แม้ว่าหลินซื่อกรุ๊ปจะไม่ใช่กลุ่มบริษัทที่ใหญ่มากแต่ก็เป็นกลุ่มบริษัทอันดับต้น ๆ ที่มีสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งพันล้านและมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมากมายโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น ขายเหล็กตอนนี้หลินหว่านหรูอยู่บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เพราะถึงยังไงอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ก็กลายเป็นอดีตและเริ่มตกต่ำลงด้านเครื่องสำอางกับการร่วมมือกับตระกูลซู ปัจจุบันเป็นทิศทางสำคัญของบริษัทและได้รับการสนับสนุนจากหลินหว่านหรูเองเช้าวันรุ่งขึ้น เย่เทียนหยู่ทำตามสัญญา เขามาถึงชั้นล่างของบริษัทแต่เช้า เห็นแก่หลินหว่านหรูเขายังสวมเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวที่สง่างามมากมาอีกด้วยแบบนี้ทำให้เขาดูหล่อมากเนื่องจากโทรแจ้งล่วงหน้าเอาไว้แล้ว เย่เทียนหยู่จึงรีบไปยังประตูห้องผู้จัดการอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะเคาะประตู"เข้ามา!"เสียงผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดังมาจากข้างในห้องเมื่อเปิดประตูสำนักงาน เย่เทียนหยู่ก็เดินเข้ามา เขาเห็นสามงามเหนือชั้นพร้อมกับใบหน้าอันวิจิตรบรรจงคนหนึ่ง แม้จะไม่ดีเท่าหลินหว่านหรูแต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนักประเด็นสำคัญคือร่างกายของเธอให้ความร
แผนกขายมีสองทีม พวกเขาเป็นทีมที่สอง และยอดขายตามหลังทีมแรกเป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกันแล้วสิ่งสำคัญที่สุด คือ พวกเขาไม่เก่งเท่าอีกฝ่าย ตอนนี้เธอสูญเสียพนักงานขายหลักไปแล้วดันได้คนที่ใช้เส้นสายเข้ามาแทน แล้วเธอจะทำอะไรได้อีก?อารมณ์ของเธอจะดีได้ยังไง?โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อบทสรุปรายครึ่งปีกำลังจะมาในอีกสิบวัน ถึงตอนนั้นพวกเขาคงถูกดุอย่างหนัก“หัวหน้าทีมหลี่ ดูเหมือนคุณจะไม่ค่อยต้อนรับผมเท่าไหร่นะครับ?” เย่เทียนหยู่เห็นท่าทางไม่มีความสุขของอีกฝ่าย จึงเอ่ยปากคลี่คลายความตึงเครียด“คุณคิดว่าฉันควรจะต้อนรับคุณยังไงคะ”“ให้ฉันคุกเข่าลงเพื่อทักทายเลยหรือเปล่า?” หลี่ซินเยว่พูดอย่างเย็นชา“หัวหน้าทีมหลี่พูดเกินไปแล้วครับ”เย่เทียนหยู่ยิ้มอย่างขมขื่น ผู้หญิงคนนี้ก็ดูสวยแต่ทำไมเธอถึงพูดจาแย่ขนาดนี้“คุณชื่อเย่เทียนหยู่ใช่ไหม? ฉันไม่สนใจว่าภูมิหลังของคุณจะเป็นยังไง เมื่อคุณเข้าร่วมทีมของฉัน อย่าคิดที่จะเดินเตาะแตะ ถ้าคุณทำได้ไม่ดี ฉันจะไล่คุณออกเหมือนกัน” หลี่ซินเยว่ตะคอกอย่างเย็นชา“ไม่มีปัญหา ก็แค่การขายไม่ใช่เหรอ? ผมทำได้” เย่เทียนหยู่พูดอย่างมั่นใจ“อ่อ คุณเคยทำการขายแบบไหนมาก่อน” ห
