หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง อยากจะบอกว่ามันเป็นแค่เรื่องล้อเล่นแบบไหนกัน แต่เธอก็ทำไม่ได้ เพราะเธอเองก็อยากยกเลิกข้อตกลงนี้เหมือนกัน“เจ้าเด็กโง่ มัวอมพะนำอะไรอยู่ ทำไมไม่พูดล่ะ?” แม่หลินเป็นกังวล“ฉ…ฉันฟังพ่อแม่ของฉันค่ะ”หลังจากที่ หลินหว่านหรูพูดจบคอของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นเธอก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยทันที แน่นอนว่าเธอไม่อยากหย่า ก็เลยอาศัยจังหวะนี้ให้เป็นประโยชน์“นั่นสินะ เทียนหยู่คุณก็เห็นแล้วใช่ไหม ว่าหว่านหรูไม่ได้ต้องการหย่ากับคุณหรอกนะ”“แม่ พูดถึงเรื่องอะไรกันคะ”“แม่พูดไร้สาระหรือไง แกคิดอะไรแม่จะไม่รู้เหรอ? เมื่อก่อนบอกให้หย่ากับเย่เทียนหยู่ลูกเคยฟังที่ไหน พอมาตอนนี้บอกให้ยกเลิกการหย่าแล้วคบกับเย่เทียนหยู่ต่อล่ะรับปากไวเสียยิ่งกว่าใคร”บางครั้งแม่ตระกูลหลินก็ฉลาดพอตัว“แม่!”“ก็ได้ แม่ไม่บ่นลูกก็ได้!”คุณแม่ตระกูลหลินหันไปหาเย่เทียนหยู่ แล้วพูดว่า “เทียนหยู่ เมื่อก่อนแม่อาจจะปฏิบัติต่อคุณเอาไว้แย่มาก แต่นั่นเป็นเพราะแม่เข้าใจผิดไป”“แม่คิดมาตลอดว่าคุณเป็นคนไร้ประโยชน์ที่เอาแต่เที่ยวเล่นใช้ประโยชน์จากคนอื่น คิดว่าคุณคงให้ความสุขกับหว่านหรูไม่ได้ ก็เลยพูดคำ
หลินหว่านหรูคิดออกทั้งหมดแล้วจึงพูดขึ้นทันที: “แม่คะ เที่ยงแล้วนะ หนูหิวแล้วล่ะ ถึงเวลาเสิร์ฟอาหารแล้วหรือยัง?”เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินดังนั้นก็พูดทันทีว่า “ใช่ ๆ เรามาคุยกันต่อระหว่างกินข้าวเถอะ”“นั่นสิ เทียนหยู่ ลูกเขยของเราต้องดื่มสักหน่อยนะวันนี้” คุณพ่อตระกูลหลินยิ้มขณะดึงเย่เทียนหยู่ไปนั่งที่โต๊ะอาหารเขายังขอให้เย่เทียนหยู่นั่งที่นั่งหลักด้วยแต่เย่เทียนหยู่ออกจะรู้สึกไม่ค่อยดี ก็เลยให้คุณพ่อตระกูลหลินนั่งเรื่องนี้ทำเอาหลินหง คุณพ่อตระกูลหลินมีความสุขสุด ๆ ถึงกับยกย่องเย่เทียนหยู่ที่เป็นสุภาพบุรุษ เพราะเหล่าคุณชายจากตระกูลใหญ่พวกนั้นคงไม่ยอมให้เขาแบบนี้อีกทั้งเขาก็เป็นคนที่มีมารยาทมาก เหมือนคนที่ถูกอบรมสั่งสอนมาแต่เล็กเย่เทียนหยู่แอบยิ้มแห้ง แม้ว่าพ่อของหลินและแม่ของหลินจะมีทำดีขึ้นมาก แต่เขาก็ปรับตัวเข้ากับมันไม่ได้จริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะท่าทางที่ดีเกินไปแบบนี้“เทียนหยู่ ต่อไปก็ฝากหว่านหรูไว้ด้วยนะ ต้องดีกับเธอให้มาก ๆ ล่ะ”“คุณลุงไม่ต้องห่วงครับ ผมจะทำแบบนั้นแน่”“ยังเรียกลุงอยู่อีก ต้องเรียกว่าพ่อสิ”“เอาแบบนี้แล้วกัน คืนนี้นอนในห้องของหว่านหรูได้เลย
