“พอดีแพนอยากลองหาประสบการณ์หลังเรียนจบ ก็เลยลงประกวดด้วยสนุกๆ น่ะค่ะ”“แล้วนี่ตาราล์ฟก็คงไปเจอกับหนูแพนครั้งแรกในงานนี้ละสินะ เพราะเธอก็ไปเป็นกรรมการตัดสินด้วยนี่นา”“ครับ...ผมต้องขอบคุณคุณป้าที่ทำให้เราสองคนได้พบกัน และทำให้ผมได้เจอผู้หญิงที่ใช่อย่างแพนเขา...” ว่าแล้วชายหนุ่มก็หันมามองสบตาเธออย่างหวานเชื่อมไปอีกภีรดานึกทึ่งในความปราดเปรื่องของผู้ชายตรงหน้าที่รู้จักเอาใจและดึงคุณหญิงวิกานดาให้เข้ามาเป็นพวกแบบเนียนกริบ งานนี้เชื่อว่าเธอจะได้คะแนนนิยมและกองเชียร์กิตติมศักดิ์เพิ่มอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังช่วยแก้ข่าวฉาวๆ จนภาพลักษณ์ของเธอตอนนี้ใสสะอาดราวกับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว คนโดนลูกยอทั้งเข่งคว่ำใส่เลยหน้าบานไปตามระเบียบแล้วในที่สุดการซักประวัติก็จบลง เมื่อพิธีกรเดินขึ้นเวทีเป็นสัญญาณว่างานกำลังจะเริ่มต้น คนทั้งคณะจึงแยกย้ายกันไปนั่งประจำที่ ท่ามกลางความโล่งอกของพริตตีสาว แม้จะต้องแถจนสีข้างแหกยับเยินไปบ้าง แต่เธอก็เอาตัวรอดมาได้อย่างสวยงามพิธีการบนเวทีดำเนินไปอย่างครึกครื้น มีการแสดงต่างๆ บนเวทีของพวกลูกๆ หลานๆ ที่เตรียมมาอวยพรเจ้าของวันเกิดกันอย่างคึกคัก ภีรดามองบรรยากา
หมอนั่นชักจะแสดงเกินบทไปแล้วนะ จ้างร้อยเล่นล้านแบบนี้เธอก็แย่สิ คำก็คนรัก สองคำก็ที่รัก เดี๋ยวเธอก็หวั่นไหวแล้วรักเขาขึ้นมาจริงๆ ซะเลยนี่ เฮ้อ...ไม่อยากบอกเลยว่าตอนนี้ก็ชักจะใจแกว่งๆ ยังไงพิกลอารามรีบร้อนแถมแสงไฟยังมืดสลัว ประกอบกับชุดราตรียาวระพื้นพันแข้งพันขาทำให้ส้นเข็มที่ใส่มาเผลอเหยียบชายกระโปรงตัวเองจนเสียหลักอย่างไม่ทันตั้งตัว“ว้ายยย!”ไร้สแตนด์อิน ไร้ตัวช่วย ล้มจริง เจ็บจริง แถมท่าแลนดิงยังไม่สวยงามอย่างที่ใจคิดอีกต่างหาก แต่เหนือความซวยที่ว่ามา ชีวิตเธอยังบัดซบยิ่งกว่า เมื่อดันเงยหน้าขึ้นมาพบ...โจทก์เก่า...ที่ไม่ได้มาเดี่ยวๆ แต่ควงกันมาเป็นแพ็กคู่“เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณ...อ้าว!” โจทก์ฝ่ายชายร้องอุทานลั่น เมื่อได้เห็นดวงหน้าที่เงยขึ้นจากพื้นชัดๆ“แพน!”ดับอนาถ! จะล้มทั้งที ล้มที่ไหนไม่ล้มดันมาล้มไม่เป็นท่าตรงหน้า...แฟนเก่ากับเพื่อนทรยศ!“ซี้ด...อูย...” เสียงครางระโหยคล้ายคนจะสิ้นใจ แต่ร่างเพรียวระหงก็ยังกัดฟันกระเสือกกระสนที่จะลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล จนฝ่ายนั้นอดไม่ได้ที่จะต้องเข้ามาช่วย แต่กลับโดนมือของผู้หญิงข้างกายรั้งไว้เสียก่อน“จะทำอะไรคะพี่วี” หญิงสาวดักคอแฟนหนุ่มของ
