“คือ...แพน...”“เรื่องจริงใช่ไหมลูก” รวีวรรณร้องลั่น ดวงตาเป็นประกาย “งั้นก็แปลว่าลูกกับแม่หนูคนนี้...ทำหลานให้แม่อุ้มเรียบร้อยแล้วสินะ”“อุ๊ย! เปล่านะคะ ไม่ใช่อย่างนั้น” ภีรดาตาเหลือก รีบปฏิเสธลั่น“โธ่...อย่าเขินไปเลยจ้ะ ถ้าเราสองคนคิดจริงจังกันถึงขั้นจะสร้างครอบครัวมีลูกมีเต้า จะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย กลับจะดีใจด้วยซ้ำ”อ้าวเฮ้ย...ไหงอีกฝ่ายกลับดีใจล่ะ“ว่าแต่คุณแม่ยังไม่บอกเลยว่าแวะมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”“อ๋อ...ก็ลูกน่ะเล่นไม่ยอมกลับบ้านตั้งเป็นเดือนแล้ว แม่ก็เลยคิดถึง แล้วอีกอย่างคุณพ่อก็ฝากเตือนเรื่องงานเลี้ยงแซยิดเจ้าสัวตระการเพื่อนคุณพ่อวันมะรืนนี้ด้วย บอกว่าให้ลูกไปให้ได้” เอ่ยถึงตรงนี้ดวงตาคนพูดก็แอบฉายรอยกังวลขึ้นมานิดๆ “เออ...จริงสิ ทำไมลูกไม่พาหนูแพนด้าไปงานด้วยเสียเลยล่ะจ๊ะ”“หา! ไม่ดีมั้งคะ งานเลี้ยงที่ว่าคงมีแต่ผู้ใหญ่ อย่าพาแพนไปเกะกะเลยนะคะ...” ภีรดารู้สึกผิดที่ต้องมาโกหกผู้หญิงที่แสนจะใจดีตรงหน้า แต่ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษตาหมีภูเขาน้ำแข็งนี่ด้วยที่ทำให้เรื่องบานปลาย“ไม่ต้องห่วงครับ เราสองคนจะไปร่วมงานแน่นอน จริงไหมครับที่รัก” ภีรดาสะดุ
“หา?” หญิงสาวทำตาโต“ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกเป็นหลานเพื่อนๆ ของทั้งสองคนนั่นแหละ ผู้หญิงคนไหนดี คนไหนสวย มีคุณสมบัติเพียบพร้อมถูกใจก็ไปขอนัดให้ผมไปดูตัวหมด จนช่วงหลังนี่ผมงานยุ่งแล้วไหนจะต้องตระเวนแข่งรถก็เลยชักจะขี้เกียจเริ่มเบี้ยวนัด ทั้งสองคนเลยต้องหามุกใหม่ แทนที่จะนัดให้ผมไปดูตัวทีละคน ก็บังคับให้ผมไปตามงานเลี้ยงสารพัดสโมสร ไม่ก็งานวันเกิดเพื่อนๆ ของท่าน แล้วก็แนะนำผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้แทนทีละหลายๆ คนไง อย่างงานวันมะรืนนี้ไง เจ้าสัวตระการที่ว่าน่ะเป็นทั้งเพื่อนสนิทพ่อผม แล้วก็ยังเป็นพ่อของนายเต้ เอ่อ...นายตติยะเพื่อนผมที่คุณเคยเจอด้วย ได้ข่าวว่าปีนี้จัดงานวันเกิดใหญ่โต เชิญพวกเซเลปและคนในแวดวงไฮโซมากันเยอะ เดาว่างานนี้ก็คงไม่แคล้วเป็นงานมหกรรมดูตัวอีกตามเคย”นานครั้งอีกฝ่ายถึงจะเล่าอะไรยาวๆ ให้ฟังสักที ภีรดาเลยเท้าคางฟังเพลิน“หึ...แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าผมทำหลานให้ท่านอุ้มไม่ได้เพราะไอ้อาการที่เป็นอยู่เนี่ย ต่อให้ผมถูกใจเลือกผู้หญิงที่ท่านหมายตาสักคนมาแต่งงานด้วยก็ใช่ว่าจะผลิตหลานให้อุ้มได้...”“แล้วพวกท่านรู้หรือเปล่าคะว่าคุณ...เอ่อ...มีอาการอย่างว่าน่ะ”ชายหนุ่มหันมามองสบตา ก่อนส่าย