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของหลินหว่านหรูก็ดูมืดมนไปเล็กน้อยถ้าเย่เทียนยู่แต่งงานกับคนตระกูลหยางจริง ๆ เธอและเย่เทียนยู่ก็คงถึงจุดจบเมื่อคิดถึงเรื่องนี้เธอก็รู้สึกไม่สบายใจแต่นี่คือความจริงที่อยู่ตรงหน้าเธอ และเธอก็หนีไม่พ้น ไม่อย่างนั้นมันจะต้องทำให้ทุกอย่างวุ่นวายมากขึ้นแน่“อะไรนะ!”“อย่างนั้นเองเหรอ!”สีหน้าของคุณพ่อตระกูลหลินและคุณแม่ตระกูลหลินเปลี่ยนไปและทั้งสองก็มองหน้ากันโดยเฉพาะคุณแม่ตระกูลหลิน เธอกำลังคิดกับตัวเองก็ว่าอยู่แล้วเชียว ว่าไอ้คนบ้านนอกอย่างเย่เทียนหยู่จะมีอำนาจบารมีขนาดนั้นได้ยังไงกัน?แค่ไม่คิดว่าเขาจะโชคดีขนาดสามารถดึงดูดความสนใจของลูกสาวของประธานหยางได้ แต่หากเป็นแบบนั้นวิธีการของเธอก็คงต้องเปลี่ยนหากเย่เทียนหยู่ได้รับอำนาจจากการอยู่กับหยางเฉียนเฉียน เขาก็คบกับลูกสาวของเธอต่อไม่ได้แล้ว ถ้าเขาอยู่กับลูกสาว ไม่เพียงแต่เขาจะเสียอำนาจไป แต่เขาอาจทำให้ประธานหยางขุ่นเคืองอาจถึงขั้นทำให้ตระกูลหลินตกที่นั่งลำบากหาจุดหวนคืนไม่ได้อีกเลยเมื่อพวกเขารู้เรื่องนี้แล้ว พวกเขาก็พากันด่าลูกสาวแสนโง่เขลาของพวกเขาที่เกือบจะพาตระกูลหลินไปถึงจุดจบ โชคดีที่เธอเล่
เมื่อสิ้นคำแนะนำ ไม่ต้องพูดเลยว่าหลินหว่านหรูงุนงงขนาดไหน แม้แต่หลินจื่อตงก็ยังตกตะลึงเรื่องอะไรกันช่างยุ่งเหยิงแบบนี้หลินหว่านหรูโกรธมาก เรื่องอะไรถึงให้เธอกับเย่เทียนหยู่สาบานเป็นพี่น้องกัน?เย่เทียนหยู่ก็เองตกใจกับความคิดของคุณแม่ตระกูลหลินเช่นกันแต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ การที่คุณพ่อตระกูลหลินพูดต่อว่า “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว อันที่จริงพ่อมีความคิดที่ดีกว่านี้นะ” “เอาอย่างนี้ไหม เทียนหยู่ เราเองก็สนิทกันมากขนาดนี้แล้ว คุณก็ยอมรับเราเป็นพ่อแม่บุญธรรมไปเลย ต่อจากนี้ไป เราก็จะได้เป็นครอบครัวกันจริง ๆ กันยังไงล่ะ”ต้องขอบอกว่า ทั้งคู่ช่างคิดได้สวยงามจริง ๆแต่เย่เทียนหยู่กลับพูดไม่ออก ความสัมพันธ์ของเราดีขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร? สถานการณ์นี้ทำเอาทัศนคติในหัวเขาแทบระเบิดหลินหว่านหรูทนไม่ไหวอีกต่อไป “พ่อกับแม่พอสักที มาใครเป็นเป็นอะไรกัน?”“อะไรเป็นอะไร ก็เทียนหยู่กับคุณหนูหยางน่ะเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง พวกเขาถูกกำหนดมาให้อยู่ด้วยกัน ที่เราจัดการแบบนี้ก็เพราะลูก?”คุณแม่ตระกูลหลินถามกลับ ตัวเองทำเพื่อลูกสาวหมดทั้งหัวใจขนาดนี้ ทำไมเธอถึงได้ไม่เข้าใจกันนะเพราะถึ
หลินหว่านหรูรู้สึกมีความสุขอยู่ภายในใจ แต่เธอกลับพูดว่า: “ไม่ว่านายจะคิดยังไง ฉันก็ไม่สนใจนายอยู่แล้ว”“แล้วคุณเสียใจเรื่องที่ยกเลิกการหย่าหรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม“ถ้าอยากจะคืนคำก็คืนเถอะ”หลังจากพูดจบ หลินหว่านหรูก็เดินกลับไปแต่เธอก็แอบก่นด่าอยู่ในใจ เรื่องอะไรไม่ควรพูดก็ยังพูดถูกยกเลิกไปแล้วแท้ ๆ ต่อไปก็ไม่มีข้อตกลงนั้นอยู่แล้ว ยังจะพูดเรื่องนั้นขึ้นมาทำไมอีกรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่เทียนหยู่ เขาเริ่มตระหนักได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้มีเขาอยู่ในใจ เพียงแค่ว่าเธอปากเธอดันเอาแต่ไม่ยอมรับก็เท่านั้น แต่นั่นก็ไม่สำคัญหรอก เพราะเขาไม่สนใจเรื่องนั้นโดยเฉพาะเวลาที่เขาคิดถึงวัยเด็กของเขา ถ้าหลินหว่านหรูไม่ช่วยเขา เขาอาจจะตายไปนานแล้วแน่นอนว่าสำหรับนางฟ้าในหัวใจของเขา เขาย่อมมีความอดทนต่อเธอมากกว่าคนอื่นทันทีที่หลินหว่านหรูกลับมาข้างใน คุณแม่ตระกูลหลินก็ถามทันที: “หว่านหรูบอกแม่ตรง ๆ ซะ ว่าตอนนี้ลูกคิดยังไงกันแน่?”“คิดยังไงอะไรคะ?”“ก็เรื่องเย่เทียนหยู่น่ะสิ แม่ขอบอกลูกก่อนเลยนะ ว่าอย่าคิดที่จะคบกับเย่เทียนหยู่เด็ดขาด เคยคิดบ้างไหมว่าประธานหยางจะทำยังไงกับตระก
