“คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ ยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี พอได้แล้ว ต่อไปถ้าไม่มีธุระ ก็ไม่ต้องโทรมาอีก”หากยังลังเลอยู่ก็อาจจะเกิดปัญหา เย่เทียนหยู่จึงไม่สนใจเธออีก และวางสายโทรศัพท์ทันทีเมื่อได้ยินเสียงติ๊ดของโทรศัพท์แล้ว ซูถิงก็หน้าซีด สำหรับเธอแล้ว เย่เทียนหยู่เป็นความหวังเดียวของเธอที่จะช่วยให้ตัวเองบินไปยังจุดสูงสุด และกลายเป็นนกฟีนิกซ์ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ดูดีมากเพื่อเขาแล้ว เธอยอมทำทุกอย่างจริง ๆทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะนังสารเลวหลินหว่าหรูคนนั้นคนเดียว ถ้าไม่มีเธออยู่ พี่เย่ก็คงไม่ทำแบบนี้กับตัวเอง ไม่แน่คงได้นอนด้วยกันตั้งนานแล้วหลินหว่านหรู!นังสารเลวนี่ กล้ามาแย่งผู้ชายของฉัน งั้นก็อย่าโทษที่ฉันโหดร้ายกับเธอก็แล้วกัน!ในเวลานี้เอง ดวงตาทั้งคู่ของเธอแดงก่ำ จนรู้สึกว่าเธอบ้าไปแล้วเรื่องทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าเย่เทียนหยู่ไม่รู้อะไรเลยในสายตาของเย่เทียนหยู่ ซูถิงและหลินหว่านหรูมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากหลังจากวางสาย โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้งเขาคิดว่าเป็นซูถิงโทรมาอีก และกำลังจะวางสาย แล้วบล็อกเธอซะ แต่พอเขาก้มศีรษะลงมอง เขาก็เห็นว่าเป็
โดยเฉพาะหัวหน้าแก๊งที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า และมีรอยสักที่แขน แค่ดูก็รู้เลยว่าไม่ใช่คนดี“พะ พวกคุณมาทำอะไรที่นี่? ” เฉินเข่อซินถามอย่างกังวล“ทำอะไรงั้นเหรอ เธอคิดว่าพวกเรามาทำอะไรกันล่ะ! ”หัวหน้าแก๊งเดินเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ กระทั่งผลักเฉินเข่อซินที่ยืนบังอยู่ออกไป และพูดอย่างดุเดือด “พวกแกนี่ใจกล้าเบาเลยนะ ราคาดีขนาดนี้ ยังไม่ยอมเซ็นสัญญาอีก”เฉินหมินสังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ จึงก้าวไปข้างหน้าทันที และพูดด้วยความโกรธ “พวกคุณกำลังจะทำอะไรกันแน่? บุกเข้ามาในบ้านของเราทำไมกัน? ”“ทำอะไรงั้นเหรอ แกคือเฉินหมินสินะ ถ้านนายยอมให้ความร่วมมือดี ๆ ฉันก็จะไม่ทำอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าหากไม่ให้ความร่วมมือล่ะก็ ไม่ว่าอะไรพวกเราก็สามารถทำได้ทั้งนั้น”“ฉันขอแนะนำตัวเองก่อนก็แล้วกันนะ ฉันชื่อเตาปา! บนร่างกายของฉันมีรอยแผลเป็นอยู่ไม่มากก็น้อย มีคนที่ตายด้วยน้ำมือของฉันแต่ไม่ถึงสิบคน ประมาณเจ็ดแปดคนได้ล่ะมั้ง หวังว่าพวกแกจะไม่ใช่รายต่อไปนะ”เตาปาไม่เพียงแต่ดูดุร้าย แต่คำพูดของเขาก็น่ากลัวมากเช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับภาพลักษณ์เขาคือ สามารถทำให้เฉินหมินตระหนกตกใจ และทำให้เธอเป็นกังวลขึ้นมาได้ได