ใบหน้าที่แห้งแล้ง และดวงตาหม่นแสงชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของเขาทำให้หญิงสาวอดสงสารไม่ได้ จึงเผลอตัวยื่นมือไปดึงร่างใหญ่เข้ามากอดปลอบโยน แม้จะยังข้องใจและมีคำถามอีกมากมาย แต่เธอกลับไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกไปอีกเพราะกลัวคำตอบ“ฉันเชื่อว่าวันหนึ่งคุณจะได้พบคนคนนั้น คนที่คุณรักเขา แล้วเขาก็รักคุณโดยไม่หวังผลตอบแทนแน่นอน”รวินรุตม์อุ่นวาบขึ้นมาในดวงใจ รับรู้ได้ถึงความอาทรจริงใจที่อีกฝ่ายส่งผ่านมาให้ วงแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างกลมกลึงตอบ ดวงตาคมเข้มทอประกายลึกล้ำอ่อนโยน รู้สึกเหมือนหัวใจที่เคยเย็นชาราวกับห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งกำลังถูกแสงแดดอันอบอุ่นค่อยๆ ละลายเกราะกำแพงที่กั้นขวางลงทีละนิดๆ พร้อมความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในส่วนลึกของหัวใจสัมผัสที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้หญิงสาวรับรู้ได้เช่นกัน ภีรดาซุกซบใบหน้ากับอกแกร่งนิ่ง เริ่มคุ้นชินกับอ้อมกอดของเขา และเธอคงเป็นบ้าไปแล้วที่อยากอยู่ในอ้อมกอดนี้ไปเรื่อยๆ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเธอกับเขานั้นเป็นได้แค่ลูกจ้างกับนายจ้างเท่านั้น อีกไม่นาน ถ้างานสำเร็จเมื่อไหร่เธอกับเขาก็จะกลายเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก คิดถึงตรงนี้ก็ใจหาย หยาดน้
ก่อนถึงวันงานรวินรุตม์ก็พาผู้ช่วยสาวไปเลือกซื้อชุดสำหรับใส่ออกงานด้วยตัวเอง ทั้งยังพาไปเข้าคอร์สเสริมความงามฉบับเร่งด่วน จนพริตตีสาวหัวหมุน ไม่เข้าใจว่ากะอีแค่ไปเป็นไม้กันหมาจะต้องสวยอะไรขนาดนั้นหลังจากถูกขัดสีฉวีวรรณ วันงานภีรดาก็ออกมาสวยสมใจนายจ้างหนุ่มในที่สุด ร่างสูงเพรียวงามระหงในชุดราตรีแบบเรียบหรูดูผู้ดี๊ผู้ดีผิดหูผิดตา รับกับใบหน้าที่แต่งสไตล์เกาหลีดูฉ่ำน้ำแวววาวเป็นธรรมชาติ ล้อมกรอบด้วยเรือนผมสลวยเงางามที่จัดแต่งมาอย่างประณีตสวยหรูแลดูเฉิดฉาย จนทำเอาชายหนุ่มผู้สวมบทคู่รักกำมะลอของเธอถึงกับตกตะลึงเมื่อแรกเห็นไปนานหลายวินาที“ไงคะ สวยพอเป็นคนรักของคุณได้ไหม” พริตตีสาวหมุนกาย หยอกเย้าด้วยรอยยิ้มน่ารักที่ทำให้คนมองมาแอบหัวใจกระตุกเบาๆ“ผมว่าขาดอะไรไปอย่าง อยู่เฉยๆ ก่อนนะ” ว่าแล้วคนพูดก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน ทำเอาหญิงสาวใจหายวาบไม่ใช่ว่าจะไปเอาชุดแม่ชีมาให้เธอใส่อีกหรอกนะ ถ้าเป็นแบบนั้น เธอก็ไม่ปงไม่ไปมันแล้วเพียงชั่วครู่ ชายหนุ่มก็กลับออกมาพร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ แต่ไม่ใช่ชุดแม่ชีที่เธอขยาด เฮ้อ...โล่งอกร่างสูงสง่างามในชุดทักซิโดสีเทาสุดเท่เดินอ้อมมาทางด้านหลังของหญิงสาว ก่
