หลังจากที่ทั้งสามคนแบกตะกร้าที่อัดแน่นไปด้วยฟักทองและมันเทศกลับมาถึงบ้าน น้องชายทั้งสองล้มตัวลงนอนข้างตะกร้าด้วยความเหนื่อยล้า
ลี่ถิงรับเอาเถามันเทศไปแช่น้ำไว้ก่อนเพราะกลัวว่าถ้ามันเหี่ยวแล้วจะปลูกไม่ขึ้นแต่นางก็ไม่มั่นใจมากนักว่ามันจะปลูกได้หรือไม่
ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรปลูกได้ก็ดีปลูกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หลังจากนั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วทั้งสามคนจึงได้ขนเอามันเทศและฟักทองเข้าไปเก็บในครัว
“วันนี้ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเราจะเจอของกินในป่า ถ้ามีมันเทศพวกนี้อยู่เราก็จะมีอาหารกินเพิ่มไปอีกหลายวันเลย”
“ข้าว่าพรุ่งนี้พวกเราเข้าป่ากันอีกดีหรือไม่ ข้าคิดว่าในป่าลึกที่เราเข้าไปมันอาจจะมีอะไรดี ๆ อยู่ก็เป็นได้”
“พี่สะใภ้แต่มันจะอันตรายเกินไปหรือไม่ป่าลึกขนาดนั้นข้ากลัวว่าจะมีสัตว์ป่าออกมาน่ะสิ”
“ไม่เป็นไรหรอกวันนี้เราก็ไม่เจอสัตว์ป่าเลยไม่ใช่หรือ ข้าว่าพวกมันน่าจะอยู่เข้าไปลึกกว่าที่พวกเราจะเดินไปถึง พวกมันเองก็คงไม่ออกมาง่าย ๆ หรอกเพราะกลัวถูกนายพรานล่าน่ะ”
“อืม เช่นนั้นเอาตามที่พี่สะใภ้ว่าก็แล้วกัน ตกลงพรุ่งนี้เราจะเข้าป่ากันอีก แต่ข้าว่านะเราออกไปแต่เช้าหน่อยดีกว่าเพราะข้าไม่อยากไปสายน่ะ เดี๋ยวจะพลาดของดี ๆ ไปหมด”
“ได้ตกลงตามนี้ พวกเจ้าสองคนไปอาบน้ำก่อนถ้าจับปลามาได้ก็จับมาด้วยนะเดี๋ยวจะทำของอร่อยให้กิน”
"ได้เลยขอรับพี่สะใภ้วางใจพวกข้าได้เลย ไปกันเถอะพี่รอง"
“เรื่องกินนี่ไวเสียจริงนะน้องเล็ก”
“แน่ล่ะเมื่อก่อนเราไม่ได้กินอาหารที่อร่อยเลยนี่นะ พอพี่สะใภ้มาทำให้ความอยากอาหารของข้าเพิ่มขึ้นล่ะ”
คล้อยหลังน้องชายทั้งสองคนลี่ถิงลงมือทำอาหารเย็นสำหรับพวกเขาทั้งสามคนทันที ฟักทองที่ได้มาวันนี้นำมาทำเป็นโจ๊กฟักทอง
ในบ้านแทบจะไม่มีอะไรเลยอย่าพูดถึงเนื้อสัตว์ถ้าพวกเขาจับปลาได้ก็จะมีเนื้อปลากินถึงจะบอกว่าผัดผักก็เถอะแต่น้ำมันที่มีอยู่น้อยนิดนั้นทำให้ลี่ถิงหดหู่ใจจริง ๆ
หวังว่าเฉิงคุณจะได้หมูป่ากลับมาบ้างไม่เช่นนั้นคงขอให้เขาซื้อมันหมูที่ตลาดกลับมาแทนลี่ถิงต้องการทำน้ำมันหมูเอาไว้ใช้เองเพราะน้ำมันถือเป็นอีกอย่างที่มีราคาแพง
โจ๊กฟักทองสุกแล้วลี่ถิงผัดผักกาดขาวอีกอย่างระหว่างนั้นเด็ก ๆ ที่ไปอาบน้ำก็กลับมาพอดีตอนนี้เวลาล่วงเลยเข้ายามโหย่วแล้ว (17.00-18.59น.)
