หลังจากที่ได้อยู่ร่วมบ้านกับผู้ชายแปลกหน้าที่กลายมาเป็นทั้งเจ้านายและเจ้าหนี้หลายวันเข้า ภีรดาก็ได้พบว่ามันไม่ง่ายเอาเสียเลย เพราะรวินรุตม์นั้นเป็นผู้ชายที่ทั้งเอาแต่ใจ เจ้าระเบียบ และรักสะอาดเป็นที่สุด จนเข้าขั้นที่เรียกว่าโรคจิตก็ไม่ผิดนัก ฉะนั้นนอกจากต้องทำหน้าที่ผู้ช่วยส่วนตัวคอยหาสารพัดวิธีปลุกชีพหนอนชาเขียวของชายหนุ่มแล้ว ภีรดายังต้องแปลงร่างจากพริตตีดาวยั่วมาเป็นแม่บ้านใจกล้าแถมบางคราวก็ต้องระเห็จไปเป็นแม่ครัวให้เขาอีกตำแหน่งด้วยภีรดายืนมองคนที่นอนเอกเขนกดูทีวีสบายใจเฉิบ ในขณะที่เธอต้องมานั่งเก็บกวาดเช็ดถูพื้นเป็นนางแจ๋วตั้งแต่เช้า ทั้งที่พื้นมันก็ไม่ได้สกปรกอะไรมากมาย แต่พ่อคนรักสะอาดยิ่งชีพก็ไม่วายหาเรื่องใช้เธอจนได้ ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ใช้ฟรี มีบวกโอทีให้ชั่วโมงละตั้งห้าร้อย มีหรือที่คนงกอย่างเธอจะปล่อยผ่าน เงินทั้งนั้นยังไงก็ต้องเอาไว้ก่อนละน่า นาทีนี้ไม่มีอะไรสำคัญกับเธอมากไปกว่ารีบหาเงินใช้หนี้ที่ท่วมหัวนั่นอีกแล้วส่วนเขาน่ะหรือก็มานั่งคุมควอลิตีเธออีกทีไง เดี๋ยวให้กวาดตรงซอกนั้นที ให้ถูตรงซอกนี้หน่อย เธอละอยากให้แม่คุณคาร่าคนสวยนั่นมาเห็นหนุ่มที่เจ้าหล่อนจ้องจะ
“กะ...ก็...เอ่อ...” เสียงหวานสั่นสะท้าน เริ่มหายใจติดขัด ขนกายสาวพร้อมใจลุกพึ่บพั่บกับปฏิบัติการชวนสยิวนี่ เมื่อมือหนาค่อยๆ รวบเอวคอดของเธอเข้ามากอด พร้อมกดรั้งให้สะโพกงอนงามมาแนบชิดกายแกร่งของเขามากขึ้น ทำเอาแม่สาวจอมยั่วถึงขั้นสะดุ้งตัวสั่นสะท้าน ชักไม่แน่ใจแล้วว่าใครกันแน่ที่ถูกยั่วแต่ประเด็นคือเธอกำลังจะทนความใกล้ชิดนี่ไม่ไหวแล้ว สติที่เคยมีเริ่มมลายไปทีละนิดๆ เมื่ออีกฝ่ายให้ความร่วมมือมากเกินความจำเป็น“ผมชอบ...”ภีรดาชะงักกึก หันขวับไปมองคนพูดอย่างตกตะลึง หัวใจดวงน้อยเร่งสปีดเต้นกระหน่ำแบบนันสต็อป หรือการยั่วของเธอกำลังจะสัมฤทธิ์ผลแล้ว หญิงสาวก้มลงมองบิ๊กไบก์ที่กำลังขี่อย่างมีความหวังว่ามันจะตื่นขึ้นมา หรืออย่างน้อยก็มีปฏิกิริยาอะไรบ้างโอ๊ย...ตื่นสิ ไอ้นกเขาขี้เซา! รีบๆ ตื่นสักทีสิโว้ย ฉันจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ...“ผมชอบขี่...บิ๊กไบก์”“หา?” หัวใจที่กำลังพองโตคับอกแกว่งไกวน่าหวาดเสียว นั่นเขากำลังหมายถึงบิ๊กไบก์ไหนกันแน่หว่าดวงตาใสแต่ไม่ค่อยซื่อมองสบตาคนพูดด้วยใจคอที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ภาวนาให้ภารกิจนี้สำเร็จเสียที ก่อนที่เธอจะหวั่นไหวมากไปกว่านี้ แล้วเป็นฝ่ายอดใจไม่ได้เสียเ
