เป็นครั้งแรกที่ภีรดาได้เปิดประสบการณ์การชอปปิงกับผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อหรือเพื่อน รวินรุตม์จัดเป็นผู้ชายในฝันที่พวกสาวๆ ยอมแลกทุกอย่างขอแค่ได้ควงเขา แถมยังเป็นผู้ชายสายเพย์แบบไม่แคร์สื่อเสียด้วย
“อยากกินอะไร”
ในเมื่อเขาอุตส่าห์ถามมา เธอจึงไม่ขัดศรัทธาโดยการชี้ไปที่...ร้านไก่ทอดผู้พันชื่อดัง...ที่ดูเหมือนราคาจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าร้านอื่นในบริเวณนั้นในกรณีที่ต้องจ่ายแบบหารสอง เธอจะได้ไม่ต้องเจ็บหนัก แต่เขาดันส่ายหน้า
“ผมไม่ชอบอาหารฟาสต์ฟูด มันไม่ดีต่อสุขภาพ”
อ้าว...แล้วจะมาถามกันเพื่อ?
“เอ๊ะ! นั่นมันคุณราล์ฟ นักแข่งรถหรือเปล่าน่ะแก”
“อุ๊ย...ใช่จริงด้วยอ่ะ แล้วนั่นเขามากับใครน่ะ”
เสียงซุบซิบรอบกายดังขึ้น ทำให้ภีรดาชักจะหวาด รีบก้มหน้างุด
“นั่นมันยายพริตตีดาวยั่วที่กำลังมีข่าวกับเขาไม่ใช่เหรอแก”
“เออ ใช่จริงด้วยอะ งั้นข่าวฉาวนั่นก็เป็นจริงละสิ”
“นี่เขาว่านางขายตัวด้วยไม่ใช่เหรอ ในข่าวบอกว่านางมีฉายาว่าเงินมาผ้าหลุดด้วย
ดวงตากลมโตขุ่นขวางไม่พอใจแอบเหลือบมองคนที่ตกเป็นขี้ปากอีกคนที่ยังนิ่งเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา แต่ใบหน้าเฉยเมยติดเย็นชาจนอ่านไม่ออกว่าเขารู้สึกเช่นไรที่ต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านกับเธอแบบนี้ หรือไม่ก็อาจจะชิน“กลับไปกินข้าวที่บ้านไหมคะ” เสียงอ่อยๆ เสนอทางเลือกเพื่อตัดปัญหา เขาเป็นคนดังและเธอไม่อยากจะเป็นต้นเหตุให้ชื่อเสียงของเขาต้องมัวหมอง“เราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องหนี”“ฉันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่คุณน่ะสิจะเสียชื่อเปล่าๆ”“ถ้าผมแคร์เรื่องนั้นแต่แรก ก็คงไม่เสนอให้คุณมาทำงานด้วยกันหรอก อยู่กับผมคุณไม่ต้องกลัวอะไร นั่นอาหารมาแล้ว กินข้าวก่อนเถอะ อย่าไปสนใจพวกแมลงวันนั่นเลย เสียเวลาใช้ชีวิตเปล่าๆ” เสียงเข้มๆ นั่นดังพอจะทำให้พวกที่ถูกเปรียบเป็นแมลงวันโต๊ะข้างๆ สะอึกจนสงบปากไปทันใดภีรดามองเจ้านายรูปงามของตนพร้อมบวกคะแนนความรู้สึกดีๆ เพิ่มขึ้นอีกนิด หึ...ถือว่าพวกหล่อนโชคดีก็แล้วกัน ถ้าฉันไม่หิวละก็งานนี้มี...ท้าดวล...แน่นอนพริตตีสาวมองอาหารแต่ละจานที่บริกรยกมาเสิร์ฟตรงหน้าอย่างละลานตา แม่เจ้าโว้ย...นั่นเอาม
“เช็กบิลด้วยค่ะ”โถ...นึกว่าจะแน่! ภีรดาแอบกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ โดยไม่สนคนหล่อที่กำลังช็อก พอหางตาแอบเห็นกอสซิปเกิร์ลทั้งสองล่าถอย เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากร้านไปด้วยความพ่ายแพ้ จึงยิ้มร่าทำท่าจะผละออก ทว่า...“อุ๊ย...คุณจะทำอะไรเนี่ย” เจ้าของเสียงใสโวย เมื่อถูกรั้งเอวเข้ามาแนบชิดจนกระดิกตัวออกห่างไม่ได้“French Kiss!”หืม...