ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโกรธ หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะนึกถึงขอทานน้อยที่มอบจี้หยกรูปมีดให้เธอในปีนั้น ขอทานน้อยคนนั้นยังดีว่าไอ้คนเลวเย่เทียนหยู่ที่อยู่ตรงหน้าถึงหมื่นเท่าเสียอีกในปีนั้นขอทานน้อยไม่ว่าอะไรก็ยอมเธอทุกอย่าง ดูแลตัวเองด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนขนาดนั้น และยังเล่นเป็นเพื่อนเธอทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พบว่าเป็นเย่เทียนหยู่ที่โทรมาเฮอะ!ไอ้คนสารเลว!ฉันจะไม่รับสายของคุณหรอกนะหลินหว่านหรูกดปุ่มวางสายทันทีเย่เทียนยู่ออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเข่อซิน เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นหลินหว่านหรูโทรมา เขาก็รีบโทรกลับไปทันทีคิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะติดต่อไปก็ถูกกดวางสายแล้วเขาคิดในใจ บางทีหลินหว่านหรูอาจจะนอนแล้ว หรือไม่ก็กำลังยุ่งอยู่กับเรื่องสำคัญ ถึงอย่างไรก็เพราะเกิดเรื่องของหลิวเจี๋ย ทำให้ตอนนี้ตระกูลหลินค่อนข้างมีปัญหาเขาก็ไม่โทรต่อ ค่อยคุยพรุ่งนี้อย่างตรงไปตรงมาหลินหว่านหรูกำลังรอให้เย่เทียนหยู่โทรมาเพื่ออธิบายอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่มีอะไรเลย ทันใดนั้นก็เพิ่มความโมโหขึ้นไปอีกเกือบจะเตียงหักแล้วไม่ว่าจะพูดอย่างไร ทั้งสองคน
เมื่อเวลาผ่านไปช้า ๆ ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนเธอก็นอนหลับแล้วเช้าวันรุ่งขึ้น เฉินหมินตื่นขึ้นมา เธอส่งเสียงกรีดร้องก่อน หลังจากนั้นพบว่าตัวเธอเองปลอดภัยไร้ซึ่งอันตรายเฉินเข่อซินก็ตื่นขึ้นมา และอธิบายสถานการณ์อย่างรวดเร็วเฉินหมิ่นฟังจบก็ถอนหายใจเบา ๆ และพูดว่า “เทียนหยู่ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเธอแล้ว ไม่อย่างนั้น พวกเราสองคนแม่ลูกเกรงว่าชีวิตนี้ตายเสียยังจะดีกว่า”ลูกสาวตัวเองสวยโดดเด่นขนาดนี้ ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนกลุ่มนั้น จุดจบคงเศร้าสลดอย่างแน่นอน“คุณป้าเกรงใจกันเกินไปแล้ง เดิมทีนี่ก็เป็นเรื่องที่ผมควรทำครับ และถ้าผมไม่ลงไปชั้นล่างเพื่อซื้อของ พวกคุณก็คงไม่ต้องได้รับความทุกข์เหล่านี้”“จะโทษเธอได้อย่างไรกัน แต่เทียนหยู่ แม้ว่าเธอจะเก่งกังฟูจนชนะพวกเขา แต่คนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขามีทั้งกำลังและอำนาจ แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยพวกเราเอาไว้”เฉินหมิ่นพูดด้วยความกังวล “ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดี โดยเฉพาะเธอ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ แต่ก็ยังพาเธอเข้ามาเกี่ยว เป็นป้าที่ทำร้ายเธอ”“จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไรกัน คุณป้าวางใจเถอะครับ มีผมอยู่ด้วย พวกเขาไม่มีทางทำอะไรคุณป้
