“อ้าว แล้วถ้าเกิดผมเป็นฝ่ายโดนคุณลวนลามปลุกปล้ำล่ะ จะทำยังไง” ชายหนุ่มแย้งหน้าตายภีรดาแอบกัดริมฝีปากเพราะข้อนี้มีความเป็นไปได้สูง ดูจากเหตุการณ์เมื่อเช้าก็เป็นเหตุผลสมควรที่เขาจะต้องกลัวเป็นธรรมดา“งั้น...ถ้าห้ามดีๆ ไม่ฟัง ฉันอนุญาตให้คุณเอาไม้หน้าสามฟาดหัวเรียกสติฉันได้” ประโยคแรกไม่เท่าไหร่ แต่ประโยคต่อมานี่สิ ทำเอาคนที่มีหน้าที่ร่างสัญญาถึงกับเงยหน้ามองคนพูดอย่างคาดไม่ถึง “แต่ถ้าฉันปล้ำแล้วคุณดันสมยอมเองอันนี้ก็ช่วยไม่ได้นะ ถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลยแล้วกัน”“ตกลง อ้อ คุณพัลลภช่วยเพิ่มไปอีกสองข้อด้วยคือ ทุกอย่างในสัญญาการว่าจ้างงานนี้จะต้องเป็นความลับ นอกจากผม คุณ และคุณภีรดาแล้ว จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด”“ข้อนี้ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะถึงคุณไม่ห้าม ฉันก็ไม่คิดจะป่าวประกาศให้ใครรู้อยู่แล้ว” ใครมันจะอยากบอกคนอื่นล่ะว่ามารับจ็อบช่วยปลุกนกเขาให้ผู้ชายเซ็กซ์เสื่อม รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นประไร“ส่วนข้อสุดท้าย สำคัญสุดในภารกิจนี้ นั่นคือในระหว่างปฏิบัติหน้าที่...ห้ามคุณรักผมโดยเด็ดขาด!”คราวนี้คนฟังทั้งสองถึงขั้นหันขวับไปมองคนพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย“ไม่เช่นนั้นสัญญาทุกอย่างที่ว่ามาจะเป็นโม
ภีรดาอ้าปากค้าง หน้าเหวอ แอบเหลือบมองร่างสูงตระหง่านที่ยืนค้ำหัวเธออยู่ในระยะประชิด พอได้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมองภาพที่หน้าจอด้วยความสนใจจนตาแทบไม่กะพริบก็อดที่จะกระดากอายขึ้นมาไม่ได้ หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงด้วยความประหม่า รู้สึกเหมือนถูกแม่จับได้ว่ากำลังดูหนังโป๊อย่างไรอย่างนั้นฮือๆ...หมดกันไอ้แพนด้าเอ๊ย ทำไมเธอต้องมานั่งดูอะไรแบบนี้พร้อมกับผู้ชายที่เป็นนายจ้าง แถมยังเซ็กซ์เสื่อมด้วยเนี่ยช่วงเวลาที่น่าอึดอัดจบลงพร้อมภาพติดเรตบนหน้าจอท่ามกลางความโล่งอก แต่แล้วจู่ๆ ร่างสูงใหญ่ก็โน้มกายลงมาแล้วเอื้อมมือมากุมมือที่จับเมาส์ของเธอไว้ก่อนเลื่อนลงมาช้าๆ ความใกล้ชิดที่มาโดยไม่ได้ตั้งตัวทำเอาร่างกายแข็งทื่อเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ ลมหายใจอุ่นๆ ของอีกฝ่ายกระทบผิวแก้มใสๆ จนร้อนผ่าว อายจนหน้าแดงแล้วแดงอีกนี่มันอ่อยกันชัดๆ ! หน็อย...คิดจะให้ฉันหลงรักแล้วมายกเลิกสัญญาทีหลังละสิท่า หึ...แผนสูงมากหญิงสาวตัดสินใจหันไปหมายจะบอกให้เขาถอยห่างไปหน่อยเพื่อที่เธอจะได้ลุกขึ้นให้เขานั่งอ่านได้สะดวก แต่นั่นกลับเป็นความคิดที่ผิดมหันต์“คะ...คุณช่วยถอยไปนิดได้ไหม ฉันหายใจ