“ว่าไงจ๊ะ! นัง...อสรพิษ!”แม้สีหน้ายังคงเกลื่อนด้วยรอยยิ้มละไม แต่ดวงตาเยาะหยันจ้องอีกฝ่ายอย่างดุดันเอาเรื่อง เธอยึดคติที่ว่า เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย แต่เสียใจที่เธอคือแพนด้าไม่ใช่ควาย ฉะนั้นใครดีมาดีตอบ แต่ถ้ามาร้ายคนอย่างภีรดาก็พร้อมจะไฝว้ให้รู้เรื่อง โดยเฉพาะกับหญิงร้ายชายเลวตรงหน้าที่เคยทรยศหักหลังเธออย่างเจ็บแสบ“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ แพนสบายดีเหรอจ๊ะ”วีวิธพยายามกู้สถานการณ์อันเดือดพล่าน แต่ดวงตาที่มองหญิงสาวสวยตรงหน้านั้นเปลี่ยนไปจากเดิม เมื่อได้เห็นอดีตคนรักเก่าที่เขาเคยทิ้งไปอย่างไม่ไยดีสวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ภีรดาในวันนี้แทบไม่เหลือเค้ายายเฉิ่มในอดีตเลยสักนิด ตรงข้ามอีกฝ่ายกลับดูสวยเซ็กซี่แถมมีออร่ากระจายเกินหน้าแฟนของเขาอยู่หลายขุม เห็นแล้วเขาก็อดนึกเสียดายไม่ได้“ไปพูดดีกับมันทำไมคะพี่วี อย่าบอกนะว่ายังมีเยื่อใย ไม่ได้ยินข่าวเรื่องที่มันขายตัวว่อนเน็ตนั่นหรือไง หรือว่าพี่อยากจะซื้อของเหลือเดนเก่าๆ เน่าจนเฟะไปกินบ้าง”เซนส์ของผู้หญิงมักแรงกว่าผู้ชายเสมอ ลภัสสรเองก็เช่นกัน ใช่ว่าเธอจะตาบอดไม่เห็นความสวยเกินปกติของนังเพื่อนตัวร้ายที่วันนี้เสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะปังขนาดล้ม
“นังแพน!”ลภัสสรกรี๊ดลั่น เงื้อมือพุ่งถลันเข้าใส่โดยที่คนเป็นสามีจับตัวไว้ไม่ทันเพราะมัวยืนอึ้งอยู่ แต่คนที่ตั้งท่าระวังอยู่แล้วไม่ยอมถูกรังแกได้ง่ายๆ เช่นในอดีต ภีรดาคว้าข้อมือฝ่ายนั้นไว้ได้ทันท่วงที ทีแรกหมายจะสวนกลับไปด้วยกำปั้นให้หายแค้นสักเปรี้ยง ถ้าไม่บังเอิญว่าหันไปเห็นใครคนหนึ่งกำลังเดินมาทางเธอเสียก่อนก่อนที่ใครจะคาดคิด มือที่จับมือของลภัสสรไว้ก็ดึงเข้าหาใบหน้าตัวเองอย่างรวดเร็ว“โอ๊ย...” พริตตีสาวร้องลั่น ก่อนเซถลาราวกับนกปีกหักลงไปซบอกเจ้านายหนุ่มพอดีเป๊ะ ในขณะที่แม่สาวร่างเล็กยืนหัวโด่เงื้อมือค้างอย่างงุนงงเพราะยังไม่ทันได้ตบโดนหน้า ฝ่ายนั้นก็ชิงล้มลงไปเองดื้อๆรวินรุตม์ขมวดคิ้วมองหญิงสาวในอ้อมแขนอย่างแปลกใจ ยายแพนด้านี่จะเล่นอะไรอีก ไม่ทันได้ถาม อีกฝ่ายก็แอบขยิบตาส่งซิกซ์ให้เสียก่อน“นั่นคนทรยศที่ฉันเคยเล่าให้ฟังไงคะ”อ่านจากปากขมุบขมิบของเธอแล้วชายหนุ่มก็เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อในทันทีรวินรุตม์รีบรับมุกด้วยการสวมกอดเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายสาวเอาไว้แนบอกอย่างห่วงใย ท่ามกลางสายตาไทยมุงทั้งงานที่ล้อมวงเข้ามารอดูละครฉากสำคัญ“นี่มันเรื่องอะไรกัน” เสียงเข้มๆ พร้อมลูกต
“มีอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น!” เสียงทรงอำนาจดังขึ้น พร้อมกับที่ไทยมุงพร้อมใจกันแหวกทางให้คนเป็นเจ้าของงานเดินเข้ามา เจ้าสัวตระการมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมประเมินสถานการณ์ “ใครก็ได้ช่วยอธิบายทีว่านี่มันเรื่องอะไร”“คือคุณผู้หญิงคนนี้ตบหน้าคุณแพนน่ะครับคุณพ่อ” เป็นตติยะที่ก้าวเข้ามาชิงวางระเบิดฝ่ายตรงข้ามแทนภีรดาเสียก่อน หลังจากยืนเป็นตัวประกอบละครฉากเด็ดอยู่นาน“ไม่ใช่นะคะ ลูกศรไม่ได้ทำอะไร...”