกป
“เรื่องของลูกกับคุณชายเย่มันเป็นไปไม่ได้ ลูกรู้ไหมว่าการแต่งงานระหว่างหลินหว่านหรูกับคุณชายเย่น่ะถูกกำหนดมาตั้งแต่วัยเด็กแล้ว”ภายใต้ความร้อนรน หยางต้าฝูรีบบอกเรื่องที่เย่เทียนหยู่ให้เขาไปตามหาเด็กสาวตัวน้อยออกมาหยางเฉียนเฉียนตกตะลึงไปทันทีหลังจากได้ยินแบบนั้น เธอไม่คิดเลยว่าพี่เย่และประธานหลินจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเช่นนี้ ที่แท้แล้วพี่เย่ก็ตามหาประธานหลิน คนที่เป็นดั่งนางฟ้าในใจของเขามาตลอด“พ่อคะ ที่พ่อพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ?” หลินหว่านหรูถาม“แน่นอน ไม่อย่างนั้น ลูกคิดว่าทำไมคุณชายเย่ที่มีพลังอำนาจขนาดนั้น ยังยอมอดทนต่อสิ่งที่ตระกูลหลินทำด้วยกันล่ะ ขนาดตัวประธานหลินเองยังไม่ค่อยเกรงใจคุณชายเย่เลย”“ทั้งหมดนั่นก็เพราะประธานหลินเป็นรักแรกในใจของคุณชายเย่ เป็นผู้หญิงที่เขาตามหาและปกป้องดูแลมาโดยตลอดครับ”หยางต้าฝูอธิบาย ตัวเขาจะไม่ได้อยากให้ลูกสาวของเขาอยู่กับเย่เทียนหยู่ได้ยังไง ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็จะได้เป็นพ่อตาของราชามังกร ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่งแต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ เขาจึงต้องวางแผนสำหรับลูกสาวล่วงหน้า และไม่ปล่อยให้เธอถลำลึกมากเกินไปยิ
หลังจากได้ยินสิ่งที่พ่อของเธอพูด ในที่สุดหยางเฉียนเฉียนก็ยอมรับปากเมื่อเห็นว่าในที่สุดเขาก็สามารถโน้มน้าวลูกสาวของเขาได้สำเร็จ หยางต้าฝูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโอกาสแบบนี้มีให้เห็นได้ไม่มาก เว้นแต่ราชามังกรจะแต่งงานกับลูกสาวของเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่มีโอกาสใดดีไปกว่าการแต่งงานเข้าไปในตระกูลถังอีกแล้ว“แต่ว่าเรื่องนี้ ห้ามบอกคุณชายเย่นะ”“ทำไมเหรอคะ?”“พ่อกลัวเขาจะคิดว่าลูกถูกทำให้น้อยใจ แล้วต่อต้านพรรคถัง พลังอำนาจของพรรคถังเมื่อกี้พ่อก็บอกลูกไปแล้ว ถ้าคุณชายเย่จะต่อกรกับพวกเขา มีแต่ต้องตายเท่านั้น”“หนูทราบดีค่ะ แต่ถ้าพี่เย่รักเพียงภรรยาของเขา แล้วเขาจะต่อสู้กับพรรคถังเพื่อหนูได้ยังไงกันคะ?”“ก็ไม่แน่หรอกนะ ถึงเขาจะรักเพียงภรรยาของเขา แต่เขาก็มีความรู้สึกต่อลูกอยู่เหมือนกัน รับประกันไม่ได้หรอกว่าเขาจะไม่ใช้อารมณ์ เห็นว่าตนเองเก่งกาจก็เลยออกหน้า”“อือ! หนูเข้าใจแล้วค่ะ”หยางเฉียนเฉียนมีความสุขอยู่ภายในใจเมื่อได้ยินคำพูดของพ่อ อย่างน้อยในหัวใจของพี่เย่ก็ยังพอมีที่ของเธออยู่บ้างแต่เมื่อเธอคิดถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของพรรคถัง เธอก็ระงับความคิดที่เธออยากจะบอกพี่เย่เพื่อทดสอบดูว่