“ไม่เป็น...ผมแข็งแรงดี ตรวจสุขภาพทุกปีไม่เคยขาด และออกกำลังกายเป็นประจำด้วย”“ถ้างั้น...คุณชอบสูบบุหรี่ ดื่มพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินยาอะไรติดต่อกันนานๆ หรือว่าเคยประสบอุบัติเหตุอะไรหนักๆ บ้างไหม” หมอเถื่อนซักต่อ“ผมไม่สูบบุหรี่ ส่วนพวกแอลกอฮอล์ก็มีบ้างตามโอกาส แต่ก็นานๆ ที ไม่เคยกินยาอะไรต่อเนื่อง ส่วนอุบัติเหตุ...” เขานิ่งคิดไปนิดหนึ่ง “ผมเคยประสบอุบัติเหตุหนักๆ ตอนขี่รถบิ๊กไบก์ครั้งหนึ่ง”“นั่นไง!” หญิงสาวดีดนิ้วดังเปาะ ยิ้มร่า “อาจจะเป็นเพราะอุบัติเหตุที่ว่านี่แน่ๆ เลย เวลาขี่รถบิ๊กไบก์มันต้องแนบตรงส่วนนั้นกับตัวถังรถร้อนๆ นานๆ ด้วยใช่ไหม ฉันว่ามันอาจจะมีผลทำให้กล้วยหอมจอมซนของคุณไม่คึกก็ได้นะ”“อืม...ก็อาจเป็นได้นะ” ชายหนุ่มฟังแล้วชักจะคล้อยตามหมอเถื่อนหน่อยๆ “แต่ทำไมพวกเพื่อนๆ หรือรุ่นพี่ที่แข่งมานานกว่าผมไม่เห็นเป็นแบบผมเลยล่ะ”“โหย คุณนี่ไม่รู้อะไร ร่างกายคนเราน่ะจะไปเหมือนกันได้ไง พวกเพื่อนคุณเขาอาจจะอึด ถึก ทนกว่า แล้วก็ไม่ได้ใช้งานส่วน
เป็นครั้งแรกที่ภีรดาได้เปิดประสบการณ์การชอปปิงกับผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อหรือเพื่อน รวินรุตม์จัดเป็นผู้ชายในฝันที่พวกสาวๆ ยอมแลกทุกอย่างขอแค่ได้ควงเขา แถมยังเป็นผู้ชายสายเพย์แบบไม่แคร์สื่อเสียด้วย“อยากกินอะไร”ในเมื่อเขาอุตส่าห์ถามมา เธอจึงไม่ขัดศรัทธาโดยการชี้ไปที่...ร้านไก่ทอดผู้พันชื่อดัง...ที่ดูเหมือนราคาจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าร้านอื่นในบริเวณนั้นในกรณีที่ต้องจ่ายแบบหารสอง เธอจะได้ไม่ต้องเจ็บหนัก แต่เขาดันส่ายหน้า“ผมไม่ชอบอาหารฟาสต์ฟูด มันไม่ดีต่อสุขภาพ”อ้าว...แล้วจะมาถามกันเพื่อ?“เอ๊ะ! นั่นมันคุณราล์ฟ นักแข่งรถหรือเปล่าน่ะแก”“อุ๊ย...ใช่จริงด้วยอ่ะ แล้วนั่นเขามากับใครน่ะ”เสียงซุบซิบรอบกายดังขึ้น ทำให้ภีรดาชักจะหวาด รีบก้มหน้างุด“นั่นมันยายพริตตีดาวยั่วที่กำลังมีข่าวกับเขาไม่ใช่เหรอแก”“เออ ใช่จริงด้วยอะ งั้นข่าวฉาวนั่นก็เป็นจริงละสิ”“นี่เขาว่านางขายตัวด้วยไม่ใช่เหรอ ในข่าวบอกว่านางมีฉายาว่าเงินมาผ้าหลุดด้วย
ดวงตากลมโตขุ่นขวางไม่พอใจแอบเหลือบมองคนที่ตกเป็นขี้ปากอีกคนที่ยังนิ่งเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา แต่ใบหน้าเฉยเมยติดเย็นชาจนอ่านไม่ออกว่าเขารู้สึกเช่นไรที่ต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านกับเธอแบบนี้ หรือไม่ก็อาจจะชิน“กลับไปกินข้าวที่บ้านไหมคะ” เสียงอ่อยๆ เสนอทางเลือกเพื่อตัดปัญหา เขาเป็นคนดังและเธอไม่อยากจะเป็นต้นเหตุให้ชื่อเสียงของเขาต้องมัวหมอง“เราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องหนี”“ฉันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่คุณน่ะสิจะเสียชื่อเปล่าๆ”“ถ้าผมแคร์เรื่องนั้นแต่แรก ก็คงไม่เสนอให้คุณมาทำงานด้วยกันหรอก อยู่กับผมคุณไม่ต้องกลัวอะไร นั่นอาหารมาแล้ว กินข้าวก่อนเถอะ อย่าไปสนใจพวกแมลงวันนั่นเลย เสียเวลาใช้ชีวิตเปล่าๆ” เสียงเข้มๆ นั่นดังพอจะทำให้พวกที่ถูกเปรียบเป็นแมลงวันโต๊ะข้างๆ สะอึกจนสงบปากไปทันใดภีรดามองเจ้านายรูปงามของตนพร้อมบวกคะแนนความรู้สึกดีๆ เพิ่มขึ้นอีกนิด หึ...