“หนูแพนเป็นยังไงบ้างลูก” รวีวรรณปรี่เข้าไปดูอาการว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยความเป็นห่วง“แพนไม่เป็นไรแล้วค่ะคุณแม่ แค่ตกใจ...อูย...เจ็บจัง”เพียงแค่ส่งเสียงครางออกมา ก็เรียกคะแนนสงสารจากคนรอบข้างได้ท่วมท้น คุณหญิงวิกานดาเรียกหาน้ำแข็งกับกล่องปฐมพยาบาลยกใหญ่ ส่วนรวินรุตม์นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็ยังคงกอดประคองเธอไม่ห่างกายเอิ่ม...อินไปไหมเพ่ แค่นี้ก็หัวใจจะวาย หายใจหายคอไม่ทันแล้ว“แล้วสองคนนั่นใคร ใครเชิญมา” เพียงเจ้าสัวตระการปรายตามองดุๆ ทั้งวีวิธและลภัสสรก็เหงื่อแตกพลั่ก“เอ่อ...ผมเป็นตัวแทนของคุณลลิต วงศ์สุรเดช เจ้าของบริษัท ลลิต พร็อพเพอร์ตี้ครับ ส่วนนี่คุณลภัสสรเป็นลูกสาวคุณลลิตค
“หมดเรื่องแล้ว งั้นผมขอพาแพนไปดูอาการก่อนนะครับ”ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อถูกช้อนอุ้มลอยขึ้นจากพื้น จนต้องรีบโอบรั้งต้นคอหนาไว้“จะทำอะไรเนี่ยคุณ” ภีรดากัดฟันกระซิบถาม เริ่มจะเขินสายตาคนรอบข้างที่มองมา“ก็ทำหน้าที่ของคนรักไง”อะเฮือก! คนฟังหัวใจละลายตายคาที่ เมื่อโดนเจ้าชายอุ้มฝ่าวงล้อมไทมุงออกไปท่ามกลางสายตาคนทั้งงาน ลภัสสรมองภาพนั้นด้วยความริษยา ก่อนจะโดนต้อนออกไปจากงานพร้อมสามีเหตุการณ์ทุกอย่างก็จบลงพร้อมกับที่เจ้าสัวสั่งการให้เลขาฯ โทร. ไปตอบปฏิเสธข้อเสนอการขอกู้เงินของบิดาลภัสสร ทำให้วีวิธต้องกลับไปมือเปล่าด้วยความผิดหวังไม่น้อย ส่วนคนอื่นๆ รวมถึงตติยะก็แยกย้ายไปสนุกในงานกันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น“อะแฮ่ม!” ภีรดากระแอมเบาๆ พลางมองอ้อมแขนอุ่นๆ ที่เนียนอุ้มเธอไว้ไม่ยอมปล่อยสักที “ปล่อยได้แล้วมั้งคะ ละครจบแล้ว”“งั้นเหรอ...” ดวงตาคมๆ ทอประกายลึกล้ำ แต่วูบเดียวก็หายวับไป พร้อมกับที่เขาวางร่างเธอบนโซฟาตัวหนึ่งอย่างเบามือ“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวเอ่ยอ้อมแอ้ม เขินเสียจนไม่กล้ามองสบตาอีกฝ่ายเช่นทุกที“ขอบคุณเรื่อง?”“ก็ขอบคุณที่คุณช่วยฉันให้ได้เอาคืนสองคนนั่น”รวินรุตม์มองคนพูดนิ่งด้วยแววตา
“คุณนั่นเอง จำฉันได้ไหมคะ” หญิงสาวร่างแบบบางผู้มีใบหน้าสวยหวานซึ้งสะกดใจนิ่งเงียบ “เราเคยชนกันที่สนามแข่งรถซูเปอร์ไบก์ที่พัทยาไงคะ”“คุณคงจำคนผิดแล้วค่ะ ฉันไม่เคยไปสนามแข่งอะไรนั่น” สาวสวยตัดบท แต่ดวงตาไหววูบ“เอ...ไม่ผิดนะคะ ฉันจำหน้าคุณได้ วันนั้นคุณยังถือช่อดอกไม้ไปให้...”