“อืม ค่อยเริ่มพรุ่งนี้แล้วกัน วันนี้ผมเหนื่อย หมดอารมณ์แล้วละ”เฮ้อ...ค่อยยังชั่วชายหนุ่มเห็นสีหน้าโล่งใจของอีกฝ่ายก็อดขำไม่ได้ หกเดือนต่อจากนี้ชีวิตของเขาคงมีแต่เรื่องสนุกปนน่าปวดเฮดเข้ามาไม่เว้นแต่ละวันแน่“แล้วคุณจะให้ฉันนอนที่ไหนคะ” ผู้อาศัยถามอย่างเจี๋ยมเจี้ยมเจียมตัว“อยากนอนที่ไหนก็ตามใจคุณละกัน ขออย่างเดียวอย่านอนในชักโครกก็พอ”แหม ปากแบบนี้มันน่าหาแมลงสาบมาโยนใส่ให้แต๋วแตกเหลือเกินในที่สุด หญิงสาวก็ได้ที่นอนใหม่เป็นโซฟาในห้องรับแขกของเขานั่นเอง แม้ว่าเจ้าของห้องจะใจป้ำเสนอแบ่งเตียงของเขาให้เธอครึ่งหนึ่งก็ตามที ภีรดายืนมองโซฟาอย่างปลงๆ โอย...อยากจะร้องไห้ หกเดือนของเธอต่อจากนี้ ต้องนอนบนโซฟาแคบๆ นี่ทุกวันเลยหรือเนี่ย “คุณไปอาบน้ำสิ จะได้พักผ่อน”“แต่...ฉัน...เอ้อ...ไม่มีเสื้อผ้าใส่นี่คะ” เสื้อผ้าทั้งหมดของเธออยู่ในบ้านที่ถูกยึด เอาออกมาไม่ได้“ใส่ของผมไปก่อนก็ได้ ส่วนพวกอันเดอร์แวร์ ถ้าคุณไม่รังเกียจผมพอมีตัวใหม่ที่ยังไม่ได้ใช้งาน”พริตตีสาวฟังแล้วทำตาปริบๆ กะจากขนาดรูปร่างที่ใหญ่โตของอีกฝ่ายแล้วจึงเอ่ยปาก“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ ไม่ใช่รังเกียจหรอกนะคะ แต่ฉันกลัวใส่แล้วหลุดไปกอง
“Good Night ยายจอมยุ่ง”ทว่าคนที่เขาคิดว่าหลับนั้นรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพักใหญ่แล้ว ในความมืดร่างอรชรนอนตัวแข็งทื่อด้วยหัวใจที่เต้นระทึกสั่นไหว รอยอุ่นที่ประทับบนหน้าผากยังไม่เจือจางไป นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอได้นอนร่วมเตียงกับผู้ชาย แถมผู้ชายที่ว่าก็ไม่ใช่ไก่กาเสียด้วย ดวงตากลมโตแอบมองเสี้ยวหน้าคมเข้มที่นอนหลับอยู่ห่างแค่คืบด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดแกมไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งที่เธอควรลุกขึ้นมาฟ้อนเล็บใส่คนฉวยโอกาสข้างๆ หรือไม่ก็ทุบเขาสักตุ้บ แล้วรีบลุกไปนอนที่โซฟาตามเดิม ไม่ก็หนีไปให้พ้นๆ แต่เธอก็ทำไม่ได้เสียงลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเขาหลับสนิทไปแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาที่ติดจะเย็นชายามหลับสนิทแลดูไร้พิษภัย แล้วก็น่ามองชะมัด ไออุ่นจากเรือนร่างอันแข็งแกร่งใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันนั้นทำให้ธาตุไฟของสาวโก๊ะแทบแตกซ่าน หรือเธอควรเริ่มปฏิบัติภารกิจตอนนี้เสียเลยดีไหมนี่ หลับได้น่าปล้ำมากพ่อคุณเอ๊ย ยิ่งมองยิ่งเคลิ้ม เกิดความรู้สึกดีขึ้นมานิดๆ ยามที่คิดถึงตอนเขาห่มผ้าให้ โดยไม่ได้ฉวยโอกาสทำมิดีมิร้ายอะไรมากไปกว่าจูบหน้าผากราตรีสวัสดิ์เท่านั้นถ้าไม่นับเรื่องกวนประสาทที่ผ่านมา อย่างน้อยเขาก็เป