ดวงตากลมโตแอบค้อนคนถามอย่างหมั่นไส้ แหม ทำเป็นไม่อยากรู้ แต่ซักประวัติกันเนียนเชียวนะ แต่เธอจะไม่ว่าสักคำถ้าเขาไม่มาสัมภาษณ์กันในสภาพล่อแหลมชวนหัวใจวายเช่นนี้“เขาก็เป็นผู้ชายที่นิสัยไม่เลวนักหรอก แต่เราคงไม่ใช่เนื้อคู่กันมั้งคะ หรือไม่ฉันก็ดีเกินไปเขาเลยหนีไปหาคนอื่นที่แย่กว่า”“หืม? มีด้วยเหรอเหตุผลนี้”“แต่รู้ไหมคะ อะไรที่บัดซบที่สุด” ชายหนุ่มส่ายหน้ารอฟัง “ฉันคงไม่เจ็บใจมากหรอก ถ้าไอ้คนอื่นที่ว่าไม่ใช่เพื่อนสนิทของฉันเอง ที่มารู้ทีหลังว่าจริงๆ แล้วเขาคบซ้อนมาตั้งนานแล้ว แถมตอนจับได้เขาก็ยังมีหน้ามาสารภาพให้เจ็บตับอีกนะว่าที่คบฉันเพื่อหวังใช้เป็นสะพานไปจีบแม่เพื่อนรักอีกต่อหนึ่ง แล้วยายนั่นก็ยังไปกุเรื่องบอกใครต่อใครว่าฉันเอาตัวเข้าแลกเพื่อจับแฟนเขาหน้าด้านๆ จนเพื่อนๆ เลิกคบฉันหมด ก็เลยจบเห่แบบแซดเอนดิง เป็นไง เรื่องตำนานรักดอกเหมยของฉันแย่กว่าของคุณหรือเปล่า”“แล้วคุณเป็นอย่างที่เขาว่าจริงหรือเปล่า”เจ้าของตำนานหันมาถามอย่างสงสัย “เรื่องไหนล่ะคะ”“ก็...เอาตัวเข้าแลกเพื่อจับผู้ชายคนนั้น”“นี่ถ้าเป็นคนอื่นถาม ฉันคงจะชกหน้าแล้ว” หญิงสาวกระแทกลมหายใจฮึดฮัด “คนอย่างฉันไม่คิดสั้นเอาตัวเ
“อุ๊ย...คุณราล์ฟ!” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว ขนลุกซู่ เมื่อคนตัวโตจดริมฝีปากจูบเม้มที่ต้นคอระหงจนร่างกายเธอร้อนวูบๆ วาบๆ “พะ...พอแล้ว...”ชายหนุ่มคลี่ยิ้มอ่อนโยน รับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของอีกฝ่ายที่กำลังเตลิดไปไกลกับความวาบหวามที่เขากำลังจะสอนให้เพื่อตอบแทนความตั้งใจทำงานของเธอ“ปละ...ปล่อยก่อน...ฉันว่าเราควรหยุดตรงนี้เถอะนะคะ” ภีรดาร้องห้ามเสียงหลง จะดิ้นก็ไม่กล้า ได้แต่นิ่งขึงอยู่ในอ้อมแขนเขาด้วยหัวใจที่สั่นรัว“ทำไมล่ะ ก็ไหนคุณบอกเองว่าเป็นหน้าที่ นี่ผมก็แค่อยากสอนงานตามหน้าที่ให้นิดหน่อยเท่านั้น รับรองจะไม่ทำให้คุณเสียหายมากไปกว่านั้น ปล่อยตัวปล่อยใจตามสบาย อย่าเกร็ง...”เขาจูบที่ขมับเธอเบาๆ ก่อนที่จะแนบริมฝีปากละเลียดจูบซับความหวานที่กลีบปากอ่อนนุ่มก่อนส่งปลายลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปกวาดชิมความหวานล้ำที่เขาเองก็ติดใจอยู่ไม่น้อย ไฟสวาทที่ถูกจุดขึ้นลามเลียไปทั่วกายของสาวน้อยผู้อ่อนประสบการณ์ ทำให้ร่างอรชรอ่อนระทวยเผลอปล่อยตัวไปตามแต่เขาจะนำพา รอยจูบลึกล้ำดื่มด่ำที่เขาหยิบยื่นให้ทำเธอเคลิบเคลิ้มหลงลืมทุกสิ่ง จนกระทั่งตอนที่มือซุกซนเลื่อนไปลูบไล้ที่หน้าท้องแบนราบก่อนสอดผ่านชายเสื้อยืดตัวโคร่งเ
“อืม...ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยโทรสั่งพิซซามากินแล้วกัน ส่วนนั่นน่ะก็เททิ้งไปเหอะ ไข่ดำปี๋แบบนั้น ผมยังไม่อยากเป็นมะเร็งรังไข่!” เจ้าของห้องเอ่ยออกมาหน้าตาเฉยอย่างผิดคาดหญิงสาวแอบเหล่มองหน้าหล่อเข้มตาปริบๆ กำลังสงสัยว่ารังไข่ของผู้ชายควรจะอยู่ตำแหน่งไหนในร่างกาย หรือจะเป็นตำแหน่งที่เธอเพิ่งถูให้เมื่อกี้กันนะ“บ้าจริง คิดอะไรของเธอเนี่ยยายแพนด้า หื่นใหญ่แล้วนะ”“หืม? ว่าไงนะ”“ปละ...เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” รีบปฏิเสธรัวๆ พลางมองตามอีกฝ่ายที่กำลังจะเดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อจัดการสั่งพิซซา “เฮ้อ...หมดกันเมนูบำรุงนกเขาน้อยๆ ของฉัน” พังพินาศย่อยยับไม่เป็นท่าเลย “อะไร คุณจะบำรุงอะไรนะ” ชายหนุ่มหันขวับ“ก็...ฉันไปหาข้อมูลในเน็ตมา เขาว่าไข่มันช่วยบำรุง ‘ส่วนนั้น’ ของผู้ชายให้ฟิตปึ๋งปั๋งได้น่ะสิคะ แล้วก็ยังมีพวกอาหารอื่นๆ อย่าง ปลาทะเล ไก่ โสม หอยนางรม หรือผลไม้พวกแตงโม อะโวคาโด...ก็ช่วยได้เหมือนกัน เอางี้ ไข่ไหม้ไปอย่างแล้ว เดี๋ยวฉันขอแก้ตัวทำไก่ตุ๋นโสมให้คุณกินแทนแล้วกัน ถึงหน้าตาฉันจะสวยมาก แต่ฝีมือทำกับข้าวก็ไม่เลวเหมือนกันนะคะ ขอบอก”รวินรุตม์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ดูจากสภาพไข่ลวกที่ดำปิ๊ดปี๊
สุดท้ายภีรดาก็ได้ร่วมเดินทางมากับเขาจนได้ พริตตีสาวมองบรรยากาศของสนามแข่งรถอย่างตื่นตาตื่นใจ เธอเป็นพริตตีมาหลายงานก็จริง แต่ไม่เคยเป็นพริตตีในสนามแข่งรถมาก่อนสักครั้งเดียว จึงค่อนข้างจะประหม่าตื่นเต้น ยิ่งได้มาพร้อมกับนักแข่งรถซูเปอร์ไบก์มือหนึ่งของเมืองไทยอย่างรวินรุตม์ด้วยแล้ว หญิงสาวก็อดรู้สึกยืดกับเขาบ้างไม่ได้ แม้จะแอบหงุดหงิดกับสายตาจ้องจับผิดของคนรอบข้างที่มีสาเหตุจากเรื่องข่าวฉาวของเธอในอินเทอร์เน็ตนอยู่บ้างก็ตาม“เป็นอะไรไป ทำไมยืนยุกยิกแบบนั้น” คนพูดเอ่ยโดยไม่ได้ละสายตาจากรถคู่ใจที่กำลังตรวจเช็กความเรียบร้อยก่อนแข่ง“เปล่านี่คะ” ตอบพลางแอบขยับผ้าพันคอผืนสวยไปมาอย่างอึดอัด สายตาหวั่นระแวงเกรงใครจะเห็นร่องรอยจางๆ ที่ประดับอยู่บนลำคอใต้ผ้า อีกใจก็นึกโมโหตัวต้นเหตุที่ทำเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมมีหน้าใช้เธอหยิบของนั่นนี่ให้เสียด้วย ฮึ่ย...มันน่านักเชียว!“ไงเพื่อนรัก ไม่เจอกันนานวันนี้ควงสาวสวยที่ไหนมาเชียร์ข้างสนามด้วยเหรอ” เสียงชายหนุ่มร่างบึ้กในชุดนักแข่งสุดเท่ ที่หน้าตาหล่อโดดเด้งสไตล์เกาหลีดังมาแต่ไกลภีรดาพลอยหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกับทำตาโต...โอแม่เจ้า! นั่นพระเอกซี
“ขอน้ำดื่มขวดหนึ่งสิ!” จู่ๆ เสียงเย็นๆ ก็ลอยลมมาขัดจังหวะ ทำให้ศึกชิงนางยุติกลางคันภีรดามองคนสั่งที่ทำหน้าตึงราวกับเพิ่งไปร้อยไหมมาอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ยอมเดินไปหยิบน้ำดื่มที่โต๊ะใกล้ๆ มายื่นให้“ผมไม่ดื่มน้ำเย็นก่อนแข่ง” หญิงสาวชะงักกึก เหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นว่าจะมีน้ำขวดไหนไม่เย็นสักขวด “ไปหยิบในรถผมมาสิ”พริตตีสาวกัดฟันแน่น เพราะรถของเขาจอดห่างจากตรงที่เธออยู่ตอนนี้เป็นโยชน์“ให้ผมเดินไปเป็นเพื่อนไหมครับ” ตติยะเสนอตัว “หรือว่าจะไปเอาที่กองอำนวยการก็ได้ เดี๋ยวผมให้คนเอามาให้เองดีกว่า คุณแพนจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”อร้าย...