"ดูความร่านของผู้หญิงคนนี้สิ! แม่ไม่มีวันเอามาเป็นลูกสะใภ้ ให้เป็นเสนียดวงศ์ตระกูลของเราแน่!""แล้วคุณแม่จะทำยังไงคะ" ทั้งสองคุยกันอยู่ที่หน้าประตูห้องของคฑานี่เอง เพราะเสียงครางที่เขาตั้งใจให้ข้างนอกได้ยิน..มันได้ผลเช้าวันต่อมา.."โอ๊ย" คนตัวเล็กค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้น สายตาของเธอมองดูผู้ชายที่นอนหลับอยู่ข้างๆ เมื่อคืนนี้เขาไม่ได้ทำกับเธอแค่ครั้งเดียว มันก็เลยสร้างความเจ็บปวดบนร่างกายให้เธอมาก "กี่โมงแล้ว" มองดูแสงสว่างด้านนอกคงสายมากแล้วแน่เลย หญิงสาวก็เลยมองไปดูนาฬิกาที่ติดอยู่ผนังห้องเธอต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพราะใกล้เวลาผ่าตัดแล้ว"บอสคะ" หญิงสาวไม่มีเวลาแม้แต่จะอาบน้ำ เธอลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าชุดเดิม พร้อมกับปลุกเขาให้ตื่น เพราะเขาบอกว่าจะให้คนไปส่ง ถ้าเดินออกไปเรียกแท็กซี่คงจะใช้เวลานานแน่ "บอส""อืม" คฑาเปล่งเสียงออกมาเหมือนกับรำคาญที่ถูกกวน"คุณคฑาตื่นเดี๋ยวนี้นะ!!"คนที่นอนหลับอยู่ถึงกับหลี่ตาขึ้นมามอง เพราะน้ำเสียงที่เธอใช้ เหมือนสั่งให้เขาตื่น และเขาก็ดูจะไม่ชอบใจนัก"คุณบอกว่าจะให้คนรถไปส่งฉัน" หญิงสาวต้องได้รีบเปลี่ยนโทนเสียงที่พูด"จะรีบไปไหนนอนต่อก่อน" เขายั
16 : 35 น. ของเย็นวันเดียวกันนั้นรรรรรรชะเง้อมองประตูห้องทำงานของท่านประธานหลายครั้งแล้ว ที่มองไม่ใช่เพราะว่าเธออยากรีบกลับไปพักผ่อน แต่อยากกลับไปหาพี่สาวกับหลานมากกว่าหนึ่งชั่วโมงผ่านไป..ท่านประธานก็ยังไม่ออกมามือเรียวเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพาย แล้วออกจากที่ทำงานโดยไม่บอกกล่าวกับใครเลย เพราะเธอคิดว่าถ้าเขามีธุระก็คงจะโทรตามเอง ที่เธอเลือกที่จะไม่บอกก็เพราะว่ากลัวเข้าไปรบกวนการทำงาน[โรงพยาบาล]"ได้นอนบ้างหรือเปล่าล่ะเรา" รรินธรถามขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวเปิดประตูเข้ามา เพราะรู้ดีว่าน้องเฝ้าตัวเองมาทั้งคืน แถมตอนเช้ายังต้องรีบไปทำงานอีก"พี่ดูสีหน้าสดใสขึ้นมากเลยนะ" เห็นแค่นี้เธอก็หายเหนื่อยแล้ว"พี่ว่าเรานอนพักผ่อนบ้างเถอะนะ" ต่างฝ่ายต่างก็เป็นห่วงกัน"เดี๋ยวค่อยนอนก็ได้ค่ะ ขอไปดูหลานก่อนคิดถึงหนูรักจะแย่แล้ว" พอเห็นว่าพี่สาวดีขึ้นมาก เธอก็เลยไปดูหลาน"หนูรักคะ" มือเรียวลูบกระจกที่มีหลานสาวนอนดิ้นอยู่ในนั้น "ตอนนี้แม่ของหนูปลอดภัยแล้วนะ อีกไม่นานเราก็จะได้กลับบ้านพร้อมกัน หนูเป็นเด็กดีมากรู้ไหม"คุยกับหลานอยู่เพียงไม่นาน ก็ต้องได้กลับมาที่ห้องรรรรรรกลับมาถึงก็เห็นพี่สาวนอนหลับไปแล้ว หญ