“ใช่น่ะสิ!”“พี่พูดแล้ว มีพี่อยู่ ใครก็ทำร้ายเธอไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงพวกคนไร้ประโยชน์หรอก” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้ม“ใช่ ใช่ พวกเราเป็นคนไร้ประโยชน์ คุณชายเย่จะฆ่าพวกเรา เหมือนกับบีบมดตัวหนึ่งตายอย่างง่ายดาย” เตาปารีบพูดคล้อยตาม“หุบปากซะ!”เย่เทียนหยู่พูดตำหนิ จากนั้นก็หันกลับมาพูดว่า “เข่อซิน ตอนนี้พวกเขาก็อยู่ที่นี่ เธออยากแก้แค้นยังไงก็ได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของพวกเขาก็ตาม”หากเฉินเข่อซินต้องการชีวิตของเตาปา เขาไม่ถือสาที่จะลงมือเพื่อความปรารถนาที่ทำให้เข่อซินพอใจเมื่อเตาปาได้ยินเช่นนั้น ก็ตกใจจนใบหน้าขาวซีดทันที ประธานหยางพูดก่อนที่เขาจะมาแล้ว ถ้าหากวันนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างน่าพอใจ เขามีความตายเป็นทางเลือกเดียวเท่านั้นไม่ต้องถึงกับให้คุณชายเย่ลงมือเองหรอก“ไม่ ไม่เอาแล้วล่ะ!”โชคดีที่เฉินเข่อซินได้ยินเสียงนักฆ่า ก็ส่ายศีรษะไม่หยุดด้วยความตึงเครียด เธอพูดว่า “ขอเพียงแค่พวกเขาเรียกเก็บราคาค่าบ้านให้เหมาะสมก็พอแล้ว”“ไม่มีปัญหา รับรองว่าราคาอยู่ในขอบเขตที่สมเหตุสมผล”เมื่อเตาปาได้ยินดังนั้น ก็พูดด้วยความตื่นเต้นว่า “จากการที่พวกเรากลับไปประเมินค่ามาให
ทว่าท้ายที่สุดตอนนี้ก็แก้ไขปัญหาได้แล้ว แม้จะต้องจ่ายไปห้าล้านเต็ม ๆ ก็ตาม ทำให้เขาปวดใจจนไม่ไหว แต่ก็ดีกว่าไม่มีชีวิตอยู่มากหากไม่มีชีวิตแล้ว แบบนั้นอะไรก็ไม่มีเลยสักอย่างทางเตาปาเพิ่งจะออกไปได้ครู่หนึ่ง บัตรธนาคารของเฉินเข่อซินก็ได้รับค่าชดเชยการรื้อถอนสามสิบล้าน หลังเธอเห็นก็อึ้งไปเลย ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “พวกเขาโอนมาแล้วจริง ๆ?”“แน่นอนอยู่แล้ว นี่เป็นค่าชดเชยการรื้อถอน”เย่เทียนหยู่ยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “หลังจากนี้ เธอก็เป็นเศรษฐีนีตัวน้อยแล้ว”“ใช่ที่ไหน เรื่องนี้ต้องขอบคุณพี่เย่ด้วยนะ”“ใช่แล้ว เทียนหยู่ ครั้งนี้พึ่งนายเต็ม ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะนาย อย่าว่าแต่สามสิบล้านเลย สามล้านก็ยากจะมีได้ เอาแบบนี้ก็แล้วกัน พวกเราเอาแค่สิบล้าน ที่เหลือยี่สิบล้านให้นายก็แล้วกัน”“อย่าเลยครับ คุณน้าเห็นผมเหมือนคนไร้ยางอายเหรอครับ?” เย่เทียนหยู่เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉัน...”“คุณน้าครับ คุณน้าไม่ต้องพูดเยอะเลย อันที่จริงผมไม่ได้ขาดเงินหรอกครับ เอายี่สิบล้านมาให้ผมก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่สำหรับพวกคุณน้าแล้ว ยี่สิบล้านกลับสำคัญมาก ๆ”เย่เทียนหยู่ยิ้ม
