พอแท็กซี่จอดให้ที่หน้าโรงแรม..รรินธรก็จ่ายเงินตามที่ตัวเลขของมิเตอร์แจ้งเตือน แล้วเธอก็อุ้มลูกน้อยเดินตรงเข้าไปข้างใน"สวัสดีค่ะมาติดต่ออะไรคะ" พนักงานด้านหน้ากล่าวต้อนรับแบบนอบน้อม"ฉันมาหาคุณกัลยาค่ะ""กัลยาไหนคะ" พนักงานถามออกไปเพื่อความแน่ใจ เพราะไม่คิดว่าแม่ลูกอ่อนจะมาถามหากัลยาเจ้าของโรงแรม"คุณกัลยาที่เป็นเจ้าของที่นี่ค่ะ""เออ..ถ้างั้นเชิญไปนั่งรออยู่โต๊ะรับแขกก่อนนะคะเดี๋ยวจะให้คนติดต่อไปหาท่านก่อนค่ะ""ขอบคุณค่ะ" รรินธรอุ้มลูกเดินไปนั่งตรงที่พนักงานบอก แล้วก็เอาขวดนมที่เตรียมมาด้วยให้ลูกดื่ม ตั้งแต่เกิดมารักนรินทร์ไม่ได้ดื่มนมแม่เลย เพราะแม่ไม่มีน้ำนมออกมาสักหยดนั่งอยู่แบบนั้นเพียงไม่นานกัลยาก็ลงมา"นั่งอยู่ตรงโน้นเลยค่ะ" พนักงานรีบแจ้งเจ้าของโรงแรมเมื่อเห็นเดินมา"คุณรรินธร?" กัลยามองตามไปก็จำได้ในทันทีว่าคนที่มาหาคือใคร และเธอก็รู้จักรรินธรเป็นอย่างดี เพราะเป็นเลขาของน้องชายพอรรินธรเห็นกัลยาเดินตรงมาก็อุ้มลูกสาวลุกขึ้น"นั่งก่อนเลยค่ะ" กัลยาพูดพร้อมกับมองดูเด็กน้อยที่กำลังน่ารักน่าชัง"ขอบคุณค่ะ""นี่ใช่ไหมคะเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องตอนนั้น""เออ..ค่ะ.." รรินธรตอบออกไปแบบ
"เลขาคนไหน" คฑาถามกลับไปทันทีที่ได้ยินผู้ช่วยบอกว่ามอบโปรเจคให้กับเลขาไป เพราะเขามีเลขาอยู่สองคน"เดี๋ยวผมตามเข้ามาเลยดีกว่าครับ" ว่าแล้วนิรันดร์ก็ลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินไปเปิดประตูห้องประชุมเพียงไม่นานรรรรรรก็เดินตามนิรันดร์เข้ามา"คุณมีอะไรจะพูดไหม" เห็นว่าในที่ประชุมกำลังรอฟังคำอธิบาย นิรันดร์ก็เลยเป็นคนถามขึ้น"พูดเรื่องอะไรคะ""ก็เรื่องโปรเจคที่ผมมอบหมายให้คุณทำไง""แต่โปรเจคนี้คุณ.." ที่เธอไม่ติดตามงาน เพราะวันนั้นกัลยาก็ให้นิรันดร์และชมพูนุชเป็นคนทำต่อ แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าคงจะถูกแกล้ง"กำลังหาเรื่องแก้ตัวอยู่ล่ะสิ ถึงได้เงียบ""คุณกัลยาสั่งให้คุณเป็นคนทำต่อไม่ใช่เหรอคะ" ว่าจะไม่เอ่ยชื่อกัลยาขึ้นมาแล้วนะ แต่เธอจะพูดบิดเบือนความจริงไม่ได้"อยากจะเอาตัวรอด จนอ้างลูกสาวฉันเลยเหรอ" ทันใดนั้นก็มีเสียงของใครบางคนพูดขึ้นที่หน้าประตู"คุณแม่?" ที่คฑาตกใจเพราะแม่ไม่เคยเข้ามาวุ่นวายกับห้องประชุม"แม่ว่าจะชวนลูกไปทานข้าว เห็นว่าอยู่ในห้องประชุม พี่สาวเราก็กำลังมา จะไปทานข้าวพร้อมกันเลย""เธอคิดเหรอว่าคุณกัลยาจะอยู่ข้างเธอ คุณกัลยาแค่เล่นละครให้เธอตายใจเท่านั้นแหละ" คนที่พูดก็คือชมพูนุช ที