หลี่ซินเยว่หัวหน้าทีมโกรธจนหน้าอกของเธอสั่น "อย่าชะล่าใจไปนักเลย เรื่องราวเปลี่ยนแปลงได้สมอ ต้องมีสักวันที่ไม่ได้เป็นวันของพวกเธอแน่" เธอก็พูดอย่างเย็นชา“จริงเหรอ?”“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะรอดู!”“ก็แค่นั้นแหละ ถึงเวลาประชุมสรุปผลงานก็อย่าเป็นบ้าเป็นหลังแล้วกัน”พี่เหม่ยหัวเราะเสียงดังทุกคนโกรธและทำอะไรไม่ถูก“ไม่เป็นไร ฉันเคยอยู่กับพวกเขามาก่อน พวกนี้หนังหน้าหนา จะกลัวถูกดุได้ยังไง”หวังซินหัวเราะและเยาะเย้ย“แต่ฉันได้ยินมาว่าเป็นเพราะฉันจากไป พวกคุณเลยได้คัดเลือกอัจฉริยะด้านการขายที่ยอดเยี่ยมเป็นพิเศษมานี่ เขาคือใครเหรอ ขอฉันดูหน่อยสิ”ขณะที่เขาพูด เขาจงใจมองไปที่เย่เทียนหยู่ เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นเขารู้ และยังจงใจเยาะเย้ยเขาด้วยเขาเป็นแค่ผู้มาใหม่เพียงคนเดียวที่นี่แม้ว่าจะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน แต่อย่างน้อยทุกคนในแผนกขายก็ได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ของเย่เทียนหยู่ไม่มีการศึกษา ไม่มีประสบการณ์ทำงาน ไม่มีอะไรเลยพูดตามตรงว่า ห่วยแตกและใช้ชีวิตเหลวแหลกมากหลี่ซินเยว่รู้สึกรำคาญเมื่อได้ยินแบบนั้น แม้ว่าเธอจะไม่ชอบเย่เทียนหยู่เช่นกัน แต่เธอก็พูดอย่างเย็นชา: “มันไม่ใช่ธุระอะไรขอ
แม้ว่าหวังซินจะเป็นผู้ชาย แต่เขาก็หล่อมาก ทำให้มีความสัมพันธ์กับเจ้านายผู้หญิงมากหน้าหลายตาทีเดียวเมื่อได้ยินแบบนั้น เย่เทียนหยู่ก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "ยอดขายของทีมเราไม่ดีเท่าของคุณตอนนี้เหรอ?"“ถ้าอย่างนั้นผมไม่ทราบ ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ ระหว่างเราสองทีมก็มาแข่งกันดูสิ”เมื่อได้ยินเย่เทียนหยู่พูดคุยเกี่ยวกับการแข่งขัน หลี่ซินเยว่ก็พูดทันที: "เย่เทียนหยู่คุณไม่ใช่หัวหน้าทีม ทำไมคุณถึงตัดสินใจในการแข่งขันระหว่างทีมแบบนี้?"คนอื่น ๆ ก็จ้องมองที่เย่เทียนหยู่โดยไม่พูดอะไรการเปรียบเทียบยอดขายกับทีมก็เท่ากับรนหาที่ตายน่ะสิอยากตายอย่าลากเราลงไปด้วยจะได้ไหม?พี่เหม่ยยิ่งภูมิใจมากขึ้นเมื่อเห็นดังนั้น เธอหัวเราะเสียงดัง: “หลี่ซินเยว่ คุณไม่กล้าแข่งขันกับเราเหรอ? คุณรู้มานานแล้วสินะว่าทีมของคุณเต็มไปด้วยขยะ แล้วยังยืนกรานที่จะปฏิเสธที่จะยอมรับอีก?”“ใครบอกว่าไม่กล้าแข่ง!”“ฉันจะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งต่อไป!”“แค่การเปรียบเทียบยอดขายไม่ใช่เหรอ เรามีเวลาอีก 10 วันในการสรุปครึ่งปีแรกงั้นก็มาแข่งยอดขายรวมครึ่งปีแรกเลยแล้วกันนะ”เย่เทียนหยู่แสดงท่าทีทรงอำนาจแต่ทันทีที่สิ้นคำพูดเหล่า ทุกคนก
