หญิงสาวร่างระหงเอื้อมมือไปจับเอากระเป๋าสะพายของตัวเอง แล้วลุกขึ้นจากที่นั่งสำหรับญาติผู้ป่วย"คุณจะไปไหน" เป็นห่วงแม่ก็เป็นห่วง แต่นาทีนี้เขาเลือกที่จะเดินตามหลังเธอมา"ฉันจะกลับ""รอก่อนได้ไหมเดี๋ยวไปส่ง""ไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะ ฉันกลับเองได้""ผมอยากจะคุยกับคุณเรื่องลูก""ลูก?" พอได้ยินคำนี้เธอถึงกับหยุดเดินแล้วค่อยๆ หันกลับมา "เขาเป็นลูกของฉัน..คุณจะคุยอะไร""รัน""เขาเป็นลูกของฉันแค่คนเดียว" หญิงสาวกำลังจะหันหน้าหนี แต่ถูกมือหนาทั้งสองข้างคว้าร่างให้หันกลับมาก่อน "ผมรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของผม""เขาจะเป็นลูกคุณได้ยังไง ก็ในเมื่อคุณคุมกำเนิดอยู่" ขณะที่พูดหัวใจก็ได้เต้นแรงขึ้นมา เพราะเธอกลัวว่าเขาจะมาแย่งลูกไป เรื่องรับผิดชอบเธอคิดว่าเขาคงไม่ทำอยู่แล้วคฑาก็คิดอยู่ว่าตัวเองคงเผลอหลั่งเข้าไปข้างในบ้างแหละ เพราะมีอยู่จังหวะหนึ่งที่เขาเสียวมากจนเผลอกดแช่ไว้นานแล้วค่อยชักออกมาปล่อยข้างนอกในเมื่อเธอยืนยันว่าจะกลับเขาก็เลยพาลงมาที่รถ และคิดว่าวันหลังค่อยคุยกันเรื่องลูกใหม่"ขึ้น""ฉันบอกแล้วไงว่าจะกลับเอง คุณขึ้นไปดูแม่ของคุณเถอะ""บอกให้ขึ้นรถไง"รรรรรรไม่ยอมขึ้นเธอเดินเลี่ยงรถเขาออกมาเพื
"คุณจะทำอะไร" รรรรรรพยายามก้าวถอยหลังไป เพราะรู้ดีว่าเขาไม่ได้ขู่แน่เรื่องที่จะอุ้มขึ้นรถ"เดี๋ยวก็สะดุดล้มหยุดเลยนะ" เขาเห็นเธอก้าวถอยหลังแบบไม่ระมัดระวัง ก็เลยกลัวว่าจะล้ม"คุณนั่นแหละหยุด""ผมหยุดก็ได้..แล้วคุณจะยอมขึ้นรถดีๆ ไหมล่ะ"หญิงสาวมองซ้ายมองขวา ตอนนี้คนในซอยบ้านเธอต่างก็มองมา ถ้าเป็นที่อื่นคงไม่ทำตามคำขู่แน่ แต่นี่ซอยเข้าบ้าน หญิงสาวก็เลยยอมขึ้นรถออกมากับเขา"จะไปไหน" ที่ถามเพราะจะได้พาไปถูก"คลินิกข้างหน้า""เป็นอะไร" ชายหนุ่มหยุดรถอีกครั้ง เพราะคิดว่าเธอไม่สบายถึงได้ออกไปคลินิก"ฝากท้อง""ฝากท้องที่คลีนิกเนี่ยนะ?""ก็มันใกล้บ้านที่สุดแล้ว"เขาหันหน้ากลับไปทำหน้าที่ขับรถใหม่อีกครั้ง และไม่คิดว่าจะจอดคลินิกด้วยพอรรรรรรเห็นว่าเขาไม่จอด ก็เริ่มโวยวายขึ้นอีกแต่โวยวายได้เพียงไม่นานเธอก็ต้องหยุดพูด เพราะเขาไม่ตอบโต้อะไรเลย จนกระทั่งขับรถพามาถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งพอรถจอดเท่านั้นแหละ ก็มีคนมาเปิดประตูรถให้ แค่เขาบอกว่าจะพาภรรยามาฝากท้อง แพทย์เฉพาะทางด้านนี้ก็รีบเข้ามาเธอแทบจะไม่ได้ทำอะไร จนทุกอย่างผ่านพ้นไป และหมอก็นัดอีกที เป็นสัปดาห์หน้า ส่วนวันนี้ก็ได้ยามาทานเพื่อบำรุงครรภ์