ห้องบอลรูมใหญ่ในโรงแรมหรูหราใจกลางเมืองแห่งนั้นถูกเนรมิตให้เป็นสถานที่จัดงานวันเกิดครบรอบหกสิบปีของเจ้าสัวบิดาของผู้เป็นเจ้าของโรงแรมนั่นเอง ผู้คนมากหน้าหลายตาที่ล้วนแล้วแต่มีฐานะ ชื่อเสียงในวงสังคม หรือไม่ก็เป็นผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมือง คนใหญ่คนโตระดับประเทศ หรือแม้กระทั่งพวกไฮโซเซเลบชื่อดังทั้งหลายต่างก็ทยอยมาร่วมงานอย่างอบอุ่น เจ้าสัวผู้เป็นเจ้าของงานพร้อมครอบครัวต่างยืนต้อนรับทักทายแขกเหรื่อคนสนิทที่นำของขวัญมาร่วมอวยพรกันอย่างชื่นมื่นรวีวรรณและกฤษณ์ผู้เป็นสามีก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่กำลังปราศัยกับเจ้าของงานอย่างออกรสเพราะสนิทสนมกันมาแต่ไหนแต่ไร“ไงคุณกฤษณ์ สบายดีหรือ ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะช่วงนี้ ได้ข่าวพาภรรยาไปฮันนิมูนรอบที่ร้อยแปดที่ยุโรปมาเป็นยังไงบ้างล่ะ” เจ้าสัวตระการสัพยอกคนเป็นเพื่อนสนิทอย่างเป็นกันเอง“ก็สนุกดีตามประสาคนแก่นั่นละท่าน อายุมากอย่างพวกเราเที่ยวมารอบโลกแล้ว จนรู้สึกเฉยๆ ที่จริงถ้ามีคนที่เรารักและรักเราอยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าจะเมืองไทยหรืออยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน” คนพูดหันไปมองภรรยาสุดที่รักอย่างหวานชื่น ไม่ว่ากี่ปีความรักของเขากับภรรยาก็ไม่เคยจืดจาง“นั่นสินะ คนแก่ๆ อ
แต่นั่นกลับเทียบไม่ได้เลยกับสายตาที่กำลังมองมาของกลุ่มคนตรงหน้าที่มองมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย และจับผิดเวลานี้“ยิ้มหน่อยสิคุณ” เมื่อเห็นหญิงสาวเกร็งจนหน้าสั่น ชายหนุ่มจึงเอียงตัวไปกระซิบเบาๆ พอได้ยินกันสองคน “ทำหน้าแบบนั้นเดี๋ยวเขาก็หาว่าผมบังคับคุณมากันพอดี”“หึ...หรือไม่จริงล่ะ” เธอกัดฟันเถียง “ใครจะไปยิ้มออก ดูสายตาแต่ละคนนั่นสิ แค่ก้าวขาเดินได้นี่ก็บุญแล้ว นี่คุณว่าคนในงานจะจำฉันได้หรือเปล่า”“จำได้แล้วไง”“จะแล้วไงล่ะ ถ้าพวกเขาเชื่อข่าวฉาวในเน็ตนั่นจะว่าไง ฉันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พ่อแม่คุณจะขายหน้าน่ะสิ ฉันไม่เข้าไปในงานได้ไหม เรากลับกันดีกว่า” หญิงสาวเริ่มจะปอดแหก ร่ำๆ ว่าจะขอถอนตัวเอาดื้อๆ แต่พอทำท่าจะหันหลังกลับ ชายหนุ่มก็รีบรั้งข้อมือน้อยไว้ “เชื่อมั่นในตัวเองสิ คุณไม่ได้เป็นอย่างในข่าวลือนั่น แล้วจะต้องไปแคร์คนอื่นทำไม ใครจะว่าอะไรก็ช่าง รู้แค่ว่าผมเชื่อมั่นในตัวคุณก็พอ” ประกายตาพราวระยับที่คนพูดมองสบมาทำให้หัวใจดวงน้อยเต็มตื้นและมีสีหน้าผ่อนคลายขึ้น“ทำใจกล้าเข้าไว้ แล้วจำให้ขึ้นใจว่า...วันนี้คุณมาในฐานะคนรักของผม ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่สนุกกับมันก็พอ ไปเถอะ ทุกคนกำลั
แล้วข่าวฉาวก็ถูกกลบจนกลายเป็นข่าวรักโรแมนติกด้วยฝีมือของรวินรุตม์ไปโดยปริยาย“จริงครับ! ผมก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยรับประกันได้ว่า นายราล์ฟเป็นฝ่ายรุกตามตื๊อคุณแพนก่อนจริงๆ ขนาดเธอไม่เล่นด้วย หนีแล้วหนีอีก หมอนี่ก็ไม่ยอมแพ้ตามจีบเธอสำเร็จจนได้ นายแน่มากเพื่อนรัก!” ตติยะช่วยสำทับอีกแรง ทำให้สายตาของทุกคนที่มองหญิงสาวแปรเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น