ถือว่าพวกหล่อนโชคดีก็แล้วกัน ถ้าฉันไม่หิวละก็งานนี้มี...ท้าดวล...แน่นอนพริตตีสาวมองอาหารแต่ละจานที่บริกรยกมาเสิร์ฟตรงหน้าอย่างละลานตา แม่เจ้าโว้ย...นั่นเอาม
“เช็กบิลด้วยค่ะ”โถ...นึกว่าจะแน่! ภีรดาแอบกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ โดยไม่สนคนหล่อที่กำลังช็อก พอหางตาแอบเห็นกอสซิปเกิร์ลทั้งสองล่าถอย เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากร้านไปด้วยความพ่ายแพ้ จึงยิ้มร่าทำท่าจะผละออก ทว่า...“อุ๊ย...คุณจะทำอะไรเนี่ย” เจ้าของเสียงใสโวย เมื่อถูกรั้งเอวเข้ามาแนบชิดจนกระดิกตัวออกห่างไม่ได้“French Kiss!”หืม...พอขาดคำ วงแขนแกร่งก็ตวัดกอดกระชับร่างเพรียวบางเข้ามาใกล้ ก่อนประกบริมฝีปากทาบไปบนปากนุ่มพร้อมใช้ปลายลิ้นดุนดันเปิดปากของเธออย่างรวดเร็วคราวนี้ถึงทีที่แพนด้าเจ้าเล่ห์ช็อกจนตัวแข็งทื่อบ้าง เมื่อถูกอีกฝ่ายเปิดหลักสูตรสอนจูบแบบดูดดื่มด้วยปลายลิ้นอุ่นร้อนที่ส่งเข้ามาในโพรงปากชุ่มชื้นอย่างลึกซึ้งแนบแน่นดื่มด่ำยิ่งกว่าคราวไหนๆ ที่เคยจูบกันอีตานี่เชี่ยวเรื่องจูบชะมัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอชอบ French Kiss ของเขาไม่น้อย ความพลิ้วไหวซ่านซ่าซุกซนของเขาทำให้เธอเคลิบเคลิ้มจนแทบจะละลายเป็นเนยเหลวๆ และออกจะเสียดายหน่อยๆ เมื่อเขาผละเรียวลิ้นออก พร้อมกระซิบเบาๆ“ถ้าคุณติดใจเดี๋ยวค่อยไปต่อ
“เดี๋ยวเราไปดูเสื้อผ้าร้านอื่นกันต่อ คุณอยากได้อะไรเป็นพิเศษก็บอกได้ จำไว้ว่าทำงานกับผม คุณต้องดูดีรักษาหน้าตาและภาพลักษณ์ผมด้วย”“เจ้าค่ะ คุณเจ้านาย!” แกล้งรับคำเสียงหวานจ๋อย แต่คันปากยิบๆ...กะอีแค่ตำแหน่งผู้ช่วยปลุกนกเขานี่ ฉันต้องใส่ชุดราตรีหางปลา ห่มเฟอร์ขนหมาหนังกลับด้วยหรือไงบ่นไปก็เท่านั้น เพราะคนตรงหน้าฟังที่ไหน เขายังคงลากเธอเข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนน่าเวียนหัว แต่อีตอนที่เดินเข้าร้านชุดชั้นในนี่สิ เริ่มไม่ค่อยสนุก!“ฉันเข้าไปคนเดียวก็ได้ คุณไปเดินเล่นก่อน เสร็จแล้วฉันค่อยโทร. เรียกมาจ่ายตังค์”“ไม่ละ ผมขี้เกียจเดินไปเดินมา เข้าไปด้วยกันนี่แหละ” ไม่พูดเปล่า เขายังทรุดตัวนั่งไขว่ห้างรอด้วยมาดสุดเท่จนสาวๆ ในร้านหันมามองตาเยิ้ม “เผื่อคุณยังไม่รู้ว่าผมชอบรสนิยมแบบไหนจะได้ช่วยเลือกไง”ช่วยเลือกชุดชั้นในเนี่ยนะ เอาสมองส่วนไหนคิดคะ...“ชุดชั้นในฉัน ทำไมต้องแคร์รสนิยมคุณด้วยล่ะ”“ก็เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานนี้น่ะสิ”คนฟังใบหน้าแดงก่ำ อ้าปากหวอพูดอะไรไม่ออก ดูแววตาวิบวับคู่นั้นก็รู้ หมอนี่คิดอะไรอยู่...ตาหมีโรคจิต!“ฉันขอดูบราตัวนั้นหน่อยค่ะ”“ผมว่าตัวโน้นสวยกว่านะ”ภีรดาปรายตา