“อ้าว แล้วถ้าเกิดผมเป็นฝ่ายโดนคุณลวนลามปลุกปล้ำล่ะ จะทำยังไง” ชายหนุ่มแย้งหน้าตายภีรดาแอบกัดริมฝีปากเพราะข้อนี้มีความเป็นไปได้สูง ดูจากเหตุการณ์เมื่อเช้าก็เป็นเหตุผลสมควรที่เขาจะต้องกลัวเป็นธรรมดา“งั้น...ถ้าห้ามดีๆ ไม่ฟัง ฉันอนุญาตให้คุณเอาไม้หน้าสามฟาดหัวเรียกสติฉันได้” ประโยคแรกไม่เท่าไหร่ แต่ประโยคต่อมานี่สิ ทำเอาคนที่มีหน้าที่ร่างสัญญาถึงกับเงยหน้ามองคนพูดอย่างคาดไม่ถึง “แต่ถ้าฉันปล้ำแล้วคุณดันสมยอมเองอันนี้ก็ช่วยไม่ได้นะ ถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลยแล้วกัน”“ตกลง อ้อ คุณพัลลภช่วยเพิ่มไปอีกสองข้อด้วยคือ ทุกอย่างในสัญญาการว่าจ้างงานนี้จะต้องเป็นความลับ นอกจากผม คุณ และคุณภีรดาแล้ว จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด”“ข้อนี้ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะถึงคุณไม่ห้าม ฉันก็ไม่คิดจะป่าวประกาศให้ใครรู้อยู่แล้ว” ใครมันจะอยากบอกคนอื่นล่ะว่ามารับจ็อบช่วยปลุกนกเขาให้ผู้ชายเซ็กซ์เสื่อม รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นประไร“ส่วนข้อสุดท้าย สำคัญสุดในภารกิจนี้ นั่นคือในระหว่างปฏิบัติหน้าที่...ห้ามคุณรักผมโดยเด็ดขาด!”คราวนี้คนฟังทั้งสองถึงขั้นหันขวับไปมองคนพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย“ไม่เช่นนั้นสัญญาทุกอย่างที่ว่ามาจะเป็นโม
ภีรดาอ้าปากค้าง หน้าเหวอ แอบเหลือบมองร่างสูงตระหง่านที่ยืนค้ำหัวเธออยู่ในระยะประชิด พอได้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมองภาพที่หน้าจอด้วยความสนใจจนตาแทบไม่กะพริบก็อดที่จะกระดากอายขึ้นมาไม่ได้ หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงด้วยความประหม่า รู้สึกเหมือนถูกแม่จับได้ว่ากำลังดูหนังโป๊อย่างไรอย่างนั้นฮือๆ...หมดกันไอ้แพนด้าเอ๊ย ทำไมเธอต้องมานั่งดูอะไรแบบนี้พร้อมกับผู้ชายที่เป็นนายจ้าง แถมยังเซ็กซ์เสื่อมด้วยเนี่ยช่วงเวลาที่น่าอึดอัดจบลงพร้อมภาพติดเรตบนหน้าจอท่ามกลางความโล่งอก แต่แล้วจู่ๆ ร่างสูงใหญ่ก็โน้มกายลงมาแล้วเอื้อมมือมากุมมือที่จับเมาส์ของเธอไว้ก่อนเลื่อนลงมาช้าๆ ความใกล้ชิดที่มาโดยไม่ได้ตั้งตัวทำเอาร่างกายแข็งทื่อเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ ลมหายใจอุ่นๆ ของอีกฝ่ายกระทบผิวแก้มใสๆ จนร้อนผ่าว อายจนหน้าแดงแล้วแดงอีกนี่มันอ่อยกันชัดๆ ! หน็อย...คิดจะให้ฉันหลงรักแล้วมายกเลิกสัญญาทีหลังละสิท่า หึ...แผนสูงมากหญิงสาวตัดสินใจหันไปหมายจะบอกให้เขาถอยห่างไปหน่อยเพื่อที่เธอจะได้ลุกขึ้นให้เขานั่งอ่านได้สะดวก แต่นั่นกลับเป็นความคิดที่ผิดมหันต์“คะ...คุณช่วยถอยไปนิดได้ไหม ฉันหายใจ