“คุณจำผิดคนแล้วค่ะ” หญิงสาวรีบตัดบทเสียงแข็ง เหมือนไม่อยากเสวนาด้วย “ถ้าไม่มีธุระอะไร งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ พอดีรู้สึกไม่ค่อยสบาย”ว่าแล้วคนพูดก็เดินผละออกไปจากห้องน้ำทันที แต่ทว่าคงรีบร้อนไปนิดจึงลืมโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ที่อ่างล้างมือ และจู่ๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องนั้นก็ดังขึ้น“อ้าว! คุณคนนั้นลืมมือถือนี่ คุณ...” ภีรดาร้องเรียก รีบฉวยมือถือแล้ววิ่งตามร่างบางออกไปทันทีรวินรุตม์ที่เพิ่งเดินไปส่งบิดามารดาขึ้นรถกลับที่ประตูทางเข้าโรงแรมพอดี หันมาเห็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขาเดินดุ่มๆ ผ่านไปจึงเรียกไว้“นี่คุณ...หายไปไหนมา พ่อแม่ผมแล้วก็ผู้ใหญ่ในงานถามถึงกันขรม นี่ผมก็เพิ่งส่งท่านขึ้นรถกลับไป ทุกคนถามถึงคุณใหญ่เลย ไหนว่าจะไปเข้าห้องน้ำ หายไปตั้งนาน ท้องเสียหรือไง แล้วทำไมโผล่มาที่ล็อบบีได้...”“เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งสวดฉัน ช่
คำนั้นทำให้ใครอีกคนที่บังเอิญตามมาทันถึงกับช็อก ภีรดายืนตัวแข็งทื่อรู้สึกเหมือนเดินพลาดตกเหวลึก พลันหยาดน้ำใสๆ ก็รื้นขึ้นมากลบภาพอันแสนโรแมนติกของหนุ่มสาวที่กำลังยืนตระกองกอดกันจนพร่าเลือน แล้วหูของเธอก็แว่วได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น‘เธอเคยเป็นคนสำคัญกับผมมาก และเราเกือบจะได้แต่งงานกัน...’แล้วภีรดาก็ได้พบ ‘คนสำคัญ’ ที่อยู่ในใจของเจ้านายหนุ่มตลอดมา ผู้หญิงที่สวยหวานน่ารักน่าทะนุถนอม คนที่อุตส่าห์หอบหิ้วช่อดอกไม้ไปแสดงความยินดีกับเขาที่สนามแข่งรถ ผู้หญิงที่ภีรดาไม่อาจทาบรัศมีของอีกฝ่ายได้เลยแม้แต่นิดเดียว‘แล้วถ้าวันหนึ่งที่เธอหายโกรธแล้วอยากกลับมาเริ่มต้นใหม่กับคุณอีกครั้งล่ะคะ คุณจะว่ายังไง’‘ถ้าตอนนั้นผมยังไม่มีใคร และเธอรับได้ในสิ่งที่ผมเป็น เราก็คงเริ่มต้นกันใหม่ได้’คำที่เพิ่งออกจากปากเขานั่นไงที่เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า...คนทั้งสองกำลังจะหวนกลับมาคืนดีกัน และสร้างครอบครัวแสนสุขในไม่ช้า คิดแล้วก็หน่วงๆ ในหัวใจขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลเธอควรยิ้มยินดีกับความสุขของคนตรงหน้า แต่ทำไมกลับยิ้มไม่ออก!เวลาแห่งความสุขที่มีเขาเคียงข้างในฐานะคนรักหมดลงแล้วสินะ เธอคงต้องตื่นจากความฝันของซินเดอเรล
ติ๊ด! ภีรดาจัดการกดปุ่มเปิดสปีกเกอร์โฟนกระจายเสียงให้คนข้างกายฟังด้วยเสียเลย จะได้ปลื้มที่ถูกสาวอวด“ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรจะฝากถึงคุณราล์ฟอีกไหมคะ พอดีฉันทำงานยุ่งอยู่นิดหน่อย”“อ้าว...ตายจริง ฉันขอโทษนะคะ แค่จะโทร. มาบอกราล์ฟว่า...ฉันมีเรื่องเร่งด่วนมากอยากจะปรึกษากับเขา ถ้าเขากลับมาคุณช่วยบอกให้เขามาหาฉันที่คอนโดหน่อยได้ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นเครือฟังดูร้อนรนราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย“ได้ค่ะ ถ้าเขากลับมาฉันจะรีบบอกให้นะคะ เท่านี้ใช่ไหมคะ”“เดี๋ยวค่ะ คือฉันไม่แน่ใจว่าควรพูดไหม”หืม? ภีรดาหันไปมองหน้านายจ้างที่กำลังนั่งทำคิ้วผูกโบข้างๆ“คือ...