ทันทีที่หลินหว่านหรูวางสาย ปู่รองและสมาชิกครอบครัวก็ต่างก็จับจ้องไปที่หลินหว่านหรู พวกเขาต่างหวังว่าจะได้รับข่าวดีจากเธอแม้ว่าจะบอกว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและดูเหมือนจะไร้หนทาง แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ได้คุยกันเรื่องนี้ แล้วยังขอหมายเลขโทรศัพท์ไปหลินหว่านหรูยิ้มอย่างขมขื่นและพูดอย่างช่วยไม่ได้: “เย่เทียนหยู่บอกว่าเขาจะลองดู แต่ไม่ได้รับประกันนะคะ” เธอไม่กล้ารับประกันให้เย่เทียนหยู่“ลองเหรอ?”“พวกคุณก็เอาแต่เชื่อคำโม้ลม ๆ แล้ง ๆ ของมันเท่านั้น!”“เชื่อไหมว่าภายในห้านาทีนี้เดี๋ยวมันก็โทรมาบอกว่าไม่ได้ผลเราทำอะไรไม่ได้”คุณแม่ตระกูลหลินล้อเลียน“ก็นั่นน่ะสิ ถ้าเขามีเก่งแบบนั้นจริงเขาคงจะไม่ขอเบอร์ท่านชายเป้าจากเราหรอก” หลินซินลูกชายของปู่รองก็พูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดีเช่นกัน“ถ้างั้นเราควรทำยังไงดี รีบจ่ายเงินกันเถอะนะ” ลูกสะใภ้ของคุณปู่รองกังวลมากปู่รองพยักหน้าและพูดว่า: “ถ้ายังไงเราจ่ายเงินกันดีกว่านะ”แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหลินหว่านหรูก็ดังขึ้นเธอก้มหน้าลงแล้วมอง เอ๊? นี่ไม่ใช่เบอร์ที่คุณปู่รองบอกเธอเมื่อกี้หรอกเหรอ?“ใครน่ะ?”ทุกคนตื่นเต้น และแน่นอนว่าพวกเขาให้ความ
ยิ่งไปกว่านั้น ใครจะกล้าแสดงละครเป็นท่านชายเป้ากันล่ะ? ถ้าให้ท่านชายเป้าตัวจริงรู้เรื่องนี้ มีหวังได้ตายอนาถกันพอดีในขณะนี้ คุณแม่ตระกูลหลินสับสนอย่างหนักความสามารถของเย่เทียนหยู่น่ากลัวและทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอ?แค่โทรไปสายเดียวก็ทำให้ท่านชายเป้ากลัวได้ขนาดนี้?ทำไมเรื่องราวต่าง ๆ ถึงรู้สึกเหลือเชื่อจนแทบไม่อาจทำให้ผู้คนเชื่อได้เลยไม่ มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆแต่ในเวลานี้ หลินจื่อตงคือคนที่รู้สึกตื่นเต้นมากที่สุดเป็นไปตามที่คาด ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ ขอแค่พี่เขยของเรายอมออกหน้าไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาไม่ได้ไม่เพียงแต่แก้ไข แต่ยังน่าตกใจมากที่แม้แต่ท่านชายเป้าซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมในเมืองเจียงไห่ก็ยังเคารพนบน้อม น่าตกใจเกินกว่าที่เขาเองจินตนาการเอาไว้เสียอีกพี่เขย!คุณหล่อมาก คุณคือไอดอลที่แท้จริงของผม!หลินหว่านหรูสงบลงและพูดอย่างเร่งรีบ: “ท่านชายเป้า ฉันขอโทษนะคะ พวกเขาไม่รู้จักค่อยรู้จักคุณ เพราะอย่างนั้นพวกเขาก็เลยเข้าใจผิดว่าคุณไม่ใช่ตัวจริง”“มันไม่สำคัญหรอกครับ ขอแค่คุณหลินไม่ตำหนิเรื่องที่ผมทำก็พอแล้ว”เท่าชายเป้ากล่าวอย่างสุภาพ“จะเป็นแบบนั้นไ