ทั้งสองคนไม่ได้ทำให้ลี่ถิงผิดหวังพวกเขาจับปลากลับมาได้จริง ๆ ถึงแม้ว่าจะมีเพียงตัวเดียวแต่ก็สามารถเพิ่มอาหารมื้อนี้ได้มากเลยทีเดียว
“พี่สะใภ้พวกข้ากลับมาแล้ว พวกข้าจับปลามาได้ 1 ตัว พี่สะใภ้จะให้ทำความสะอาดเลยหรือไม่”
“เดี๋ยวข้าจะทำเองพวกเจ้าเอาผ้าไปตากให้เรียบร้อยแล้วมารอกินข้าว ตากผ้าเสร็จแล้วไปเก็บต้นหอมที่แปลงผักมาให้ข้าด้วยก็แล้วกัน”
“ได้เลยขอรับพี่สะใภ้ พี่รองข้าจะไปเก็บต้นหอม พี่ช่วยตากผ้าให้ข้าหน่อยได้หรือไม่”
“ได้ ๆ เจ้าไปเถอะแล้วก็ล้างมาให้สะอาดเสียด้วยล่ะ”
“เข้าใจแล้ว”
เนื่องจากในห้องครัวมีเครื่องปรุงเพียงแค่เกลือเท่านั้นลี่ถิงนำปลามาขอดเกล็ดควักไส้และล้างจนสะอาดจากนั้นนำขิงมาหั่นฝอยแล้วนำไปขยำ ๆ กับต้นหอมที่ฮั่นคุณเอามาให้จนต้นหอมและขิงมีน้ำออกมา
จากนั้นนำน้ำที่ได้มาหมักปลาและใส่เกลือลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันและทิ้งไว้ครึ่งเค่อ จากนั้นนำขิงหั่นแว่น ต้นหอม วางใส่จานและนำปลาที่หมักเอาไว้วางทับลงไปแล้วนึ่งให้สุกใช้เวลา 1 เค่อ ก็จะได้ปลานึ่งเกลือเป็นอาหารเย็นอีกอย่าง
หลังจากอาหารทุกอย่างเสร็จแล้วลี่ถิงเรียกเด็กทั้งสองคนมากินข้าว และเป็นไปตามที่นางคิดเอาไว้ อาหารมื้อนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจฮั่นคุณเป็นอย่างมาก
“พี่สะใภ้ เจ้าฟักทองนี้ทั้งหวานทั้งมันพอมาผสมกับข้าวทำเป็นโจ๊กแล้วอร่อยมากเลยเสียดายที่พี่ใหญ่ไม่ได้กิน”
“เอาไว้พี่ใหญ่ของเจ้ากลับมาแล้วข้าจะทำให้กินอีกดีหรือไม่”
“ดีขอรับ แล้วเมล็ดมันสามารถนำมาปลูกที่สวนของเราได้ใช่หรือไม่ขอรับ”
“ใช่แล้วล่ะ เดี๋ยวตากให้แห้งก็ใช้ได้แล้วล่ะสามารถนำไปปลูกได้ต่อไปเราจะมีฟักทองเอาไว้กินและฟักทองสามารถเก็บเอาไว้ได้นานพอตอนเข้าสู่ฤดูหนาวพวกเราก็จะมีอาหารเพิ่มขึ้น”
“นี่มันดีมากเลยขอรับ พี่สะใภ้ไปอาบน้ำเลยเดี๋ยวข้ากับน้องเล็กจะล้างชามให้เองจะได้รีบพักผ่อน”
เวลาล่วงเลยเข้ายามซวี (19.00-20.59น.) ทั้งสามคนเข้านอนเป็นที่เรียบร้อยเพราะพรุ่งนี้พวกเขามีงานที่ต้องทำอีกมาก
เช้าวันรุ่งขึ้นลี่ถิงตื่นขึ้นมาในยามอิ๋น (03.00-04.59น.) นางจัดการล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นก็ทำโจ๊กมันเทศและยังเอามันเทศมาเผาหลายหัวด้วยกันมันเผานี้นางตั้งใจจะเอาไปกินเป็นอาหารเที่ยงในป่า