ก๊อก ก๊อก "กาแฟค่ะบอส"พอเห็นว่าเป็นใครที่เอากาแฟเข้ามาให้สายตานั้นแอบมองไปดูอีกคนที่ทำหน้าที่เป็นเลขาในห้อง"บอสคะ เที่ยงนี้นุชขอไปทานข้าวด้วยนะคะ" ชมพูนุชดูแล้ว ถ้าตัวเองไม่ช่วยตัวเอง ก็คงไม่มีใครช่วยอีกต่อไป"ผมมีนัดทานข้าวแล้ว" เขาดูเหมือนจะไม่สนใจคำขอนั้น..ยังก้มหน้าทำงานต่อ"แต่ดูจากตารางนัดหมายแล้ว เที่ยงนี้ไม่มีนัดทานข้าวกับลูกค้านี่คะ" ชมพูนุชยังคงจู่โจมต่อ"ผมไม่ได้นัดกับลูกค้า กาแฟเอาไว้นี่แหละ คุณออกไปทำงานได้"ชมพูนุชรู้สึกเสียหน้ามาก ยิ่งผู้หญิงคนนั้นมาทำงานในห้องเดียวกับท่านประธานแบบนี้ ความหวังของเธอก็ริบหรี่ลง "ถ้าตอนเที่ยงไม่ได้ตอนเย็นก็ได้นะคะ"ดวงตาคมละจากงานที่กำลังทำอยู่แล้วกรอกขึ้นมามองคนที่พูด ..ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นแล้วคว้าเอาเสื้อสูทที่พาดไว้หลังเก้าอี้ขึ้นมาสวมใส่"ใกล้เที่ยงแล้ว ไปทานข้าวกัน" ชายหนุ่มพูดโดยการมองไปที่เธอ คนที่กำลังนั่งทำงานแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่"......." ตกลงคนที่เขาอ้างว่ามีนัดทานข้าวเที่ยงด้วยคือเราเองเหรอ รรรรรรจำเป็นต้องได้ลุกขึ้นชมพูนุชทำได้แค่มองตามแบบไม่พอใจ แต่เธอไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้อยู่แล้วลงมาถึงข้างล่างรรรรรรก็ไม่ยอมข
เย็นวันเดียวกันนั้น.. ที่คฤหาสน์"นอนตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันแล้วค่ะ" พอคฑากลับมาถึงบ้านก็ได้ยินแม่บ้านบอกว่าแม่ของเขาไม่ค่อยสบายและนอนตั้งแต่กลางวัน"แล้วคุณแม่ทานยาหรือยัง" ชายหนุ่มถามออกไปพร้อมกับเอื้อมมือไปแตะหน้าผากเพื่อเช็คอุณหภูมิ "ตัวร้อนด้วยนี่ เรียกคุณหมอดีกว่า""ไม่..ปล่อยให้แม่ตายไปเถอะ""คุณแม่ ตื่นแล้วเหรอครับ""ไม่ต้องมาสนใจแม่หรอก ไหนลูกบอกว่าจะจัดการกับมันไง" นี่แหละคือสิ่งที่คฑาหนักใจมาทั้งวัน และแม่ของเขาก็เช็คจากนิรันดร์แล้ว ทางนั้นก็รายงานมาว่าไม่เห็นท่านประธานจัดการอะไรกับเธอคนนั้นเลย"แต่แม่ครับ..""ออกไป และไม่ต้องมาสนใจแม่ ปล่อยให้อีแก่คนนี้มันตายไปเถอะ""แม่ครับ แม่อย่าพูดแบบนี้อีกนะ"ชายหนุ่มก็เลยออกมาจากห้อง..เพื่อที่จะโทรหาแพทย์ประจำตระกูลพอลูกชายเดินพ้นประตูออกไปนางก็รีบลุกขึ้น "ให้มันรู้ซะบ้างใครเป็นใคร เห็นผู้หญิงคนอื่นดีกว่าแม่ลองดูสิ..โอ๊ยร้อน" นางรีบเอาถุงน้ำร้อนออกจากตัว เพราะก่อนที่ลูกชายจะเข้ามา นางได้ใช้ถุงนี้แหละประคบศีรษะไว้เพียงไม่นานคุณหมอก็มาถึงบ้าน"มีอะไรเหรอคะป้า คุณหมอมาทำไม" กัลยาก็มาถึงเช่นกัน"คุณผู้หญิงไม่สบายค่ะ คุณคฑาก็เลยเรียกหมอม
บ่ายโมงวันเดียวกัน..พอกลับมาจากทานข้าวกับสมปองกับพิกุลแล้ว..คฑาก็ตรงเข้ามาที่ห้องทำงานเลยซึ่งรรรรรรก็นั่งทำงานปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ รู้สึกว่ามีใครบางคนมองมาตลอดเวลา แต่พอเธอมองไป เขาก็รีบก้มหน้าลงทำงาน เผลออีกครู่หนึ่ง ก็เหมือนว่าถูกมอง หญิงสาวก็เลยเงยหน้ามองอีกครั้ง?หรือเขาจะรู้ว่าเราแอบกินอาหารในห้องทำงาน ..