ราล์ฟเขาเปรยๆ กับฉันเมื่อคืนน่ะค่ะ ว่าคุณทำงานไม่ค่อยถูกใจ เขาเลยต้องการให้ฉันมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขาแทนคุณ เพราะอยากจะให้ฉันอยู่ใกล้ๆ เขาตลอดเวลา”“เหรอคะ ไม่เห็นเขาบอกฉันนะคะ” คนพูดชักจะหน้าตึงๆ เมื่อเรื่องเริ่มจะลามมาถึงตัว“คือ...เขาบอกว่า เขาไม่รู้จะพูดกับคุณยังไงน่ะค่ะ เพราะเกรงใจ เลยให้ฉันมาคุยกับคุณแทน ผู้หญิงเหมือนกันคงคุยกันง่ายกว่า เอาอย่างนี้ไหมคะ ถ้าคุณกลัวว่าจะตกงานหรือยังหางานใหม่ไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะคะฉันพอจะแนะนำบริษัทของเพื่อนๆ
ภีรดาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองผ่านคืนนั้นมาได้อย่างไร และไม่รู้ด้วยว่าเช้านี้จะมองหน้าเจ้าของบ้านติดโดยที่ไม่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ไหม เธอไม่รู้หรอกว่าอีตาหมีน้ำแข็งจะมีความรู้สึกรู้สาอะไรบ้าง หัวใจของเขาอาจจะด้านชาไปแล้ว แต่เธอไม่!เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้น ทำให้คนนอนบนโซฟาแกล้งทำเป็นหลับตาทันที“ผมรู้ว่าคุณตื่นแล้ว...” เสียงเรียบนิ่งดักคอมาแต่ไกล ทำให้คนแกล้งหลับนึกอยากใช้แผนแกล้งตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด จะได้จบๆ ไป แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อมีร่างสูงใหญ่มายืนอยู่ตรงหน้าภีรดาจำต้องลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับนายจ้างหนุ่ม โดยไม่ยอมมองหน้าเขาตรงๆ“คุณมีอะไรจะให้ฉันทำเหรอ หรือว่าหิว”“คุยกันหน่อยได้ไหม”“ได้ค่ะ...แต่ขอเวลาฉันไปล้างหน้าล้างตา จัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนสักครู่ได้ไหม”ชายหนุ่มพยักหน้านิดๆ และนั่งรอจนหญิงสาวเดินออกมาจากห้องนอนของเขาด้วยสีหน้าสดชื่นขึ้น“เอาละ ฉันพร้อมแล้วคุณมีอะไรก็พูดมาสิคะ” “ผมอยากพูดเรื่องรียา...” แค่เริ่มก็จุกแล้ว แต่เอาเหอะ เจ็บมันไปเลยทีเดียวจะได้จบๆ “คือผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด...”อะไรคือการเข้าใจผิดหว่า เอ...หรือเขากำลังจะสื่อแบบอ้อมๆ ว
ภีรดาฟังแล้วอ่อนใจ หันไปหยิบไฟแช็กที่เตรียมไว้มาจุดเทียนบนเค้กจนครบ ก่อนที่เสียงหวานจะดังขึ้น“แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูมายบอส แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู...” หญิงสาวถือเค้กยื่นไปตรงหน้าเจ้าของวันเกิด พร้อมสบตาเขา “อธิษฐานสิคะ”“อืม...” ชายหนุ่มหลับตานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนก้มลงเป่าเทียนเบาๆ“สุขสันต์วันเกิดนะคะ” พริตตีสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้มละไม “ทีนี้ก็ชิมเค้กได้แล้ว เค้กก้อนนี้ฉันอุตส่าห์ทำเองกับมือเลยนะ และคุณเป็นคนแรกที่ได้ชิมมัน”“อืม เห็นก็รู้แล้วละว่าทำเอง หน้าตามีเอกลักษณ์มาก” หนูทดลองเอ่ยชมหน้าตาย จนคนพูดหมั่นไส้เลยปาดครีมแต่งหน้าเค้กป้ายที่ปากเขาเข้าให้“นี่แน่ะ! ปากดีนัก” รวินรุตม์มองรอยยิ้มกวนๆ ของแพนด้าจอมแสบตาวาววับ “เป็นไงคะฝีมือการทำเค้กครั้งแรกในชีวิตของฉัน อร่อยดีไหม”ภีรดาหัวเราะเสียงใสออกมาอย่างไม่รู้ชะตากรรม“อยากรู้ก็ชิมดูสิ!”