รวีวรรณยิ้มปลื้มปริ่มเพราะเพิ่งเคยเห็นลูกชายเธอออกโรงปกป้องผู้หญิงเป็นครั้งแรก“ว่าแต่หนูแพนเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันจ๊ะ”ยังไม่ทันได้โล่งอกดี บททดสอบใหม่ก็เริ่มขึ้น ภีรดาสูดลมหายใจเข้าปอด แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากตอบ คนข้างกายก็ชิงตอบแทนเสียก่อน“คุณพ่อของแพนเสียไปนานแล้วครับคุณป้า ส่วนคุณแม่ของเธอท่านเป็นนักธุรกิจน่ะครับ”ประโยคนั้นทำให้คนที่กำลังซาบซึ้งใจที่รวินรุตม์ช่วยแก้ข่าวถึงกับหุบยิ้มฉับ หันไปมองคนหวังดีช่วยตอบแทนตาค้าง เขากำลังเล่นตลกอะไร จะช่วยหรือจะแกล้งกันแน่ แม่เธอเนี่ยนะเป็นนักธุรกิจ?“อ้าว...งั้นเหรอ ว่าแต่แม่ของหนูทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรล่ะ เผื่อลุงจะรู้จัก” เจ้าสัวตระการผู้กว้างขวางในวงการธุรกิจระดับประเทศถามอย่างสนใจเวรแล้วไง...ภีรดาเห็นลาง
“พอดีแพนอยากลองหาประสบการณ์หลังเรียนจบ ก็เลยลงประกวดด้วยสนุกๆ น่ะค่ะ”“แล้วนี่ตาราล์ฟก็คงไปเจอกับหนูแพนครั้งแรกในงานนี้ละสินะ เพราะเธอก็ไปเป็นกรรมการตัดสินด้วยนี่นา”“ครับ...ผมต้องขอบคุณคุณป้าที่ทำให้เราสองคนได้พบกัน และทำให้ผมได้เจอผู้หญิงที่ใช่อย่างแพนเขา...” ว่าแล้วชายหนุ่มก็หันมามองสบตาเธออย่างหวานเชื่อมไปอีกภีรดานึกทึ่งในความปราดเปรื่องของผู้ชายตรงหน้าที่รู้จักเอาใจและดึงคุณหญิงวิกานดาให้เข้ามาเป็นพวกแบบเนียนกริบ งานนี้เชื่อว่าเธอจะได้คะแนนนิยมและกองเชียร์กิตติมศักดิ์เพิ่มอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังช่วยแก้ข่าวฉาวๆ จนภาพลักษณ์ของเธอตอนนี้ใสสะอาดราวกับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว คนโดนลูกยอทั้งเข่งคว่ำใส่เลยหน้าบานไปตามระเบียบแล้วในที่สุดการซักประวัติก็จบลง เมื่อพิธีกรเดินขึ้นเวทีเป็นสัญญาณว่างานกำลังจะเริ่มต้น คนทั้งคณะจึงแยกย้ายกันไปนั่งประจำที่ ท่ามกลางความโล่งอกของพริตตีสาว แม้จะต้องแถจนสีข้างแหกยับเยินไปบ้าง แต่เธอก็เอาตัวรอดมาได้อย่างสวยงามพิธีการบนเวทีดำเนินไปอย่างครึกครื้น มีการแสดงต่างๆ บนเวทีของพวกลูกๆ หลานๆ ที่เตรียมมาอวยพรเจ้าของวันเกิดกันอย่างคึกคัก ภีรดามองบรรยากา
ติ๊ด! ภีรดาจัดการกดปุ่มเปิดสปีกเกอร์โฟนกระจายเสียงให้คนข้างกายฟังด้วยเสียเลย จะได้ปลื้มที่ถูกสาวอวด“ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรจะฝากถึงคุณราล์ฟอีกไหมคะ พอดีฉันทำงานยุ่งอยู่นิดหน่อย”“อ้าว...ตายจริง ฉันขอโทษนะคะ แค่จะโทร. มาบอกราล์ฟว่า...ฉันมีเรื่องเร่งด่วนมากอยากจะปรึกษากับเขา ถ้าเขากลับมาคุณช่วยบอกให้เขามาหาฉันที่คอนโดหน่อยได้ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นเครือฟังดูร้อนรนราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย“ได้ค่ะ ถ้าเขากลับมาฉันจะรีบบอกให้นะคะ เท่านี้ใช่ไหมคะ”“เดี๋ยวค่ะ คือฉันไม่แน่ใจว่าควรพูดไหม”หืม? ภีรดาหันไปมองหน้านายจ้างที่กำลังนั่งทำคิ้วผูกโบข้างๆ“คือ...