พอขาดคำ วงแขนแกร่งก็ตวัดกอดกระชับร่างเพรียวบางเข้ามาใกล้ ก่อนประกบริมฝีปากทาบไปบนปากนุ่มพร้อมใช้ปลายลิ้นดุนดันเปิดปากของเธออย่างรวดเร็วคราวนี้ถึงทีที่แพนด้าเจ้าเล่ห์ช็อกจนตัวแข็งทื่อบ้าง เมื่อถูกอีกฝ่ายเปิดหลักสูตรสอนจูบแบบดูดดื่มด้วยปลายลิ้นอุ่นร้อนที่ส่งเข้ามาในโพรงปากชุ่มชื้นอย่างลึกซึ้งแนบแน่นดื่มด่ำยิ่งกว่าคราวไหนๆ ที่เคยจูบกันอีตานี่เชี่ยวเรื่องจูบชะมัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอชอบ French Kiss ของเขาไม่น้อย ความพลิ้วไหวซ่านซ่าซุกซนของเขาทำให้เธอเคลิบเคลิ้มจนแทบจะละลายเป็นเนยเหลวๆ และออกจะเสียดายหน่อยๆ เมื่อเขาผละเรียวลิ้นออก พร้อมกระซิบเบาๆ“ถ้าคุณติดใจเดี๋ยวค่อยไปต่อ
“เดี๋ยวเราไปดูเสื้อผ้าร้านอื่นกันต่อ คุณอยากได้อะไรเป็นพิเศษก็บอกได้ จำไว้ว่าทำงานกับผม คุณต้องดูดีรักษาหน้าตาและภาพลักษณ์ผมด้วย”“เจ้าค่ะ คุณเจ้านาย!” แกล้งรับคำเสียงหวานจ๋อย แต่คันปากยิบๆ...กะอีแค่ตำแหน่งผู้ช่วยปลุกนกเขานี่ ฉันต้องใส่ชุดราตรีหางปลา ห่มเฟอร์ขนหมาหนังกลับด้วยหรือไงบ่นไปก็เท่านั้น เพราะคนตรงหน้าฟังที่ไหน เขายังคงลากเธอเข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนน่าเวียนหัว แต่อีตอนที่เดินเข้าร้านชุดชั้นในนี่สิ เริ่มไม่ค่อยสนุก!“ฉันเข้าไปคนเดียวก็ได้ คุณไปเดินเล่นก่อน เสร็จแล้วฉันค่อยโทร. เรียกมาจ่ายตังค์”“ไม่ละ ผมขี้เกียจเดินไปเดินมา เข้าไปด้วยกันนี่แหละ” ไม่พูดเปล่า เขายังทรุดตัวนั่งไขว่ห้างรอด้วยมาดสุดเท่จนสาวๆ ในร้านหันมามองตาเยิ้ม “เผื่อคุณยังไม่รู้ว่าผมชอบรสนิยมแบบไหนจะได้ช่วยเลือกไง”ช่วยเลือกชุดชั้นในเนี่ยนะ เอาสมองส่วนไหนคิดคะ...“ชุดชั้นในฉัน ทำไมต้องแคร์รสนิยมคุณด้วยล่ะ”“ก็เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานนี้น่ะสิ”คนฟังใบหน้าแดงก่ำ อ้าปากหวอพูดอะไรไม่ออก ดูแววตาวิบวับคู่นั้นก็รู้ หมอนี่คิดอะไรอยู่...ตาหมีโรคจิต!“ฉันขอดูบราตัวนั้นหน่อยค่ะ”“ผมว่าตัวโน้นสวยกว่านะ”ภีรดาปรายตา
“ใช่คุณจริงๆ ด้วย ตอนแรกคาร่าก็นึกว่าคิดถึงคุณจนตาฝาดเสียอีก” ริมฝีปากแดงฉ่ำยิ้มเก๋ มองบุรุษรูปงามตรงหน้าอย่างดีใจ “นี่ต้องเป็นบุพเพสันนิวาสแน่ๆ เลย ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”คนฟังทำหน้าเมื่อยกับมุกอ่อยหนุ่มของนางแบบสาวสวยอย่างไม่คิดปิดบัง ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นอาจปลื้มปริ่มที่มีสาวสวยระดับตัวแม่มาทัก แต่นั่นใช้ไม่ได้กับเจ้าชายน้ำแข็งอย่างรวินรุตม์ที่ยังคงความเฉยชาได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้คนทักเริ่มประหม่าขึ้นมาเล็กๆ แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ให้ชายหนุ่มตรงหน้าที่เธอหมายตาว่าจะจับมาทำสามี“พอดีคาร่ามาเดินแบบงานเปิดร้านเพชรน่ะค่ะ แต่ตอนนี้เสร็จงานแล้ว ถ้าคุณไม่มีโปรแกรมที่ไหน เราไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันนะคะ แถวนี้มีร้านอาหารเกาหลีเพิ่งเปิดใหม่ ได้ข่าวว่าเป็นสูตรต้นตำรับแดจังกึมด้วย...