เป็นคนสวยนี่มันก็ดีแบบนี้เอง“ไม่เอา!”มารผจญ!...พริตตีสาวตวัดค้อนใส่คนเรื่องมาก“ผมไม่ไว้ใจคนอื่น มัวยืนบื้อทำไม รีบไปหยิบน้ำมาสิ”โอ๊ย! เดี๋ยวแม่ก็เอาสลอดหยอดให้กินเสียเลยนี่“ขอกุญแจรถด้วยค่ะ” หญิงสาวแบมือไปตรงหน้าคนสั่งอย่างเสียไม่ได้ ก่อนสะบัดหน้าเดินไปที่รถอย่างอารมณ์เสีย“คนบ้าอำนาจ ถ้ารู้ว่าจะพามาตกระกำลำบากแบบนี้จ้างให้ก็ไม่มาหรอก หน็อย...แม่บ้านงั้นเหรอ อุ๊ย!” คนขี้บ่นอุทานลั่นเมื่อจู่ๆ ก็ชนกับร่างของใครคนหนึ่งที่ทางเข้าจนช่อดอกไม้ที่อีกฝ่ายถือมาตกไปอยู่ที่พ
“เย้!” หญิงสาวร้องลั่น เผลอกระโดดจนตัวลอยด้วยความดีใจอย่างลืมตัว แล้วก็ต้องชะงักกึกเมื่อสบสายตาของผู้ชนะที่หันมองมาแวบหนึ่ง ก่อนถูกทีมงาน เหล่าพริตตีสาวๆ และกองทัพสื่อมวลชนเข้าไปรุมล้อมแสดงความยินดีจนกลืนหายไปในฝูงชนเชอะ...หมั่นไส้! แม่บ้านกิตติมศักดิ์ทำหน้ามุ่ย กระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ริมสนามอย่างหงุดหงิดใจบอกไม่ถูก ก่อนเบนความสนใจจากภาพแสลงตามองไปทางอื่นเสีย จนกระทั่งหยุดอยู่ที่ร่างของใครคนหนึ่งบนอัฒจันทร์กองเชียร์ หญิงสาวที่สวยหยาดเยิ้มราวกับนางฟ้าคนนั้นกำลังทอดสายตามองไปยังกลุ่มผู้ชนะเช่นกัน เจ้าหล่อนคลี่ยิ้มหวานมองเดือนที่โดนดาวล้อมด้วยสายตาเป็นประกาย พร้อมกับโบกมือเรียกเจ้าหน้าที่ในสนาม พูดอะไรบางอย่างก่อนส่งช่อดอกไม้ให้ แล้วเดินออกจากสนามแข่งไปทันทีแปลกคน! พริตตีสาวคิดในใจ อุตส่าห์หอบหิ้วดอกไม้มาเชียร์ แต่ไม่ยักมอบให้ด้วยตัวเอง ดันฝากคนอื่นไปมอบให้ หรือจะเป็นติ่งสายหลบของหมอนั่นเฮ้อ! จะเป็นอะไรก็ช่างเหอะ เธอไม่เห็นจะสนเรื่องของหมอนั่นเลย ก็แค่เก่งในสนามแข่งเท่านั้นแหละน่า เชอะ!“ทำไมมานั่งตรงนี้คนเดียวล่ะครับ” ตติยะนั่นเอง “ไม่ลงไปแสดงความยินดีกับนายราล์ฟหน่อยเหรอครับ”“โอ๊ย
ติ๊ด! ภีรดาจัดการกดปุ่มเปิดสปีกเกอร์โฟนกระจายเสียงให้คนข้างกายฟังด้วยเสียเลย จะได้ปลื้มที่ถูกสาวอวด“ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรจะฝากถึงคุณราล์ฟอีกไหมคะ พอดีฉันทำงานยุ่งอยู่นิดหน่อย”“อ้าว...ตายจริง ฉันขอโทษนะคะ แค่จะโทร. มาบอกราล์ฟว่า...ฉันมีเรื่องเร่งด่วนมากอยากจะปรึกษากับเขา ถ้าเขากลับมาคุณช่วยบอกให้เขามาหาฉันที่คอนโดหน่อยได้ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นเครือฟังดูร้อนรนราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย“ได้ค่ะ ถ้าเขากลับมาฉันจะรีบบอกให้นะคะ เท่านี้ใช่ไหมคะ”“เดี๋ยวค่ะ คือฉันไม่แน่ใจว่าควรพูดไหม”หืม? ภีรดาหันไปมองหน้านายจ้างที่กำลังนั่งทำคิ้วผูกโบข้างๆ“คือ...