สุดท้ายภีรดาก็ได้ร่วมเดินทางมากับเขาจนได้ พริตตีสาวมองบรรยากาศของสนามแข่งรถอย่างตื่นตาตื่นใจ เธอเป็นพริตตีมาหลายงานก็จริง แต่ไม่เคยเป็นพริตตีในสนามแข่งรถมาก่อนสักครั้งเดียว จึงค่อนข้างจะประหม่าตื่นเต้น ยิ่งได้มาพร้อมกับนักแข่งรถซูเปอร์ไบก์มือหนึ่งของเมืองไทยอย่างรวินรุตม์ด้วยแล้ว หญิงสาวก็อดรู้สึกยืดกับเขาบ้างไม่ได้ แม้จะแอบหงุดหงิดกับสายตาจ้องจับผิดของคนรอบข้างที่มีสาเหตุจากเรื่องข่าวฉาวของเธอในอินเทอร์เน็ตนอยู่บ้างก็ตาม“เป็นอะไรไป ทำไมยืนยุกยิกแบบนั้น” คนพูดเอ่ยโดยไม่ได้ละสายตาจากรถคู่ใจที่กำลังตรวจเช็กความเรียบร้อยก่อนแข่ง“เปล่านี่คะ” ตอบพลางแอบขยับผ้าพันคอผืนสวยไปมาอย่างอึดอัด สายตาหวั่นระแวงเกรงใครจะเห็นร่องรอยจางๆ ที่ประดับอยู่บนลำคอใต้ผ้า อีกใจก็นึกโมโหตัวต้นเหตุที่ทำเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมมีหน้าใช้เธอหยิบของนั่นนี่ให้เสียด้วย ฮึ่ย...มันน่านักเชียว!“ไงเพื่อนรัก ไม่เจอกันนานวันนี้ควงสาวสวยที่ไหนมาเชียร์ข้างสนามด้วยเหรอ” เสียงชายหนุ่มร่างบึ้กในชุดนักแข่งสุดเท่ ที่หน้าตาหล่อโดดเด้งสไตล์เกาหลีดังมาแต่ไกลภีรดาพลอยหันไปมองทางต้นเสียงพร้อมกับทำตาโต...โอแม่เจ้า! นั่นพระเอกซี
“ขอน้ำดื่มขวดหนึ่งสิ!” จู่ๆ เสียงเย็นๆ ก็ลอยลมมาขัดจังหวะ ทำให้ศึกชิงนางยุติกลางคันภีรดามองคนสั่งที่ทำหน้าตึงราวกับเพิ่งไปร้อยไหมมาอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ยอมเดินไปหยิบน้ำดื่มที่โต๊ะใกล้ๆ มายื่นให้“ผมไม่ดื่มน้ำเย็นก่อนแข่ง” หญิงสาวชะงักกึก เหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นว่าจะมีน้ำขวดไหนไม่เย็นสักขวด “ไปหยิบในรถผมมาสิ”พริตตีสาวกัดฟันแน่น เพราะรถของเขาจอดห่างจากตรงที่เธออยู่ตอนนี้เป็นโยชน์“ให้ผมเดินไปเป็นเพื่อนไหมครับ” ตติยะเสนอตัว “หรือว่าจะไปเอาที่กองอำนวยการก็ได้ เดี๋ยวผมให้คนเอามาให้เองดีกว่า คุณแพนจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”อร้าย...เป็นคนสวยนี่มันก็ดีแบบนี้เอง“ไม่เอา!”มารผจญ!...พริตตีสาวตวัดค้อนใส่คนเรื่องมาก“ผมไม่ไว้ใจคนอื่น มัวยืนบื้อทำไม รีบไปหยิบน้ำมาสิ”โอ๊ย! เดี๋ยวแม่ก็เอาสลอดหยอดให้กินเสียเลยนี่“ขอกุญแจรถด้วยค่ะ” หญิงสาวแบมือไปตรงหน้าคนสั่งอย่างเสียไม่ได้ ก่อนสะบัดหน้าเดินไปที่รถอย่างอารมณ์เสีย“คนบ้าอำนาจ ถ้ารู้ว่าจะพามาตกระกำลำบากแบบนี้จ้างให้ก็ไม่มาหรอก หน็อย...แม่บ้านงั้นเหรอ อุ๊ย!” คนขี้บ่นอุทานลั่นเมื่อจู่ๆ ก็ชนกับร่างของใครคนหนึ่งที่ทางเข้าจนช่อดอกไม้ที่อีกฝ่ายถือมาตกไปอยู่ที่พ
“เย้!” หญิงสาวร้องลั่น เผลอกระโดดจนตัวลอยด้วยความดีใจอย่างลืมตัว แล้วก็ต้องชะงักกึกเมื่อสบสายตาของผู้ชนะที่หันมองมาแวบหนึ่ง ก่อนถูกทีมงาน เหล่าพริตตีสาวๆ และกองทัพสื่อมวลชนเข้าไปรุมล้อมแสดงความยินดีจนกลืนหายไปในฝูงชนเชอะ...หมั่นไส้! แม่บ้านกิตติมศักดิ์ทำหน้ามุ่ย กระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ริมสนามอย่างหงุดหงิดใจบอกไม่ถูก ก่อนเบนความสนใจจากภาพแสลงตามองไปทางอื่นเสีย จนกระทั่งหยุดอยู่ที่ร่างของใครคนหนึ่งบนอัฒจันทร์กองเชียร์ หญิงสาวที่สวยหยาดเยิ้มราวกับนางฟ้าคนนั้นกำลังทอดสายตามองไปยังกลุ่มผู้ชนะเช่นกัน เจ้าหล่อนคลี่ยิ้มหวานมองเดือนที่โดนดาวล้อมด้วยสายตาเป็นประกาย พร้อมกับโบกมือเรียกเจ้าหน้าที่ในสนาม พูดอะไรบางอย่างก่อนส่งช่อดอกไม้ให้ แล้วเดินออกจากสนามแข่งไปทันทีแปลกคน! พริตตีสาวคิดในใจ อุตส่าห์หอบหิ้วดอกไม้มาเชียร์ แต่ไม่ยักมอบให้ด้วยตัวเอง ดันฝากคนอื่นไปมอบให้ หรือจะเป็นติ่งสายหลบของหมอนั่นเฮ้อ! จะเป็นอะไรก็ช่างเหอะ เธอไม่เห็นจะสนเรื่องของหมอนั่นเลย ก็แค่เก่งในสนามแข่งเท่านั้นแหละน่า เชอะ!“ทำไมมานั่งตรงนี้คนเดียวล่ะครับ” ตติยะนั่นเอง “ไม่ลงไปแสดงความยินดีกับนายราล์ฟหน่อยเหรอครับ”“โอ๊ย
“เมื่อกี้...คุณพูดอะไรกับหมอนั่นบ้าง” เสียงเย็นเยียบถามขึ้นเมื่อนั่งในรถสองต่อสอง“ก็ไม่มีอะไรนี่คะ เขาก็ชวนคุยปกติ”“แต่ผมเห็นคุณกับเขา เอ่อ...” จู่ๆ อีกฝ่ายก็หยุดพูดไปเสียอย่างนั้น“เห็นอะไรเหรอคะ”“ช่างมันเหอะ จำไว้ว่าต่อไปนี้คุณห้ามเข้าใกล้หรือคุยกับเพื่อนผมสองต่อสองอีกก็พอ”ชิ...นึกว่าอะไร ที่แท้ก็โมโหเพราะหวงเพื่อนกลัวโดนเธองาบละสินะ ตาบ้านี่กวนประสาทชะมัด!“รับทราบค่ะท่าน” ภีรดาแกล้งรับคำเสียงหวานจ๋อย “แต่ถ้าเขาเข้ามาใกล้หรือคุยกับฉันเองก็ช่วยไม่ได้นะคะ เพราะในสัญญาเราไม่ได้มีการระบุสักหน่อยว่าห้ามฉันคุยกับผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่คุณ!”รวินรุตม์หันขวับ “หืม? ว่าไงนะ...”หญิงสาวยังไม่ทันได้ตอบโต้คนปากดี เพราะจู่ๆ ก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน“คุณราล์ฟครับ มีคนฝากช่อดอกไม้มาให้คุณครับ” เจ้าหน้าที่วิ่งหอบช่อดอกไม้ที่ภีรดาจำได้ว่าเป็นของใครเข้ามายื่นให้ถึงในรถ แต่คนเป็นเจ้าของชายตามองเพียงนิดเดียว“ผมยกให้คุณแล้วกัน หรือไม่จะเอาไปทิ้งที่ไหนก็ตามใจ” พอพูดจบก็รีบออกรถไปโดยไม่แม้แต่จะมองดอกไม้นั่นอีก“นี่คุณ...คนเขาอุตส่าห์มีน้ำใจหอบมาแสดงความยินดี ทิ้งทำไมน่ะ ดอกไม้นอกทั้งนั้น สวยจะตาย ท่าจะแพง
“ก็เพื่อนคุณไงคะ เขาชวนฉันเมื่อกี้...อุ๊ย!” คนพูดชะงักกึกเมื่อเห็นสีหน้าคนฟังชัดๆ โมโหอะไรอีกล่ะนี่พ่อคุณ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนี่หว่า “คุณปวดท้องเหรอคะ ทำไมทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนั้นล่ะ”“ใช่เวลาเล่นไหม” ตอกกลับมาเสียงขุ่นๆ หน้าตาบึ้งตึง“แล้วคุณมาโกรธอะไรฉันเนี่ย ก็คุณไม่อยากพาฉันไปด้วย ฉันก็ไม่ไปแล้วไง ฉันผิดตรงไหนเนี่ย”“ก็ผิดตรงที่จะไปกับคนอื่นแทนไง” เสียงเข้มสะบัดใส่ ดวงตาขุ่นขวางมองมาราวกับจะขบหัวคู่สนทนา“โธ่ นึกว่าอะไร เอางี้ ถ้าคุณไม่อยากให้ไป ฉันไม่ไปงานนั่นก็ได้ ไม่ว่ากับใครก็ไม่ไป ถึงยังไงก็ไม่มีชุดจะใส่ไปงานหรูๆ แบบนั้นอยู่แล้ว กินมาม่าอยู่ที่ห้องพักคนเดียวก็ได้ ทีนี้พอใจหรือยังคะคุณเจ้านาย” แหม กลัวเธอจะไปทำให้ขายหน้าขนาดนั้น ไม่ไปก็ได้วะ! บอกตรงๆ หมดอารมณ์ “ออกรถเหอะ ฉันเหนื่อยอยากพักผ่อน”“ถ้าอยากไป ผมจะพาคุณไปเอง!”“หา! ว่าไงนะ!” หญิงสาวหันขวับ มองยักขมูขีตัวโตอย่างตกตะลึง มาอารมณ์ไหนอีกล่ะเนี่ย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอย่างกับคนวัยทอง หรือไอ้ที่นกเขาไม่ขันจะมีผลต่อการควบคุมอารมณ์ด้วยหรือเปล่า อืม น่าคิดแฮะ!“ตกใจอะไร ก็ถ้าคุณอยากไปงานเลี้ยงนั่น ผมก็จะเป็นคนพาไปเอง ไม่ต้องให
หลังจากอิ่มหน่ำจากอาหารซีฟูดมื้ออร่อย ไบเกอร์หนุ่มก็พาหญิงสาวนั่งรถกินลมชมทะเลอีกพักใหญ่ก่อนเข้าโรงแรมที่พัก แต่ห้องพักที่จองไว้สำหรับกรุ๊ปนักแข่งรถซูเปอร์ไบก์ที่มาด้วยกันดันเหลือเพียงห้องเดียวเท่านั้น“งั้นคุณนอนนี่ เดี๋ยวฉันไปหาบังกะโลแถวนี้พักก็ได้” ภีรดาเสนอ แต่อีกฝ่ายดันไม่ยอมสนอง“นอนด้วยกันนี่แหละ” หญิงสาวหันขวับ “ปกติก็นอนห้องเดียวกันอยู่แล้ว ทำไม หรือคุณยังไม่ชิน”โอ๊ย! จะบ้าตาย อายจนอยากจะเอาปี๊บคลุมหัว ดูเอาเถอะ พนักงานโรงแรมรวมถึงแขกที่มาพักแถวนั้นหันมามองเธอแปลกๆ กันหมดแล้ว“เอาโทรโข่งไหมคะ จะได้ได้ยินทั้งโรงแรมเลย มันใช่เรื่องที่ต้องประกาศไหมเนี่ย”“แค่คืนเดียวน่า พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว พักด้วยกันนี่แหละ อย่าเรื่องมาก!”หึๆ แล้วเธอจะพูดอะไรได้ ในเมื่อไม่ได้เป็นคนจ่ายตังค์ ว่าไงก็ต้องว่าตามกันอยู่แล้ว แต่ที่เซ็งคือ...เธอคงต้องนอนโซฟาเช่นเคยสินะ เฮ้อ...ตกเย็นภีรดาก็รีบขัดสีฉวีวรรณจนสวยเช้ง ไหนๆ จะได้ออกงานทั้งที เธอก็ไม่อยากให้คนพาไปขายหน้า หญิงสาวมองตัวเองในกระจกอย่างพอใจ ไม่มากไป ไม่น้อยไป สวยกำลังดี แต่ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่คือ...เสียงเปิดประตูห้องน้ำพร้อมร่างสูงใหญ่ที่เพิ่
“นึกว่าพวกนายจะเบี้ยวแล้วซะอีก” เสียงนุ่มหูเอ่ยทักมาแต่ไกล ตติยะมองใบหน้าตึงๆ ของเพื่อนรักสลับกับมองมือที่คล้องแขนกันของทั้งสองอย่างรู้ทัน “สวัสดีครับคุณแพน คืนนี้คุณสวยจัง แต่น่าเสียดาย...”“เสียดายอะไร” ถามดักคอเสียงขุ่นๆ“เสียดายที่...ไม่ว่างแล้วน่ะสิ” สุ้มเสียงที่หยอดมาทำคนสวยแอบเซ็ง พยายามจะกระตุกมือตัวเองออกจากแขนคนหน้าบึ้งแต่ก็ไม่สำเร็จ“รู้ก็ดี...”หืม? รู้อะไรฟระตานี่ พูดจากำกวมอีกละ เดี๋ยวชาวบ้านก็เข้าใจเธอผิดหมดหรอก ลืมข้อห้ามที่ตัวเองตั้งไว้แล้วหรือไงนะ...เธอกับเขาห้ามรักกันเด็ดขาด! อย่างนี้มันตัดโอกาสกันเห็นๆ เลย“คุณตติยะมาคนเดียวเหรอคะ”“ครับ ทำไงได้ผมมันคนอาภัพเรื่องคู่ ขนาดคุณยังเทนัดผมตั้งสามครั้งมาแล้วเลย จำได้ไหม” คนฟังคอย่น ได้แต่ยิ้มแหยๆ แอบรู้สึกผิด “ผมล้อเล่นน่ะครับ ดูคุณทำหน้าเข้าสิ”“จะยืนคุยตรงนี้อีกนานไหม” เสียงไม่สบอารมณ์แทรกขึ้น พร้อมเบี่ยงกายบังร่างเพรียวระหงจากแสงแฟลชวูบวาบของนักข่าวในงาน จนภีรดาแอบหน้าเสียนิดๆ ทำท่าจะขยับตัวออกห่าง แต่มือใหญ่กลับยึดแขนเธอไว้พร้อมกระซิบบอก“อยู่ใกล้ๆ ผมไว้ แล้วทำตัวให้เป็นปกติ” “งั้นเรารีบเข้างานกันดีกว่า อ้อ เมื่อกี้ค
“ไปห้องน้ำค่ะ ต้องขออนุญาตด้วยไหมคะเจ้านาย” กัดฟันถามประชดเบาๆ เพราะเกรงใจแขกวีไอพีทั้งหลาย เมื่อเห็นกองทัพนักข่าวเข้ามาขอถ่ายรูปและสัมภาษณ์แชมป์คนเก่งของงาน ร่างบางก็ฉวยโอกาสปลีกตัวถอยห่างออกมาอย่างรวดเร็วดวงตาคู่งามมองร่างสูงๆ ท่ามกลางวงล้อมนักข่าวและแขกวีไอพีของสโมสรรวมถึงแม่สาวน้อยหน้าสวยหวานที่ยืนเคียงข้างเขา ดูแล้วช่างเป็นคู่ที่เหมาะสม ภีรดาถอนหายใจออกมาเบาๆ ดูจากตรงนี้เขาช่างแสนไกลเกินกว่าที่เธอจะเอื้อมถึงเหลือเกินเฮ้อ...เรามาทำอะไรที่นี่นะ นึกว่างานจะสนุกเสียอีก แต่กลับกร่อยชะมัดเลยให้ตายเหอะ คิดแล้วก็ขี้เกียจกลับเข้าไปในงานเสียแล้วสิ หนีกลับห้องนอนเลยดีไหมนะ‘จำไว้ด้วยว่ามากับผมห้ามอยู่ห่างสายตาผมเด็ดขาด’ จู่ๆ เสียงเข้มๆ ก็ตามมาหลอกหลอนเฮอะ...ก็เขามีคนอื่นต้องเทกแล้วนี่ ยังไงเธอก็ไม่ใช่คนสำคัญของงานอยู่แล้ว หายตัวไปสักคนคงไม่มีใครสังเกตหรอกน่าแต่ยังไม่ทันได้ทำตามใจคิด จู่ๆ ก็มีเสียงทักขึ้นด้านหลัง“สวัสดีครับคุณแพนคนสวย” ภีรดาหันไปส่งยิ้มทักทายให้พ่อหนุ่มหน้าเกาหลี “มายืนทำอะไรตรงนี้คนเดียวครับ ทำไมไม่เข้าไปในงาน”“คือแพนมาสูดอากาศน่ะค่ะ ว่าแต่คุณกวินเพิ่งมาเหรอคะ”“ชู่ อ
หลังจากพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่มาร่วมอวยพรและทำพิธีต่างๆ จนเสร็จและทยอยออกจากห้องหอไปจนหมด เหลือเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวตามลำพัง ภีรดาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลางหันไปมองใบหน้าหล่อเข้มของผู้ชายที่เธอเพิ่งตีตราจอง ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นเจ้าของเขาอย่างเป็นทางการแบบไม่อยากจะเชื่อในวาสนา ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงโก๊ะกังธรรมดาๆ อย่างเธอจะมีโอกาสได้เจอคู่ครองที่แสนจะเพียบพร้อมอย่างบุรุษตรงหน้าภีรดาคิดเพลินๆ จู่ๆ ดวงตาคมที่เจือประกายวับหวานก็เลื่อนมาสบตาพอดี“มองแบบนี้ไม่กลัวว่าผมจะอดใจไม่ได้บ้างเหรอ”“ถ้ากลัวคงไม่มองหรอกค่ะ” หญิงสาวทำปากดี ก่อนประคองใบหน้าคมสันที่แสนจะมีเสน่ห์ของเขาขึ้นมา “อา...เจ้าบ่าวของฉันหล่อจัง”รวินรุตม์มองคนตรงหน้าอย่างแสนรัก แต่บางสิ่งบางอย่างที่คอยรบกวนจิตใจทำให้เขาเผลอตัวถอนหายใจออกมาเบาๆ“เป็นอะไรไปคะ ทำไมคุณทำหน้าเครียดจัง เหนื่อยกับงานเหรอคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ “คุณมีอะไรในใจอยากบอกฉันหรือเปล่า อย่าบอกนะว่า...มาคิดเสียใจตอนนี้”“ผมไม่เคยเสียใจที่รักคุณ แต่...” คนพูดมีอาการอึกอัก ท่าทีเหมือนกำลังอยากจะบอกอะไรแต่แล้วก็เงียบไปดื้อๆ จนภีรดาชักเอะใจสงสัย และเธอก็ไ