"คุณรีบทำต่อให้เสร็จเถอะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับเบือนหน้าออกห่าง ไม่จูบก็ไม่ต้องจูบสิ ใครเขาจะไปสนใจขนาดนั้น..ก็แค่มันคาใจชายหนุ่มถอดสิ่งที่เชื่อมต่อกันอยู่ออกมา แล้วก็ลุกขึ้นใครจะมีอารมณ์ทำต่อได้ ถูกขัดจังหวะจนลากล้อขนาดนี้แต่พอเขาลุกขึ้นเธอก็รีบนอนหันหลังให้ พร้อมกับดึงผ้าห่มมาคลุมร่างที่เปลือยเปล่าไว้คฑาอยากจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาให้เธอฟังว่าทำไมถึงไม่จูบ แต่ไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไง ถ้าคนฟังไม่เข้าใจ คงคิดว่าเขาเป็นโรคประสาทชนิดหนึ่งแน่วันต่อมา.."พี่" รรรรรรออกมาจากห้องก็เห็นพี่สาวอยู่ที่คอนโดแล้ว "พี่มาตั้งแต่เมื่อไร""ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว เห็นว่าเรานอนหลับพี่ก็เลยไม่กวน" คฑาให้พี่สาวของเธอเก็บเฉพาะของจำเป็น แล้วให้คนรถไปรับสายตาของเธอมองไปทั่วห้องเหมือนกับมองหาอะไรสักอย่าง ..แต่ถึงแม้ว่าน้องสาวจะไม่ถาม พี่ก็รู้ว่าน้องมองหาใคร.. "บอสออกไปแล้ว บอกว่าให้พี่ดูแลเรา""พี่ไปตกลงกับเขาเมื่อไรว่าจะย้ายมาอยู่คอนโด""พี่ขอโทษที่ไม่ได้ถามเราก่อน"เธอก็เลยไม่พูดอะไรต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้พี่ไม่สบายใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่..ในใจกลัวว่าเขาทำดีไปเพื่ออยากจะได้ลูกมากกว่า"ฉ
"นายยังไม่รู้เหรอ?" กัลยาคิดว่าน้องชายรู้แล้ว เรื่องที่ภรรยาของเขาขอมาทำงานโรงแรมด้วย ..งานเข้าแล้วไหมล่ะเรา"วันนี้ผมจะไปค้างคอนโด" จากที่กำลังจะเดินเข้ามาในบ้าน คฑาก็เลยเปลี่ยนใจเดินมาที่รถ เมื่อรู้ว่าเธอไปทำงานที่โรงแรมของพี่สาว"คฑาลูก.." เสียงอัญชัญร้องตะโกนเรียกลูกชายจากชั้นบน เพราะนางมองออกมานอกหน้าต่างเห็นพอดี"ครับแม่" ชายหนุ่มมองขึ้นไปตามเสียงเรียกของแม่"นั่นลูกจะไปไหน""ออกไปธุระครับ""ไหนลูกบอกว่าจะค้างที่บ้านไง""เออ.." ทีแรกว่าจะไปถามความจริงกับเธอที่คอนโดสักหน่อย แต่ดันเผลอบอกแม่ไปแล้วว่าจะค้างด้วยที่บ้าน "ครับ"กัลยาได้แต่ส่ายหน้า แล้วมองตามหลังน้องชายที่เดินเข้าบ้านไป เพราะรู้ดีว่าน้องคงจะห่วงหน้าพะวงหลังหลังอาหารเย็น.."เรามีปัญหาอะไรกัน บอกพี่ได้ไหม" กัลยาเห็นน้องชายไม่ค่อยทานข้าว แถมยังมีท่าทางครุ่นคิด"พี่ครับ.. พี่จำเหตุการณ์ตอนที่ผมเรียนอนุบาลอยู่ได้ไหม""จำได้สิ" ตอนนั้นกัลยาเรียนประถมแล้ว และก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกัน "ทำไม.. เรายังไม่ลืมเหตุการณ์นั้นอีกเหรอ""ยังครับ""อย่าบอกนะ เรื่องที่มีปัญหากับรัน เกิดขึ้นเพราะเรื่องนี้""ครับ""พี่คิดว่ามีปัญหา เพร
เมื่อรู้เรื่องราวในอดีตของคฑาแล้ว เธอก็เริ่มจะเข้าใจ ..แล้วผู้หญิงคนนั้นเอาอะไรมาพูด แน่นอนว่ารรรรรรไม่ใช่คนที่ชอบให้อะไรคาใจอยู่แล้ว เรื่องที่ชมพูนุชพูดเธอต้องถามเอาความจริงจากปากของเขาให้ได้ แต่จะถามยังไงเพราะเขามีความทรงจำไม่ดีเกี่ยวกับการจูบหญิงสาวยังคงทำงานต่อไปจนถึงเย็น เพราะถึงยังไงเรื่องนั้นมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวจะเอามาปนกับงานไม่ได้"คุณอิฐมีอะไรจะให้รันช่วยอีกไหมคะ""ไม่แล้วครับ" อิฐยังคงตำหนิตัวเองเพราะไม่รู้ว่าเธอท้อง