"สวัสดีค่ะ"ทุกคนถึงกับหันไปมองที่ต้นเสียงพร้อมกัน และมันก็ทำให้คฑา หยุดชะงักได้ เมื่อรู้ว่าเธอคนนั้นเป็นใคร"??""เชิญคุณชมพูนุชมานั่งโต๊ะตัวนี้ได้เลยครับ" คนที่กล่าวเชิญก็คือนิรันดร์จากที่มองผู้หญิงคนนั้นคฑาก็เปลี่ยนเป้าหมายหันมองมาที่นิรันดร์ผู้ช่วยของตัวเองบ้าง"เธอคือเลขาที่จะมาช่วยงานอีกคนครับ""เข้ามาหาผมหน่อย""เออ..ครับ" นิรันดร์เริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แต่ก็จำเป็นต้องได้เดินตามเจ้านายเข้าไปในห้องส่วนผู้หญิงที่ชื่อชมพูนุช เดินเข้าไปหา.."สวัสดีค่ะฉันจะมาทำตำแหน่งเลขา""สวัสดีค่ะ" รรรรรรมองผู้หญิงคนนี้แทบตาไม่กระพริบ เพราะความสวยของเธอ"โต๊ะตัวนี้ใช่ไหมคะ" ชมพูนุชยังแสร้งถามออกไป เพราะนิรันดร์ได้บอกเรื่องโต๊ะไปแล้ว"ค่ะ""ฉันชื่อชมพูนุช จะเรียกนุชเฉยๆ ก็ได้ค่ะ..แล้วคุณชื่ออะไรคะ""รรรรรรค่ะ""ระรันรอน..ชื่อแปลกจังเลยนะคะ""ค่ะ""ถ้างั้นฉันจะเรียกคุณว่าคุณรันแล้วกันนะคะ""ตามสบายเลยค่ะ""คุณรันทำงานที่นี่นานหรือยังคะ""คะ?" รรรรรรเริ่มจะสงสัยผู้หญิงคนนี้เข้ามาทำงานหรือเข้ามาทำอะไรกันแน่..ในห้อง.."เล่ามา""เออ.. ผมเห็นว่าท่านประธานต้องการเลขาด่วน แถมเลขาเป็นงานก็หายาก ตอนนี้คุ
"ฉันต้องไปที่โรงพยาบาล วันนี้ผลตรวจพี่สาวออก""ผลตรวจ..ตรวจอะไร?""ผลตรวจของพี่สาวฉันค่ะ""คุณริน?" ที่เขาไม่ได้ถามข่าวหารรินธร ก็เพราะเธอลาคลอดเหมือนพนักงานในบริษัททุกคนเพราะบริษัทมีสวัสดิการมากพอให้กับพนักงานอยู่แล้ว บางบริษัทอาจจะให้หยุดแค่ 3 เดือน แต่บริษัทนี้ให้หยุดถึง 4 เดือน เพื่อดูแลลูกที่ยังเล็กอยู่..ในระหว่างที่หยุดก็ยังได้เงินเดือนตามปกติ แถมยังได้เงินจากประกันสังคม และถ้ากลับเข้ามาทำงานหลังคลอด ก็ยังมีสวัสดิการอีกหลายอย่างรออยู่ เพราะบางคนคลอดลูกแล้วจะไม่กลับมาเลย ทางบริษัทก็เลยมีอะไรไว้ล่อพนักงานบ้างถึงขั้นนี้แล้วจะไม่บอกก็ไม่ได้ หญิงสาวก็เลยตัดสินใจบอกไป แต่เธอก็บอกแค่เรื่องผ่าตัด เพราะวันนี้เธอจำเป็นต้องได้กลับไปเพื่อฟังผลตรวจ ว่าเนื้องอกของพี่สาวจะพัฒนาขึ้นมาเป็นมะเร็งไหม"ผ่าตัดเนื้องอกในสมอง??" คฑาคิดว่ารรินธรแค่ลาคลอดปกติ"ค่ะ.. วันนี้คุณหมอให้ไปฟังผลตรวจ ว่าเนื้องอกนั้นมันเป็นแค่เนื้องอกธรรมดาหรือมันจะเป็นมะเร็ง""ขึ้นรถ""คะ?" นี่ขนาดเธอบอกไปหมดแล้วนะ เขายังจะลากตัวเธอไปด้วยให้ได้เหรอ ..หญิงสาวก็เลยจำเป็นต้องได้ขึ้นรถไปกับเขาขับรถออกมาจากบริษัท ชายหนุ่มก็ได้ถาม
"แต่นี่มันห้องทำงานนะคะ""แล้วไง ใครกระตุ้นมันก่อนล่ะ" เขาหมายถึงว่าใครเป็นคนทำให้มันแข็งตัว"ฉันไปกระตุ้นตอนไหน""ก็ตอนที่ครางไง""ฉันจะสื่อให้คุณรู้ว่าฉันเจ็บขาต่างหาก""ไม่ใช่แล้ว..เสียงเดียวกับโดนไอ้นี่เลย" ในขณะที่พูดสายตาคมก็ได้มองต่ำลงไป ซึ่งตอนนี้มันตุงออกมาจนเห็นได้ชัด"บอส" รรรรรรไม่คิดว่าเขาจะมีโมเม้นท์แบบนี้ เห็นเงียบขรึมทำแต่งานทั้งวัน"หึ" ชายหนุ่มนึกขำแล้วก็รูดซิปกลับคืน"??" หญิงสาวงงในงง แต่เธอก็รีบเอาขาลง แล้วก็จัดกระโปรงใหม่ กลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจเสียก่อน"จะไปไหน" ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นเธอเดินไปที่ประตู"ออกไปทำงานไงคะ""ไหนบอกเจ็บขาไง""คะ? อ้อ.." เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอจะเดินปกติออกไปไม่ได้ หญิงสาวก็เลยแกล้งเดินกระเผลกขณะที่เปิดประตูห้องออกไป"หึหึ" คฑามองตามแล้วก็นึกขำแต่รอยยิ้มนั้นต้องได้หุบลงเมื่อมองออกไปเห็นสายตาผู้หญิงอีกคนที่มองเข้ามาถ้าคนที่อยู่หน้าห้องตั้งใจฟังคงจะได้ยินเสียงพ่นลมหายใจ ไม่มีใครชอบหรอกการกดดันในที่ทำงานแบบนี้ แต่ก็เข้าใจแหละว่ามันต้องมีทุกที่"วันนี้บอสมีนัดทานข้าวไหม" ใจจริงก็อยากจะหาเรื่องว่าให้นั่นแหละ แต่ไม่รู้จะหาเรื่องอะไร นิรันดร์ก็
"ฉันเหนื่อยแล้วค่ะ" เต้นไปก็ดูเหมือนว่าตัวเองเป็นตัวตลกที่เขาดึงเข้ามาทำประชดผู้หญิงอีกคน แต่เพราะคำว่าบุญคุณค้ำหัว เธอก็เลยต้องได้อยู่เป็นตัวตลกนั้นต่อ"เต้นอีกสักพัก" ริมฝีปากหนากระซิบพูด ถ้าคนอื่นมองคงคิดว่าคู่รักกำลังพูดหยอกเย้ากัน ..แต่นั่นมันคือคำสั่งเธอก็เลยต้องได้ทำตาม"โอ๊ย" เต้นไปได้อีกเพียงไม่นานหญิงสาวก็ขยับขาไม่ได้เพราะ..."ฉันเหยียบเท้าเธอเหรอ" ชายหนุ่มหยุดแล้วมองต่ำลงไปดู"ฉันไม่เป็นไรค่ะ" มัวแต่มองผู้หญิงอีกคน จนเผลอเหยียบเท้าเราเนี่ยนะ ..ทำไมเธอจะไม่เห็นสายตาของเขา ว่าแอบมองไปที่เธอคนนั้นตลอดเวลาเลยแต่มันก็ไม่แปลกหรอก เพราะผู้ชายในงานก็มองดูเธอคนนั้นเหมือนกัน วันนี้ชมพูนุชแต่งตัวสวยมาก คงตั้งใจแต่งมางานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากเธอ เพราะรีบและไม่มีชุดใส่ ต้องได้แวะซื้อชุด และแต่งตัวแบบลวกๆ"ฉันขอเข้าห้องน้ำค่ะ""เดี๋ยวพาไป""ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันรู้ว่าห้องน้ำอยู่ไหน""ถ้างั้นก็รีบกลับมาแล้วกัน" ในขณะที่พูดสายตาของเขาก็ยังมองที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่เลย จนเธอเดินแยกตัวออกมาในห้องน้ำ.."หึ หึ ""??" รรรรรรที่กำลังใช้ห้องน้ำอยู่ต้องรีบเปิดประตูออกมาเพราะได้ยินเสียงคนหัวเราะ แล
"ต้องการคุยกับฉันเหรอคะ" หญิงสาวแปลกใจ พวกเขากำลังคิดจะทำอะไรกันอีกเนี่ย"อืม..ตามมา" กัลยาพูดพร้อมกับเดินนำหน้าไปที่ห้องประชุมเล็ก เพราะบริษัทแห่งนี้กัลยารู้ดีว่าห้องไหนเป็นห้องไหน ที่จริงเธอก็มีหุ้นส่วนอยู่ที่นี่ด้วย แต่ไม่ชอบบริหารบริษัท ชอบไปทางด้านการโรงแรมมากกว่ารรรรรรเดินตามเข้ามาแบบว่าง่าย พออีกฝ่ายเชิญให้นั่ง เธอก็นั่งลง"เรื่องที่เธอคุยเมื่อคืนนี้""เรื่องเมื่อคืนนี้? เรื่องอะไรคะ" หญิงสาวแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ทั้งๆ ที่เธอนั่นแหละเป็นคนทิ้งทวนไว้"ฉันรู้ดีว่าเธอต้องรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับสามีของฉันแน่ เธอรู้อะไรบอกมาให้หมด""ตกลงคุณจะมาถามหรือจะมาขู่กันแน่คะ""เธออย่ามาเล่นลิ้นได้ไหม เธอรู้ใช่ไหมว่าสามีฉัน.." กัลยาหยุดแค่นั้นเพราะอายที่จะพูดต่อ และเธอก็ไม่อยากจะจ้างนักสืบ เพราะกลัวว่าจะเป็นข่าว"ถ้าคุณให้ความสนใจสามีสักนิด เหมือนกับสนใจเรื่องคนอื่น เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยค่ะ""เรื่องคนอื่นที่ไหน นั่นน้องชายของฉัน""ถึงเป็นน้องชาย แต่ก็เป็นคนอื่นอยู่ดีค่ะ เพราะว่าคุณไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่กับน้องชายตลอดไปได้ คู่ชีวิตของคุณคือสามีไม่ใช่น้องชาย"กัลยาถึงกับเงีย
ในขณะที่นั่งแท็กซี่กลับมาโรงพยาบาล คำพูดของชมพูนุชยังวนเวียนอยู่ในหัว ใช่แล้วเขาไม่เคยจูบเธอเลย ข้อนี้เธอก็แปลกใจ เพราะมากกว่านั้นเขาก็ทำ แต่ทำไมแค่จูบเขาถึงไม่ทำกับเธอ.. "แล้วใครจะไปแคร์ล่ะ ไม่จูบก็ไม่ต้องจูบสิ!""อะ.. อะไรนะครับ" คนที่ขับแท็กซี่ตกใจเมื่อได้ยินผู้โดยสารพูดเรื่องจูบ"ขอโทษค่ะฉันอินกับนิยายมากไป""ลูกสาวผมก็ชอบอ่านนิยายเหมือนกัน บางครั้งก็ยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า ..ขอโทษครับผมไม่ได้ว่าให้คุณนะครับ" แท็กซี่รีบกล่าวคำขอโทษ แต่ถ้าใครพูดถึงเรื่องนิยายขึ้นมาทีไรพ่อก็ของขึ้น.."เออ..ค่ะ" จุดใต้ตำตอเลยไหมล่ะเราโรงพยาบาล.."วันนี้คุณหมอให้พี่ทำอะไรบ้างคะ"รรินธรก็เลยเล่าให้น้องฟังว่าได้ทำอะไรบ้าง และยังบอกว่าวันนี้ได้ไปเยี่ยมเจ้าตัวเล็กมาด้วย"ทำไมบททดสอบชีวิตของเราสองคนถึงได้หนักหนากว่าคนอื่นมาก" เห็นลูกที่นอนอยู่ในนั้น มันทำให้ผู้เป็นแม่อดคิดไม่ได้ เพราะถ้าเป็นแม่คนอื่นป่านนี้คงได้เชยชมลูกแล้ว"โชคดีเท่าไรแล้วที่เรายังมีกันและกันอยู่ คุณหมอบอกว่าอย่าให้พี่คิดอะไรมากไง""พี่ขอโทษ""ไม่เอาไม่พูดกับพี่แล้ว ฉันจะไปหาหลานก่อนนะ พี่พักผ่อนล่ะ" ที่รีบออกมาไม่ใช่อะไรหรอก เพราะกลั
"คุณทำอะไรคะ" กัลยาเห็นว่าเขากำลังทำอะไรกับเตียงสักอย่าง"ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณจะอาบน้ำอีกไหม""อาบก่อนที่จะมาแล้วนี่คะ""ครับ..ถ้างั้นก็มานอนกันดีกว่า" ขยับเตียงเสร็จ สันติก็จัดการกับผ้าปูที่นอน เพราะดูเหมือนจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร"คุณขยับออกไปนิดหนึ่งก็ได้ค่ะ" นอนได้สักพัก หญิงสาวก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ก็เลยบอกให้สามีขยับออกห่างเธอหน่อย"คุณอึดอัดที่ผมกอดเหรอ""เปล่าสักหน่อย""แล้วทำไมให้ขยับล่ะ""ก็ฉันกลัวจะอด..เออ" กัลยาคิดว่ามันเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเธอหรือเปล่า พอได้กลิ่นกายของสามีใกล้ๆ ก็เริ่มมีอารมณ์ ซึ่งแต่ก่อนเขาจะทำหรือไม่ทำก็ไม่เป็นไร"คุณก็พูดให้จบสิผมจะได้รู้""ฉันเป็นผู้หญิง""ผู้หญิง?? คุณอยากอีกแล้วเหรอ" เขาพูดแทนในสิ่งที่ผู้หญิงคงไม่กล้าพูดกัลยาอายมากจนเอาใบหน้าซุกเข้าไปกับแผ่นอกของสามี โชคดีที่หมอไม่ได้ห้ามเรื่องอย่างว่า เพราะเรื่องนี้สันติแอบถามมาแล้วตึก! ตึก! ตึก!!"เราทดลองดีแล้วไม่ใช่หรือพ่อ""ปล่อยมันไปเถอะแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ช่างมาต่อเติมห้องข้างล่าง""ต่อเติมห้องข้างล่างทำไม""เราจะย้ายลงไปนอนข้างล่างกัน"วันต่อมา..ที่โรงแรมกัลยา"คุณสันติ!" อิฐ