ราล์ฟเขาเปรยๆ กับฉันเมื่อคืนน่ะค่ะ ว่าคุณทำงานไม่ค่อยถูกใจ เขาเลยต้องการให้ฉันมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขาแทนคุณ เพราะอยากจะให้ฉันอยู่ใกล้ๆ เขาตลอดเวลา”“เหรอคะ ไม่เห็นเขาบอกฉันนะคะ” คนพูดชักจะหน้าตึงๆ เมื่อเรื่องเริ่มจะลามมาถึงตัว“คือ...เขาบอกว่า เขาไม่รู้จะพูดกับคุณยังไงน่ะค่ะ เพราะเกรงใจ เลยให้ฉันมาคุยกับคุณแทน ผู้หญิงเหมือนกันคงคุยกันง่ายกว่า เอาอย่างนี้ไหมคะ ถ้าคุณกลัวว่าจะตกงานหรือยังหางานใหม่ไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะคะฉันพอจะแนะนำบริษัทของเพื่อนๆ
ภีรดาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองผ่านคืนนั้นมาได้อย่างไร และไม่รู้ด้วยว่าเช้านี้จะมองหน้าเจ้าของบ้านติดโดยที่ไม่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ไหม เธอไม่รู้หรอกว่าอีตาหมีน้ำแข็งจะมีความรู้สึกรู้สาอะไรบ้าง หัวใจของเขาอาจจะด้านชาไปแล้ว แต่เธอไม่!เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้น ทำให้คนนอนบนโซฟาแกล้งทำเป็นหลับตาทันที“ผมรู้ว่าคุณตื่นแล้ว...” เสียงเรียบนิ่งดักคอมาแต่ไกล ทำให้คนแกล้งหลับนึกอยากใช้แผนแกล้งตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด จะได้จบๆ ไป แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อมีร่างสูงใหญ่มายืนอยู่ตรงหน้าภีรดาจำต้องลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับนายจ้างหนุ่ม โดยไม่ยอมมองหน้าเขาตรงๆ“คุณมีอะไรจะให้ฉันทำเหรอ หรือว่าหิว”“คุยกันหน่อยได้ไหม”“ได้ค่ะ...แต่ขอเวลาฉันไปล้างหน้าล้างตา จัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนสักครู่ได้ไหม”ชายหนุ่มพยักหน้านิดๆ และนั่งรอจนหญิงสาวเดินออกมาจากห้องนอนของเขาด้วยสีหน้าสดชื่นขึ้น“เอาละ ฉันพร้อมแล้วคุณมีอะไรก็พูดมาสิคะ” “ผมอยากพูดเรื่องรียา...” แค่เริ่มก็จุกแล้ว แต่เอาเหอะ เจ็บมันไปเลยทีเดียวจะได้จบๆ “คือผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด...”อะไรคือการเข้าใจผิดหว่า เอ...หรือเขากำลังจะสื่อแบบอ้อมๆ ว
ภีรดาฟังแล้วอ่อนใจ หันไปหยิบไฟแช็กที่เตรียมไว้มาจุดเทียนบนเค้กจนครบ ก่อนที่เสียงหวานจะดังขึ้น“แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูมายบอส แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู...” หญิงสาวถือเค้กยื่นไปตรงหน้าเจ้าของวันเกิด พร้อมสบตาเขา “อธิษฐานสิคะ”“อืม...” ชายหนุ่มหลับตานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนก้มลงเป่าเทียนเบาๆ“สุขสันต์วันเกิดนะคะ” พริตตีสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้มละไม “ทีนี้ก็ชิมเค้กได้แล้ว เค้กก้อนนี้ฉันอุตส่าห์ทำเองกับมือเลยนะ และคุณเป็นคนแรกที่ได้ชิมมัน”“อืม เห็นก็รู้แล้วละว่าทำเอง หน้าตามีเอกลักษณ์มาก” หนูทดลองเอ่ยชมหน้าตาย จนคนพูดหมั่นไส้เลยปาดครีมแต่งหน้าเค้กป้ายที่ปากเขาเข้าให้“นี่แน่ะ! ปากดีนัก” รวินรุตม์มองรอยยิ้มกวนๆ ของแพนด้าจอมแสบตาวาววับ “เป็นไงคะฝีมือการทำเค้กครั้งแรกในชีวิตของฉัน อร่อยดีไหม”ภีรดาหัวเราะเสียงใสออกมาอย่างไม่รู้ชะตากรรม“อยากรู้ก็ชิมดูสิ!”