“ไม่เป็น...ผมแข็งแรงดี ตรวจสุขภาพทุกปีไม่เคยขาด และออกกำลังกายเป็นประจำด้วย”“ถ้างั้น...คุณชอบสูบบุหรี่ ดื่มพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินยาอะไรติดต่อกันนานๆ หรือว่าเคยประสบอุบัติเหตุอะไรหนักๆ บ้างไหม” หมอเถื่อนซักต่อ“ผมไม่สูบบุหรี่ ส่วนพวกแอลกอฮอล์ก็มีบ้างตามโอกาส แต่ก็นานๆ ที ไม่เคยกินยาอะไรต่อเนื่อง ส่วนอุบัติเหตุ...” เขานิ่งคิดไปนิดหนึ่ง “ผมเคยประสบอุบัติเหตุหนักๆ ตอนขี่รถบิ๊กไบก์ครั้งหนึ่ง”“นั่นไง!” หญิงสาวดีดนิ้วดังเปาะ ยิ้มร่า “อาจจะเป็นเพราะอุบัติเหตุที่ว่านี่แน่ๆ เลย เวลาขี่รถบิ๊กไบก์มันต้องแนบตรงส่วนนั้นกับตัวถังรถร้อนๆ นานๆ ด้วยใช่ไหม ฉันว่ามันอาจจะมีผลทำให้กล้วยหอมจอมซนของคุณไม่คึกก็ได้นะ”“อืม...ก็อาจเป็นได้นะ” ชายหนุ่มฟังแล้วชักจะคล้อยตามหมอเถื่อนหน่อยๆ “แต่ทำไมพวกเพื่อนๆ หรือรุ่นพี่ที่แข่งมานานกว่าผมไม่เห็นเป็นแบบผมเลยล่ะ”“โหย คุณนี่ไม่รู้อะไร ร่างกายคนเราน่ะจะไปเหมือนกันได้ไง พวกเพื่อนคุณเขาอาจจะอึด ถึก ทนกว่า แล้วก็ไม่ได้ใช้งานส่วน
เป็นครั้งแรกที่ภีรดาได้เปิดประสบการณ์การชอปปิงกับผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อหรือเพื่อน รวินรุตม์จัดเป็นผู้ชายในฝันที่พวกสาวๆ ยอมแลกทุกอย่างขอแค่ได้ควงเขา แถมยังเป็นผู้ชายสายเพย์แบบไม่แคร์สื่อเสียด้วย“อยากกินอะไร”ในเมื่อเขาอุตส่าห์ถามมา เธอจึงไม่ขัดศรัทธาโดยการชี้ไปที่...ร้านไก่ทอดผู้พันชื่อดัง...ที่ดูเหมือนราคาจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าร้านอื่นในบริเวณนั้นในกรณีที่ต้องจ่ายแบบหารสอง เธอจะได้ไม่ต้องเจ็บหนัก แต่เขาดันส่ายหน้า“ผมไม่ชอบอาหารฟาสต์ฟูด มันไม่ดีต่อสุขภาพ”อ้าว...แล้วจะมาถามกันเพื่อ?“เอ๊ะ! นั่นมันคุณราล์ฟ นักแข่งรถหรือเปล่าน่ะแก”“อุ๊ย...ใช่จริงด้วยอ่ะ แล้วนั่นเขามากับใครน่ะ”เสียงซุบซิบรอบกายดังขึ้น ทำให้ภีรดาชักจะหวาด รีบก้มหน้างุด“นั่นมันยายพริตตีดาวยั่วที่กำลังมีข่าวกับเขาไม่ใช่เหรอแก”“เออ ใช่จริงด้วยอะ งั้นข่าวฉาวนั่นก็เป็นจริงละสิ”“นี่เขาว่านางขายตัวด้วยไม่ใช่เหรอ ในข่าวบอกว่านางมีฉายาว่าเงินมาผ้าหลุดด้วย
ดวงตากลมโตขุ่นขวางไม่พอใจแอบเหลือบมองคนที่ตกเป็นขี้ปากอีกคนที่ยังนิ่งเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา แต่ใบหน้าเฉยเมยติดเย็นชาจนอ่านไม่ออกว่าเขารู้สึกเช่นไรที่ต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านกับเธอแบบนี้ หรือไม่ก็อาจจะชิน“กลับไปกินข้าวที่บ้านไหมคะ” เสียงอ่อยๆ เสนอทางเลือกเพื่อตัดปัญหา เขาเป็นคนดังและเธอไม่อยากจะเป็นต้นเหตุให้ชื่อเสียงของเขาต้องมัวหมอง“เราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องหนี”“ฉันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่คุณน่ะสิจะเสียชื่อเปล่าๆ”“ถ้าผมแคร์เรื่องนั้นแต่แรก ก็คงไม่เสนอให้คุณมาทำงานด้วยกันหรอก อยู่กับผมคุณไม่ต้องกลัวอะไร นั่นอาหารมาแล้ว กินข้าวก่อนเถอะ อย่าไปสนใจพวกแมลงวันนั่นเลย เสียเวลาใช้ชีวิตเปล่าๆ” เสียงเข้มๆ นั่นดังพอจะทำให้พวกที่ถูกเปรียบเป็นแมลงวันโต๊ะข้างๆ สะอึกจนสงบปากไปทันใดภีรดามองเจ้านายรูปงามของตนพร้อมบวกคะแนนความรู้สึกดีๆ เพิ่มขึ้นอีกนิด หึ...