"เลขาคนไหน" คฑาถามกลับไปทันทีที่ได้ยินผู้ช่วยบอกว่ามอบโปรเจคให้กับเลขาไป เพราะเขามีเลขาอยู่สองคน"เดี๋ยวผมตามเข้ามาเลยดีกว่าครับ" ว่าแล้วนิรันดร์ก็ลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินไปเปิดประตูห้องประชุมเพียงไม่นานรรรรรรก็เดินตามนิรันดร์เข้ามา"คุณมีอะไรจะพูดไหม" เห็นว่าในที่ประชุมกำลังรอฟังคำอธิบาย นิรันดร์ก็เลยเป็นคนถามขึ้น"พูดเรื่องอะไรคะ""ก็เรื่องโปรเจคที่ผมมอบหมายให้คุณทำไง""แต่โปรเจคนี้คุณ.." ที่เธอไม่ติดตามงาน เพราะวันนั้นกัลยาก็ให้นิรันดร์และชมพูนุชเป็นคนทำต่อ แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าคงจะถูกแกล้ง"กำลังหาเรื่องแก้ตัวอยู่ล่ะสิ ถึงได้เงียบ""คุณกัลยาสั่งให้คุณเป็นคนทำต่อไม่ใช่เหรอคะ" ว่าจะไม่เอ่ยชื่อกัลยาขึ้นมาแล้วนะ แต่เธอจะพูดบิดเบือนความจริงไม่ได้"อยากจะเอาตัวรอด จนอ้างลูกสาวฉันเลยเหรอ" ทันใดนั้นก็มีเสียงของใครบางคนพูดขึ้นที่หน้าประตู"คุณแม่?" ที่คฑาตกใจเพราะแม่ไม่เคยเข้ามาวุ่นวายกับห้องประชุม"แม่ว่าจะชวนลูกไปทานข้าว เห็นว่าอยู่ในห้องประชุม พี่สาวเราก็กำลังมา จะไปทานข้าวพร้อมกันเลย""เธอคิดเหรอว่าคุณกัลยาจะอยู่ข้างเธอ คุณกัลยาแค่เล่นละครให้เธอตายใจเท่านั้นแหละ" คนที่พูดก็คือชมพูนุช ที
ก๊อก ก๊อก "กาแฟค่ะบอส"พอเห็นว่าเป็นใครที่เอากาแฟเข้ามาให้สายตานั้นแอบมองไปดูอีกคนที่ทำหน้าที่เป็นเลขาในห้อง"บอสคะ เที่ยงนี้นุชขอไปทานข้าวด้วยนะคะ" ชมพูนุชดูแล้ว ถ้าตัวเองไม่ช่วยตัวเอง ก็คงไม่มีใครช่วยอีกต่อไป"ผมมีนัดทานข้าวแล้ว" เขาดูเหมือนจะไม่สนใจคำขอนั้น..ยังก้มหน้าทำงานต่อ"แต่ดูจากตารางนัดหมายแล้ว เที่ยงนี้ไม่มีนัดทานข้าวกับลูกค้านี่คะ" ชมพูนุชยังคงจู่โจมต่อ"ผมไม่ได้นัดกับลูกค้า กาแฟเอาไว้นี่แหละ คุณออกไปทำงานได้"ชมพูนุชรู้สึกเสียหน้ามาก ยิ่งผู้หญิงคนนั้นมาทำงานในห้องเดียวกับท่านประธานแบบนี้ ความหวังของเธอก็ริบหรี่ลง "ถ้าตอนเที่ยงไม่ได้ตอนเย็นก็ได้นะคะ"ดวงตาคมละจากงานที่กำลังทำอยู่แล้วกรอกขึ้นมามองคนที่พูด ..ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นแล้วคว้าเอาเสื้อสูทที่พาดไว้หลังเก้าอี้ขึ้นมาสวมใส่"ใกล้เที่ยงแล้ว ไปทานข้าวกัน" ชายหนุ่มพูดโดยการมองไปที่เธอ คนที่กำลังนั่งทำงานแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่"......." ตกลงคนที่เขาอ้างว่ามีนัดทานข้าวเที่ยงด้วยคือเราเองเหรอ รรรรรรจำเป็นต้องได้ลุกขึ้นชมพูนุชทำได้แค่มองตามแบบไม่พอใจ แต่เธอไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้อยู่แล้วลงมาถึงข้างล่างรรรรรรก็ไม่ยอมข