เย็นวันเดียวกัน พอได้รับข่าวดี อัญชัญก็เลยให้คนจัดเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองเล็กๆ ในบ้าน กัลยาและสามีก็เลยต้องได้ค้างที่บ้านหลังนี้แต่อัญชัญก็ไม่ได้คิดว่าจะเลี้ยงแค่นี้ เพราะมันเป็นความยินดีที่สุดในครอบครัว จึงอยากจะป่าวประกาศให้คนในสังคมได้รับรู้ด้วย ก็เลยคิดว่าจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอีกครั้ง"พี่สุดยอดมากเลยนะ" ขณะที่คฑาและคริสได้อยู่ตามลำพังกับสันติ ทั้งสองถึงกับยกนิ้วโป้งให้ จากเปอร์เซ็นต์ที่มีน้อยมาก แทบจะไม่มีเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ แต่สันติก็ทำมันสำเร็จสันติไม่เอ่ยพูดอะไรได้แค่อมยิ้มเล็กน้อย ในความเก่งของตัวเอง"หยุดเลยนะคะ" รรรรรรรีบห้ามกัลยา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะอุ้มรชต"ทำไม""เดี๋ยวพี่สันติก็มาเล่นงานอีก""เขาบ้าเห่อไปงั้นแหละ""แม่ก็ว่าอย่าเพิ่งอุ้มหลานเลย เรายิ่งมีลูกยากอยู่""ค่ะ" กัลยาก็เลยเชื่อฟัง ได้แค่นั่งหยอกรชตตอนที่คนอื่นอุ้มในเวลาเดียวกันนั้น และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ที่บ้านของสันติ"สงสัยวันนี้จะไม่กลับมานอนบ้าน" เศรษฐาพูดเปรยกับภรรยาขณะที่กำลังเดินขึ้นบ้าน เพราะเพิ่งจะปิดร้าน"คงใช่" เพราะถ้าลูกชายจะมานอนค้างที่บ้านก็คงกลับมาแล้ว"แม่.."สินีหยุดแล้วหันกลับมามอ
เช้าในวันต่อมา..วันนี้เป็นวันหยุดของผู้บริหาร ส่วนพนักงานโรงแรมจะผลัดเปลี่ยนกันทำงาน เพราะโรงแรมต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง"อึก..อึก.." ตื่นขึ้นมากัลยาก็อยากจะอาเจียน แต่เธอต้องพยายามกลั้นไว้ ทีแรกว่าจะบอกเขาเรื่องท้องตอนที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่พอปล่อยเวลาให้ผ่านไป เธอก็เลยไม่รู้จะเริ่มต้นบอกกับเขายังไง"คุณเป็นอะไร""เปล่าค่ะ""อยากจะอาเจียนใช่ไหม"หญิงสาวพยักหน้าบอกทันที สันติรีบปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ..พอเป็นอิสระเท่านั้นแหละ กัลยาก็รีบตรงเข้าไปในห้องน้ำชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเข้าไปลูบหลังให้ พอเธอสบายท้องแล้วเขาก็กดน้ำลงให้"ดีขึ้นไหม""เวียนหัว" วันนี้รู้สึกว่าจะมีอาการเวียนหัวเพิ่มขึ้นมา"ไปหาหมอกัน""ไม่ค่ะ""ทำไม""ก็ฉันรู้อยู่ว่าตัวเองเป็นอะไร" ยังไงต้องได้บอกเขาอยู่แล้ว ถ้างั้นก็บอกวันนี้เลยแล้วกัน"ผมก็รู้""คะ??""คุณรู้ไหมว่าผมรอว่าเมื่อไรคุณจะบอกผม""คุณหมายความว่ายังไง" กัลยาลองถามดู ว่าที่เขาพูดหมายถึงเรื่องเธอท้องไหม หรือพูดคนละเรื่อง"ผมก็แอบน้อยใจ เมื่อไรคุณจะบอกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเราสองคนสักที แต่คุณก็ไม่พูด""คุณรู้แล้วหรือคะ""ผมคงเป็นพ่อที่ไม่ดีมากเลยใช่ไหม คุณ