“น่าอับอายงั้นหรอ?”“หมายความว่ายังไง ฉันก็ไม่ได้ทำตัวน่าอายนี่” เย่เทียนหยู่ไม่เข้าใจ หรือว่าเป็นเรื่องที่พนันกันไว้เรื่องนั้น แต่ว่าเรื่องที่พนันกันไว้ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดเลยนี่“ยังจะพูดว่าไม่ได้ทำตัวน่าอาย ใครกันบ้างที่ไม่รู้ว่าฝ่ายการขายมีคนไม่มีการศึกษา ไม่มีประวัติการทำงานมาทำงานน่ะ แล้วที่สำคัญคือยังเป็นคนไร้ค่าที่ทำอะไรไม่ได้เลยด้วย”หลินหว่านหรูพูดด้วยน้ำเสียงโมโหและก็ถูกแล้วที่เธอโมโห เพราะว่าเมื่อสักครู่นี้หลิวเหวินเพิ่งจะมารายงานเรื่องการทำงานในหนึ่งวันนี้ของเย่เทียนหยู่และมันก็ไม่มีอะไรเลยจริงๆไม่มีอะไรเลยก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่สำคัญคือคนอื่นๆต่างพากันรู้โดยทั่ว ทำเอาทุกคนอดจะวิจารณ์ไม่ได้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนยัดคนไร้ประโยชน์คนนี้เข้ามาพอถึงตอนนี้จะให้ผู้อำนวยการแบบเธอทำยังไงได้ล่ะพอรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้หลินหว่านหรูจะไม่โมโหได้ยังไงเมื่อได้ยินแบบนี้ เย่เทียนหยู่ก็ไม่พอใจก่อนจะพูด “ใครพูดกัน ใครมันเอาเรื่องนี้ไปพูดมั่วๆ”“ยังจะมาถามอีก ถ้าไม่เป็นเพราะนายทำอะไรไม่ได้จริงๆคนอื่นเขาจะพูดแบบนี้กันหรือไง?”“แต่ตอนนี้พอมาคิดดูดีๆ การพานายมาฝากตัวไว้ในบริษัทมันเป
เย่เทียนหยู่เป็นกันเองมากๆก่อนจะแจกน้ำให้ทุกคนคนละแก้ว ก่อนจะยิ้มออกมา “ขอโทษทุกคนนะครับ วันนี้นอนดึกไปหน่อยก็เลยมาสาย”พวกเขาจะไม่ลงมือกับคนที่เป็นคนดีจึงได้แต่เก็บงำความโมโหเอาไว้ในใจแต่หลี่ซินเยว่ที่เป็นหัวหน้าจะต้องถามเขาให้ชัดเจน เธอก็เลยเรียกเย่เทียนหยู่ไปอีกทางถึงแม้ว่าหัวหน้าสาวจะหุ่นดีมากๆ ในตอนที่เดินก็ยิ่งดูสวย แต่เย่เทียนหยู่ยังทำหน้าปกติไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ เป็นปกติสุดๆแต่เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าหลี่ซินเยว่อยากจะคุยอะไร?ถึงเขาจะรู้ว่าเขามีสเน่ห์มากๆก็เถอะ แต่คงไม่น่าจะเป็นเพราะว่าเจอกันครั้งแรกเมื่อวานแล้วก็ถูกความหล่อของเขาทำให้ยอมรับแล้วหลงรักเขาแล้วหรอกนะพอมองด้านข้างสีหน้าของหลี่ซินเยว่ก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาก่อนจะพูดออกมาอย่างเย็นชา “เย่เทียนหยู่ ฉันรู้เหตุผลที่นายมาอยู่ทีมที่ 2 แล้ว ทำไมนายถึงทำแบบนี้?”เธอฉลาดมากๆ ไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดเองเพราะแบบนี้เขาจะรู้จุดมุ่งหมายของเธอแต่เธอถามเขาว่าทำไปทำไมเพื่อที่จะบอกเขาว่าเธอรู้แล้ว ตอนนี้ก็แค่ถามว่าทำแบบนั้นทำไมแต่เย่เทียนหยู่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ก่อนจะถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ “ทำอะไร จุดมุ่งหมายอะไร ผมมาทำงานนะ”
