Home / โรแมนติก / ภริยา(ไม่)รักของนายหัว / บทที่ 14 “โกหก! ลูกฉันเป็นเด็กดี ไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่”

Share

บทที่ 14 “โกหก! ลูกฉันเป็นเด็กดี ไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่”

last update Last Updated: 2024-10-28 22:43:10

“มิ้ง”

วัชรมัยสะดุ้งเฮือก โทรศัพท์ในมือแทบหล่น หันมองคนเรียก ร่างสูงยืนจังก้าเท้าสะเอว หน้าดุเป็นยักษ์ปักหลั่น

“พะ...พี่ป้องมีอะไรเหรอคะ”

เธอกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ เหลือบดูเวลาบนหน้าจอมือถือ แค่บ่ายโมงนิด ๆ เอง ยังไม่ถึงเวลาไปรับลูกเสียหน่อย

ไผทบีบนิ้วเกร็งแน่นกับเอวสอบของตน หักห้ามใจกับใบหน้าใสซื่อ ที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าเขาต้องขับรถลุยสวนลำบากขนาดไหน

ที่วัชรมัยเดินมาไม่ใช่มีถนนรถใหญ่ผ่านได้ เป็นเพียงทางลัดเล็ก ๆ เข้าสู่สวนผลไม้ ซึ่งปลูกไว้พอให้ได้กิน

ระหว่างขับรถมาด้วยเจอดินตะปุ่มตะป่ำ ตัวเขากระเด้งกระดอนจนปวดก้นไปหมด เดี๋ยวเถอะ ต้องให้คนงานตัดหญ้าให้เหี้ยน ปรับพื้นที่ให้เรียบ

“ครูที่โรงเรียนปราบเรียกผู้ปกครองไปพบ”

ใจวัชรมัยกระตุกวาบ

“เกิดอะไรขึ้นกับลูกเหรอ”

“ปราบต่อยเพื่อน”

หญิงสาวไม่อยากเชื่อ ลูกชายที่ทั้งว่าง่าย อารมณ์ดีขนาดนั้น เหตุใดจึงทำร้ายเพื่อน

“ไปค่ะ พี่ป้อง ไปหาลูกกัน”

ร่างเล็กเป็นฝ่ายวิ่งเสียเอง ไปยังรถที่จอดอยู่กลางดงหญ้า

“ครูบอกไหมคะ ทำไมปราบถึงต่อยเพื่อน”

รถคันโตวิ่งฉิวกลับสู่ถนนเส้นหลัก ใจทั้งสองลอยไปโรงเรียนอนุบาลเรียบร้อยแล้ว

“ครูยังไม่บอกรายละเอียดเลย”

วัชรมัยปร
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทที่ 15 “ลูกเมียกินอะไร ฉันก็จะกินอย่างนั้น”

    “ปราบ ไปนั่งข้างหลัง เดี๋ยวแม่หนัก”เด็กชายตัวจ้อยยังซุกอกอบอุ่น กลิ่นหอมชวนให้รู้สึกปลอดภัย ศีรษะเล็กส่ายไม่ยินยอม ยามวัชรมัยเปิดประตูรถที่นั่งข้างคนขับ“ปราบ...”ไผทเรียกลูกอีกครั้งด้วยเสียงอันกดต่ำ“ไม่เอา ปราบจะนั่งกับแม่”เจ้าหนูยืนยันคำเดิม ผู้เป็นพ่อกำลังจะเอื้อมไปแกะมือเหนียวหนึบเป็นโคอาล่าออก หญิงสาวก็วางลูกชายลงให้ยืนบนพื้นรถเสียก่อน“ให้นั่งกับมิ้งเถอะค่ะ พี่ป้องอย่าเพิ่งดุลูก ปราบยังใจไม่ดี”ไม่รอคำอนุญาต วัชรมัยขึ้นรถ อุ้มลูกนั่งตัก เจ้าตัวดีเอนศีรษะซุกอกมารดา มองตอบผู้เป็นบิดาตาแป๋ว“ถ้าพี่ป้องกลัวปราบไม่ปลอดภัย มิ้งจะกอดลูกให้แน่น ๆ จะปกป้องแก สาบานด้วยชีวิต”แววตาที่ส่งมาบ่งบอกความไม่ยอมแพ้และมุ่งมั่น ไผทถอนหายใจแรง ยอมไปนั่งประจำที่คนขับ และสตาร์ทรถเคลื่อนออกไป“แม่เท่ที่สุดเลย สู้กับพ่อกัปตันได้ด้วย”สกลกันต์คุยหงุงหงิง ภูมิใจมากที่วัชรมัยตัวนิดเดียว กลับสู้นายตำรวจตัวโตท่าทางดุดันน่ากลัวได้“แม่เก่งอย่างนี้ จะไม่ทิ้งปราบไป จะอยู่ด้วยกันตลอดใช่ไหมครับ”สายตาเธอกับเขาสบกัน ก่อนหญิงสาวจะเป็นผู้หลุบหลบเองอย่างมีพิรุธ“แม่อยู่กับปราบนะ ไม่ต้องกลับไปสวรรค์แล้ว ปราบจะไม่ตี

    Last Updated : 2024-10-28
  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทที่ 16 “ฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าเธอไม่โกหก”