วันแรกที่ทำงานพาเดินเกือบทั่วโรงแรมเลย"ถ้างั้นรันขอกลับก่อนนะคะ""เชิญเลยครับ"รรรรรรแปลกใจเล็กน้อย เพราะงานวันนี้เธอแทบจะไม่ได้แตะอะไรเลยก็ว่าได้หญิงสาวร่างระหงเดินออกมากำลังจะไปเรียกแท็กซี่ แต่ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งค่อยๆ เคลื่อนตัวมาจอดด้านข้าง"คุณรันใช่ไหมคะ" คนขับรถที่เป็นผู้หญิงก็ได้ลงมาถาม"ใช่ค่ะ""เชิญขึ้นรถเลยค่ะ""คะ?" อยู่ดีๆ ก็มีคนบอกให้ขึ้นรถใครจะไม่สงสัย"อ๋อ..ขอโทษด้วยค่ะลืมแนะนำตัว ฉันเป็นพนักงานขับรถส่วนตัวของคุณค่ะ""พนักงานขับรถส่วนตัว?""บอสให้ฉันมาทำหน้าที่นี้ค่ะ"รรรรรรเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้หมายถึงใคร"ตอนนี้เขาอยู่ไหนคะ"
ลิ้นสากตวัดเลียยอดเม็ดเสียว จนเจ้าของเรือนร่างระหงบิดสะโพกไปมา แต่เธอก็ไม่ได้ขยับหนี"อื้อ" เขาทำอยู่ตรงนั้นจนเธอรู้สึกไม่ไหวแล้ว มือเรียวเอื้อมลงไปช้อนใบหน้าคมให้เงยขึ้นมา ..และชายหนุ่มก็ทำตามอย่างว่าง่ายคฑาลุกขึ้นมาถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ออกทีละชิ้น ผ่านไปเพียงชั่วครู่ก็จัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนหมดใบหน้าคมแนบลงที่หน้าอกของอีกฝ่ายก่อนเป็นอันดับแรก แล้วก็ใช้ลิ้นวนหยุดแถวนั้นจนยอดดอกบัวตูมชูชันขึ้นร่างหนาถึงได้ขยับขึ้นมา แล้วแนบริมฝีปากลงที่แก้มนวล"ฉันอยากจะจูบ" เธออยากจะทำลายกำแพงนั้นของเขา "ขอจูบได้ไหมคะ"จากที่กำลังจะส่งความเป็นชายเข้าไป คฑาถึงกับหยุดชะงัก"หรือที่ชมพูนุชพูดมาเป็นความจริงใช่ไหมคะ" เหตุผลที่กัลยาพูดมาก็พอจะฟังขึ้น ที่เขาไม่จูบเพราะเคยมีปมเรื่องนี้ แต่คำพูดของชมพูนุชมันยังคาใจเธออยู่"พูดอะไร""ก็พูดว่าคุณสัญญากับเธอไว้ว่าจะไม่จูบใครนอกจากเธอ""อะไรนะ?" ผู้หญิงคนนั้นเล่นแรงขนาดนี้เลยเหรอ ถึงว่าทำไมเธอถึงงอนที่เขาไม่จูบ "ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย" ที่จริงแล้วเขาก็ไม่เคยจูบชมพูนุชเลย กับผู้หญิงคนไหนเขาก็ไม่เคยจูบทั้งนั้น"แล้วมันแบบไหนล่ะคะ คุณก็บอกฉันมาสิ""ไม่มีอะ
"ทำไมแม่ไม่โทรมาก่อนล่ะครับ""ไหนบอกว่าแม่นี่ออกจากงานไปแล้วไง" อัญชัญไม่ตอบสิ่งที่ลูกชายถาม แต่นางมองผู้หญิงอีกคนแบบไม่พอใจ"ใช่ครับเธอออกแล้ว"รรรรรรมองไปที่คฑาแบบเสียความรู้สึก เพราะเธอยังไม่ได้ออกสักหน่อย แค่ขอไปทำงานที่อื่นในระหว่างที่รอให้เขาจัดการกับไอ้สองตัวบาทนั่น"ออกแล้วจะมาวุ่นวายอะไรที่บริษัทนักหนา""แม่ครับ ถึงเธอจะออกจากงานแต่เธอก็ยังเป็น..""เป็นอะไร.. อ้อ..เป็นผู้หญิงที่ลูก เอาไว้คลายเหงาเหมือนที่ลูกบอกแม่ใช่ไหมล่ะ" นางรู้ดีว่าลูกชายจะพูดอะไรต่อก็เลยรีบชิงพูดขึ้นมาก่อน"แม่!" คฑามองมาที่เธอเมื่อได้ยินประโยคนั้น"ที่จริงถ้าลูกต้องการผู้หญิงสักคน..หนูแยมก็ได้นะลูก" ว่าแล้วนางก็มองไปที่ใบหน้าของแยมด้วยรอยยิ้ม"แม่พูดอะไร?" คฑาก็มองไปเช่นกันมอง..มันเป็นฝีมือของแม่นี่เอง"ฉันกลับก่อนนะคะ" ดูแล้วยังไงแม่เขาก็คงจะไม่ยอมรับเธอ และระหว่างเธอกับแม่..เขาก็คงจะเลือกแม่โดยที่ไม่ต้องคิด"รัน" ชายหนุ่มรีบเดินเข้ามารั้งตัวเธอไว้"โอ๊ยย..คฑาแม่ปวดหัว" ทันใดนั้นอัญชัญก็ยกมือขึ้นมากุมขมับตัวเองไว้"แม่ครับ" ชายหนุ่มรีบปล่อยมือเธอออกแล้วเข้ามาประคองแม่ "รัน" แต่ก็ยังคงมองตามหลังเธอไป"คฑ
"คุณจะให้ฉันไปวันนี้เลยหรือคะ" ถ้าเป็นบางคน คงจะทำตัวงี่เง่าไม่ยอมตามไป เพราะแม่ผัวมีนิสัยแบบนั้นใครจะกล้าเข้าใกล้ แต่กับเธอแล้ว ขอให้ที่ตรงนั้นมีเขาอยู่ก็พอแล้ว"เรื่องนี้ผมแล้วแต่คุณ ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร""ฉันขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ" ทีแรกคิดว่าเขาจะไม่กลับมา เธอก็เลยยังอยู่ในชุดแบบลำลองสบายๆก่อนออกมา รรรรรรได้บอกกับพี่สาวไว้ว่าจะไม่ได้กลับมาค้างคอนโดด้วย เพราะจะไปทำภารกิจระดับชาติ..[คฤหาสน์หลังใหญ่] เธอเคยมาค้างที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งการมาครั้งนี้แตกต่างกับครั้งนั้นมาก เพราะตอนนั้นเธอมาในฐานะภรรยาในนามของเขา ตอนนี้ถึงแม้ฐานะของเธอจะยังไม่ชัดเจน เธอจะพยายามทำให้มันชัดเจนขึ้นมาให้ได้"คฑา.." เสียงนั้นดังแว่วออกมาจากบ้าน เมื่อเห็นรถของลูกชายจอดสนิท แต่พอเห็นว่าเป็นใครที่มากับลูก อัญชัญถึงกับหยุดชะงัก "เอามันมาด้วยทำไม""แม่ครับ"จากที่ยิ้มแก้มปริ่มออกมารับลูกชาย เพราะนางได้ตั้งโต๊ะอาหารเย็นรอไว้แล้ว ก็ถึงกับหน้าบึ้งตึงเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ลงรถมาพร้อมลูก"เข้าบ้านกันครับ" มือหนายื่นไปกุมมือเธอให้เดินตามมา และตอนนี้แม่ของเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว"รัน""สวัสดีค่ะคุณกัล
เช้าวันต่อมา.."ขอบพระคุณคุณปู่คุณย่ามากนะคะ""ถ้าอยากมาค้างที่นี่ก็มาได้ตลอดเวลาเลยนะ ปู่กับย่ายินดีต้อนรับเสมอ""ขอบคุณมากเลยนะครับ ส่วนเรื่องประตู เดี๋ยวผมจะให้ช่างมาดูให้""ไม่เป็นไรหรอก แค่เปลี่ยนลูกบิดเฉยๆ ก็ใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว""ให้ช่างมาดูดีกว่าค่ะคุณปู่" รักนรินทร์เกรงใจ มาขออาศัยอยู่บ้านท่านแท้ๆ ยังมาทำของท่านเสียหายอีก"ถ้างั้นก็เอาที่พวกเราสบายใจเลยแล้วกัน เดินทางปลอดภัยนะลูก""ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ทั้งสองไหว้ร่ำลาพวกท่านแล้วก็ออกมา[บ้านภูมิฐาน]ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่บ้านก่อน เพื่อจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าพอมาถึงก็เจอพ่อกับแม่ของเขาอยู่ที่บ้านพอดี"คุณพ่อจะออกไปไหนหรือครับ" เดินเข้ามาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังจะออกจากบ้าน"ก็เข้าบริษัทน่ะสิ ที่บริษัทโทรมาบอกว่าตามตัวผู้บริหารไม่เจอ""ขอโทษครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง แต่ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ" เขามัวแต่ยุ่งตามหาเธออยู่ ก็เลยปล่อยปละละเลยเรื่องบริษัทไป"ฉันรออยู่ข้างล่างได้ค่ะ" หญิงสาวชักมือออกเมื่อเขายื่นมาจะจูงเธอขึ้นไปด้วย"จะรออยู่ข้างล่างทำไม..ไม่อาบน้ำก่อนหรือไง""คุณก็ไปอาบเองสิ""ไปด้วยกัน แล้วก็เข้าบริษัทด้วยกัน""ฉ
"ใครเขาจะให้คุณนอนด้วย" หญิงสาวรีบเก็บของบนโต๊ะอาหาร พอเก็บเสร็จก็เดินไปที่ประตูบ้าน "คุณกลับไปเลยนะ ฉันจะล็อกบ้านแล้ว""บอกแล้วไงว่าจะนอนที่นี่ด้วย""แต่นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ""งั้นก็กลับบ้านสิ""ไม่"จากที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่ชายหนุ่มก็ก้าวเดินไปที่บันได"นี่คุณ!" รักนรินทร์รีบหันไปล็อกบ้านไว้แล้วก็เดินตามเขาขึ้นมา"คุณพักอยู่ห้องไหน""ไม่บอก"ไม่บอกก็ไม่เห็นจะยาก เพราะชั้นบนมีห้องนอนแค่สองห้อง ภูมิฐานเดินไปหน้าห้องนอนหนึ่งในสองนั้น"คุณภูมิหยุดเดี๋ยวนี้นะ!" รักนรินทร์รีบเดินเข้าไปรั้งตัวเขาไว้ก่อนที่จะเปิดประตูห้องนั้น "นี่มันห้องของคุณปู่คุณย่า""คุณก็ไม่บอกแต่ทีแรก" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปเปิดอีกห้องที่อยู่ข้างกัน หญิงสาวก็เลยรีบตามเข้าไป"ก็ได้แต่ฉันให้คุณค้างแค่คืนนี้คืนเดียวนะ"เขาไม่ตอบ..ให้พ้นคืนนี้ไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังรับไหวอยู่ภูมิฐานเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วก็เข้าห้องน้ำ ทำเหมือนบ้านของตัวเองยังไงยังงั้นรักนรินทร์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดบึ้งใส่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงสวนทางกับสิ่งที่แสดงออกมาเพียงไม่นานภูมิฐานก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็เลยเข้าไปใช้ต่อพรึบ! "กรี๊ดด" หญิงสาวที่กำลังอา
[คอนโด]เพียงไม่นานรถของภูมิฐานก็มาถึงคอนโด ชายหนุ่มลงจากรถได้ก็รีบตรงขึ้นไปก๊อก ก๊อกแกร็ก! แกร็ก!! เขาไม่มีคีย์การ์ดของห้องนี้ ก็เลยต้องได้เคาะประตูแล้วลองเปิด แต่ข้างในก็ยังเงียบอยู่"รักนรินทร์..คุณมาถึงหรือยังเปิดประตูให้ผมหน่อย" ขณะที่เรียกเขาก็ยังคงเคาะประตู แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆชายหนุ่มเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเธอ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม[ร้านขายของชำ]"ผมก็ได้ยินคุณแม่บอกว่า ได้ฤกษ์ยามแล้วไม่ใช่หรือครับพี่" เมื่อเกียร์เห็นพี่สาวมาหา ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ก็เลยถามเอาความจริง"สงสัยเขาจะยังไม่พร้อม""พี่จะไปสนใจอะไร" เกียร์ของขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่าฝ่ายชายไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับพี่สาว"เรื่องนี้เราอย่าไปพูดให้ใครฟังนะ" ที่รักนรินทร์ต้องเล่าให้เกียร์ฟังก็เพราะอยากจะมาขออาศัยอยู่ที่นี่ก่อน ในระหว่างที่รอให้เขาตัดสินใจ พอคิดแล้วดูเหมือนไม่มีค่า ต้องให้ผู้ชายตัดสินใจว่าอยากจะแต่งงานด้วยไหม"ถ้างั้นพี่ก็ค้างที่ห้องผมเลยแล้วกัน..เพราะผมต้องกลับไปค้างที่บ้านของคุณแม่" ข้าวฟ่างไม่ได้มาด้วย เกียร์แค่แวะมาดูร้านช่วยปู่กับย่า"แล้วคุณปู่คุณย่าของเกียร์จะไม่ว่าพี่เหรอ""