ราล์ฟเขาเปรยๆ กับฉันเมื่อคืนน่ะค่ะ ว่าคุณทำงานไม่ค่อยถูกใจ เขาเลยต้องการให้ฉันมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขาแทนคุณ เพราะอยากจะให้ฉันอยู่ใกล้ๆ เขาตลอดเวลา”“เหรอคะ ไม่เห็นเขาบอกฉันนะคะ” คนพูดชักจะหน้าตึงๆ เมื่อเรื่องเริ่มจะลามมาถึงตัว“คือ...เขาบอกว่า เขาไม่รู้จะพูดกับคุณยังไงน่ะค่ะ เพราะเกรงใจ เลยให้ฉันมาคุยกับคุณแทน ผู้หญิงเหมือนกันคงคุยกันง่ายกว่า เอาอย่างนี้ไหมคะ ถ้าคุณกลัวว่าจะตกงานหรือยังหางานใหม่ไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะคะฉันพอจะแนะนำบริษัทของเพื่อนๆ
ภีรดาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองผ่านคืนนั้นมาได้อย่างไร และไม่รู้ด้วยว่าเช้านี้จะมองหน้าเจ้าของบ้านติดโดยที่ไม่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ไหม เธอไม่รู้หรอกว่าอีตาหมีน้ำแข็งจะมีความรู้สึกรู้สาอะไรบ้าง หัวใจของเขาอาจจะด้านชาไปแล้ว แต่เธอไม่!เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้น ทำให้คนนอนบนโซฟาแกล้งทำเป็นหลับตาทันที“ผมรู้ว่าคุณตื่นแล้ว...” เสียงเรียบนิ่งดักคอมาแต่ไกล ทำให้คนแกล้งหลับนึกอยากใช้แผนแกล้งตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด จะได้จบๆ ไป แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อมีร่างสูงใหญ่มายืนอยู่ตรงหน้าภีรดาจำต้องลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับนายจ้างหนุ่ม โดยไม่ยอมมองหน้าเขาตรงๆ“คุณมีอะไรจะให้ฉันทำเหรอ หรือว่าหิว”“คุยกันหน่อยได้ไหม”“ได้ค่ะ...แต่ขอเวลาฉันไปล้างหน้าล้างตา จัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนสักครู่ได้ไหม”ชายหนุ่มพยักหน้านิดๆ และนั่งรอจนหญิงสาวเดินออกมาจากห้องนอนของเขาด้วยสีหน้าสดชื่นขึ้น“เอาละ ฉันพร้อมแล้วคุณมีอะไรก็พูดมาสิคะ” “ผมอยากพูดเรื่องรียา...” แค่เริ่มก็จุกแล้ว แต่เอาเหอะ เจ็บมันไปเลยทีเดียวจะได้จบๆ “คือผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด...”อะไรคือการเข้าใจผิดหว่า เอ...หรือเขากำลังจะสื่อแบบอ้อมๆ ว
ภีรดาฟังแล้วอ่อนใจ หันไปหยิบไฟแช็กที่เตรียมไว้มาจุดเทียนบนเค้กจนครบ ก่อนที่เสียงหวานจะดังขึ้น“แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูมายบอส แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู...” หญิงสาวถือเค้กยื่นไปตรงหน้าเจ้าของวันเกิด พร้อมสบตาเขา “อธิษฐานสิคะ”“อืม...” ชายหนุ่มหลับตานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนก้มลงเป่าเทียนเบาๆ“สุขสันต์วันเกิดนะคะ” พริตตีสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้มละไม “ทีนี้ก็ชิมเค้กได้แล้ว เค้กก้อนนี้ฉันอุตส่าห์ทำเองกับมือเลยนะ และคุณเป็นคนแรกที่ได้ชิมมัน”“อืม เห็นก็รู้แล้วละว่าทำเอง หน้าตามีเอกลักษณ์มาก” หนูทดลองเอ่ยชมหน้าตาย จนคนพูดหมั่นไส้เลยปาดครีมแต่งหน้าเค้กป้ายที่ปากเขาเข้าให้“นี่แน่ะ! ปากดีนัก” รวินรุตม์มองรอยยิ้มกวนๆ ของแพนด้าจอมแสบตาวาววับ “เป็นไงคะฝีมือการทำเค้กครั้งแรกในชีวิตของฉัน อร่อยดีไหม”ภีรดาหัวเราะเสียงใสออกมาอย่างไม่รู้ชะตากรรม“อยากรู้ก็ชิมดูสิ!”