ไปนะคะ”ชายหนุ่มกำลังจะอ้าปากปฏิเสธคำชวนของอีกฝ่ายอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่หันไปเห็นร่างเพรียวบางกำลังเดินออกมาจากร้านหนังสือเสียก่อน“ไม่เลวนะครับ แต่ผมไม่ได้มาคนเดียว ถ้าคุณไม่ว่าผมขอพาไปด้วยอีกคนได้ไหม”คนชวนแอบทำหน้าเจื่อนเล็กน้อยที่ผิดแผนเพราะอยากไปแค่สองต่อสองมากกว่า แต่เมื่อคิดว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ตั
บึ้ม! เสียงพลุในสมองของพริตตีสาวระเบิดพร่าง ในหูมีแต่คำว่า...ที่รัก...ที่รัก สะท้อนกลับไปกลับมาราวกับถูกคาถาสะกดจิต ยอมให้เขาจูงมือเดินไปพร้อมกันอย่างลืมตัว ทิ้งให้ส่วนเกินยืนกระฟัดกระเฟียดอย่างขัดใจอยู่เบื้องหลังนางแบบสาวเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เธอแพ้ยายเด็กหน้าบ้านๆ นั่นอีกแล้วหรือนี่ ไม่รู้ว่ามันมีอะไรดีนะถึงทำให้ผู้ชายเพอร์เฟกต์ที่แสนจะเย็นชาอย่างรวินรุตม์หน้ามืดตามัวติดใจได้เอ...หรือว่ายายนั่นมันจะทำของดีดน้ำมันพรายใส่เขากันนะ ต้องใช่แน่ๆ“อย่าให้รู้นะว่าใช้น้ำมันพรายยี่ห้อไหน แม่จะไปเหมาทั้งร้านมาสาดใส่เขาบ้าง คอยดู!”แต่คิดไปก็เท่านั้น ในเมื่อผู้ชายเขาใฝ่ต่ำ เธอจะไปทำอะไรได้นอกจากกรวดน้ำแผ่เมตตาให้ เชอะ คนอย่างคาร่าไม่สิ้นไร้ถึงกับต้องไปตบตีกับผู้หญิงกะโหลกกะลาแบบนั้นเพื่อแย่งผู้ชายให้เสียมือหรอกที่คอนโดหรูของชายหนุ่ม ร่างเพรียวบางนั่งเท้าคางเหม่อลอยอยู่บนโซฟา ข้างกายมีข้าวของที่หอบซื้อมาจากห้างวางเกลื่อน เพราะเจ้าตัวไม่มีแก่ใจจะเก็บรวินรุตม์แอบเหลือบมองคนใจลอยอย่างขบขัน เขาคงจะแสดงบทพระเอกนิยายรักหนักมือไปหน่อยจึงทำให้แม่สาวโก๊ะถึงกับเคลิ้มจนหาทางกลับไม่เจอทีเดียว ดวงตาแพรวพรา
“อี๋...อีตาหมีชีกอ!” มือบางกำวัตถุอันตรายก่อนเขวี้ยงไปสุดแรง จังหวะเดียวกันนั้นประตูห้องก็เปิดผลัวะพร้อมร่างผู้โชคดีที่โผล่เข้ามาในวิถีกระสุนพอดีเป๊ะ“เฮ้ย!” รวินรุตม์สะดุ้งโหยง รีบเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว เห็นแค่ว่ามีวัตถุสีดำๆ ลอยเฉี่ยวกกหูไปตกที่พื้นข้างกายอย่างหวุดหวิด ถ้าเป็นปืนก็เรียกได้ว่าเขารอดตายได้แบบปาฏิหาริย์ทีเดียว เมื่อมองเห็นเจ้าสิ่งนั้นบนพื้นชัดๆ ชายหนุ่มก็แอบขำ ก่อนก้มลงเก็บมันขึ้นมาเชยชม“สวยดีออก โยนทิ้งทำไมล่ะ”“สวยกับผีน่ะสิ นั่นมันอะไร”“มันก็แค่...อันเดอร์แวร์” เขาเก๊กขรึมเอ่ยหน้าตายและ...น่าตาย“จีสตริงลามกแบบนั้นคุณซื้อมาให้ใครใส่ไม่ทราบ” ดวงหน้าคนพูดแดงก่ำ ทั้งโมโหทั้งเขินอาย ยิ่งเห็นสายตาแพรวพราววาววับที่มองมาคู่นั้นแล้วอยากจะเอานิ้วจิ้มให้บอดนัก รู้นะว่ากำลังคิดอะไรอยู่“ก็แค่ออฟชันเสริม เผื่อคุณต้องใช้ไง”ก็รู้นะว่าหน้าที่ของเธอคือต้องยั่วคนตรงหน้า แต่ถ้าถึงขั้นที่จำเป็นต้องใช้ออฟชันเสริมสุดอันตรายแบบนี้ เธอขอบาย...ร่างเพรียวบางลุกเดินหนีกระฟัดกระเฟียด“นั่นคุณจะไปไหน...” รวินรุตม์ถามเสียงอ่อนลง ดูท่าเขาจะแกล้งหนักมือไปหน่อย “อย่างอนเลยน่า ถ้าไม่ชอบแบบนี้เ
