>>{"คุณคือญาติของคุณรรินธร ใช่ไหมคะ"}
{"ใช่ค่ะ??"} ถ้าตั้งใจฟังดีๆ ตอนนี้น้ำเสียงของเธอเริ่มสั่น เพราะรู้สึกใจไม่ดีตั้งแต่พี่สาวออกไปแล้ว แถมยังมีคนโทรมาถามว่าเป็นญาติของพี่สาวไหม
"ตอนนี้คุณรรินธร ประสบอุบัติเหตุ ทางเราต้องได้ผ่าคลอดให้เธอเป็นเคสเร่งด่วน คุณช่วยมาที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ"
กึก!! โทรศัพท์ในมือร่วงลงพื้นแบบไม่รู้ตัว ร่างกายของเธอชาไปหมดจนทำอะไรไม่ถูก
แกร็ก! ประตูห้องถูกเปิดออกมาพร้อมกับเจ้าของเรือนร่างสูงโปร่ง สายตาของเขามองกวาดไปทั่วหน้าห้อง แต่ก็ไม่เจอใครอยู่เลย
"อะไรกัน" ชายหนุ่มไม่พอใจ..ถึงแม้ว่าเลขาคนพี่มีธุระกลับก่อน แต่คนน้องสมควรที่จะกลับทีหลังเขาไม่ใช่เหรอ คฑาก็เลยต้องได้กลับเข้าไปปิดไฟ ปิดประตูเอง
เช้าวันต่อมา..
"นี่อะไรกัน" เมื่อวานนี้ออกไปก่อนก็ยังพออนุโลมได้ แต่มาวันนี้ ทั้งคนพี่และคนน้องก็ยังไม่เข้าบริษัท
นิรันดร์ผู้ช่วยก็เลยต้องเป็นคนตามเอกสารให้กับท่านประธานเอง
"เอกสารที่บอสต้องการครับ"
"ติดต่อได้หรือยัง" คฑาสั่งให้ผู้ช่วยติดต่อเลขาไป
"ยังไม่ได้เลยครับ" นิรันดร์โทรหาทั้งพี่และน้องไม่มีใครเปิดเครื่องเลยสักคน "กำหนดคลอดก็ยังเหลืออีกตั้งสองสัปดาห์นี่ครับ"
"ออกไปก่อน"
"ครับ"
จนเวลาผ่านล่วงเลยมาถึงช่วงใกล้เที่ยงวัน ประตูห้องของเขาถูกเปิดเข้ามาแบบถือวิสาสะ ทีแรกคิดว่าเป็นแม่ เพราะคนที่เปิดเข้ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงก่อนมีแค่คนเดียวเท่านั้น แต่พอเขาเงยหน้าขึ้นไปมอง...
"ตอนเช้าไปไหนมา" เขาถามแบบไม่จริงจังนัก และก้มหน้าลงไปทำงานต่อ
"ฉัน.."
เธอไม่ใช่คนที่จะมาพูดอะไรอ้ำๆ อึ้งๆ แบบนี้ คฑาก็เลยเงยขึ้นมามองใหม่อีกครั้ง
"ฉันต้องการใช้เงิน"
"ใช้เงิน?..แล้วไง"
"ฉันยินดีช่วยงานคุณทุกอย่าง แต่ฉันขอเงินก่อนได้ไหม"
"ช่วยงานทุกอย่าง งานอะไรครับ" ปากกาในมือถูกวางลง แล้วมือทั้งสองประสานกัน ดวงตามองจ้องมาที่หญิงสาว คนที่ปฏิเสธเขาทุกครั้งที่ยื่นข้อเสนอให้
"คุณต้องการให้ฉันทำอะไร ฉันยินดีช่วย แต่ตอนนี้ฉันต้องการใช้เงินด่วน"
"ผมจำได้ว่า คุณไม่ต้องการเงินของผมไม่ใช่เหรอครับ"
"ท่านประธานคะ ฉัน.."
ก๊อก ก๊อก
"เข้ามา" เขาอนุญาตทันทีที่มีคนมาเคาะประตู เหมือนกับว่าธุระของเธอไม่สำคัญเลย
"อ้าวคุณรัน ผมนึกว่าคุณจะไม่เข้ามา"
"มีอะไร" รรรรรรยังไม่ทันได้ตอบ คฑาก็ถามผู้ช่วยขึ้นมาก่อน
"เที่ยงนี้ผมจองห้องอาหารไว้ให้แล้วครับ"
"ถ้างั้นเราก็ไปทานข้าวก่อน หิวพอดี" ชายหนุ่มร่างสูงลุกขึ้นคว้าเสื้อสูทจากเก้าอี้ขึ้นมาสวมใส่
"คุณ..เออ.. ท่านประธานคะ"
"มีอะไรค่อยคุยกันตอนบ่าย"
"ตอนบ่ายไม่ทัน..ท่านคะ" เธอยังพูดไม่จบประโยคแต่เขาก็เดินออกไปก่อนแล้ว หญิงสาวจำเป็นต้องได้รีบวิ่งตามหลังไป
"คือ.. ท่านประธานคะ ฉันขอร้อง.." เธอตามมาทันที่หน้าลิฟต์พอดี
นิรันดร์ที่ยืนอยู่ข้างๆแอบมองมาดู แต่ก็ดูเหมือนว่าท่านประธานจะไม่ให้ความสนใจเธอเลย และทันใดนั้นนิรันดร์ก็เปิดตากว้างขึ้นแบบตกใจ เมื่อเห็นว่ารรรรรรคว้าแขนของท่านประธานไว้
"คือ..ฉัน" หญิงสาวไม่กล้าพูดต่อหน้าผู้ช่วยของเขา เพราะเขาเคยกำชับไว้ว่าไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้
ในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังจะเปิดออก สายตาคมก็ได้มองต่ำลงไปดูแขนของตัวเองซึ่งตอนนี้มีเธอเกาะอยู่
พอประตูลิฟต์เปิดออก ไม่รู้ว่านิรันดร์จะตกใจอันไหนก่อนดี เพราะคนที่อยู่ในลิฟต์ก็คือ..
"คฑา!!" เสียงนั้นดังออกมาจากลิฟต์ที่เพิ่งจะเปิด และมันก็ทำให้เขาและเธอหันเข้าไปมองพร้อมกัน
"คุณแม่?""นี่มันอะไรกัน!" อัญชัญมองมือที่เกาะแขนลูกชายแบบไม่พอใจเอามากๆหญิงสาวเห็นสายตานั้นแล้วกำลังจะชักมือออก แต่ถูกเขาเหนี่ยวรั้งไว้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เธอคงจะปฏิเสธ ..แต่ครั้งนี้จากที่ทำแค่เกาะ มือเรียวเลื่อนขึ้นเป็นคล้องแขนเขาไว้ เหมือนคู่รักทั่วไปที่ทำกัน"ผมกำลังจะออกไปทานข้าวข้างนอกครับ คุณแม่มีธุระอะไร" ชายหนุ่มมองดูผู้หญิงที่มากับแม่แบบไม่พอใจ"แม่กำลังจะมาชวนลูกไปทานข้าวนั่นแหละ พอดีเลยออกไปทานพร้อมกัน""ผมจะไปทานกับ.." สายตาของเขามองกลับมาดูคนที่กอดแขนเขาอยู่ กลัวว่าเธอจะไม่เล่นละครด้วย"ฉันหิวแล้วค่ะเรารีบไปกันเถอะ" รรรรรรรู้ดีว่าเวลานี้เธอต้องทำยังไง"คุณแม่คะ เอมมี่ว่าเรากลับกันดีกว่า" หญิงสาวที่มากับอัญชัญเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่สื่อออกมาให้เห็นว่าเสียใจมาก กับภาพที่เห็นอยู่ในเวลานี้"หนูคือลูกสะใภ้ของแม่ตัวจริงจะกลัวอะไรล่ะ""แม่จะพูดอะไรก็สงสารเมียผมบ้างสิ""เมีย?" เห็นควงแขนกันก็ว่าตกใจมากแล้ว แต่ได้ยินคำว่าเมียออกจากปากท่านประธาน นิรันดร์ถึงกับทำอะไรไม่ถูก"แกจะเอาใครเป็นเมียกี่ร้อยกี่พันคนแม่ไม่ว่า แต่คนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของแม่มีแค่คนนี้คนเดียวเท่านั้น!""คงไม่ไ
แล้วคฑาจะรออะไร เงินหนึ่งล้านบาทสำหรับเขามันแค่เศษฝุ่น ชายหนุ่มโอนเข้าบัญชีธนาคารให้กับเธอในทันที เพราะนั่นมันหมายถึงการผูกมัดเธอเพื่อที่จะเก็บไว้ใช้งานพอได้เงินรรรรรรก็ขอไปทำธุระให้เสร็จก่อน แล้วค่อยจะกลับมาหาเขา ซึ่งคฑาก็ยอม ในที่สุดผู้หญิงทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนที่หยิ่งผยองแบบเธอก็ยังต้องการเงินของเขาอยู่ดีโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง..นี่แหละเหตุผลที่เธอต้องใช้เงินถึงหนึ่งล้านบาท เพราะพี่สาวของเธอถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน และค่าใช้จ่ายก็สูงลิบลิ่วที่รรรรรรเลือกโรงพยาบาลแห่งนี้ เพราะเธอเหลือพี่สาวแค่คนเดียว ถึงแม้ว่าตอนนี้เด็กจะถูกผ่าคลอดออกมา แต่ก็ต้องได้อยู่ห้องอบสำหรับเด็กทารกแรกเกิด เพราะได้รับความกระทบกระเทือนตอนที่แม่ประสบอุบัติเหตุ"พี่สาวของฉันปลอดภัยแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ" หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเห็นคุณหมอออกมาจากห้องผ่าตัด"ใช่แล้วครับ แต่ต้องรอให้เธอฟื้นตัวให้ได้ก่อน คงใช้เวลาอีกสักระยะ""ฝากคุณหมอดูแลพี่สาวและก็หลานของฉันด้วยนะคะ" ตอนนี้ยิ่งกว่ายกภูเขาออกจากอกเมื่อรู้ว่าพี่สาวปลอดภัยแล้ว แต่ด่านต่อไปที่เธอจะเจอมันคงหนักหนาเอาการ เพราะเธอเห็นฤทธิ์เดชของแม่และพี่สาวของเขาแล้ว