เย็นวันเดียวกันนั้น.. ที่คฤหาสน์"นอนตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันแล้วค่ะ" พอคฑากลับมาถึงบ้านก็ได้ยินแม่บ้านบอกว่าแม่ของเขาไม่ค่อยสบายและนอนตั้งแต่กลางวัน"แล้วคุณแม่ทานยาหรือยัง" ชายหนุ่มถามออกไปพร้อมกับเอื้อมมือไปแตะหน้าผากเพื่อเช็คอุณหภูมิ "ตัวร้อนด้วยนี่ เรียกคุณหมอดีกว่า""ไม่..ปล่อยให้แม่ตายไปเถอะ""คุณแม่ ตื่นแล้วเหรอครับ""ไม่ต้องมาสนใจแม่หรอก ไหนลูกบอกว่าจะจัดการกับมันไง" นี่แหละคือสิ่งที่คฑาหนักใจมาทั้งวัน และแม่ของเขาก็เช็คจากนิรันดร์แล้ว ทางนั้นก็รายงานมาว่าไม่เห็นท่านประธานจัดการอะไรกับเธอคนนั้นเลย"แต่แม่ครับ..""ออกไป และไม่ต้องมาสนใจแม่ ปล่อยให้อีแก่คนนี้มันตายไปเถอะ""แม่ครับ แม่อย่าพูดแบบนี้อีกนะ"ชายหนุ่มก็เลยออกมาจากห้อง..เพื่อที่จะโทรหาแพทย์ประจำตระกูลพอลูกชายเดินพ้นประตูออกไปนางก็รีบลุกขึ้น "ให้มันรู้ซะบ้างใครเป็นใคร เห็นผู้หญิงคนอื่นดีกว่าแม่ลองดูสิ..โอ๊ยร้อน" นางรีบเอาถุงน้ำร้อนออกจากตัว เพราะก่อนที่ลูกชายจะเข้ามา นางได้ใช้ถุงนี้แหละประคบศีรษะไว้เพียงไม่นานคุณหมอก็มาถึงบ้าน"มีอะไรเหรอคะป้า คุณหมอมาทำไม" กัลยาก็มาถึงเช่นกัน"คุณผู้หญิงไม่สบายค่ะ คุณคฑาก็เลยเรียกหมอม
บ่ายโมงวันเดียวกัน..พอกลับมาจากทานข้าวกับสมปองกับพิกุลแล้ว..คฑาก็ตรงเข้ามาที่ห้องทำงานเลยซึ่งรรรรรรก็นั่งทำงานปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ รู้สึกว่ามีใครบางคนมองมาตลอดเวลา แต่พอเธอมองไป เขาก็รีบก้มหน้าลงทำงาน เผลออีกครู่หนึ่ง ก็เหมือนว่าถูกมอง หญิงสาวก็เลยเงยหน้ามองอีกครั้ง?หรือเขาจะรู้ว่าเราแอบกินอาหารในห้องทำงาน ..ก็ไม่น่าใช่นะเพราะเราทำเบาที่สุดแล้วพอคิดถึงของที่อยู่ในกระเป๋าก็เริ่มน้ำลายสอ ..เธอซื้อมาได้วันละหนึ่งอย่าง วันนี้เลือกมะม่วงสด แต่ก็แอบเสียดายของดองหญิงสาวหาโอกาสที่จะเอาขึ้นมากิน แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะมองมาตลอด ถ้าจะเอาออกไปกินข้างนอก เดี๋ยวก็ถูกสองคนนั้นพูดแซะอีก..นอกห้อง..>>{"ยังอยู่ครับ"} มันคือเสียงนิรันดร์รับโทรศัพท์ และปลายสายก็คือ อัญชัญที่โทรมาถามว่าผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ที่ทำงานไหม"ใครโทรมาเหรอคะคุณนิรันดร์" ชมพูนุชถามขึ้นเมื่อเห็นนิรันดร์วางสายไป"จะใครอีกล่ะ เรารอดูอะไรสนุกๆ ได้เลย""อยากจะเห็นมันกระเด็นออกจากที่ทำงานเร็วๆ จังเลยค่ะ""อีกไม่นานหรอก เราก็จะได้ยินแล้ว" ทั้งสองยิ้มแบบมีเลศนัยในห้องทำงาน.."ขอกาแฟหน่อย" หลังจากเงียบมานาน เขาก็เลยได้เอ่ยพูดขึ้นรรร
>>{"อะไรนะ..วันนี้คุณพิกุลมาไม่ได้หรือครับ ผมอุตส่าห์เตรียมของที่คุณพิกุลชอบไว้ให้..ไม่เป็นไรครับ วันหลังเรานัดทานข้าวกันใหม่นะครับ"} คฑาคุยโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งก็วางสายไป"ทำไงกับของพวกนี้ดี" ชายหนุ่มมองไปดูผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะ "คุณชอบทานไหม""คะ?" รรรรรรซึ่งแกล้งทำเป็นไม่สนใจรีบหันไปมอง แต่ไม่ได้มองเขานะ "ทานได้เหรอคะ" พูดแล้วก็น้ำลายแทบจะไหลออกมา"เอาไปทานสิ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมมือไปหยิบเอกสารแล้วเดินออกจากห้องไป"ลาภปากเราแล้วลูก เมื่อวานนี้บ่นอยากกินอยู่พอดีเลย" หญิงสาวรีบลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปนั่งที่โซฟารับแขก"อื้อออ..