“ที่พูดเมื่อกี้คุณพูดจริงใช่ไหม” เมื่อได้อยู่กันสองต่อสองในห้องพัก รวินรุตม์ก็หันมาถามหญิงสาวที่ทำหน้าตึง พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจฟังแต่แอบทำปากขมุบขมิบบ่นอะไรสักอย่างอยู่ก็นึกแปลกใจ“นั่นกำลังสวดภาณยักษ์ให้ใครอยู่เหรอ”นั่นแหละ ภีรดาจึงยอมเงยหน้ามา“เปล่าค่ะ...กำลังแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์และเจ้ากรรมนายเวร!”จากที่กำลังเครียด ชายหนุ่มก็เผลอหัวเราะพรวดออกมาทันใด“ขำอะไรคะ” ดวงตาเขียวปั๊ดตวัดมาอย่างเอาเรื่อง“อย่าบอกนะว่าคุณสวดให้รียาเขา”“ถ้าใช่แล้วจะทำไมคะ” สะบัดเสียงใส่นิดๆ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าทำเกินไป จึงหันมาพูดเสียงอ่อยลง “ฉันขอโทษค่ะ พอดีอินไปหน่อย แล้วนี่คุณจะทำยังไงต่อคะ จะไม่ลงไปช่วยคุณชารียาเขาจริงๆ เหรอคะ”รวินรุตม์ยื่นมือไปดึงร่างอรชรลงมานั่งเคียงข้างเขาบนโซฟาตัวเดียวกันแล้วโอบกอดเธอเข้ามาชิดใกล้“ไม่ละ ผมบอกแล้วว่าจะช่วยเท่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะช่วยได้”“แล้วคุณไม่สงสารเธอเหรอ โดนสามีทำร้ายขนาดนั้น เธอคงหวังพึ่งคุณนะคะ แต่คุณดันหนีขึ้นห้องมากับฉันแบบนี้”“อย่าห่วงเลยแพน คนอย่างรียาเขาไม่ได้สิ้นไร้หนทางขนาดนั้น อีกอย่างนี่ก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวเขา ถ้าผมขืนเข้าไปยุ่งมันก็จะไม่
“เอ่อ...คือรียาอยาก...ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหมคะ ตอนนี้เขาให้คนไปเฝ้าที่คอนโดที่รียาเช่าอยู่ เข้าไปเมื่อไหร่ดลก็จะรู้ทันที รียากลัวเขาจะลงไม้ลงมืออีกค่ะ” เสียงสะท้านด้วยแรงสะอื้น“ผมคงให้คุณค้างที่นี่ด้วยไม่ได้ เพราะตอนนี้ผมต้องให้เกียรติคู่หมั้นของผมด้วย แต่เดี๋ยวผมจะลองถามนายเต้ให้ว่าที่โรงแรมเขาพอจะมีห้องว่างคืนนี้ไหม ผมจะได้ให้คุณไปพักที่นั่นก่อน”“ราล์ฟ!” ชารียาเบิกตาค้าง หน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าผิดแผนที่วางไว้ หางตาแลไปทางผู้หญิงที่สังเกตการณ์เงียบๆ ข้างกายเขาอย่างไม่พอใจ“ทำไมคุณถึงใจร้ายกับรียานัก คุณเคยขอรียาแต่งงานตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไม...” ในเมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอามารยาเข้าสู้ ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างเธอจะแพ้นังเด็กกะโปโลนี่“ผมจำได้...แต่คุณต่างหากที่ลืมว่าคุณได้ปฏิเสธโอกาสนั้นอย่างไม่ไยดีเอง เพียงเพราะรู้ว่าผมอาจจะต้องเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต”“เอ่อ...คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะราล์ฟ ที่จริงตอนนั้นรียากำลังเครียดๆ เพราะเป็นห่วงคุณมาก ก็เลยเผลอพูดออกไปแบบนั้น แต่ตอนนี้รียาสำนึกได้แล้วว่าทำผิดต่อคุณ และต่อให้คุณเป็นอัมพาตตลอดชีวิตจริงๆ รียาก็จะไม่ทิ้งคุณอีก