พอขาดคำ เขาจึงแกล้งเอาคืนด้วยการกดเรียวปากทาบลงมาบนกลีบปากหวานละมุนทันที ทำเอาหญิงสาวชาวาบไปทั้งร่าง เธอพยายามส่งเสียงประท้วงขัดขืน แต่นั่นยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้รุกเข้ามาเต็มกำลัง รสครีมหวานละมุนที่เข้ามาสัมผัสที
ดวงตาหม่นแสงเหลือบมองอาหารบนโต๊ะที่เธอตั้งใจจัดไว้รอฉลองวันเกิดแบบเล็กๆ ให้เขาซึ่งถูกอุ่นไปรอบหนึ่งแล้ว ไหนจะขนมเค้กวันเกิดที่อุตส่าห์ลงมือทำเองเป็นครั้งแรกโดยเปิดดูวิธีทำจากยูทูป แต่เจ้าของวันเกิดก็ยังไม่มาสักที มีก็แต่มารดาของเขาที่ส่งรูปถ่ายตอนไปเที่ยวด้วยกันมาให้ แถมยังโทร. มาถามเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของลูกชายกับคนรักเก่าสองสามรอบด้วยความเป็นห่วง ทุกครั้งหญิงสาวก็ต้องคอยปลอบไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอต่างหากที่กำลังรู้สึกไม่มั่นคงทางใจภีรดาเลื่อนรูปภาพที่หน้าจอไปจนถึงรูปที่เธอกับนายจ้างหนุ่มโดนแอบถ่าย ดูแล้วก็อดทอดถอนใจด้วยความอัดอั้นในหัวใจไม่ได้ เพราะมันคล้ายกับว่า...เธอและเขาเป็นคู่รักที่กำลังสวีตกันก็ไม่ปานเส้นตายของภารกิจก็เริ่มใกล้เข้ามาทุกทีๆ นอกจากจะไม่มีวี่แววว่าเธอจะทำสำเร็จแล้ว ยังจะมีชารียาเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในชีวิตของเขาเพิ่มอีกคน“เฮ้อ...” ยังไงๆ ผู้หญิงอื่นคงไม่อาจจะสู้กับคนรักที่แท้จริงได้หรอก ทำใจเสียเถอะ แพนด้าเอ๋ย...อีกไม่นานทั้งสองคนนั้นก็จะแต่งงานกัน แล้วตำแหน่งผู้ช่วยของเราก็คงตกกระป๋อง ไม่จำเป็นสำหรับหมอนั่นอีกต่อไป ตัดใจเสียเถอะน่
“จะพาหนูแพนไปด้วยทำไมล่ะ ลูกจะไปหาแฟนเก่าก็ไปคนเดียวสิ” รวีวรรณเดือดร้อนแทนคนโปรด“ไม่เป็นไรค่ะ แพนไปด้วยดีกว่า เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยๆ กันได้”“งั้นก็ไปกันหมดนี่แหละ!” คนเป็นแม่รวบรัดอย่างเอาแต่ใจ“คุณ...ลูกโตแล้ว ปล่อยให้เขาได้จัดการกันเองเถอะนะ” กฤษณ์หันไปปรามภรรยา ก่อนหันไปทางบุตรชายคนเดียว “หากมีอะไรที่ต้องการให้พ่อกับแม่ช่วยก็โทร. มาแล้วกันนะตาราล์ฟ อ้อ! แล้วระวังให้ดี...อย่าให้อดีตมากระทบปัจจุบันได้ล่ะลูก”“ครับพ่อ...” ตอบพร้อมกับมองสบตาผู้ช่วยสาวผ่านกระจกมองหลังหลังจากไปส่งพ่อแม่เสร็จ รวินรุตม์ก็รีบบึ่งรถมาที่คอนโด แล้วก็เห็นรถของอดีตคนรักจอดอยู่ด้านหน้า พอเห็นชายหนุ่มลงจากรถ ชารียาก็รีบลงจากรถแล้วโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของเขาทั้งน้ำตานองหน้า ใบหน้านั้นมีร่องรอยฟกช้ำจนเห็นได้ชัด“ราล์ฟขา...ในที่สุดคุณก็มาสักที ฮือ...” ภาพนั้นทำให้ผู้ชมที่เดินตามลงมาจากรถอดค่อนขอดไม่ได้แหม...มาถึงก็ดรามาใส่เลยนะแม่คุณ ฮึ...ส่วนอีกคนนี่ก็จะพระเอกไปไหน ยืนนิ่งให้เขาไซ้อยู่ได้ เฮ้อ...แล้วตัวประกอบอย่างเราจะอยู่ไปไยให้เป็นส่วนเกินเล่า ไปดีกว่า...ภีรดาแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าอยู่ไปก็คงไม่ได้ช
