คำพูดพวกนี้ หลินหว่านหรูทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว จึงพูดออกไปว่า “แม่คะ เรื่องของหลิวเจี๋ยจะโทษเย่เทียนหยู่ไม่ได้นะ”“ฉันไม่สน ทุกอย่างเป็นความผิดของเขาทั้งหมด”“สรุป จากนี้ต่อไป ถ้าเขากล้าก้าวเข้ามาในประตูตระกูลหลินของฉันอีก ฉันจะหักขาของเขาทิ้งซะ! ” หลิวอวิ๋นซิ่วระบายความโกรธทั้งหมดที่มีต่อเย่เทียนหยู่“แม่ไม่มีเหตุผลเลย! ”หลินหว่านหรูโกรธมาก เธอหันหลังกลับและเดินจากจากไปตอนนี้ตระกูลหลินเองก็ตกอยู่ในความยุ่งเหยิง ครอบครัวลูกพี่ลูกน้องของปู่ก็เพิ่งจะสูญเสียเงินจำนวนมากไป พวกหัวรั้นก็ไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ นายท่านหลินเองก็ทนต่อไปไม่ไหวเช่นกัน“นี่แก! ”หลินอวิ๋นซิ่วยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นลูกสาวของตนเป็นแบบนี้ เธอเรียกลูกชายมาหาเธอในทันที ให้เขาหาคนไปจัดการกับเย่เทียนหยู่ ทำให้เขาใช้ชีวิตไม่เป็นสุขต่อให้เย่เทียนหยู่เป็นกังฟู แต่เขาก็ไม่สามารถเอาชนะสี่มือด้วยสองหมัดได้หรอก ฮีโร่จะมีหลายคนไม่ได้ จัดการกับเขา ไม่จำเป็นต้องเปลืองเวลาเยอะเลยด้วยซ้ำเย่เทียนยู่เพิ่งคุยกับหลินหว่านหรูเสร็จ วางสายได้ไม่นาย ซูถึงก็โทรศัพท์มาหาเขาเขาขมวดคิ้ว จากนั้นก็กดตัดสายไปแต่ซูถิงไม่ยอมแพ้ แ
“คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ ยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี พอได้แล้ว ต่อไปถ้าไม่มีธุระ ก็ไม่ต้องโทรมาอีก”หากยังลังเลอยู่ก็อาจจะเกิดปัญหา เย่เทียนหยู่จึงไม่สนใจเธออีก และวางสายโทรศัพท์ทันทีเมื่อได้ยินเสียงติ๊ดของโทรศัพท์แล้ว ซูถิงก็หน้าซีด สำหรับเธอแล้ว เย่เทียนหยู่เป็นความหวังเดียวของเธอที่จะช่วยให้ตัวเองบินไปยังจุดสูงสุด และกลายเป็นนกฟีนิกซ์ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ดูดีมากเพื่อเขาแล้ว เธอยอมทำทุกอย่างจริง ๆทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะนังสารเลวหลินหว่าหรูคนนั้นคนเดียว ถ้าไม่มีเธออยู่ พี่เย่ก็คงไม่ทำแบบนี้กับตัวเอง ไม่แน่คงได้นอนด้วยกันตั้งนานแล้วหลินหว่านหรู!นังสารเลวนี่ กล้ามาแย่งผู้ชายของฉัน งั้นก็อย่าโทษที่ฉันโหดร้ายกับเธอก็แล้วกัน!ในเวลานี้เอง ดวงตาทั้งคู่ของเธอแดงก่ำ จนรู้สึกว่าเธอบ้าไปแล้วเรื่องทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าเย่เทียนหยู่ไม่รู้อะไรเลยในสายตาของเย่เทียนหยู่ ซูถิงและหลินหว่านหรูมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากหลังจากวางสาย โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้งเขาคิดว่าเป็นซูถิงโทรมาอีก และกำลังจะวางสาย แล้วบล็อกเธอซะ แต่พอเขาก้มศีรษะลงมอง เขาก็เห็นว่าเป็