พวงแก้มใสซับโลหิตระเรื่อ หายใจไม่ทั่วท้อง แอบรู้สึกตื่นเต้นหน่อยๆ เมื่อต้องเป็นฝ่ายคุมเกม“อ๊ะ...” มือใหม่หัดขับสะดุ้งนิดๆ ยามที่ร่างกายสอดประสานรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกับเขา ความใหญ่โตที่แทรกผ่านเข้ามาสร้างความอึดอัดให้หญิงสาวไม่น้อย“อย่าเกร็ง ปล่อยตัวตามสบายที่รัก อย่างนั้น อืม...เก่งมาก!” นักแข่งรถมือทองบอกอย่างใจเย็น ทั้งที่ร่างกายเขาร้อนจนแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ อยู่ร่อมร่อแล้ว มือหนาประคองบั้นท้ายกลมกลึงช่วยคุมจังหวะ แต่มันไม่ง่ายเลยเมื่อโดนความคับแน่นที่แสนนุ่มละมุนโอบรัดรึงตัวตนของเขาไว้เช่นนี้“ราล์ฟคะ...พะ...แพน...” เสียงหวานกรีดร้องลั่นแทบไม่เป็นภาษาด้วยความรัญจวน สมองปั่นป่วนขาวโพลนด้วยแรงปรารถนาลึกล้ำทุกคราวที่ขยับกายเข้าหาความใหญ่โตนั้น แต่เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชินและปรับตัวได้ ภีรดาก็เริ่มควบทะยานบิ๊กไบก์คู่ใจคันงามด้วยความเร็วแรงถึงใจ จนกระทั่งควงแขนเขาไปสู่จุดหมายปลายทางความสุขและเข้าเส้นชัยพร้อมกันได้อย่างสวยสดงดงาม“แพนรักคุณ...รักที่สุดเลย!” เสียงหวานกระซิบที่ข้างหูราวกับละเมอ ก่อนที่ร่างบางจะซวนซบลงที่อกแกร่ง หอบหายใจถี่กระชั้นอย่างหมดแรงคำที่เป็นดั่งน้ำทิพย์ชโลมห
ดวงหน้าใสแดงซ่าน เมื่อยามที่มือได้สัมผัสของรักของหวงชิ้นสำคัญของคนรักแบบเอกซ์คลูซีฟสุดๆ เมื่อเห็นเขามีปฏิกิริยากัดฟันเหมือนกำลังอดกลั้นอารมณ์อย่างหนักยามที่เธอเริ่มขยับมือขึ้นลงทักทายเจ้านกเขาขี้เซาตัวนั้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนมันเริ่มมีทีท่าว่าจะแข็งขึงขึ้นมาทีละนิดๆ ดวงตากลมโตซุกซนก็ทอประกายวาวเพราะรู้ว่าตนมาถูกทาง ยิ่งเห็นคนตัวโตมีอาการหายใจสะดุด และสูดปากหนักขึ้นก็เริ่มย่ามใจ ขุดบทเรียนสยิวกิ้วที่เขาเคยสอนให้ออกมาใช้เต็มเหนี่ยวร่างแกร่งถึงกับผวาสะท้าน เกร็งเยือกไปทั้งร่าง เมื่อจุดอ่อนไหวถูกสัมผัสด้วยความชุ่มชื้นจากปลายชิวหาอันอ่อนนุ่มเบาๆ เลือดในกายหนุ่มก็เดือดพล่าน“รู้ตัวไหมว่าทำอะไรอยู่”“ชอบไหมคะ” ไม่ทันได้คำตอบ มือใหญ่ก็เผลอขยุ้มเส้นผมสวยและกดศีรษะอีกฝ่ายเข้าหากายแกร่งอย่างลืมตัว ภีรดาช้อนสายตาหวานฉ่ำมองคนรักหนุ่มรูปงามด้วยอารมณ์หวามไหวรัญจวน เธออยากทำให้เขามีความสุขที่สุดให้สมกับความรักที่เขามอบให้“พะ...พอก่อนที่รัก ผมจะมะ...ไม่ไหวแล้ว” เสียงกระเส่าเซ็กซี่ขาดเป็นห้วงๆ บอกถึงความทรมานของคนพูด“ไม่ไหวแล้วจะทำไมคะ...” จอมซนทำใจกล้าถามยั่วอย่างก๋ากั๋น ดวงตาใสแจ๋วฉายรอยเจ้าเล่ห์ยา