หืม? พริตตีสาวทำตาปริบๆ ขณะที่รวีวรรณกับสามีทำหน้าสนใจฟังป้าแม่ค้าโม้ต่อ“ผัวป้ากินประจำ สะกิดทั้งคืนไม่ต้องหลับต้องนอน เอาไปให้ผัวเอ็งกินสักวันละเป๊กนะนังหนูเอ๊ย รับรองลูกหัวปีท้ายปี” ภีรดาถึงขั้นสะดุ้งหันไปสบตาลุกวาวกับคนจะทำลูกให้แล้วชักยิ้มไม่ออกเอิ่ม...ป้าจะรู้ไหมว่าพ่อพระเอกตรงหน้าขนาดไวอะกรายังเอาไม่อยู่ เอ...แต่พอหันไปมองลูกๆ หลานๆ ยั้วเยี้ยของป้าแล้วชักจะน่าสน ไม่แน่ว่าเจ้ายาดองบ้านๆ นี่อาจจะช่วยให้เธอทำสำเร็จใช้หนี้หมดไวขึ้นก็เป็นได้รวินรุตม์มองดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์คู่นั้นอย่างไม่ค่อยไว้ใจ โดยไม่มีใครรู้ พอคล้อยหลังคนทั้งสาม ภีรดาก็ย้อนกลับมาเหมายาดองสรรพคุณล้ำอีกถึงสองกลม!เอาเซ่...โด่ไม่โด่เดี๋ยวได้รู้กัน!ทั้งสี่ช่วยกันชิมช่วยกันช้อปจนข้าวของเต็มมือจึงชวนกันมานั่งพักเหนื่อยด้วยการรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือในร้านขึ้นชื่อริมคลอง ขณะที่รวีวรรณกำลังชี้ชวนให้สามีดูเรือขายของกลางคลองอย่างสนุกสนาน ภีรดาก็ยกกล้องมือถือขึ้นมาตั้งท่าเก็บภาพความหวานของทั้งคู่“คุณพ่อคุณแม่คะ หันมาทางนี้หน่อยค่ะ” พอสองสามีภรรยาหันมามอง เธอก็กดถ่ายภาพนั้นทันทีแชะ!“ภาพแสงสวยมากเลยค่ะ เดี๋ยวหนูส่งไ
“ไปทำอะไรมาล่ะ ถึงไม่ได้หลับได้นอน” คนเป็นแม่ส่งมุกให้ทั้งๆ ที่รู้ดีแก่ใจว่า ‘ใคร’ ที่ทำให้ลูกชายตัวดีไม่ได้นอนทั้งคืน“ถูกผีอำทั้งคืนเลยน่ะสิครับแม่ นอนทับผมจนเมื่อยไปทั้งตัวเลยเนี่ย”“แค็กๆ”ผี! เอ้ย...คนที่ถูกกล่าวหาสำลักออกมาจนหน้าเขียวหน้าแดง อยากหาอะไรเขวี้ยงใส่ปากคนพูด แต่ต้องเก็บอาการไว้ชำระทีเดียวเมื่อถึงเวลาหน็อย...ตาบ้านี่ต้องการอะไรจากสังคมมิทราบ! มานอนกอดเขาทั้งคืนไม่พอยังมีหน้ามาหาว่าเขาเป็นผีอีก ผีที่ไหนจะหุ่นแซ่บแบบนี้ล่ะ ฮึ!ภีรดาได้แต่ฮึดฮัดไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมเธอถึงขยันเดินละเมอมาให้เขากอดอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน ไม่ใช่จะรังเกียจหรอกนะ เพราะอันที่จริงการได้นอนในอ้อมกอดแสนอุ่นของเขามันทำให้เธอผ่อนคลายนอนหลับสบายทั้งคืนเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ หลับสบายแต่ตื่นมาหัวใจจะวายทุกครั้งที่รู้ว่าได้ใกล้ชิดกับขนมหวานต้องห้ามที่น่ากินแต่กินไม่ได้เฮ้อ...ตูละหน่าย!“อ้าว...นั่นพระมาแล้วจ้ะ” ภีรดาขยับก้าวถอยหลัง แต่ถูกรวีวรรณรุนหลังเอาไว้ “ยืนข้างๆ ตาราล์ฟสิจ๊ะหนูแพน ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน จะได้พบกันทุกชาติไปไงจ๊ะ”หึๆ แค่ชาติเดียวก็จะบ้าตายแล้ว ถ้าขืนได้พบทุกชาติคงไม่ได้แก่