อาหารเช้าวันนี้จึงมีเพียงโจ๊กมันเทศและไข่กวนที่เก็บจากเล้าไก่หลังบ้าน จากนั้นนางออกไปรดน้ำที่แปลงผัก จนถึงยามเหม่า (05.00-06.59น.) งานทุกอย่างก็เสร็จสรรพ
เมื่อเด็กทั้งสองคนตื่นขึ้นมาพี่สะใภ้ของพวกเขาก็ทำงานเสร็จหมดแล้วสวี่คุณรู้สึกละอายใจมากที่ตัวเองปล่อยให้พี่สะใภ้ทำงานหนักอยู่คนเดียวไม่รู้ว่าพี่ใหญ่รู้เข้าจะตำหนิเขาหรือเปล่า ลี่ถิงที่เหมือนจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่จึงได้ปลอบใจเขา
“ไปล้างหน้าบ้วนปากเถอะจะได้รีบกินข้าวเดี๋ยวเข้าป่าสายจะร้อนเอา อย่าคิดมากพวกเจ้ายังเด็กนอนให้มากนั้นเป็นเรื่องที่ดี งานแค่นี้ไม่ได้หนักหนาอะไรข้าทำไม่นานก็เสร็จแล้ว”
“ขอบคุณขอรับพี่สะใภ้”
หลังจากจบมื้ออาหารเช้าลี่ถิงเตรียมตัวเข้าป่าอีกวันในตะกร้าของพวกเขามีเสียมอันเล็ก ๆ และมีดเล็กส่วนลี่ถิงเอามีดที่ใช้ถางหญ้าไปด้วย
ในตะกร้าของนางยังมีน้ำดื่มและมันเผาวันนี้นางตั้งใจจะเดินเข้าไปลึกหน่อยเผื่อว่าจะเจออะไรที่สามารถนำมาเป็นอาหารได้เมื่อตอนเช้านางเอาเถามันเทศไปปลูกไว้ข้างแปลงผักไม่รู้มันจะตายหรือไม่
หลังจากนี้ค่อยว่ากันอีกทีทั้งสามคนมุ่งหน้าเข้าป่าไปในปลายยามเหม่า (05.00-06.59น.) ทั้งสามคนเดินไม่ได้รีบร้อนอะไรทั้งสามคนเดินเข้าป่าโดยเลี่ยงอีกทางที่ชาวบ้านเข้าไปหาของป่ากันเป็นประจำ
ลี่ถิงตอนที่นางฝันนั้นนางได้จดจำทางเข้าป่าเอาไว้แล้ว เดินมาได้ไม่นาน ก็เจอเข้ากับผูเถาที่กำลังสุกสีม่วงอมแดงไม่รอช้าลี่ถิงรีบเด็ดใส่ปากทันที
ผูเถานี่อร่อยมากเก็บกลับไปให้หมดแล้วแบ่งหมักเป็นเหล้าผูเถา(องุ่น)เอาไว้ดื่มน่าจะดี นอกจากจะเจอผูเถาแล้วยังเจอผิงกั่วที่ทั้งลูกใหญ่และรสชาติหวานมาก
ตะกร้าที่เอามาด้วยเต็มไปด้วยผูเถาและผิงกั่วนอกจากนี้นางไม่ลืมที่จะขุดต้นเล็ก ๆ กลับไปปลูกด้วยเช่นกันที่ดินหลังบ้าน 7 หมู่นั้นนับว่าสามารถทำสวนผักผลไม้ได้
ถือว่าไม่แย่มันจะดีกว่านี้ถ้านางเจอพวก มะนาว มะกรูด ตะไคร้ เครื่องปรุงในชาติก่อนของนางจะว่าไปพริกมีหรือเปล่ามันต้องมีต้องหาให้เจอนี่คือความตั้งใจของลี่ถิง ยังไม่ทันถึงยามซื่อ (9.00-10.59น.)