ครั้งนั้นท่านชายเป้าล่าถอยไปกะทันหันไม่ใช่เพราะหลิวเจี๋ยแต่เป็นเพราะเทียนหยู่ถึงได้ยอมถอยเธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ แต่ข้อเท็จจริงที่อยู่ตรงหน้าเธอทำให้เธอต้องเชื่อแบบนั้นมันเป็นความจริง!ถ้าอย่างนั้นอำนาจของเย่เทียนหยู่?คนที่สามารถทำให้ท่านชายเป้าหวาดกลัวได้นั้นจะต้องมีความมีอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวขนาดไหนหลินจื่อตงรู้สึกตื่นเต้นมาก รู้อยู่แล้วเชียวว่าต้องเป็นพี่เขยที่ช่วยเราไว้ในวันนั้นจริง ๆต่อให้ตัวเองปฏิบัติต่อเขาแบบนั้น แต่เขาก็ยังช่วยตัวเองเอาไว้แต่เขาไม่เคยคิดเลย ว่าในเวลานั้นเย่เทียนหยู่ไม่พูดอะไรเลย และจางเป้าก็ถอยกลับไปด้วยตัวเองหลังจากที่ท่านชายเป้าพูดจบ เขาก็เห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเสียง เขากังวลมากจึงพูดอย่างเร่งรีบ: “ประธานหลิน ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่าครับ? ถ้าผมพูดไปก็อย่าถือโทษผมเลยนะครับ”เป็นความผิดของเขาเองที่เมื่อครู่พูดจาเย่อหยิ่งไปหน่อยแต่แน่นอนว่าเขาดูถูกขยะอย่างหลิวเจี๋ยจริง ๆ“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ใช่เพราะคุณหรอกนะคะ” หลินหว่านหรูส่ายหน้าแต่คุณแม่ตระกูลหลินยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ “ท่านชายเป้า ความสัมพันธ์ของคุณกับเย่เทียนหยู่เป็นยังไงบ้าง? ทำไมคุณถึงต้
“อะไรนะ ได้เข้าร่วมหอการค้าหลงเถิงเพราะเย่เทียนหยู่เหรอ?”“แล้วยังเรื่องที่ไปจัดการภรรยาตระกูลซา กับทำให้ซ่งหยางยอมอ่อนข้อ เรื่องทั้งหมดนี่เย่เทียนหยู่ทำเป็นคนทำอย่างนั้นเหรอ?”“แถมเรื่องท่านชายเป้าด้วยวันนี้!”“เย่เทียนหยู่ ไอ้คนไร้อำนาจที่ลงจากภูเขาอย่างมันมีอำนาจขนาดนี้ได้ยังไง หว่านหรู ลูกแน่ใจหรือเปล่าว่าลูกไม่ได้ถูกเย่เทียนหยู่หลอกอยู่น่ะ?”“ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอนค่ะ หนูไปรู้เรื่องนี้มาด้วยตัวเอง ว่าไปแล้วหลังจากเรื่องวันนี้ เขาคงไม่ได้หลอกเราหรอกใช่ไหมคะ” หลินหว่านหรูถามกลับ“ถ้าอย่างนั้นเย่เทียนหยู่ก็กำลังซ่อนความลับอะไรเอาไว้จริง ๆ สินะ”คุณแม่ตระกูลหลินตกใจมาก ถ้าเย่เทียนหยู่มีอำนาจขนาดนั้นเธอยังจะต้องไปตามหาลูกเขยใหม่ที่ข้างนอกนั่นทำไมอีก“แม่ครับ เรื่องที่ผมบอกมันเป็นเรื่องจริงนะ ผมบอกไปตั้งนานแล้วว่าพี่เขยผมคนนี้น่ะอำนาจเหนือคนธรรมดา ต้องไม่ใช่แบบที่แม่คิดแน่” หลินจื่อตงกล่าวเสริม“จื่อตง ลูกไปเจอเรื่องอะไรมาใช่ไหม?”ก่อหน้านี้ คุณแม่ตระกูลหลินคิดมาตลอดว่าลูกชายของเธอเป็นบ้า แต่การค้นพบหลายเรื่องในระยะนี้ นอกจากมุมมองที่มีต่อเย่เทียนหยู่แล้ว ลูกของเธอก็ยังปกติดีทุ
เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเธอเชิญเย่เทียนหยู่แล้ว คุณแม่ตระกูลหลินก็พออกพอใจ ก่อนจะให้ลูกสาวกลับไปที่ห้องได้คุณพ่อตระกูลหลินกลับมาดึกเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ก็ตกใจมาก เขาไม่คิดเลยว่าเย่เทียนหยู่จะมีความสามารถขนาดนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ปกติเขาจะทนงตนขนาดนั้นดูท่าพรุ่งนี้คงต้องพยายามกำจัดความขัดแย้งกันเสียหน่อยไม่นานก็มาถึง 11 โมงของวันรุ่งขึ้น แต่ว่าเย่เทียนหยู่ก็ยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี้ทำให้คุณแม่ตระกูลหลินออกจะรู้สึกกังวลเล็กน้อย: “หว่านหรู ทำไมเย่เทียนหยู่ยังไม่มาอีก ลูกช่วยโทรไปถามหน่อยสิว่าเขาอยู่ที่ไหน” เธอพูดกับหลินหว่านหรูหลินหว่านหรูไร้ทางเลือก แม่ของเธอดูใช้อำนาจมากเกินไปแล้วเมื่อก่อน เธอใช้ทุกวิถีทางเพื่อขับไล่เย่เทียนหยู่ออกจากบ้าน แต่ตอนนี้ดันอยากจะหาราชรถไปรับเขากลับเข้าบ้านมาเสียอย่างนั้นแต่ในตอนนั้นเอง คนรับใช้ที่ถูกจัดให้เฝ้าประตูเข้ามาและรายงานว่า: “คุณนายคะ เย่เทียนหยู่มาแล้วค่ะ”“มาแล้วเหรอ? ยอดเลย!”“แล้วนี่เธออะไรกัน กล้ามาเรียกชื่อเย่เทียนหยู่ ต้องเรียกว่าคุณชาย!”แม้ว่าคุณแม่ตระกูลหลินจะกำลังตื่นเต้น แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะดุคนรับใช้“ค…ค่ะ ฉันผิดไปแ
หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง อยากจะบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องล้อเล่นแบบไหนกัน แต่เธอก็ทำไม่ได้ เพราะเธอเองก็อยากยกเลิกข้อตกลงนี้เหมือนกัน“เจ้าเด็กโง่ มัวอมพะนำอะไรอยู่ ทำไมไม่พูดล่ะ?” แม่หลินเป็นกังวล“ฉ…ฉันฟังพ่อแม่ของฉันค่ะ”หลังจากที่ หลินหว่านหรูพูดจบคอของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นเธอก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยทันที แน่นอนว่าเธอไม่อยากหย่า ก็เลยอาศัยจังหวะนี้ให้เป็นประโยชน์“นั่นสินะ เทียนหยู่คุณก็เห็นแล้วใช่ไหม ว่าหว่านหรูไม่ได้ต้องการหย่ากับคุณหรอกนะ”“แม่ พูดถึงเรื่องอะไรกันคะ”“แม่พูดไร้สาระหรือไง แกคิดอะไรแม่จะไม่รู้เหรอ? เมื่อก่อนบอกให้หย่ากับเย่เทียนหยู่ลูกเคยฟังที่ไหน พอมาตอนนี้บอกให้ยกเลิกการหย่าแล้วคบกับเย่เทียนหยู่ต่อล่ะรับปากไวเสียยิ่งกว่าใคร”บางครั้งแม่ตระกูลหลินก็ฉลาดพอตัว“แม่!”“ก็ได้ แม่ไม่บ่นลูกก็ได้!”คุณแม่ตระกูลหลินหันไปหาเย่เทียนหยู่ แล้วพูดว่า “เทียนหยู่ เมื่อก่อนแม่อาจจะปฏิบัติต่อคุณเอาไว้แย่มาก แต่นั่นเป็นเพราะแม่เข้าใจผิดไป”“แม่คิดมาตลอดว่าคุณเป็นคนไร้ประโยชน์ที่เอาแต่เที่ยวเล่นใช้ประโยชน์จากคนอื่น คิดว่าคุณคงให้ความสุขกับหว่านหรูไม่ได้ ก็เลยพูดคำ
