หลังจากอิ่มหน่ำจากอาหารซีฟูดมื้ออร่อย ไบเกอร์หนุ่มก็พาหญิงสาวนั่งรถกินลมชมทะเลอีกพักใหญ่ก่อนเข้าโรงแรมที่พัก แต่ห้องพักที่จองไว้สำหรับกรุ๊ปนักแข่งรถซูเปอร์ไบก์ที่มาด้วยกันดันเหลือเพียงห้องเดียวเท่านั้น“งั้นคุณนอนนี่ เดี๋ยวฉันไปหาบังกะโลแถวนี้พักก็ได้” ภีรดาเสนอ แต่อีกฝ่ายดันไม่ยอมสนอง“นอนด้วยกันนี่แหละ” หญิงสาวหันขวับ “ปกติก็นอนห้องเดียวกันอยู่แล้ว ทำไม หรือคุณยังไม่ชิน”โอ๊ย! จะบ้าตาย อายจนอยากจะเอาปี๊บคลุมหัว ดูเอาเถอะ พนักงานโรงแรมรวมถึงแขกที่มาพักแถวนั้นหันมามองเธอแปลกๆ กันหมดแล้ว“เอาโทรโข่งไหมคะ จะได้ได้ยินทั้งโรงแรมเลย มันใช่เรื่องที่ต้องประกาศไหมเนี่ย”“แค่คืนเดียวน่า พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว พักด้วยกันนี่แหละ อย่าเรื่องมาก!”หึๆ แล้วเธอจะพูดอะไรได้ ในเมื่อไม่ได้เป็นคนจ่ายตังค์ ว่าไงก็ต้องว่าตามกันอยู่แล้ว แต่ที่เซ็งคือ...เธอคงต้องนอนโซฟาเช่นเคยสินะ เฮ้อ...ตกเย็นภีรดาก็รีบขัดสีฉวีวรรณจนสวยเช้ง ไหนๆ จะได้ออกงานทั้งที เธอก็ไม่อยากให้คนพาไปขายหน้า หญิงสาวมองตัวเองในกระจกอย่างพอใจ ไม่มากไป ไม่น้อยไป สวยกำลังดี แต่ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่คือ...เสียงเปิดประตูห้องน้ำพร้อมร่างสูงใหญ่ที่เพิ่
“นึกว่าพวกนายจะเบี้ยวแล้วซะอีก” เสียงนุ่มหูเอ่ยทักมาแต่ไกล ตติยะมองใบหน้าตึงๆ ของเพื่อนรักสลับกับมองมือที่คล้องแขนกันของทั้งสองอย่างรู้ทัน “สวัสดีครับคุณแพน คืนนี้คุณสวยจัง แต่น่าเสียดาย...”“เสียดายอะไร” ถามดักคอเสียงขุ่นๆ“เสียดายที่...ไม่ว่างแล้วน่ะสิ” สุ้มเสียงที่หยอดมาทำคนสวยแอบเซ็ง พยายามจะกระตุกมือตัวเองออกจากแขนคนหน้าบึ้งแต่ก็ไม่สำเร็จ“รู้ก็ดี...”หืม? รู้อะไรฟระตานี่ พูดจากำกวมอีกละ เดี๋ยวชาวบ้านก็เข้าใจเธอผิดหมดหรอก ลืมข้อห้ามที่ตัวเองตั้งไว้แล้วหรือไงนะ...เธอกับเขาห้ามรักกันเด็ดขาด! อย่างนี้มันตัดโอกาสกันเห็นๆ เลย“คุณตติยะมาคนเดียวเหรอคะ”“ครับ ทำไงได้ผมมันคนอาภัพเรื่องคู่ ขนาดคุณยังเทนัดผมตั้งสามครั้งมาแล้วเลย จำได้ไหม” คนฟังคอย่น ได้แต่ยิ้มแหยๆ แอบรู้สึกผิด “ผมล้อเล่นน่ะครับ ดูคุณทำหน้าเข้าสิ”“จะยืนคุยตรงนี้อีกนานไหม” เสียงไม่สบอารมณ์แทรกขึ้น พร้อมเบี่ยงกายบังร่างเพรียวระหงจากแสงแฟลชวูบวาบของนักข่าวในงาน จนภีรดาแอบหน้าเสียนิดๆ ทำท่าจะขยับตัวออกห่าง แต่มือใหญ่กลับยึดแขนเธอไว้พร้อมกระซิบบอก“อยู่ใกล้ๆ ผมไว้ แล้วทำตัวให้เป็นปกติ” “งั้นเรารีบเข้างานกันดีกว่า อ้อ เมื่อกี้ค