ถือว่าพวกหล่อนโชคดีก็แล้วกัน ถ้าฉันไม่หิวละก็งานนี้มี...ท้าดวล...แน่นอนพริตตีสาวมองอาหารแต่ละจานที่บริกรยกมาเสิร์ฟตรงหน้าอย่างละลานตา แม่เจ้าโว้ย...นั่นเอาม
“เช็กบิลด้วยค่ะ”โถ...นึกว่าจะแน่! ภีรดาแอบกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ โดยไม่สนคนหล่อที่กำลังช็อก พอหางตาแอบเห็นกอสซิปเกิร์ลทั้งสองล่าถอย เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากร้านไปด้วยความพ่ายแพ้ จึงยิ้มร่าทำท่าจะผละออก ทว่า...“อุ๊ย...คุณจะทำอะไรเนี่ย” เจ้าของเสียงใสโวย เมื่อถูกรั้งเอวเข้ามาแนบชิดจนกระดิกตัวออกห่างไม่ได้“French Kiss!”หืม...พอขาดคำ วงแขนแกร่งก็ตวัดกอดกระชับร่างเพรียวบางเข้ามาใกล้ ก่อนประกบริมฝีปากทาบไปบนปากนุ่มพร้อมใช้ปลายลิ้นดุนดันเปิดปากของเธออย่างรวดเร็วคราวนี้ถึงทีที่แพนด้าเจ้าเล่ห์ช็อกจนตัวแข็งทื่อบ้าง เมื่อถูกอีกฝ่ายเปิดหลักสูตรสอนจูบแบบดูดดื่มด้วยปลายลิ้นอุ่นร้อนที่ส่งเข้ามาในโพรงปากชุ่มชื้นอย่างลึกซึ้งแนบแน่นดื่มด่ำยิ่งกว่าคราวไหนๆ ที่เคยจูบกันอีตานี่เชี่ยวเรื่องจูบชะมัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอชอบ French Kiss ของเขาไม่น้อย ความพลิ้วไหวซ่านซ่าซุกซนของเขาทำให้เธอเคลิบเคลิ้มจนแทบจะละลายเป็นเนยเหลวๆ และออกจะเสียดายหน่อยๆ เมื่อเขาผละเรียวลิ้นออก พร้อมกระซิบเบาๆ“ถ้าคุณติดใจเดี๋ยวค่อยไปต่อ
ใบหน้าที่แห้งแล้ง และดวงตาหม่นแสงชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของเขาทำให้หญิงสาวอดสงสารไม่ได้ จึงเผลอตัวยื่นมือไปดึงร่างใหญ่เข้ามากอดปลอบโยน แม้จะยังข้องใจและมีคำถามอีกมากมาย แต่เธอกลับไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกไปอีกเพราะกลัวคำตอบ“ฉันเชื่อว่าวันหนึ่งคุณจะได้พบคนคนนั้น คนที่คุณรักเขา แล้วเขาก็รักคุณโดยไม่หวังผลตอบแทนแน่นอน”รวินรุตม์อุ่นวาบขึ้นมาในดวงใจ รับรู้ได้ถึงความอาทรจริงใจที่อีกฝ่ายส่งผ่านมาให้ วงแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างกลมกลึงตอบ ดวงตาคมเข้มทอประกายลึกล้ำอ่อนโยน รู้สึกเหมือนหัวใจที่เคยเย็นชาราวกับห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งกำลังถูกแสงแดดอันอบอุ่นค่อยๆ ละลายเกราะกำแพงที่กั้นขวางลงทีละนิดๆ พร้อมความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในส่วนลึกของหัวใจสัมผัสที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้หญิงสาวรับรู้ได้เช่นกัน