แล้วคฑาจะรออะไร เงินหนึ่งล้านบาทสำหรับเขามันแค่เศษฝุ่น ชายหนุ่มโอนเข้าบัญชีธนาคารให้กับเธอในทันที เพราะนั่นมันหมายถึงการผูกมัดเธอเพื่อที่จะเก็บไว้ใช้งาน
พอได้เงินรรรรรรก็ขอไปทำธุระให้เสร็จก่อน แล้วค่อยจะกลับมาหาเขา ซึ่งคฑาก็ยอม ในที่สุดผู้หญิงทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนที่หยิ่งผยองแบบเธอก็ยังต้องการเงินของเขาอยู่ดี
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง..
นี่แหละเหตุผลที่เธอต้องใช้เงินถึงหนึ่งล้านบาท เพราะพี่สาวของเธอถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน และค่าใช้จ่ายก็สูงลิบลิ่ว
ที่รรรรรรเลือกโรงพยาบาลแห่งนี้ เพราะเธอเหลือพี่สาวแค่คนเดียว ถึงแม้ว่าตอนนี้เด็กจะถูกผ่าคลอดออกมา แต่ก็ต้องได้อยู่ห้องอบสำหรับเด็กทารกแรกเกิด เพราะได้รับความกระทบกระเทือนตอนที่แม่ประสบอุบัติเหตุ
"พี่สาวของฉันปลอดภัยแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ" หญิงสาวถามขึ้นเมื่อเห็นคุณหมอออกมาจากห้องผ่าตัด
"ใช่แล้วครับ แต่ต้องรอให้เธอฟื้นตัวให้ได้ก่อน คงใช้เวลาอีกสักระยะ"
"ฝากคุณหมอดูแลพี่สาวและก็หลานของฉันด้วยนะคะ" ตอนนี้ยิ่งกว่ายกภูเขาออกจากอกเมื่อรู้ว่าพี่สาวปลอดภัยแล้ว แต่ด่านต่อไปที่เธอจะเจอมันคงหนักหนาเอาการ เพราะเธอเห็นฤทธิ์เดชของแม่และพี่สาวของเขาแล้ว
วันต่อมา.. ที่บริษัท
"ลาคลอด?" คฑามองดูเอกสารที่ เลขาคนใหม่เพิ่งจะยื่นมาให้ เพราะมันเป็นเอกสารการคลอดบุตรของพี่สาวเธอเอง
"ใช่แล้วค่ะ พี่รินคลอดก่อนกำหนด" หญิงสาวถือโอกาสลาคลอดให้พี่สาวไปในตัว อุบัติเหตุที่เกิดกับพี่สาวไม่ได้เกี่ยวกับงาน ถึงแม้เธอจะบอกเขาไป ก็คงได้รับแต่ความสงสาร และเห็นใจ รรรรรรก็เลยไม่บอกดีกว่า เพราะถึงยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว
"ส่วนเรื่องงาน ดิฉันจะเริ่มรับผิดชอบส่วนของพี่รินทั้งหมดค่ะ"
"แล้ว?" เรื่องลาคลอดผ่านไป เรื่องงานเลขาก็ผ่านไป แต่ยังเหลือข้อตกลงระหว่างเธอกับเขา ซึ่งเธอก็รับค่าจ้างไปแล้วด้วย
"เรื่องนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะทำงานให้คุณสุดความสามารถ"
"ดี" งานที่เขาอยากให้เธอทำก็มีแค่ กีดกันผู้หญิงทุกคนที่แม่จัดหามาให้ เพราะเขาไม่อยากจะปวดหัวกับเรื่องพวกนี้ แต่ถ้ามีนอกเหนือจากนั้นเขาก็จะแจ้งเธออีกที ซึ่งเธอก็ตอบตกลง
"คนรวยนี่ก็แปลก" หญิงสาวเอ่ยพูดขึ้นในขณะที่เดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง วันนี้เธอต้องได้จัดการงานทั้งหมดคนเดียว โชคดีที่เธอเรียนมาทางด้านนี้ แต่งานบางอย่างก็ไม่ค่อยเข้าใจ
พอเลิกงานรรรรรรต้องรีบไปที่โรงพยาบาล เธอค้างอยู่ที่นี่เพื่อดูแลพี่สาว ที่นอนยังไม่ได้สติ ส่วนหลานสาวมีพยาบาลดูแลอีกที เพราะยังไม่ออกจากตู้อบ
"เมื่อไรพี่จะตื่น พี่มาดูหนูรักสิ ..พี่สงสัยใช่ไหมล่ะว่าใครชื่อรัก ก็ลูกสาวของพี่ไง เขาเป็นความรักของเราทั้งสอง" รรรรรรตั้งชื่อให้หลานสาวว่ารักนรินทร์ เพราะชื่อนี้คล้ายกับชื่อของแม่และน้าด้วย
ผ้าชุบน้ำเย็นๆ ถูกลูบไล้ตามเนื้อตัวของรรินธร ..เธอเช็ดตัวและคุยกับพี่ เพื่อให้พี่สาวฟื้นตัวได้เร็ว แต่ก็ผ่านมาสามวันแล้วรรินธรยังไม่ได้สติเลย
หมอบอกไม่ต้องเป็นห่วงมากถ้าพี่สาวของเธอพร้อมที่จะตื่น เดี๋ยวก็ตื่นเอง เพราะทั้งชีพจรและความดันเป็นปกติหมดแล้ว
ครืนนน ครืนนนนน
ในค่ำคืนเดียวกันนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น รรรรรรที่กำลังจะหลับก็ได้ลุกขึ้นมารับโทรศัพท์สายนั้นก่อน
"นอนหรือยัง"
"ยังค่ะ"
"คืนนี้มีงานเลี้ยงที่โรงแรม เดี๋ยวจะให้คนไปรับ" ที่เขาโทรมาบอกดึกขนาดนี้ เพราะทีแรกคิดว่าจะไม่ไป แต่แม่ก็โทรมาตามอยู่นั่นแหละ
"โรงแรมไหนคะเดี๋ยวฉันไปเองได้"
"แต่เธอต้องได้แต่งตัว"
"ที่ไหนนัดมาได้เลยค่ะ" ถ้าเธอให้คนของเขามารับที่โรงพยาบาล ก็ต้องมีคำถามอีกนั่นแหละว่าทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่
พอรู้สถานที่แน่ชัดแล้ว เธอก็ไม่รีรอรีบออกมาจากโรงพยาบาลแล้วเรียกแท็กซี่
ซอยใกล้โรงแรมของกัลยา
หญิงสาวร่างระหงที่อยู่ในชุดราตรีสีสดใสได้ก้าวลงจากรถที่มีคนขับรถเป็นผู้ช่วยคนสนิทของเขา แล้วเดินไปขึ้นรถอีกคัน ซึ่งรถคันนี้ คฑาเป็นคนขับเอง
ความสวยของเธอไม่สามารถที่จะดึงดูดสายตาของเขาได้ ..พอเข้ามาในโรงแรม ทั้งสองก็ควงกันเดินเหมือนคู่รักที่รักกันแทบจะกลืนกิน
"ดู..ดูมันทำ" คนที่พูดก็คือกัลยาพี่สาว และก็พูดกับสามีของตัวเอง
"น้องก็บอกแล้วว่านั่นเป็น..."
"หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!" สามียังไม่ทันได้พูดจบประโยคเลยด้วยซ้ำ ก็ถูกภรรยาตะคอก
สันติก็เลยเดินไปคุยกับแขกของโรงแรมที่มาร่วมงาน
วันนี้ที่จัดงานขึ้น อัญชัญอยากจะแนะนำลูกสะใภ้ให้คนในแวดวงสังคมได้รู้จัก แต่ไม่คิดว่าลูกชายจะตลบหลังด้วยการควงผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาด้วยแบบนี้
"คุณ.." ถึงแม้จะเก่งแค่ไหน แต่เจอสายตาทุกคู่ที่เพ่งเล็งมา มันก็สร้างความประหม่าให้กับเธอ
"ไม่ต้องพูดอะไรแล้วเดินตามฉันมา" ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปกระซิบพูดใกล้หูของคนตัวเล็กด้วยใบหน้าที่อมยิ้ม แต่เธอก็รู้แหละว่านั่นมันคือการแสดงละครของเขา
"ว่าไงครับคุณแม่"
"ลูกทำอะไร!" อัญชัญคิดว่าลูกชายจะไว้หน้าของนางบ้าง
"ไม่คิดว่าคุณแม่จะจัดงานใหญ่ขนาดนี้"
"ให้มันออกจากงานไปเดี๋ยวนี้เลยนะ" สายตาของนางมองจิกมาที่คู่ควงลูกชาย
"สวัสดีค่ะคุณแม่" หญิงสาวพนมมือไหว้แบบนอบน้อม และส่งยิ้มหวานให้กับแม่สามี
"เอากองไว้ตรงนั้นแหละ แล้วก็ไสหัวไปสะ" นางแค่พูดออกมาเบาๆ
"แรงส์" รรรรรรก็อุทานออกมาเบาๆ เช่นกัน
"คฑาพี่ว่ามานั่งตรงนี้ดีกว่า" กัลยาเดินมาแยกทั้งสองออกจากกัน แล้วลากแขนน้องชายให้มานั่งที่เก้าอี้
รรรรรรกำลังจะเดินตามไป แต่ถูกแม่ของเขายืนขวางหน้าไว้ก่อน ส่วนผู้หญิงที่แม่จัดหาให้ นางได้กระซิบบอกอะไรสักอย่าง แล้วเธอคนนั้นก็รีบเดินตามเข้าไปนั่งข้างๆ
"ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"
"เรื่องอะไรคะ"
"ตามมา" ว่าแล้วอัญชัญก็เดินนำหน้าไปที่ประตู เพราะคิดว่าเธอจะตามมา แต่พอหันกลับมาอีกที ตอนนี้รรรรรรกำลังเดินตรงไปโต๊ะที่มีลูกชายของนางนั่งอยู่
"ขอนั่งด้วยคนสิคะ" หญิงสาวเดินมาถึง ก็เอ่ยพูดขึ้นกับเขาที่ถูกผู้หญิงนั่งรายล้อมอยู่ ข้างซ้ายพี่สาว ข้างขวาผู้หญิงที่แม่จัดหามาให้"นั่งเลยครับ" คฑารีบลุกขึ้นให้เธอนั่งเก้าอี้ตัวนั้นแบบสุภาพบุรุษ แต่ไม่ใช่หรอกอยากจะสลัดใครบางคนแถวนี้ออกต่างหาก"นี่เธอ!" กัลยาตะคอกเสียงไม่พอใจใส่รรรรรร"อาหารที่นี่ท่าจะอร่อยนะคะคุณพี่""ใครพี่เธอ""คุณพี่เป็นพี่สาวของสามี ก็เท่ากับเป็นพี่ของฉันนั่นแหละค่ะ" รรรรรรยังแสร้งพูดต่อเหมือนไม่คิดอะไรกับคำพูดของพี่สาวเขากัลยารีบมองหาสามีของตัวเอง เพื่อที่จะให้มาจัดการผู้หญิงปากเก่งคนนี้ แต่พอมองไปเห็นสามีกำลังชนแก้วอยู่กับสาวที่ไหนไม่รู้ ก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหา คนที่เป็นสามีในทันที"คฑาทำไมลูกทำแบบนี้ ช่วยไว้หน้าแม่หน่อยได้ไหม!" อัญชัญเดินมาถึงก็นั่งข้างๆ ลูกชาย ซึ่งตอนนี้เขานั่งแทนที่พี่สาว"เมื่อกี้ผมได้ยินคุณถามว่าอาหารที่นี่คงอร่อย ผมแนะนำจานนี้เลยครับ เป็นราชินีอาหารของโรงแรมพี่สาวผมเลย" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ตักอาหารจานที่พูดถึงวางลงใส่จานให้เธอ โดยที่ไม่สนใจคำพูดของแม่"ต้องลองชิมดูก่อนค่ะ ว่าจะอร่อยเท่าคุณไหม" ว่าแล้วหญิงสาวก็ตักอาหารขึ้นมาชิมดู "ก็อร่อย