พอขาดคำ เขาจึงแกล้งเอาคืนด้วยการกดเรียวปากทาบลงมาบนกลีบปากหวานละมุนทันที ทำเอาหญิงสาวชาวาบไปทั้งร่าง เธอพยายามส่งเสียงประท้วงขัดขืน แต่นั่นยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้รุกเข้ามาเต็มกำลัง รสครีมหวานละมุนที่เข้ามาสัมผัสที
ดวงตาหม่นแสงเหลือบมองอาหารบนโต๊ะที่เธอตั้งใจจัดไว้รอฉลองวันเกิดแบบเล็กๆ ให้เขาซึ่งถูกอุ่นไปรอบหนึ่งแล้ว ไหนจะขนมเค้กวันเกิดที่อุตส่าห์ลงมือทำเองเป็นครั้งแรกโดยเปิดดูวิธีทำจากยูทูป แต่เจ้าของวันเกิดก็ยังไม่มาสักที มีก็แต่มารดาของเขาที่ส่งรูปถ่ายตอนไปเที่ยวด้วยกันมาให้ แถมยังโทร. มาถามเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของลูกชายกับคนรักเก่าสองสามรอบด้วยความเป็นห่วง ทุกครั้งหญิงสาวก็ต้องคอยปลอบไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอต่างหากที่กำลังรู้สึกไม่มั่นคงทางใจภีรดาเลื่อนรูปภาพที่หน้าจอไปจนถึงรูปที่เธอกับนายจ้างหนุ่มโดนแอบถ่าย ดูแล้วก็อดทอดถอนใจด้วยความอัดอั้นในหัวใจไม่ได้ เพราะมันคล้ายกับว่า...เธอและเขาเป็นคู่รักที่กำลังสวีตกันก็ไม่ปานเส้นตายของภารกิจก็เริ่มใกล้เข้ามาทุกทีๆ นอกจากจะไม่มีวี่แววว่าเธอจะทำสำเร็จแล้ว ยังจะมีชารียาเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในชีวิตของเขาเพิ่มอีกคน“เฮ้อ...” ยังไงๆ ผู้หญิงอื่นคงไม่อาจจะสู้กับคนรักที่แท้จริงได้หรอก ทำใจเสียเถอะ แพนด้าเอ๋ย...อีกไม่นานทั้งสองคนนั้นก็จะแต่งงานกัน แล้วตำแหน่งผู้ช่วยของเราก็คงตกกระป๋อง ไม่จำเป็นสำหรับหมอนั่นอีกต่อไป ตัดใจเสียเถอะน่
“จะพาหนูแพนไปด้วยทำไมล่ะ ลูกจะไปหาแฟนเก่าก็ไปคนเดียวสิ” รวีวรรณเดือดร้อนแทนคนโปรด“ไม่เป็นไรค่ะ แพนไปด้วยดีกว่า เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยๆ กันได้”“งั้นก็ไปกันหมดนี่แหละ!” คนเป็นแม่รวบรัดอย่างเอาแต่ใจ“คุณ...ลูกโตแล้ว ปล่อยให้เขาได้จัดการกันเองเถอะนะ” กฤษณ์หันไปปรามภรรยา ก่อนหันไปทางบุตรชายคนเดียว “หากมีอะไรที่ต้องการให้พ่อกับแม่ช่วยก็โทร. มาแล้วกันนะตาราล์ฟ อ้อ! แล้วระวังให้ดี...อย่าให้อดีตมากระทบปัจจุบันได้ล่ะลูก”“ครับพ่อ...” ตอบพร้อมกับมองสบตาผู้ช่วยสาวผ่านกระจกมองหลังหลังจากไปส่งพ่อแม่เสร็จ รวินรุตม์ก็รีบบึ่งรถมาที่คอนโด แล้วก็เห็นรถของอดีตคนรักจอดอยู่ด้านหน้า พอเห็นชายหนุ่มลงจากรถ ชารียาก็รีบลงจากรถแล้วโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของเขาทั้งน้ำตานองหน้า ใบหน้านั้นมีร่องรอยฟกช้ำจนเห็นได้ชัด“ราล์ฟขา...