“เอาล่ะ ตอนนี้บอกผมได้แล้วใช่ไหม ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” เย่เทียนหยู่ถาม“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่อารมณ์เสียน่ะ”“จะอารมณ์เสียก็คงมีสาเหตุเหมือนกันใช่ไหม”“พี่เย่ อย่าถามอีกเลยนะคะ คืนนี้พี่พักผ่อนเป็นเพื่อนฉันหน่อยเถอะนะ”“ก็ได้ คืนนี้ผมจะตามใจคุณ”เย่เทียนหยู่ไม่ได้ถามต่อหลังจากขับไปได้สักพักรถก็มาหยุดอยู่ที่หน้าบาร์แห่งหนึ่งหลังจากที่หยางเฉียนเฉียนลงจากรถ เธอก็จับมือของเย่เทียนหยู่แล้วเดินเข้าไปข้างในไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงข้างใน แสงไฟหลากสีกะพริบอย่างบ้าคลั่ง และเสียงเพลงที่ดังกึกก้องทำให้หัวใจของผู้คนสั่นไหวที่ใจกลางฟลอร์เต้น ชายหญิงที่มึนเมาคู่หนึ่งบิดตัวเต้นอย่างบ้าคลั่งเพื่ออวดตัวตนที่สวยที่สุดของตน โดยไม่คำนึงถึงการสัมผัสทางกายระหว่างชายหญิงแต่อย่างใด“เรามาทำที่นี่ทำไมเหรอ?” เย่เทียนหยู่ไม่ชอบสภาพแวดล้อมแบบนี้จริง ๆ“ผ่อนคลายไงคะ!”ขณะที่หยางเฉียนเฉียนพูดพร้อมกับเดินไปยังแผนกต้อนรับ เธอสั่งเครื่องดื่มมึนเมาไปมาก จากนั้นก็พาโต๊ะนั่งเย่เทียนหยู่ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตามเธอไปหลังจากนั่งลงแล้ว หยางเฉียนเฉียนก็ดื่มไวน์ไปหลายแก้ว โดยที่พวกเขาไม่ได้พูดคุยอะไ
จากท่าทางลุ่มหลงและเพลิดเพลินของเย่เทียนหยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็หลงทางไปเล็กน้อยแต่ในขณะนี้ท่าทางโกรธของหลินหว่านหรูก็แวบขึ้นมาในใจของเขาเขาได้สติขึ้นมาในทันที เขาสัญญากับหลินหว่านหรูไว้แล้วว่าเขาจะรักเพียงแค่เธอเท่านั้น แล้วเขาจะทำมั่วซั่วแบบนี้ได้ยังไงทันใดนั้นดนตรีก็หยุดลงทุกคนหยุดการเคลื่อนไหว และหลายคนมองไปยังเย่เทียนหยู่หลังจากที่หยางเฉียนเฉียนหยุด ใบหน้าของเธอก็แดงมากขึ้น และร่างกายของเธอก็ล้มทับแนบตัวอิงเข้ากับเย่เทียนหยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอเหนื่อยหรือเพราะเธอรู้สึกอ่อนแอเมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนของเย่เทียนหยู่กันแน่แต่เธอเพลิดเพลินกับความรู้สึกนี้มากในเวลานี้ไม่มีเสียงเพลงแล้ว เย่เทียนหยู่พยายามผลักหยางเฉียนเฉียนอย่างใจเย็น และในขณะเดียวกันเขาก็กระซิบว่า: “ทุกคนกำลังมองอยู่นะ เราลงไปกันเถอะ”“ฉันไม่กล้ามองใครเลย คุณอุ้มฉันลงไปหน่อยนะคะ” หยางเฉียนเฉียนพึมพำเย่เทียนหยู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตัวเหมือนลิงให้คนอื่นดู เขาอุ้มหยางเฉียนเฉียนลงไปในขณะที่ทุกคนมองเธอด้วยความอิจฉาแต่สิ่งที่ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก คือเมื่อเขามาถึงที่นั่ง หยางเฉียนเฉียนกลับไม่ยอมลง