"เรื่องเงินพี่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย พี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันดูแลพี่ในยามที่ไม่สบายได้ไหม" หญิงสาวอยากจะพูดให้พี่คลายกังวล"แต่พี่ดีขึ้นมากแล้ว""ถึงดีขึ้นมากแต่ก็ยังไม่หายขาดนี่ ถ้าย้ายโรงพยาบาลเผื่อมันทรุดลงล่ะ ฉันจะอยู่กับใคร พี่คิดข้อนี้บ้างไหม" รรรรรรเริ่มขึ้นเสียงเมื่อเห็นว่าพี่ไม่ยอม จนพี่สาวต้องยอมฟัง แล้วค่อยๆ นอนลงที่เดิม"ถ้าพี่รักฉัน พี่ต้องดูแลตัวเองให้ดี ทำตัวให้แข็งแรงเร็วๆ เข้าใจไหม" มือเรียวเอื้อมไปจับผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวให้กับพี่สาว ถึงแม้อยากจะร้องไห้มากแค่ไหน ทั้งพี่และน้องก็พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็น ว่าตัวเองกำลังอ่อนแออยู่[บริษัท]หญิงสาวก้าวลงจากแท็กซี่ ใบหน้างามเงยขึ้นไปมองชั้นบนสุด ซึ่งมันเป็นชั้นที่เธอทำงานอยู่ แล้วลอบถอนหายใจออกมา เพราะเธอต้องหาคำพูดเพื่อที่จะพูดกับเขาเรื่องเงินเวลาผ่านไปจนถึง 09 : 40 นาที ก๊อก ก๊อก ยังไงวันนี้เธอต้องคุยเรื่องเงินให้ได้ จะคุยตอนไหนก็คงเหมือนกัน หญิงสาวเลือกเวลาที่ดูเหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะถ้าใกล้เที่ยงเดี๋ยวเขาก็ออกไปทานข้าวกับลูกค้าอีก"เชิญ""บอสคะ..เออ.." อุตส่าห์ตั้งหลักมาแต่ไกล แต่พอเห็นสายตาที่เขามองมา กลั
มือเรียวกวักเรียกแท็กซี่ที่ขับผ่านไปมาหน้าโรงพยาบาล และก็มีแท็กซี่คันหนึ่งจอดรับเธอพอบอกชื่อคอนโด แท็กซี่ก็พาเธอขับตรงไปที่นั่น เพราะรถโดยสารรู้จักคอนโดหรูแห่งนี้เป็นอย่างดี"ที่นี่เหรอคะ" ไม่แปลกหรอกที่เขาจะซื้อที่แบบนี้อยู่ เพราะรวยระดับนั้นแล้ว"ใช่แล้วจ๊ะหนู" แท็กซี่มองหน้าเธอ ก็รู้แล้วว่าคงมารับจ๊อบ เพราะคนรวยส่วนมากชอบแอบซื้อกินหญิงสาวส่งเงินให้ตามจำนวนที่มิเตอร์ขึ้น แล้วเธอก็เดินตรงเข้ามาด้านในรรรรรรบอกกับพนักงานที่ดูแลคอนโดชั้นล่าง ตามที่คฑาได้บอกไว้ พนักงานก็เลยปล่อยให้เธอขึ้นไปขึ้นมาถึงรรรรรรก็กดรหัสผ่านที่เขาให้ไว้อีกนั่นแหละ และเธอก็ได้เข้ามาในห้องสูทสุดหรูของคอนโดราคาแพงหญิงสาวมองหาสวิตช์ไฟ แต่พอเธอก้าวเข้ามาแค่ไม่กี่ก้าวไฟในห้องก็เปิดเอง"ขนาดไฟยังไม่ต้องเปิดเองเลย อะไรจะขนาดนั้น" เธอพูดกับตัวเองแล้วก็มองทอดออกไปดูด้านนอกอาคาร เพราะบรรยากาศยามค่ำคืนมันสวยงามมาก และคอนโดแห่งนี้ก็เป็นกระจกรอบทิศทางคนเราทำบุญมาไม่เท่ากันจริงๆ นี่แค่คอนโดที่เขาซื้อทิ้งไว้ ยังหรูหราได้ถึงเพียงนี้ มองลงไปดูแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา แสงไฟในยามค่ำคืนของตึกอีกฝั่งหนึ่ง มันช่างดึ
เข้ามาถึงในห้องน้ำ มันก็สร้างความตะลึงให้เธออีกครั้ง แค่ห้องน้ำของเขา คงสร้างบ้านได้ทั้งหลัง มือเรียวลูบไล้อ่างอาบน้ำราคาแพง ถ้าได้นอนแช่ในอ่างนี้คงจะฟินน่าดู แต่เธอก็ต้องได้รีบชำระร่างกายของตัวเองออกหญิงสาวใช้น้ำฝักบัวที่แบ่งเป็นสัดส่วนและมีห้องกระจกกั้นไว้ พออาบน้ำเสร็จคนร่างเล็กก็เดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบร่างกายอยู่ดวงตากลมเปิดกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าเขากำลังฉายอะไรบนทีวีจอใหญ่ที่ติดอยู่ในห้องชายหนุ่มไม่พูดอะไรก็เข้าไปใช้ห้องน้ำต่อจากเธอ ซึ่งหญิงสาวยืนตัวแข็งทื่อ เพราะคลิปที่เขาเปิดในทีวี มันคือภาพชายหญิงกำลังเริงรักกันอยู่บนเตียงแต่เธอก็จำเป็นต้องได้ดู เขาคงอยากจะได้แบบนี้ พอชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเธอนั่งอยู่ปลายเตียง และมองสิ่งที่เขาเปิดไว้รรรรรรกรอกสายตามองดูชายที่เพิ่งจะเดินผ่านหน้าของเธอไป เคยเห็นแต่เขาใส่ชุดสูท แต่ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแบบนี้ หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกมาจากอกเลยก็ว่าได้ เพราะสัดส่วนของเขาไม่มีที่ให้ติเลยและเธอก็ต้องได้รีบละสายตาไปมองที่อื่นเมื่อเขาเดินกลับมาที่เธอ"พร้อมหรือยัง"ยังไม่พร้อมได้ไหม.. สิ่งที่คิดกับสิ่งท