พอขาดคำ เขาจึงแกล้งเอาคืนด้วยการกดเรียวปากทาบลงมาบนกลีบปากหวานละมุนทันที ทำเอาหญิงสาวชาวาบไปทั้งร่าง เธอพยายามส่งเสียงประท้วงขัดขืน แต่นั่นยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้รุกเข้ามาเต็มกำลัง รสครีมหวานละมุนที่เข้ามาสัมผัสที
ดวงตาหม่นแสงเหลือบมองอาหารบนโต๊ะที่เธอตั้งใจจัดไว้รอฉลองวันเกิดแบบเล็กๆ ให้เขาซึ่งถูกอุ่นไปรอบหนึ่งแล้ว ไหนจะขนมเค้กวันเกิดที่อุตส่าห์ลงมือทำเองเป็นครั้งแรกโดยเปิดดูวิธีทำจากยูทูป แต่เจ้าของวันเกิดก็ยังไม่มาสักที มีก็แต่มารดาของเขาที่ส่งรูปถ่ายตอนไปเที่ยวด้วยกันมาให้ แถมยังโทร. มาถามเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของลูกชายกับคนรักเก่าสองสามรอบด้วยความเป็นห่วง ทุกครั้งหญิงสาวก็ต้องคอยปลอบไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอต่างหากที่กำลังรู้สึกไม่มั่นคงทางใจภีรดาเลื่อนรูปภาพที่หน้าจอไปจนถึงรูปที่เธอกับนายจ้างหนุ่มโดนแอบถ่าย ดูแล้วก็อดทอดถอนใจด้วยความอัดอั้นในหัวใจไม่ได้ เพราะมันคล้ายกับว่า...เธอและเขาเป็นคู่รักที่กำลังสวีตกันก็ไม่ปานเส้นตายของภารกิจก็เริ่มใกล้เข้ามาทุกทีๆ นอกจากจะไม่มีวี่แววว่าเธอจะทำสำเร็จแล้ว ยังจะมีชารียาเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในชีวิตของเขาเพิ่มอีกคน“เฮ้อ...” ยังไงๆ ผู้หญิงอื่นคงไม่อาจจะสู้กับคนรักที่แท้จริงได้หรอก ทำใจเสียเถอะ แพนด้าเอ๋ย...อีกไม่นานทั้งสองคนนั้นก็จะแต่งงานกัน แล้วตำแหน่งผู้ช่วยของเราก็คงตกกระป๋อง ไม่จำเป็นสำหรับหมอนั่นอีกต่อไป ตัดใจเสียเถอะน่
“จะพาหนูแพนไปด้วยทำไมล่ะ ลูกจะไปหาแฟนเก่าก็ไปคนเดียวสิ” รวีวรรณเดือดร้อนแทนคนโปรด“ไม่เป็นไรค่ะ แพนไปด้วยดีกว่า เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยๆ กันได้”“งั้นก็ไปกันหมดนี่แหละ!” คนเป็นแม่รวบรัดอย่างเอาแต่ใจ“คุณ...ลูกโตแล้ว ปล่อยให้เขาได้จัดการกันเองเถอะนะ” กฤษณ์หันไปปรามภรรยา ก่อนหันไปทางบุตรชายคนเดียว “หากมีอะไรที่ต้องการให้พ่อกับแม่ช่วยก็โทร. มาแล้วกันนะตาราล์ฟ อ้อ! แล้วระวังให้ดี...อย่าให้อดีตมากระทบปัจจุบันได้ล่ะลูก”“ครับพ่อ...” ตอบพร้อมกับมองสบตาผู้ช่วยสาวผ่านกระจกมองหลังหลังจากไปส่งพ่อแม่เสร็จ รวินรุตม์ก็รีบบึ่งรถมาที่คอนโด แล้วก็เห็นรถของอดีตคนรักจอดอยู่ด้านหน้า พอเห็นชายหนุ่มลงจากรถ ชารียาก็รีบลงจากรถแล้วโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของเขาทั้งน้ำตานองหน้า ใบหน้านั้นมีร่องรอยฟกช้ำจนเห็นได้ชัด“ราล์ฟขา...ในที่สุดคุณก็มาสักที ฮือ...” ภาพนั้นทำให้ผู้ชมที่เดินตามลงมาจากรถอดค่อนขอดไม่ได้แหม...มาถึงก็ดรามาใส่เลยนะแม่คุณ ฮึ...ส่วนอีกคนนี่ก็จะพระเอกไปไหน ยืนนิ่งให้เขาไซ้อยู่ได้ เฮ้อ...แล้วตัวประกอบอย่างเราจะอยู่ไปไยให้เป็นส่วนเกินเล่า ไปดีกว่า...ภีรดาแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าอยู่ไปก็คงไม่ได้ช