    “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...”วัชรมัยทอดเสียงอ่อนหวาน เล่าเรื่องเจ้าม้าลายจอมซนผจญภัยมีบางจังหวะที่ถูกขัด“แม่ครับทำไม...”เธออธิบายให้ลูกเข้าใจอย่างใจเย็น จนสกลกันต์พยักหน้า เริ่มเล่าต่อ ไม่ทันไรคนอนตรงกลางก็ส่งเสียงอีก“แม่ครับปราบว่า...”ไผทคิ้วกระตุก ปรกติสกลกันต์ไม่เคยถามรัว ๆ แบบนี้ มารดาก็อธิบายใจเย็น รอยยิ้มประดับบนริมฝีปากตลอด“แล้วเจ้าม้าลาย...”เธอเล่าต่อ ไผทไม่ได้สนใจเนื้อหาในนิทาน ตาจับจ้องไปยังริมฝีปากบางสีชมพู หูจับเสียงหวานใสที่เอื้อนเอ่ยวัชรมัยคือแม่ค้าน้ำปั่นหน้าแฉล้มข้างร้านอุปกรณ์การเกษตร เขาที่รอคนงานขนของขึ้นรถ ทั้งเบื่อและร้อน จึงช่วยอุดหนุนน้ำปั่น รสมือวัชรมัยไม่เหมือนใคร“อร่อยไหมคะนายหัว”ดวงตาซื่อ ๆ มองเขาอย่างคาดหวัง นานมากที่ไม่เห็นแววตาแบบนี้ ไผทมักเจอแต่สายตายั่วยวนแบบแม่เสือสาว พร้อมจับเขาขึ้นเตียงกลืนลงท้องความใสของวัชรมัยจึงเป็นความแปลก ทีแรกคิดว่าแค่เผลอติดใจสาวหน้าใหม่จากต่างถิ่นไป ๆ มา ๆ กว่าจะรู้ตัวก็ตอนวิเชียรแซวเรื่องแม่ค้าน้ำปั่นผู้น่ารัก ที่เขาเทียวไปสั่งกินทุกครั้งยามเข้าจังหวัดไผทจึงรู้ตัวว่าไม่ได้เผลอ แต่ติดใจวัชรมัยเข้าอย่างจัง เธอทำให้

    Last Updated : 2024-10-28
  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทที่ 17 “แม่เป็นอะไรเหรอ ปราบเป่าเพี้ยง ๆ ให้ได้นะ”

    “ห่ะเอ้ย! นายหัว”วิเชียรถอนหายใจโล่งอกทันที เมื่อเห็นหน้าเจ้าของร่างที่นอนเหยียดยาวบนพื้นทราย ทีแรกคิดว่าเป็นศพลอยเกยหาดเสียอีก“มาทำอะไรที่นี่แต่เช้าครับ”หัวหน้าคนงานพิจารณาอีกที เจ้านายสวมชุดเดิมเมื่อวานไม่ใช่เหรอ“เรื่องของกู มึงล่ะแหกขี้ตามาทำไม”ไผทตามองไปยังท้องฟ้าเวลาหัวรุ่ง ความสว่างไล่ผืนราตรีกาลอันดำมืด เริ่มมองเห็นสรรพสิ่งได้ราง ๆ คลื่นทะเลซาดซัดชัดเจนขึ้น มีเสียงนกบินเซ็งแซ่ออกจากรังวิเชียรในกางเกงขาสั้นเสื้อบอล รองเท้ากีฬาสีขาวมอซอ ทรุดนั่งลงแปะข้างเจ้านาย“มาวิ่งสิครับ ถามได้”ลมทะเลพัดเย็นสบาย อากาศสดชื่น สูดลมหายใจได้เต็มปอด หาดแห่งนี้อยู่ท้ายสวนปาล์ม ไม่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวอื่น มีโขดหินเยอะ มักโผล่ลงตอนน้ำลงทัศนียภาพไม่เรียบรื่นตา มีความเป็นธรรมชาติอยู่สูง ทั้งทิวต้นไม้เขียว เถาผักบุ้งทะเลเลื้อยระเกะระกะทอดยาวเกือบครึ่ง เรียกได้ว่าแทบจะเป็นหาดส่วนตัว“เพื่อสุขภาพที่ดี จะได้มีชีวิตอยู่นาน ๆ”ตอบไปโดยไม่คิดจะไปสะกิดใจคนนอนอยู่ ทั้งสองเงียบไปครู่ จนเจ้านายเอ่ย“มึงจะทำยังไงวะเชียร ถ้ารู้ว่าคนรู้จักกำลังจะตาย”“ฮ่ะ...”ลูกน้องขมวดคิ้ว หน้าเจ้านายนิ่งมาก จึงคิดว่าเป็น

    Last Updated : 2024-10-28
  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทที่ 18 “พี่ป้องเป็นแค่พ่อของลูก ไม่ใช่ผัวมิ้งเสียหน่อย”