[คฤหาสน์หลังงาม]"ทำไมวันนี้ถึงกลับดึก" คำถามแรกของผู้เป็นแม่ เมื่อเห็นลูกชายเปิดประตูรถออกมา"มีงานด่วนเข้ามาครับ" ทีแรกคฑาก็มาถึงบ้านแล้ว แต่พอได้รับโทรศัพท์จากเธอ เขาก็ออกไปโดยที่แม่ยังไม่รู้ว่ากลับมาครั้งหนึ่งแล้ว"แม่ไม่ปลื้มเลยนะที่ลูกทำแบบนี้ รู้ไหมว่าหนูเอมมี่รอทานข้าวเย็นด้วย""ถ้าผมไม่อยู่ กลืนข้าวไม่ลงหรือไงครับ""คฑา!""ขอโทษครับแม่ วันนี้ผมเหนื่อย ขอตัวไปนอนก่อนนะ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินขึ้นมาบนบ้าน โดยที่ไม่รอฟังว่าแม่จะพูดอะไรต่อ"แม่นึกว่าเราขึ้นห้องไปแล้ว" หันกลับมาอีกทีก็เห็นลูกสาวเดินเข้ามา"รอคุณสันติอยู่ค่ะแม่ ยังไม่กลับบ้านเลยไม่รู้ไปไหน โทรไปก็ไม่รับสาย""ยังไม่กลับอีกเหรอ" ว่าลูกชายกลับดึกแล้วลูกเขยยิ่งกลับดึกกว่าสันติและกัลยาก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดียวกัน ถึงแม้สันติจะชวนภรรยาแยกครอบครัวออกไปอยู่ส่วนตัว หรือไม่ก็ค้างที่โรงแรมของตัวเอง แต่ภรรยาก็ไม่ยอม เพราะอยากจะอยู่ใกล้แม่ฐานะครอบครัวของสันติไม่ใช่คนมั่งมีอะไร ส่วนมากก็ได้รับความช่วยเหลือจากภรรยา ที่จริงแม่ก็ไม่อยากให้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ แต่เพราะลูกสาวมีลูกไม่ได้ก็เลยปล่อยไป เพราะถ้าแต่งงานกับคนที่ฐานะเท่า
ในเมื่อมันเป็นคำสั่งของเขา แล้วเธอจะปฏิเสธได้อย่างไร หญิงสาวกลับมาที่โรงพยาบาลแล้วรอรับโทรศัพท์ ในใจก็ภาวนาว่าอย่าโทรมาเลย เพราะพรุ่งนี้ก็เป็นวันผ่าตัดของพี่สาวแล้ว หรือว่าเราจะบอกเขาดี ..แต่บอกแล้วจะได้อะไรขึ้นมาล่ะชีวิตของเธอกับพี่สาว ทั้งสองต่างก็ช่วยเหลือกันและกันเองมาโดยตลอด เพราะยื่นมือไปขอความช่วยเหลือจากใครไม่เคยได้ และเธอก็รู้ดีว่าพี่สาวต้องลำบากแค่ไหน กว่าจะเลี้ยงเธอโตมา ทั้งส่งเสียให้เล่าเรียน"คุณหมอบอกว่าให้พี่งดอาหารเพื่อรอผ่าตัดพรุ่งนี้ ทำไมพี่ต้องได้ผ่าตัดอีก" รรินธรพยายามถามหมอและพยาบาลดูแล้ว แต่พวกเขาบอกว่าต้องถามญาติเอง ..เธอรู้ดีว่ามันเป็นจรรยาบรรณถ้าญาติไม่อนุญาตให้พูดก็ไม่สามารถที่จะบอกได้"พี่แค่ทำใจให้สบาย และทำตามที่ฉันบอก เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเองค่ะ" การผ่าตัดในครั้งนี้เธอได้คุยกับหมอแล้ว หมอบอกว่าจะเอาเนื้องอกออกมาก่อน และก็ต้องได้เอาเนื้องอกนั้นไปตรวจหามะเร็ง เพราะมันมีสิทธิ์พัฒนากลายเป็นมะเร็งได้"พี่จะไม่ตายใช่ไหม" คิดว่าต้องเกี่ยวกับอาการปวดหัวที่เธอเป็นอยู่แน่ ที่จริงอาการปวดหัวก็มีมาสักระยะแล้ว แต่ไม่อยากจะให้น้องต้องมาคิดมาก และวันนั้นที่ตรวจร่าง
"ดูความร่านของผู้หญิงคนนี้สิ! แม่ไม่มีวันเอามาเป็นลูกสะใภ้ ให้เป็นเสนียดวงศ์ตระกูลของเราแน่!""แล้วคุณแม่จะทำยังไงคะ" ทั้งสองคุยกันอยู่ที่หน้าประตูห้องของคฑานี่เอง เพราะเสียงครางที่เขาตั้งใจให้ข้างนอกได้ยิน..มันได้ผลเช้าวันต่อมา.."โอ๊ย" คนตัวเล็กค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้น สายตาของเธอมองดูผู้ชายที่นอนหลับอยู่ข้างๆ เมื่อคืนนี้เขาไม่ได้ทำกับเธอแค่ครั้งเดียว มันก็เลยสร้างความเจ็บปวดบนร่างกายให้เธอมาก "กี่โมงแล้ว" มองดูแสงสว่างด้านนอกคงสายมากแล้วแน่เลย หญิงสาวก็เลยมองไปดูนาฬิกาที่ติดอยู่ผนังห้องเธอต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เพราะใกล้เวลาผ่าตัดแล้ว"บอสคะ" หญิงสาวไม่มีเวลาแม้แต่จะอาบน้ำ เธอลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าชุดเดิม พร้อมกับปลุกเขาให้ตื่น เพราะเขาบอกว่าจะให้คนไปส่ง ถ้าเดินออกไปเรียกแท็กซี่คงจะใช้เวลานานแน่ "บอส""อืม" คฑาเปล่งเสียงออกมาเหมือนกับรำคาญที่ถูกกวน"คุณคฑาตื่นเดี๋ยวนี้นะ!!"คนที่นอนหลับอยู่ถึงกับหลี่ตาขึ้นมามอง เพราะน้ำเสียงที่เธอใช้ เหมือนสั่งให้เขาตื่น และเขาก็ดูจะไม่ชอบใจนัก"คุณบอกว่าจะให้คนรถไปส่งฉัน" หญิงสาวต้องได้รีบเปลี่ยนโทนเสียงที่พูด"จะรีบไปไหนนอนต่อก่อน" เขายั