“ทวงเงิน?” เย่เทียนหยู่นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะหยิบมาแล้วถาม“ใช่น่ะสิ!”“สามบริษัทนี้ยืดเยื้อยอดขายมาสักพักแล้ว ถ้าวันนี้ถ้านายทวงได้หนึ่งบริษัท นายสามารถเลิกงานกลับบ้านได้เลย อยากจะทำอะไรก็ทำไปเลย!” หลี่ซินเยว่พูด“จริงหรอ บริษัทไหนก็ได้ใช่ไหม?”“ใช่!”“พี่เยว่ นี่มันเป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง”“สามบริษัทนี้เราใช้เวลาตั้งนาน ภายในระยะเวลาสั้นๆแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะบริษัทแรกเลย” หลิวสุ่ยอดจะพูดไม่ได้สำหรับสถานการณ์ของบริษัทพวกนี้เธอเองก็พอจะเข้าใจ ในสามบริษัทนี้ต่างก็ยากทั้งนั้น โดยเฉพาะบริษัทแรกของที่เป็นบริษัทในเครือของตระกูลซาตระกูลซาเชียวนะ พวกนั้นน่ากลัวจะตายไป ต่อให้เป็นหยางต้าฝูคนที่รวยที่สุดในเมืองเทียนไห่ก็ยังต้องหวั่นๆกับเขาถึงแม้ตอนนี้ตระกูลซาจะล่มสลายแล้วเปลี่ยนเจ้านายไปแล้วแต่ความแข็งแกร่งนั้นก็ยังคงอยู่แบบนั้นและยังได้ข่าวมาอีกว่าเจ้าของคนปัจจุบันอย่างถานล่างเก่งกาจยิ่งกว่าซะอีก มีทั้งอำนาจและเทียนมู่กรุ๊ปที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ยิ่งกว่ากลัวมากกว่าเดิมซะอีก ทำให้นักธุรกิจอื่นๆในแวดวงต่างก็พากันตกใจในวันเปิดกิจการขนาดประธานหยางยังต้องไปร่วมงานด้วยตัวเองเลย และข
หลิวสุ่ยเห็นหลี่ซินเยว่เดินออกไปแล้วก็พูด “เย่เทียนหยู่นายเองก็ไม่ต้องเสียใจไปหรอก คนพวกนั้นก็แบบนี้แหละคิดว่าตัวเองเหนือกว่าใครไม่มีเหตุผลเลยสักนิด”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวคนพวกนั้นก็ต้องมาขอโทษเรา”เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ“ขอโทษ?”“นายล้อเล่นอยู่หรือไง” หลิวสุ่ยส่ายหน้าเห็นว่าคนอื่นๆไม่ได้สนใจเธอเองก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเย่เทียนหยู่ก็ถูกหัวเราะเยาะเอาอีกเห็นว่าไม่มีใครเข้ามาแล้ว เย่เทียนหยู่ก็หยิบเอาโทรศัพท์มาส่งข้อความให้ถานล่างก่อนจะส่งรายละเอียดในเอกสารไปด้วยให้เขาไปจัดการให้หน่อยถานล่างได้รับข้อความก็ตะลึงไปเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นข้อมูลด้านในเห็นว่าบริษัทแรกที่ติดเงินคือบริษัทในเครือของตัวเองสีหน้าก็เปลี่ยนไปก่อนจะรีบติดต่อหาคนที่รับผิดชอบและจัดการด่าอีกฝ่ายจนแทบไม่เหลือชิ้นดีคนรับผิดชอบเองก็ไม่เข้าใจนักว่าทำไมเรื่องแค่นี้ถึงรู้ไปถึงหูของท่านประธานบริษัทได้ แต่ไม่ทันได้คิดอะไรมากนักก็รีบจัดการโอนเงินที่ติดค้างไว้ให้เรียบร้อยก่อนจะรีบไปที่บริษัทหลินซื่อกรุ๊ปเพื่อขอโทษด้วยตัวเองส่วนเรื่องที่เย่เทียนหยู่ถูกพูดไม่ดีใส่เพราะว่าเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูด พวกนั้นเอง
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว
ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้อยู่ข้าง ๆ คุณชายก็คงไม่เหลือ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตัวให้กระตือรือร้นมากขึ้นถึงแม้จะไม่ได้เป็นภรรยาของคุณชาย ขอแค่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณชายบ้าง ต่อไปเธอก็จะถือว่าเป็นผู้หญิงของคุณชาย และอย่างน้อยก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณชายไปตลอดชีวิตได้เพราะไม่อย่างนั้น สักวันหนึ่งระยะห่างของเธอกับคุณชายก็คงจะไกลกันมากขึ้นเรื่อย ๆเพื่อเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจวางยา ยานี้ไม่ใช่ยาธรรมดา ไม่เพียงแต่ไม่มีสีและรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นยาที่หายากอีกด้วย เพียงแต่ผลลัพธ์ของยานั้นกลับไม่ได้มีความเข้มข้นมากนักแต่ก็ไม่เป็นไร โชคดีที่ได้เจอกับมันโดยบังเอิญ บวกกับเสน่ห์ที่ดูแพรวพราวของเธออีกเพื่อเสริมเสน่ห์ของตัวเองแล้ว หลายวันมานี้เธอได้ทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้คุณชายหลงใหล และให้คุณชายยอมกลืนกินเธอแม้ว่าวันนี้จูเก่อหลิวหลีจะสวมกระโปรงสีดำแหวกข้าง และเสื้อคอลึก จนทำให้ขาเรียวยาวของเธอโผล่พ้นออกมา ซึ่งความมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขารู้สึกใจสั่นเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ในขณะที่ดื่มน้ำในมือ เขาก็เดินดูรอบ ๆ พร้อมกับเอ่ยชมขึ้นว่า
อันที่จริงแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่การเตรียมการของเย่เทียนหยู่ แต่เป็นการเตรียมการของมู่หรงอิน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอินเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจัดการเรื่องนี้ กระทั่งเธอยังยินดีที่จะทำเสียด้วยซ้ำเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาตะวันออก ข้อมูลก็ได้ถูกส่งไปถึงหูของมู่หรงอินแล้ว ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาแม้จะมีความช่วยเหลือจากเย่เทียนหยู่อยู่แล้ว แต่การแสดงออกของหลินหว่านหรูนั้นก็ทำให้เธอพอใจมากจริง ๆเดิมทีภาพรวมของเทียนเฟิงกรุ๊ปก็ดีมากอยู่แล้ว เพียงแค่ปัญหาร้ายแรงบังเอิญมาเกิดที่สาขานี้ก็เท่านั้น เธอแค่ต้องการอยากจะเห็นการแก้ปัญหาของหลินหว่านหรู และจะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการได้เร็วขนาดนี้ แถมยังกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกด้วยไม่เสียแรงที่ตนให้คนเตรียมข้อมูลพนักงานที่ละเอียดขนาดนั้นเอาไว้ให้เธอเลยจริง ๆในตอนที่เย่เทียนหยู่เดินออกจากบริษัท เขาเองก็กำลังคิดว่าจะหาบ้านที่เหมาะสมในบริเวณใกล้เคียง แล้วซื้อเอาไว้สักหลัง ไม่ว่ายังไงก็จะให้หลินหว่านหรูพักอยู่โรงแรมตลอดไปไม่ได้หรอกนี่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เ