เมื่อเห็นท่าทีของเย่เทียนหยู่ ในใจของหลินหว่านหรูก็เจ็บปวดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นว่า “เย่เทียนหยู่ คุณรอเดี๋ยว เข้าไปกับฉันหน่อย ฉันมีเรื่องจะถามคุณ”“ไม่ต้องแล้ว มีเรื่องอะไร ก็พูดกันตรงนี้เถอะ”เย่เทียนหยู่เอ่ยขึ้นชืด ๆเมื่อหลินหว่านหรูได้ยินดังนั้น ก็พลันเดือดดาลขึ้นมาในทันใด ทั้ง ๆ ที่คุณเป็นคนนอกใจก่อน ไม่นึกเลยว่าจะทำเหมือนตัวเธอเป็นคนผิดอย่างนั้น เธอจึงเอ่ยขึ้นอย่างเดือดดาลว่า “งั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว!”“โอเค!”เย่เทียนหยู่หมุนตัวกำลังจะออกไป โดยไร้ซึ่งความลังเลใด ๆบางทีถึงเวลาที่เขาต้องออกไปจริง ๆ แล้วในเมื่อรู้ชาติกำเนิดของตัวเอง เขาย่อมต้องตรวจสอบอย่างละเอียดแน่นอนถ้าเป็นแบบนั้นละก็ ก็จะมีอันตรายปรากฏเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆอาจารย์เคยบอกเอาไว้ว่า ศัตรูของเขาแข็งแกร่งเป็นอย่างมากออกไปตอนี้ ก็ไม่วายเป็นการปกป้องหลินหว่านหรูอย่างหนึ่งหลินหว่านหรูอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด่าอย่างเดือดดาลว่า “เย่ทเยนหยู่ คุณมันสารเลว เลวระยำ ทั้ง ๆ ที่คุณเป็นคนทำผิดที่นอกใจก่อน คุณยังทำตัวมีเหตุผลอีก!”กระทั่งเธอหุนหันพลันแล่นคิดอยากจะไปไล่ถามให้รู้แล้วรู้รอด ตก
“ถามเรื่องเฉินเข่อซินไม่ใช่เหรอ ทำไมพูดถึงเรื่องนี้ล่ะ?”เย่เทียนหยู่ถามกลับไปพลางครุ่นคิดในขณะเดียวกัน ควรบอกตัวตนของตัวเองกับหลินหว่านหรูหรือไม่ แต่ถ้าทำแบบนั้นเป็นไปได้มากว่าจะพาหลินหว่านหรูเข้าไปเสี่ยงกับตนด้วย“อย่าขัดสิ คุณพูดความจริงมา เป็นเพราะคุณช่วยหลานชายของไช่ซูจี้ใช่ไหม จากนั้นไช่ซูจี้ก็เลยนำปิดข่าวเรื่องการกระทำของตระกูลซาล่วงหน้า เพื่อตอบแทนบุญคุณ?”หลินหว่านหรูรู้สึกว่านอกจากความเป็นไปได้นี้ ก็คืออย่างอื่นไม่ออกแล้ว“ทำไมคุณถึงคิดแบบนี้ล่ะ?”“ฉันต้องคิดได้อยู่แล้ว ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ”หลินหว่านหรูเอ่ยขึ้นอย่างทอดถอนใจ “นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าไช่ซูจี้จะทดแทนบุญคุณของคุณแบบนี้ ทำเรื่องมากมายขนาดนี้ กระทั่งสุดท้ายยังเผชิญหน้ากับซาป้าเทียน เพื่อช่วยให้คุณได้โอกาสรอดสามวัน”“ไม่อย่างนั้นละก็ เดิมทีคุณก็ดันซาป้าเทียนให้ธาตุไฟเข้าแทรกไม่ได้หรอก พูดไปพูดมา ตอนนี้ไช่ซูจี้มีบุญคุณต่อคุณอย่างใหญ่หลวงทีเดียว วันหน้าคุณต้องขอบคุณเขาดี ๆ ล่ะ”“เอ่อ...”เย่เทียนหยู่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ทว่าในเมื่อเธอวินิจฉัยอย่างแน่ชัดขนาดนี้แล้ว ก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายอีก ถึงยังไงตัวเองในตอนนี