แม้ว่าเย่เทียนหยู่จะมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร เฉินหมินก็ยังคงกังวลอยู่เล็กน้อย แล้วก็ไม่อยากทำให้เย่เทียนหยู่ต้องมาลำบากด้วย เธอจึงพูดออกไปว่า “คุณเย่......”“คุณป้าเรียกผมว่าเทียนหยู่ก็พอครับ” เย่เทียนหยู่รีบพูดออกไป“ได้ เทียนหยู่ เจตนาดีของเธอ ป้าเข้าใจดี แต่คนพวกนั้นกินคนไม่คายกระดูก ลงมือได้อย่างโหดเหี้ยม ไม่งั้น พวกเราก็ช่างมันเถอะนะ กลัวว่าพอถึงตอนนั้นแล้วจะทำให้เธอต้องลำบากไปด้วย”“อย่างพวกมันน่ะเหรอครับ? ”“คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ถ้าพวกมันกล้ามาจริง ๆ ล่ะก็ ผมมีวิธีจัดการพวกเขาอย่างแน่นอนครับ”เย่เทียนหยู่พูดอย่างมั่นใจ “สรุปก็คือ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องกังวลทั้งสิ้น เราแค่รออยู่ที่นี่ก็พอ”เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่มีความมั่นใจมาก เฉินหมินก็ไม่พูดอะไรอีก จึงทำได้แค่แก้ไขปัญหาไปตามสถานการณ์เวลาก็ผ่านไปเรื่อย ๆ แบบนี้นาทีแล้วนาทีเล่า แม้แต่ข้าวเย็นเย่เทียนหยู่เองก็ทานด้วยกันที่นี่ไปแล้วด้วย แต่จนถึงเวลาประมาณสี่ทุ่มกว่า ๆ แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ปรากฏตัว“เทียนหยู่ เธอเหนื่อยหรือเปล่า วันนี้พวกเขาอาจจะไม่มาก็ได้ ไม่งั้นเธอกลับไปก
อาจจะเป็นสาวสวยคนนั้นจากงานเลี้ยงครั้งล่าสุดก็ได้ล่ะมั้งไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่มีความสุข และหงุดหงิดอย่างมากเฉินเข่อซินจึงวางโทรศัพท์กลับไปไว้บนโต๊ะอย่างช่วยไม่ได้ แต่แล้วก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พี่เย่กลับมาแล้วอย่างงั้นเหรอเธอก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อเปิดประตู แต่ทันทีที่เธอเปิดประตู เธอก็เห็นเตาปา คนที่เพิ่งบุกมาเมื่อตอนกลางวัน พอเธอกำลังจะเปิดปากพูดผ้าเช็ดหน้าก็ปรากฎบนมือขวาของอีกฝ่าย จากนั้นก็ปิดจมูกของเฉินเข่อซินไปแล้วเฉินเข่อซินก็หมดสติไปตรงนั้นทันที และไม่มีการดิ้นรนใด ๆ อีกเฉินหมินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบตะโกน “เข่อซิน เกิดอะไรขึ้น? ”แต่กว่าที่เธอจะรู้ มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เธอเองก็ถูกอีกฝ่ายทำให้หมดสติไปเหมือนกัน“เอาตัวไป! ”เตาปาพูดอย่างเย็นชาสองวันนี้งานผ่านไปอย่างราบรื่นมาก เดิมทีงานพวกเขาควรจะเสร็จตั้งนานแล้ว แต่แม่ลูกคู่นี้กลับกล้าเพิกเฉยต่อคำขู่ของเขา เลยทำให้เขาโกรธมากในเมื่อไม่เชื่อฟังคำเตือนดี ๆ ก็ต้องใช้ไม้นี้แหละ แล้วอย่างโทษที่เขาโหดร้ายก็แล้วกันคนกลุ่มนั้นก็ออกไปทันที แต่ไม่นานหลังจากท
เปลวไฟเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เย่เทียนหยู่พยายามค้นหารอบ ๆ แต่ก็ไม่มีร่องรอยของทั้งสองคนเลย ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของการดำรงอยู่ของพวกเธอด้วยซ้ำหลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เขาก็ตัดสินใจว่าทั้งสองคนคงจะไม่อยู่ที่นี่ เกรงว่าก่อนที่จะวางเพลิง อาจจะถูกพาตัวไปก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบฝ่าออกจากทะเลเพลิงนั้นทันทีผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากข้างในแต่แค่พวกเขาดูไม่ออกว่าเป็นใครก็เท่านั้น อีกฝ่ายเองก็รีบขึ้นรถในทันที จากนั้นก็หายไปจากตรงนั้นแล้วนั่นเป็นเพราะหลังจากที่เย่เทียนหยู่ออกมา ดวงตาอันเฉียบคมของเขาก็มองเห็นกลุ่มคนในระยะไกล ที่ดูเหมือนจะกำลังอุ้มคนขึ้นรถ ดังนั้นเขาจึงรีบตามไปในทันทีที่แท้ก็เป็นเมื่อกี้ ตอนที่มองเห็นว่าไฟกำลังลุกโชน เตาปาและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้พากันจากไปทันที แถมยังยืนดูอยู่พักหนึ่งด้วย“เวรเอ้ย โชคร้ายชะมัด” เตาปากล่าว“พี่เตา เราควรทำยังไงดี? ” ลูกน้องถามอย่างเร่งรีบ“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จะปล่อยพวกเธอเอาไว้ไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้น พวกเราจะต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยแน่นอน เรื่องใหญ่ขนาดนี้ แค่ตามสืบ เราก็คงจบเห่กันหมด”สีหน้าของเตาปาดู
ลูกน้องคนอื่น ๆ ก็ถูกเย่เทียนหยู่ฟาดทีละคนในทันที จนกระทั่งพวกเขานอนร้องไห้อยู่บนพื้นในขณะเดียวกันนี้เอง ในที่สุดเตาปาก็เข้าใจ ว่าตัวเองได้ประสบปัญหาใหญ่เข้าให้แล้วเห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้อีกฝ่ายแค่แกล้งเล่นตลกกับพวกเขา ด้วยความแข็งแกร่งของเขา สามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างง่ายดายเย่เทียนหยูจัดการกับเตาปาและคนอื่น ๆ จากนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อเปิดประตูรถ และตรวจดูเฉินหมินและเฉินเข่อซิน โชคดีที่เป็นเพียงยาสลบธรรมดาอีกสักพักก็คงจะตื่นแล้วเขาอุ้มทั้งสองคนขึ้นไปไว้ในรถของตัวเองทันทีอันที่จริง เมื่อกี้เขาได้ได้ลงมือกับพวกเขาหนักมากในตอนแรก เขาแค่ต้องการให้อีกฝ่ายเป็นอัมพาตก่อน แล้วค่อยพาทุกคนออกไปแบบนี้ เขาก็สามารถรับประกันความปลอดภัยของเฉินเข่อซินได้ว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุใด ๆ กับเธอแน่นอนในขณะเดียวกันนี้เอง ความทรงจำในอดีตของเขาได้รับการฟื้นฟูบางส่วน สถานะของคุณป้าและเฉินเข่อซินในใจของเขากลับพุ่งสูงขึ้น“กะ แกอย่ายุ่งให้มันมากนักนะ! ”“ฉันเป็นถึงคนจากสมาคมมังกรดำเชียวนะ แกลงมือกับฉัน สมาคมมังกรดำไม่ปล่อยแกไว้แน่”เขามองดูเย่เทียนหยู่ที่กำลังช่วยผู้หญิงสองคนนั้นอยู่ จาก
หลังจากได้ยินแบบนั้น หยางต้าฝูก็โกรธมากจนใบหน้าของเขาซีดเผือด ต่อให้การระเบิดเตาปาจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่ดีที่สำคัญเลยก็คือ เรื่องนี้กลับเกิดขึ้นต่อหน้าราชามังกรอีกต่างหาก“ท่านประธาน ผมผิดไปแล้ว ผมรู้สึกผิดแล้วจริง ๆ เป็นผมที่เลอะเลือน จนทำอะไรไปโดยไม่คิด...... ”“หุบปาก คนที่นายต้องของโทษไม่ใช่ฉัน มีแต่ต้องให้คุณเย่ยกโทษให้เท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้น