"ขอนั่งด้วยคนสิคะ" หญิงสาวเดินมาถึง ก็เอ่ยพูดขึ้นกับเขาที่ถูกผู้หญิงนั่งรายล้อมอยู่ ข้างซ้ายพี่สาว ข้างขวาผู้หญิงที่แม่จัดหามาให้"นั่งเลยครับ" คฑารีบลุกขึ้นให้เธอนั่งเก้าอี้ตัวนั้นแบบสุภาพบุรุษ แต่ไม่ใช่หรอกอยากจะสลัดใครบางคนแถวนี้ออกต่างหาก"นี่เธอ!" กัลยาตะคอกเสียงไม่พอใจใส่รรรรรร"อาหารที่นี่ท่าจะอร่อยนะคะคุณพี่""ใครพี่เธอ""คุณพี่เป็นพี่สาวของสามี ก็เท่ากับเป็นพี่ของฉันนั่นแหละค่ะ" รรรรรรยังแสร้งพูดต่อเหมือนไม่คิดอะไรกับคำพูดของพี่สาวเขากัลยารีบมองหาสามีของตัวเอง เพื่อที่จะให้มาจัดการผู้หญิงปากเก่งคนนี้ แต่พอมองไปเห็นสามีกำลังชนแก้วอยู่กับสาวที่ไหนไม่รู้ ก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหา คนที่เป็นสามีในทันที"คฑาทำไมลูกทำแบบนี้ ช่วยไว้หน้าแม่หน่อยได้ไหม!" อัญชัญเดินมาถึงก็นั่งข้างๆ ลูกชาย ซึ่งตอนนี้เขานั่งแทนที่พี่สาว"เมื่อกี้ผมได้ยินคุณถามว่าอาหารที่นี่คงอร่อย ผมแนะนำจานนี้เลยครับ เป็นราชินีอาหารของโรงแรมพี่สาวผมเลย" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ตักอาหารจานที่พูดถึงวางลงใส่จานให้เธอ โดยที่ไม่สนใจคำพูดของแม่"ต้องลองชิมดูก่อนค่ะ ว่าจะอร่อยเท่าคุณไหม" ว่าแล้วหญิงสาวก็ตักอาหารขึ้นมาชิมดู "ก็อร่อย
"เรื่องเงินพี่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย พี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันดูแลพี่ในยามที่ไม่สบายได้ไหม" หญิงสาวอยากจะพูดให้พี่คลายกังวล"แต่พี่ดีขึ้นมากแล้ว""ถึงดีขึ้นมากแต่ก็ยังไม่หายขาดนี่ ถ้าย้ายโรงพยาบาลเผื่อมันทรุดลงล่ะ ฉันจะอยู่กับใคร พี่คิดข้อนี้บ้างไหม" รรรรรรเริ่มขึ้นเสียงเมื่อเห็นว่าพี่ไม่ยอม จนพี่สาวต้องยอมฟัง แล้วค่อยๆ นอนลงที่เดิม"ถ้าพี่รักฉัน พี่ต้องดูแลตัวเองให้ดี ทำตัวให้แข็งแรงเร็วๆ เข้าใจไหม" มือเรียวเอื้อมไปจับผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวให้กับพี่สาว ถึงแม้อยากจะร้องไห้มากแค่ไหน ทั้งพี่และน้องก็พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็น ว่าตัวเองกำลังอ่อนแออยู่[บริษัท]หญิงสาวก้าวลงจากแท็กซี่ ใบหน้างามเงยขึ้นไปมองชั้นบนสุด ซึ่งมันเป็นชั้นที่เธอทำงานอยู่ แล้วลอบถอนหายใจออกมา เพราะเธอต้องหาคำพูดเพื่อที่จะพูดกับเขาเรื่องเงินเวลาผ่านไปจนถึง 09 : 40 นาที ก๊อก ก๊อก ยังไงวันนี้เธอต้องคุยเรื่องเงินให้ได้ จะคุยตอนไหนก็คงเหมือนกัน หญิงสาวเลือกเวลาที่ดูเหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะถ้าใกล้เที่ยงเดี๋ยวเขาก็ออกไปทานข้าวกับลูกค้าอีก"เชิญ""บอสคะ..เออ.." อุตส่าห์ตั้งหลักมาแต่ไกล แต่พอเห็นสายตาที่เขามองมา กลั
มือเรียวกวักเรียกแท็กซี่ที่ขับผ่านไปมาหน้าโรงพยาบาล และก็มีแท็กซี่คันหนึ่งจอดรับเธอพอบอกชื่อคอนโด แท็กซี่ก็พาเธอขับตรงไปที่นั่น เพราะรถโดยสารรู้จักคอนโดหรูแห่งนี้เป็นอย่างดี"ที่นี่เหรอคะ" ไม่แปลกหรอกที่เขาจะซื้อที่แบบนี้อยู่ เพราะรวยระดับนั้นแล้ว"ใช่แล้วจ๊ะหนู" แท็กซี่มองหน้าเธอ ก็รู้แล้วว่าคงมารับจ๊อบ เพราะคนรวยส่วนมากชอบแอบซื้อกินหญิงสาวส่งเงินให้ตามจำนวนที่มิเตอร์ขึ้น แล้วเธอก็เดินตรงเข้ามาด้านในรรรรรรบอกกับพนักงานที่ดูแลคอนโดชั้นล่าง ตามที่คฑาได้บอกไว้ พนักงานก็เลยปล่อยให้เธอขึ้นไปขึ้นมาถึงรรรรรรก็กดรหัสผ่านที่เขาให้ไว้อีกนั่นแหละ และเธอก็ได้เข้ามาในห้องสูทสุดหรูของคอนโดราคาแพงหญิงสาวมองหาสวิตช์ไฟ แต่พอเธอก้าวเข้ามาแค่ไม่กี่ก้าวไฟในห้องก็เปิดเอง"ขนาดไฟยังไม่ต้องเปิดเองเลย อะไรจะขนาดนั้น" เธอพูดกับตัวเองแล้วก็มองทอดออกไปดูด้านนอกอาคาร เพราะบรรยากาศยามค่ำคืนมันสวยงามมาก และคอนโดแห่งนี้ก็เป็นกระจกรอบทิศทางคนเราทำบุญมาไม่เท่ากันจริงๆ นี่แค่คอนโดที่เขาซื้อทิ้งไว้ ยังหรูหราได้ถึงเพียงนี้ มองลงไปดูแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา แสงไฟในยามค่ำคืนของตึกอีกฝั่งหนึ่ง มันช่างดึ