ภีรดาซุกซบใบหน้ากับอกแกร่งนิ่ง เริ่มคุ้นชินกับอ้อมกอดของเขา และเธอคงเป็นบ้าไปแล้วที่อยากอยู่ในอ้อมกอดนี้ไปเรื่อยๆ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเธอกับเขานั้นเป็นได้แค่ลูกจ้างกับนายจ้างเท่านั้น อีกไม่นาน ถ้างานสำเร็จเมื่อไหร่เธอกับเขาก็จะกลายเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก คิดถึงตรงนี้ก็ใจหาย หยาดน้
“หา?” หญิงสาวทำตาโต“ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกเป็นหลานเพื่อนๆ ของทั้งสองคนนั่นแหละ ผู้หญิงคนไหนดี คนไหนสวย มีคุณสมบัติเพียบพร้อมถูกใจก็ไปขอนัดให้ผมไปดูตัวหมด จนช่วงหลังนี่ผมงานยุ่งแล้วไหนจะต้องตระเวนแข่งรถก็เลยชักจะขี้เกียจเริ่มเบี้ยวนัด ทั้งสองคนเลยต้องหามุกใหม่ แทนที่จะนัดให้ผมไปดูตัวทีละคน ก็บังคับให้ผมไปตามงานเลี้ยงสารพัดสโมสร ไม่ก็งานวันเกิดเพื่อนๆ ของท่าน แล้วก็แนะนำผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้แทนทีละหลายๆ คนไง อย่างงานวันมะรืนนี้ไง เจ้าสัวตระการที่ว่าน่ะเป็นทั้งเพื่อนสนิทพ่อผม แล้วก็ยังเป็นพ่อของนายเต้ เอ่อ...นายตติยะเพื่อนผมที่คุณเคยเจอด้วย ได้ข่าวว่าปีนี้จัดงานวันเกิดใหญ่โต เชิญพวกเซเลปและคนในแวดวงไฮโซมากันเยอะ เดาว่างานนี้ก็คงไม่แคล้วเป็นงานมหกรรมดูตัวอีกตามเคย”นานครั้งอีกฝ่ายถึงจะเล่าอะไรยาวๆ ให้ฟังสักที ภีรดาเลยเท้าคางฟังเพลิน“หึ...แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าผมทำหลานให้ท่านอุ้มไม่ได้เพราะไอ้อาการที่เป็นอยู่เนี่ย ต่อให้ผมถูกใจเลือกผู้หญิงที่ท่านหมายตาสักคนมาแต่งงานด้วยก็ใช่ว่าจะผลิตหลานให้อุ้มได้...”“แล้วพวกท่านรู้หรือเปล่าคะว่าคุณ...เอ่อ...มีอาการอย่างว่าน่ะ”ชายหนุ่มหันมามองสบตา ก่อนส่าย
“คือ...แพน...”“เรื่องจริงใช่ไหมลูก” รวีวรรณร้องลั่น ดวงตาเป็นประกาย “งั้นก็แปลว่าลูกกับแม่หนูคนนี้...ทำหลานให้แม่อุ้มเรียบร้อยแล้วสินะ”“อุ๊ย! เปล่านะคะ ไม่ใช่อย่างนั้น” ภีรดาตาเหลือก รีบปฏิเสธลั่น“โธ่...อย่าเขินไปเลยจ้ะ ถ้าเราสองคนคิดจริงจังกันถึงขั้นจะสร้างครอบครัวมีลูกมีเต้า จะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย กลับจะดีใจด้วยซ้ำ”อ้าวเฮ้ย...ไหงอีกฝ่ายกลับดีใจล่ะ“ว่าแต่คุณแม่ยังไม่บอกเลยว่าแวะมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”“อ๋อ...ก็ลูกน่ะเล่นไม่ยอมกลับบ้านตั้งเป็นเดือนแล้ว แม่ก็เลยคิดถึง แล้วอีกอย่างคุณพ่อก็ฝากเตือนเรื่องงานเลี้ยงแซยิดเจ้าสัวตระการเพื่อนคุณพ่อวันมะรืนนี้ด้วย บอกว่าให้ลูกไปให้ได้” เอ่ยถึงตรงนี้ดวงตาคนพูดก็แอบฉายรอยกังวลขึ้นมานิดๆ “เออ...จริงสิ ทำไมลูกไม่พาหนูแพนด้าไปงานด้วยเสียเลยล่ะจ๊ะ”“หา! ไม่ดีมั้งคะ งานเลี้ยงที่ว่าคงมีแต่ผู้ใหญ่ อย่าพาแพนไปเกะกะเลยนะคะ...” ภีรดารู้สึกผิดที่ต้องมาโกหกผู้หญิงที่แสนจะใจดีตรงหน้า แต่ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษตาหมีภูเขาน้ำแข็งนี่ด้วยที่ทำให้เรื่องบานปลาย“ไม่ต้องห่วงครับ เราสองคนจะไปร่วมงานแน่นอน จริงไหมครับที่รัก” ภีรดาสะดุ