นายก็ต้องกระโดดลงทะเลด้วยตัวเอง” หยางต้าฝูพูดด้วยความโกรธ“ส่งโทรศัพท์ให้คุณเย่! ”เตาปายื่นโทรศัพท์ให้เย่เทียนหยู่อย่างสั่นเทา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและความกลัว เขาคิดไม่ถึงว่าชายที่อยู่ตรงหน้าจะน่ากลัวขนาดนี้ดูเหมือนว่าแม้แต่ท่านประธานก็ยังเคารพและยำเกรงมากเย่เทียนหยู่รับโทรศัพท์กลับมา และพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันเอง! ”“ราชามังกร คราวนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมไม่ได้สั่งสอนลูกน้องให้ดีก่อน จนทำให้คุณต้องเดือดร้อน”“คุณโปรดวางใจ ผมจะลงโทษคนกลุ่มนี้อย่างหนักแน่นอน และให้พวกเขาจ่ายค่าชดเชยตามความเป็นจริงโดยเร็วที่สุด”“ไม่สิ ผมจะให้เพิ่มอีกสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นการปลอบขวัญ นอกจากนี้ หา
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย คุณป้าเองก็ยังหมดสติอยู่ พวกเราเข้าไปก่อนแล้วค่อยคุยกัน”หลังจากที่ประสบเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาเมื่อคืน กับคนอื่นอาจจะพูดยาก แต่กับเฉินเข่อซินแล้ว เงินชดเชยจะต้องสูงมาก “อืม! ”เฉินเข่อซินพยักหน้า เนื่องจากมีเพียงห้องเดียว เลยต้องเปิดแค่เพียงห้องเดียวพวกเขาทั้งสามมาถึงห้องพักในโรงแรมอย่างรวดเร็ว เย่เทียนยู่นั่งลงแล้วพูดว่า “ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เธอเองก็รีบพักผ่อนเถอะ ไว้พรุ่งนี้เช้าพี่จะรีบมาหา”“ไม่เอา! ”เมื่อเฉินเข่อซินได้ยินดังนั้น ก็รีบพูดขึ้นทันที“ทำไมล่ะ? ”“มีฉันอยู่แค่คนเดียว แม่ก็ยังไม่ตื่นสักที ฉันกลัว”“ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก”“แต่ว่า ฉันกลัวจริง ๆ นะ พี่เย่ คืนนี้พี่ก็อย่าเพิ่งไปเลยนะ” ใบหน้าของเฉินเข่อซินซีดลงเล็กน้อยเพิ่งจะประสบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาหมาด ๆ เธอเองก็รู้สึกกลัวอยู่จริง ๆ ไม่รู้ว่าจะมีคนเลวที่ไหนบุกมาอีกรึเปล่า“แต่นี่มันไม่สะดวกเท่าไหร่” เย่เทียนหยู่พูดอย่างช่วยไม่ได้“ที่นี่มีเตียงสองเตียง ฉันกับแม่นอนเตียงหนึ่ง ส่วนพี่ก็นอนอีกเตียงหนึ่ง ยังไงซะ พวกเราก็นอนสวมเสื้อผ้าอยู่แล้ว ไม่เป็นไรหรอก” เฉินเข่อซินพูดด้วยอาก
ครั้งนี้ ไป๋เถารู้สึกเจ็บใจมากจริง ๆ ทุกคำทุกประโยคที่เขาคิด คือต้องการคิดหาวิธีที่จะลากตระกูลไป๋ลงน้ำและเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋จะต้องตายอย่างแน่นอน นั่นเพราะเขาเพิ่งจะได้รับข่าวที่น่าตกใจมาก ๆ มา เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงราชามังกรแห่งพรรคมังกรที่แท้ระหว่างทางมาที่โรงพยาบาล ไป๋เถาที่กำลังตกอยู่ในความสิ้นหวังนั้น ก็ได้นึกถึงการต่อสู้ครั้งนี้ขึ้นมา ก่อนที่จู่ ๆ เขาจะพบว่าตนเองอาจจะคาดการเรื่องทั้งหมดนี้ผิดไปก็ได้ที่อีกฝ่ายรับการป้องกันได้ไม่ใช่เพราะการโจมตีของตนแข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะตนยังไม่ทันได้มีเวลาลงมือเลยต่างหากที่สำคัญเลยก็คือ หลังจากที่ตนมาถึงโรงพยาบาลได้ไม่นาน เพื่อนจากสถานีตำรวจก็โทรมาหาตำแหน่งของเพื่อนคนนี้ไม่ได้สูงมากนัก แต่เป็นเพราะเขาบังเอิญได้ยินบทสนทนาของสารวัตรเฉินกับหวงลี่ นั่นจึงทำให้เขาได้รู้ความลับที่น่าตกใจอย่างหนึ่งเข้าพูดกันว่าความเป็นมาของเย่เทียนหยู่นั้นน่ากลัวมาก เขาเป็นถึงราชามังกรแห่งพรรคมังกรเมื่อได้ยินคำว่าราชามังกรแห่งพรรคมังกร ทันใดนั้นไป๋เถาก็เกิดรู้สึกงงงวยขึ้นมาไม่ว่าไป๋เถาจะคิดยังไง เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตนจะเผลอไปล
“โดยทั่วไปแล้ว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมจริง ๆ แต่วิธีการเคลื่อนไหวของเขานั้นแปลกประหลาดมาก เป็นการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างพิเศษจริง ๆ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะกระบวนท่าที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนั่น”ไป๋เถาอธิบายต่อ “พวกเราต่างก็ดูถูกเขาเกินไป คิดว่าจะสามารถจัดการได้ง่าย ๆ แต่สุดท้ายอีกฝ่ายกลับลงมืออย่างกะทันหัน จนทำให้พวกเราติดกับ”“อย่างนี้นี่เอง ฉันก็ว่าอยู่ ทั้ง ๆ ที่นายเป็นคนท้าดวลเขาแท้ ๆ ทำไมจู่ ๆ นายถึงเป็นฝ่ายที่โดนเสียเอง”“ไหนจะพยัคฆ์ทมิฬนั่นอีก เขาเองก็มีสภาพเดียวกัน ยังไม่ทันได้แสดงฝีมือของตัวเองเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายก็กลับถูกอีกฝ่ายโจมตีจากด้านหลังเสียอย่างนั้น”คุณนายไป๋เองก็เป็นผู้ที่อยู่ในเหตุหารณ์ทั้งสอง จึงได้พูดอธิบายสิ่งที่รู้อยู่อยู่ข้าง ๆ ด้วยเช่นกัน ยิ่งไอ้เด็กนั่นอ่อนแอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้นเมื่อหัวหน้าใหญ่ไป๋ได้ยิน เขาก็เข้าใจได้ในทันทีเขาเองก็คิดอยู่เหมือนกัน ว่าแค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบกว่า ๆ จะแข็งแกร่งและน่ากลัวขนาดนั้นได้ยังไงถึงเขาจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ก็ไม่มีทางอยู่ในระดับปรมาจารย์แน่นอนแถมตอนนี้ตนก็อยู่ในระดับพลังผลัดเปล
เมื่อได้ยินคำถามนี้ สีหน้าของไป๋เถาก็แดงก่ำขึ้นมาทันที ก่อนจะจ้องมองไปยังคุณนายไป๋ด้วยความโกรธ หลังจากที่เขาโทรเรียกรถพยาบาล 120 จนกระทั่งมาถึงโรงพยาบาล เขายิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเคืองขึ้นเรื่อย ๆคุณนายไป๋รู้สึกตกใจเมื่อถูกเขาจ้องมองด้วยสายตาที่ดุร้าย เธอรู้สึกอึดอัด ก่อนจะพูดด้วยความกลัวออกไปว่า “เธอ เธอจ้องมองฉันทำไม?”หัวหน้าใหญ่ไป๋เองก็มีสีหน้าไม่พอใจเช่นกัน แม้เขาจะรู้ว่าคำพูดของภรรยามีคำพูดโกหกอยู่บ้าง แต่ทั้งที่ตนถูกคนอื่นทำร้ายมาจนหมดสภาพมาแท้ ๆ ยังไงก็ไม่ควรมาพาลใส่คนอื่นแบบนี้ เขาจึงพูดด้วยเสียงต่ำออกไปว่า “ไป๋เถา นายหมายความว่ายังไง?”“พี่ใหญ่ พี่ไม่รู้อะไร ทั้งหมดก็เป็นเพราะพี่สะใภ้ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สะใภ้ ผมก็คงไม่ต้องไปประมือกับไอ้เด็กนั่นหรอก ยิ่งไม่มีทางลงเอยแบบนี้แน่” ไป๋เถาอธิบายด้วยความโกรธแต่หัวหน้าใหญ่ไป๋ที่ได้ยินก็กลับโกรธขึ้นอย่างมาก ก่อนจะด่าออกไปว่า “ไร้สาระ!”“เรื่องที่นายประมือกับเจ้าเด็กนั่นฉันรู้หมดแล้ว ร่างกายก็เป็นของนาย ถ้าหากไม่อยากประมือกับเขา แค่ไม่ลงมือก็ไม่มีทางเป็นแบบนี้ได้หรอก”เมื่อไป๋เถาได้ยินแบบนั้น ก็รู้สึกมึนงงขึ้นมาทันที เขารู้ว่าพี