เข้ามาถึงในห้องน้ำ มันก็สร้างความตะลึงให้เธออีกครั้ง แค่ห้องน้ำของเขา คงสร้างบ้านได้ทั้งหลัง มือเรียวลูบไล้อ่างอาบน้ำราคาแพง ถ้าได้นอนแช่ในอ่างนี้คงจะฟินน่าดู แต่เธอก็ต้องได้รีบชำระร่างกายของตัวเองออกหญิงสาวใช้น้ำฝักบัวที่แบ่งเป็นสัดส่วนและมีห้องกระจกกั้นไว้ พออาบน้ำเสร็จคนร่างเล็กก็เดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบร่างกายอยู่ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าเขากำลังฉายอะไรบนทีวีจอใหญ่ที่ติดอยู่ในห้องชายหนุ่มไม่พูดอะไรก็เข้าไปใช้ห้องน้ำต่อจากเธอ ซึ่งหญิงสาวยืนตัวแข็งทื่อ เพราะคลิปที่เขาเปิดในทีวี มันคือภาพชายหญิงกำลังเริงรักกันอยู่บนเตียงแต่เธอก็จำเป็นต้องได้ดู เขาคงอยากจะได้แบบนี้ พอชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเธอนั่งอยู่ปลายเตียง และมองสิ่งที่เขาเปิดไว้รรรรรรกรอกสายตามองดูชายที่เพิ่งจะเดินผ่านหน้าของเธอไป เคยเห็นแต่เขาใส่ชุดสูท แต่ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแบบนี้ หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกมาจากอกเลยก็ว่าได้ เพราะสัดส่วนของเขาไม่มีที่ให้ติเลยและเธอก็ต้องได้รีบละสายตาไปมองที่อื่นเมื่อเขาเดินกลับมาที่เธอ"พร้อมหรือยัง"ยังไม่พร้อมได้ไหม.. สิ่งที่คิดกับสิ่งท
[คฤหาสน์หลังงาม]"ทำไมวันนี้ถึงกลับดึก" คำถามแรกของผู้เป็นแม่ เมื่อเห็นลูกชายเปิดประตูรถออกมา"มีงานด่วนเข้ามาครับ" ทีแรกคฑาก็มาถึงบ้านแล้ว แต่พอได้รับโทรศัพท์จากเธอ เขาก็ออกไปโดยที่แม่ยังไม่รู้ว่ากลับมาครั้งหนึ่งแล้ว"แม่ไม่ปลื้มเลยนะที่ลูกทำแบบนี้ รู้ไหมว่าหนูเอมมี่รอทานข้าวเย็นด้วย""ถ้าผมไม่อยู่ กลืนข้าวไม่ลงหรือไงครับ""คฑา!""ขอโทษครับแม่ วันนี้ผมเหนื่อย ขอตัวไปนอนก่อนนะ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินขึ้นมาบนบ้าน โดยที่ไม่รอฟังว่าแม่จะพูดอะไรต่อ"แม่นึกว่าเราขึ้นห้องไปแล้ว" หันกลับมาอีกทีก็เห็นลูกสาวเดินเข้ามา"รอคุณสันติอยู่ค่ะแม่ ยังไม่กลับบ้านเลยไม่รู้ไปไหน โทรไปก็ไม่รับสาย""ยังไม่กลับอีกเหรอ" ว่าลูกชายกลับดึกแล้วลูกเขยยิ่งกลับดึกกว่าสันติและกัลยาก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดียวกัน ถึงแม้สันติจะชวนภรรยาแยกครอบครัวออกไปอยู่ส่วนตัว หรือไม่ก็ค้างที่โรงแรมของตัวเอง แต่ภรรยาก็ไม่ยอม เพราะอยากจะอยู่ใกล้แม่ฐานะครอบครัวของสันติไม่ใช่คนมั่งมีอะไร ส่วนมากก็ได้รับความช่วยเหลือจากภรรยา ที่จริงแม่ก็ไม่อยากให้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ แต่เพราะลูกสาวมีลูกไม่ได้ก็เลยปล่อยไป เพราะถ้าแต่งงานกับคนที่ฐานะเท่า
ในเมื่อมันเป็นคำสั่งของเขา แล้วเธอจะปฏิเสธได้อย่างไร หญิงสาวกลับมาที่โรงพยาบาลแล้วรอรับโทรศัพท์ ในใจก็ภาวนาว่าอย่าโทรมาเลย เพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันผ่าตัดของพี่สาวแล้ว หรือว่าเราจะบอกเขาดี ..แต่บอกแล้วจะได้อะไรขึ้นมาล่ะชีวิตของเธอกับพี่สาว ทั้งสองต่างก็ช่วยเหลือกันและกันเองมาโดยตลอด เพราะยื่นมือไปขอความช่วยเหลือจากใครไม่เคยได้ และเธอก็รู้ดีว่าพี่สาวต้องลำบากแค่ไหน กว่าจะเลี้ยงเธอโตมา ทั้งส่งเสียให้เล่าเรียน"คุณหมอบอกว่าให้พี่งดอาหารเพื่อรอผ่าตัดพรุ่งนี้ ทำไมพี่ต้องได้ผ่าตัดอีก" รรินธรพยายามถามหมอและพยาบาลดูแล้ว แต่พวกเขาบอกว่าต้องถามญาติเอง ..