ซี๊ดดดด..ซาดดดด" มันคือเสียงที่เธอกินผลตะลิงปลิง "สุดยอดจริงๆ เลย เพิ่งรู้ว่ามันอร่อยขนาดนี้นะเนี่ย อ้าาา ซี๊ดดดด" พูดไปด้วยเคี้ยวไปด้วย น้ำของมันแตกกระจายอยู่ในปาก พร้อมกับเครื่องปรุงที่เธอจิ้มเข้าไป "แซ่บมากก"อีกห้องที่อยู่ไม่ไกลกัน.."แอ๊ะ!!แอ๊ะ!!" ชายหนุ่มรีบถุยสิ่งที่เพิ่งจะกัดเข้าไปออกจากปาก แล้วหาอะไรมาเช็ดมันออกให้หมด ..ใช่แล้วเขาแอบหยิบออกมาด้วยหนึ่งลูก อยากรู้ที่เธอพูดว่าเขาลือเรื่องความเปรี้ยวมันจริงไหม "กินเข้าไปได้ยังไงเนี่ย" สายตาคมมองผ่านกล้องวง
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะ คุณนิรันดร์ออกไปก่อน" เขาหมายถึงเรื่องที่เธอแอบกินของในห้องทำงาน"ผมเหรอครับ""หรือคุณจะให้ผมออกไป""ไม่ครับบอส" ก่อนที่นิรันดร์จะออกมาก็ได้กรอกสายตามองไปที่รรรรรรแบบไม่พอใจ"บอสนะบอส!" พอออกมานิรันดร์ก็กระแทกก้นนั่งลงเก้าอี้อย่างไม่พอใจ แทนที่บอสจะตำหนิคนที่ทำผิดกฎ แต่กลับไล่ให้เขาออกมาจากห้อง"คุณนิรันดร์เป็นอะไรคะ" ชมพูนุชรีบเดินเข้ามาถาม"ก็มีเรื่องเดียวแค่นั้นแหละ มันเอาอะไรให้บอสกินเนี่ย ทำไมหลับหูหลับตาเชื่อมันอย่างเดียว""หรือว่าจะเป็นประจําเดือน""แหวะ ต่ำ""ก็เป็นไปได้นะคุณนิรันดร์ ฉันเคยได้ยินคนแถวบ้านพูดกัน ว่าเมียน้อยเอาประจําเดือนให้ผัวกิน หลงมันแทบโงหัวไม่ขึ้น""แบบนั้นมีอยู่จริงเหรอ" เสียดายจังเราไม่มีประจำเดือน ..ประโยคหลังได้แต่คิดในใจ เพราะคงจะพูดออกมาไม่ได้ด้านล่างของบริษัท.."ตำรวจมาทำไม" พนักงานหลายคนต่างก็พูดคุยกันเมื่อเห็นนายตำรวจเดินเข้ามา 3-4 นาย"ใครทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า""ไม่ใช่หรอกมั้ง""แล้วตำรวจจะมาทำไมล่ะ"ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นตำรวจก็ได้เดินมาที่แผนกต้อนรับของบริษัท"ผมอยากจะมาขอพบผู้หญิงคนนี้ครับ" ตำรวจเอารูปภาพส่งให
"คุณทำอะไร" คฑาถามขึ้นในขณะที่เห็นเธอกำลังเก็บของบนโต๊ะทำงาน"ทำไมฉันต้องรอให้คุณไล่ออกด้วย ลาออกก่อนจะดูไม่มีค่ามากกว่าเหรอ""ใครจะไล่คุณออก""ในเมื่อแม่ของคุณเกลียดฉันมากขนาดนี้ คุณคิดเหรอว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าฉันถูกแจ็คพอตมา ครอบครัวฉันจะอยู่ยังไง" ถึงแม้เธอจะพูดแต่ก็ยังคงเก็บของต่อ"มันจะไม่มีแบบนี้อีกแล้ว""คุณเอาอะไรมารับประกัน ว่ามันจะไม่มีอีก ..ครั้งนี้อาจจะเป็นโชคดีของฉัน คนเราไม่ได้โชคดีเสมอไปหรอกนะ""คุณต้องการยังไงก็บอกมา""คุณกล้าที่จะทำตามสิ่งที่ฉันต้องการหรือคะ"เสียงสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนที่จะพยักหน้าเพื่อเป็นการตอบ"ฉันต้องการให้ดำเนินคดีกับคนผิด.. คุณรู้ใช่ไหมมันไม่ใช่แค่การกลั่นแกล้งกันธรรมดา ถ้าสมมุติว่ายาไอซ์ที่ตำรวจพูดถึง มันอยู่ในโต๊ะทำงานของฉัน ถ้าไม่มีเงินมากพอ ฉันก็คงต้อง.." พูดแค่นี้เขาคงจะรู้ หญิงสาวก็เลยหยุดพูด..