16 : 35 น. ของเย็นวันเดียวกันนั้นรรรรรรชะเง้อมองประตูห้องทำงานของท่านประธานหลายครั้งแล้ว ที่มองไม่ใช่เพราะว่าเธออยากรีบกลับไปพักผ่อน แต่อยากกลับไปหาพี่สาวกับหลานมากกว่าหนึ่งชั่วโมงผ่านไป..ท่านประธานก็ยังไม่ออกมามือเรียวเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพาย แล้วออกจากที่ทำงานโดยไม่บอกกล่าวกับใครเลย เพราะเธอคิดว่าถ้าเขามีธุระก็คงจะโทรตามเอง ที่เธอเลือกที่จะไม่บอกก็เพราะว่ากลัวเข้าไปรบกวนการทำงาน[โรงพยาบาล]"ได้นอนบ้างหรือเปล่าล่ะเรา" รรินธรถามขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวเปิดประตูเข้ามา เพราะรู้ดีว่าน้องเฝ้าตัวเองมาทั้งคืน แถมตอนเช้ายังต้องรีบไปทำงานอีก"พี่ดูสีหน้าสดใสขึ้นมากเลยนะ" เห็นแค่นี้เธอก็หายเหนื่อยแล้ว"พี่ว่าเรานอนพักผ่อนบ้างเถอะนะ" ต่างฝ่ายต่างก็เป็นห่วงกัน"เดี๋ยวค่อยนอนก็ได้ค่ะ ขอไปดูหลานก่อนคิดถึงหนูรักจะแย่แล้ว" พอเห็นว่าพี่สาวดีขึ้นมาก เธอก็เลยไปดูหลาน"หนูรักคะ" มือเรียวลูบกระจกที่มีหลานสาวนอนดิ้นอยู่ในนั้น "ตอนนี้แม่ของหนูปลอดภัยแล้วนะ อีกไม่นานเราก็จะได้กลับบ้านพร้อมกัน หนูเป็นเด็กดีมากรู้ไหม"คุยกับหลานอยู่เพียงไม่นาน ก็ต้องได้กลับมาที่ห้องรรรรรรกลับมาถึงก็เห็นพี่สาวนอนหลับไปแล้ว หญ
"คุณทำอะไรคะ" กัลยาเห็นว่าเขากำลังทำอะไรกับเตียงสักอย่าง"ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณจะอาบน้ำอีกไหม""อาบก่อนที่จะมาแล้วนี่คะ""ครับ..ถ้างั้นก็มานอนกันดีกว่า" ขยับเตียงเสร็จ สันติก็จัดการกับผ้าปูที่นอน เพราะดูเหมือนจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร"คุณขยับออกไปนิดหนึ่งก็ได้ค่ะ" นอนได้สักพัก หญิงสาวก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ก็เลยบอกให้สามีขยับออกห่างเธอหน่อย"คุณอึดอัดที่ผมกอดเหรอ""เปล่าสักหน่อย""แล้วทำไมให้ขยับล่ะ""ก็ฉันกลัวจะอด..เออ" กัลยาคิดว่ามันเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเธอหรือเปล่า พอได้กลิ่นกายของสามีใกล้ๆ ก็เริ่มมีอารมณ์ ซึ่งแต่ก่อนเขาจะทำหรือไม่ทำก็ไม่เป็นไร"คุณก็พูดให้จบสิผมจะได้รู้""ฉันเป็นผู้หญิง""ผู้หญิง?? คุณอยากอีกแล้วเหรอ" เขาพูดแทนในสิ่งที่ผู้หญิงคงไม่กล้าพูดกัลยาอายมากจนเอาใบหน้าซุกเข้าไปกับแผ่นอกของสามี โชคดีที่หมอไม่ได้ห้ามเรื่องอย่างว่า เพราะเรื่องนี้สันติแอบถามมาแล้วตึก! ตึก! ตึก!!"เราทดลองดีแล้วไม่ใช่หรือพ่อ""ปล่อยมันไปเถอะแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ช่างมาต่อเติมห้องข้างล่าง""ต่อเติมห้องข้างล่างทำไม""เราจะย้ายลงไปนอนข้างล่างกัน"วันต่อมา..ที่โรงแรมกัลยา"คุณสันติ!" อิฐ
เย็นวันเดียวกัน พอได้รับข่าวดี อัญชัญก็เลยให้คนจัดเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองเล็กๆ ในบ้าน กัลยาและสามีก็เลยต้องได้ค้างที่บ้านหลังนี้แต่อัญชัญก็ไม่ได้คิดว่าจะเลี้ยงแค่นี้ เพราะมันเป็นความยินดีที่สุดในครอบครัว จึงอยากจะป่าวประกาศให้คนในสังคมได้รับรู้ด้วย ก็เลยคิดว่าจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอีกครั้ง"พี่สุดยอดมากเลยนะ" ขณะที่คฑาและคริสได้อยู่ตามลำพังกับสันติ ทั้งสองถึงกับยกนิ้วโป้งให้ จากเปอร์เซ็นต์ที่มีน้อยมาก