เธอรู้ดีว่ามันเป็นจรรยาบรรณถ้าญาติไม่อนุญาตให้พูดก็ไม่สามารถที่จะบอกได้"พี่แค่ทำใจให้สบาย และทำตามที่ฉันบอก เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเองค่ะ" การผ่าตัดในครั้งนี้เธอได้คุยกับหมอแล้ว หมอบอกว่าจะเอาเนื้องอกออกมาก่อน และก็ต้องได้เอาเนื้องอกนั้นไปตรวจหามะเร็ง เพราะมันมีสิทธิ์พัฒนากลายเป็นมะเร็งได้"พี่จะไม่ตายใช่ไหม" คิดว่าต้องเกี่ยวกับอาการปวดหัวที่เธอเป็นอยู่แน่ ที่จริงอาการปวดหัวก็มีมาสักระยะแล้ว แต่ไม่อยากจะให้น้องต้องมาคิดมาก และวันนั้นที่ตรวจร่าง
"คุณทำอะไรคะ" กัลยาเห็นว่าเขากำลังทำอะไรกับเตียงสักอย่าง"ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณจะอาบน้ำอีกไหม""อาบก่อนที่จะมาแล้วนี่คะ""ครับ..ถ้างั้นก็มานอนกันดีกว่า" ขยับเตียงเสร็จ สันติก็จัดการกับผ้าปูที่นอน เพราะดูเหมือนจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร"คุณขยับออกไปนิดหนึ่งก็ได้ค่ะ" นอนได้สักพัก หญิงสาวก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ก็เลยบอกให้สามีขยับออกห่างเธอหน่อย"คุณอึดอัดที่ผมกอดเหรอ""เปล่าสักหน่อย""แล้วทำไมให้ขยับล่ะ""ก็ฉันกลัวจะอด..เออ" กัลยาคิดว่ามันเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเธอหรือเปล่า พอได้กลิ่นกายของสามีใกล้ๆ ก็เริ่มมีอารมณ์ ซึ่งแต่ก่อนเขาจะทำหรือไม่ทำก็ไม่เป็นไร"คุณก็พูดให้จบสิผมจะได้รู้""ฉันเป็นผู้หญิง""ผู้หญิง?? คุณอยากอีกแล้วเหรอ" เขาพูดแทนในสิ่งที่ผู้หญิงคงไม่กล้าพูดกัลยาอายมากจนเอาใบหน้าซุกเข้าไปกับแผ่นอกของสามี โชคดีที่หมอไม่ได้ห้ามเรื่องอย่างว่า เพราะเรื่องนี้สันติแอบถามมาแล้วตึก! ตึก! ตึก!!"เราทดลองดีแล้วไม่ใช่หรือพ่อ""ปล่อยมันไปเถอะแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ช่างมาต่อเติมห้องข้างล่าง""ต่อเติมห้องข้างล่างทำไม""เราจะย้ายลงไปนอนข้างล่างกัน"วันต่อมา..ที่โรงแรมกัลยา"คุณสันติ!" อิฐ
เย็นวันเดียวกัน พอได้รับข่าวดี อัญชัญก็เลยให้คนจัดเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองเล็กๆ ในบ้าน กัลยาและสามีก็เลยต้องได้ค้างที่บ้านหลังนี้แต่อัญชัญก็ไม่ได้คิดว่าจะเลี้ยงแค่นี้ เพราะมันเป็นความยินดีที่สุดในครอบครัว จึงอยากจะป่าวประกาศให้คนในสังคมได้รับรู้ด้วย ก็เลยคิดว่าจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอีกครั้ง"พี่สุดยอดมากเลยนะ" ขณะที่คฑาและคริสได้อยู่ตามลำพังกับสันติ ทั้งสองถึงกับยกนิ้วโป้งให้ จากเปอร์เซ็นต์ที่มีน้อยมาก แทบจะไม่มีเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ แต่สันติก็ทำมันสำเร็จสันติไม่เอ่ยพูดอะไรได้แค่อมยิ้มเล็กน้อย ในความเก่งของตัวเอง"หยุดเลยนะคะ" รรรรรรรีบห้ามกัลยา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะอุ้มรชต"ทำไม""เดี๋ยวพี่สันติก็มาเล่นงานอีก""เขาบ้าเห่อไปงั้นแหละ""แม่ก็ว่าอย่าเพิ่งอุ้มหลานเลย เรายิ่งมีลูกยากอยู่""ค่ะ" กัลยาก็เลยเชื่อฟัง ได้แค่นั่งหยอกรชตตอนที่คนอื่นอุ้มในเวลาเดียวกันนั้น และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ที่บ้านของสันติ"สงสัยวันนี้จะไม่กลับมานอนบ้าน" เศรษฐาพูดเปรยกับภรรยาขณะที่กำลังเดินขึ้นบ้าน เพราะเพิ่งจะปิดร้าน"คงใช่" เพราะถ้าลูกชายจะมานอนค้างที่บ้านก็คงกลับมาแล้ว"แม่.."สินีหยุดแล้วหันกลับมามอ