ดูจากข้อมูลที่ทำความเข้าใจแล้วในปัจจุบัน การทำลายตระกูลไป๋นั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างตระกูลไป๋กับแก๊งของพยัคฆ์ทมิฬ รวมถึงเรื่องที่ตระกูลไป๋เคยมีประวัติที่ไม่สะอาดมาก่อนดังนั้น เขาจึงไม่รีบร้อนที่จะจัดการกับตระกูลไป๋ แม้ว่าอีกเดี๋ยวเขายังจะต้องไปเข้าร่วมการประชุมศักดิ์สิทธิ์อยู่ก็ตามกลับคิดไม่ถึงเลยว่า คุณนายไป๋คนนี้จะชอบรนหาที่ตายมากขนาดนั้นในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นก็ทำให้พวกเขาสมปรารถนาก็แล้วกัน!ที่แท้ ในตอนที่เห็นเย่เทียนหยู่เดินจากไป คุณนายไป๋ก็รู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก เธอจึงหันไปพูดด้วยความโกรธว่า “ไป๋เถา แกเป็นอะไรไป แค่เด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแค่นี้ก็จัดการไม่ได้ เลี้ยงขยะแบบแกเอาไว้จะมีประโยชน์อะไร!”ขยะงั้นเหรอ?ฉันเนี่ยนะขยะ!หากเป็นตอนปกติ ไป๋เถาอาจจะพออดทนได้ แต่ในตอนนี้ ความโกรธที่เต็มเปี่ยมกลับพุ่งทะลักออกมาหากไม่ใช่เพราะเธอ ด้วยการระมัดระวังตัวของฉัน คิดว่าฉันจะเจอกับชะตากรรมแบบนี้รึไง“ทำไม นี่แกยังกล้ามาจ้องหน้าฉันอีกงั้นเหรอ แกจำใส่หัวเอาไว้นะ เพราะแกนั่นแหละ แกรู้ไหมว่าแกทำให้ตระกูลไป๋ต้องสูญเสียไปมากแค่
เย่เทียนหยู่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องนี้ในมุมมองของเขา ถือเป็นเรื่องที่แน่นอนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาจึงถามออกไปว่า “สายจากตำรวจใช่ไหม?”“อือ โทรกลับมาแล้วล่ะ!”“บ่ายวันนี้แม่ของฉันถูกตำรวจพาตัวไปแล้ว ทันทีที่เธอเข้าไป เธอก็สารภาพทุกอย่างออกมาอย่างละเอียดทันที”ก่อนหน้านี้ได้ยินแม่สาบานอย่างมั่นใจแล้วแท้ ๆ บวกกับที่ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดเหตุผลที่อีกฝ่ายจะทำแบบนั้นไม่ออก เดิมทีคิดว่าคงจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับแม่แล้วจริง ๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าแม่จะหลอกเธอมาโดยตลอดแม่ตระกูลหลินเองก็รู้สึกหมดหนทางเช่นกัน ตอนที่ถูกพาตัวไป แขนขาเธอก็รู้สึกอ่อนแรงขึ้นมายิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังพูดอีกว่า หากยอมสารภาพความจริงทั้งหมดออกมา และได้รับการให้อภัยจากผู้เสียหาย พร้อมกับลงนามในเอกสารยินยอม เธอก็จะสามารถออกไปได้ทันทีเพราะไม่เช่นนั้น เธอก็จะต้องติดคุกอย่างแน่นอน ส่วนจะติดกี่ปีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติของตน และความร้ายแรงของความผิดที่ทำลงไปในตอนนี้ แม่ตระกูลหลินคิดว่าหลินหว่านหรูจะต้องให้อภัยตนอย่างแน่นอน เพราะเธอไม่มีทางที่จะส่งแม่แท้ ๆ เข้าคุกได้แน่ ดังนั้นจึงไม่ลังเลใจที่จะเปิดเผยทุกอย่างออกไป