ภีรดาเงยหน้ามองนายจ้างหนุ่มที่ตีหน้าขรึมทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับดันหลังเธอไปข้างหน้าเบาๆ หญิงสาวจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจดีสู้เสือพร้อมกับขยับเข้าไปหาอีกฝ่าย“เข้ามาใกล้ๆ อีกสิ” เสียงเย็นยะเยือกสำทับพร้อมกับยื่นมือมา เสี้ยววินาทีที่ภีรดานึกว่าจะถูกอีกฝ่ายจิกหัวตบคว่ำขย้ำม้ามแตก เหมือนที่เคยดูในละครน้ำเน่าเรื่องแม่ผัวตัวร้ายกับลูกสะใภ้ทีเด็ดนั้นเอง จู่ๆ เสียงกังวานอย่างน่าเกรงขามก็ดังขึ้นว่า...“เฮ้อ...ท่าทางไม่เลวนี่”หะ...หา? อะไรคือไม่เลวหญิงสาวถึงขั้นช็อก อ้าปากค้าง คิดว่าตัวเองตาฝาดไป เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกว้างของคนมากวัยกว่าหืม...นี่มันเรื่องอะไรกัน? ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่าเหตุการณ์มันกลับตาลปัตรแบบนี้ได้ยังไง!รวินรุตม์อมยิ้มขำ พร้อมยกมือขึ้นทำไฮไฟว์กับมารดาของเขาอย่างอารมณ์ดี“ไง คราวนี้แม่เล่นเนียนเลยใช่ไหม”“สุดๆ เลยครับ” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้ดาราเจ้าบทบาทที่เปลี่ยนบุคลิกราวกับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือภีรดาหันมองคนทั้งสองสลับไปมา งุนงงเป็นไก่ตาแตก “เอ่อ...เดี๋ยวนะคะ ช่วยบอกดิฉันทีว่าตกลงเมื่อกี้คือการแสดงเหรอคะ”“แม่ผมเคยเป็นนางเอกละครเวทีของมหาวิทยาลัยเก่าน่ะคุณ” ร
“นั่งนี่แหละ!”สองเสียงเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ทำเอาคนเป็นส่วนเกินสะดุ้งโหยง ก่อนค่อยๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม สีหน้าร่ำๆ ว่าอยากจะปล่อยโฮเสียให้ได้ฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย...ฮือๆ“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แล้วเข้ามาทำอะไรในห้องลูก” รวีวรรณเปิดฉากซักลูกชายด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ภีรดารู้สึกมือไม้เย็นเฉียบ เหงื่อแตกพลั่กๆ ภาวนาให้คนตรงหน้าไม่ได้เห็นข่าวฉาวๆ ของเธอในเน็ต ในขณะที่คนถูกถามไม่ตอบกลับ ทำเป็นนิ่งเฉย ท่าทีเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานตรงหน้าเลยสักนิด“คืออย่างนี้ค่ะ หนู...เอ๊ย...ดิฉันขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ดิฉันชื่อภีรดา ชื่อเล่นแพนด้า เป็นผู้...”“เธอเป็นผู้หญิงของผมครับ”เปรี้ยงเดียวจบเห่! พริตตีสาวหันขวับไปมองคนหวังดีประสงค์ร้ายตาค้าง หมอนี่เล่นบ้าอะไรเนี่ย ไปแนะนำแบบนั้นได้ไง ไม่นะ! หรือว่าตาบ้านี่อยากเห็นเธอโดนแม่เขาเชือดคอหอย... “ผู้หญิงของลูกงั้นเหรอ...” แม่เสือหรี่ตามองมาทางลูกแพนด้าน้อยที่นั่งตัวลีบอย่างจับผิด “ผู้หญิงประเภทไหนล่ะ ชั่วคราวหรือว่าแบบเหมาจ่ายรายเดือน...”หืม...นั่นมันคนหรือโพรโมชันมือถือคะคุณแม่ ภีรดากลอก