เช้าในวันต่อมา..วันนี้เป็นวันหยุดของผู้บริหาร ส่วนพนักงานโรงแรมจะผลัดเปลี่ยนกันทำงาน เพราะโรงแรมต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง"อึก..อึก.." ตื่นขึ้นมากัลยาก็อยากจะอาเจียน แต่เธอต้องพยายามกลั้นไว้ ทีแรกว่าจะบอกเขาเรื่องท้องตอนที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่พอปล่อยเวลาให้ผ่านไป เธอก็เลยไม่รู้จะเริ่มต้นบอกกับเขายังไง"คุณเป็นอะไร""เปล่าค่ะ""อยากจะอาเจียนใช่ไหม"หญิงสาวพยักหน้าบอกทันที สันติรีบปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ..พอเป็นอิสระเท่านั้นแหละ กัลยาก็รีบตรงเข้าไปในห้องน้ำชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเข้าไปลูบหลังให้ พอเธอสบายท้องแล้วเขาก็กดน้ำลงให้"ดีขึ้นไหม""เวียนหัว" วันนี้รู้สึกว่าจะมีอาการเวียนหัวเพิ่มขึ้นมา"ไปหาหมอกัน""ไม่ค่ะ""ทำไม""ก็ฉันรู้อยู่ว่าตัวเองเป็นอะไร" ยังไงต้องได้บอกเขาอยู่แล้ว ถ้างั้นก็บอกวันนี้เลยแล้วกัน"ผมก็รู้""คะ??""คุณรู้ไหมว่าผมรอว่าเมื่อไรคุณจะบอกผม""คุณหมายความว่ายังไง" กัลยาลองถามดู ว่าที่เขาพูดหมายถึงเรื่องเธอท้องไหม หรือพูดคนละเรื่อง"ผมก็แอบน้อยใจ เมื่อไรคุณจะบอกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเราสองคนสักที แต่คุณก็ไม่พูด""คุณรู้แล้วหรือคะ""ผมคงเป็นพ่อที่ไม่ดีมากเลยใช่ไหม คุณ
"คุณอยากกินเหรอ" เข้าทางสันติเลย เพราะคิดอยู่ว่าจะเอาของเปรี้ยวมาล่อเธอตอนไหนดี"เปล่าสักหน่อย ฉันแค่มองดูว่าทำไมถึงมีของแบบนั้นอยู่ในห้องอาหาร" เพราะอาหารพวกนี้มันเป็นอาหารเฉพาะ และถ้ามีใครแอบเอาอาหารข้างนอกเข้ามากิน ก็จะถูกทำโทษ เพราะกลัวว่าจะขัดต่อมาตรฐานอาหารของโรงแรม"น้ำเก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ" วิลาวัลย์รีบเดินกลับมาเพื่อส่งซิกให้กับน้ำใจน้ำใจก็รีบเก็บมันไว้ โชคดีที่เป็นมะม่วงสด ถ้าเป็นของดองยิ่งจะถูกเล่นงานหนัก เพราะกลิ่นมันแรง"ฉันก็ลืมดูต้นทางให้แก แล้วนี่แกเป็นอะไรทำไมถึงอยากจะกินของเปรี้ยวๆ แบบนี้แต่เช้าจัง" ธัญญ่าเข้ามายืนบังเพื่อนไว้ในขณะที่กำลังเก็บของกินอยู่"ไม่รู้..สงสัยจะเป็นประจำเดือนมั้ง อยากกินแบบนี้มาหลายวันแล้ว""ทานข้าวหน่อยสิ" สันติตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้กับกัลยาแต่เธอก็ยังมีท่าทางพะอืดพะอม เขาก็เลยเอายาดมที่ติดตัวมาด้วยส่งให้"คุณมีของแบบนี้ได้ยังไง" กัลยาถามสามี เพราะไม่เคยเห็นเขาดมยาสักที แล้วจะติดตัวมาทำไม"ผมเห็นใครวางไว้ที่บ้านไม่รู้ ก็เลยหยิบติดมาด้วย"พอได้ดมยาเข้าไปแล้ว กัลยาก็พอจะทานอาหารได้บ้าง แต่ก็ทั้งทานและทั้งดมยาไปด้วยสายๆ ของวันเดียวกัน.."อะไร