“ไปห้องน้ำค่ะ ต้องขออนุญาตด้วยไหมคะเจ้านาย” กัดฟันถามประชดเบาๆ เพราะเกรงใจแขกวีไอพีทั้งหลาย เมื่อเห็นกองทัพนักข่าวเข้ามาขอถ่ายรูปและสัมภาษณ์แชมป์คนเก่งของงาน ร่างบางก็ฉวยโอกาสปลีกตัวถอยห่างออกมาอย่างรวดเร็วดวงตาคู่งามมองร่างสูงๆ ท่ามกลางวงล้อมนักข่าวและแขกวีไอพีของสโมสรรวมถึงแม่สาวน้อยหน้าสวยหวานที่ยืนเคียงข้างเขา ดูแล้วช่างเป็นคู่ที่เหมาะสม ภีรดาถอนหายใจออกมาเบาๆ ดูจากตรงนี้เขาช่างแสนไกลเกินกว่าที่เธอจะเอื้อมถึงเหลือเกินเฮ้อ...เรามาทำอะไรที่นี่นะ นึกว่างานจะสนุกเสียอีก แต่กลับกร่อยชะมัดเลยให้ตายเหอะ คิดแล้วก็ขี้เกียจกลับเข้าไปในงานเสียแล้วสิ หนีกลับห้องนอนเลยดีไหมนะ‘จำไว้ด้วยว่ามากับผมห้ามอยู่ห่างสายตาผมเด็ดขาด’ จู่ๆ เสียงเข้มๆ ก็ตามมาหลอกหลอนเฮอะ...ก็เขามีคนอื่นต้องเทกแล้วนี่ ยังไงเธอก็ไม่ใช่คนสำคัญของงานอยู่แล้ว หายตัวไปสักคนคงไม่มีใครสังเกตหรอกน่าแต่ยังไม่ทันได้ทำตามใจคิด จู่ๆ ก็มีเสียงทักขึ้นด้านหลัง“สวัสดีครับคุณแพนคนสวย” ภีรดาหันไปส่งยิ้มทักทายให้พ่อหนุ่มหน้าเกาหลี “มายืนทำอะไรตรงนี้คนเดียวครับ ทำไมไม่เข้าไปในงาน”“คือแพนมาสูดอากาศน่ะค่ะ ว่าแต่คุณกวินเพิ่งมาเหรอคะ”“ชู่ อ
“กลับเถอะ ผมเหนื่อยแล้ว” เสียงขุ่นๆ กระซิบบอกดื้อๆ ก่อนจูงมือเธอฝ่าวงล้อมหนุ่มๆ ออกไปจากงานหน้าตาเฉย ท่ามกลางสายตาปรอยของหนุ่มสาวอีกหลายคน และแสงแฟลชวูบวาบของนักข่าวที่กำลังจะได้ข่าวเด็ดข่าวใหญ่“นี่คุณ เดินช้าๆ หน่อยได้ไหมคะ” ภีรดาร้องบอกคนที่จ้ำอ้าวไม่เกรงใจส้นสูงหกนิ้วของเธอสักนิด แต่ฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมฟัง ลากเอาๆ จนกระทั่งเธอโมโหจึงหยุดเดินเสียดื้อๆรวินรุตม์หันขวับมองหญิงสาวที่ยืนหน้ามุ่ยมองตาเขียวใส่ อารมณ์คุกรุ่นที่ค้างมาจากในงานจึงระเบิดตูม“ผมสั่งแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าอยู่ห่างจากสายตาผม!”“ก็ตาคุณมัวแต่มองคนอื่นเอง ไม่ได้มองมาทางฉัน แล้วจะมาว่ากันได้ไง” หญิงสาวโต้กลับอย่างลืมตัว ก็เขาเอาแต่สนใจยายคุณหนูผู้ดีนั่นจนไม่มองเธอเองแล้วจะมาว่าเธอทำไม“แล้วใครอนุญาตให้ไปทำตัวสนิทสนมกับเจ้ากวินนั่น เต้นรำกับมันสนุกไหม”เอ๊...ตานี่โกรธแล้วพาล หรือโรคหวงเพื่อนจะกำเริบอีกแล้ว“ก็สนุกดีค่ะ อย่างน้อยเขาก็ไม่เอาแต่ตะคอกใส่ฉันปาวๆ เผด็จการไม่มีเหตุผลเหมือนคุณเนี่ย ถามจริง โกรธอะไรฉันนักหนา ฉันทำอะไรผิด”ไบเกอร์หนุ่มถอนหายใจแรงๆ มองสบตาหญิงสาวตัวป่วนตรงหน้าแล้วคันไม้คันมืออยากหักคอคน ทำไมเธอชอบยั
ขณะกำลังคิดเพลินๆ ชายหนุ่มก็ตกใจ เมื่อเห็นเจ้าก้อนกลมๆ ตรงหน้าพลิกตัวกลิ้งไถลตกจากโซฟาลงมากองที่พื้นเสียงดังตุ้บ ทำเอาคนขี้เซาถึงกับลืมตาตื่น แต่ก็ยังโงนเงนสักพักก่อนลุกขึ้นนั่งหัวฟู หน้าตาดูไม่จืด แต่เมื่อเธอหันมามองที่เตียงคนป่วย ชายหนุ่มก็รีบหลับตาแกล้งทำเป็นหลับทันทีฝ่ายคนเฝ้าไข้พอได้สติ สำนึกแรกที่คิดถึงคืออาการของคนป่วย ร่างเพรียวบางรีบลุกขึ้นปราดเข้ามาที่เตียง พร้อมถอนหายใจโล่งอก ที่เห็นสีหน้าของเขาเริ่มดีขึ้น มือบางเอื้อมไปแตะที่หน้าผากของอีกฝ่าย“สีหน้าเริ่มดีขึ้นแล้วนี่ ตัวก็ไม่ร้อน เฮ้อ...ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าไม่รอดเสียแล้วสิ”ภีรดาทอดสายตามองร่างสูงใหญ่ที่นอนนิ่งบนเตียงคนป่วยและมีสายน้ำเกลือระโยงระยาง หน้าตาแลดูซีดเซียวกว่าปกติด้วยความเป็นห่วง หลังจากได้ฟังคุณหมอวินิจฉัยอาการของคนป่วยเบื้องต้นเมื่อคืน เธอก็อดสงสัยไม่ได้“หรือว่าจะเป็นเพราะไอ้หอยนางรมนั่นหว่า เอ...ก็ไหนว่ามันเป็นยาโด๊ปชั้นเลิศไง ไหงเขาถึงลงเอยในสภาพนี้ล่ะ” แถมอาหารพวกนั้นเธอก็กินด้วย แล้วทำไมไม่มีอาการอะไรสักอย่าง แต่อีตานี่กลับถึงขั้นท้องเสียจนสลบเหมือดคาที่ได้“หรือจะเป็นผลข้างเคียงของโรคเซ็กซ์เสื่อมนะ
“คุณช่วยป้อนหน่อยได้ไหม ผมเพลียจนมือไม่มีแรงเลย”เสียงอ่อนระโหยของคนป่วยทำให้หญิงสาวใจอ่อนไม่ติดใจสงสัย รีบเข้าไปช่วยประคองศีรษะอีกฝ่ายพร้อมป้อนน้ำให้เขาดื่ม โดยไม่ทันเห็นแววตาพราวระยับคู่นั้น“แค่ก!ๆ”จู่ๆ คนป่วยก็เกิดสำลักน้ำขึ้นมา จนน้ำในแก้วกระฉอกหกรดตัวเปียกชุ่ม“ตายแล้ว! น้ำหกหมดเลย” พริตตีสาวตาลีตาเหลือกรีบประคองเขาขึ้น พร้อมลูบหลังให้หายสำลัก “ขอโทษนะคะ ฉันป้อนเร็วไปหน่อยไม่ทันระวัง คุณเลยเปียกหมดเลย ทำไงดี”“หนะ...หนาวจัง ผมหนาว...” คนเจ็บเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่น ตัวสั่นสะท้านภีรดามองเสื้อผ้าที่เปียกชื้นของอีกฝ่ายอย่างร้อนรน ด้วยความเป็นห่วง หมอนี่ยิ่งไม่ชอบให้เสื้อผ้าสกปรกเลอะเทอะอยู่ด้วย“งั้นเดี๋ยวฉันออกไปตามคุณพยาบาลมาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดีกว่า”“ไม่...ไม่เอา!” มือใหญ่รีบคว้าข้อมือเธอไว้หมับ“แต่เสื้อผ้าคุณชื้นแบบนี้ เดี๋ยวก็ได้เป็นปอดบวมอีกโรคหรอก”“งั้นคุณช่วยเปลี่ยนให้ผมหน่อยได้ไหม” แน้...มีต่อรองเสียด้วย “ผมไม่อยากให้ใครเห็นผมในสภาพ...ไม่น่าดู”ชิ...ที่แท้ก็กลัวเรตติงตกนั่นเอง“แต่ให้ฉันเห็นได้ว่างั้น” หญิงสาวเท้าสะเอว มึนตึ้บกับตรรกะผู้ชายตรงหน้า แต่พอเห็นสภาพหนาวจ
คราวนี้คนป้อนสะดุดกึก เริ่มรำคาญ!“แล้วอยากกินขนมเปี๊ยะแทนไหมคะ” เสียงหวานเย็นเฉียบกับนัยน์ตาขุ่นขวางตวัดมองสบตาคนป่วยจอมเรื่องมากแวววับ ก่อนจงใจตักสิ่งที่เขาให้เขี่ยทิ้งทั้งหลายขึ้นจ่อที่ปากชายหนุ่ม“คุณจะทำอะไรน่ะ” คนป่วยจ้องหน้าคนป้อน เริ่มไม่ไว้ใจ“ป้อนข้าวคุณไงคะ อ้าปากหน่อยสิคะ อะ...อ้ำ”“แต่ผมไม่กิน...อุ้บ!” คนป่วยตาเหลือกเมื่อช้อนถูกยัดเข้าปากดื้อๆ ทำท่าจะบ้วนทิ้ง แต่คนป้อนกลับส่งสายตาคาดโทษ“ถ้าคุณคายทิ้ง ฉันจะไม่ป้อนอะไรให้คุณกินอีกเลย กลืนลงไปเดี๋ยวนี้!”นั่นแหละ ชายหนุ่มจึงจำใจต้องกล้ำกลืนข้าวต้มคำนั้นลงคอไปด้วยสีหน้าปูเลี่ยนๆ ภีรดามองผลงานตัวเองอย่างพอใจและแอบสะใจนิดๆ กับชัยชนะเล็กๆ ที่ทำให้เขายอมเชื่อฟังได้ แต่แล้วทันใดนั้นเอง“โอ๊ะ!” คนป่วยกุมที่ลำคอตัวเอง สีหน้าทุรนทุรายสุดขีด“ทำไมคะ เป็นอะไรไปอีกล่ะ หรือในข้าวต้มนั่นมียาพิษ” หญิงสาวเท้าสะเอวถามประชด สีหน้ายียวน เพราะคิดว่าเขาแกล้งทำ“ผะ...ผม พะ...แพ้ขึ้นฉ่าย!” พอขาดคำเขาก็คอพับคออ่อนหมดสติไปทันที“หูย คราวนี้แสดงเว่อร์สมจริง” พริตตีสาวถึงกับปรบมือชมเปาะกับบทบาทสมจริงขั้นสุดของอีกฝ่าย “ใครที่ไหนจะแพ้ขึ้นฉ่ายกัน อย่ามา
ระหว่างที่รวินรุตม์นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ก็มีเพื่อนที่สนิทอย่างตติยะและคนที่สโมสรฯ แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบ้าง ส่วนพ่อแม่ของชายหนุ่มนั้นอยู่ระหว่างการทัวร์ยุโรป เขาจึงห้ามไม่ให้ใครโทร. ไปบอกเพราะกลัวทั้งสองจะเป็นห่วงเกินเหตุจนต้องรีบกลับมาก่อนกำหนด ชายหนุ่มพักฟื้นอยู่สองสามวันอาการต่างๆ ก็ทุเลาลงจนเป็นปกติ คุณหมอจึงอนุญาตให้เขากลับบ้านได้ในที่สุด ท่ามกลางความโล่งอกและยินดีปรีดาของคุณผู้ช่วยฯ สาวตลอดหลายวันที่ผ่านมาภีรดาแทบจะไม่เป็นอันทำอะไร เพราะต้องคอยปรนนิบัติพัดวีคนป่วยจอมเกเรที่แสนเอาแต่ใจแล้วก็ขยันหาเรื่องใช้ได้ใช้ดีทุกทีที่มีโอกาส จนบางครั้งพยาบาลจำเป็นก็ชักสับสนในหน้าที่ว่าตกลงแล้วตัวเองเป็นผู้ช่วยส่วนตัว หรือเป็นภรรยาสาวที่ต้องคอยดูแลสามีสุดที่รักยามป่วยไข้กันแน่!“คิดอะไรอยู่เหรอคุณ” นายจ้างหนุ่มหันไปถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งเหม่อใจลอยเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างรถเงียบๆ ผิดวิสัยคนช่างพูด“ก็คิดวิธีช่วยคุณไง ฉันอยากให้คุณรีบหายจากอาการ...นั่น...ไวๆ”คนฟังหันขวับมองหน้าคนพูด รู้สึกคันในหัวใจยิบๆ“อยากให้หายไวๆ เพื่อที่คุณจะได้เป็นไทเร็วๆ สินะ”“หรือคุณไม่อยากล่ะ เป็นไทเร็วๆ ไม่ดีหร
หลังจากพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่มาร่วมอวยพรและทำพิธีต่างๆ จนเสร็จและทยอยออกจากห้องหอไปจนหมด เหลือเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวตามลำพัง ภีรดาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลางหันไปมองใบหน้าหล่อเข้มของผู้ชายที่เธอเพิ่งตีตราจอง ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นเจ้าของเขาอย่างเป็นทางการแบบไม่อยากจะเชื่อในวาสนา ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงโก๊ะกังธรรมดาๆ อย่างเธอจะมีโอกาสได้เจอคู่ครองที่แสนจะเพียบพร้อมอย่างบุรุษตรงหน้าภีรดาคิดเพลินๆ จู่ๆ ดวงตาคมที่เจือประกายวับหวานก็เลื่อนมาสบตาพอดี“มองแบบนี้ไม่กลัวว่าผมจะอดใจไม่ได้บ้างเหรอ”“ถ้ากลัวคงไม่มองหรอกค่ะ” หญิงสาวทำปากดี ก่อนประคองใบหน้าคมสันที่แสนจะมีเสน่ห์ของเขาขึ้นมา “อา...เจ้าบ่าวของฉันหล่อจัง”รวินรุตม์มองคนตรงหน้าอย่างแสนรัก แต่บางสิ่งบางอย่างที่คอยรบกวนจิตใจทำให้เขาเผลอตัวถอนหายใจออกมาเบาๆ“เป็นอะไรไปคะ ทำไมคุณทำหน้าเครียดจัง เหนื่อยกับงานเหรอคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ “คุณมีอะไรในใจอยากบอกฉันหรือเปล่า อย่าบอกนะว่า...มาคิดเสียใจตอนนี้”“ผมไม่เคยเสียใจที่รักคุณ แต่...” คนพูดมีอาการอึกอัก ท่าทีเหมือนกำลังอยากจะบอกอะไรแต่แล้วก็เงียบไปดื้อๆ จนภีรดาชักเอะใจสงสัย และเธอก็ไ
“ที่พูดเมื่อกี้คุณพูดจริงใช่ไหม” เมื่อได้อยู่กันสองต่อสองในห้องพัก รวินรุตม์ก็หันมาถามหญิงสาวที่ทำหน้าตึง พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจฟังแต่แอบทำปากขมุบขมิบบ่นอะไรสักอย่างอยู่ก็นึกแปลกใจ“นั่นกำลังสวดภาณยักษ์ให้ใครอยู่เหรอ”นั่นแหละ ภีรดาจึงยอมเงยหน้ามา“เปล่าค่ะ...กำลังแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์และเจ้ากรรมนายเวร!”จากที่กำลังเครียด ชายหนุ่มก็เผลอหัวเราะพรวดออกมาทันใด“ขำอะไรคะ” ดวงตาเขียวปั๊ดตวัดมาอย่างเอาเรื่อง“อย่าบอกนะว่าคุณสวดให้รียาเขา”“ถ้าใช่แล้วจะทำไมคะ” สะบัดเสียงใส่นิดๆ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าทำเกินไป จึงหันมาพูดเสียงอ่อยลง “ฉันขอโทษค่ะ พอดีอินไปหน่อย แล้วนี่คุณจะทำยังไงต่อคะ จะไม่ลงไปช่วยคุณชารียาเขาจริงๆ เหรอคะ”รวินรุตม์ยื่นมือไปดึงร่างอรชรลงมานั่งเคียงข้างเขาบนโซฟาตัวเดียวกันแล้วโอบกอดเธอเข้ามาชิดใกล้“ไม่ละ ผมบอกแล้วว่าจะช่วยเท่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะช่วยได้”“แล้วคุณไม่สงสารเธอเหรอ โดนสามีทำร้ายขนาดนั้น เธอคงหวังพึ่งคุณนะคะ แต่คุณดันหนีขึ้นห้องมากับฉันแบบนี้”“อย่าห่วงเลยแพน คนอย่างรียาเขาไม่ได้สิ้นไร้หนทางขนาดนั้น อีกอย่างนี่ก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวเขา ถ้าผมขืนเข้าไปยุ่งมันก็จะไม่
“เอ่อ...คือรียาอยาก...ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหมคะ ตอนนี้เขาให้คนไปเฝ้าที่คอนโดที่รียาเช่าอยู่ เข้าไปเมื่อไหร่ดลก็จะรู้ทันที รียากลัวเขาจะลงไม้ลงมืออีกค่ะ” เสียงสะท้านด้วยแรงสะอื้น“ผมคงให้คุณค้างที่นี่ด้วยไม่ได้ เพราะตอนนี้ผมต้องให้เกียรติคู่หมั้นของผมด้วย แต่เดี๋ยวผมจะลองถามนายเต้ให้ว่าที่โรงแรมเขาพอจะมีห้องว่างคืนนี้ไหม ผมจะได้ให้คุณไปพักที่นั่นก่อน”“ราล์ฟ!” ชารียาเบิกตาค้าง หน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าผิดแผนที่วางไว้ หางตาแลไปทางผู้หญิงที่สังเกตการณ์เงียบๆ ข้างกายเขาอย่างไม่พอใจ“ทำไมคุณถึงใจร้ายกับรียานัก คุณเคยขอรียาแต่งงานตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไม...” ในเมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอามารยาเข้าสู้ ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างเธอจะแพ้นังเด็กกะโปโลนี่“ผมจำได้...แต่คุณต่างหากที่ลืมว่าคุณได้ปฏิเสธโอกาสนั้นอย่างไม่ไยดีเอง เพียงเพราะรู้ว่าผมอาจจะต้องเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต”“เอ่อ...คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะราล์ฟ ที่จริงตอนนั้นรียากำลังเครียดๆ เพราะเป็นห่วงคุณมาก ก็เลยเผลอพูดออกไปแบบนั้น แต่ตอนนี้รียาสำนึกได้แล้วว่าทำผิดต่อคุณ และต่อให้คุณเป็นอัมพาตตลอดชีวิตจริงๆ รียาก็จะไม่ทิ้งคุณอีก
พวงแก้มใสซับโลหิตระเรื่อ หายใจไม่ทั่วท้อง แอบรู้สึกตื่นเต้นหน่อยๆ เมื่อต้องเป็นฝ่ายคุมเกม“อ๊ะ...” มือใหม่หัดขับสะดุ้งนิดๆ ยามที่ร่างกายสอดประสานรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกับเขา ความใหญ่โตที่แทรกผ่านเข้ามาสร้างความอึดอัดให้หญิงสาวไม่น้อย“อย่าเกร็ง ปล่อยตัวตามสบายที่รัก อย่างนั้น อืม...เก่งมาก!” นักแข่งรถมือทองบอกอย่างใจเย็น ทั้งที่ร่างกายเขาร้อนจนแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ อยู่ร่อมร่อแล้ว มือหนาประคองบั้นท้ายกลมกลึงช่วยคุมจังหวะ แต่มันไม่ง่ายเลยเมื่อโดนความคับแน่นที่แสนนุ่มละมุนโอบรัดรึงตัวตนของเขาไว้เช่นนี้“ราล์ฟคะ...พะ...แพน...” เสียงหวานกรีดร้องลั่นแทบไม่เป็นภาษาด้วยความรัญจวน สมองปั่นป่วนขาวโพลนด้วยแรงปรารถนาลึกล้ำทุกคราวที่ขยับกายเข้าหาความใหญ่โตนั้น แต่เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชินและปรับตัวได้ ภีรดาก็เริ่มควบทะยานบิ๊กไบก์คู่ใจคันงามด้วยความเร็วแรงถึงใจ จนกระทั่งควงแขนเขาไปสู่จุดหมายปลายทางความสุขและเข้าเส้นชัยพร้อมกันได้อย่างสวยสดงดงาม“แพนรักคุณ...รักที่สุดเลย!” เสียงหวานกระซิบที่ข้างหูราวกับละเมอ ก่อนที่ร่างบางจะซวนซบลงที่อกแกร่ง หอบหายใจถี่กระชั้นอย่างหมดแรงคำที่เป็นดั่งน้ำทิพย์ชโลมห
ดวงหน้าใสแดงซ่าน เมื่อยามที่มือได้สัมผัสของรักของหวงชิ้นสำคัญของคนรักแบบเอกซ์คลูซีฟสุดๆ เมื่อเห็นเขามีปฏิกิริยากัดฟันเหมือนกำลังอดกลั้นอารมณ์อย่างหนักยามที่เธอเริ่มขยับมือขึ้นลงทักทายเจ้านกเขาขี้เซาตัวนั้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนมันเริ่มมีทีท่าว่าจะแข็งขึงขึ้นมาทีละนิดๆ ดวงตากลมโตซุกซนก็ทอประกายวาวเพราะรู้ว่าตนมาถูกทาง ยิ่งเห็นคนตัวโตมีอาการหายใจสะดุด และสูดปากหนักขึ้นก็เริ่มย่ามใจ ขุดบทเรียนสยิวกิ้วที่เขาเคยสอนให้ออกมาใช้เต็มเหนี่ยวร่างแกร่งถึงกับผวาสะท้าน เกร็งเยือกไปทั้งร่าง เมื่อจุดอ่อนไหวถูกสัมผัสด้วยความชุ่มชื้นจากปลายชิวหาอันอ่อนนุ่มเบาๆ เลือดในกายหนุ่มก็เดือดพล่าน“รู้ตัวไหมว่าทำอะไรอยู่”“ชอบไหมคะ” ไม่ทันได้คำตอบ มือใหญ่ก็เผลอขยุ้มเส้นผมสวยและกดศีรษะอีกฝ่ายเข้าหากายแกร่งอย่างลืมตัว ภีรดาช้อนสายตาหวานฉ่ำมองคนรักหนุ่มรูปงามด้วยอารมณ์หวามไหวรัญจวน เธออยากทำให้เขามีความสุขที่สุดให้สมกับความรักที่เขามอบให้“พะ...พอก่อนที่รัก ผมจะมะ...ไม่ไหวแล้ว” เสียงกระเส่าเซ็กซี่ขาดเป็นห้วงๆ บอกถึงความทรมานของคนพูด“ไม่ไหวแล้วจะทำไมคะ...” จอมซนทำใจกล้าถามยั่วอย่างก๋ากั๋น ดวงตาใสแจ๋วฉายรอยเจ้าเล่ห์ยา