ตะกร้าของพวกเขาก็เต็มหมดเสียแล้ว ทั้งสามคนจึงตกลงใจจะเอากลับไปเก็บที่บ้านก่อนแล้วค่อยกลับเข้าป่ามาใหม่ เมื่อตกลงกันได้ทั้งสามคนรีบออกจากป่าประหนึ่งโดนหมาป่าไล่กวดมาก็มิปาน
หลังจากเอาตะกร้าที่เต็มไปด้วยผลไม้ป่าไปเก็บที่บ้านแล้วทั้งสามก็กลับเข้าป่ามาอีกรอบกลับเข้ามาถึงป่าด้านในก็เป็นเวลายามอู่เสียแล้ว (11.00-12.59น.)
ลี่ถิงจึงได้หาที่พักและเอามันเผาแบ่งให้น้องชายทั้งสองกินคนละสองหัว ทั้งสองคนดูจะชอบมันเผามากมันเทศที่เติบโตในป่ามีรสชาติดีกว่าที่ชาวบ้านปลูก
อีกทั้งยังหัวใหญ่กว่ามากเพราะป่ามีความอุดมสมบูรณ์ต่างจากชาวบ้านในยุคนี้ไม่รู้จักใช้ปุ๋ยบำรุงดิน
“ข้าไม่เคยรู้เลยว่ามันเทศนำมาเผาจะอร่อยและหอมมากขนาดนี้” ฮั่นคุณผู้หลงใหลในการกิน
“นั่นสิปกติพวกเราเอามาต้มและผสมลงในโจ๊กเท่านั้น”
“พี่สะใภ้เก่งมากอีกไม่นานข้าต้องอ้วนเป็นหมูแน่ ๆ”
หลังจากที่ฮั่นคุณพูดจบทั้งสามก็หัวเราะออกมา ถึงแม้ว่าวันนี้จะยังลำบากแต่นางไม่เชื่อหรอกว่าคนที่มาจากยุค 2021 อย่างนางจะหาของกินและหาวิธีทำให้ครอบครัวสุขสบายไม่ได้
ยังมีอะไรอีกเยอะที่คนสมัยนี้ไม่รู้จักแต่นางรู้จักนี่คือข้อได้เปรียบหลังจากอิ่มกันแล้วทั้งสามก็ออกเดินต่อ
เดินมาได้ไม่นานฮั่นคุณก็เจอเข้ากับรังไก่ฟ้ามีไข่อยู่ 5-6 ฟองเขาเก็บเอามาทั้งหมด จากนั้นจึงได้พากันเดินต่อเดินมาได้สัก 2 เค่อ ลี่ถิงเจอเข้ากับข้าวโพด
ใช่มันคือข้าวโพดหวานมีทั้งฝักที่แก่แล้วและฝักที่ยังอ่อนอยู่สามารถนำไปต้มกินสด ๆ หรือทำเป็นโจ๊กข้าวโพดได้เช่นกัน
“อืมดูเหมือนเราจะเจอของอร่อยอีกแล้วล่ะฮั่นคุณ”
“อะไรหรือขอรับพี่สะใภ้ เจ้านี่หรือขอรับมันเรียกว่าอะไรหรือ”
“เจ้านี่เรียกว่า ยวี่หมี่ ฝักอ่อนสามารถนำไปต้มกินได้เลยหรือทำเป็นโจ๊กก็ได้อร่อยเหมือนกัน”
“อู้ววว ของอร่อยอีกแล้วงั้นก็เก็บเลยขอรับ พี่รองท่านไปเก็บฝักที่แก่แล้วนะข้าจะเก็บฝักที่ยังอ่อนอยู่พี่สะใภ้เราจะปลูกยวี่หมี่ในที่ดินของเราด้วยไหมขอรับ”
“ปลูกแน่นอนอยู่แล้วล่ะจะนอกจากนี้มันยังสามารถนำไปทำเป็นแป้งเอาไว้ทำซาลาเปาหรือหมั่นโถวได้ด้วยนะ”
“ขอรับ ดีจังเลยที่พี่สะใภ้ได้เรียนรู้มาจากท่านพ่อของท่านเยอะแยะเลย ขอบคุณพี่สะใภ้มากนะขอรับ ที่ยอมอยู่กับพวกเรา”
“ทำไมเจ้าพูดแบบนั้นล่ะข้าเป็นภรรยาของพี่ชายเจ้า ภรรยาก็ต้องอยู่กับสามีสิ รีบ ๆ เก็บเข้าจะได้รีบกลับ”
“ขอรับ"
ฮั่นคุณเก็บข้าวโพดใส่ตะกร้าจนเต็มถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่เขายังยิ้มได้เพราะมีอาหารเพิ่ม พี่สะใภ้บอกว่ามันอร่อยมันก็ต้องอร่อยแน่อยู่แล้ว
ตั้งแต่ที่นางอยู่กับพวกเขามาสิ่งไหนที่นางบอกอร่อยก็อร่อยจริง ๆ สิ่งไหนนางบอกว่ามีพิษก็ต้องมีพิษเพราะนางมีความรู้มากมาย
ทั้งสามคนกลับออกจากป่าถึงบ้านก็ยามโหย่วพอดี (17.00-18.59น.) ลี่ถิงตรงเข้าครัวและเช่นเดิมทั้งสองคนไปอาบน้ำและจับปลาเพื่อมาให้พี่สะใภ้ทำอาหารแต่น่าเสียดายที่วันนี้พวกเขาจับไม่ได้เลยสักตัว
ทำให้ตอนเย็นมีเพียงโจ๊กยวี่หมี่และผักต้ม ยวี่หมี่ต้มเท่านั้น แต่เพียงแค่นี้ฮั่นคุณก็กินจนพุงกาง สวี่คุณเองก็ไม่น้อยหน้าน้องชาย หลังจากนั้นพวกเขาจึงได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน
เช้าวันใหม่ลี่ถิงตื่นขึ้นมายามอิ๋นเช่นเคยและทำกิจวัตรประจำวันเสร็จก็เข้าครัวทำอาหารวันนี้ไม่มีเนื้อสัตว์เลยลี่ถิงเห็นว่ายังพอมีเวลาเหลือกว่าจะถึงเวลาอาหารเช้าหลังจากที่ทำโจ๊กฟักทอง(หนานกวา)ผสมกับยวี่หมี่เอาไว้แล้วนางจึงคิดว่าจะไปที่ลำธารดูเผื่อมีอะไรที่สามารถเอากลับมาทำเป็นอาหารได้พอดีกับที่เด็กน้อยทั้งสองคนตื่นขึ้นมาพอดี หลังจากที่ทั้งสองคนล้างหน้าแล้วก็อาสาพาลี่ถิงไปที่ลำธาร “พี่สะใภ้ท่านจะไปที่ลำธารทำไมหรือขอรับ”“อ่อ ข้าอยากไปดูเสียหน่อยว่าจะสามารถหาอะไรมาทำอาหารเพิ่มได้หรือไม่น่ะ”“ข้ากินแค่โจ๊กก็ได้ขอรับโจ๊กหนานกวาผสมกับยวี่หมี่ก็อร่อยแล้ว (ฟักทอง+ข้าวโพด)”“น้องเล็กพี่สะใภ้อยากไปพวกเราก็พานางไปเถอะ พี่สะใภ้จะให้เอาตะกร้าไม้ไผ่ไปด้วยหรือไม่ขอรับ”“อืมเอาไปด้วยก็ดีนะ เผื่อจะได้ใช้ไปกันเถอะเดี๋ยวจะสายเอาได้วันนี้เรายังมีงานให้ทำอีกมาก”“ขอรับ ตามมาทางนี้เลยขอรับ”ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปยังลำธารอากาศยามเช้าถือว่าสดชื่นไม่น้อย อากาศดีหายใจได้เต็มปอดไร้ซึ่งมลพิษดีต่อสุขภาพจริง ๆเดินมาประมาณ 1 เค่อ (15นาที) ก็มาถึงลำธารที่อยู่ส่วนท้ายสวนหลังบ้าน ริมลำธารมีหอมป่า กระเทียมป่าเกิดอยู่เต็