"หนูเป็นอะไร" สินีรีบวางของที่กำลังทำอยู่ เดินตามลูกสะใภ้เข้าไปในห้องน้ำ"คุณแม่อย่าเข้ามาค่ะ" คุยกับแม่สามียังไม่ขาดคำเธอก็ต้องได้หันกลับไปคุยกับคอห่านอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรจะออกมา เพราะเพิ่งจะตื่นก็เลยยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย"ดมยาหน่อยนะ" แม่ของสามีไปเอายาดมที่เตรียมไว้ขายออกมาให้ลูกสะใภ้"ขอบคุณค่ะ" พอเธอเอามาใส่จมูกแล้วสูดดม ก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะ อาการพะอืดพะอมก็หายไป"หนูเป็นอะไร""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ กัลขอตัวก่อนนะคะจะรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน" ที่ไม่อยากจะอยู่นาน เพราะยังอายเรื่องเมื่อคืนนี้อยู่มาก"แล้วตาสันติล่ะ""คุณสันติยังไม่ตื่นค่ะ"สินีก็เลยไม่พูดต่อ เมื่อคืนนี้นางรู้ดีว่ากว่าลูกชายจะได้หลับได้นอน เพราะพ่อกับแม่ก็ได้นอนพร้อมกันนั่นแหละ.."กลิ่นหอมมาแต่ไกลเลยค่ะคุณป้า" จังหวะที่กัลยากำลังจะเดินออกประตู ก็เจอเข้ากับอ้อมเด็กข้างบ้าน "นี่?!" และอ้อมถึงกับชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร"หนูอ้อมมาแต่เช้ามีอะไร" แม่ของสันติถามไปแบบเกรงใจลูกสะใภ้"อ้อมอยากจะมาฝากท้องค่ะ วันนี้แม่ไม่อยู่บ้าน" อ้อมพูดในขณะที่มองตามหลังกัลยาออกไปแบบไม่พอใจตุ๊บ! เสียงกัลยาปิดประตูรถ เธอเลือกที่จะไม่
"ฉันนอนข้างในก็ได้ค่ะ" หญิงสาวเริ่มพูดเสียงเบาลง เมื่อสัมผัสถึงความแข็งแกร่งที่มันเริ่มขยายตัวขึ้นมา"ไม่ทันแล้ว" สันติจับร่างของเธอให้นอนลงข้างล่าง แล้วดันตัวเองขึ้นคร่อมเธอไว้ จมูกคมสันโน้มลงไปไซ้ซอกคอระหงและสูดดมกลิ่นกายของเธอแบบโหยหาและอาวรณ์ เขาคิดว่าจะไม่มีวันนี้อีกแล้ว"อย่าทำแรงนะคะ" กัลยาไม่ได้ห้ามถ้าเขาจะทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวจะมีผลกระทบกับลูกเพราะรู้ดีเวลาที่เขากระแทก ไม่ค่อยชอบเก็บแรงไว้เท่าไรที่กัลยายังไม่บอกเรื่องท้อง เพราะถ้าบอกไปแล้วกลัวเขาจะคิดว่าที่เธอวิ่งมาหาเพราะกลัวว่าลูกจะไม่มีพ่อ"ไหนบอกสบายดีแล้วไง ทำไมถึงไม่ให้ทำแรง" วันนั้นที่เขายับยั้งก็เพราะได้ยินอิฐบอกว่าเธอไม่สบาย"ก็กลัวพ่อกับแม่ที่นอนอยู่ข้างห้องจะได้ยินไงคะ" หญิงสาวรีบหาข้ออ้างมาพูดแต่สันติไม่รับปาก เขาจัดการกับเสื้อผ้าของเธอออกแบบรวดเร็ว พอทั้งสองไม่มีอะไรปิดบังแล้ว ชายหนุ่มก็เลื่อนตัวลงมาที่ใต้หว่างขาหญิงสาวค่อยๆ แยกขาออกแบบรู้งาน เพราะเธอชอบมากเวลาที่เขาลงลิ้นให้ แต่ก็นานๆ ครั้ง เหมือนอย่างที่เคยพูดนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปตามควายที่ไหน"อ๊อย..คุณสันติ.." กัลยาเริ่มครวญครางเมื่อถูกลิ้นตวัดแร
"คุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ?" คำพูดที่เขาเพิ่งจะพูดไป มันตีความหมายได้ไม่หลายอย่างหรอก เพราะในเมื่อเขาบอกเธอไปหาหมอจะได้มีทางรักษา..นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่"คุณไม่สบายไม่ใช่เหรอ" วันนั้นที่ร่วมทานอาหารด้วยกัน รวมทั้งที่เธอมีอาการแปลกๆ ซึ่งตั้งแต่อยู่กินกันมาไม่เคยเห็นเธอมีอาการแบบนั้นเลย"คุณไปได้ยินมาจากไหนว่าฉันไม่สบาย""ก็.." สันติกำลังจะพูด แต่เขาก็ต้องได้เก็บคำพูดไว้ก่อน "ตกลงคุณ??""คุณคงเข้าใจผิดอะไรไปแล้วล่ะ ตั้งแต่ฉันอยู่กับคุณมาฉันไม่เคยสบายขนาดนี้มาก่อน ถ้าคุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วจะเข้ามาทำดีด้วย..ก็ไม่ต้อง""หึ" เขาคงจะถูกอิฐหลอก เพื่อที่จะให้มาดูแลเธอ เพราะอิฐรู้จุดอ่อนของเขาดี ว่ารักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน "ถ้างั้นผมก็ขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด และผมดีใจด้วยนะครับที่คุณสบายดี แถมสบายกว่าตอนที่มีผมอยู่ด้วยอีกต่างหาก"จบประโยคคำพูดเขาก็หันหลังให้แล้วเดินออกมาสันติไม่ได้เดินไปทางที่มีประตูเชื่อมต่อกัน แต่เขาออกมาประตูหน้า แล้วก็ตรงไปที่ลิฟต์ โดยที่ไม่ได้สนใจจะไปหยิบเอาของในห้องทำงานเลยพอประตูห้องปิดลง ร่างของกัลยาก็ทรุดลงกับพื้น นี่เธอพูดอะไรออกไป เธอพูดไปได้ย
