ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโกรธ หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะนึกถึงขอทานน้อยที่มอบจี้หยกรูปมีดให้เธอในปีนั้น ขอทานน้อยคนนั้นยังดีว่าไอ้คนเลวเย่เทียนหยู่ที่อยู่ตรงหน้าถึงหมื่นเท่าเสียอีกในปีนั้นขอทานน้อยไม่ว่าอะไรก็ยอมเธอทุกอย่าง ดูแลตัวเองด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนขนาดนั้น และยังเล่นเป็นเพื่อนเธอทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พบว่าเป็นเย่เทียนหยู่ที่โทรมาเฮอะ!ไอ้คนสารเลว!ฉันจะไม่รับสายของคุณหรอกนะหลินหว่านหรูกดปุ่มวางสายทันทีเย่เทียนยู่ออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเข่อซิน เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นหลินหว่านหรูโทรมา เขาก็รีบโทรกลับไปทันทีคิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะติดต่อไปก็ถูกกดวางสายแล้วเขาคิดในใจ บางทีหลินหว่านหรูอาจจะนอนแล้ว หรือไม่ก็กำลังยุ่งอยู่กับเรื่องสำคัญ ถึงอย่างไรก็เพราะเกิดเรื่องของหลิวเจี๋ย ทำให้ตอนนี้ตระกูลหลินค่อนข้างมีปัญหาเขาก็ไม่โทรต่อ ค่อยคุยพรุ่งนี้อย่างตรงไปตรงมาหลินหว่านหรูกำลังรอให้เย่เทียนหยู่โทรมาเพื่ออธิบายอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่มีอะไรเลย ทันใดนั้นก็เพิ่มความโมโหขึ้นไปอีกเกือบจะเตียงหักแล้วไม่ว่าจะพูดอย่างไร ทั้งสองคน
เมื่อเวลาผ่านไปช้า ๆ ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนเธอก็นอนหลับแล้วเช้าวันรุ่งขึ้น เฉินหมินตื่นขึ้นมา เธอส่งเสียงกรีดร้องก่อน หลังจากนั้นพบว่าตัวเธอเองปลอดภัยไร้ซึ่งอันตรายเฉินเข่อซินก็ตื่นขึ้นมา และอธิบายสถานการณ์อย่างรวดเร็วเฉินหมิ่นฟังจบก็ถอนหายใจเบา ๆ และพูดว่า “เทียนหยู่ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเธอแล้ว ไม่อย่างนั้น พวกเราสองคนแม่ลูกเกรงว่าชีวิตนี้ตายเสียยังจะดีกว่า”ลูกสาวตัวเองสวยโดดเด่นขนาดนี้ ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนกลุ่มนั้น จุดจบคงเศร้าสลดอย่างแน่นอน“คุณป้าเกรงใจกันเกินไปแล้ง เดิมทีนี่ก็เป็นเรื่องที่ผมควรทำครับ และถ้าผมไม่ลงไปชั้นล่างเพื่อซื้อของ พวกคุณก็คงไม่ต้องได้รับความทุกข์เหล่านี้”“จะโทษเธอได้อย่างไรกัน แต่เทียนหยู่ แม้ว่าเธอจะเก่งกังฟูจนชนะพวกเขา แต่คนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขามีทั้งกำลังและอำนาจ แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยพวกเราเอาไว้”เฉินหมิ่นพูดด้วยความกังวล “ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดี โดยเฉพาะเธอ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ แต่ก็ยังพาเธอเข้ามาเกี่ยว เป็นป้าที่ทำร้ายเธอ”“จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไรกัน คุณป้าวางใจเถอะครับ มีผมอยู่ด้วย พวกเขาไม่มีทางทำอะไรคุณป้