นอกจากคุณแล้ว ก็ไม่มีใครทำร้ายผมได้อีก!ประโยคง่าย ๆ เพียงประโยคเดียว ทว่ากลับตกกระทบในส่วนลึกของจิตใจหลินหว่านหรูอย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอสั่นไปทั้งตัวอยู่เล็กน้อยอันที่จริงหากคิดดี ๆ แล้ว ตั้งแต่เข้ามาในตระกูลหลินตอนแรก ๆ เย่เทียนหยู่นอกจากจะชอบคุยโวเป็นครั้งคราวแล้ว เขาก็นิสัยดีมากมาตลอด ที่สำคัญคือปกป้องดูแลตัวเธอเป็นพิเศษไม่ว่าคนที่ต้องเผชิญหน้าจะเป็นคุณชายตระกูลไฮโซ หรือว่าพวกเร่ร่อนไม่เอาการเอางาน เขาก็ไม่เคยสนใจ ทว่ามักจะมาปกป้องต่อหน้าตัวเธอทันทีแม้บางครั้งจะใจร้อนเป็นอย่างมาก กระทั่งนำมาซึ่งผลลัพธ์อันน่ากลัว แต่น้ำใจที่มีให้กับเธอนั้น กลับชัดเจนสุด ๆ ทว่าตัวเธอกลับมองข้ามไปครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งวิพากษ์วิจารณ์เขาเสียด้วยซ้ำเมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้แล้ว หลินหว่านหรูก็นึกถึงเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือตอนนั้นหลิวเจี๋ยบอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย หากหลิวเจี๋ยไม่ได้เป็นคนทำ แล้วการรอดพ้นจากวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่าในก่อนหน้านั้นมันเรื่องอะไรกันหลินหว่านหรูส่ายหน้า บางทีมีแค่ต้องเจอตัวหลิวเจี๋ยถึงจะรู้แจ้งแจ่มชัดได้ กระทั่งเป็นไปได้ว่าจะเป็นฝีมือของหลิวเจี๋ย จงใจทำให้ตัวเธอสับสนแต
เย่เทียนหยู่กระทั่งว่าขี้เกียจจะขยับตัวมากมาย ยกมือขวาขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ในชั่วพริบตาเดียวก็ชิงแท่งเหล็กมาได้แท่งหนึ่ง จากนั้นก็เขย่าเบา ๆทุบไปบนหน้าอกของอีกฝ่ายอ๊า!ชายหนุ่มรู้สึกเพียงว่าเจอเข้ากับการโจมตีที่น่ากลัวเข้าแล้ว เขากระเด็นออกไปโดยไม่ทันได้รู้ตัว แล้วล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรงต่อจากนั้นก็กวัดแกว่งมือไปอย่างง่าย ๆ อีกทีหนึ่งการเคลื่อนไหวที่ง่ายมาก ๆ ๆ ทว่ากลับมีอานุภาพที่น่าตกตะลึงอ๊า!ให้ตายเถอะ!เพียงแค่เวลาสั้น ๆ ไม่กี่วินาที สามคนที่เหลือล้วนประสบเข้ากับการโจมตีอย่างหนัก ร่วงลงไปบนพื้นที่อยู่ไกล ๆ ล้มลงไปกองรวมกัน น้ำเสียงเจ็บปวดต่าง ๆ นานาแว่วดังขึ้นมาพวกเขาไม่ได้เสแสร้ง ในตอนนี้โหดเหี้ยมมากจริง ๆ อย่างนั้นก็ซ้อมจนซี่โครงของพวกเขาหักไปสองสามท่อนทันใดนั้นก็เหลือเพียงแค่หลินจื่อตงยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียวตามลำพังหลินจื่อตงงงเป็นไก่ตาแตก ทีแรกเขาตั้งใจลองทักษะการต่อสู้ของทั้งสองสามคน ให้พวกเขาแสดงละครกันนิดหน่อยแต่ละคนดูแล้วยอดเยี่ยมกันเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าหนึ่งคนต่อกรกับคนได้หนึ่งกลุ่มเลยเนื่องด้วยเหตุนี้เขายังจ่ายเงินไปหนึ่งล้านเต็ม ๆ ไม่นึกเลยว่า
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้