ชายหนุ่มร่างสูงเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แล้วยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อกดโทรออกไปที่..>>{"ทำเรื่องให้พนักงานออกด้วย"}เห็นไหมระหว่างเรากับแม่ เขาต้องเลือกแม่อยู่แล้ว รัน..เธอคิดอะไรเนี่ย อุตส่าห์คิดว่าเขาจะมีความยุติธรรมในตัวบ้าง หญิงสา
"คุณอยากจะให้ผมทำอะไรก็ว่ามา""ทำสิ่งที่ควรทำ" เธอขอแค่นี้ ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้เลย สิ่งที่ควรทำหมายถึงว่าเขาต้องจัดการกับคนที่เป็นต้นตอของเรื่องนี้ และคนคนนั้นก็คือแม่ของเขาเอง เธอรู้ดีว่าเขาต้องคิดหนักแน่ เพราะยังไงนางก็คือแม่ผู้ให้กำเนิด แต่ถ้าแม่ทำผิดแล้วปล่อยไป ความเป็นคนของเขาก็จะเหลือน้อยลง เพราะนั่นคือเขาเอนเอียงชายหนุ่มพาหญิงสาวลงมาข้างล่าง โดยมีสายตาหลายคู่ที่มองตาม เขาไม่ได้เดินก่อน..ไม่ได้เดินห่าง..แต่เดินเคียงข้างกับเธอ มีบางจังหวะที่เธอก้าวเร็วเกินไป มือของเขากำลังจะโอบไว้กลัวว่าจะสะดุดล้ม แต่ก็ต้องได้รีบชักมือกลับมารรรรรรยอมนั่งรถมาด้วยโดยไม่ถามสักคำว่าเขาจะพาไปที่ไหน[คฤหาสน์หลังใหญ่]"มันเกิดอะไรขึ้นหรือคฑา" กัลยาซึ่งยังไม่รู้เรื่องอะไร ถูกน้องชายโทรตามให้กลับมาที่บ้านเช่นกัน กัลยาก็เลยรีบกลับมาพร้อมกับสามีพอกลับมาถึงก็เห็นว่าที่บ้านไม่ได้มีแค่น้องชาย ยังมีผู้หญิงอีกคน มันก็เลยยิ่งทำให้ผู้เป็นพี่สาวไม่สบายใจ"มีอะไรกัน" อัญชัญซึ่งพอจะรู้เรื่องนี้บ้างแล้ว แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ ยังทำเป็นตีหน้าซื่อแล้วเดินออกมาหน้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"คุณต้องการจะเอายังไง"
"คุณทำอะไรคะ" กัลยาเห็นว่าเขากำลังทำอะไรกับเตียงสักอย่าง"ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณจะอาบน้ำอีกไหม""อาบก่อนที่จะมาแล้วนี่คะ""ครับ..ถ้างั้นก็มานอนกันดีกว่า" ขยับเตียงเสร็จ สันติก็จัดการกับผ้าปูที่นอน เพราะดูเหมือนจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร"คุณขยับออกไปนิดหนึ่งก็ได้ค่ะ" นอนได้สักพัก หญิงสาวก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา ก็เลยบอกให้สามีขยับออกห่างเธอหน่อย"คุณอึดอัดที่ผมกอดเหรอ""เปล่าสักหน่อย""แล้วทำไมให้ขยับล่ะ""ก็ฉันกลัวจะอด..เออ" กัลยาคิดว่ามันเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเธอหรือเปล่า พอได้กลิ่นกายของสามีใกล้ๆ ก็เริ่มมีอารมณ์ ซึ่งแต่ก่อนเขาจะทำหรือไม่ทำก็ไม่เป็นไร"คุณก็พูดให้จบสิผมจะได้รู้""ฉันเป็นผู้หญิง""ผู้หญิง?? คุณอยากอีกแล้วเหรอ" เขาพูดแทนในสิ่งที่ผู้หญิงคงไม่กล้าพูดกัลยาอายมากจนเอาใบหน้าซุกเข้าไปกับแผ่นอกของสามี โชคดีที่หมอไม่ได้ห้ามเรื่องอย่างว่า เพราะเรื่องนี้สันติแอบถามมาแล้วตึก! ตึก! ตึก!!"เราทดลองดีแล้วไม่ใช่หรือพ่อ""ปล่อยมันไปเถอะแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ช่างมาต่อเติมห้องข้างล่าง""ต่อเติมห้องข้างล่างทำไม""เราจะย้ายลงไปนอนข้างล่างกัน"วันต่อมา..ที่โรงแรมกัลยา"คุณสันติ!" อิฐ