“ใช่คุณจริงๆ ด้วย ตอนแรกคาร่าก็นึกว่าคิดถึงคุณจนตาฝาดเสียอีก” ริมฝีปากแดงฉ่ำยิ้มเก๋ มองบุรุษรูปงามตรงหน้าอย่างดีใจ “นี่ต้องเป็นบุพเพสันนิวาสแน่ๆ เลย ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”คนฟังทำหน้าเมื่อยกับมุกอ่อยหนุ่มของนางแบบสาวสวยอย่างไม่คิดปิดบัง ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นอาจปลื้มปริ่มที่มีสาวสวยระดับตัวแม่มาทัก แต่นั่นใช้ไม่ได้กับเจ้าชายน้ำแข็งอย่างรวินรุตม์ที่ยังคงความเฉยชาได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้คนทักเริ่มประหม่าขึ้นมาเล็กๆ แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ให้ชายหนุ่มตรงหน้าที่เธอหมายตาว่าจะจับมาทำสามี“พอดีคาร่ามาเดินแบบงานเปิดร้านเพชรน่ะค่ะ แต่ตอนนี้เสร็จงานแล้ว ถ้าคุณไม่มีโปรแกรมที่ไหน เราไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกันนะคะ แถวนี้มีร้านอาหารเกาหลีเพิ่งเปิดใหม่ ได้ข่าวว่าเป็นสูตรต้นตำรับแดจังกึมด้วย...ไปนะคะ”ชายหนุ่มกำลังจะอ้าปากปฏิเสธคำชวนของอีกฝ่ายอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่หันไปเห็นร่างเพรียวบางกำลังเดินออกมาจากร้านหนังสือเสียก่อน“ไม่เลวนะครับ แต่ผมไม่ได้มาคนเดียว ถ้าคุณไม่ว่าผมขอพาไปด้วยอีกคนได้ไหม”คนชวนแอบทำหน้าเจื่อนเล็กน้อยที่ผิดแผนเพราะอยากไปแค่สองต่อสองมากกว่า แต่เมื่อคิดว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ตั
หลังจากพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่มาร่วมอวยพรและทำพิธีต่างๆ จนเสร็จและทยอยออกจากห้องหอไปจนหมด เหลือเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวตามลำพัง ภีรดาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลางหันไปมองใบหน้าหล่อเข้มของผู้ชายที่เธอเพิ่งตีตราจอง ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นเจ้าของเขาอย่างเป็นทางการแบบไม่อยากจะเชื่อในวาสนา ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงโก๊ะกังธรรมดาๆ อย่างเธอจะมีโอกาสได้เจอคู่ครองที่แสนจะเพียบพร้อมอย่างบุรุษตรงหน้าภีรดาคิดเพลินๆ จู่ๆ ดวงตาคมที่เจือประกายวับหวานก็เลื่อนมาสบตาพอดี“มองแบบนี้ไม่กลัวว่าผมจะอดใจไม่ได้บ้างเหรอ”“ถ้ากลัวคงไม่มองหรอกค่ะ” หญิงสาวทำปากดี ก่อนประคองใบหน้าคมสันที่แสนจะมีเสน่ห์ของเขาขึ้นมา “อา...เจ้าบ่าวของฉันหล่อจัง”รวินรุตม์มองคนตรงหน้าอย่างแสนรัก แต่บางสิ่งบางอย่างที่คอยรบกวนจิตใจทำให้เขาเผลอตัวถอนหายใจออกมาเบาๆ“เป็นอะไรไปคะ ทำไมคุณทำหน้าเครียดจัง เหนื่อยกับงานเหรอคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ “คุณมีอะไรในใจอยากบอกฉันหรือเปล่า อย่าบอกนะว่า...มาคิดเสียใจตอนนี้”“ผมไม่เคยเสียใจที่รักคุณ แต่...” คนพูดมีอาการอึกอัก ท่าทีเหมือนกำลังอยากจะบอกอะไรแต่แล้วก็เงียบไปดื้อๆ จนภีรดาชักเอะใจสงสัย และเธอก็ไ