“จะคลำหน้าผมอีกนานไหม” จู่ๆ เสียงเข้มๆ ก็ดังขึ้นพร้อมกับที่เขาแอบหรี่ตามองคนที่กำลังแอบเสพเขาเป็นอาหารตาอย่างเพลิดเพลิน“กะ...ก็ฉันไม่เคยยั่วผู้ชายนี่ ขอทำใจหน่อยสิ”คำยอมรับซื่อๆ นั่นทำให้คนฟังเกือบเก๊กหลุดแล้วขำพรืดออกมา ยายจอมยุ่งนี่จะตรงไปไหมเนี่ย เล่นสารภาพกันโต้งๆ แบบนี้แล้วเขาจะทำยังไงกับเธอดีล่ะ“ก็ไหนว่าคุณมีฉายาพริตตีดาวยั่วไง”คนฟังเบ้ปากค้อนใส่รัวๆ “ดาวรั่วต่างหาก คุณน่ะฟังมาผิดแล้วละ”“หรือจะให้ผมสาธิตกับคุณก่อนดี แต่...”“แต่อะไรคะ” คนตั้งใจฟังสงสัย“แต่ผมไม่รับประกันนะว่าถ้าคุณเกิดหื่นขึ้นมาแล้วผมจะช่วยคุณได้...” พอขาดคำ ร่างสูงใหญ่ก็พลิกกลับขึ้นมาคร่อมเหนือร่างแพนด้าน้อยที่ทำหน้าเหลอหลาได้อย่างน่าเอ็นดู จนเขาอดใจไม่ไหวต้องก้มหน้าลงไปขโมยหอมแก้มใสๆ ฟอดหนึ่ง“อุ๊ย! คุณมาหอมแก้มฉันทำไม”“ก็อยากทำหน้าตาน่ารักเองนี่ช่วยไม่ได้”วาบ...ใบหน้าสวยแดงก่ำไปจนถึงกกหู หัวใจเริ่มกระหน่ำสูบฉีดเลือดไม่เป็นจังหวะ ยามที่ต้องสบตาแพรวพราวคู่นั้น ทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย“เริ่มบทเรียนที่หนึ่งการสัมผัส” ว่าแล้วมือคู่ใหญ่ก็เริ่มปฏิบัติการรุก! “ผู้ชายมีจุดที่ไวต่อสัมผัสหลายจุดต
หลังจากที่ได้อยู่ร่วมบ้านกับผู้ชายแปลกหน้าที่กลายมาเป็นทั้งเจ้านายและเจ้าหนี้หลายวันเข้า ภีรดาก็ได้พบว่ามันไม่ง่ายเอาเสียเลย เพราะรวินรุตม์นั้นเป็นผู้ชายที่ทั้งเอาแต่ใจ เจ้าระเบียบ และรักสะอาดเป็นที่สุด จนเข้าขั้นที่เรียกว่าโรคจิตก็ไม่ผิดนัก ฉะนั้นนอกจากต้องทำหน้าที่ผู้ช่วยส่วนตัวคอยหาสารพัดวิธีปลุกชีพหนอนชาเขียวของชายหนุ่มแล้ว ภีรดายังต้องแปลงร่างจากพริตตีดาวยั่วมาเป็นแม่บ้านใจกล้าแถมบางคราวก็ต้องระเห็จไปเป็นแม่ครัวให้เขาอีกตำแหน่งด้วยภีรดายืนมองคนที่นอนเอกเขนกดูทีวีสบายใจเฉิบ ในขณะที่เธอต้องมานั่งเก็บกวาดเช็ดถูพื้นเป็นนางแจ๋วตั้งแต่เช้า ทั้งที่พื้นมันก็ไม่ได้สกปรกอะไรมากมาย แต่พ่อคนรักสะอาดยิ่งชีพก็ไม่วายหาเรื่องใช้เธอจนได้ ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ใช้ฟรี มีบวกโอทีให้ชั่วโมงละตั้งห้าร้อย มีหรือที่คนงกอย่างเธอจะปล่อยผ่าน เงินทั้งนั้นยังไงก็ต้องเอาไว้ก่อนละน่า นาทีนี้ไม่มีอะไรสำคัญกับเธอมากไปกว่ารีบหาเงินใช้หนี้ที่ท่วมหัวนั่นอีกแล้วส่วนเขาน่ะหรือก็มานั่งคุมควอลิตีเธออีกทีไง เดี๋ยวให้กวาดตรงซอกนั้นที ให้ถูตรงซอกนี้หน่อย เธอละอยากให้แม่คุณคาร่าคนสวยนั่นมาเห็นหนุ่มที่เจ้าหล่อนจ้องจะ