หลังจากเย่เทียนหยู่ขึ้นรถและจากไปได้ไม่นานทันใดนั้น รถสีดำคันหนึ่งก็ขับตรงมาขวางหน้ารถและหยุดเขาไว้จากนั้นบอดี้การ์ดชายหลายคนในชุดสูทก็ลงมา ผู้นำเคาะหน้าต่างรถของเย่เทียนหยู่ แล้วพูดอย่างเย็นชา: “ลงจากรถแล้วมากับเราซะ นายน้อยของเราอยากพบคุณ”เย่เทียนหยู่ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด เขาพูดตอบอย่างใจเย็น: “ไม่มีเวลาแล้ว ถ้านายน้อยของคุณอยากพบผม ก็ให้เขามาหาผมเอง ทำไม เขาพิการเหรอหรือไม่มีหน้าออกมาเจอใครแล้ว?”“บังอาจ!”เมื่อชายคนนั้นได้ฟัง เขาก็โกรธทันทีและพูดอย่างเย็นชา: “ไอ้เปี๊ยก แกควรคืนคำพูดที่แกพูดซะ ไม่อย่างนั้นแกได้เจอบทเรียนแน่”“โทษทีนะ แต่คำที่พูดออกไปแล้วก็เหมือนการสาดน้ำ เอาคืนกลับไปไม่ได้หรอก”“คุณต่างหาก ถ้าไม่อยากตายก็อยู่ให้ห่างจากผมซะ”เย่เทียนหยู่ขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับอีกฝ่าย“รนหาที่ตาย!”ชายคนนั้นเริ่มโกรธ เขายื่นมือขวาออกไปราวกับคิดว่าจะคว้าตัวเย่เทียนหยู่และดึงตัวออกไปทางหน้าต่างรถเสียเลยแต่ทันทีที่เขาเอื้อมมือเข้าไป มือขวาก็ถูกคว้าไปกระแทกกับหน้าต่างอย่างแรงก่อนจะได้ยินเสียงกึก จากนั้นเขารู้สึกถึงกระดูกข้อมือที่หักได้อย่างชัดเจนต่อจากนั้นเขาถึงถูกป
“เรื่องของลูกกับคุณชายเย่มันเป็นไปไม่ได้ ลูกรู้ไหมว่าการแต่งงานระหว่างหลินหว่านหรูกับคุณชายเย่น่ะถูกกำหนดมาตั้งแต่วัยเด็กแล้ว”ภายใต้ความร้อนรน หยางต้าฝูรีบบอกเรื่องที่เย่เทียนหยู่ให้เขาไปตามหาเด็กสาวตัวน้อยออกมาหยางเฉียนเฉียนตกตะลึงไปทันทีหลังจากได้ยินแบบนั้น เธอไม่คิดเลยว่าพี่เย่และประธานหลินจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเช่นนี้ ที่แท้แล้วพี่เย่ก็ตามหาประธานหลิน คนที่เป็นดั่งนางฟ้าในใจของเขามาตลอด“พ่อคะ ที่พ่อพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ?” หลินหว่านหรูถาม“แน่นอน ไม่อย่างนั้น ลูกคิดว่าทำไมคุณชายเย่ที่มีพลังอำนาจขนาดนั้น ยังยอมอดทนต่อสิ่งที่ตระกูลหลินทำด้วยกันล่ะ ขนาดตัวประธานหลินเองยังไม่ค่อยเกรงใจคุณชายเย่เลย”“ทั้งหมดนั่นก็เพราะประธานหลินเป็นรักแรกในใจของคุณชายเย่ เป็นผู้หญิงที่เขาตามหาและปกป้องดูแลมาโดยตลอดครับ”หยางต้าฝูอธิบาย ตัวเขาจะไม่ได้อยากให้ลูกสาวของเขาอยู่กับเย่เทียนหยู่ได้ยังไง ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็จะได้เป็นพ่อตาของราชามังกร ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่งแต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ เขาจึงต้องวางแผนสำหรับลูกสาวล่วงหน้า และไม่ปล่อยให้เธอถลำลึกมากเกินไปยิ