    “ฮึก...ปราบไปด้วยไม่ได้เหรอ”สกลกันต์เกาะขามารดาแน่นหนึบ เงยหน้าจ้องเธอด้วยน้ำที่รื้นตา นี่คือเหตุการ์หนึ่งวันก่อนวัชรมัยและไผทจะไปกรุงเทพฯทั้งสองเรียกลูกมาคุย บอกจะให้สกลกันต์อยู่รออยู่บ้าน วานป้านิดกับวิเชียรช่วยดูแล“พ่อกับแม่จะไปทำธุระสำคัญกัน เด็กไปด้วยไม่ได้” คำพูดของไผทยิ่งทำให้ศีรษะเล็ก ๆ ส่ายหนัก“ปราบขอไปด้วย สัญญาจะอยู่นิ่ง ๆ ไม่ดื้อ ไม่ซน”สกิลการต่อรองถูกนำมาใช้อีกครั้ง วัชรมัยอยากจะใจอ่อน แต่ครั้งนี้ยอมลูกไม่ได้จริง ๆ“ที่ที่พ่อกับแม่จะไปไม่เหมาะกับเด็กหรอกครับ เราไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ เอาอย่างนี้ไหม จะซื้อขนมมาฝากปราบเยอะ ๆ เลย”คนสะอื้นฮักมีลังเล“แม่จะกลับมาใช่ไหม ไม่พาพ่อไปสวรรค์ด้วยนะ ปราบไม่ยอม ไม่อยากอยู่คนเดียว”วัชรมัยจนใจ ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังไผท“ปราบ หยุดร้อง พ่อจะพาแม่กลับมาแน่ พ่อเคยผิดสัญญากับปราบไหมหือ?”เด็กน้อยมองมารดาสลับบิดา“ใช่ครับคุณปราบ เดี๋ยวนายหัวก็กลับมา ถ้าคิดถึงโทรหากันก็ได้”วิเชียรรีบเสริม สงสัยอยู่เหมือนกันตอนนายหัวมาฝากคุมงาน บอกจะพาวัชรมัยไปกรุงเทพฯปรกติไปไหนไกล ๆ ไผทจะแจ้งเหตุผลในการไปเสมอ มีเพียงครั้งนี้ที่แปลกไป เจ้านายบอกพร้อม

    Last Updated : 2024-10-28
  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทที่ 19 “ฉันไม่มีวันให้อภัยเธอ”

    มื้อกลางวันเป็นไปอย่างราบรื่น ...แบบวัชรมัยรีบ ๆ กินให้จบ ๆ ขณะไผทตักอาหารเข้าปาก ตาก็จ้องเธอเขม็งคิดว่าเรื่องวันนี้จบแล้ว กลายเป็นพ่อของลูกลากเก้าอี้มาจากไหนไม่รู้มานั่งเฝ้าเธอในห้องทำงานวัชรมัยจ้องเขาอยู่นานมาก นิคกี้ยืนทำตัวลีบแทบติดผนัง ไผทยกมือกอดอกมองเธอนิ่ง“พี่ป้องออกไปก่อนได้ไหมคะ มิ้งต้องทำงาน ไม่มีสมาธิ”“พี่แค่อยู่ในห้องเฉย ๆ”ไผทอยากรู้ งานอะไรกันหนอที่วัชรมัยทุ่มเท หลงใหลจนลืมดูแลสุขภาพ ในเมื่อเธอกลับมาเป็นแม่ของสกลกันต์ กลับมาเป็นเมียเขาแล้ว ไผทต้องดูแล ไม่อยากให้สุขภาพวัชรมัยทรุดลงกว่านี้รู้อยู่หรอกว่าสักวันเธอต้องตาย แต่ไม่ต้องตายเร็วก็ได้ เขา...แค่ก สกลกันต์จะเสียใจ ไผทไม่อยากเห็นน้ำตาลูก“ไม่ได้ทำลายสมาธิเสียหน่อย งานเธอต้องปลีกวิเวกขนาดนั้นเลยหรือไง”เจ้าของห้องเม้มปาก เธอทำงานได้ทุกทีที่อยู่แล้ว เพียงไม่ชอบสายตาที่มอง จ้องเธอราวทะลุปรุโปร่ง รู้สึกถึงความไม่ไว้ใจ“แล้วอย่างนี้จะกลับไปอยู่บ้านนอกคอกนา อย่างสวนปาล์มของฉันได้ยังไง”นายหัวจี้จุดอ่อน คิ้วเรียวขมวดแล้วคลาย พรูลมหายใจยาว“งั้น...เอาที่พี่ป้องสบายใจเถอะค่ะ”วัชรมัยยอมแพ้ ไม่ห้ามแล้ว เถียงไปก็เหนื่อยเอง

    Last Updated : 2024-10-28
  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทที่ 20 “อืม...ให้แล้วไม่เอาคืน”

    “มิ้งขอโทษ ถ้าชาตินี้พี่ป้องไม่ให้อภัย ชาติหน้าถ้าเกิดใหม่ จะยอมเป็นช้างม้าวัวควายไถนารับใช้พี่”ปากสีอ่อนสั่น เสียงเครือ ภาพร่างใหญ่โตที่เคลื่อนเข้าใกล้ยิ่งรางเลือนด้วยน้ำตา“ช้างม้าวัวควายที่ผอม ๆ อย่างเธอ ฉันเลี้ยงไว้ก็เปลืองหญ้าเปล่า ๆ”ไผทไร้เยื่อใย แม้ความเอื้ออาทรข้ามภพข้ามชาติยังไม่มีให้ วัชรมัยมัวแต่เสียใจ รู้ตัวอีกทีก็รับรู้ถึงความอุ่นแข็งแรงมาไล้ใต้ตาบวมช้ำ“อีกอย่างถ้าเธอไม่ได้เกิดใกล้ ๆ ฉัน ถ้าเกิดเป็นเต่าล่ะจะทำยังไง”มีเสียงหึในลำคอคนพูด เธอคงเมาน้ำตากระมัง เพราะมองเห็นริมฝีปากสีเข้มแย้มยิ้ม“ฉันไม่โดนจับฐานใช้งานสัตว์ป่าคุ้มครองเหรอ”“พี่ป้อง...”วัชรมัยไม่ได้ตาฝาด เสน่ห์อย่างหนึ่งที่เธอเคยหลงเขาคือไผทชอบปล่อยมุกหน้าตาย ...ใครไม่ตลกแต่เธอตลก เป็นมุมน่ารัก ๆ ของนายหัวตัวโต“มิ้งซีเรียสนะคะ”เธอสูดลมหายใจดังฟืด ปลายจมูกแดงเพราะเป่าปี่หนัก“มิ้งกำลังจะตาย อยากขออโหสิกรรม”“ปอดแหกจริง มะเร็งมันก็แค่โรค ๆ หนึ่ง เหมือนปวดฟันนั่นแหละ รักษาแล้วเดี๋ยวก็หาย”แก้มคนร้องไห้ป่อง ปากแดงสีสดเม้ม ขนาดร้องไห้ตายังแวบวาว บ่งบอกความไม่พอใจ ซึ่งไผทก็พอใจแล้ว ที่เธอเปลี่ยนอารมณ์ ลดความเศร้

    Last Updated : 2024-10-28
  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทที่ 21 “พี่ป้องบอกจะเป็นผัวมิ้งไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่ให้รุ่มร่ามกับพี่ จะให้มิ้งไปรุ่มร่ามกับใคร”

    รถใต้ดินยามเย็นใกล้เลิกงานคนเยอะ ช่วยไม่ได้ที่วัชรมัยจะโดนเบียด แต่ไม่อึดอัดนัก เพราะมีกำแพงอกแน่นคอยกั้นอยู่หูติด ๆ ดับ ๆ ฟังประกาศชื่อสถานีไม่ชัด ศีรษะก้มหงุดตาเห็นแต่ปลายเท้าตนเองปรกติวัชรมัยเจอแต่ไผทเวอร์ชันร้อนแรง ไม่ปากร้าย ก็ทำหน้าดุ ฉุดกระชากลากถูเวอร์ชันนิ่งแบบนี้เธอไม่ชิน ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบเดียวกับไผทคนเดิมเมื่อห้าปีก่อน ...คนที่มาจีบเธอ แต่เพราะเราห่างกันมานาน ความรู้สึกจึงแปลก ๆ ...ต่อกันไม่ติด เขินอายรถไฟฟ้าแล่นนานมากในความรู้สึกหญิงสาว แต่ละสถานีผู้คนทยอยขึ้นมาเบียดพื้นที่เต็มขบวนทุกครั้งที่ประตูเปิดเสียงผ้าสวบสาบ เสียงพูดคุย ไม่ได้เข้าหูวัชรมัย มีเพียงใบหน้าที่แดงจัดจากการชิดใกล้จากร่างสูง แขนเปลี่ยนมาเท้าเหนือศีรษะ กักเธอไว้ในอ้อมกอด รู้สึกถึงลมหายใจเป่ารดกระหม่อม“พี่ป้อง...”ใกล้เกินไปจนแทบสิง วัชรมัยขยับหนี“อยู่นิ่ง ๆ อย่ายุกยิก เดี๋ยวชนคนอื่นหรอก”ดุอีกแล้ว เพิ่งทำเหมือนจะจีบเธอเมื่อครู่เองนะ วัชรมัยเงยหน้า ตวัดสายตามอง เบ้ปากใส่ น่ารักจนบางคนอดใจไม่ไหว มอบจุมพิตเบา ๆ แตะริมฝีปาก“พี่ป้อง!” ตาเธอเบิกโต สมองพองแทบระเบิด ไผทจูบเธอในที่สาธารณะ ท่ามกลางผู้คนบนรถไ

    Last Updated : 2024-10-28
  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทที่ 22 “ฉันไม่กินขี้มือคนอื่นนอกจากเมียหรอก”

    ร้านอาหารที่ไผทพาเธอเข้ามาเป็นร้านอาหารอินเดีย มีหนุ่มหนวดหน้าคมเข้มพูดไทยแบบรอเรือลิ้นรัวคอยแนะนำเมนูอาหาร“อะไรอร่อย เอามาเลย”เขาสั่งอาหารแบบสิ้นคิด ขณะวัชรมัยเปิดดูเมนูของหวาน ตอนอยู่นิวยอร์คเธอเคยกินอาหารอินเดียแบบเทคอะเวย์ง่าย ๆ อย่างไก่ทันดูรี หรือบริยานี่ มีเครื่องดื่มลาซซี่มะม่วงเป็นของหวานพนักงานแนะนำนานกระเทียม นานชีส ซาโมซ่า ชิคเก้นบัตเตอร์ ไก่ทันดูรี แกงผักโขม ยำถั่วลูกไก่กับแกงแกะอะไรสักอย่างเมนูแรกเป็นออร์เดิร์ฟแป้งพองก้อนกลมมาพร้อมเครื่องเคียงในถ้วย มีแบบเป็นน้ำ ๆ ด้วย“ปานิปูรีครับ”วัชรมัยกับไผทมองหน้ากัน คิดอยู่ว่าต้องกินอย่างไร“เอานิ้วโป้งเจาะรูตรงกลาง ใส่ไส้ ราดน้ำ เอาเข้าปากครับ”พนักงานสอนลูกค้าอย่างใจเย็น เธอเป็นคนเริ่มก่อน เจาะรูปแป้งกลมอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ตักไส้สีเหลืองใส่ ราดน้ำสีเขียวกับสีน้ำตาล เอาเข้าปากได้รสซ่าจากมิ้นท์ ความเปรี้ยวนนุ่มนวลจากน้ำมะขาม มีรสเผ็ดพริก เค็ม มันจากมันฝรั่งผัด“อร่อยดีนะคะ”กรอบ ๆ เปรี้ยว ๆ ซ่า ๆ เคี้ยวเพลิน เหมือนข้าวเกรียบจนเธอต้องทำกินเป็นอันที่สอง“กร๊อบ...”เหลือบตาดูอีกทีปานิปูรีลูกน้อยก็แหลกคามือสีทองแดงแล้ว คิ้วเรียวขมว

    Last Updated : 2024-10-28

Latest chapter

  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทพิเศษ ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

    พักนี้มักมีข่าวลือเกี่ยวกับนายหัวไผทกับเมียแปลก ๆ อย่างเช่นเขาเลี้ยงเมียอด ๆ อยาก ๆ ไม่ค่อยยอมให้กินเนื้อสัตว์ ผู้เห็นเหตุการณ์คนที่หนึ่งเล่าว่า“วันก่อนฉันไปซูเปอร์มาร์เก็ต นายหัวอ่ะนะ พอเห็นเมียหยิบไส้กรอกเยอรมันกับแฮมสเปนใส่รถเข็นปุ๊บก็หยิบออกปั๊บ เมียหน้าบึ้งหน้างอบอกว่าอยากกินเท่าไรก็ไม่ให้กิน”ผู้เล่าจีบปากจีบคอทำตาเล็กตาน้อยสมใจ เมื่อในกลุ่มเม้าท์เงียบกัน ท่าทางตั้งใจฟังมาก“แต่พอลูกอ้อนเท่านั้นแหละ รีบหยิบกลับมาใส่ทันที”“ว่าแล้ว...นายหัวยอมรับกลับมาเป็นเมียแค่อยากให้กลับมาเป็นแม่ของลูก อยากแค่ให้ครอบครัวสมบูรณ์”คนตั้งใจฟังตบเข่าฉาด“ใช่ ๆ นายหัวน่ะขี้เหนียว ตอนไปรับลูกฉันเคยได้ยินว่าเมียบอกอยากไปกินข้าวนอกบ้าน แกดุเมียใหญ่ว่าไม่ต้องไป ให้กินที่บ้านน่ะดีแล้ว อยากกินอะไรก็ทำกิน”ผู้ปกครองนักเรียนอนุบาลท่านหนึ่งรีบเสริม“ใช่ ๆ ฉันเคยเจอที่ร้านคาเฟ่น้องเก๋ นายหัวไม่ให้เงินเมียใช้สักบาท อยากกินอะไรก็ต้องแบมือขอผัว”“เมียที่ผัวไม่รักชัด ๆ”เสียงถอดถอนหายใจ แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้ม ตาสั่นระริก“แต่แกก็ไม่มีใครนอกจากเมียนี่”สาวนางหนึ่งรีบใส่ไฟ“ที่ไม่ยอมมีใครเพราะนายหัวเห็นแก่ลูก ทำตั

  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทพิเศษ สามคืน 6

    การประชุมสมาชิกหอการค้าจังหวัด เริ่มต้นอย่างน่าเบื่อ นักการเมืองท้องถิ่นขึ้นมาพล่ามไร้สาระขายฝันเพื่อหาเสียง ก่อนนายกสมาคมจะกลับมาครองไมค์ได้เข้าสู่ช่วงการประชุมที่แท้จริงหลัก ๆ เป็นการพูดถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจของภาคและจังหวัดนายกสมาคมไม่ใช่คนหัวโบราณ แต่ยังกลัวนักธุรกิจรุ่นเดียวกันตามไม่ทัน จึงมีทั้งคลิปพรีเซนเทชั่น ทั้งกราฟให้ดูไม่ใช่การประชุมที่แย่นักในสายตาไผท ช่วงพักเบรกนักธุรกิจแยกนั่งคุยเป็นกลุ่ม ๆ เขายังเลือกนั่งกับเถ้าแก่ฮงและหนุ่มสถาปนิกเถ้าแก่ฮงวิดีโอคอลกับหลาน ๆ ของลูกอีกคนที่อยู่ในอเมริกา เสียงสองเสียงสามแสดงความเป็นอากงใจดีเรียกรอยยิ้มจากสมาชิกร่วมโต๊ะได้“ลูกเฮียนี่เก่งจริง ๆ ได้เรียนต่อถึงเมืองนอกเมืองนา แถมยังได้เมียฝรั่ง มีหลานลูกครึ่งน่ารัก”ผู้พูดเป็นเจ้าสัวภัตตาคารอาหารจีนขึ้นชื่อของจังหวัด“มันกระตือรือร้นของมันเอง ใครจะไปคิดล่ะว่าแค่เรียนถ่ายรูปก๊อกแก๊ก ๆ เผลอแป๊บเดียวมันได้ทุนเรียนต่อเมืองนอก เรียนจบมันบอกได้ทำงานในฮอลลีวูด ผมก็ไม่รู้อะไรหรอก รู้จักแต่ชอว์บราเธอร์หนังฮ่องกง ฮาร์ตมันพาเข้าโรงไปดูหนังพี่มันถ่ายภาพ ถึงรู้ว่ามันเก่ง ทำงานดี นี่หลานก็บอกพ่อมันไปถ

  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทพิเศษ สามคืน 5

    “แม่คร้าบ...พ่อเหมือนหมีแพนด้าเลย”สกลกันต์ชี้ไปยังใต้ตาบิดาที่สีคล้ำ บ่งบอกอาการอดนอน มื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มกุ้งฝีมือไผท“หรือว่าตาพ่อเลอะร่า ๆ เหมือนแม่เกล”นิ้วป้อมชี้ นึกถึงสภาพหน้าแม่เพื่อนที่เคยเห็นตอนเปียกฝน เกลบอกเปื้อนอะไรสักอย่างชื่อร่า ๆ“มาสคาร่าหรือเปล่าครับ”วัชรมัยรินน้ำส้มผสมน้ำสับปะรด เอาใจลูกและเขาที่ส่งบรรยากาศมาคุอึมครึม“พ่อเขาไม่ได้ใช้มาสคาร่าหรอก”“แต่ตาพ่อดำเหมือนแพนด้า” เจ้าตัวย้ำ ขมวดคิ้วจ้องเขม็ง“กังฟูแพนด้า”สกลกันต์ไม่ได้ชอบเจ้าฮีโร่อ้วนตุ้ยนุ้ยนี่นะ แค่ตอนเด็ก ๆ บิดากับวิเชียรเปิดให้ดูบ่อย แถมฟัดแก้มนุ่มนิ่มจนแดงเขาชอบฮีโร่ตัวสูงปราดเปรียวปีนป่ายเก่งแล้วก็มีชุดเท่ ๆ อย่างสไปเดอร์แมนมากกว่า“กินข้าวไป อย่าพูดมากเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”บิดาตักกุ้งยัดปากช่างจ้อ เมื่อลิ้นสัมผัสกุ้งเนื้อเด้ง รสหวานกระจายทั่วปาก สกลกันต์กลับมาสนใจการเคี้ยวอาหารทันทีไผทจ้องเขม็งมายังเธอ ส่งสายตาข่มขู่ ขุ่นเคืองอารมณ์ค้างคาเรื่องเมื่อคืน วัชรมัยแกล้งไม่สนใจ ยกน้ำส้มขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์“เตเต้ปราบไปโรงเรียนก่อนนะ เป็นเด็กดีอยู่เฝ้าบ้าน ถ้ามีขโมยมาก็กัดตูดไล่มันลงทะเลเลย”ลูกพ

  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทพิเศษ สามคืน 4

    เพราะวัชรมัยมัวแต่มุ่งมั่นกับตำมะขาม สามีจึงทำไก่ทอดเกลือ กับต้มกระดูกหมูผักกาดดองให้“ไหนพี่ป้องไม่ให้กินโปรเซสเซ่นฟูดส์ไง”เธอหมายถึงอาหารแปรรูป ที่รวมของหมักดองด้วย“ผักดองมีพรีไบโอติกส์ ดีต่อลำไล้”ไผทซื้อหนังสือเกี่ยวกับการดูแลคนเป็นโรคมะเร็งมาหลายเล่ม เขาอ่านซ้ำจนจำขึ้นใจ ต้องการจะดูแลเธอให้ดีที่สุด“หมูที่ใช้ก็เป็นหมูคุโรบุตะ เจ้าของเลี้ยงแบบปล่อย มันจะไม่เครียด ไม่เพิ่มสารก่อมะเร็ง”เพิ่งรู้ว่ามีการเลี้ยงหมูให้ไม่เครียดด้วย วัชรมัยเคยได้ยินแต่การเลี้ยงวัวทะนุถนอมแบบฟาร์มญี่ปุ่น เปิดเพลงให้ฟัง มีนวดตัว ให้วัวกินเบียร์ สร้างอารมณ์วัวให้ดี เพื่อกลายเป็นเนื้อคุณภาพเยี่ยมกิโลกรัมละเป็นหมื่นไผทไปหาเนื้อหมูพวกนี้มาจากไหน“มิ้งรู้สึกตัวเองเป็นภาระพี่ป้องจัง”เธอรำพึงพลางตักตำมะขามเข้าปาก รสคล้ายกับที่วารีเคยทำ ความเศร้าเพราะคิดว่าตนช่างอ่อนแอเหลือเกินกลับมาเกาะกุมในอกโดยพลัน“พี่เป็นผัวเธอนะ เมียตัวแค่นี้ดูแลได้สบายมาก”มือสีเข้มตักไก่ทอดใส่จานเธอ“กินเยอะ ๆ จะได้มีเนื้อมีหนัง ตอนกอดจะได้นุ่มนิ่ม เต็มไม้เต็มมือ”สายตาคมวับวาวพราว วัชรมัยรู้ได้ทันที นายหัวไม่หยุดแค่กอดอย่างเดียวแน่“ห