ภีรดาหลับตาสูดลมหายใจพยายามจะข่มอารมณ์ ถึงจะจริงแต่ตอนนี้มันใช่เวลามารำลึกความหลังไหมเนี่ย“งั้นฉันไปนอนที่โซฟาตรงนั้นละกัน” หญิงสาวต่อรอง อย่างน้อยนี่ก็บ้านเขา ขืนใครรู้ว่าเธอนอนเตียงเดียวกับผู้ชายที่มีแฟนแล้วในบ้านของพ่อแม่เขา อีกทั้งยังเป็นนายจ้าง คนจะครหาเอาได้ ว่าแล้วพริตตีสาวก็ยักแย่ยักยันลุกขึ้นไป นอนที่โซฟาฝั่งตรงข้าม พยายามจะไม่ไยดีสายตาเว้าวอนที่ทอดมองมาคู่นั้น เพราะมันทำให้อดหัวใจสั่นไหวรุนแรงไม่ได้เธอพยายามจะตีตัวออกห่าง แต่เขาก็ยังเข้ามาใกล้เหมือนกับแกล้ง!“หลับตาสิคะ พรุ่งนี้ ไม่ใช่สิ...นี่มันเลยเข้าวันใหม่แล้วนี่ เดี๋ยวเราต้องตื่นเช้าไปใส่บาตรวันเกิดคุณนะ ไม่รีบนอนตอนนี้ ระวังจะตื่นไม่ทัน” รวินรุตม์พลิกตัวนอนตะแคงข้างส่งสายตามองสบตาคนบนโซฟาในความมืดนิ่งๆ จนคนถูกมองเริ่มจะทนไม่ไหว ใบหน้าร้อนผ่าวๆ ดีที่มืดเลยอำพรางความรู้สึกได้บ้าง แต่ความอึดอัดทำให้ต้องชวนคุย“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”“ก็ไม่เห็นจะยากนี่ ก็แค่ขอดูกล้องวงจรปิด แล้วก็ถาม รปภ. คอนโด ก็รู้แล้วว่าคุณออกไปกับใคร”จ้ะ พ่อคนฉลาด! หมั่นไส้...“แล้ว...ทำไมคุณไม่บอกล่ะคะว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณ”“ผมจำไม่ได้..
เธอก็แค่มายืมพื้นที่ที่ควรเป็นของผู้หญิงแสนสวยคนนั้นอยู่ชั่วคราวเท่านั้น วันหนึ่งที่ภารกิจสิ้นสุด ห้องนี้ หรือแม้กระทั่งครอบครัวของเขาก็จะถูกยึดคืนโดยเจ้าของตัวจริง ส่วนภีรดาก็จะจากไปโดยไม่มีใครคิดถึงอีก แค่คิดก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาจับใจเธอไม่ควรปล่อยให้ใจถลำรู้สึกลึกซึ้งกับนายจ้างมากไปกว่านี้ เพราะถ้าวันนั้นมาถึงจริง จะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดใจมากนักภีรดาหันไปมองรูปของเจ้าของห้องที่วางไว้ที่ข้างเตียง“ไม่ต้องมามองอ่อยเลยนะ ต่อจากนี้ไปฉันขอสั่งห้ามไม่ให้คุณเข้ามาเพ่นพ่านในหัวใจของฉันอีก ต่างคนต่างอยู่เข้าใจไหม ฮึ” ว่าแล้วก็จับกรอบรูปนั้นคว่ำหน้าลงอย่างไม่ไยดีทว่าปณิธานที่ตั้งไว้มีอันต้องถูกทดสอบในกลางดึกของคืนนั้นจนได้!ในขณะที่กำลังนอนหลับสนิทคืนนั้นเอง ภีรดารับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่คืบคลานเข้ามาใกล้ในยามที่เสมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น วัตถุหนักๆ บางอย่างพาดทับบนกายจนไม่อาจขยับได้ ไออุ่นหอมสะอาดๆ โอบล้อมกายเธอไว้เหมือนมนตร์สะกดผีอำ! ความรู้สึกแรกที่แวบขึ้นมาในมโนจิต ผีชนิดไหนวะ แทนที่จะทับ ดันมากอด...“ไอ้ผีชีกอ!” หญิงสาวงึมงำด่า ทำใจกล้าด้วยการปรือตามองสิ่งลี้ลับที่กำลังครอบงำร่าง