หลังจากได้ยินสิ่งที่พ่อของเธอพูด ในที่สุดหยางเฉียนเฉียนก็ยอมรับปากเมื่อเห็นว่าในที่สุดเขาก็สามารถโน้มน้าวลูกสาวของเขาได้สำเร็จ หยางต้าฝูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโอกาสแบบนี้มีให้เห็นได้ไม่มาก เว้นแต่ราชามังกรจะแต่งงานกับลูกสาวของเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่มีโอกาสใดดีไปกว่าการแต่งงานเข้าไปในตระกูลถังอีกแล้ว“แต่ว่าเรื่องนี้ ห้ามบอกคุณชายเย่นะ”“ทำไมเหรอคะ?”“พ่อกลัวเขาจะคิดว่าลูกถูกทำให้น้อยใจ แล้วต่อต้านพรรคถัง พลังอำนาจของพรรคถังเมื่อกี้พ่อก็บอกลูกไปแล้ว ถ้าคุณชายเย่จะต่อกรกับพวกเขา มีแต่ต้องตายเท่านั้น”“หนูทราบดีค่ะ แต่ถ้าพี่เย่รักเพียงภรรยาของเขา แล้วเขาจะต่อสู้กับพรรคถังเพื่อหนูได้ยังไงกันคะ?”“ก็ไม่แน่หรอกนะ ถึงเขาจะรักเพียงภรรยาของเขา แต่เขาก็มีความรู้สึกต่อลูกอยู่เหมือนกัน รับประกันไม่ได้หรอกว่าเขาจะไม่ใช้อารมณ์ เห็นว่าตนเองเก่งกาจก็เลยออกหน้า”“อือ! หนูเข้าใจแล้วค่ะ”หยางเฉียนเฉียนมีความสุขอยู่ภายในใจเมื่อได้ยินคำพูดของพ่อ อย่างน้อยในหัวใจของพี่เย่ก็ยังพอมีที่ของเธออยู่บ้างแต่เมื่อเธอคิดถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของพรรคถัง เธอก็ระงับความคิดที่เธออยากจะบอกพี่เย่เพื่อทดสอบดูว่
เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากนี้ ก็อดส่ายหัวไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า “หว่านหรู ในเมื่อทางนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พอดีเมื่อกี้คุณตำรวจหลงมีเรื่องที่ต้องคุยกับผมน่ะ ผมขอไปหาเธอหน่อยนะ”“อือ คุณไปเถอะ”เมื่อกี้ตอนที่หลงเจี๋ยเชิญเขา หลินหว่านหรูที่อยู่ข้าง ๆ เองก็รู้เรื่องนี้ดีหลังจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงเดินจากไปเมื่อเย่เทียนหยู่เดินจากไปแล้ว คนที่เหลือก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดี หลังจากที่สื่อสารกันไปมาสักพัก หลินหว่านหรูก็ได้เซ็นลงไปส่วนเรื่องเงินชดเชย แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการเลยสักบาทเมื่อเห็นว่าในที่สุดปัญหาก็ได้คลี่คลายลงแล้ว แม่ตระกูลหลินก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เธอจึงกอดหลินหว่านหรูเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดด้วยความซาบซึ้งออกไปว่า “หว่านหรู ขอบคุณมากนะ!”“ก่อนหน้านี้แม่ทำผิดพลาดไปมากมาย แต่ลูกก็ยังปกป้องแม่ตลอด ลูกเป็นลูกสาวที่ดีที่สุดในโลกเลย แม่รักลูกนะ!”คำพูดที่หวานซึ้งเช่นนี้ หลินหว่านหรูถึงกับทนรับเอาไว้ไม่ไหว แต่การที่แม่สามารถแสดงมันออกมาได้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากแล้ว“หว่านหรู ลูกวางใจได้ ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าตัวเองผิด ต่อไปจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีก แม่จะดูแลบริษัทใ