หืม? พริตตีสาวทำตาปริบๆ ขณะที่รวีวรรณกับสามีทำหน้าสนใจฟังป้าแม่ค้าโม้ต่อ“ผัวป้ากินประจำ สะกิดทั้งคืนไม่ต้องหลับต้องนอน เอาไปให้ผัวเอ็งกินสักวันละเป๊กนะนังหนูเอ๊ย รับรองลูกหัวปีท้ายปี” ภีรดาถึงขั้นสะดุ้งหันไปสบตาลุกวาวกับคนจะทำลูกให้แล้วชักยิ้มไม่ออกเอิ่ม...ป้าจะรู้ไหมว่าพ่อพระเอกตรงหน้าขนาดไวอะกรายังเอาไม่อยู่ เอ...แต่พอหันไปมองลูกๆ หลานๆ ยั้วเยี้ยของป้าแล้วชักจะน่าสน ไม่แน่ว่าเจ้ายาดองบ้านๆ นี่อาจจะช่วยให้เธอทำสำเร็จใช้หนี้หมดไวขึ้นก็เป็นได้รวินรุตม์มองดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์คู่นั้นอย่างไม่ค่อยไว้ใจ โดยไม่มีใครรู้ พอคล้อยหลังคนทั้งสาม ภีรดาก็ย้อนกลับมาเหมายาดองสรรพคุณล้ำอีกถึงสองกลม!เอาเซ่...โด่ไม่โด่เดี๋ยวได้รู้กัน!ทั้งสี่ช่วยกันชิมช่วยกันช้อปจนข้าวของเต็มมือจึงชวนกันมานั่งพักเหนื่อยด้วยการรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือในร้านขึ้นชื่อริมคลอง ขณะที่รวีวรรณกำลังชี้ชวนให้สามีดูเรือขายของกลางคลองอย่างสนุกสนาน ภีรดาก็ยกกล้องมือถือขึ้นมาตั้งท่าเก็บภาพความหวานของทั้งคู่“คุณพ่อคุณแม่คะ หันมาทางนี้หน่อยค่ะ” พอสองสามีภรรยาหันมามอง เธอก็กดถ่ายภาพนั้นทันทีแชะ!“ภาพแสงสวยมากเลยค่ะ เดี๋ยวหนูส่งไ
“ไปทำอะไรมาล่ะ ถึงไม่ได้หลับได้นอน” คนเป็นแม่ส่งมุกให้ทั้งๆ ที่รู้ดีแก่ใจว่า ‘ใคร’ ที่ทำให้ลูกชายตัวดีไม่ได้นอนทั้งคืน“ถูกผีอำทั้งคืนเลยน่ะสิครับแม่ นอนทับผมจนเมื่อยไปทั้งตัวเลยเนี่ย”“แค็กๆ”ผี! เอ้ย...คนที่ถูกกล่าวหาสำลักออกมาจนหน้าเขียวหน้าแดง อยากหาอะไรเขวี้ยงใส่ปากคนพูด แต่ต้องเก็บอาการไว้ชำระทีเดียวเมื่อถึงเวลาหน็อย...ตาบ้านี่ต้องการอะไรจากสังคมมิทราบ! มานอนกอดเขาทั้งคืนไม่พอยังมีหน้ามาหาว่าเขาเป็นผีอีก ผีที่ไหนจะหุ่นแซ่บแบบนี้ล่ะ ฮึ!ภีรดาได้แต่ฮึดฮัดไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมเธอถึงขยันเดินละเมอมาให้เขากอดอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน ไม่ใช่จะรังเกียจหรอกนะ เพราะอันที่จริงการได้นอนในอ้อมกอดแสนอุ่นของเขามันทำให้เธอผ่อนคลายนอนหลับสบายทั้งคืนเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ หลับสบายแต่ตื่นมาหัวใจจะวายทุกครั้งที่รู้ว่าได้ใกล้ชิดกับขนมหวานต้องห้ามที่น่ากินแต่กินไม่ได้เฮ้อ...ตูละหน่าย!“อ้าว...นั่นพระมาแล้วจ้ะ” ภีรดาขยับก้าวถอยหลัง แต่ถูกรวีวรรณรุนหลังเอาไว้ “ยืนข้างๆ ตาราล์ฟสิจ๊ะหนูแพน ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน จะได้พบกันทุกชาติไปไงจ๊ะ”หึๆ แค่ชาติเดียวก็จะบ้าตายแล้ว ถ้าขืนได้พบทุกชาติคงไม่ได้แก่