"ปล่อยค่ะนี่มันห้องทำงานนะ" พอเป็นอิสระหญิงสาวก็รีบห้ามปรามกลัวว่าเขาจะเลยเถิด"คุณทำเสน่ห์ใส่ผมหรือเปล่าเนี่ย" ยอมรับว่าไม่เป็นอันทำการทำงานเลย เพราะตั้งแต่ได้สัมผัสร่างกายของเธอมา เขาก็โหยหาเธอโดยตลอด"ทำเสน่ห์? อะไรคือทำเสน่ห์คะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเธอเติบโตที่ต่างประเทศ เรื่องแบบนี้ที่นั่นเขาไม่เชื่อกันอยู่แล้ว และไม่มีใครพูดถึง แม้แต่พ่อและแม่ สื่อโซเชียลก็ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี"ผมแค่ล้อเล่น มันเป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง""คุณรักฉันจริงเหรอ" รักนรินทร์ถามอีกครั้ง เพราะคิดว่าเขาคงอยากจะพูดแค่ต่อหน้าผู้ใหญ่"รักสิ ผมรักคุณ ว่าแต่คุณคิดยังไงกับผม""คิดยังไง?" ใช่แล้วเราคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่พอได้ยินเขาบอกรักทำไมถึงดีใจมาก ดีใจจนห้ามน้ำตาของตัวเองไม่ได้"ผมไม่ได้บังคับให้คุณพูดหรอก เรื่องแบบนี้ต้องพูดออกมาจากใจ เหมือนที่ผมบอกคุณไง""คุณพูดจากใจจริงหรือคะ" ก็มันยากที่จะเชื่อนี่ วันนั้นยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าเธออยู่เลย"ถ้าพูดแล้วคุณยังไม่เชื่อ งั้นผมทำให้คุณเชื่อเลยแล้วกัน""ทำอะไรคะ"คนตัวโตเดินมาที่ประตู แล้วก็จัดการล็อกมันไว้ แถมไม่ได้ล็อกแค่ลูกบิด เขายังล็อกก
"กระดาษอะไรแปะอยู่ด้านหลัง" รรินธรที่ยืนอยู่ห่างหน่อยมองไปเห็นตอนที่สามียกแพทเทิร์นขึ้นมาดูหมั่บ รักนรินทร์รีบดึงมันออกมา แล้วก็ขยำไว้ในมือ "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่เจ้านายเขียนโน้ตแก้งานไว้ค่ะ"ภูมิฐานมองที่มือของเธอแบบยิ้มๆ "คุณพ่อกับคุณแม่ทานข้าวมาหรือยังครับ" แล้วเขาก็หันมาชวนพวกท่านคุย"ยังไม่ได้ทานเลย ก็นัดทานข้าวกับพ่อเรานั่นแหละ ไม่รู้ป่านนี้มาหรือยัง""อ้าวหรือครับ พอดีเลยผมกำลังหิว ขอไปร่วมทานด้วยคนนะครับ"ในขณะนั้นโทรศัพท์ของคริสก็ได้ดังขึ้น และคนที่โทรมาก็คือภูสิษฐ์รับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งคริสก็หันมาหาภูมิฐาน"ถ้าจะไปทานด้วยกันก็ป่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่เราอยู่ข้างล่างแล้ว" ว่าแล้วคริสก็เอื้อมไปจูงแขนภรรยาให้เดินตามมา ส่วนภูมิฐานก็รีบเดินนำหน้าไป เพื่อเปิดประตูห้องให้"แล้วเราไม่ไปเหรอลูก" รรินธรเห็นว่าลูกสาวไม่เดินตาม"ไม่หรอกค่ะ เดี๋ยวรักหาอะไรทานแถวโรงอาหารนี้ก็ได้"ภูมิฐานถึงกับหันกลับมามอง เพราะเขาเดินนำพวกท่านจะออกนอกห้องอยู่แล้ว..หน้าประตูลิฟต์.."ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีงานด่วน คงไปร่วมทานข้าวด้วยไม่ได้ เอาไว้โอกาสหน้านะครับคุณพ่อคุณแม่" เขาพูดในขณะที่ประตูลิฟต์กำลังเปิดอ