เมื่อเห็นว่าไป๋เถามองมาที่ตนด้วยความโกรธ คุณนายไป๋ก็รู้สึกสับสนในทันที นี่มันหมายความว่ายังไง เธอไม่ได้เป็นคนทำให้เขาเป็นแบบนี้สักหน่อย เธอถึงกับไม่กล้ามองเขาอีก ก่อนจะหันไปมองเย่เทียนหยู่แทนเธอเห็นเพียงเย่เทียนหยู่ยืนอยู่ที่เดิมด้วยท่าทีสงบนิ่งและใสซื่อเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง เห็น ๆ อยู่ว่าไป๋เถาได้เปรียบตั้งแต่เริ่มแล้วนี่“ไอ้หนู ตกลงแกใช้กลอุบายอะไรอยู่กันแน่?” คุณนายไป๋พูดด้วยความโกรธ“พูดให้มันน้อย ๆ หน่อย ห้าหมื่นล้าน จะให้ได้เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่พูดด้วยท่าทีเฉยเมย“ห้าหมื่นล้านอะไรกัน แกมันโกง แบบนี้ไม่นับ”“งั้นเหรอ?”เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินคำนี้ ดวงตาของเขาก็แสดงถึงความโกรธเกรี้ยวทันที เขาเดินตรงไปหาคุณนายไป๋ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดูท่าแล้ว ที่สั่งสอนไปเมื่อเช้าไม่เข้าหัวเลยสินะ”“แก แกจะทำอะไร อย่าลืมนะ ข้าง ๆ คือสถานีตำรวจ ช่วยด้วย ชะ......”เพี้ยะ!“อ้าย!”คุณนายไป๋ร้องเสียหลง ก่อนที่มุมปากจะมีเลือดไหลออกมาเย่เทียนหยู่พูดพลางหัวเราะเยาะออกไปว่า “เมื่อกี้ใครเป็นคนพูดกัน ว่าอย่าแจ้งตำรวจ ผมจะถามคุณเป็นครั้งสุดท้าย เงินห้าหมื่นล้าน การเดิมพันยังถือว
สีหน้าของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างเฉยเมย เขาส่ายหัวไปมา หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็สามารถมองออกหมดแล้ว การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายดูละเอียดอ่อนมากจริง ๆ น่าจะมีคนคอยชี้แนะอยู่แน่นอนเพราะไม่เช่นนั้น ด้วยวิธีการฝึกฝนของพวกเขา ไม่มีทางที่จะมีทักษะการเคลื่อนไหวแบบนี้แน่ แต่แล้วอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้อยู่ดีเหตุผลที่เขายังไม่ลงมือมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่ต้องการให้โอกาสพวกเขา แต่ในเมื่อพวกเขาไม่ต้องการ เช่นนั้นก็อย่าโทษที่ไม่เกรงใจก็แล้วกันไป๋เถากลับไม่รู้อะไรเลย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เดิมคิดว่าคนตรงหน้าคงเก่งกาจมากแน่ ๆ กลับคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายเป็นคนถูกตนไล่ล่าแทน หากไม่เพราะเมื่อกี้มีโชคช่วยเอาไว้ ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายคงโดนตนโจมตีไปแล้วที่สำคัญเลยก็คือ ในที่สุดเขาก็สังเกตเห็นพลังของอีกฝ่าย ซึ่งอยู่ในระดับพลังจันทราสูงสุด และอยู่ต่ำกว่าตนหนึ่งระดับที่แท้ไอ้เด็กนี่มันก็มีฝีมือแค่นี้เอง แทบไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่ตนคิดเอาไว้เลยด้วยซ้ำไม่สำคัญว่าอีกฝ่ายจะอาศัยทักษะอันยอดเยี่ยมของร่างกายมากแค่ไหน พยัคฆ์ทมิฬเองก็อาจมีแนวโน้มที่จะถูกอีกฝ่ายโจมตีด้วยทักษะร่