ก็ไม่น่าใช่นะเพราะเราทำเบาที่สุดแล้วพอคิดถึงของที่อยู่ในกระเป๋าก็เริ่มน้ำลายสอ ..เธอซื้อมาได้วันละหนึ่งอย่าง วันนี้เลือกมะม่วงสด แต่ก็แอบเสียดายของดองหญิงสาวหาโอกาสที่จะเอาขึ้นมากิน แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะมองมาตลอด ถ้าจะเอาออกไปกินข้างนอก เดี๋ยวก็ถูกสองคนนั้นพูดแซะอีก..นอกห้อง..>>{"ยังอยู่ครับ"} มันคือเสียงนิรันดร์รับโทรศัพท์ และปลายสายก็คือ อัญชัญที่โทรมาถามว่าผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ที่ทำงานไหม"ใครโทรมาเหรอคะคุณนิรันดร์" ชมพูนุชถามขึ้นเมื่อเห็นนิรันดร์วางสายไป"จะใครอีกล่ะ เรารอดูอะไรสนุกๆ ได้เลย""อยากจะเห็นมันกระเด็นออกจากที่ทำงานเร็วๆ จังเลยค่ะ""อีกไม่นานหรอก เราก็จะได้ยินแล้ว" ทั้งสองยิ้มแบบมีเลศนัยในห้องทำงาน.."ขอกาแฟหน่อย" หลังจากเงียบมานาน เขาก็เลยได้เอ่ยพูดขึ้นรรร
>>{"อะไรนะ..วันนี้คุณพิกุลมาไม่ได้หรือครับ ผมอุตส่าห์เตรียมของที่คุณพิกุลชอบไว้ให้..ไม่เป็นไรครับ วันหลังเรานัดทานข้าวกันใหม่นะครับ"} คฑาคุยโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งก็วางสายไป"ทำไงกับของพวกนี้ดี" ชายหนุ่มมองไปดูผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะ "คุณชอบทานไหม""คะ?" รรรรรรซึ่งแกล้งทำเป็นไม่สนใจรีบหันไปมอง แต่ไม่ได้มองเขานะ "ทานได้เหรอคะ" พูดแล้วก็น้ำลายแทบจะไหลออกมา"เอาไปทานสิ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมมือไปหยิบเอกสารแล้วเดินออกจากห้องไป"ลาภปากเราแล้วลูก เมื่อวานนี้บ่นอยากกินอยู่พอดีเลย" หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปนั่งที่โซฟารับแขก"อื้อออ..ซี๊ดดดด..ซาดดดด" มันคือเสียงที่เธอกินผลตะลิงปลิง "สุดยอดจริงๆ เลย เพิ่งรู้ว่ามันอร่อยขนาดนี้นะเนี่ย อ้าาา ซี๊ดดดด" พูดไปด้วยเคี้ยวไปด้วย น้ำของมันแตกกระจายอยู่ในปาก พร้อมกับเครื่องปรุงที่เธอจิ้มเข้าไป "แซ่บมากก"อีกห้องที่อยู่ไม่ไกลกัน.."แอ๊ะ!!แอ๊ะ!!" ชายหนุ่มรีบถุยสิ่งที่เพิ่งจะกัดเข้าไปออกจากปาก แล้วหาอะไรมาเช็ดมันออกให้หมด ..ใช่แล้วเขาแอบหยิบออกมาด้วยหนึ่งลูก อยากรู้ที่เธอพูดว่าเขาลือเรื่องความเปรี้ยวมันจริงไหม "กินเข้าไปได้ยังไงเนี่ย" สายตาคมมองผ่านกล้องวง
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะ คุณนิรันดร์ออกไปก่อน" เขาหมายถึงเรื่องที่เธอแอบกินของในห้องทำงาน"ผมเหรอครับ""หรือคุณจะให้ผมออกไป""ไม่ครับบอส" ก่อนที่นิรันดร์จะออกมาก็ได้กรอกสายตามองไปที่รรรรรรแบบไม่พอใจ"บอสนะบอส!" พอออกมานิรันดร์ก็กระแทกก้นนั่งลงเก้าอี้อย่างไม่พอใจ แทนที่บอสจะตำหนิคนที่ทำผิดกฎ แต่กลับไล่ให้เขาออกมาจากห้อง"คุณนิรันดร์เป็นอะไรคะ" ชมพูนุชรีบเดินเข้ามาถาม"ก็มีเรื่องเดียวแค่นั้นแหละ มันเอาอะไรให้บอสกินเนี่ย ทำไมหลับหูหลับตาเชื่อมันอย่างเดียว""หรือว่าจะเป็นประจําเดือน""แหวะ ต่ำ""ก็เป็นไปได้นะคุณนิรันดร์ ฉันเคยได้ยินคนแถวบ้านพูดกัน ว่าเมียน้อยเอาประจําเดือนให้ผัวกิน หลงมันแทบโงหัวไม่ขึ้น""แบบนั้นมีอยู่จริงเหรอ" เสียดายจังเราไม่มีประจำเดือน ..