"ผมเป็นคนชลอเรื่องนี้ไว้เอง" พอทนายจากไปแล้วเขาถึงได้หันมาพูดกับเธอ"คุณทำไปเพื่ออะไร""ช่วงนี้เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องหย่ากันเลยได้ไหม""ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณบอกเหตุผลฉันมา""เหตุผล?" ชายหนุ่มมองดูแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของเธอ "ก็เรื่องโปรเจคไง ผมสัญญากับผู้ร่วมหุ้นคนอื่นไว้แล้วว่าจะดูงานเอง"จุก.. จุกมากเมื่อได้ยินเหตุผลของเขา ที่อยู่ต่อเพราะเรื่องงานอย่างนั้นเหรอ"ถ้าเพราะเรื่องนี้ ถึงแม้เราจะหย่ากันแล้ว แต่คุณก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ คุณจะดูแลโครงการนี้ก็คงไม่มีใครว่า" กัลยาพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้เขาไม่อยากจะหย่าเพราะความสงสารเด็ดขาด"ดูเหมือนคุณอยากจะหย่ามากเลยนะ" สันติอดคิดไม่ได้ เพราะสองสามวันมานี้ได้ยินแต่เธอพูดเรื่องนี้"ค่ะ ฉันอยากจะเซ็นต์วันนี้เลยด้วยซ้ำ"ชายหนุ่มหันกลับไปทางห้องของตัวเอง เพื่อสะกดอารมณ์ "เสียใจด้วย เผอิญว่าผมยังไม่อยากจะหย่า""คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก" ถ้าเหตุผลในการชะลอเรื่องหย่าไว้มีแค่นี้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะชะลอเหมือนเขานี่ รีบหย่ารีบจบกันไป"ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันดีกว่า เดี๋ยวคุณเครียดมากไปกว่านี้""เครียด?!" หญิงสาวรี
นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้นอนกอดเรา เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ไม่อยากจะหย่า..หรือว่าอยากจะหย่ามาก กลัวว่าเราไม่เซ็นต์ให้เหรอในเมื่อจะหย่ากันอยู่แล้ว จะกลับมาอีกทำไม คิดเองก็น้อยใจเอง หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดสามีในเวลานี้ ค่อยๆ ขยับกายเพื่อนอนตะแคงหันหลังให้ เพราะจะบังคับตัวเองให้หลับไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว"??" แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ใบหน้าหล่อคมของสามีก็ค่อยๆ ซุกซอกคอด้านหลังเขาสูดดมกลิ่นกายของเธอ แล้วค่อยๆ ขยับริมฝีปากแนบจูบลงมาจนถึงแผ่นหลัง"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวรีบหันมองกลับไป ..ร่วมเดือนแล้วมั้งที่ไม่ได้สัมผัสกันใกล้ชิดแบบนี้"ผมขอโทษที่ไม่ได้ดูแลคุณ" ใบหน้าของเขาและคำพูดเหมือนสำนึกผิด"คุณหมายความว่ายังไง" หรือเขาจะรู้ว่าเราท้องแล้ว? คนแรกที่กัลยาคิดถึงคืออิฐ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้จากคุณหมอ"นอนนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกแล้ว""??" คุณสันติเนี่ยนะ จะมาบอกให้เราไม่ต้องคิดอะไรมากก่อนนอน ..เพราะทุกครั้งกลับเข้าห้องคือเขาหลับปุ๋ยไปก่อนแล้ว นอกจากวันไหนที่เขาต้องการ ถึงจะรอทำเรื่องอย่างว่าจนเสร็จ แล้วก็นอนหันหลังให้ โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะยังค้างอยู่ไหมกัลยาก็เลยเลือกที่จะหันหลัง