ตอนนี้อะไรๆ ก็พ่อราล์ฟลูกแม่ๆ ส่วนลูกสาวตัวจริงอย่างเธอน่ะเหรอ ก็ตกกระป๋องเป็นแพนด้าหัวเน่าไปตามระเบียบน่ะสิ แตะว่าที่ลูกเขยคนโปรดนิดแม่ก็คำรามใส่ฮึ่มๆ แล้ว ไม่ต้องพูดถึงยมุนาพี่สาวเธอ ขานั้นนิยมคนหล่อเป็นชีวิตจิตใจ เอะอะก็ว่าที่น้องเขยๆ ยิ่งตอนไปอัลตราซาวนด์แล้วรู้ว่าลูกในท้องเป็นผู้ชายด้วยแล้ว พี่สาวเธอก็แทบจะนั่งจ้องหน้าว่าที่น้องเขยอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อซึมซับความหล่อวัวตายหล่อควายล้มทางสายตาให้ลูกชายในท้องกันเลยทีเดียว“อ้อนเข้าไปๆ ตอนนี้ลูกแท้ๆ จะไม่มีที่ยืนอยู่แล้วนะคะ”“ก็ไม่ต้องยืนสิ คุณก็นอนแทน ถ้าไม่มีที่นอนไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเจียดเตียงผมให้ครึ่งนึง ไม่ได้กอดคุณตั้งนานจนผมใกล้จะลงแดงตายแล้วเนี่ย” ดวงตาคมๆ แพรวพราวอ้อนอย่างเจ้าเล่ห์ “เราเลื่อนกำหนดงานแต่งเป็นพรุ่งนี้เลยดีไหม”วาบ! แก้มใสๆ แดงเห่อจนถึงกกหู เขินจนอยากจะเอาหัวมุดใต้โต๊ะ ทำไมเขาถึงพูดจาน่าตบด้วยปากแบบนี้ล่ะ แค่นี้เธอก็ตกบ่วงจนตะกายขึ้นมาจากหลุมไม่ได้แล้ว แล้วดูนั่น ยังมีหน้ามาส่งยิ้มหวานกระชากใจให้อีก อย่ารอพรุ่งนี้เลย หอบผ้าหอบผ่อนหนีตามกันไปอยู่ด้วยซะวันนี้เลยเหอะ!“อย่ามาตลกค่ะ การ์ดแจกไปหมดแล้วเปลี่ยนทันที่
‘ไฮโซหนุ่มนักแข่งรถมือทองสุดฮอตตั้งโต๊ะแถลงข่าวเตรียมความพร้อมล่าแชมป์ซูเปอร์ไบก์หลังอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถล้มตอนซ้อมหายเป็นปกติ พร้อมทำเซอร์ไพรส์ขอหวานใจพริตตีสาวสุดแซ่บที่ซุ่มคบหากันมาพักใหญ่แต่งงาน สร้างตำนานซินเดอเรลลาแห่งยุค 4.0 สุดโรแมนติก หักอกสาวๆ ค่อนเมือง...’ข่าวพาดหัวบนสื่อยักษ์ใหญ่หลายสำนัก พร้อมคลิปฉากบอกรักบันลือโลกแพร่กระจายในโลกออนไลน์จนติดอันดับในยูทูปอยู่นานเป็นเดือน พลอยทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทไลอ้อนดริงก์ที่ภีรดาเป็นพรีเซนเตอร์มียอดขายถล่มทลายติดลมบนเครื่องดื่มยอดฮิตสำหรับซินเดอเรลลายุคใหม่ และหนึ่งในสาวๆ ที่อกหักนั้นก็มีชื่อของ...ชารียา...ติดโผอยู่ในนั้นด้วยอีกคน สาวหน้าหวานกระแทกโทรศัพท์มือถือลงอย่างเจ็บใจ เมื่อเห็นคลิปอดีตคนรักที่เธอเพิ่งสลัดทิ้งไปอย่างไม่ไยดีเพราะคิดว่าเขาจะพิการไปตลอดชีวิต แต่กลับมาสารภาพรักกับผู้หญิงกะโหลกกะลาที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็แพ้เธอทุกประตู คิดแล้วก็น่าเจ็บใจ ในขณะที่เธอกำลังมีปัญหากับสามีจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน รวินรุตม์กลับกำลังมีความสุขกับว่าที่เจ้าสาวโลโซของเขา“บ้าชะมัด! เรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง” หญิงสาวกำมือแน่นด้วยคว