ตอนนี้อะไรๆ ก็พ่อราล์ฟลูกแม่ๆ ส่วนลูกสาวตัวจริงอย่างเธอน่ะเหรอ ก็ตกกระป๋องเป็นแพนด้าหัวเน่าไปตามระเบียบน่ะสิ แตะว่าที่ลูกเขยคนโปรดนิดแม่ก็คำรามใส่ฮึ่มๆ แล้ว ไม่ต้องพูดถึงยมุนาพี่สาวเธอ ขานั้นนิยมคนหล่อเป็นชีวิตจิตใจ เอะอะก็ว่าที่น้องเขยๆ ยิ่งตอนไปอัลตราซาวนด์แล้วรู้ว่าลูกในท้องเป็นผู้ชายด้วยแล้ว พี่สาวเธอก็แทบจะนั่งจ้องหน้าว่าที่น้องเขยอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อซึมซับความหล่อวัวตายหล่อควายล้มทางสายตาให้ลูกชายในท้องกันเลยทีเดียว“อ้อนเข้าไปๆ ตอนนี้ลูกแท้ๆ จะไม่มีที่ยืนอยู่แล้วนะคะ”“ก็ไม่ต้องยืนสิ คุณก็นอนแทน ถ้าไม่มีที่นอนไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเจียดเตียงผมให้ครึ่งนึง ไม่ได้กอดคุณตั้งนานจนผมใกล้จะลงแดงตายแล้วเนี่ย” ดวงตาคมๆ แพรวพราวอ้อนอย่างเจ้าเล่ห์ “เราเลื่อนกำหนดงานแต่งเป็นพรุ่งนี้เลยดีไหม”วาบ! แก้มใสๆ แดงเห่อจนถึงกกหู เขินจนอยากจะเอาหัวมุดใต้โต๊ะ ทำไมเขาถึงพูดจาน่าตบด้วยปากแบบนี้ล่ะ แค่นี้เธอก็ตกบ่วงจนตะกายขึ้นมาจากหลุมไม่ได้แล้ว แล้วดูนั่น ยังมีหน้ามาส่งยิ้มหวานกระชากใจให้อีก อย่ารอพรุ่งนี้เลย หอบผ้าหอบผ่อนหนีตามกันไปอยู่ด้วยซะวันนี้เลยเหอะ!“อย่ามาตลกค่ะ การ์ดแจกไปหมดแล้วเปลี่ยนทันที่
‘ไฮโซหนุ่มนักแข่งรถมือทองสุดฮอตตั้งโต๊ะแถลงข่าวเตรียมความพร้อมล่าแชมป์ซูเปอร์ไบก์หลังอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถล้มตอนซ้อมหายเป็นปกติ พร้อมทำเซอร์ไพรส์ขอหวานใจพริตตีสาวสุดแซ่บที่ซุ่มคบหากันมาพักใหญ่แต่งงาน สร้างตำนานซินเดอเรลลาแห่งยุค 4.0 สุดโรแมนติก หักอกสาวๆ ค่อนเมือง...’ข่าวพาดหัวบนสื่อยักษ์ใหญ่หลายสำนัก พร้อมคลิปฉากบอกรักบันลือโลกแพร่กระจายในโลกออนไลน์จนติดอันดับในยูทูปอยู่นานเป็นเดือน พลอยทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทไลอ้อนดริงก์ที่ภีรดาเป็นพรีเซนเตอร์มียอดขายถล่มทลายติดลมบนเครื่องดื่มยอดฮิตสำหรับซินเดอเรลลายุคใหม่ และหนึ่งในสาวๆ ที่อกหักนั้นก็มีชื่อของ...ชารียา...ติดโผอยู่ในนั้นด้วยอีกคน สาวหน้าหวานกระแทกโทรศัพท์มือถือลงอย่างเจ็บใจ เมื่อเห็นคลิปอดีตคนรักที่เธอเพิ่งสลัดทิ้งไปอย่างไม่ไยดีเพราะคิดว่าเขาจะพิการไปตลอดชีวิต แต่กลับมาสารภาพรักกับผู้หญิงกะโหลกกะลาที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็แพ้เธอทุกประตู คิดแล้วก็น่าเจ็บใจ ในขณะที่เธอกำลังมีปัญหากับสามีจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน รวินรุตม์กลับกำลังมีความสุขกับว่าที่เจ้าสาวโลโซของเขา“บ้าชะมัด! เรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง” หญิงสาวกำมือแน่นด้วยคว