ในที่สุดคุณก็มาสักที ฮือ...” ภาพนั้นทำให้ผู้ชมที่เดินตามลงมาจากรถอดค่อนขอดไม่ได้แหม...มาถึงก็ดรามาใส่เลยนะแม่คุณ ฮึ...ส่วนอีกคนนี่ก็จะพระเอกไปไหน ยืนนิ่งให้เขาไซ้อยู่ได้ เฮ้อ...แล้วตัวประกอบอย่างเราจะอยู่ไปไยให้เป็นส่วนเกินเล่า ไปดีกว่า...ภีรดาแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าอยู่ไปก็คงไม่ได้ช
หืม? พริตตีสาวทำตาปริบๆ ขณะที่รวีวรรณกับสามีทำหน้าสนใจฟังป้าแม่ค้าโม้ต่อ“ผัวป้ากินประจำ สะกิดทั้งคืนไม่ต้องหลับต้องนอน เอาไปให้ผัวเอ็งกินสักวันละเป๊กนะนังหนูเอ๊ย รับรองลูกหัวปีท้ายปี” ภีรดาถึงขั้นสะดุ้งหันไปสบตาลุกวาวกับคนจะทำลูกให้แล้วชักยิ้มไม่ออกเอิ่ม...ป้าจะรู้ไหมว่าพ่อพระเอกตรงหน้าขนาดไวอะกรายังเอาไม่อยู่ เอ...แต่พอหันไปมองลูกๆ หลานๆ ยั้วเยี้ยของป้าแล้วชักจะน่าสน ไม่แน่ว่าเจ้ายาดองบ้านๆ นี่อาจจะช่วยให้เธอทำสำเร็จใช้หนี้หมดไวขึ้นก็เป็นได้รวินรุตม์มองดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์คู่นั้นอย่างไม่ค่อยไว้ใจ โดยไม่มีใครรู้ พอคล้อยหลังคนทั้งสาม ภีรดาก็ย้อนกลับมาเหมายาดองสรรพคุณล้ำอีกถึงสองกลม!เอาเซ่...โด่ไม่โด่เดี๋ยวได้รู้กัน!ทั้งสี่ช่วยกันชิมช่วยกันช้อปจนข้าวของเต็มมือจึงชวนกันมานั่งพักเหนื่อยด้วยการรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือในร้านขึ้นชื่อริมคลอง ขณะที่รวีวรรณกำลังชี้ชวนให้สามีดูเรือขายของกลางคลองอย่างสนุกสนาน ภีรดาก็ยกกล้องมือถือขึ้นมาตั้งท่าเก็บภาพความหวานของทั้งคู่“คุณพ่อคุณแม่คะ หันมาทางนี้หน่อยค่ะ” พอสองสามีภรรยาหันมามอง เธอก็กดถ่ายภาพนั้นทันทีแชะ!“ภาพแสงสวยมากเลยค่ะ เดี๋ยวหนูส่งไ
“ไปทำอะไรมาล่ะ ถึงไม่ได้หลับได้นอน” คนเป็นแม่ส่งมุกให้ทั้งๆ ที่รู้ดีแก่ใจว่า ‘ใคร’ ที่ทำให้ลูกชายตัวดีไม่ได้นอนทั้งคืน“ถูกผีอำทั้งคืนเลยน่ะสิครับแม่ นอนทับผมจนเมื่อยไปทั้งตัวเลยเนี่ย”“แค็กๆ”ผี! เอ้ย...คนที่ถูกกล่าวหาสำลักออกมาจนหน้าเขียวหน้าแดง อยากหาอะไรเขวี้ยงใส่ปากคนพูด แต่ต้องเก็บอาการไว้ชำระทีเดียวเมื่อถึงเวลาหน็อย...ตาบ้านี่ต้องการอะไรจากสังคมมิทราบ! มานอนกอดเขาทั้งคืนไม่พอยังมีหน้ามาหาว่าเขาเป็นผีอีก ผีที่ไหนจะหุ่นแซ่บแบบนี้ล่ะ ฮึ!ภีรดาได้แต่ฮึดฮัดไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมเธอถึงขยันเดินละเมอมาให้เขากอดอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน ไม่ใช่จะรังเกียจหรอกนะ เพราะอันที่จริงการได้นอนในอ้อมกอดแสนอุ่นของเขามันทำให้เธอผ่อนคลายนอนหลับสบายทั้งคืนเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ หลับสบายแต่ตื่นมาหัวใจจะวายทุกครั้งที่รู้ว่าได้ใกล้ชิดกับขนมหวานต้องห้ามที่น่ากินแต่กินไม่ได้เฮ้อ...ตูละหน่าย!“อ้าว...นั่นพระมาแล้วจ้ะ” ภีรดาขยับก้าวถอยหลัง แต่ถูกรวีวรรณรุนหลังเอาไว้ “ยืนข้างๆ ตาราล์ฟสิจ๊ะหนูแพน ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน จะได้พบกันทุกชาติไปไงจ๊ะ”หึๆ แค่ชาติเดียวก็จะบ้าตายแล้ว ถ้าขืนได้พบทุกชาติคงไม่ได้แก่