แทบจะไม่มีเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ แต่สันติก็ทำมันสำเร็จสันติไม่เอ่ยพูดอะไรได้แค่อมยิ้มเล็กน้อย ในความเก่งของตัวเอง"หยุดเลยนะคะ" รรรรรรรีบห้ามกัลยา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะอุ้มรชต"ทำไม""เดี๋ยวพี่สันติก็มาเล่นงานอีก""เขาบ้าเห่อไปงั้นแหละ""แม่ก็ว่าอย่าเพิ่งอุ้มหลานเลย เรายิ่งมีลูกยากอยู่""ค่ะ" กัลยาก็เลยเชื่อฟัง ได้แค่นั่งหยอกรชตตอนที่คนอื่นอุ้มในเวลาเดียวกันนั้น และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ที่บ้านของสันติ"สงสัยวันนี้จะไม่กลับมานอนบ้าน" เศรษฐาพูดเปรยกับภรรยาขณะที่กำลังเดินขึ้นบ้าน เพราะเพิ่งจะปิดร้าน"คงใช่" เพราะถ้าลูกชายจะมานอนค้างที่บ้านก็คงกลับมาแล้ว"แม่.."สินีหยุดแล้วหันกลับมามอ
เช้าในวันต่อมา..วันนี้เป็นวันหยุดของผู้บริหาร ส่วนพนักงานโรงแรมจะผลัดเปลี่ยนกันทำงาน เพราะโรงแรมต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง"อึก..อึก.." ตื่นขึ้นมากัลยาก็อยากจะอาเจียน แต่เธอต้องพยายามกลั้นไว้ ทีแรกว่าจะบอกเขาเรื่องท้องตอนที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่พอปล่อยเวลาให้ผ่านไป เธอก็เลยไม่รู้จะเริ่มต้นบอกกับเขายังไง"คุณเป็นอะไร""เปล่าค่ะ""อยากจะอาเจียนใช่ไหม"หญิงสาวพยักหน้าบอกทันที สันติรีบปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ..พอเป็นอิสระเท่านั้นแหละ กัลยาก็รีบตรงเข้าไปในห้องน้ำชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเข้าไปลูบหลังให้ พอเธอสบายท้องแล้วเขาก็กดน้ำลงให้"ดีขึ้นไหม""เวียนหัว" วันนี้รู้สึกว่าจะมีอาการเวียนหัวเพิ่มขึ้นมา"ไปหาหมอกัน""ไม่ค่ะ""ทำไม""ก็ฉันรู้อยู่ว่าตัวเองเป็นอะไร" ยังไงต้องได้บอกเขาอยู่แล้ว ถ้างั้นก็บอกวันนี้เลยแล้วกัน"ผมก็รู้""คะ??""คุณรู้ไหมว่าผมรอว่าเมื่อไรคุณจะบอกผม""คุณหมายความว่ายังไง" กัลยาลองถามดู ว่าที่เขาพูดหมายถึงเรื่องเธอท้องไหม หรือพูดคนละเรื่อง"ผมก็แอบน้อยใจ เมื่อไรคุณจะบอกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเราสองคนสักที แต่คุณก็ไม่พูด""คุณรู้แล้วหรือคะ""ผมคงเป็นพ่อที่ไม่ดีมากเลยใช่ไหม คุณ
"คุณอยากกินเหรอ" เข้าทางสันติเลย เพราะคิดอยู่ว่าจะเอาของเปรี้ยวมาล่อเธอตอนไหนดี"เปล่าสักหน่อย ฉันแค่มองดูว่าทำไมถึงมีของแบบนั้นอยู่ในห้องอาหาร" เพราะอาหารพวกนี้มันเป็นอาหารเฉพาะ และถ้ามีใครแอบเอาอาหารข้างนอกเข้ามากิน ก็จะถูกทำโทษ เพราะกลัวว่าจะขัดต่อมาตรฐานอาหารของโรงแรม"น้ำเก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ" วิลาวัลย์รีบเดินกลับมาเพื่อส่งซิกให้กับน้ำใจน้ำใจก็รีบเก็บมันไว้ โชคดีที่เป็นมะม่วงสด ถ้าเป็นของดองยิ่งจะถูกเล่นงานหนัก เพราะกลิ่นมันแรง"ฉันก็ลืมดูต้นทางให้แก แล้วนี่แกเป็นอะไรทำไมถึงอยากจะกินของเปรี้ยวๆ แบบนี้แต่เช้าจัง" ธัญญ่าเข้ามายืนบังเพื่อนไว้ในขณะที่กำลังเก็บของกินอยู่"ไม่รู้..สงสัยจะเป็นประจำเดือนมั้ง อยากกินแบบนี้มาหลายวันแล้ว""ทานข้าวหน่อยสิ" สันติตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้กับกัลยาแต่เธอก็ยังมีท่าทางพะอืดพะอม เขาก็เลยเอายาดมที่ติดตัวมาด้วยส่งให้"คุณมีของแบบนี้ได้ยังไง" กัลยาถามสามี เพราะไม่เคยเห็นเขาดมยาสักที แล้วจะติดตัวมาทำไม"ผมเห็นใครวางไว้ที่บ้านไม่รู้ ก็เลยหยิบติดมาด้วย"พอได้ดมยาเข้าไปแล้ว กัลยาก็พอจะทานอาหารได้บ้าง แต่ก็ทั้งทานและทั้งดมยาไปด้วยสายๆ ของวันเดียวกัน.."อะไร