"คุณอยากกินเหรอ" เข้าทางสันติเลย เพราะคิดอยู่ว่าจะเอาของเปรี้ยวมาล่อเธอตอนไหนดี"เปล่าสักหน่อย ฉันแค่มองดูว่าทำไมถึงมีของแบบนั้นอยู่ในห้องอาหาร" เพราะอาหารพวกนี้มันเป็นอาหารเฉพาะ และถ้ามีใครแอบเอาอาหารข้างนอกเข้ามากิน ก็จะถูกทำโทษ เพราะกลัวว่าจะขัดต่อมาตรฐานอาหารของโรงแรม"น้ำเก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ" วิลาวัลย์รีบเดินกลับมาเพื่อส่งซิกให้กับน้ำใจน้ำใจก็รีบเก็บมันไว้ โชคดีที่เป็นมะม่วงสด ถ้าเป็นของดองยิ่งจะถูกเล่นงานหนัก เพราะกลิ่นมันแรง"ฉันก็ลืมดูต้นทางให้แก แล้วนี่แกเป็นอะไรทำไมถึงอยากจะกินของเปรี้ยวๆ แบบนี้แต่เช้าจัง" ธัญญ่าเข้ามายืนบังเพื่อนไว้ในขณะที่กำลังเก็บของกินอยู่"ไม่รู้..สงสัยจะเป็นประจำเดือนมั้ง อยากกินแบบนี้มาหลายวันแล้ว""ทานข้าวหน่อยสิ" สันติตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้กับกัลยาแต่เธอก็ยังมีท่าทางพะอืดพะอม เขาก็เลยเอายาดมที่ติดตัวมาด้วยส่งให้"คุณมีของแบบนี้ได้ยังไง" กัลยาถามสามี เพราะไม่เคยเห็นเขาดมยาสักที แล้วจะติดตัวมาทำไม"ผมเห็นใครวางไว้ที่บ้านไม่รู้ ก็เลยหยิบติดมาด้วย"พอได้ดมยาเข้าไปแล้ว กัลยาก็พอจะทานอาหารได้บ้าง แต่ก็ทั้งทานและทั้งดมยาไปด้วยสายๆ ของวันเดียวกัน.."อะไร
"หนูเป็นอะไร" สินีรีบวางของที่กำลังทำอยู่ เดินตามลูกสะใภ้เข้าไปในห้องน้ำ"คุณแม่อย่าเข้ามาค่ะ" คุยกับแม่สามียังไม่ขาดคำเธอก็ต้องได้หันกลับไปคุยกับคอห่านอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรจะออกมา เพราะเพิ่งจะตื่นก็เลยยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย"ดมยาหน่อยนะ" แม่ของสามีไปเอายาดมที่เตรียมไว้ขายออกมาให้ลูกสะใภ้"ขอบคุณค่ะ" พอเธอเอามาใส่จมูกแล้วสูดดม ก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะ อาการพะอืดพะอมก็หายไป"หนูเป็นอะไร""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ กัลขอตัวก่อนนะคะจะรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน" ที่ไม่อยากจะอยู่นาน เพราะยังอายเรื่องเมื่อคืนนี้อยู่มาก"แล้วตาสันติล่ะ""คุณสันติยังไม่ตื่นค่ะ"สินีก็เลยไม่พูดต่อ เมื่อคืนนี้นางรู้ดีว่ากว่าลูกชายจะได้หลับได้นอน เพราะพ่อกับแม่ก็ได้นอนพร้อมกันนั่นแหละ.."กลิ่นหอมมาแต่ไกลเลยค่ะคุณป้า" จังหวะที่กัลยากำลังจะเดินออกประตู ก็เจอเข้ากับอ้อมเด็กข้างบ้าน "นี่?!" และอ้อมถึงกับชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร"หนูอ้อมมาแต่เช้ามีอะไร" แม่ของสันติถามไปแบบเกรงใจลูกสะใภ้"อ้อมอยากจะมาฝากท้องค่ะ วันนี้แม่ไม่อยู่บ้าน" อ้อมพูดในขณะที่มองตามหลังกัลยาออกไปแบบไม่พอใจตุ๊บ! เสียงกัลยาปิดประตูรถ เธอเลือกที่จะไม่