ราวกับมีใครกดปุ่มหยุดเวลาไว้ ทุกสิ่งรอบกายของหญิงสาวกลายเป็นภาพเลือนลางไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อเธอได้ลอยละล่องอยู่ในอ้อมกอดแสนอบอุ่นอ่อนโยน ความหวานล้ำแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูขุมขน ซึมลึกลงไปในหัวใจ ความรู้สึกที่ถูกสะกดห้ามไว้ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยฤทธิ์เสน่หาแห่งรอยจูบอันร้ายกาจนั้นรวินรุตม์กดยิ้มมุมปากอย่างสมใจเมื่อรับรู้ถึงการโอนอ่อนของอีกฝ่ายที่ตอบกลับมาอย่างอ่อนหวาน ความห่วงหาอาทรระหว่างเขากับเธอถูกถักทอรัดร้อยเข้าไว้ด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็สุดจะรู้ได้ แต่เมื่อตอนนี้รู้แล้วเขาก็ไม่คิดจะปล่อยคนในอ้อมแขนให้ไปเป็นของใครอื่นอีกเขารักเธอ...รักแม่สาวแพนด้าจอมยุ่งคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว“ทีนี้จะลงเอยได้หรือยัง หืม?” เสียงกระซิบนุ่มหวานล้อร่างเพรียวระหงที่แข้งขาอ่อนปวกเปียกจนต้องยืนพิงอกเจ้านกยักษ์ตัวร้ายอย่างหมดเรี่ยวแรง “หรือต้องให้ใช้ไม้ตาย...เฟรนช์คิส!”คำถามนั้นไม่มีใครได้ยินนอกจากหญิงสาวผู้ต้องมนตร์สะกดของหมีขั้วโลกในคราบนกยักษ์ตัวร้ายอย่างภีรดาเท่านั้น เธอทำได้แค่เสหลบตาคมๆ ที่มองมาด้วยเกรงว่าจะใจอ่อน ทั้งที่ความจริงเธอหมดมุกจะเล่นแล้วก็ตาม“คนหน้าไม่อาย คิดเหรอว่าจูบของคุณจะทำอะไรฉัน
“เพราะผมรักคุณไง!” เสียงที่ตอบออกมานั้นทั้งมั่นคง หนักแน่น แววตาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเฮือก! เสียงลมหายใจคนโดนบอกรักแบบไม่ทันตั้งตัวสะดุดกึก พร้อมกับบรรยากาศรอบข้างที่ชะงักงันไปชั่วครู่ ภีรดาหน้าแดงระเรื่อ หัวใจเต้นกระหน่ำรัวจนเกือบจะทะลุออกมานอกอก กับคำที่ยืนยันว่าการเดิมพันครั้งนี้ของเธอสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ อีกด้านตติยะที่ยืนเป็นพยานรักถึงกับดีดนิ้วเปาะด้วยทีท่าสาสมใจที่สามารถง้างปากเพื่อนรักได้“คะ...คุณว่าอะไรนะ” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็นานเกือบนาทีเต็มๆ“ผมบอกว่าผมรักคุณ...แพนด้า” ดวงตาเข้มคมมองสบตาหญิงสาวอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกอีกต่อไป “คุณล่ะรู้สึกแบบเดียวกันหรือเปล่า”คนถูกถามยกมือปิดปากถึงกับอึ้งจนไปไม่เป็น กะจะเล่นตัวอีกสักหน่อย แต่ขอบตาก็ดันร้อนผ่าวมีละอองน้ำคลอคลอง ลำคอตีบตันจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่งจนคนรอบข้างต้องเงียบรอลุ้นกับคำตอบของสาวเจ้า“ตอบเลย!” เสียงใครคนหนึ่งในกลุ่มคนดูตะโกนเชียร์ดังขึ้น และคนอื่นๆ ก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ตามทีละคนสองคนจนดังไปทั่วบริเวณนั้น “ตอบเลยๆๆ”งานเข้าละ! เล่นเอามวลชนมากดดันแบบนี้เธอก็แย่สิเอาไงดีๆ แพนด้าเอ๋ย...รีบตอบรับไปก็ดูจะใจง่า