“ที่พูดเมื่อกี้คุณพูดจริงใช่ไหม” เมื่อได้อยู่กันสองต่อสองในห้องพัก รวินรุตม์ก็หันมาถามหญิงสาวที่ทำหน้าตึง พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจฟังแต่แอบทำปากขมุบขมิบบ่นอะไรสักอย่างอยู่ก็นึกแปลกใจ“นั่นกำลังสวดภาณยักษ์ให้ใครอยู่เหรอ”นั่นแหละ ภีรดาจึงยอมเงยหน้ามา“เปล่าค่ะ...กำลังแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์และเจ้ากรรมนายเวร!”จากที่กำลังเครียด ชายหนุ่มก็เผลอหัวเราะพรวดออกมาทันใด“ขำอะไรคะ” ดวงตาเขียวปั๊ดตวัดมาอย่างเอาเรื่อง“อย่าบอกนะว่าคุณสวดให้รียาเขา”“ถ้าใช่แล้วจะทำไมคะ” สะบัดเสียงใส่นิดๆ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าทำเกินไป จึงหันมาพูดเสียงอ่อยลง “ฉันขอโทษค่ะ พอดีอินไปหน่อย แล้วนี่คุณจะทำยังไงต่อคะ จะไม่ลงไปช่วยคุณชารียาเขาจริงๆ เหรอคะ”รวินรุตม์ยื่นมือไปดึงร่างอรชรลงมานั่งเคียงข้างเขาบนโซฟาตัวเดียวกันแล้วโอบกอดเธอเข้ามาชิดใกล้“ไม่ละ ผมบอกแล้วว่าจะช่วยเท่าที่เพื่อนคนหนึ่งจะช่วยได้”“แล้วคุณไม่สงสารเธอเหรอ โดนสามีทำร้ายขนาดนั้น เธอคงหวังพึ่งคุณนะคะ แต่คุณดันหนีขึ้นห้องมากับฉันแบบนี้”“อย่าห่วงเลยแพน คนอย่างรียาเขาไม่ได้สิ้นไร้หนทางขนาดนั้น อีกอย่างนี่ก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวเขา ถ้าผมขืนเข้าไปยุ่งมันก็จะไม่
“เอ่อ...คือรียาอยาก...ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหมคะ ตอนนี้เขาให้คนไปเฝ้าที่คอนโดที่รียาเช่าอยู่ เข้าไปเมื่อไหร่ดลก็จะรู้ทันที รียากลัวเขาจะลงไม้ลงมืออีกค่ะ” เสียงสะท้านด้วยแรงสะอื้น“ผมคงให้คุณค้างที่นี่ด้วยไม่ได้ เพราะตอนนี้ผมต้องให้เกียรติคู่หมั้นของผมด้วย แต่เดี๋ยวผมจะลองถามนายเต้ให้ว่าที่โรงแรมเขาพอจะมีห้องว่างคืนนี้ไหม ผมจะได้ให้คุณไปพักที่นั่นก่อน”“ราล์ฟ!” ชารียาเบิกตาค้าง หน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าผิดแผนที่วางไว้ หางตาแลไปทางผู้หญิงที่สังเกตการณ์เงียบๆ ข้างกายเขาอย่างไม่พอใจ“ทำไมคุณถึงใจร้ายกับรียานัก คุณเคยขอรียาแต่งงานตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไม...” ในเมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอามารยาเข้าสู้ ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างเธอจะแพ้นังเด็กกะโปโลนี่“ผมจำได้...แต่คุณต่างหากที่ลืมว่าคุณได้ปฏิเสธโอกาสนั้นอย่างไม่ไยดีเอง เพียงเพราะรู้ว่าผมอาจจะต้องเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต”“เอ่อ...คุณกำลังเข้าใจผิดนะคะราล์ฟ ที่จริงตอนนั้นรียากำลังเครียดๆ เพราะเป็นห่วงคุณมาก ก็เลยเผลอพูดออกไปแบบนั้น แต่ตอนนี้รียาสำนึกได้แล้วว่าทำผิดต่อคุณ และต่อให้คุณเป็นอัมพาตตลอดชีวิตจริงๆ รียาก็จะไม่ทิ้งคุณอีก
พวงแก้มใสซับโลหิตระเรื่อ หายใจไม่ทั่วท้อง แอบรู้สึกตื่นเต้นหน่อยๆ เมื่อต้องเป็นฝ่ายคุมเกม“อ๊ะ...” มือใหม่หัดขับสะดุ้งนิดๆ ยามที่ร่างกายสอดประสานรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกับเขา ความใหญ่โตที่แทรกผ่านเข้ามาสร้างความอึดอัดให้หญิงสาวไม่น้อย“อย่าเกร็ง ปล่อยตัวตามสบายที่รัก อย่างนั้น อืม...เก่งมาก!” นักแข่งรถมือทองบอกอย่างใจเย็น ทั้งที่ร่างกายเขาร้อนจนแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ อยู่ร่อมร่อแล้ว มือหนาประคองบั้นท้ายกลมกลึงช่วยคุมจังหวะ แต่มันไม่ง่ายเลยเมื่อโดนความคับแน่นที่แสนนุ่มละมุนโอบรัดรึงตัวตนของเขาไว้เช่นนี้“ราล์ฟคะ...พะ...แพน...” เสียงหวานกรีดร้องลั่นแทบไม่เป็นภาษาด้วยความรัญจวน สมองปั่นป่วนขาวโพลนด้วยแรงปรารถนาลึกล้ำทุกคราวที่ขยับกายเข้าหาความใหญ่โตนั้น แต่เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชินและปรับตัวได้ ภีรดาก็เริ่มควบทะยานบิ๊กไบก์คู่ใจคันงามด้วยความเร็วแรงถึงใจ จนกระทั่งควงแขนเขาไปสู่จุดหมายปลายทางความสุขและเข้าเส้นชัยพร้อมกันได้อย่างสวยสดงดงาม“แพนรักคุณ...รักที่สุดเลย!” เสียงหวานกระซิบที่ข้างหูราวกับละเมอ ก่อนที่ร่างบางจะซวนซบลงที่อกแกร่ง หอบหายใจถี่กระชั้นอย่างหมดแรงคำที่เป็นดั่งน้ำทิพย์ชโลมห
ดวงหน้าใสแดงซ่าน เมื่อยามที่มือได้สัมผัสของรักของหวงชิ้นสำคัญของคนรักแบบเอกซ์คลูซีฟสุดๆ เมื่อเห็นเขามีปฏิกิริยากัดฟันเหมือนกำลังอดกลั้นอารมณ์อย่างหนักยามที่เธอเริ่มขยับมือขึ้นลงทักทายเจ้านกเขาขี้เซาตัวนั้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนมันเริ่มมีทีท่าว่าจะแข็งขึงขึ้นมาทีละนิดๆ ดวงตากลมโตซุกซนก็ทอประกายวาวเพราะรู้ว่าตนมาถูกทาง ยิ่งเห็นคนตัวโตมีอาการหายใจสะดุด และสูดปากหนักขึ้นก็เริ่มย่ามใจ ขุดบทเรียนสยิวกิ้วที่เขาเคยสอนให้ออกมาใช้เต็มเหนี่ยวร่างแกร่งถึงกับผวาสะท้าน เกร็งเยือกไปทั้งร่าง เมื่อจุดอ่อนไหวถูกสัมผัสด้วยความชุ่มชื้นจากปลายชิวหาอันอ่อนนุ่มเบาๆ เลือดในกายหนุ่มก็เดือดพล่าน“รู้ตัวไหมว่าทำอะไรอยู่”“ชอบไหมคะ” ไม่ทันได้คำตอบ มือใหญ่ก็เผลอขยุ้มเส้นผมสวยและกดศีรษะอีกฝ่ายเข้าหากายแกร่งอย่างลืมตัว ภีรดาช้อนสายตาหวานฉ่ำมองคนรักหนุ่มรูปงามด้วยอารมณ์หวามไหวรัญจวน เธออยากทำให้เขามีความสุขที่สุดให้สมกับความรักที่เขามอบให้“พะ...พอก่อนที่รัก ผมจะมะ...ไม่ไหวแล้ว” เสียงกระเส่าเซ็กซี่ขาดเป็นห้วงๆ บอกถึงความทรมานของคนพูด“ไม่ไหวแล้วจะทำไมคะ...” จอมซนทำใจกล้าถามยั่วอย่างก๋ากั๋น ดวงตาใสแจ๋วฉายรอยเจ้าเล่ห์ยา
ตอนนี้อะไรๆ ก็พ่อราล์ฟลูกแม่ๆ ส่วนลูกสาวตัวจริงอย่างเธอน่ะเหรอ ก็ตกกระป๋องเป็นแพนด้าหัวเน่าไปตามระเบียบน่ะสิ แตะว่าที่ลูกเขยคนโปรดนิดแม่ก็คำรามใส่ฮึ่มๆ แล้ว ไม่ต้องพูดถึงยมุนาพี่สาวเธอ ขานั้นนิยมคนหล่อเป็นชีวิตจิตใจ เอะอะก็ว่าที่น้องเขยๆ ยิ่งตอนไปอัลตราซาวนด์แล้วรู้ว่าลูกในท้องเป็นผู้ชายด้วยแล้ว พี่สาวเธอก็แทบจะนั่งจ้องหน้าว่าที่น้องเขยอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อซึมซับความหล่อวัวตายหล่อควายล้มทางสายตาให้ลูกชายในท้องกันเลยทีเดียว“อ้อนเข้าไปๆ ตอนนี้ลูกแท้ๆ จะไม่มีที่ยืนอยู่แล้วนะคะ”“ก็ไม่ต้องยืนสิ คุณก็นอนแทน ถ้าไม่มีที่นอนไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเจียดเตียงผมให้ครึ่งนึง ไม่ได้กอดคุณตั้งนานจนผมใกล้จะลงแดงตายแล้วเนี่ย” ดวงตาคมๆ แพรวพราวอ้อนอย่างเจ้าเล่ห์ “เราเลื่อนกำหนดงานแต่งเป็นพรุ่งนี้เลยดีไหม”วาบ! แก้มใสๆ แดงเห่อจนถึงกกหู เขินจนอยากจะเอาหัวมุดใต้โต๊ะ ทำไมเขาถึงพูดจาน่าตบด้วยปากแบบนี้ล่ะ แค่นี้เธอก็ตกบ่วงจนตะกายขึ้นมาจากหลุมไม่ได้แล้ว แล้วดูนั่น ยังมีหน้ามาส่งยิ้มหวานกระชากใจให้อีก อย่ารอพรุ่งนี้เลย หอบผ้าหอบผ่อนหนีตามกันไปอยู่ด้วยซะวันนี้เลยเหอะ!“อย่ามาตลกค่ะ การ์ดแจกไปหมดแล้วเปลี่ยนทันที่
‘ไฮโซหนุ่มนักแข่งรถมือทองสุดฮอตตั้งโต๊ะแถลงข่าวเตรียมความพร้อมล่าแชมป์ซูเปอร์ไบก์หลังอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถล้มตอนซ้อมหายเป็นปกติ พร้อมทำเซอร์ไพรส์ขอหวานใจพริตตีสาวสุดแซ่บที่ซุ่มคบหากันมาพักใหญ่แต่งงาน สร้างตำนานซินเดอเรลลาแห่งยุค 4.0 สุดโรแมนติก หักอกสาวๆ ค่อนเมือง...’ข่าวพาดหัวบนสื่อยักษ์ใหญ่หลายสำนัก พร้อมคลิปฉากบอกรักบันลือโลกแพร่กระจายในโลกออนไลน์จนติดอันดับในยูทูปอยู่นานเป็นเดือน พลอยทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทไลอ้อนดริงก์ที่ภีรดาเป็นพรีเซนเตอร์มียอดขายถล่มทลายติดลมบนเครื่องดื่มยอดฮิตสำหรับซินเดอเรลลายุคใหม่ และหนึ่งในสาวๆ ที่อกหักนั้นก็มีชื่อของ...ชารียา...ติดโผอยู่ในนั้นด้วยอีกคน สาวหน้าหวานกระแทกโทรศัพท์มือถือลงอย่างเจ็บใจ เมื่อเห็นคลิปอดีตคนรักที่เธอเพิ่งสลัดทิ้งไปอย่างไม่ไยดีเพราะคิดว่าเขาจะพิการไปตลอดชีวิต แต่กลับมาสารภาพรักกับผู้หญิงกะโหลกกะลาที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็แพ้เธอทุกประตู คิดแล้วก็น่าเจ็บใจ ในขณะที่เธอกำลังมีปัญหากับสามีจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน รวินรุตม์กลับกำลังมีความสุขกับว่าที่เจ้าสาวโลโซของเขา“บ้าชะมัด! เรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง” หญิงสาวกำมือแน่นด้วยคว