โดยเฉพาะหัวหน้าแก๊งที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า และมีรอยสักที่แขน แค่ดูก็รู้เลยว่าไม่ใช่คนดี“พะ พวกคุณมาทำอะไรที่นี่? ” เฉินเข่อซินถามอย่างกังวล“ทำอะไรงั้นเหรอ เธอคิดว่าพวกเรามาทำอะไรกันล่ะ! ”หัวหน้าแก๊งเดินเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ กระทั่งผลักเฉินเข่อซินที่ยืนบังอยู่ออกไป และพูดอย่างดุเดือด “พวกแกนี่ใจกล้าเบาเลยนะ ราคาดีขนาดนี้ ยังไม่ยอมเซ็นสัญญาอีก”เฉินหมินสังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ จึงก้าวไปข้างหน้าทันที และพูดด้วยความโกรธ “พวกคุณกำลังจะทำอะไรกันแน่? บุกเข้ามาในบ้านของเราทำไมกัน? ”“ทำอะไรงั้นเหรอ แกคือเฉินหมินสินะ ถ้านนายยอมให้ความร่วมมือดี ๆ ฉันก็จะไม่ทำอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าหากไม่ให้ความร่วมมือล่ะก็ ไม่ว่าอะไรพวกเราก็สามารถทำได้ทั้งนั้น”“ฉันขอแนะนำตัวเองก่อนก็แล้วกันนะ ฉันชื่อเตาปา! บนร่างกายของฉันมีรอยแผลเป็นอยู่ไม่มากก็น้อย มีคนที่ตายด้วยน้ำมือของฉันแต่ไม่ถึงสิบคน ประมาณเจ็ดแปดคนได้ล่ะมั้ง หวังว่าพวกแกจะไม่ใช่รายต่อไปนะ”เตาปาไม่เพียงแต่ดูดุร้าย แต่คำพูดของเขาก็น่ากลัวมากเช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับภาพลักษณ์เขาคือ สามารถทำให้เฉินหมินตระหนกตกใจ และทำให้เธอเป็นกังวลขึ้นมาได้ได
แม้ว่าเย่เทียนหยู่จะมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร เฉินหมินก็ยังคงกังวลอยู่เล็กน้อย แล้วก็ไม่อยากทำให้เย่เทียนหยู่ต้องมาลำบากด้วย เธอจึงพูดออกไปว่า “คุณเย่......”“คุณป้าเรียกผมว่าเทียนหยู่ก็พอครับ” เย่เทียนหยู่รีบพูดออกไป“ได้ เทียนหยู่ เจตนาดีของเธอ ป้าเข้าใจดี แต่คนพวกนั้นกินคนไม่คายกระดูก ลงมือได้อย่างโหดเหี้ยม ไม่งั้น พวกเราก็ช่างมันเถอะนะ กลัวว่าพอถึงตอนนั้นแล้วจะทำให้เธอต้องลำบากไปด้วย”“อย่างพวกมันน่ะเหรอครับ? ”“คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ถ้าพวกมันกล้ามาจริง ๆ ล่ะก็ ผมมีวิธีจัดการพวกเขาอย่างแน่นอนครับ”เย่เทียนหยู่พูดอย่างมั่นใจ “สรุปก็คือ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องกังวลทั้งสิ้น เราแค่รออยู่ที่นี่ก็พอ”เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่มีความมั่นใจมาก เฉินหมินก็ไม่พูดอะไรอีก จึงทำได้แค่แก้ไขปัญหาไปตามสถานการณ์เวลาก็ผ่านไปเรื่อย ๆ แบบนี้นาทีแล้วนาทีเล่า แม้แต่ข้าวเย็นเย่เทียนหยู่เองก็ทานด้วยกันที่นี่ไปแล้วด้วย แต่จนถึงเวลาประมาณสี่ทุ่มกว่า ๆ แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ปรากฏตัว“เทียนหยู่ เธอเหนื่อยหรือเปล่า วันนี้พวกเขาอาจจะไม่มาก็ได้ ไม่งั้นเธอกลับไปก