ประโยคหลังได้แต่คิดในใจ เพราะคงจะพูดออกมาไม่ได้ด้านล่างของบริษัท.."ตำรวจมาทำไม" พนักงานหลายคนต่างก็พูดคุยกันเมื่อเห็นนายตำรวจเดินเข้ามา 3-4 นาย"ใครทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า""ไม่ใช่หรอกมั้ง""แล้วตำรวจจะมาทำไมล่ะ"ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นตำรวจก็ได้เดินมาที่แผนกต้อนรับของบริษัท"ผมอยากจะมาขอพบผู้หญิงคนนี้ครับ" ตำรวจเอารูปภาพส่งให
"คุณทำอะไร" คฑาถามขึ้นในขณะที่เห็นเธอกำลังเก็บของบนโต๊ะทำงาน"ทำไมฉันต้องรอให้คุณไล่ออกด้วย ลาออกก่อนจะดูไม่มีค่ามากกว่าเหรอ""ใครจะไล่คุณออก""ในเมื่อแม่ของคุณเกลียดฉันมากขนาดนี้ คุณคิดเหรอว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าฉันถูกแจ็คพอตมา ครอบครัวฉันจะอยู่ยังไง" ถึงแม้เธอจะพูดแต่ก็ยังคงเก็บของต่อ"มันจะไม่มีแบบนี้อีกแล้ว""คุณเอาอะไรมารับประกัน ว่ามันจะไม่มีอีก ..ครั้งนี้อาจจะเป็นโชคดีของฉัน คนเราไม่ได้โชคดีเสมอไปหรอกนะ""คุณต้องการยังไงก็บอกมา""คุณกล้าที่จะทำตามสิ่งที่ฉันต้องการหรือคะ"เสียงสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนที่จะพยักหน้าเพื่อเป็นการตอบ"ฉันต้องการให้ดำเนินคดีกับคนผิด.. คุณรู้ใช่ไหมมันไม่ใช่แค่การกลั่นแกล้งกันธรรมดา ถ้าสมมุติว่ายาไอซ์ที่ตำรวจพูดถึง มันอยู่ในโต๊ะทำงานของฉัน ถ้าไม่มีเงินมากพอ ฉันก็คงต้อง.." พูดแค่นี้เขาคงจะรู้ หญิงสาวก็เลยหยุดพูด..ชายหนุ่มร่างสูงเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แล้วยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อกดโทรออกไปที่..>>{"ทำเรื่องให้พนักงานออกด้วย"}เห็นไหมระหว่างเรากับแม่ เขาต้องเลือกแม่อยู่แล้ว รัน..เธอคิดอะไรเนี่ย อุตส่าห์คิดว่าเขาจะมีความยุติธรรมในตัวบ้าง หญิงสา
เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ
"ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา
[คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""
"ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก
"กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ
แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"
[ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร
ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี
แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่