เย็นวันเดียวกัน พอได้รับข่าวดี อัญชัญก็เลยให้คนจัดเตรียมอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองเล็กๆ ในบ้าน กัลยาและสามีก็เลยต้องได้ค้างที่บ้านหลังนี้แต่อัญชัญก็ไม่ได้คิดว่าจะเลี้ยงแค่นี้ เพราะมันเป็นความยินดีที่สุดในครอบครัว จึงอยากจะป่าวประกาศให้คนในสังคมได้รับรู้ด้วย ก็เลยคิดว่าจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมอีกครั้ง"พี่สุดยอดมากเลยนะ" ขณะที่คฑาและคริสได้อยู่ตามลำพังกับสันติ ทั้งสองถึงกับยกนิ้วโป้งให้ จากเปอร์เซ็นต์ที่มีน้อยมาก แทบจะไม่มีเปอร์เซ็นต์เลยก็ว่าได้ แต่สันติก็ทำมันสำเร็จสันติไม่เอ่ยพูดอะไรได้แค่อมยิ้มเล็กน้อย ในความเก่งของตัวเอง"หยุดเลยนะคะ" รรรรรรรีบห้ามกัลยา เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะอุ้มรชต"ทำไม""เดี๋ยวพี่สันติก็มาเล่นงานอีก""เขาบ้าเห่อไปงั้นแหละ""แม่ก็ว่าอย่าเพิ่งอุ้มหลานเลย เรายิ่งมีลูกยากอยู่""ค่ะ" กัลยาก็เลยเชื่อฟัง ได้แค่นั่งหยอกรชตตอนที่คนอื่นอุ้มในเวลาเดียวกันนั้น และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ที่บ้านของสันติ"สงสัยวันนี้จะไม่กลับมานอนบ้าน" เศรษฐาพูดเปรยกับภรรยาขณะที่กำลังเดินขึ้นบ้าน เพราะเพิ่งจะปิดร้าน"คงใช่" เพราะถ้าลูกชายจะมานอนค้างที่บ้านก็คงกลับมาแล้ว"แม่.."สินีหยุดแล้วหันกลับมามอ
เช้าในวันต่อมา..วันนี้เป็นวันหยุดของผู้บริหาร ส่วนพนักงานโรงแรมจะผลัดเปลี่ยนกันทำงาน เพราะโรงแรมต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง"อึก..อึก.." ตื่นขึ้นมากัลยาก็อยากจะอาเจียน แต่เธอต้องพยายามกลั้นไว้ ทีแรกว่าจะบอกเขาเรื่องท้องตอนที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง แต่พอปล่อยเวลาให้ผ่านไป เธอก็เลยไม่รู้จะเริ่มต้นบอกกับเขายังไง"คุณเป็นอะไร""เปล่าค่ะ""อยากจะอาเจียนใช่ไหม"หญิงสาวพยักหน้าบอกทันที สันติรีบปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด ..พอเป็นอิสระเท่านั้นแหละ กัลยาก็รีบตรงเข้าไปในห้องน้ำชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเข้าไปลูบหลังให้ พอเธอสบายท้องแล้วเขาก็กดน้ำลงให้"ดีขึ้นไหม""เวียนหัว" วันนี้รู้สึกว่าจะมีอาการเวียนหัวเพิ่มขึ้นมา"ไปหาหมอกัน""ไม่ค่ะ""ทำไม""ก็ฉันรู้อยู่ว่าตัวเองเป็นอะไร" ยังไงต้องได้บอกเขาอยู่แล้ว ถ้างั้นก็บอกวันนี้เลยแล้วกัน"ผมก็รู้""คะ??""คุณรู้ไหมว่าผมรอว่าเมื่อไรคุณจะบอกผม""คุณหมายความว่ายังไง" กัลยาลองถามดู ว่าที่เขาพูดหมายถึงเรื่องเธอท้องไหม หรือพูดคนละเรื่อง"ผมก็แอบน้อยใจ เมื่อไรคุณจะบอกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเราสองคนสักที แต่คุณก็ไม่พูด""คุณรู้แล้วหรือคะ""ผมคงเป็นพ่อที่ไม่ดีมากเลยใช่ไหม คุณ
"คุณอยากกินเหรอ" เข้าทางสันติเลย เพราะคิดอยู่ว่าจะเอาของเปรี้ยวมาล่อเธอตอนไหนดี"เปล่าสักหน่อย ฉันแค่มองดูว่าทำไมถึงมีของแบบนั้นอยู่ในห้องอาหาร" เพราะอาหารพวกนี้มันเป็นอาหารเฉพาะ และถ้ามีใครแอบเอาอาหารข้างนอกเข้ามากิน ก็จะถูกทำโทษ เพราะกลัวว่าจะขัดต่อมาตรฐานอาหารของโรงแรม"น้ำเก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ" วิลาวัลย์รีบเดินกลับมาเพื่อส่งซิกให้กับน้ำใจน้ำใจก็รีบเก็บมันไว้ โชคดีที่เป็นมะม่วงสด ถ้าเป็นของดองยิ่งจะถูกเล่นงานหนัก เพราะกลิ่นมันแรง"ฉันก็ลืมดูต้นทางให้แก แล้วนี่แกเป็นอะไรทำไมถึงอยากจะกินของเปรี้ยวๆ แบบนี้แต่เช้าจัง" ธัญญ่าเข้ามายืนบังเพื่อนไว้ในขณะที่กำลังเก็บของกินอยู่"ไม่รู้..สงสัยจะเป็นประจำเดือนมั้ง อยากกินแบบนี้มาหลายวันแล้ว""ทานข้าวหน่อยสิ" สันติตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้กับกัลยาแต่เธอก็ยังมีท่าทางพะอืดพะอม เขาก็เลยเอายาดมที่ติดตัวมาด้วยส่งให้"คุณมีของแบบนี้ได้ยังไง" กัลยาถามสามี เพราะไม่เคยเห็นเขาดมยาสักที แล้วจะติดตัวมาทำไม"ผมเห็นใครวางไว้ที่บ้านไม่รู้ ก็เลยหยิบติดมาด้วย"พอได้ดมยาเข้าไปแล้ว กัลยาก็พอจะทานอาหารได้บ้าง แต่ก็ทั้งทานและทั้งดมยาไปด้วยสายๆ ของวันเดียวกัน.."อะไร
"หนูเป็นอะไร" สินีรีบวางของที่กำลังทำอยู่ เดินตามลูกสะใภ้เข้าไปในห้องน้ำ"คุณแม่อย่าเข้ามาค่ะ" คุยกับแม่สามียังไม่ขาดคำเธอก็ต้องได้หันกลับไปคุยกับคอห่านอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรจะออกมา เพราะเพิ่งจะตื่นก็เลยยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย"ดมยาหน่อยนะ" แม่ของสามีไปเอายาดมที่เตรียมไว้ขายออกมาให้ลูกสะใภ้"ขอบคุณค่ะ" พอเธอเอามาใส่จมูกแล้วสูดดม ก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะ อาการพะอืดพะอมก็หายไป"หนูเป็นอะไร""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ กัลขอตัวก่อนนะคะจะรีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน" ที่ไม่อยากจะอยู่นาน เพราะยังอายเรื่องเมื่อคืนนี้อยู่มาก"แล้วตาสันติล่ะ""คุณสันติยังไม่ตื่นค่ะ"สินีก็เลยไม่พูดต่อ เมื่อคืนนี้นางรู้ดีว่ากว่าลูกชายจะได้หลับได้นอน เพราะพ่อกับแม่ก็ได้นอนพร้อมกันนั่นแหละ.."กลิ่นหอมมาแต่ไกลเลยค่ะคุณป้า" จังหวะที่กัลยากำลังจะเดินออกประตู ก็เจอเข้ากับอ้อมเด็กข้างบ้าน "นี่?!" และอ้อมถึงกับชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร"หนูอ้อมมาแต่เช้ามีอะไร" แม่ของสันติถามไปแบบเกรงใจลูกสะใภ้"อ้อมอยากจะมาฝากท้องค่ะ วันนี้แม่ไม่อยู่บ้าน" อ้อมพูดในขณะที่มองตามหลังกัลยาออกไปแบบไม่พอใจตุ๊บ! เสียงกัลยาปิดประตูรถ เธอเลือกที่จะไม่