"หนูเป็นอะไร" สินีรีบวางของที่กำลังทำอยู่ เดินตามลูกสะใภ้เข้าไปในห้องน้ำ"คุณแม่อย่าเข้ามาค่ะ" คุยกับแม่สามียังไม่ขาดคำเธอก็ต้องได้หันกลับไปคุยกับคอห่านอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรจะออกมา เพราะเพิ่งจะตื่นก็เลยยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย"ดมยาหน่อยนะ" แม่ของสามีไปเอายาดมที่เตรียมไว้ขายออกมาให้ลูกสะใภ้"ขอบคุณค่ะ" พอเธอเอามาใส่จมูกแล้วสูดดม ก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะ อาการพะอืดพะอมก็หายไป"หนูเป็นอะไร""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ กัลขอตัวก่อนนะคะจะรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน" ที่ไม่อยากจะอยู่นาน เพราะยังอายเรื่องเมื่อคืนนี้อยู่มาก"แล้วตาสันติล่ะ""คุณสันติยังไม่ตื่นค่ะ"สินีก็เลยไม่พูดต่อ เมื่อคืนนี้นางรู้ดีว่ากว่าลูกชายจะได้หลับได้นอน เพราะพ่อกับแม่ก็ได้นอนพร้อมกันนั่นแหละ.."กลิ่นหอมมาแต่ไกลเลยค่ะคุณป้า" จังหวะที่กัลยากำลังจะเดินออกประตู ก็เจอเข้ากับอ้อมเด็กข้างบ้าน "นี่?!" และอ้อมถึงกับชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร"หนูอ้อมมาแต่เช้ามีอะไร" แม่ของสันติถามไปแบบเกรงใจลูกสะใภ้"อ้อมอยากจะมาฝากท้องค่ะ วันนี้แม่ไม่อยู่บ้าน" อ้อมพูดในขณะที่มองตามหลังกัลยาออกไปแบบไม่พอใจตุ๊บ! เสียงกัลยาปิดประตูรถ เธอเลือกที่จะไม่
"ฉันนอนข้างในก็ได้ค่ะ" หญิงสาวเริ่มพูดเสียงเบาลง เมื่อสัมผัสถึงความแข็งแกร่งที่มันเริ่มขยายตัวขึ้นมา"ไม่ทันแล้ว" สันติจับร่างของเธอให้นอนลงข้างล่าง แล้วดันตัวเองขึ้นคร่อมเธอไว้ จมูกคมสันโน้มลงไปไซ้ซอกคอระหงและสูดดมกลิ่นกายของเธอแบบโหยหาและอาวรณ์ เขาคิดว่าจะไม่มีวันนี้อีกแล้ว"อย่าทำแรงนะคะ" กัลยาไม่ได้ห้ามถ้าเขาจะทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวจะมีผลกระทบกับลูกเพราะรู้ดีเวลาที่เขากระแทก ไม่ค่อยชอบเก็บแรงไว้เท่าไรที่กัลยายังไม่บอกเรื่องท้อง เพราะถ้าบอกไปแล้วกลัวเขาจะคิดว่าที่เธอวิ่งมาหาเพราะกลัวว่าลูกจะไม่มีพ่อ"ไหนบอกสบายดีแล้วไง ทำไมถึงไม่ให้ทำแรง" วันนั้นที่เขายับยั้งก็เพราะได้ยินอิฐบอกว่าเธอไม่สบาย"ก็กลัวพ่อกับแม่ที่นอนอยู่ข้างห้องจะได้ยินไงคะ" หญิงสาวรีบหาข้ออ้างมาพูดแต่สันติไม่รับปาก เขาจัดการกับเสื้อผ้าของเธอออกแบบรวดเร็ว พอทั้งสองไม่มีอะไรปิดบังแล้ว ชายหนุ่มก็เลื่อนตัวลงมาที่ใต้หว่างขาหญิงสาวค่อยๆ แยกขาออกแบบรู้งาน เพราะเธอชอบมากเวลาที่เขาลงลิ้นให้ แต่ก็นานๆ ครั้ง เหมือนอย่างที่เคยพูดนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปตามควายที่ไหน"อ๊อย..คุณสันติ.." กัลยาเริ่มครวญครางเมื่อถูกลิ้นตวัดแร
"คุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ?" คำพูดที่เขาเพิ่งจะพูดไป มันตีความหมายได้ไม่หลายอย่างหรอก เพราะในเมื่อเขาบอกเธอไปหาหมอจะได้มีทางรักษา..นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่"คุณไม่สบายไม่ใช่เหรอ" วันนั้นที่ร่วมทานอาหารด้วยกัน รวมทั้งที่เธอมีอาการแปลกๆ ซึ่งตั้งแต่อยู่กินกันมาไม่เคยเห็นเธอมีอาการแบบนั้นเลย"คุณไปได้ยินมาจากไหนว่าฉันไม่สบาย""ก็.." สันติกำลังจะพูด แต่เขาก็ต้องได้เก็บคำพูดไว้ก่อน "ตกลงคุณ??""คุณคงเข้าใจผิดอะไรไปแล้วล่ะ ตั้งแต่ฉันอยู่กับคุณมาฉันไม่เคยสบายขนาดนี้มาก่อน ถ้าคุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วจะเข้ามาทำดีด้วย..ก็ไม่ต้อง""หึ" เขาคงจะถูกอิฐหลอก เพื่อที่จะให้มาดูแลเธอ เพราะอิฐรู้จุดอ่อนของเขาดี ว่ารักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน "ถ้างั้นผมก็ขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด และผมดีใจด้วยนะครับที่คุณสบายดี แถมสบายกว่าตอนที่มีผมอยู่ด้วยอีกต่างหาก"จบประโยคคำพูดเขาก็หันหลังให้แล้วเดินออกมาสันติไม่ได้เดินไปทางที่มีประตูเชื่อมต่อกัน แต่เขาออกมาประตูหน้า แล้วก็ตรงไปที่ลิฟต์ โดยที่ไม่ได้สนใจจะไปหยิบเอาของในห้องทำงานเลยพอประตูห้องปิดลง ร่างของกัลยาก็ทรุดลงกับพื้น นี่เธอพูดอะไรออกไป เธอพูดไปได้ย