ราวกับมีใครกดปุ่มหยุดเวลาไว้ ทุกสิ่งรอบกายของหญิงสาวกลายเป็นภาพเลือนลางไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อเธอได้ลอยละล่องอยู่ในอ้อมกอดแสนอบอุ่นอ่อนโยน ความหวานล้ำแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูขุมขน ซึมลึกลงไปในหัวใจ ความรู้สึกที่ถูกสะกดห้ามไว้ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยฤทธิ์เสน่หาแห่งรอยจูบอันร้ายกาจนั้นรวินรุตม์กดยิ้มมุมปากอย่างสมใจเมื่อรับรู้ถึงการโอนอ่อนของอีกฝ่ายที่ตอบกลับมาอย่างอ่อนหวาน ความห่วงหาอาทรระหว่างเขากับเธอถูกถักทอรัดร้อยเข้าไว้ด้วยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็สุดจะรู้ได้ แต่เมื่อตอนนี้รู้แล้วเขาก็ไม่คิดจะปล่อยคนในอ้อมแขนให้ไปเป็นของใครอื่นอีกเขารักเธอ...รักแม่สาวแพนด้าจอมยุ่งคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว“ทีนี้จะลงเอยได้หรือยัง หืม?” เสียงกระซิบนุ่มหวานล้อร่างเพรียวระหงที่แข้งขาอ่อนปวกเปียกจนต้องยืนพิงอกเจ้านกยักษ์ตัวร้ายอย่างหมดเรี่ยวแรง “หรือต้องให้ใช้ไม้ตาย...เฟรนช์คิส!”คำถามนั้นไม่มีใครได้ยินนอกจากหญิงสาวผู้ต้องมนตร์สะกดของหมีขั้วโลกในคราบนกยักษ์ตัวร้ายอย่างภีรดาเท่านั้น เธอทำได้แค่เสหลบตาคมๆ ที่มองมาด้วยเกรงว่าจะใจอ่อน ทั้งที่ความจริงเธอหมดมุกจะเล่นแล้วก็ตาม“คนหน้าไม่อาย คิดเหรอว่าจูบของคุณจะทำอะไรฉัน
“เพราะผมรักคุณไง!” เสียงที่ตอบออกมานั้นทั้งมั่นคง หนักแน่น แววตาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเฮือก! เสียงลมหายใจคนโดนบอกรักแบบไม่ทันตั้งตัวสะดุดกึก พร้อมกับบรรยากาศรอบข้างที่ชะงักงันไปชั่วครู่ ภีรดาหน้าแดงระเรื่อ หัวใจเต้นกระหน่ำรัวจนเกือบจะทะลุออกมานอกอก กับคำที่ยืนยันว่าการเดิมพันครั้งนี้ของเธอสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ อีกด้านตติยะที่ยืนเป็นพยานรักถึงกับดีดนิ้วเปาะด้วยทีท่าสาสมใจที่สามารถง้างปากเพื่อนรักได้“คะ...คุณว่าอะไรนะ” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็นานเกือบนาทีเต็มๆ“ผมบอกว่าผมรักคุณ...แพนด้า” ดวงตาเข้มคมมองสบตาหญิงสาวอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกอีกต่อไป “คุณล่ะรู้สึกแบบเดียวกันหรือเปล่า”คนถูกถามยกมือปิดปากถึงกับอึ้งจนไปไม่เป็น กะจะเล่นตัวอีกสักหน่อย แต่ขอบตาก็ดันร้อนผ่าวมีละอองน้ำคลอคลอง ลำคอตีบตันจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่งจนคนรอบข้างต้องเงียบรอลุ้นกับคำตอบของสาวเจ้า“ตอบเลย!” เสียงใครคนหนึ่งในกลุ่มคนดูตะโกนเชียร์ดังขึ้น และคนอื่นๆ ก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ตามทีละคนสองคนจนดังไปทั่วบริเวณนั้น “ตอบเลยๆๆ”งานเข้าละ! เล่นเอามวลชนมากดดันแบบนี้เธอก็แย่สิเอาไงดีๆ แพนด้าเอ๋ย...รีบตอบรับไปก็ดูจะใจง่า