แกร็ก! แกร็ก!!"ทำไมประตูเปิดไม่ได้ล่ะคะคุณ หรือคีย์การ์ดใช้ไม่ได้แล้ว" คีย์การ์ดเคยเป็นของรรินธรสมัยที่พักอยู่ที่คอนโดนี้ ตอนนั้นเธอไม่ได้คืนให้กับคฑา แต่ก็ไม่ได้ทิ้งยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดี"ก็เปิดได้อยู่นะ..แต่เหมือนถูกปิด" คริสใช้คีย์การ์ดเปิดอีกครั้งลองดู"ใครคะ" เสียงคนที่อยู่ด้านในดังออกมา เมื่อได้ยินว่าคนข้างนอกจะเปิดลองดูอีกครั้ง"อ้าวหนูยังไม่นอนเหรอลูก เปิดประตูให้พ่อกับแม่หน่อย" ที่ไม่เคาะเรียกเพราะกลัวจะรบกวนลูกสาว"แป๊บหนึ่งนะคะพ่อ"ที่คริสเปิดประตูเข้ามาไม่ได้ ก็เพราะตอนนั้นภูมิฐานอุ้มรักนรินทร์ยืนอยู่ใกล้ประตู พอได้ยินเสียงแกร๊กเท่านั้นแหละเขาก็รีบใช้มือดันประตูปิดไว้เหมือนเดิม ด้านในมันก็เลยล็อกอีกที ..และตอนนี้ทั้งสองกำลังมัววุ่นใส่เสื้อผ้ากันอยู่แกร็ก~"อ้าวนี่หนูยังไม่อาบน้ำเลยเหรอลูก แม่นึกว่าหนูหลับไปแล้วเสียอีก""ยังค่ะมัวเคลียร์งานอยู่" โกหกแม่จะบาปไหมเรา"ถ้างั้นหนูก็ไปทำงานต่อเถอะลูก ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก""คุณพ่อจะทำอะไรคะ" รักนรินทร์เห็นพ่อกำลังจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน"หนูจะให้พ่อกับแม่นอนห้องไหนล่ะ" คริสถึงกับตกใจแล้วหันกลับมาถามลูกสาว"อีกห้องค่ะพ่อ"
[ร้านอาหารหรู]"ว่าไงเสือ""ใครเสือ เรียกให้ถูกหน่อยสิ" ดวงตาภูสิษฐ์ กรอกมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ถ้าจำกันได้สมัยก่อนภูสิษฐ์ก็ไม่ใช่เบาๆ และคนที่กล้าเรียกเขาว่าเสือก็คือ.. "นายก็ไม่เบาเหมือนกันแหละไอ้คุณคริส"ใช่แล้วคนที่คริสมาทานข้าวด้วยก็คือภูสิษฐ์ ทั้งสองรู้จักกันที่ต่างประเทศ หลายสิบปีผ่านมาแล้ว"อุ๊ย" เมื่อได้ยินเพื่อนเอาคืนคริสก็ได้มองมาที่ภรรยาบ้าง พอเห็นสายตาพิฆาตแล้วถึงกับเสียวสันหลังวูบ"แล้วเมื่อไรเด็กๆ จะมากันเนี่ย" สามีทั้งสองยกนาฬิกาขึ้นมาและพูดพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย"ไม่มีพิรุธเลยนะคะ""แหะๆ เมียจ๋าา อย่าไปเชื่อไอ้ภูมันเลย""นั่นไงมาแล้ว" เหมือนกรรมการตีระฆังเพื่อพักยก เมื่อเห็นภูมิฐานเดินเข้ามาพอมองเห็นแล้วว่าพ่อกับแม่นั่งอยู่โต๊ะไหนภูมิฐานก็เดินตรงเข้ามา สายตาคมมองดูชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน"สวัสดีครับ" เขายังไม่รู้หรอกว่าทั้งสองท่านเป็นใครแต่ด้วยมารยาทพอมาถึงก็ยกมือไหว้"หล่อกว่าพ่อเยอะเลยนะเนี่ย" คริสพูดพร้อมกับรับไหว้"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มมองไปที่พ่อ เพื่ออยากจะถามว่าเพื่อนของท่านทำไมเขาถึงไม่รู้จัก"เพื่อนพ่อเพิ่งเดินทางมาจากต่างปร