"ฉันนอนข้างในก็ได้ค่ะ" หญิงสาวเริ่มพูดเสียงเบาลง เมื่อสัมผัสถึงความแข็งแกร่งที่มันเริ่มขยายตัวขึ้นมา"ไม่ทันแล้ว" สันติจับร่างของเธอให้นอนลงข้างล่าง แล้วดันตัวเองขึ้นคร่อมเธอไว้ จมูกคมสันโน้มลงไปไซ้ซอกคอระหงและสูดดมกลิ่นกายของเธอแบบโหยหาและอาวรณ์ เขาคิดว่าจะไม่มีวันนี้อีกแล้ว"อย่าทำแรงนะคะ" กัลยาไม่ได้ห้ามถ้าเขาจะทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวจะมีผลกระทบกับลูกเพราะรู้ดีเวลาที่เขากระแทก ไม่ค่อยชอบเก็บแรงไว้เท่าไรที่กัลยายังไม่บอกเรื่องท้อง เพราะถ้าบอกไปแล้วกลัวเขาจะคิดว่าที่เธอวิ่งมาหาเพราะกลัวว่าลูกจะไม่มีพ่อ"ไหนบอกสบายดีแล้วไง ทำไมถึงไม่ให้ทำแรง" วันนั้นที่เขายับยั้งก็เพราะได้ยินอิฐบอกว่าเธอไม่สบาย"ก็กลัวพ่อกับแม่ที่นอนอยู่ข้างห้องจะได้ยินไงคะ" หญิงสาวรีบหาข้ออ้างมาพูดแต่สันติไม่รับปาก เขาจัดการกับเสื้อผ้าของเธอออกแบบรวดเร็ว พอทั้งสองไม่มีอะไรปิดบังแล้ว ชายหนุ่มก็เลื่อนตัวลงมาที่ใต้หว่างขาหญิงสาวค่อยๆ แยกขาออกแบบรู้งาน เพราะเธอชอบมากเวลาที่เขาลงลิ้นให้ แต่ก็นานๆ ครั้ง เหมือนอย่างที่เคยพูดนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปตามควายที่ไหน"อ๊อย..คุณสันติ.." กัลยาเริ่มครวญครางเมื่อถูกลิ้นตวัดแร
"คุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ?" คำพูดที่เขาเพิ่งจะพูดไป มันตีความหมายได้ไม่หลายอย่างหรอก เพราะในเมื่อเขาบอกเธอไปหาหมอจะได้มีทางรักษา..นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่"คุณไม่สบายไม่ใช่เหรอ" วันนั้นที่ร่วมทานอาหารด้วยกัน รวมทั้งที่เธอมีอาการแปลกๆ ซึ่งตั้งแต่อยู่กินกันมาไม่เคยเห็นเธอมีอาการแบบนั้นเลย"คุณไปได้ยินมาจากไหนว่าฉันไม่สบาย""ก็.." สันติกำลังจะพูด แต่เขาก็ต้องได้เก็บคำพูดไว้ก่อน "ตกลงคุณ??""คุณคงเข้าใจผิดอะไรไปแล้วล่ะ ตั้งแต่ฉันอยู่กับคุณมาฉันไม่เคยสบายขนาดนี้มาก่อน ถ้าคุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วจะเข้ามาทำดีด้วย..ก็ไม่ต้อง""หึ" เขาคงจะถูกอิฐหลอก เพื่อที่จะให้มาดูแลเธอ เพราะอิฐรู้จุดอ่อนของเขาดี ว่ารักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน "ถ้างั้นผมก็ขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด และผมดีใจด้วยนะครับที่คุณสบายดี แถมสบายกว่าตอนที่มีผมอยู่ด้วยอีกต่างหาก"จบประโยคคำพูดเขาก็หันหลังให้แล้วเดินออกมาสันติไม่ได้เดินไปทางที่มีประตูเชื่อมต่อกัน แต่เขาออกมาประตูหน้า แล้วก็ตรงไปที่ลิฟต์ โดยที่ไม่ได้สนใจจะไปหยิบเอาของในห้องทำงานเลยพอประตูห้องปิดลง ร่างของกัลยาก็ทรุดลงกับพื้น นี่เธอพูดอะไรออกไป เธอพูดไปได้ย