ปล้ำเนี่ยนะ! งามหน้าแล้วไอ้แพนด้า! ไม่ใช่โดนเขาปล้ำ แต่เป็นปล้ำเขาเสียเอง รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น!พริตตีสาวกุมขมับอยากหลับไปโดยไม่ต้องตื่น รีบก้มลงสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากชุดที่ใส่เป็นคนละชุดกับเมื่อวาน ซึ่งเธอแน่ใจว่าไม่ได้เปลี่ยนเอง งั้นก็แปลว่า...ฝีมือคนตรงหน้าอยากจะบ้าตาย งั้นก็สรุปว่าเหตุการณ์เมื่อคืนก็ลงเอยที่...เธอปล้ำเขาจนสำเร็จสินะหมดกันพรหมจารีย์ที่หวงแหนมากว่ายี่สิบสามปี ต้องมาขาดวิ่นพังพินาศเพราะผู้ชายที่เซ็กซ์เสื่อมแบบนี้เหรอเนี่ย รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นเซ็กซ์เสื่อมเหรอ...เดี๋ยวนะลองมาคิดดูอีกทีในเมื่อหมอนี่นกเขาไม่ขัน แล้วเธอจะปล้ำเขาสำเร็จได้ไง หรือจะเป็นเพราะไอ้ยาขวดนั้น หญิงสาวนึกถึงสินค้าออนไลน์ที่ตนแอบเทใส่ไว้ในแก้วเครื่องดื่มของรวินรุตม์เมื่อคืน แต่เท่าที่จำได้เขายังไม่ทันกินนี่หว่า หญิงสาวคิดแล้วสะดุ้งวาบในใจ เมื่อนึกถึงพริกในยำแซลมอนจานนั้นขึ้นมาได้ อย่าบอกนะว่า...ดาบนั้นคืนสนอง!ฮือ...ซวยกว่านี้มีอีกไหมเนี่ยเผ่นก่อนดีกว่า! ไม่แน่หมอนี่อาจจะจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ หรือไม่ก็คิดว่าฝันไปก็ได้ ว่าแล้วแม่สาวโก๊ะก็รีบย่องลุกจากที่เก
นาทีต่อมา รวินรุตม์ก็ต้องอ้าแขนรับการมาเยือนของผู้ช่วยสาวจอมหื่นที่โถมกายเข้าคร่อมทับเขาอย่างอุกอาจ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นช่างอ่อนหัด แต่เขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้กับความบ้าบิ่นจนน่ามอบโล่ของเธอที่เริ่มจากพรมจูบทั่วใบหน้าหล่อเหลา ลามมาที่ซอกคอ ทั้งยังกล้าจับ จูบ ลูบ คลำ ขยำสะเปะสะปะมั่วซั่วไปทั่วเรือนกายอันสง่างามของชายชาตรี ร่างแกร่งถึงขั้นผวาเมื่อเจอปลายชิวหาน้อยๆ ไล้วนที่จุดสีชมพูปลายยอดอกจนวูบวาบไปทั้งร่าง แถมบางคราวยังมีกัดเล็กๆ ในบริเวณที่น่าหวาดเสียวเข้าให้อีกต่างหากยายนี่ไปกินดีหมี หัวใจเสือมาหรือไงนะ ถึงได้หื่นได้หื่นดีขนาดนี้!ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่กลัวหัวใจจะวายตายคาที่เสียก่อน...แต่เหนือสิ่งใดนั้น ใช่ว่าสิ่งที่หญิงสาวทำจะไร้ผลเสียทีเดียว เมื่อความรู้สึกส่วนลึกบางอย่างในกายส่วนที่เคยด้านชาต่อสัมผัสหวามของเขาเริ่มจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เธอกำลังปลุกเร้าทีละนิดๆ ราวกับเริ่มเห็นแสงสว่างจุดเล็กๆ ที่ปลายอุโมงค์มืด ทำให้รวินรุตม์ต้องกัดฟันทนรับการเล้าโลมของอีกฝ่ายโดยไม่ปริปากบ่น เพราะบังเกิดความหวังที่จะรอดพ้นจากคำสาปร้ายด้วยน้ำมือของผู้หญิงตรงหน้าบางทียายแพนด้าตัวยุ่งนี่อาจจะท