"ฉันนอนข้างในก็ได้ค่ะ" หญิงสาวเริ่มพูดเสียงเบาลง เมื่อสัมผัสถึงความแข็งแกร่งที่มันเริ่มขยายตัวขึ้นมา"ไม่ทันแล้ว" สันติจับร่างของเธอให้นอนลงข้างล่าง แล้วดันตัวเองขึ้นคร่อมเธอไว้ จมูกคมสันโน้มลงไปไซ้ซอกคอระหงและสูดดมกลิ่นกายของเธอแบบโหยหาและอาวรณ์ เขาคิดว่าจะไม่มีวันนี้อีกแล้ว"อย่าทำแรงนะคะ" กัลยาไม่ได้ห้ามถ้าเขาจะทำเรื่องอย่างว่า แต่กลัวจะมีผลกระทบกับลูกเพราะรู้ดีเวลาที่เขากระแทก ไม่ค่อยชอบเก็บแรงไว้เท่าไรที่กัลยายังไม่บอกเรื่องท้อง เพราะถ้าบอกไปแล้วกลัวเขาจะคิดว่าที่เธอวิ่งมาหาเพราะกลัวว่าลูกจะไม่มีพ่อ"ไหนบอกสบายดีแล้วไง ทำไมถึงไม่ให้ทำแรง" วันนั้นที่เขายับยั้งก็เพราะได้ยินอิฐบอกว่าเธอไม่สบาย"ก็กลัวพ่อกับแม่ที่นอนอยู่ข้างห้องจะได้ยินไงคะ" หญิงสาวรีบหาข้ออ้างมาพูดแต่สันติไม่รับปาก เขาจัดการกับเสื้อผ้าของเธอออกแบบรวดเร็ว พอทั้งสองไม่มีอะไรปิดบังแล้ว ชายหนุ่มก็เลื่อนตัวลงมาที่ใต้หว่างขาหญิงสาวค่อยๆ แยกขาออกแบบรู้งาน เพราะเธอชอบมากเวลาที่เขาลงลิ้นให้ แต่ก็นานๆ ครั้ง เหมือนอย่างที่เคยพูดนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเขาจะรีบไปตามควายที่ไหน"อ๊อย..คุณสันติ.." กัลยาเริ่มครวญครางเมื่อถูกลิ้นตวัดแร
"คุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ?" คำพูดที่เขาเพิ่งจะพูดไป มันตีความหมายได้ไม่หลายอย่างหรอก เพราะในเมื่อเขาบอกเธอไปหาหมอจะได้มีทางรักษา..นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่"คุณไม่สบายไม่ใช่เหรอ" วันนั้นที่ร่วมทานอาหารด้วยกัน รวมทั้งที่เธอมีอาการแปลกๆ ซึ่งตั้งแต่อยู่กินกันมาไม่เคยเห็นเธอมีอาการแบบนั้นเลย"คุณไปได้ยินมาจากไหนว่าฉันไม่สบาย""ก็.." สันติกำลังจะพูด แต่เขาก็ต้องได้เก็บคำพูดไว้ก่อน "ตกลงคุณ??""คุณคงเข้าใจผิดอะไรไปแล้วล่ะ ตั้งแต่ฉันอยู่กับคุณมาฉันไม่เคยสบายขนาดนี้มาก่อน ถ้าคุณคิดว่าฉันป่วยใกล้ตายแล้วจะเข้ามาทำดีด้วย..ก็ไม่ต้อง""หึ" เขาคงจะถูกอิฐหลอก เพื่อที่จะให้มาดูแลเธอ เพราะอิฐรู้จุดอ่อนของเขาดี ว่ารักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน "ถ้างั้นผมก็ขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด และผมดีใจด้วยนะครับที่คุณสบายดี แถมสบายกว่าตอนที่มีผมอยู่ด้วยอีกต่างหาก"จบประโยคคำพูดเขาก็หันหลังให้แล้วเดินออกมาสันติไม่ได้เดินไปทางที่มีประตูเชื่อมต่อกัน แต่เขาออกมาประตูหน้า แล้วก็ตรงไปที่ลิฟต์ โดยที่ไม่ได้สนใจจะไปหยิบเอาของในห้องทำงานเลยพอประตูห้องปิดลง ร่างของกัลยาก็ทรุดลงกับพื้น นี่เธอพูดอะไรออกไป เธอพูดไปได้ย