"ผมเป็นคนชลอเรื่องนี้ไว้เอง" พอทนายจากไปแล้วเขาถึงได้หันมาพูดกับเธอ"คุณทำไปเพื่ออะไร""ช่วงนี้เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องหย่ากันเลยได้ไหม""ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณบอกเหตุผลฉันมา""เหตุผล?" ชายหนุ่มมองดูแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของเธอ "ก็เรื่องโปรเจคไง ผมสัญญากับผู้ร่วมหุ้นคนอื่นไว้แล้วว่าจะดูงานเอง"จุก.. จุกมากเมื่อได้ยินเหตุผลของเขา ที่อยู่ต่อเพราะเรื่องงานอย่างนั้นเหรอ"ถ้าเพราะเรื่องนี้ ถึงแม้เราจะหย่ากันแล้ว แต่คุณก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ คุณจะดูแลโครงการนี้ก็คงไม่มีใครว่า" กัลยาพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้เขาไม่อยากจะหย่าเพราะความสงสารเด็ดขาด"ดูเหมือนคุณอยากจะหย่ามากเลยนะ" สันติอดคิดไม่ได้ เพราะสองสามวันมานี้ได้ยินแต่เธอพูดเรื่องนี้"ค่ะ ฉันอยากจะเซ็นต์วันนี้เลยด้วยซ้ำ"ชายหนุ่มหันกลับไปทางห้องของตัวเอง เพื่อสะกดอารมณ์ "เสียใจด้วย เผอิญว่าผมยังไม่อยากจะหย่า""คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก" ถ้าเหตุผลในการชะลอเรื่องหย่าไว้มีแค่นี้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะชะลอเหมือนเขานี่ รีบหย่ารีบจบกันไป"ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันดีกว่า เดี๋ยวคุณเครียดมากไปกว่านี้""เครียด?!" หญิงสาวรี
นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้นอนกอดเรา เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ไม่อยากจะหย่า..หรือว่าอยากจะหย่ามาก กลัวว่าเราไม่เซ็นต์ให้เหรอในเมื่อจะหย่ากันอยู่แล้ว จะกลับมาอีกทำไม คิดเองก็น้อยใจเอง หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดสามีในเวลานี้ ค่อยๆ ขยับกายเพื่อนอนตะแคงหันหลังให้ เพราะจะบังคับตัวเองให้หลับไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว"??" แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ใบหน้าหล่อคมของสามีก็ค่อยๆ ซุกซอกคอด้านหลังเขาสูดดมกลิ่นกายของเธอ แล้วค่อยๆ ขยับริมฝีปากแนบจูบลงมาจนถึงแผ่นหลัง"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวรีบหันมองกลับไป ..ร่วมเดือนแล้วมั้งที่ไม่ได้สัมผัสกันใกล้ชิดแบบนี้"ผมขอโทษที่ไม่ได้ดูแลคุณ" ใบหน้าของเขาและคำพูดเหมือนสำนึกผิด"คุณหมายความว่ายังไง" หรือเขาจะรู้ว่าเราท้องแล้ว? คนแรกที่กัลยาคิดถึงคืออิฐ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้จากคุณหมอ"นอนนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกแล้ว""??" คุณสันติเนี่ยนะ จะมาบอกให้เราไม่ต้องคิดอะไรมากก่อนนอน ..เพราะทุกครั้งกลับเข้าห้องคือเขาหลับปุ๋ยไปก่อนแล้ว นอกจากวันไหนที่เขาต้องการ ถึงจะรอทำเรื่องอย่างว่าจนเสร็จ แล้วก็นอนหันหลังให้ โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะยังค้างอยู่ไหมกัลยาก็เลยเลือกที่จะหันหลัง