ใบหน้าที่แห้งแล้ง และดวงตาหม่นแสงชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของเขาทำให้หญิงสาวอดสงสารไม่ได้ จึงเผลอตัวยื่นมือไปดึงร่างใหญ่เข้ามากอดปลอบโยน แม้จะยังข้องใจและมีคำถามอีกมากมาย แต่เธอกลับไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกไปอีกเพราะกลัวคำตอบ“ฉันเชื่อว่าวันหนึ่งคุณจะได้พบคนคนนั้น คนที่คุณรักเขา แล้วเขาก็รักคุณโดยไม่หวังผลตอบแทนแน่นอน”รวินรุตม์อุ่นวาบขึ้นมาในดวงใจ รับรู้ได้ถึงความอาทรจริงใจที่อีกฝ่ายส่งผ่านมาให้ วงแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างกลมกลึงตอบ ดวงตาคมเข้มทอประกายลึกล้ำอ่อนโยน รู้สึกเหมือนหัวใจที่เคยเย็นชาราวกับห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งกำลังถูกแสงแดดอันอบอุ่นค่อยๆ ละลายเกราะกำแพงที่กั้นขวางลงทีละนิดๆ พร้อมความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในส่วนลึกของหัวใจสัมผัสที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้หญิงสาวรับรู้ได้เช่นกัน ภีรดาซุกซบใบหน้ากับอกแกร่งนิ่ง เริ่มคุ้นชินกับอ้อมกอดของเขา และเธอคงเป็นบ้าไปแล้วที่อยากอยู่ในอ้อมกอดนี้ไปเรื่อยๆ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเธอกับเขานั้นเป็นได้แค่ลูกจ้างกับนายจ้างเท่านั้น อีกไม่นาน ถ้างานสำเร็จเมื่อไหร่เธอกับเขาก็จะกลายเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก คิดถึงตรงนี้ก็ใจหาย หยาดน้
“หา?” หญิงสาวทำตาโต“ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกเป็นหลานเพื่อนๆ ของทั้งสองคนนั่นแหละ ผู้หญิงคนไหนดี คนไหนสวย มีคุณสมบัติเพียบพร้อมถูกใจก็ไปขอนัดให้ผมไปดูตัวหมด จนช่วงหลังนี่ผมงานยุ่งแล้วไหนจะต้องตระเวนแข่งรถก็เลยชักจะขี้เกียจเริ่มเบี้ยวนัด ทั้งสองคนเลยต้องหามุกใหม่ แทนที่จะนัดให้ผมไปดูตัวทีละคน ก็บังคับให้ผมไปตามงานเลี้ยงสารพัดสโมสร ไม่ก็งานวันเกิดเพื่อนๆ ของท่าน แล้วก็แนะนำผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้แทนทีละหลายๆ คนไง อย่างงานวันมะรืนนี้ไง เจ้าสัวตระการที่ว่าน่ะเป็นทั้งเพื่อนสนิทพ่อผม แล้วก็ยังเป็นพ่อของนายเต้ เอ่อ...นายตติยะเพื่อนผมที่คุณเคยเจอด้วย ได้ข่าวว่าปีนี้จัดงานวันเกิดใหญ่โต เชิญพวกเซเลปและคนในแวดวงไฮโซมากันเยอะ เดาว่างานนี้ก็คงไม่แคล้วเป็นงานมหกรรมดูตัวอีกตามเคย”นานครั้งอีกฝ่ายถึงจะเล่าอะไรยาวๆ ให้ฟังสักที ภีรดาเลยเท้าคางฟังเพลิน“หึ...แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าผมทำหลานให้ท่านอุ้มไม่ได้เพราะไอ้อาการที่เป็นอยู่เนี่ย ต่อให้ผมถูกใจเลือกผู้หญิงที่ท่านหมายตาสักคนมาแต่งงานด้วยก็ใช่ว่าจะผลิตหลานให้อุ้มได้...”“แล้วพวกท่านรู้หรือเปล่าคะว่าคุณ...เอ่อ...มีอาการอย่างว่าน่ะ”ชายหนุ่มหันมามองสบตา ก่อนส่าย
“คือ...แพน...”“เรื่องจริงใช่ไหมลูก” รวีวรรณร้องลั่น ดวงตาเป็นประกาย “งั้นก็แปลว่าลูกกับแม่หนูคนนี้...ทำหลานให้แม่อุ้มเรียบร้อยแล้วสินะ”“อุ๊ย! เปล่านะคะ ไม่ใช่อย่างนั้น” ภีรดาตาเหลือก รีบปฏิเสธลั่น“โธ่...อย่าเขินไปเลยจ้ะ ถ้าเราสองคนคิดจริงจังกันถึงขั้นจะสร้างครอบครัวมีลูกมีเต้า จะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย กลับจะดีใจด้วยซ้ำ”อ้าวเฮ้ย...ไหงอีกฝ่ายกลับดีใจล่ะ“ว่าแต่คุณแม่ยังไม่บอกเลยว่าแวะมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”“อ๋อ...