  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทพิเศษ สามคืน 3

    ไผทรีบพาเมียออกจากตลาดนัด ก่อนที่เธอจะหาอะไรมาเป็นงานทำมากกว่านี้ วัชรมัยหยิบเครื่องประดับทำจากกะลามะพร้าวมาชื่นชม สมองคิดจะมิกซ์แอนด์แมทกับชุด หรือออกแบบเครื่องประดับแบบไหนดีถ้าผสมกับสตอรี่เรื่องความยั่งยืน เป็นของธรรมชาติผลิตจากชุมชน ไม่มีการใช้ส่วนไหนจากสัตว์ยิ่งน่าสนใจ มันขายได้ในต่างประเทศ หรือจะชิมลางแตกแบรนด์เล็ก ๆ ขายแต่ทางออนไลน์ดีสมองการค้าวัชรมัยคิดไปเรื่อย กระทั่งรถคันโตหยุดที่สวน เธอหันซ้ายหันขวา โน่นก็คนงาน นั่นก็ต้นปาล์ม ภูเขาสีเขียวห่างอยู่ลิบ ๆ มีหมอกยามเช้าคลอเคลียคลุมวิวสวยดีอยู่หรอก แต่เขาเอาเธอมาทำไม“มิ้งขอกลับบ้านได้ไหมคะ”“อยู่นี่แหละ ใกล้ตาฉัน เกิดล้มไปจะยุ่ง ป้านิดลาไปเยี่ยมญาติ ไม่มีใครดูเธอ อยู่นี่ดูแลได้ดีกว่า”ไผทประกาศบอกคนสนิทถึงอาการป่วยของวัชรมัย ไม่ทันไรก็รู้กันทั้งสวน เขาขี้เกียจหาต้นตอว่าใครปูดข่าว ดีเสียอีกจะได้มีคนเพิ่มช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลเธอให้“อยู่ในรถ ฉันจะติดเครื่องไว้ให้”แอร์เย็นก็จริง แต่วัชรมัยนั่งนิ่งนาน ๆ ชักเบื่อ มองออกไปเห็นต้นมะขามแผ่กิ่งก้านแตกใบในสวน มันคงอยู่มานานเพราะมีกิ่งห้อยย้อยจนต้องเอาไม้มาค้ำไม่ไห้ต้นล้มฝักดิบสีน้ำตาลอ

  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทพิเศษ สามคืน 2

    “แม่คร๊าบ มีโฮมเลสมานอนในสนามบ้านเราด้วย”ไผทหยีตาขึ้นเพราะเสียงแจ้ว ๆ นอกเต็นท์มีแสงสว่างลอดเข้ามา“ไม่ใช่โฮมเลสครับ”วัชรมัยปรามเจ้าตัวกลม ที่เดินเข้าไปเกาะเต็นท์สนามสีเขียวเข้ม เมื่อคืนเธอนอนกอดลูกสบายมาก สดชื่นอารมณ์ดีจนลงมาทำมื้อเช้า ปล่อยสกลกันต์นอนต่อแป๊บเดียว ไม่คิดลูกจะตื่นเร็วขนาดนี้“ก็เขาไม่มีบ้านไม่ใช่เหรอ ถึงนอนเต็นท์”ปากเล็กยู่ยืนยันความคิดตัวเอง“เหมือนข่าวโฮมเลสในทีวีที่ปราบเคยดูในโรงอาหาร”“พ่อไม่ใช่โฮมเลส”เต็นท์เปิดมาพร้อมหน้าตึง ๆ ของคนนอนไม่พอ มือสางผมผมสีดำยุ่งตกระหน้าผาก ไผทขมวดคิ้ว เมื่อเห็นแม่กับลูกใส่ชุดนอนหมีน้อยเข้ากัน ...แล้วชุดเขาล่ะแม่งเอ๊ย! ไม่ยุติธรรมสักนิด ปรกติไผทไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ทว่าตั้งแต่มีเมียนี่เขาเหมือนโดนลูกทิ้ง กลายเป็นหมาหัวเน่า เป็นคนนอกโดยสมบูรณ์แบ่งแยกกันชัดเจนก็เสื้อทีมนี่แหละ มีเขาแตกต่างอยู่คนเดียว“ทำไมพ่อมานอนเต็นท์ล่ะ”สกลกันต์เคยไปกางเต็นท์เที่ยวป่าชมธรรมชาติกับบิดาครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว จำได้ว่าสนุกมาก ...หมายถึงขี่หลังบิดาสนุก“อยากเปลี่ยนบรรยากาศ”เขาสลัดศีรษะไล่ความง่วงงุน“หลับสบายไหมคะพี่ป้อง”ไผทหงุดหงิดกับรอยยิ้

  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทพิเศษ สามคืน 1

    กฎสองข้อที่ไผทจำขึ้นใจหนึ่ง ห้ามทำให้สกลกันต์โกรธ มิเช่นนั้นเขาอาจเสียทรัพย์ง้อ ต้องซื้อทั้งขนมและของเล่น เจ้าลูกชายแก้มป่องเรียกร้องเอากับพ่ออย่างเขาไม่เกรงใจบางทีถึงขนาดไผทคิด ถ้าสกลกันต์ไม่เกิดเป็นลูกเขา คนที่จะเลี้ยงเจ้าตัวแสบได้คงต้องมีเงินถุงเงินถังระดับชีคเจ้าของบ่อน้ำมันสอง ข้อนี้สำคัญกว่าข้อแรก อย่าทำให้วัชรมัยโกรธ มิเช่นนั้นเขาจะทรมานทั้งกายและใจ ชนิดจำขึ้นใจไม่มีวันลืมตัวอย่างคือเหตุการณ์ย้อนไปยังวันลงจากเครื่องบิน เขาและเธอไปรับลูก โดยมีวิเชียรเป็นสารถีวัชรมัยซื้อของฝากมากมาย ทั้งที่หิ้วมาเองได้ ทั้งต้องรอส่งมาจากกรุงเทพฯ ไหนจะรอโหลดจากท้องเครื่องบินอีกพ่อแม่ที่เป็นคนงานในสวนเห็นเด็ก ๆ ได้ของฝากก็ยิ้มกันแก้มปริ พอรู้ว่ามาจากวัชรมัยก็สรรเสริญกันใหญ่ตอนเย็นยังมีกินเลี้ยงงานวันเกิดเตเต้ สกลกันต์ส่งสายตาเว้าวอนเมื่อเห็นเค้กวาดรูปหน้าสัตว์เลี้ยงตัวโปรด“เตเต้เป็นหมากินเค้กไม่ได้หรอก เดี๋ยวฟันผุ หมาแปรงฟันไม่ได้”เด็กชายเกิดอาหารหวงของกิน ส่วนเจ้าของวันเกิดร้องหงิง ๆ เหมือนรู้กำลังจะโดนขโมยเค้ก“กินได้สิครับ แม่ถามร้านที่ทำแล้ว”วัชรมัยไม่ได้ถามเอง ให้นิคกี้เป็นถาม เธอคิด