ภีรดาหลับตาสูดลมหายใจพยายามจะข่มอารมณ์ ถึงจะจริงแต่ตอนนี้มันใช่เวลามารำลึกความหลังไหมเนี่ย“งั้นฉันไปนอนที่โซฟาตรงนั้นละกัน” หญิงสาวต่อรอง อย่างน้อยนี่ก็บ้านเขา ขืนใครรู้ว่าเธอนอนเตียงเดียวกับผู้ชายที่มีแฟนแล้วในบ้านของพ่อแม่เขา อีกทั้งยังเป็นนายจ้าง คนจะครหาเอาได้ ว่าแล้วพริตตีสาวก็ยักแย่ยักยันลุกขึ้นไป นอนที่โซฟาฝั่งตรงข้าม พยายามจะไม่ไยดีสายตาเว้าวอนที่ทอดมองมาคู่นั้น เพราะมันทำให้อดหัวใจสั่นไหวรุนแรงไม่ได้เธอพยายามจะตีตัวออกห่าง แต่เขาก็ยังเข้ามาใกล้เหมือนกับแกล้ง!“หลับตาสิคะ พรุ่งนี้ ไม่ใช่สิ...นี่มันเลยเข้าวันใหม่แล้วนี่ เดี๋ยวเราต้องตื่นเช้าไปใส่บาตรวันเกิดคุณนะ ไม่รีบนอนตอนนี้ ระวังจะตื่นไม่ทัน” รวินรุตม์พลิกตัวนอนตะแคงข้างส่งสายตามองสบตาคนบนโซฟาในความมืดนิ่งๆ จนคนถูกมองเริ่มจะทนไม่ไหว ใบหน้าร้อนผ่าวๆ ดีที่มืดเลยอำพรางความรู้สึกได้บ้าง แต่ความอึดอัดทำให้ต้องชวนคุย“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”“ก็ไม่เห็นจะยากนี่ ก็แค่ขอดูกล้องวงจรปิด แล้วก็ถาม รปภ. คอนโด ก็รู้แล้วว่าคุณออกไปกับใคร”จ้ะ พ่อคนฉลาด! หมั่นไส้...“แล้ว...ทำไมคุณไม่บอกล่ะคะว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณ”“ผมจำไม่ได้..
เธอก็แค่มายืมพื้นที่ที่ควรเป็นของผู้หญิงแสนสวยคนนั้นอยู่ชั่วคราวเท่านั้น วันหนึ่งที่ภารกิจสิ้นสุด ห้องนี้ หรือแม้กระทั่งครอบครัวของเขาก็จะถูกยึดคืนโดยเจ้าของตัวจริง ส่วนภีรดาก็จะจากไปโดยไม่มีใครคิดถึงอีก แค่คิดก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาจับใจเธอไม่ควรปล่อยให้ใจถลำรู้สึกลึกซึ้งกับนายจ้างมากไปกว่านี้ เพราะถ้าวันนั้นมาถึงจริง จะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดใจมากนักภีรดาหันไปมองรูปของเจ้าของห้องที่วางไว้ที่ข้างเตียง“ไม่ต้องมามองอ่อยเลยนะ ต่อจากนี้ไปฉันขอสั่งห้ามไม่ให้คุณเข้ามาเพ่นพ่านในหัวใจของฉันอีก ต่างคนต่างอยู่เข้าใจไหม ฮึ” ว่าแล้วก็จับกรอบรูปนั้นคว่ำหน้าลงอย่างไม่ไยดีทว่าปณิธานที่ตั้งไว้มีอันต้องถูกทดสอบในกลางดึกของคืนนั้นจนได้!ในขณะที่กำลังนอนหลับสนิทคืนนั้นเอง ภีรดารับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่คืบคลานเข้ามาใกล้ในยามที่เสมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น วัตถุหนักๆ บางอย่างพาดทับบนกายจนไม่อาจขยับได้ ไออุ่นหอมสะอาดๆ โอบล้อมกายเธอไว้เหมือนมนตร์สะกดผีอำ! ความรู้สึกแรกที่แวบขึ้นมาในมโนจิต ผีชนิดไหนวะ แทนที่จะทับ ดันมากอด...“ไอ้ผีชีกอ!” หญิงสาวงึมงำด่า ทำใจกล้าด้วยการปรือตามองสิ่งลี้ลับที่กำลังครอบงำร่าง