ก็ลูกน่ะเล่นไม่ยอมกลับบ้านตั้งเป็นเดือนแล้ว แม่ก็เลยคิดถึง แล้วอีกอย่างคุณพ่อก็ฝากเตือนเรื่องงานเลี้ยงแซยิดเจ้าสัวตระการเพื่อนคุณพ่อวันมะรืนนี้ด้วย บอกว่าให้ลูกไปให้ได้” เอ่ยถึงตรงนี้ดวงตาคนพูดก็แอบฉายรอยกังวลขึ้นมานิดๆ “เออ...จริงสิ ทำไมลูกไม่พาหนูแพนด้าไปงานด้วยเสียเลยล่ะจ๊ะ”“หา! ไม่ดีมั้งคะ งานเลี้ยงที่ว่าคงมีแต่ผู้ใหญ่ อย่าพาแพนไปเกะกะเลยนะคะ...” ภีรดารู้สึกผิดที่ต้องมาโกหกผู้หญิงที่แสนจะใจดีตรงหน้า แต่ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษตาหมีภูเขาน้ำแข็งนี่ด้วยที่ทำให้เรื่องบานปลาย“ไม่ต้องห่วงครับ เราสองคนจะไปร่วมงานแน่นอน จริงไหมครับที่รัก” ภีรดาสะดุ
ภีรดาเงยหน้ามองนายจ้างหนุ่มที่ตีหน้าขรึมทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับดันหลังเธอไปข้างหน้าเบาๆ หญิงสาวจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจดีสู้เสือพร้อมกับขยับเข้าไปหาอีกฝ่าย“เข้ามาใกล้ๆ อีกสิ” เสียงเย็นยะเยือกสำทับพร้อมกับยื่นมือมา เสี้ยววินาทีที่ภีรดานึกว่าจะถูกอีกฝ่ายจิกหัวตบคว่ำขย้ำม้ามแตก เหมือนที่เคยดูในละครน้ำเน่าเรื่องแม่ผัวตัวร้ายกับลูกสะใภ้ทีเด็ดนั้นเอง จู่ๆ เสียงกังวานอย่างน่าเกรงขามก็ดังขึ้นว่า...“เฮ้อ...ท่าทางไม่เลวนี่”หะ...หา? อะไรคือไม่เลวหญิงสาวถึงขั้นช็อก อ้าปากค้าง คิดว่าตัวเองตาฝาดไป เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกว้างของคนมากวัยกว่าหืม...นี่มันเรื่องอะไรกัน? ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่าเหตุการณ์มันกลับตาลปัตรแบบนี้ได้ยังไง!รวินรุตม์อมยิ้มขำ พร้อมยกมือขึ้นทำไฮไฟว์กับมารดาของเขาอย่างอารมณ์ดี“ไง คราวนี้แม่เล่นเนียนเลยใช่ไหม”“สุดๆ เลยครับ” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้ดาราเจ้าบทบาทที่เปลี่ยนบุคลิกราวกับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือภีรดาหันมองคนทั้งสองสลับไปมา งุนงงเป็นไก่ตาแตก “เอ่อ...เดี๋ยวนะคะ ช่วยบอกดิฉันทีว่าตกลงเมื่อกี้คือการแสดงเหรอคะ”“แม่ผมเคยเป็นนางเอกละครเวทีของมหาวิทยาลัยเก่าน่ะคุณ” ร
“นั่งนี่แหละ!”สองเสียงเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ทำเอาคนเป็นส่วนเกินสะดุ้งโหยง ก่อนค่อยๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม สีหน้าร่ำๆ ว่าอยากจะปล่อยโฮเสียให้ได้ฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย...ฮือๆ“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แล้วเข้ามาทำอะไรในห้องลูก” รวีวรรณเปิดฉากซักลูกชายด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ภีรดารู้สึกมือไม้เย็นเฉียบ เหงื่อแตกพลั่กๆ ภาวนาให้คนตรงหน้าไม่ได้เห็นข่าวฉาวๆ ของเธอในเน็ต ในขณะที่คนถูกถามไม่ตอบกลับ ทำเป็นนิ่งเฉย ท่าทีเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานตรงหน้าเลยสักนิด“คืออย่างนี้ค่ะ หนู...เอ๊ย...ดิฉันขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ดิฉันชื่อภีรดา ชื่อเล่นแพนด้า เป็นผู้...”“เธอเป็นผู้หญิงของผมครับ”เปรี้ยงเดียวจบเห่! พริตตีสาวหันขวับไปมองคนหวังดีประสงค์ร้ายตาค้าง หมอนี่เล่นบ้าอะไรเนี่ย ไปแนะนำแบบนั้นได้ไง ไม่นะ! หรือว่าตาบ้านี่อยากเห็นเธอโดนแม่เขาเชือดคอหอย... “ผู้หญิงของลูกงั้นเหรอ...” แม่เสือหรี่ตามองมาทางลูกแพนด้าน้อยที่นั่งตัวลีบอย่างจับผิด “ผู้หญิงประเภทไหนล่ะ ชั่วคราวหรือว่าแบบเหมาจ่ายรายเดือน...”หืม...นั่นมันคนหรือโพรโมชันมือถือคะคุณแม่ ภีรดากลอก
ปล้ำเนี่ยนะ! งามหน้าแล้วไอ้แพนด้า! ไม่ใช่โดนเขาปล้ำ แต่เป็นปล้ำเขาเสียเอง รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น!พริตตีสาวกุมขมับอยากหลับไปโดยไม่ต้องตื่น รีบก้มลงสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากชุดที่ใส่เป็นคนละชุดกับเมื่อวาน ซึ่งเธอแน่ใจว่าไม่ได้เปลี่ยนเอง งั้นก็แปลว่า...ฝีมือคนตรงหน้าอยากจะบ้าตาย งั้นก็สรุปว่าเหตุการณ์เมื่อคืนก็ลงเอยที่...เธอปล้ำเขาจนสำเร็จสินะหมดกันพรหมจารีย์ที่หวงแหนมากว่ายี่สิบสามปี ต้องมาขาดวิ่นพังพินาศเพราะผู้ชายที่เซ็กซ์เสื่อมแบบนี้เหรอเนี่ย รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นเซ็กซ์เสื่อมเหรอ...เดี๋ยวนะลองมาคิดดูอีกทีในเมื่อหมอนี่นกเขาไม่ขัน แล้วเธอจะปล้ำเขาสำเร็จได้ไง หรือจะเป็นเพราะไอ้ยาขวดนั้น หญิงสาวนึกถึงสินค้าออนไลน์ที่ตนแอบเทใส่ไว้ในแก้วเครื่องดื่มของรวินรุตม์เมื่อคืน แต่เท่าที่จำได้เขายังไม่ทันกินนี่หว่า หญิงสาวคิดแล้วสะดุ้งวาบในใจ เมื่อนึกถึงพริกในยำแซลมอนจานนั้นขึ้นมาได้ อย่าบอกนะว่า...ดาบนั้นคืนสนอง!ฮือ...ซวยกว่านี้มีอีกไหมเนี่ยเผ่นก่อนดีกว่า! ไม่แน่หมอนี่อาจจะจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ หรือไม่ก็คิดว่าฝันไปก็ได้ ว่าแล้วแม่สาวโก๊ะก็รีบย่องลุกจากที่เก
นาทีต่อมา รวินรุตม์ก็ต้องอ้าแขนรับการมาเยือนของผู้ช่วยสาวจอมหื่นที่โถมกายเข้าคร่อมทับเขาอย่างอุกอาจ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นช่างอ่อนหัด แต่เขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้กับความบ้าบิ่นจนน่ามอบโล่ของเธอที่เริ่มจากพรมจูบทั่วใบหน้าหล่อเหลา ลามมาที่ซอกคอ ทั้งยังกล้าจับ จูบ ลูบ คลำ ขยำสะเปะสะปะมั่วซั่วไปทั่วเรือนกายอันสง่างามของชายชาตรี ร่างแกร่งถึงขั้นผวาเมื่อเจอปลายชิวหาน้อยๆ ไล้วนที่จุดสีชมพูปลายยอดอกจนวูบวาบไปทั้งร่าง แถมบางคราวยังมีกัดเล็กๆ ในบริเวณที่น่าหวาดเสียวเข้าให้อีกต่างหากยายนี่ไปกินดีหมี หัวใจเสือมาหรือไงนะ ถึงได้หื่นได้หื่นดีขนาดนี้!ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่กลัวหัวใจจะวายตายคาที่เสียก่อน...