“เพราะเขาเป็นคนพูดเองว่า ไม่ว่าโลกจะกว้างใหญ่แค่ไหน แต่ภรรยาก็คือที่สุด!”“ถ้าไม่มีการอนุญาตจากฉัน เขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน”“ฮ่า ๆ......”พอทุกคนได้ยินคำพูดของหลินหว่านหรู ก็แทบจะหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว จู่ ๆ ก็คิดว่าประธานหลินคนนี้ไม่เลวเลยจริง ๆเห็น ๆ อยู่ว่าอำนาจในมือนั้นเกินคาดเดา แต่เจ้าตัวกลับเป็นคนที่อ่อนโยนเช่นนี้เมื่อพูดถึงว่าภรรยาเป็นใหญ่ สีหน้าของหลินหว่านหรูก็แดงเพราะความเขินอายขึ้นมา สิ่งสำคัญคือเธอรู้สึกว่าควรจะดึงบรรยากาศกลับมาสักหน่อย เพื่อไม่ให้ทุกคนมุ่งคิดแต่จะเอาใจเธออย่างเดียว จนละเลยหน้าที่ในบริษัท แบบนั้นคงไม่ดีแน่เย่เทียนหยู่สามารถที่จะไม่สนใจผลประโยชน์ของบริษัทได้ กระทั่งปล่อยให้บริษัทล้มละลายไปเลยก็ตาม แต่เธอเองกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ถ้าตั้งใจจะทำแล้ว ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด แล้วก็จะต้องแข็งแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเพราะไม่เช่นนั้น เธอจะมีหน้าไปพบอนาคตแม่สามีได้อย่างไรเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคน หลินหว่านหรูก็รู้สึกว่าตนทำถูกต้องแล้ว จากนั้นจึงกล่าวขึ้นอีกว่า “แต่ว่านะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เอาแต่ใจเท่ากับเขา แต่สำหรับเรื่องงานแล้ว ฉันกลับมีความเข้
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงและสั่นสะเทือนในใจขึ้นมาอีกครั้งถึงขนาดไม่สนใจว่าบริษัทจะล้มละลาย แม้แต่การขอร้องจากประธานบริษัทเองก็ยังไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำ!นี่เป็นเผด็จการและการปกป้องที่ไร้เหตุผลชัด ๆ!ในใจหลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือใคร อาจจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานบริษัท หรืออาจจะมีสถานะที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็ได้เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหลินหว่านหรูด้วยความรู้สึกอิจฉาโดยเฉพาะผู้หญิงบางคน ในใจพวกเธอก็อดคิดไม่ได้ ว่าหากพวกเธอมีผู้ชายแบบนี้สักคน ต่อให้จะเป็นเพียงหนึ่งในหมื่น พวกเธอก็คงจะมีความสุขจนตายได้เลยการปกป้องที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ แม้แต่หลินหว่านหรูที่ถูกเย่เทียนหยู่ทะนุถนอมตลอดเวลาก็ยังรู้สึกใจเต้นเช่นกันเทียนหยู่ได้ทุ่มเททุกอย่างให้กับเธออย่างแท้จริง เขาทั้งมุ่งมั่นและตั้งใจทำเพื่อเธอพอนึกย้อนกลับไป เขาก็คอยปกป้องเธออยู่เงียบ ๆ มาโดยตลอดมาเช่นกันเพียงแค่ตัวเองก่อนหน้านี้นั้นกลับโง่เขลาเกินไป ไม่สามารถแยกแยะสถานการณ์ได้ ไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจ แถมยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเขาตั้งหลายครั้งอีกด้วยตอนนี้พอมาคิดดูแล้