  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทส่งท้าย

    การกลับมาอยู่สวนปาล์มอีกครั้ง ทำให้วัชรมัยรู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่ ผู้คนเป็นมิตรขึ้น มีลูกชายน่ารัก และที่สำคัญสามี...“ตื่นมาทำไม นอนต่ออีกก็ได้ เพิ่งตีห้าครึ่งเอง”ไผทผินหลังมองเธอ เขาผมยุ่งปรกหน้าผาก เปลือยท่อนบนอวดผิวสีทองแดงแน่น ๆ คาดผ้ากันเปื้อนลายช้างสีน้ำเงินที่เธอซื้อให้จากสนามบิน“เมื่อคืนมิ้งหลับคาอกพี่เลยนะ”วัชรมัยแก้มแดง เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ไผทไม่ได้มอบบทรักที่ดุดัน แต่การย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ แสดงความคลั่งไคล้ในเรือนกายก็ทำเธอเพลีย ชัทดาวน์สติตัวเองกลางอากาศตื่นมาพร้อมอาการเมื่อยตัว และรอยตราสีกุหลาบบนผิวนวล“มิ้งอยากตื่นมาทำข้าวเช้าให้สามีกับลูกกินบ้างสิคะ”ร่างผอมบางเคลื่อนมาใกล้ พยายามลบภาพนายหัวผู้โซฮอตปรอทแตกเมื่อคืน มือขาวจับท่อนแขนสีทองแดง เมียงมองอาหารในกระทะ“ออมเล็ตเหรอคะ”ที่เห็นคือไข่สีเหลืองนวลรูปพระจันทร์ครึ่งป่องกลาง กลิ่นเนยถูกความร้อนทำเอาน้ำลายสอ“ไม่ได้กินนานแล้ว”ตั้งแต่กลับมาสวน อาหารสำเร็จรูปประเภทไส้กรอก แฮม เบคอน รวมถึงอาหารแช่แข็ง กลายเป็นของที่ไผทห้ามไม่ให้มีในครัวนี้เด็ดขาด ให้เหตุผลว่าต้องดูแลสุขภาพเธออย่างเคร่งครัดเขาเลือกแต่อาหารดีมีประโยชน์ใ

  • ภริยา(ไม่)รักของนายหัว   บทที่ 24 “มิ้ง...นี่พี่เอง ผัวเธอนั่นแหละ”

    “แกร่ก...”บุรินทร์มองลอดแว่น เมื่อเห็นคนเข้ามาในห้องตรวจไม่ใช่คนไข้อย่างที่เคย“มิ้ง...จะหายไหม”ผู้ยืนอยู่คือหนุ่มล่ำบึ้กตัวสูงผิวสีทองแดง แพทย์หนุ่มเห็นความหวาดหวั่นในดวงตาคม แม้จะดำล้ำลึกราวกับทะเลในคืนเดือนมืด แต่เจือไปด้วยความแปรปรวน เหมือนความหวาดหวั่นของเจ้าตัวในยามนี้“ผมอยากได้ความมั่นใจ เธอสำคัญกับผมมาก”สองหนุ่มประเมินกัน สมองแต่ละฝ่ายต่างเต็มไปด้วยความคิดวุ่นวาย“ในฐานะหมอ ผมมองว่ามะเร็งเป็นการทำงานผิดปรกติของเซลล์ร่างกาย เกิดจากความแปรปรวนในการใช้ชีวิตประจำวัน แบบใช้มากไปหรือน้อยไป”“เอาสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ไหมหมอ ผมแค่ชาวสวน ไม่ได้มีความรู้อะไรมาก”บุรินทร์อมยิ้ม ถ่อมตัวว่าเป็นแค่ชาวสวน แต่คนตรงหน้าเขานี่มาดบ่งบอกเป็นเจ้าของสวนชัด ๆ บารมีเจ้านายคนแผ่ข่มเข้มจัด“มิ้งสำคัญกับผม...กับลูก” เสียงห้าวเริ่มเครือ บ่งบอกความห่วงหาสุดหัวใจ“มิ้งเป็นมะเร็งระยะที่สอง ถึงจะลุกลาม แต่ถ้าจากข้อมูลงานวิจัยเมืองนอกรายงานว่ามีสิทธิ์จะหาย แต่ต้องดูแลตัวเองดี ๆ ไม่อย่างนั้นจะกลับมาเป็นอีก”แพทย์ยอมการันตีการรักษา เพราะเห็นวัชรมัยเป็นรุ่นน้องผู้น่ารัก ไม่ได้หวังสินบนจากชุดสูทที่เธอจะตัดให้แ

DMCA.com Protection Status