ภีรดาหลับตาสูดลมหายใจพยายามจะข่มอารมณ์ ถึงจะจริงแต่ตอนนี้มันใช่เวลามารำลึกความหลังไหมเนี่ย“งั้นฉันไปนอนที่โซฟาตรงนั้นละกัน” หญิงสาวต่อรอง อย่างน้อยนี่ก็บ้านเขา ขืนใครรู้ว่าเธอนอนเตียงเดียวกับผู้ชายที่มีแฟนแล้วในบ้านของพ่อแม่เขา อีกทั้งยังเป็นนายจ้าง คนจะครหาเอาได้ ว่าแล้วพริตตีสาวก็ยักแย่ยักยันลุกขึ้นไป นอนที่โซฟาฝั่งตรงข้าม พยายามจะไม่ไยดีสายตาเว้าวอนที่ทอดมองมาคู่นั้น เพราะมันทำให้อดหัวใจสั่นไหวรุนแรงไม่ได้เธอพยายามจะตีตัวออกห่าง แต่เขาก็ยังเข้ามาใกล้เหมือนกับแกล้ง!“หลับตาสิคะ พรุ่งนี้ ไม่ใช่สิ...นี่มันเลยเข้าวันใหม่แล้วนี่ เดี๋ยวเราต้องตื่นเช้าไปใส่บาตรวันเกิดคุณนะ ไม่รีบนอนตอนนี้ ระวังจะตื่นไม่ทัน” รวินรุตม์พลิกตัวนอนตะแคงข้างส่งสายตามองสบตาคนบนโซฟาในความมืดนิ่งๆ จนคนถูกมองเริ่มจะทนไม่ไหว ใบหน้าร้อนผ่าวๆ ดีที่มืดเลยอำพรางความรู้สึกได้บ้าง แต่ความอึดอัดทำให้ต้องชวนคุย“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”“ก็ไม่เห็นจะยากนี่ ก็แค่ขอดูกล้องวงจรปิด แล้วก็ถาม รปภ. คอนโด ก็รู้แล้วว่าคุณออกไปกับใคร”จ้ะ พ่อคนฉลาด! หมั่นไส้...“แล้ว...ทำไมคุณไม่บอกล่ะคะว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณ”“ผมจำไม่ได้..
เธอก็แค่มายืมพื้นที่ที่ควรเป็นของผู้หญิงแสนสวยคนนั้นอยู่ชั่วคราวเท่านั้น วันหนึ่งที่ภารกิจสิ้นสุด ห้องนี้ หรือแม้กระทั่งครอบครัวของเขาก็จะถูกยึดคืนโดยเจ้าของตัวจริง ส่วนภีรดาก็จะจากไปโดยไม่มีใครคิดถึงอีก แค่คิดก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาจับใจเธอไม่ควรปล่อยให้ใจถลำรู้สึกลึกซึ้งกับนายจ้างมากไปกว่านี้ เพราะถ้าวันนั้นมาถึงจริง จะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดใจมากนักภีรดาหันไปมองรูปของเจ้าของห้องที่วางไว้ที่ข้างเตียง“ไม่ต้องมามองอ่อยเลยนะ ต่อจากนี้ไปฉันขอสั่งห้ามไม่ให้คุณเข้ามาเพ่นพ่านในหัวใจของฉันอีก ต่างคนต่างอยู่เข้าใจไหม ฮึ” ว่าแล้วก็จับกรอบรูปนั้นคว่ำหน้าลงอย่างไม่ไยดีทว่าปณิธานที่ตั้งไว้มีอันต้องถูกทดสอบในกลางดึกของคืนนั้นจนได้!ในขณะที่กำลังนอนหลับสนิทคืนนั้นเอง ภีรดารับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่คืบคลานเข้ามาใกล้ในยามที่เสมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น วัตถุหนักๆ บางอย่างพาดทับบนกายจนไม่อาจขยับได้ ไออุ่นหอมสะอาดๆ โอบล้อมกายเธอไว้เหมือนมนตร์สะกดผีอำ! ความรู้สึกแรกที่แวบขึ้นมาในมโนจิต ผีชนิดไหนวะ แทนที่จะทับ ดันมากอด...“ไอ้ผีชีกอ!” หญิงสาวงึมงำด่า ทำใจกล้าด้วยการปรือตามองสิ่งลี้ลับที่กำลังครอบงำร่าง