ภูมิฐานรีบตามออกมา คิดว่าที่เธอรีบออกไปคงเพราะเรื่องดินสอแท่งนั้นแน่แกร็ก! ประตูห้องประชุมถูกเปิดเข้าไปแบบถือวิสาสะ รักนรินทร์คิดว่าไอรยาคงยังอยู่ในห้องประชุมเพราะต้องได้คุยเรื่องแบบต่อทุกคนที่ยังอยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองมาที่ประตู"ฉันได้ยินท่านประธานบอกว่าคุณได้ดินสอด้ามนี้ที่ถังขยะ" รักนรินทร์เดินตรงเข้าไปแล้ววางดินสอลงตรงหน้าของไอรยา"ค่ะ" ไอรยาตอบรับเมื่อเห็นว่าภูมิฐานเดินตามเข้ามาด้วย"ถังไหนคะ""เออ..ถัง? ถังไหนแล้วทำไมคะ""มันวางอยู่บนโต๊ะทำงานของฉันแล้วมันจะไปอยู่ข้างถังขยะได้ยังไง ฉันก็เลยอยากรู้ว่าถังไหน""ถังหน้าห้อง" ถ้าจะบอกว่าถังขยะที่ไกลกว่านั้น กลัวจะไม่น่าเชื่อถือ"คุณเจอตอนไหน""นี่คุณ ฉันไม่มีเวลามานั่งจำเวลาหรอกนะ""ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเองแล้วกัน""??" ไอรยาลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยคนที่อยู่ในห้องประชุมได้แค่นั่งฟัง เพราะไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่องอะไรกัน"ออกไปก่อนครับ" ภูมิฐานเป็นคนสั่ง เพราะเห็นแล้วว่าศึกครั้งนี้คงไม่สงบง่าย"ไม่ต้องหรอกค่ะ อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ"คนที่กำลังเก็บของจะลุกขึ้นต่างก็นั่งลงที่เดิม เมื่อได้ยินรักนรินทร์สั่งอี
แกร็ก~ "??" พอรู้ว่าใครมาเคาะประตูเท่านั้นแหละ รักนรินทร์ก็รีบปิด..แต่ก็ไม่ทัน"คุณออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"แต่ดูเหมือนว่าภูมิฐานจะไม่สนใจที่เธอไล่ เขายังคงดันประตูแล้วก็แทรกตัวเข้ามา"คุณดื่มเหล้ามาเหรอ?""ขอค้างด้วยหน่อยสิ""คุณเห็นฉันเป็นอะไร""ผมยังไม่รู้ เราคบกันดูก่อนไหม" มันเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ ในระหว่างที่เขายังไม่รู้ใจตัวเองอยากจะอยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด"อะไรนะ?""ในระหว่างนี้เราก็คบกันไปก่อน""ฟังดูดีนะ คนเห็นแก่ตัว" ถ้าเขาขอเป็นแฟนเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่นี่แค่มาขอคบ แถมยังคบกันดูก่อนอีก"แล้วคุณต้องการแบบไหนก็บอกมาสิ""ต้องการให้คุณออกไปจากห้องนี้""คำก็ไล่สองคำก็ไล่ คุณจะให้ผมคิดยังไง""คิดว่าฉันไม่สนใจคุณไง ถ้าสนใจคุณแล้วฉันจะไล่เหรอ""ถ้างั้นแสดงว่าผมคิดกับคุณอยู่ฝ่ายเดียวหรอกหรือ"หญิงสาวทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอ เขาไม่คิดเหรอว่าเธอต้องเล่นตัวไว้บ้าง ถ้ารีบตกลงไป ก็จะดูเหมือนไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลย"อืม?!" ในขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นก็ถูกอีกฝ่ายจู่โจมโดยการจูบมือเรียวแนบลงที่แผ่นอกกว้าง นี่เธอโหยหาจูบจากเขาขนาดนี้เลยเหรอ เพราะแรงจะผลักออกก็ยังไม่มีเมื่