ในตอนที่เพิ่งจะเดินเข้าไป ก็เห็นว่าพ่อตระกูลหลินกำลังเดินออกมา พร้อมกับพูดด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นออกไปว่า “หว่านหรู ในที่สุดแกก็มาแล้ว ขืนแกยังไม่มา แม่แกคงอยู่ต่อไม่ไหวแล้ว”หลินหว่านหรูขมวดคิ้ว เธอแทบไม่เชื่อสิ่งเหล่านี้เลยแม้แต่น้อยสีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชาอย่างมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเย็นชาของทั้งสอง สีหน้าพ่อตระกูลหลินก็ดูหมดหวัง และคิดว่าหลายสิ่งที่พวกเขาทำมันเกินไปแล้วจริง ๆ เขาจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดีเป็นเพราะเขาเดินตามทั้งสองเข้าไป พ่อตระกูลหลินถึงเข้าไปด้วยได้ เดิมที เขาแค่จะมาดูแม่ตระกูลหลินเท่านั้นภายใต้การนำทางของตำรวจ หลินหว่านหรูและเย่เทียนหยู่ก็ได้มาถึงห้องขังที่แม่ตระกูลหลินอยู่แม่ตระกูลหลินเองก็รู้ว่าหลินหว่านหรูมาถึงแล้ว ทันทีที่เห็นทั้งสอง เธอก็รีบลุกขึ้น และเดินมาหาทันที ดวงตาของเธอแดงก่ำ ก่อนจะตะโกนออกไปว่า “หว่านหรู ลูกรักของแม่ ลูกมาแล้วเหรอ!”มองดูดวงตาที่แดงก่ำของแม่ตระกูลหลิน บวกกับท่าทีตื่นเต้นโดยเฉพาะสีหน้าที่ดูอ่อนเพลียและซีดเซียวของเธอ แม้แต่ผมเผ้าเองก็ยังดูยุ่งเหยิงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้เธอดูน่าสงสารอย่างมากบวกกับที่เธอพูดคำว
คุณนายไป๋ถูกหัวหน้าใหญ่ไป๋จ้องตาเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบพูดออกมาเบา ๆ ว่า “พี่เฉินคะ พะ พี่เป็นอะไรไป?”“เธอคิดว่ายังไงล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไง!”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่“ละ แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะคะ ถึงต่อให้ฉันเป็นคนที่สร้างเรื่องขึ้นมา พี่ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงจะสามารถจัดการเขาได้?”“เดิมทีมันก็อาจจะได้ แต่เมื่อกี้พยัคฆ์ทมิฬเพิ่งรายงานว่า เขาอาจจะเป็นราชามังกรแห่งพรรคมังกรก็ได้ และจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็ดูเหมือนจะมีโอกาสมากถึงแปดเก้าส่วนที่จะเป็นเรื่องจริง”“หากว่าเขาเป็นราชามังกรจริง ๆ ล่ะก็ เกรงว่าแม้แต่สำนักเจวี๋ยฉิงก็ทำอะไรเขาไม่ได้”ไป๋เฉินพูดด้วยความโกรธ“หา ไม่จริงน่า เป็นไปได้ไหมที่พยัคฆ์ทมิฬกำลังหลอกพี่อยู่”“เขาไม่มีทางหลอกฉันแน่”ไป๋เฉินถอนหายใจ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เขาถูกภรรยาชักจูงแบบผิด ๆ มาตั้งแต่แรก ต่อให้ตอนนี้ตนได้รู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ปัญหาในการจัดการกับเย่เทียนหยู่ แต่เป็นจุดตันเถียนของเขา มันจะยังสามารถฟื้นฟูกลับมาไ