หลินหว่านหรูคิดออกทั้งหมดแล้วจึงพูดขึ้นทันที: “แม่คะ เที่ยงแล้วนะ หนูหิวแล้วล่ะ ถึงเวลาเสิร์ฟอาหารแล้วหรือยัง?”เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินดังนั้นก็พูดทันทีว่า “ใช่ ๆ เรามาคุยกันต่อระหว่างกินข้าวเถอะ”“นั่นสิ เทียนหยู่ ลูกเขยของเราต้องดื่มสักหน่อยนะวันนี้” คุณพ่อตระกูลหลินยิ้มขณะดึงเย่เทียนหยู่ไปนั่งที่โต๊ะอาหารเขายังขอให้เย่เทียนหยู่นั่งที่นั่งหลักด้วยแต่เย่เทียนหยู่ออกจะรู้สึกไม่ค่อยดี ก็เลยให้คุณพ่อตระกูลหลินนั่งเรื่องนี้ทำเอาหลินหง คุณพ่อตระกูลหลินมีความสุขสุด ๆ ถึงกับยกย่องเย่เทียนหยู่ที่เป็นสุภาพบุรุษ เพราะเหล่าคุณชายจากตระกูลใหญ่พวกนั้นคงไม่ยอมให้เขาแบบนี้อีกทั้งเขาก็เป็นคนที่มีมารยาทมาก เหมือนคนที่ถูกอบรมสั่งสอนมาแต่เล็กเย่เทียนหยู่แอบยิ้มแห้ง แม้ว่าพ่อของหลินและแม่ของหลินจะมีทำดีขึ้นมาก แต่เขาก็ปรับตัวเข้ากับมันไม่ได้จริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะท่าทางที่ดีเกินไปแบบนี้“เทียนหยู่ ต่อไปก็ฝากหว่านหรูไว้ด้วยนะ ต้องดีกับเธอให้มาก ๆ ล่ะ”“คุณลุงไม่ต้องห่วงครับ ผมจะทำแบบนั้นแน่”“ยังเรียกลุงอยู่อีก ต้องเรียกว่าพ่อสิ”“เอาแบบนี้แล้วกัน คืนนี้นอนในห้องของหว่านหรูได้เลย
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของหลินหว่านหรูก็ดูมืดมนไปเล็กน้อยถ้าเย่เทียนยู่แต่งงานกับคนตระกูลหยางจริง ๆ เธอและเย่เทียนยู่ก็คงถึงจุดจบเมื่อคิดถึงเรื่องนี้เธอก็รู้สึกไม่สบายใจแต่นี่คือความจริงที่อยู่ตรงหน้าเธอ และเธอก็หนีไม่พ้น ไม่อย่างนั้นมันจะต้องทำให้ทุกอย่างวุ่นวายมากขึ้นแน่“อะไรนะ!”“อย่างนั้นเองเหรอ!”สีหน้าของคุณพ่อตระกูลหลินและคุณแม่ตระกูลหลินเปลี่ยนไปและทั้งสองก็มองหน้ากันโดยเฉพาะคุณแม่ตระกูลหลิน เธอกำลังคิดกับตัวเองก็ว่าอยู่แล้วเชียว ว่าไอ้คนบ้านนอกอย่างเย่เทียนหยู่จะมีอำนาจบารมีขนาดนั้นได้ยังไงกัน?แค่ไม่คิดว่าเขาจะโชคดีขนาดสามารถดึงดูดความสนใจของลูกสาวของประธานหยางได้ แต่หากเป็นแบบนั้นวิธีการของเธอก็คงต้องเปลี่ยนหากเย่เทียนหยู่ได้รับอำนาจจากการอยู่กับหยางเฉียนเฉียน เขาก็คบกับลูกสาวของเธอต่อไม่ได้แล้ว ถ้าเขาอยู่กับลูกสาว ไม่เพียงแต่เขาจะเสียอำนาจไป แต่เขาอาจทำให้ประธานหยางขุ่นเคืองอาจถึงขั้นทำให้ตระกูลหลินตกที่นั่งลำบากหาจุดหวนคืนไม่ได้อีกเลยเมื่อพวกเขารู้เรื่องนี้แล้ว พวกเขาก็พากันด่าลูกสาวแสนโง่เขลาของพวกเขาที่เกือบจะพาตระกูลหลินไปถึงจุดจบ โชคดีที่เธอเล่
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก