ว่าแล้วกัลยาก็ยกสายโทรศัพท์ในห้องขึ้นมา กดโทรออกไปหาใครบางคนเพียงไม่นานก็มีคนมาเคาะประตูห้อง"เข้ามา"รรรรรรมองแบบสงสัย ว่าคนพวกนี้มาทำไมกัน เพราะคนที่เข้ามาไม่ได้มีแค่คนเดียว"เอาให้จำไม่ได้เลยนะ" กัลยาสั่งหนึ่งในสามที่เดินตามกันเข้ามา"ได้เลยค่ะ สวยอยู่แล้วเราไม่ต้องทำอะไรมาก" พวกเขาคือช่างแต่งหน้าที่กัลยาเรียกใช้ประจำ และวันนี้เธอก็เรียกมาให้แปลงโฉม คนที่เธอเริ่มจะถูกชะตาด้วย[บริษัท]"ห้องจัดเลี้ยงไปถึงไหนแล้ว" คฑาเรียกนิรันดร์เข้ามาสอบถาม เพราะเหลืออีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง เขาก็ต้องได้ไปที่นั่นแล้ว"เรียบร้อยดีครับ" นิรันดร์ตอบออกไปด้วยใบหน้าที่อมยิ้ม พนักงานของโรงแรมทุกคนถูกสั่งไม่ให้ช่วยงาน และทางนี้ก็ให้ปิดเป็นความลับ ..แล้วใครมันจะไปทำทันล่ะตัวคนเดียวพอได้ยินแบบนั้นคฑาก็ทำงานต่อ จนใกล้ถึงเวลา เขาก็เลยต้องได้กลับไปเปลี่ยนชุดใหม่คนของบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ได้ตามไปที่โรงแรมเช่นกันณ. ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู.."มันทำได้ยังไง" ชมพูนุชมองหน้านิรันดร์ และนิรันดร์ก็มองหน้าชมพูนุช เมื่อเห็นว่างานถูกจัดขึ้นแบบอลังการแต่ทั้งสองไม่มีเวลาจะคิดอะไรอีกแล้ว เพราะตอนนี้แขกกำลังทยอยมา ก
พอถูกพี่สาวชวนให้เป็นคู่เต้นรำ คฑาก็เลยปฏิเสธไม่ได้ทั้งสองควงกันเดินมาที่หน้าฟลอร์ แล้วกัลยาก็แนบมือลงที่ลำแขนน้องชาย ทั้งสองก้าวเดินตามจังหวะเพลง แบบคล่องแคล่ว ซึ่งต่างจากอีกคู่ ตอนนี้ไม่รู้ว่าอิฐถูกเหยียบเท้าไปกี่ครั้งแล้ว"โอ๊ย" ว่าแล้วก็เจอเข้าให้อีกดอก"ขอโทษค่ะ""ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องตื่นเต้น""ตอนซ้อมกับตอนทำจริงมันไม่เหมือนกันนี่คะ""คุณไม่ต้องมองรอบข้าง มองแค่หน้าผม""มองหน้าคุณนั่นแหละยิ่งตื่นเต้น คุณกินข้าวกับอะไรเนี่ย..ทำไมหล่อจัง""ฮ่าาา" อิฐถึงกับปล่อยขำออกมากลางฟลอร์เต้นรำ คนที่อยู่ใกล้ถึงกับมองมา "คุณพูดตรงดีจังเลยนะครับ""คุณนั่นแหละพูดตรง คนอะไรจะยอมรับว่าตัวเองหล่อได้ง่ายขนาดนี้""ก็คุณพูดถูกนี่" เขาชวนคุยพอให้เธอลืมว่ากำลังทำอะไรอยู่และมันก็เริ่มทำให้ใครบางคนไม่พอใจหนักเข้า จนเริ่มเต้นผิดจังหวะ พี่สาวก็เลยต้องได้เรียกสติให้กลับมา"สวยใช่ไหมล่ะ" ทำไมกัลยาจะไม่แอบสังเกตสายตาน้องชาย"ใคร""อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าพี่พูดถึงใครอยู่""พี่กำลังคิดจะทำอะไร""ก็ในเมื่อเราไม่สนใจแฟนเก่าแล้ว พอดีว่าผู้จัดการโรงแรมพี่ยังโสด พี่ก็เลยติดต่อให้ผู้จัดการซะเลย"กำลังเต้นกันอยู่
"ท่านประธาน คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" หญิงสาวพยายามถีบขา เพราะเขาไม่ได้อุ้มธรรมดา เขาจับเธอพาดใส่ไหล่แล้วเดินตรงมาที่ลิฟต์พนักงานของคอนโดเห็นต่างก็มองมาดู แต่ก็จำได้ว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน ก็เลยไม่มีใครสนใจ ยังแอบยิ้มและกระซิบพูดว่าพวกเขาคงจะงอนให้กัน"ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้" กำปั้นทุบเข้ากลางหลัง เพื่อให้คนร่างหนาปล่อย เพราะตอนนี้ลิฟต์ได้ปิดลงแล้ว และเธอก็รู้สึกอึดอัดท้องมากชายหนุ่มจึงยอมปล่อยลง"!!" ถ้าเขาไม่ใช่เจ้านาย เธอคงจะด่าจนเสียหมาไปแล้ว แต่นี่ต้องได้เก็บคำด่าไว้ในใจเพียงไม่นานลิฟต์ก็ได้เปิดออกที่ชั้นบน"ตามมา""คุณพาฉันออกมาจากงานแบบนี้ แล้วแขกในงานจะคิดยังไง" หญิงสาวไม่กล้าเดินตาม แต่ก็ถูกเขาลากออกมาจากลิฟต์อยู่ดีคฑาก็ยังไม่สนใจคำพูดนั้น..เขาพาเธอเข้ามาในห้องได้สำเร็จ ชายหนุ่มควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วทิ้งมันลงไปในถังขยะ เพราะมันดังไม่ขาดสาย และเขารู้ดีว่าเป็นใครที่โทรตาม"คุณจะบ้าเหรอทิ้งทำไม""ไม่ต้องพูดมาก!""จะไม่ให้ฉันพูดได้ยังไง อยู่ดีๆ นึกบ้าอะไรขึ้นมา" ถ้าในร่างกายไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ เธอก็คงไม่กล้าพูดอะไรมากมายแบบนี้หรอก"เธอยั่วอารมณ์ฉันก่อนทำไม""ฉันไปยั่วอา
หญิงสาวทำธุระในห้องน้ำเสร็จเธอก็เปลี่ยนเป็นชุดเดิมออกมา"บอกให้ทิ้งชุดนี้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ" พอเห็นเธอใส่ชุดเดิมก็เริ่มขัดตา"ถ้าทิ้งแล้วฉันจะใส่อะไรกลับบ้าน""ไปเลือกดูในตู้ว่าใส่ชุดไหนได้บ้าง"รรรรรรไม่เชื่อฟัง..ใครจะบ้าใส่ชุดผู้ชายออกไป หญิงสาวเดินมาที่ประตูกำลังจะเปิดมันออก แต่ถูกเขาเดินมาคว้าตัวไว้ก่อน"จะไปไหน""กลับบ้าน""ดึกดื่นขนาดนี้จะกลับไปทำไม พรุ่งนี้ค่อยกลับ""เมื่อคืนนี้ฉันก็ไม่ได้กลับ ถ้าคืนนี้ไม่กลับอีกกลัวว่าพี่เป็นห่วง..ปล่อยนะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับแกะมือของเขาออก"รออยู่นี่เดี๋ยวไปส่ง"พอคฑาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแบบไม่ได้ถามเรื่องเมื่อคืนว่าทำไมเธอถึงไม่กลับบ้าน รรรรรรก็แอบน้อยใจที่เขาไม่สนใจถาม ..แต่อีกใจก็คิดว่าเขาจะถามทำไม เรามีความสำคัญอะไรกับเขา เป็นแค่ผู้หญิงที่เขาเก็บไว้คลายความเหงาก็เท่านั้นเอง[บ้านรรินธร]เขารู้จักบ้านเราได้ยังไง? ..หญิงสาวแปลกใจเพราะยังไม่ได้บอกเลยว่าบ้านอยู่ที่ไหน แต่เขาก็พากลับมาส่งจนถึงบ้าน หรือว่ารู้ตอนที่พี่สาวทำงานอยู่..คงใช่มั้ง ถามเองตอบเอง เพราะเรื่องแค่นี้ไม่อยากจะถามให้เสียเวลาของเขา ..พอลงจากรถคฑาก็ขับออกไป"ทำไมบอสมาส่งเราได้""พี
"น้องพี่" มือเรียวของพี่สาวยื่นไปโอบร่างน้องเข้ามากอดไว้ "ไม่เป็นไรนะ หนักหนากว่านี้เรายังผ่านกันมาได้เลย" สมัยก่อนตอนที่เสียพ่อแม่ไป พวกเธอหันพึ่งใครไม่ได้เลย พี่สาวยอมอดเพื่อให้น้องได้อิ่ม รรินธรต้องได้ทำงานหาเงิน และเรียนไปด้วย เพราะเธอต้องเรียนจบเท่านั้นถึงจะดูแลน้องได้ บางวันแทบไม่ได้นอน"รันขอโทษ""จะขอโทษพี่ทำไม พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษรัน..ไม่ร้องนะ" ที่รรินธรบอกว่าขอโทษน้อง เพราะตัวเองไม่ระวังทำให้เกิดอุบัติเหตุ"รันขออะไรพี่รินสักอย่างได้ไหมคะ""ขออะไร""พี่อย่าบอกเรื่องนี้กับเขาได้ไหม" คนที่รรรรรรหมายถึงก็คือคฑา"ทำไม""พี่ก็รู้ดีว่าทำไม ฉันไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะเป็นแม่ของลูกเขา""พี่จะพยายามแข็งแรงเร็วๆ จะได้กลับไปทำงานแทนเรานะ"รรรรรรพยักหน้าตอบพี่สาวไป เพราะเธอคงไม่อยู่ทำงานที่นั่นจนท้องโตให้เขาสังเกตเห็นได้แน่ แต่ถ้าจะออกมาแล้วหางานทำที่ใหม่ ใครเขาจะรับผู้หญิงท้องล่ะ...วันต่อมาที่บริษัท.."คิดจะขาดงานก็ขาด ทำเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของบริษัท"ประโยคแรกที่ได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดเมื่อมาถึงบริษัท แต่เธอก็ทำเป็นหูทวนลม เพราะคนพวกนี้ถ้าเราสนใจคำพูดก็ยิ่งจะได้ใจเพียงไม่นานท่านประธ
เย็นวันเดียวกัน..กัลยาให้คนรถมารอรับรรรรรรหลังเลิกงาน และเธอก็ยอมขึ้นรถคันนั้นมาที่โรงแรม"สวัสดีครับคุณ..""สวัสดีค่ะคุณอิฐ" ใบหน้างามยกยิ้มทักทายผู้จัดการของโรงแรมทันทีที่เห็นเขาทักมาก่อน"คุณกัลยาให้ผมมารับไปที่ห้องอาหารครับ""ให้ผู้จัดการมารับเลยเหรอคะ เกรงใจจังเลย" ทีแรกคิดว่าบังเอิญมาเจอกัน แต่ที่ไหนได้เขาออกมารอรับเรางั้นเหรอ ..รู้สึกเป็นคนสำคัญขึ้นมาทันทีแต่ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้น ก็ได้มีผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในรถคันหรูมองแบบไม่พอใจ"เชิญตามผมมาข้างในเลยครับ" ว่าแล้วอิฐก็ได้เดินนำหน้าไปก่อนแต่ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็มีเสียงข้อความเข้ามา หญิงสาวรีบเอาขึ้นมาแล้วเลื่อนดู ..พอเห็นว่าเป็นข้อความของใคร ขาเรียวที่กำลังก้าวเดินอยู่ถึงกับหยุด"ฉันคงไปไม่ได้แล้วค่ะ""มีอะไรหรือเปล่าครับ""เออ.. ฉันต้องรีบกลับบริษัท ขอโทษด้วยนะคะ" ว่าแล้วหญิงสาวก็หันหลังรีบสาวเท้าเดินออกมา"คุณจะรีบไปไหนครับ" อิฐยังคงเดินตามมาถามแบบเป็นห่วง"มีงานด่วนที่บริษัทค่ะ ฉันไปนะคะ" หญิงสาวคิดว่าจะเดินออกมาเรียกแท็กซี่"เดี๋ยวผมไปส่งเอง" ว่าแล้วอิฐก็คว้ามือของเธอให้เดินมาที่รถของตัวเอง"เกรงใจจังเล
พอแท็กซี่จอดให้ที่หน้าโรงแรม..รรินธรก็จ่ายเงินตามที่ตัวเลขของมิเตอร์แจ้งเตือน แล้วเธอก็อุ้มลูกน้อยเดินตรงเข้าไปข้างใน"สวัสดีค่ะมาติดต่ออะไรคะ" พนักงานด้านหน้ากล่าวต้อนรับแบบนอบน้อม"ฉันมาหาคุณกัลยาค่ะ""กัลยาไหนคะ" พนักงานถามออกไปเพื่อความแน่ใจ เพราะไม่คิดว่าแม่ลูกอ่อนจะมาถามหากัลยาเจ้าของโรงแรม"คุณกัลยาที่เป็นเจ้าของที่นี่ค่ะ""เออ..ถ้างั้นเชิญไปนั่งรออยู่โต๊ะรับแขกก่อนนะคะเดี๋ยวจะให้คนติดต่อไปหาท่านก่อนค่ะ""ขอบคุณค่ะ" รรินธรอุ้มลูกเดินไปนั่งตรงที่พนักงานบอก แล้วก็เอาขวดนมที่เตรียมมาด้วยให้ลูกดื่ม ตั้งแต่เกิดมารักนรินทร์ไม่ได้ดื่มนมแม่เลย เพราะแม่ไม่มีน้ำนมออกมาสักหยดนั่งอยู่แบบนั้นเพียงไม่นานกัลยาก็ลงมา"นั่งอยู่ตรงโน้นเลยค่ะ" พนักงานรีบแจ้งเจ้าของโรงแรมเมื่อเห็นเดินมา"คุณรรินธร?" กัลยามองตามไปก็จำได้ในทันทีว่าคนที่มาหาคือใคร และเธอก็รู้จักรรินธรเป็นอย่างดี เพราะเป็นเลขาของน้องชายพอรรินธรเห็นกัลยาเดินตรงมาก็อุ้มลูกสาวลุกขึ้น"นั่งก่อนเลยค่ะ" กัลยาพูดพร้อมกับมองดูเด็กน้อยที่กำลังน่ารักน่าชัง"ขอบคุณค่ะ""นี่ใช่ไหมคะเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องตอนนั้น""เออ..ค่ะ.." รรินธรตอบออกไปแบบ
"เลขาคนไหน" คฑาถามกลับไปทันทีที่ได้ยินผู้ช่วยบอกว่ามอบโปรเจคให้กับเลขาไป เพราะเขามีเลขาอยู่สองคน"เดี๋ยวผมตามเข้ามาเลยดีกว่าครับ" ว่าแล้วนิรันดร์ก็ลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินไปเปิดประตูห้องประชุมเพียงไม่นานรรรรรรก็เดินตามนิรันดร์เข้ามา"คุณมีอะไรจะพูดไหม" เห็นว่าในที่ประชุมกำลังรอฟังคำอธิบาย นิรันดร์ก็เลยเป็นคนถามขึ้น"พูดเรื่องอะไรคะ""ก็เรื่องโปรเจคที่ผมมอบหมายให้คุณทำไง""แต่โปรเจคนี้คุณ.." ที่เธอไม่ติดตามงาน เพราะวันนั้นกัลยาก็ให้นิรันดร์และชมพูนุชเป็นคนทำต่อ แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าคงจะถูกแกล้ง"กำลังหาเรื่องแก้ตัวอยู่ล่ะสิ ถึงได้เงียบ""คุณกัลยาสั่งให้คุณเป็นคนทำต่อไม่ใช่เหรอคะ" ว่าจะไม่เอ่ยชื่อกัลยาขึ้นมาแล้วนะ แต่เธอจะพูดบิดเบือนความจริงไม่ได้"อยากจะเอาตัวรอด จนอ้างลูกสาวฉันเลยเหรอ" ทันใดนั้นก็มีเสียงของใครบางคนพูดขึ้นที่หน้าประตู"คุณแม่?" ที่คฑาตกใจเพราะแม่ไม่เคยเข้ามาวุ่นวายกับห้องประชุม"แม่ว่าจะชวนลูกไปทานข้าว เห็นว่าอยู่ในห้องประชุม พี่สาวเราก็กำลังมา จะไปทานข้าวพร้อมกันเลย""เธอคิดเหรอว่าคุณกัลยาจะอยู่ข้างเธอ คุณกัลยาแค่เล่นละครให้เธอตายใจเท่านั้นแหละ" คนที่พูดก็คือชมพูนุช ที
เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ
"ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา
[คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""
"ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก
"กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ
แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"
[ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร
ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี
แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่