“ใช่น่ะสิ!”“พี่พูดแล้ว มีพี่อยู่ ใครก็ทำร้ายเธอไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงพวกคนไร้ประโยชน์หรอก” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้ม“ใช่ ใช่ พวกเราเป็นคนไร้ประโยชน์ คุณชายเย่จะฆ่าพวกเรา เหมือนกับบีบมดตัวหนึ่งตายอย่างง่ายดาย” เตาปารีบพูดคล้อยตาม“หุบปากซะ!”เย่เทียนหยู่พูดตำหนิ จากนั้นก็หันกลับมาพูดว่า “เข่อซิน ตอนนี้พวกเขาก็อยู่ที่นี่ เธออยากแก้แค้นยังไงก็ได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของพวกเขาก็ตาม”หากเฉินเข่อซินต้องการชีวิตของเตาปา เขาไม่ถือสาที่จะลงมือเพื่อความปรารถนาที่ทำให้เข่อซินพอใจเมื่อเตาปาได้ยินเช่นนั้น ก็ตกใจจนใบหน้าขาวซีดทันที ประธานหยางพูดก่อนที่เขาจะมาแล้ว ถ้าหากวันนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างน่าพอใจ เขามีความตายเป็นทางเลือกเดียวเท่านั้นไม่ต้องถึงกับให้คุณชายเย่ลงมือเองหรอก“ไม่ ไม่เอาแล้วล่ะ!”โชคดีที่เฉินเข่อซินได้ยินเสียงนักฆ่า ก็ส่ายศีรษะไม่หยุดด้วยความตึงเครียด เธอพูดว่า “ขอเพียงแค่พวกเขาเรียกเก็บราคาค่าบ้านให้เหมาะสมก็พอแล้ว”“ไม่มีปัญหา รับรองว่าราคาอยู่ในขอบเขตที่สมเหตุสมผล”เมื่อเตาปาได้ยินดังนั้น ก็พูดด้วยความตื่นเต้นว่า “จากการที่พวกเรากลับไปประเมินค่ามาให
ทว่าท้ายที่สุดตอนนี้ก็แก้ไขปัญหาได้แล้ว แม้จะต้องจ่ายไปห้าล้านเต็ม ๆ ก็ตาม ทำให้เขาปวดใจจนไม่ไหว แต่ก็ดีกว่าไม่มีชีวิตอยู่มากหากไม่มีชีวิตแล้ว แบบนั้นอะไรก็ไม่มีเลยสักอย่างทางเตาปาเพิ่งจะออกไปได้ครู่หนึ่ง บัตรธนาคารของเฉินเข่อซินก็ได้รับค่าชดเชยการรื้อถอนสามสิบล้าน หลังเธอเห็นก็อึ้งไปเลย ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “พวกเขาโอนมาแล้วจริง ๆ?”“แน่นอนอยู่แล้ว นี่เป็นค่าชดเชยการรื้อถอน”เย่เทียนหยู่ยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “หลังจากนี้ เธอก็เป็นเศรษฐีนีตัวน้อยแล้ว”“ใช่ที่ไหน เรื่องนี้ต้องขอบคุณพี่เย่ด้วยนะ”“ใช่แล้ว เทียนหยู่ ครั้งนี้พึ่งนายเต็ม ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะนาย อย่าว่าแต่สามสิบล้านเลย สามล้านก็ยากจะมีได้ เอาแบบนี้ก็แล้วกัน พวกเราเอาแค่สิบล้าน ที่เหลือยี่สิบล้านให้นายก็แล้วกัน”“อย่าเลยครับ คุณน้าเห็นผมเหมือนคนไร้ยางอายเหรอครับ?” เย่เทียนหยู่เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉัน...”“คุณน้าครับ คุณน้าไม่ต้องพูดเยอะเลย อันที่จริงผมไม่ได้ขาดเงินหรอกครับ เอายี่สิบล้านมาให้ผมก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่สำหรับพวกคุณน้าแล้ว ยี่สิบล้านกลับสำคัญมาก ๆ”เย่เทียนหยู่ยิ้ม