"ผมเป็นคนชลอเรื่องนี้ไว้เอง" พอทนายจากไปแล้วเขาถึงได้หันมาพูดกับเธอ"คุณทำไปเพื่ออะไร""ช่วงนี้เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องหย่ากันเลยได้ไหม""ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณบอกเหตุผลฉันมา""เหตุผล?" ชายหนุ่มมองดูแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของเธอ "ก็เรื่องโปรเจคไง ผมสัญญากับผู้ร่วมหุ้นคนอื่นไว้แล้วว่าจะดูงานเอง"จุก.. จุกมากเมื่อได้ยินเหตุผลของเขา ที่อยู่ต่อเพราะเรื่องงานอย่างนั้นเหรอ"ถ้าเพราะเรื่องนี้ ถึงแม้เราจะหย่ากันแล้ว แต่คุณก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ คุณจะดูแลโครงการนี้ก็คงไม่มีใครว่า" กัลยาพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้เขาไม่อยากจะหย่าเพราะความสงสารเด็ดขาด"ดูเหมือนคุณอยากจะหย่ามากเลยนะ" สันติอดคิดไม่ได้ เพราะสองสามวันมานี้ได้ยินแต่เธอพูดเรื่องนี้"ค่ะ ฉันอยากจะเซ็นต์วันนี้เลยด้วยซ้ำ"ชายหนุ่มหันกลับไปทางห้องของตัวเอง เพื่อสะกดอารมณ์ "เสียใจด้วย เผอิญว่าผมยังไม่อยากจะหย่า""คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก" ถ้าเหตุผลในการชะลอเรื่องหย่าไว้มีแค่นี้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะชะลอเหมือนเขานี่ รีบหย่ารีบจบกันไป"ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันดีกว่า เดี๋ยวคุณเครียดมากไปกว่านี้""เครียด?!" หญิงสาวรี
นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้นอนกอดเรา เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ไม่อยากจะหย่า..หรือว่าอยากจะหย่ามาก กลัวว่าเราไม่เซ็นต์ให้เหรอในเมื่อจะหย่ากันอยู่แล้ว จะกลับมาอีกทำไม คิดเองก็น้อยใจเอง หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดสามีในเวลานี้ ค่อยๆ ขยับกายเพื่อนอนตะแคงหันหลังให้ เพราะจะบังคับตัวเองให้หลับไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว"??" แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ใบหน้าหล่อคมของสามีก็ค่อยๆ ซุกซอกคอด้านหลังเขาสูดดมกลิ่นกายของเธอ แล้วค่อยๆ ขยับริมฝีปากแนบจูบลงมาจนถึงแผ่นหลัง"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวรีบหันมองกลับไป ..ร่วมเดือนแล้วมั้งที่ไม่ได้สัมผัสกันใกล้ชิดแบบนี้"ผมขอโทษที่ไม่ได้ดูแลคุณ" ใบหน้าของเขาและคำพูดเหมือนสำนึกผิด"คุณหมายความว่ายังไง" หรือเขาจะรู้ว่าเราท้องแล้ว? คนแรกที่กัลยาคิดถึงคืออิฐ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้จากคุณหมอ"นอนนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกแล้ว""??" คุณสันติเนี่ยนะ จะมาบอกให้เราไม่ต้องคิดอะไรมากก่อนนอน ..เพราะทุกครั้งกลับเข้าห้องคือเขาหลับปุ๋ยไปก่อนแล้ว นอกจากวันไหนที่เขาต้องการ ถึงจะรอทำเรื่องอย่างว่าจนเสร็จ แล้วก็นอนหันหลังให้ โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะยังค้างอยู่ไหมกัลยาก็เลยเลือกที่จะหันหลัง