"ผมเป็นคนชลอเรื่องนี้ไว้เอง" พอทนายจากไปแล้วเขาถึงได้หันมาพูดกับเธอ"คุณทำไปเพื่ออะไร""ช่วงนี้เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องหย่ากันเลยได้ไหม""ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณบอกเหตุผลฉันมา""เหตุผล?" ชายหนุ่มมองดูแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของเธอ "ก็เรื่องโปรเจคไง ผมสัญญากับผู้ร่วมหุ้นคนอื่นไว้แล้วว่าจะดูงานเอง"จุก.. จุกมากเมื่อได้ยินเหตุผลของเขา ที่อยู่ต่อเพราะเรื่องงานอย่างนั้นเหรอ"ถ้าเพราะเรื่องนี้ ถึงแม้เราจะหย่ากันแล้ว แต่คุณก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ คุณจะดูแลโครงการนี้ก็คงไม่มีใครว่า" กัลยาพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้เขาไม่อยากจะหย่าเพราะความสงสารเด็ดขาด"ดูเหมือนคุณอยากจะหย่ามากเลยนะ" สันติอดคิดไม่ได้ เพราะสองสามวันมานี้ได้ยินแต่เธอพูดเรื่องนี้"ค่ะ ฉันอยากจะเซ็นต์วันนี้เลยด้วยซ้ำ"ชายหนุ่มหันกลับไปทางห้องของตัวเอง เพื่อสะกดอารมณ์ "เสียใจด้วย เผอิญว่าผมยังไม่อยากจะหย่า""คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก" ถ้าเหตุผลในการชะลอเรื่องหย่าไว้มีแค่นี้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะชะลอเหมือนเขานี่ รีบหย่ารีบจบกันไป"ผมว่าเราอย่าคุยเรื่องนี้กันดีกว่า เดี๋ยวคุณเครียดมากไปกว่านี้""เครียด?!" หญิงสาวรี
นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้นอนกอดเรา เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ไม่อยากจะหย่า..หรือว่าอยากจะหย่ามาก กลัวว่าเราไม่เซ็นต์ให้เหรอในเมื่อจะหย่ากันอยู่แล้ว จะกลับมาอีกทำไม คิดเองก็น้อยใจเอง หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดสามีในเวลานี้ ค่อยๆ ขยับกายเพื่อนอนตะแคงหันหลังให้ เพราะจะบังคับตัวเองให้หลับไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว"??" แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ใบหน้าหล่อคมของสามีก็ค่อยๆ ซุกซอกคอด้านหลังเขาสูดดมกลิ่นกายของเธอ แล้วค่อยๆ ขยับริมฝีปากแนบจูบลงมาจนถึงแผ่นหลัง"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวรีบหันมองกลับไป ..ร่วมเดือนแล้วมั้งที่ไม่ได้สัมผัสกันใกล้ชิดแบบนี้"ผมขอโทษที่ไม่ได้ดูแลคุณ" ใบหน้าของเขาและคำพูดเหมือนสำนึกผิด"คุณหมายความว่ายังไง" หรือเขาจะรู้ว่าเราท้องแล้ว? คนแรกที่กัลยาคิดถึงคืออิฐ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้จากคุณหมอ"นอนนะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกแล้ว""??" คุณสันติเนี่ยนะ จะมาบอกให้เราไม่ต้องคิดอะไรมากก่อนนอน ..เพราะทุกครั้งกลับเข้าห้องคือเขาหลับปุ๋ยไปก่อนแล้ว นอกจากวันไหนที่เขาต้องการ ถึงจะรอทำเรื่องอย่างว่าจนเสร็จ แล้วก็นอนหันหลังให้ โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะยังค้างอยู่ไหมกัลยาก็เลยเลือกที่จะหันหลัง