เมื่อเห็นท่าทีของเย่เทียนหยู่ ในใจของหลินหว่านหรูก็เจ็บปวดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นว่า “เย่เทียนหยู่ คุณรอเดี๋ยว เข้าไปกับฉันหน่อย ฉันมีเรื่องจะถามคุณ”“ไม่ต้องแล้ว มีเรื่องอะไร ก็พูดกันตรงนี้เถอะ”เย่เทียนหยู่เอ่ยขึ้นชืด ๆเมื่อหลินหว่านหรูได้ยินดังนั้น ก็พลันเดือดดาลขึ้นมาในทันใด ทั้ง ๆ ที่คุณเป็นคนนอกใจก่อน ไม่นึกเลยว่าจะทำเหมือนตัวเธอเป็นคนผิดอย่างนั้น เธอจึงเอ่ยขึ้นอย่างเดือดดาลว่า “งั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว!”“โอเค!”เย่เทียนหยู่หมุนตัวกำลังจะออกไป โดยไร้ซึ่งความลังเลใด ๆบางทีถึงเวลาที่เขาต้องออกไปจริง ๆ แล้วในเมื่อรู้ชาติกำเนิดของตัวเอง เขาย่อมต้องตรวจสอบอย่างละเอียดแน่นอนถ้าเป็นแบบนั้นละก็ ก็จะมีอันตรายปรากฏเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆอาจารย์เคยบอกเอาไว้ว่า ศัตรูของเขาแข็งแกร่งเป็นอย่างมากออกไปตอนี้ ก็ไม่วายเป็นการปกป้องหลินหว่านหรูอย่างหนึ่งหลินหว่านหรูอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด่าอย่างเดือดดาลว่า “เย่ทเยนหยู่ คุณมันสารเลว เลวระยำ ทั้ง ๆ ที่คุณเป็นคนทำผิดที่นอกใจก่อน คุณยังทำตัวมีเหตุผลอีก!”กระทั่งเธอหุนหันพลันแล่นคิดอยากจะไปไล่ถามให้รู้แล้วรู้รอด ตก
“ถามเรื่องเฉินเข่อซินไม่ใช่เหรอ ทำไมพูดถึงเรื่องนี้ล่ะ?”เย่เทียนหยู่ถามกลับไปพลางครุ่นคิดในขณะเดียวกัน ควรบอกตัวตนของตัวเองกับหลินหว่านหรูหรือไม่ แต่ถ้าทำแบบนั้นเป็นไปได้มากว่าจะพาหลินหว่านหรูเข้าไปเสี่ยงกับตนด้วย“อย่าขัดสิ คุณพูดความจริงมา เป็นเพราะคุณช่วยหลานชายของไช่ซูจี้ใช่ไหม จากนั้นไช่ซูจี้ก็เลยนำปิดข่าวเรื่องการกระทำของตระกูลซาล่วงหน้า เพื่อตอบแทนบุญคุณ?”หลินหว่านหรูรู้สึกว่านอกจากความเป็นไปได้นี้ ก็คืออย่างอื่นไม่ออกแล้ว“ทำไมคุณถึงคิดแบบนี้ล่ะ?”“ฉันต้องคิดได้อยู่แล้ว ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ”หลินหว่านหรูเอ่ยขึ้นอย่างทอดถอนใจ “นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าไช่ซูจี้จะทดแทนบุญคุณของคุณแบบนี้ ทำเรื่องมากมายขนาดนี้ กระทั่งสุดท้ายยังเผชิญหน้ากับซาป้าเทียน เพื่อช่วยให้คุณได้โอกาสรอดสามวัน”“ไม่อย่างนั้นละก็ เดิมทีคุณก็ดันซาป้าเทียนให้ธาตุไฟเข้าแทรกไม่ได้หรอก พูดไปพูดมา ตอนนี้ไช่ซูจี้มีบุญคุณต่อคุณอย่างใหญ่หลวงทีเดียว วันหน้าคุณต้องขอบคุณเขาดี ๆ ล่ะ”“เอ่อ...”เย่เทียนหยู่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ทว่าในเมื่อเธอวินิจฉัยอย่างแน่ชัดขนาดนี้แล้ว ก็ไม่ต้องอธิบายอะไรมากมายอีก ถึงยังไงตัวเองในตอนนี