อาจจะเป็นสาวสวยคนนั้นจากงานเลี้ยงครั้งล่าสุดก็ได้ล่ะมั้งไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่มีความสุข และหงุดหงิดอย่างมากเฉินเข่อซินจึงวางโทรศัพท์กลับไปไว้บนโต๊ะอย่างช่วยไม่ได้ แต่แล้วก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พี่เย่กลับมาแล้วอย่างงั้นเหรอเธอก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อเปิดประตู แต่ทันทีที่เธอเปิดประตู เธอก็เห็นเตาปา คนที่เพิ่งบุกมาเมื่อตอนกลางวัน พอเธอกำลังจะเปิดปากพูดผ้าเช็ดหน้าก็ปรากฎบนมือขวาของอีกฝ่าย จากนั้นก็ปิดจมูกของเฉินเข่อซินไปแล้วเฉินเข่อซินก็หมดสติไปตรงนั้นทันที และไม่มีการดิ้นรนใด ๆ อีกเฉินหมินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบตะโกน “เข่อซิน เกิดอะไรขึ้น? ”แต่กว่าที่เธอจะรู้ มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เธอเองก็ถูกอีกฝ่ายทำให้หมดสติไปเหมือนกัน“เอาตัวไป! ”เตาปาพูดอย่างเย็นชาสองวันนี้งานผ่านไปอย่างราบรื่นมาก เดิมทีงานพวกเขาควรจะเสร็จตั้งนานแล้ว แต่แม่ลูกคู่นี้กลับกล้าเพิกเฉยต่อคำขู่ของเขา เลยทำให้เขาโกรธมากในเมื่อไม่เชื่อฟังคำเตือนดี ๆ ก็ต้องใช้ไม้นี้แหละ แล้วอย่างโทษที่เขาโหดร้ายก็แล้วกันคนกลุ่มนั้นก็ออกไปทันที แต่ไม่นานหลังจากท
เปลวไฟเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เย่เทียนหยู่พยายามค้นหารอบ ๆ แต่ก็ไม่มีร่องรอยของทั้งสองคนเลย ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของการดำรงอยู่ของพวกเธอด้วยซ้ำหลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เขาก็ตัดสินใจว่าทั้งสองคนคงจะไม่อยู่ที่นี่ เกรงว่าก่อนที่จะวางเพลิง อาจจะถูกพาตัวไปก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบฝ่าออกจากทะเลเพลิงนั้นทันทีผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากข้างในแต่แค่พวกเขาดูไม่ออกว่าเป็นใครก็เท่านั้น อีกฝ่ายเองก็รีบขึ้นรถในทันที จากนั้นก็หายไปจากตรงนั้นแล้วนั่นเป็นเพราะหลังจากที่เย่เทียนหยู่ออกมา ดวงตาอันเฉียบคมของเขาก็มองเห็นกลุ่มคนในระยะไกล ที่ดูเหมือนจะกำลังอุ้มคนขึ้นรถ ดังนั้นเขาจึงรีบตามไปในทันทีที่แท้ก็เป็นเมื่อกี้ ตอนที่มองเห็นว่าไฟกำลังลุกโชน เตาปาและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้พากันจากไปทันที แถมยังยืนดูอยู่พักหนึ่งด้วย“เวรเอ้ย โชคร้ายชะมัด” เตาปากล่าว“พี่เตา เราควรทำยังไงดี? ” ลูกน้องถามอย่างเร่งรีบ“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จะปล่อยพวกเธอเอาไว้ไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้น พวกเราจะต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยแน่นอน เรื่องใหญ่ขนาดนี้ แค่ตามสืบ เราก็คงจบเห่กันหมด”สีหน้าของเตาปาดู