“งั้นเหรอ คุณนายไปช่างเก่งกาจเสียจริง”“แน่นอน แต่ตอนนี้แกจะพูดอะไรมันก็สายไปแล้ว อีกเดี๋ยว แกก็จะได้รู้ ว่าการที่มาทำให้ฉันโกรธนั้น แกจะต้องเจอกับชะตากรรมที่น่าสมเพชมากแค่ไหน”“ดูท่าแล้ว คุณนายไป๋คงมั่นใจมากเลยสินะ งั้นเอาอย่างนี้ไหม พวกเรามาพนันกัน” เย่เทียนหยู่นึกถึงเงินห้าหมื่นล้านที่จะต้องให้เฉินเฟยเฟย ตอนนี้มีคนเอามาให้ถึงที่แล้วไม่ใช่รึไง“พนันงั้นเหรอ?”“ใช่แล้ว ถ้าผมชนะไป๋เถา คุณต้องให้ผมห้าหมื่นล้าน!”“ว่าไงนะ! ห้าหมื่นล้าน! ไอ้หนู แกรู้ไหม ว่าเงินห้าหมื่นล้านมันมากแค่ไหน แกจะเอาอะไรมาพนันกับฉัน?” คุณนายไป๋รู้สึกว่า ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้บ้า ก็คงเป็นคนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลยอย่าว่าแต่เด็กน้อยอย่างเขาเลย ต่อให้เป็นหัวหน้าใหญ่ไป๋ก็เกรงว่าคงไม่กล้าลงเดิมพันมากถึงห้าหมื่นล้านแบบนี้แน่“ก็ใช้ชีวิตของผมไง ถ้าผมแพ้ ชีวิตของผม พวกคุณจัดการได้ตามสบายเลย!”“ชีวิตที่ไร้ค่าอย่างแกเนี่ยนะ กล้าดียังไงเอามาเทียบกับเงินห้าหมื่นล้าน?” คุณนายไป๋หัวเราะออกมาเสียงดัง อย่าว่าแต่ไอ้สวะนี่เลย ชีวิตใครบ้างที่จะมีค่าถึงห้าหมื่นล้าน?“งั้นจะไม่พนันก็ได้ มาสู้กันเลยเถอะ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยท่าท
สารวัตรเฉินที่ได้ยินก็โกรธจัดทันที คุณนายไป๋คนนี้คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหน เธอไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ขณะที่กำลังจะทำการตักเตือนแต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง เย่เทียนหยู่ก็พูดขึ้นมาก่อน เขาพูดพร้อมรอยยิ้มออกไปว่า “สารวัตรเฉินครับ ในเมื่อพวกเขาชอบก่อความวุ่นวาย ไม่งั้นก็ให้โอกาสพวกเขาสักครั้งเถอะครับ”“เอาแบบนี้ คุณชื่อไป๋เถาใช่ไหม หากว่าคุณยินดี พวกเราก็มาประมือกันสักหน่อย แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองฝ่าย ก็จะไม่มีการรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น” ไป๋เถากำลังจะปฏิเสธ แต่คุณนายไป๋ก็กลับพูดขึ้นมาก่อนว่า “ได้ แกเป็นคนพูดเองนะ ต่อให้แกตายไปนั่นมันก็สมควรแล้ว”ไป๋เถารู้สึกอึ้งทันที พี่สะใภ้ นี่คุณกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไงก็พูดได้นี่ ยังไงก็ไม่ได้เป็นคนลงมือเองอยู่แล้ว แถมคนที่ถูกส่งไปตายก็ไม่ใช่ตัวเองอีกไม่ใช่รึไง?เขาเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมาก ดังนั้น เขาจึงคอยสังเกตเย่เทียนหยู่อยู่ตลอดเวลาแต่ยิ่งสังเกตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่กล้ามองข้ามเขาไปมากเท่านั้นโชคดีที่สารวัตรเฉินรีบปฏิเสธขึ้นมา “ไม่ได้ครับ พวกคุณอาจจะประมือกันก็ได้ แต่ที่นี่คือสถานีตำรวจ จะให้เกิดเหตุการณ์เลือดตกยา