จากนั้น ไป๋เฉินก็หยิบกล่องเล็ก ๆ ที่ดูประณีตออกมาจากตัว เขานำมันติดตัวมาด้วย จากนั้นจึงยื่นให้เย่เทียนหยู่ด้วยท่าทีที่ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นี่คือสมบัติที่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้น ว่ากันว่า หากกลั่นมันออกมาเป็นยา ก็จะสามารถช่วยให้ทะลวงเข้าสู่ระดับปรามาจารย์ได้ทันทีหากไม่ใช่เพราะแรงกดดันที่น่ากลัวจากสำนักเจวี๋ยฉิง เขาก็คงคิดที่จะเก็บมันเอาไว้ใช้เองเขาเคยเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ตอนที่ยอดฝีมือจากสำนักเจวี๋ยฉิงต่อสู้กับปรมาจารย์ที่น่ากลัวคนหนึ่ง กระบวนท่าเดียว ใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ก็สามารถฆ่ายอดฝีมือระดับปรมาจารย์คนนั้นได้ในทันทีดังนั้น การที่ไอ้เด็กนี่มันกล้าท้าทายอำนาจสำนักเจวี๋ยฉิงแบบนี้ มันจะต้องตายอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่รับกล่องมา ก่อนจะเปิดดูด้านใน และพบว่านั่นคือดอกบัวสีเจ็ดสีจริง ๆ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อมาอยู่ในมือของเขา เขาจึงรับเก็บมันไว้ทันที แล้วพูดด้วยท่าทีเรียบเฉยออกไปว่า “เห็นแก่ของเล่นชิ้นนี้ ผมจะปล่อยคุณไปสักครั้งก็แล้วกัน”“จำไว้นะว่า อีกสี่หมื่นห้าพันล้าน จะต้องถูกโอนเข้าบัญชีภายในหนึ่งวัน เพราะไม่อย่างนั้น ก็รอรับผลที่จะตามมาได้เลย!”ทันที
เมื่อคุณนายไป๋ได้ยินดังนั้น เธอก็รีบโต้กลับทันที “หากเป็นสมบัติธรรมดาพวกเขาต้องไม่สนใจอยู่แล้ว แต่นี่เป็นถึงดอกบัว......”“เลิกพูดมากได้แล้ว!”เมื่อกี้หยุดเอาไว้ไม่ทัน ตอนนี้ไป๋เฉินจึงรีบพูดห้ามขึ้นทันที “พูดจาไร้สาระให้มันน้อย ๆ หน่อย ทางที่ดีแกก็รีบปล่อยพวกเราไปซะ เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาอาจเกินกว่าที่แกจะรับไหวก็ได้”เย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า “คุณนับว่าฉลาดกว่าภรรยาคุณอยู่นะ หากเป็นเธอล่ะก็ ป่านนี้เธอคงสั่งให้ผมรีบขอโทษและยอมรับผิดไปแล้ว” “แต่ว่านะ ถึงยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี! อย่าว่าแต่สำนักเจวี๋ยฉิงอะไรนั่นเลย ต่อให้เป็นสำนักที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน วันนี้ หากคุณยังไม่คืนเงินล่ะก็ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ช่วยพวกคุณไม่ได้ทั้งนั้น”สีหน้าของไป๋เฉินเปลี่ยนไปทันที เขาทั้งโกรธและตกใจ “นี่แกไม่กลัวสำนักเจวี๋ยฉิงจริง ๆ หรือว่าแกไม่รู้ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงมีการดำรงอยู่ที่น่ากลัวมากแค่ไหนกันแน่?”“รู้หรือไม่มันก็ไม่สำคัญหรอก ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย สี่หมื่นห้าพันล้าน จะให้หรือไม่ให้? !”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชา เขาเสียเวลามามากพอสมควรแล้ว เขาไม่อยากพูด