“งอนที่ไหน ไม่ได้ง้อน...แล้วฉันก็บอกแค่ให้ไปเต้น แต่ไม่ได้ให้คุณไปกอดไปหอมใครสักหน่อย” คนพูดขึ้นเสียงใส่ ในใจเดือดปุดๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในผับนั่น“ทีคุณก็จูบผมเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”ชิ้ง! เออจริงด้วยว่ะ ภีรดาได้ยินแล้วแทบสร่างเมา“กะ...ก็ ฉันจูบได้เพราะมันเป็นหน้าที่ อย่าลืมสิ คุณจ้างฉันมายั่วไม่ใช่หรือไง” แก้ตัวมันไปน้ำขุ่นๆ หน้าร้อนวาบๆ“งั้นก็ทำหน้าที่ของคุณสิ ยั่วให้ผมตื่นสักที หรือถ้าทำไม่ได้ ผมก็จะได้ไปหาคนอื่นมาทำแทนซะ...” คำพูดไม่เท่านัยน์ตาพราวระยับท้าทายคู่นั้นที่ทำให้คนถูกจ้องหายใจแทบไม่ออก ในอกวูบโหวงเมื่อคิดว่าต้องเสียตำแหน่งและเงินรางวัลก้อนโต แถมยังต้องหลีกทางให้ผู้หญิงคนอื่นเข้ามาใกล้ชิดคนตรงหน้าแทนตัวเอง“คุณท้าฉัน?”“ไม่ได้ท้า แต่ว่าพูดจริง ถ้าคุณทำไม่ได้ผมจะจ้างคนอื่น...อุ๊บ!”ไม่ทันขาดคำ กลีบปากนุ่มๆ ก็ทาบปิดลงมาที่เรียวปากของเขาเสียเต็มรัก เพราะไม่อยากได้ยินคำพูดแสลงหูนั่นออกจากปากร้ายกาจของอีกฝ่าย พริตตีสาวลืมอาย ลืมมันทุกอย่าง สารพัดความรู้สึกที่อัดอั้นในอกตีกันให้วุ่น ตอนนี้เธอไม่สนว่าตัวเองกำลังเป็นฝ่ายเริ่มก่อนด้วยซ้ำ ไม่ว่ายังไงวันนี้เธอต้องทำงาน
สิ่งที่ตติยะคาดไว้ไม่เกินจริงเลยสักนิดหลังจากพาหญิงสาวกลับมาที่คอนโดหรูอย่างทุลักทุเล ชายหนุ่มก็อุ้มร่างอรชรที่ดิ้นไม่หยุดพาดบ่า มิไยว่าอีกฝ่ายจะอาละวาดเพียงไหน หนักข้อเข้ามือใหญ่ๆ ก็หวดก้นเพียะเข้าให้จนแม่ตัวยุ่งร้องตะโกนเสียงหลง“โอ๊ย...มาตีฉ้านทามมายเนี่ย”“อยู่เฉยๆ ได้ไหมอย่าดิ้น เดี๋ยวตก...”“ก็ปล่อยสักทีเซ่”“ไม่ปล่อย คนนิสัยไม่ดีต้องโดนทำโทษแบบนี้” ว่าแล้วก็หวดอีกหลายเพียะอย่างมันเขี้ยวเรียกเสียงครวญครางเป็นระยะ ก่อนที่คนอุ้มจะโยนลงบนเตียง“โอ๊ย...เจ็บนะ เบาๆ เซ่ ”รวินรุตม์นิ่วหน้ามองอาการแม่สาวจอมยุ่งตรงหน้าอย่างเพลียๆ ปนสงสัยไปโดนตัวไหนมาล่ะเนี่ย ถึงคลั่งจนน่าจับฟัดแบบนี้ จะว่าเมาเหล้าก็ไม่น่าใช่ เพราะเครื่องดื่มที่สั่งให้ก็ไม่ได้มีแอลกอฮอล์มากมายอะไรนัก แล้วทำไมสภาพถึงเละเทะแถมหื่นได้ใจขนาดนี้ คิดไม่ทันขาดคำชายหนุ่มก็ตาเหลือก เมื่อคนขี้เมาเริ่มก่อปัญหาใหม่ ขึ้นมา“ร้อน...ทามมายร้อนแบบนี้ เปิดแอร์เซ่...” ปากบ่น มือน้อยๆ ก็พยายามจะทึ้งเสื้อผ้าตัวเองออก“เฮ้ย จะทำอะไรน่ะยายตัวยุ่ง ห้ามถอดนะ” ชายหนุ่มร้องลั่น ผวาเข้าตะครุบมือซุกซนที่ทำท่าจะดึงเกาะอกตัวเองลงไว้แทบไม่ทัน โอ๊ย