ราวกับมีใครกดปุ่มหยุดเวลาไว้ ทุกสิ่งรอบกายของหญิงสาวกลายเป็นภาพเลือนลางไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อเธอได้ลอยละล่องอยู่ในอ้อมกอดแสนอบอุ่นอ่อนโยน ความหวานล้ำแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูขุมขน ซึมลึกลงไปในหัวใจ ความรู้สึกที่ถูกสะกดห้ามไว้ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยฤทธิ์เสน่หาแห่งรอยจูบอันร้ายกาจนั้นรวินรุตม์กดยิ้มมุมปากอย่างสมใจเมื่อรับรู้ถึงการโอนอ่อนของอีกฝ่ายที่ตอบกลับมาอย่างอ่อนหวาน ความห่วงหาอาทรระหว่างเขากับเธอถูกถักทอรัดร้อยเข้าไว้ด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็สุดจะรู้ได้ แต่เมื่อตอนนี้รู้แล้วเขาก็ไม่คิดจะปล่อยคนในอ้อมแขนให้ไปเป็นของใครอื่นอีกเขารักเธอ...รักแม่สาวแพนด้าจอมยุ่งคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว“ทีนี้จะลงเอยได้หรือยัง หืม?” เสียงกระซิบนุ่มหวานล้อร่างเพรียวระหงที่แข้งขาอ่อนปวกเปียกจนต้องยืนพิงอกเจ้านกยักษ์ตัวร้ายอย่างหมดเรี่ยวแรง “หรือต้องให้ใช้ไม้ตาย...เฟรนช์คิส!”คำถามนั้นไม่มีใครได้ยินนอกจากหญิงสาวผู้ต้องมนตร์สะกดของหมีขั้วโลกในคราบนกยักษ์ตัวร้ายอย่างภีรดาเท่านั้น เธอทำได้แค่เสหลบตาคมๆ ที่มองมาด้วยเกรงว่าจะใจอ่อน ทั้งที่ความจริงเธอหมดมุกจะเล่นแล้วก็ตาม“คนหน้าไม่อาย คิดเหรอว่าจูบของคุณจะทำอะไรฉัน
“เพราะผมรักคุณไง!” เสียงที่ตอบออกมานั้นทั้งมั่นคง หนักแน่น แววตาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเฮือก! เสียงลมหายใจคนโดนบอกรักแบบไม่ทันตั้งตัวสะดุดกึก พร้อมกับบรรยากาศรอบข้างที่ชะงักงันไปชั่วครู่ ภีรดาหน้าแดงระเรื่อ หัวใจเต้นกระหน่ำรัวจนเกือบจะทะลุออกมานอกอก กับคำที่ยืนยันว่าการเดิมพันครั้งนี้ของเธอสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ อีกด้านตติยะที่ยืนเป็นพยานรักถึงกับดีดนิ้วเปาะด้วยทีท่าสาสมใจที่สามารถง้างปากเพื่อนรักได้“คะ...คุณว่าอะไรนะ” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็นานเกือบนาทีเต็มๆ“ผมบอกว่าผมรักคุณ...แพนด้า” ดวงตาเข้มคมมองสบตาหญิงสาวอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกอีกต่อไป “คุณล่ะรู้สึกแบบเดียวกันหรือเปล่า”คนถูกถามยกมือปิดปากถึงกับอึ้งจนไปไม่เป็น กะจะเล่นตัวอีกสักหน่อย แต่ขอบตาก็ดันร้อนผ่าวมีละอองน้ำคลอคลอง ลำคอตีบตันจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่งจนคนรอบข้างต้องเงียบรอลุ้นกับคำตอบของสาวเจ้า“ตอบเลย!” เสียงใครคนหนึ่งในกลุ่มคนดูตะโกนเชียร์ดังขึ้น และคนอื่นๆ ก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ตามทีละคนสองคนจนดังไปทั่วบริเวณนั้น “ตอบเลยๆๆ”งานเข้าละ! เล่นเอามวลชนมากดดันแบบนี้เธอก็แย่สิเอาไงดีๆ แพนด้าเอ๋ย...รีบตอบรับไปก็ดูจะใจง่า