นอกจากคุณแล้ว ก็ไม่มีใครทำร้ายผมได้อีก!ประโยคง่าย ๆ เพียงประโยคเดียว ทว่ากลับตกกระทบในส่วนลึกของจิตใจหลินหว่านหรูอย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอสั่นไปทั้งตัวอยู่เล็กน้อยอันที่จริงหากคิดดี ๆ แล้ว ตั้งแต่เข้ามาในตระกูลหลินตอนแรก ๆ เย่เทียนหยู่นอกจากจะชอบคุยโวเป็นครั้งคราวแล้ว เขาก็นิสัยดีมากมาตลอด ที่สำคัญคือปกป้องดูแลตัวเธอเป็นพิเศษไม่ว่าคนที่ต้องเผชิญหน้าจะเป็นคุณชายตระกูลไฮโซ หรือว่าพวกเร่ร่อนไม่เอาการเอางาน เขาก็ไม่เคยสนใจ ทว่ามักจะมาปกป้องต่อหน้าตัวเธอทันทีแม้บางครั้งจะใจร้อนเป็นอย่างมาก กระทั่งนำมาซึ่งผลลัพธ์อันน่ากลัว แต่น้ำใจที่มีให้กับเธอนั้น กลับชัดเจนสุด ๆ ทว่าตัวเธอกลับมองข้ามไปครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งวิพากษ์วิจารณ์เขาเสียด้วยซ้ำเมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้แล้ว หลินหว่านหรูก็นึกถึงเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือตอนนั้นหลิวเจี๋ยบอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย หากหลิวเจี๋ยไม่ได้เป็นคนทำ แล้วการรอดพ้นจากวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่าในก่อนหน้านั้นมันเรื่องอะไรกันหลินหว่านหรูส่ายหน้า บางทีมีแค่ต้องเจอตัวหลิวเจี๋ยถึงจะรู้แจ้งแจ่มชัดได้ กระทั่งเป็นไปได้ว่าจะเป็นฝีมือของหลิวเจี๋ย จงใจทำให้ตัวเธอสับสนแต
เย่เทียนหยู่กระทั่งว่าขี้เกียจจะขยับตัวมากมาย ยกมือขวาขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ในชั่วพริบตาเดียวก็ชิงแท่งเหล็กมาได้แท่งหนึ่ง จากนั้นก็เขย่าเบา ๆทุบไปบนหน้าอกของอีกฝ่ายอ๊า!ชายหนุ่มรู้สึกเพียงว่าเจอเข้ากับการโจมตีที่น่ากลัวเข้าแล้ว เขากระเด็นออกไปโดยไม่ทันได้รู้ตัว แล้วล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรงต่อจากนั้นก็กวัดแกว่งมือไปอย่างง่าย ๆ อีกทีหนึ่งการเคลื่อนไหวที่ง่ายมาก ๆ ๆ ทว่ากลับมีอานุภาพที่น่าตกตะลึงอ๊า!ให้ตายเถอะ!เพียงแค่เวลาสั้น ๆ ไม่กี่วินาที สามคนที่เหลือล้วนประสบเข้ากับการโจมตีอย่างหนัก ร่วงลงไปบนพื้นที่อยู่ไกล ๆ ล้มลงไปกองรวมกัน น้ำเสียงเจ็บปวดต่าง ๆ นานาแว่วดังขึ้นมาพวกเขาไม่ได้เสแสร้ง ในตอนนี้โหดเหี้ยมมากจริง ๆ อย่างนั้นก็ซ้อมจนซี่โครงของพวกเขาหักไปสองสามท่อนทันใดนั้นก็เหลือเพียงแค่หลินจื่อตงยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียวตามลำพังหลินจื่อตงงงเป็นไก่ตาแตก ทีแรกเขาตั้งใจลองทักษะการต่อสู้ของทั้งสองสามคน ให้พวกเขาแสดงละครกันนิดหน่อยแต่ละคนดูแล้วยอดเยี่ยมกันเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าหนึ่งคนต่อกรกับคนได้หนึ่งกลุ่มเลยเนื่องด้วยเหตุนี้เขายังจ่ายเงินไปหนึ่งล้านเต็ม ๆ ไม่นึกเลยว่า