แต่เหนือสิ่งใดนั้น ใช่ว่าสิ่งที่หญิงสาวทำจะไร้ผลเสียทีเดียว เมื่อความรู้สึกส่วนลึกบางอย่างในกายส่วนที่เคยด้านชาต่อสัมผัสหวามของเขาเริ่มจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เธอกำลังปลุกเร้าทีละนิดๆ ราวกับเริ่มเห็นแสงสว่างจุดเล็กๆ ที่ปลายอุโมงค์มืด ทำให้รวินรุตม์ต้องกัดฟันทนรับการเล้าโลมของอีกฝ่ายโดยไม่ปริปากบ่น เพราะบังเกิดความหวังที่จะรอดพ้นจากคำสาปร้ายด้วยน้ำมือของผู้หญิงตรงหน้าบางทียายแพนด้าตัวยุ่งนี่อาจจะท
“งอนที่ไหน ไม่ได้ง้อน...แล้วฉันก็บอกแค่ให้ไปเต้น แต่ไม่ได้ให้คุณไปกอดไปหอมใครสักหน่อย” คนพูดขึ้นเสียงใส่ ในใจเดือดปุดๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในผับนั่น“ทีคุณก็จูบผมเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”ชิ้ง! เออจริงด้วยว่ะ ภีรดาได้ยินแล้วแทบสร่างเมา“กะ...ก็ ฉันจูบได้เพราะมันเป็นหน้าที่ อย่าลืมสิ คุณจ้างฉันมายั่วไม่ใช่หรือไง” แก้ตัวมันไปน้ำขุ่นๆ หน้าร้อนวาบๆ“งั้นก็ทำหน้าที่ของคุณสิ ยั่วให้ผมตื่นสักที หรือถ้าทำไม่ได้ ผมก็จะได้ไปหาคนอื่นมาทำแทนซะ...” คำพูดไม่เท่านัยน์ตาพราวระยับท้าทายคู่นั้นที่ทำให้คนถูกจ้องหายใจแทบไม่ออก ในอกวูบโหวงเมื่อคิดว่าต้องเสียตำแหน่งและเงินรางวัลก้อนโต แถมยังต้องหลีกทางให้ผู้หญิงคนอื่นเข้ามาใกล้ชิดคนตรงหน้าแทนตัวเอง“คุณท้าฉัน?”“ไม่ได้ท้า แต่ว่าพูดจริง ถ้าคุณทำไม่ได้ผมจะจ้างคนอื่น...อุ๊บ!”ไม่ทันขาดคำ กลีบปากนุ่มๆ ก็ทาบปิดลงมาที่เรียวปากของเขาเสียเต็มรัก เพราะไม่อยากได้ยินคำพูดแสลงหูนั่นออกจากปากร้ายกาจของอีกฝ่าย พริตตีสาวลืมอาย ลืมมันทุกอย่าง สารพัดความรู้สึกที่อัดอั้นในอกตีกันให้วุ่น ตอนนี้เธอไม่สนว่าตัวเองกำลังเป็นฝ่ายเริ่มก่อนด้วยซ้ำ ไม่ว่ายังไงวันนี้เธอต้องทำงาน
สิ่งที่ตติยะคาดไว้ไม่เกินจริงเลยสักนิดหลังจากพาหญิงสาวกลับมาที่คอนโดหรูอย่างทุลักทุเล ชายหนุ่มก็อุ้มร่างอรชรที่ดิ้นไม่หยุดพาดบ่า มิไยว่าอีกฝ่ายจะอาละวาดเพียงไหน หนักข้อเข้ามือใหญ่ๆ ก็หวดก้นเพียะเข้าให้จนแม่ตัวยุ่งร้องตะโกนเสียงหลง“โอ๊ย...มาตีฉ้านทามมายเนี่ย”“อยู่เฉยๆ ได้ไหมอย่าดิ้น เดี๋ยวตก...”“ก็ปล่อยสักทีเซ่”“ไม่ปล่อย คนนิสัยไม่ดีต้องโดนทำโทษแบบนี้” ว่าแล้วก็หวดอีกหลายเพียะอย่างมันเขี้ยวเรียกเสียงครวญครางเป็นระยะ ก่อนที่คนอุ้มจะโยนลงบนเตียง“โอ๊ย...เจ็บนะ เบาๆ เซ่ ”รวินรุตม์นิ่วหน้ามองอาการแม่สาวจอมยุ่งตรงหน้าอย่างเพลียๆ ปนสงสัยไปโดนตัวไหนมาล่ะเนี่ย ถึงคลั่งจนน่าจับฟัดแบบนี้ จะว่าเมาเหล้าก็ไม่น่าใช่ เพราะเครื่องดื่มที่สั่งให้ก็ไม่ได้มีแอลกอฮอล์มากมายอะไรนัก แล้วทำไมสภาพถึงเละเทะแถมหื่นได้ใจขนาดนี้ คิดไม่ทันขาดคำชายหนุ่มก็ตาเหลือก เมื่อคนขี้เมาเริ่มก่อปัญหาใหม่ ขึ้นมา“ร้อน...ทามมายร้อนแบบนี้ เปิดแอร์เซ่...” ปากบ่น มือน้อยๆ ก็พยายามจะทึ้งเสื้อผ้าตัวเองออก“เฮ้ย จะทำอะไรน่ะยายตัวยุ่ง ห้ามถอดนะ” ชายหนุ่มร้องลั่น ผวาเข้าตะครุบมือซุกซนที่ทำท่าจะดึงเกาะอกตัวเองลงไว้แทบไม่ทัน โอ๊ย