ลูกน้องคนอื่น ๆ ก็ถูกเย่เทียนหยู่ฟาดทีละคนในทันที จนกระทั่งพวกเขานอนร้องไห้อยู่บนพื้นในขณะเดียวกันนี้เอง ในที่สุดเตาปาก็เข้าใจ ว่าตัวเองได้ประสบปัญหาใหญ่เข้าให้แล้วเห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้อีกฝ่ายแค่แกล้งเล่นตลกกับพวกเขา ด้วยความแข็งแกร่งของเขา สามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างง่ายดายเย่เทียนหยูจัดการกับเตาปาและคนอื่น ๆ จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อเปิดประตูรถ และตรวจดูเฉินหมินและเฉินเข่อซิน โชคดีที่เป็นเพียงยาสลบธรรมดาอีกสักพักก็คงจะตื่นแล้วเขาอุ้มทั้งสองคนขึ้นไปไว้ในรถของตัวเองทันทีอันที่จริง เมื่อกี้เขาได้ได้ลงมือกับพวกเขาหนักมากในตอนแรก เขาแค่ต้องการให้อีกฝ่ายเป็นอัมพาตก่อน แล้วค่อยพาทุกคนออกไปแบบนี้ เขาก็สามารถรับประกันความปลอดภัยของเฉินเข่อซินได้ว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุใด ๆ กับเธอแน่นอนในขณะเดียวกันนี้เอง ความทรงจำในอดีตของเขาได้รับการฟื้นฟูบางส่วน สถานะของคุณป้าและเฉินเข่อซินในใจของเขากลับพุ่งสูงขึ้น“กะ แกอย่ายุ่งให้มันมากนักนะ! ”“ฉันเป็นถึงคนจากสมาคมมังกรดำเชียวนะ แกลงมือกับฉัน สมาคมมังกรดำไม่ปล่อยแกไว้แน่”เขามองดูเย่เทียนหยู่ที่กำลังช่วยผู้หญิงสองคนนั้นอยู่ จาก
หลังจากได้ยินแบบนั้น หยางต้าฝูก็โกรธมากจนใบหน้าของเขาซีดเผือด ต่อให้การระเบิดเตาปาจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่ดีที่สำคัญเลยก็คือ เรื่องนี้กลับเกิดขึ้นต่อหน้าราชามังกรอีกต่างหาก“ท่านประธาน ผมผิดไปแล้ว ผมรู้สึกผิดแล้วจริง ๆ เป็นผมที่เลอะเลือน จนทำอะไรไปโดยไม่คิด...... ”“หุบปาก คนที่นายต้องของโทษไม่ใช่ฉัน มีแต่ต้องให้คุณเย่ยกโทษให้เท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้น นายก็ต้องกระโดดลงทะเลด้วยตัวเอง” หยางต้าฝูพูดด้วยความโกรธ“ส่งโทรศัพท์ให้คุณเย่! ”เตาปายื่นโทรศัพท์ให้เย่เทียนหยู่อย่างสั่นเทา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและความกลัว เขาคิดไม่ถึงว่าชายที่อยู่ตรงหน้าจะน่ากลัวขนาดนี้ดูเหมือนว่าแม้แต่ท่านประธานก็ยังเคารพและยำเกรงมากเย่เทียนหยู่รับโทรศัพท์กลับมา และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันเอง! ”“ราชามังกร คราวนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมไม่ได้สั่งสอนลูกน้องให้ดีก่อน จนทำให้คุณต้องเดือดร้อน”“คุณโปรดวางใจ ผมจะลงโทษคนกลุ่มนี้อย่างหนักแน่นอน และให้พวกเขาจ่ายค่าชดเชยตามความเป็นจริงโดยเร็วที่สุด”“ไม่สิ ผมจะให้เพิ่มอีกสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นการปลอบขวัญ นอกจากนี้ หา
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้