แต่สิ่งนี้ก็ยืนยันได้อย่างชัดเจนแล้วว่า หัวหน้าใหญ่ไป๋ถูกจัดการแล้วจริง ๆ เขาถูกทำลายแล้วอย่างสิ้นเชิงคุณนายไป๋หน้าซีด สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจและหวาดกลัว เธอทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความอ่อนแรง ในเวลานี้ เธอก็เข้าใจแล้วว่าเทพสงครามในสายตาของเธอได้ถูกทำลายลงแล้วจริง ๆเพราะความทะเยอทะยานของเธอ จึงทำให้ผู้ชายของเธอได้กลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง!ผ่านไปนานพอสมควร ในที่สุดไป๋เฉินก็สงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ก่อนจะถามออกไปด้วยความกลัวว่า “แกเป็นใครกันแน่?”“ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญก็คือ เงินอีกสี่หมื่นห้าพันล้านจะต้องเข้าบัญชีเดี๋ยวนี้” เย่เทียนหยูกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย “ภรรยาของคุณไม่สามารถเอาออกมาได้ แต่ตัวคุณก็น่าจะไม่มีปัญหาสินะ?”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ดีมากนัก เขารู้สึกเกลียดชังอีกฝ่ายอย่างมาก ที่ทำให้ชี่แท้ของตนถูกทำลาย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เงินก้อนนี้ฉันจะไม่มีวันมอบให้แน่นอน”“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยสนใจชีวิตภรรยาของคุณเลยสินะ”“พี่เฉินคะ......”คุณนายไป๋ลนลานขึ้นมาทันที เงินไม่มีก็หาใหม่ได้ แต่ถ้าคนตายไปแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางกลับมาได้อีก เ
แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋มีโอกาสที่จะชนะแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่นั้น เย่เทียนหยู่ก็กลับส่ายหัว ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมา พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูสบาย ๆซึ่งมันก็เป็นการรับมือที่สบายมากจริง ๆ ไม่นาน เขาก็สามารถจับกรงเล็บที่เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตสังหารของหัวหน้าใหญ่ไป๋เอาไว้ได้หัวหน้าใหญ่ไป๋ยังคงรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย แต่เขาก็กลับพบว่ามือที่เขาใช้โจมตีนั้น ได้ถูกอีกฝ่ายจับเอาไว้ได้ นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พลังที่อยู่ภายในมือของเขากลับจางหายไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วยทะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!จากนั้นก็พบว่าร่างกายไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป และถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงออกไปตามแนวระนาบ ก่อนจะกระแทกลงอย่างรุนแรงอ้าก!หัวหน้าใหญ่ไป๋ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจึงส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและน่าสงสารออกมา ไม่นานความเจ็บปวดก็กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาถึงกับต้องสั่นสะเทือนเดิมทีด้วยพลังที่เขามี เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดทั่วไปได้ แต่ในครั้งนี้ เขาไม่สามารถทนได้จริง ๆคุณนายไป๋รู้สึกสับสนทันทีนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ลูกน้องที่ตามมาด้วยต
ไม่มีท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งอะไรนั่นหรอก ก็แค่ระดับหมิงจิ้นขั้นสูงธรรมดาเท่านั้น ขนาดระดับพลังจันทราขั้นต้นก็ยังไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ เย่เทียนหยู่ย่อมจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายอยู่แล้วผ่านไปไม่นาน ทั้งสามคนก็ทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวดทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนสีหน้าคุณนายไป๋ดูหม่นหมองลง เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าทั้งสามคนแทบจะทำอะไรเขาไม่ได้เลย ตอนนี้ยิ่งเป็นการทำให้ไอ้เด็กนั่นได้ใจมากกว่าเดิมไม่ใช่รึไง เธอจึงรีบพูดออกไปว่า “พี่เฉิน ถึงเด็กนั่นจะไม่เก่งเท่าพี่ แต่พลังของมันก็ไม่ธรรมดา เกรงว่าพี่อาจจะต้องลงมือด้วยตัวเองแล้วล่ะ”“ฉันรู้แล้ว!”หัวหน้าใหญ่ไป๋รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย เมื่อกี้ทั้งสามคนยังไม่ทันจะทำให้เย่เทียนหยู่เผยความสามารถออกมาเลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาเย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดประชดออกไปว่า “ทำไม ถ้ายังไม่พร้อมล่ะก็ คุณจะลองโทรให้คนตรวจสอบความแข็งแกร่งของผมดูสักหน่อยไหมล่ะ?”“อวดดี!”“การจัดการกับเด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแก ฉันไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไรทั้งนั้น!”หัวหน้าใหญ่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เมื่อกี้ ฉัน
“ความลับงั้นเหรอ?”ซึ่งมันก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกสับสนอยู่นิดหน่อย หรืออีกฝ่ายรู้ตัวตนราชามังกรของตนแล้วงั้นเหรอ? ในเมื่อรู้แล้ว แต่กลับยังกล้าทำตัวหยิ่งยโสอยู่อีก ก็แสดงว่าคนที่คอยหนุนหลังพวกเขาอยู่นั้น มีสถานะที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน“เหอะ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังจะเสแสร้งอยู่อีก!”สีหน้าคุณนายไป๋ดูพอใจอย่างมาก เธอจึงพูดเยาะเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “ก็แค่อาศัยการเคลื่อนไหวแปลก ๆ นั่นของแก แล้วจู่โจมอย่างกะทันหันไม่ใช่รึไง หากไม่ใช่แบบนี้ แกก็คงจัดการกับพยัคฆ์ทมิฬและไป๋เถาไม่ได้หรอก!”“ตอนนี้ แกได้สูญเสียความลับวิธีการโจมตีที่สำคัญไปแล้ว และพี่เฉินเองก็มีพลังที่เหนือกว่าที่แกจะจินตนาการได้เสียอีก อย่าว่าแต่แกจะใช้วิธีนี้ไม่ได้อีก ต่อให้แกจะมีวิธีอื่น แกก็ต้องตายอย่างแน่นอน”เมื่อได้ยินคำนี้ ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็เข้าใจว่าความลับที่พูดถึงคืออะไร เขาจึงหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นี่คือความลับที่คุณพูดถึงเหรอ?”“ถูกต้อง ถึงแกจะไม่ยอมรับก็ไม่มีประโยชน์” คุณนายไป๋พูดอย่างเย็นชาหัวหน้าใหญ่ไป๋โบกมือไปมา ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา “ไอ้หนู พูดจาไร้สาระให้น้อย ๆ หน่อย ตอนนี้