เช้าวันนี้เป็นอีกวันที่ลี่ถิงตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยามอิ๋นซึ่งเป็นเวลาที่นางตื่นเป็นปกติ แต่สามีอย่างเฉิงคุณกลับบอกให้นางนอนต่อไม่ต้องตื่นแต่เช้าขนาดนั้น แต่ลี่ถิงหรือจะยอมนางกลับบอกให้สามีนอนต่อส่วนนางจะไปรดน้ำผักและทำมื้อเช้าเตรียมเอาไว้หลังจากที่สามีกลับมาจากการนำสัตว์ป่าไปขาย นางและสามีรวมถึงน้องชายจะเข้าป่าเพื่อหาของป่าด้วยกัน“ถิงเอ๋อร์เจ้านอนต่ออีกหน่อยเถอะไม่ต้องรีบตื่นมากนักหรอก”“ข้าชินเสียแล้วล่ะเจ้าค่ะท่านพี่ ท่านเองก็นอนพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้ารดน้ำผักแล้วจะทำมื้อเช้าให้ท่านจะได้รีบเข้าเมืองไปขายของและรีบกลับ”“อืม เสื้อผ้าของเจ้าที่ติดตัวมามีแค่สามชุดเท่านั้นเอาไว้พอขายได้เงินข้าจะซื้อให้เจ้าเพิ่มนะ”“ยังไม่ต้องซื้อหรอกเจ้าค่ะท่านพี่ เสื้อผ้ายังพอใส่ได้ ที่สำคัญคือข้าวและแป้งต่าง ๆ ข้าอยากให้เรามีอาหารมากกว่านี้ก่อนเจ้าค่ะ น้องสองคนกำลังโตข้าอยากให้น้อง ๆ ได้เรียนหนังสือด้วย ท่านพี่นอนต่อเถอะเจ้าค่ะ”“เจ้าเองก็อย่าทำอะไรที่เหนื่อยเกินไปเข้าใจหรือไม่ มันทำให้ข้ารู้สึกผิดที่ไม่สามารถเลี้ยงดูให้เจ้าสบายได้มากกว่านี้”“ท่านพี่อย่ากังวลไปเลยข้าไม่ได้ลำบากอันใด”คล้อยหลังภรรยาออกไปแ
ไป๋ลี่ถิงเอ๋ยไป๋ลี่ถิงความโชคดีนี้เจ้าได้แต่ใดมาสิ่งที่นางหวังเอาไว้ว่าจะพบเจอกลับไม่เจอแต่สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเจอนั้นกลับเจอเอาเสียง่าย ๆ ปานนี้แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางดีใจได้ยังไง ใครจะไปอดใจไหว เฉิงคุณที่เห็นนางทำหน้าดีใจขนาดนั้นก็อดถามออกมาไม่ได้ “ถิงเอ๋อร์เจ้าเจออะไรหรือสิ่งนั้นใช่สิ่งที่เจ้าพูดเอาไว้ก่อนเข้าป่าหรือไม่”“ไม่ใช่เจ้าค่ะท่านพี่ แต่สิ่งนี้จะทำให้เราอบอุ่นในฤดูหนาว ท่านพี่เห็นต้นไม้ต้นนั้นหรือไม่ที่มีฝักสีเขียวและสีน้ำตาลอยู่เต็มต้น นั่นเรียกว่าต้นงิ้วและฝักของมันหากเราแกะออกมามันจะมีปุยขาว ๆ ข้างในเรียกว่านุ่น แล้วเจ้านุ่นนี้สามารถทำฟูกนอนหมอนและผ้าห่มได้ อุ่นมากเลยล่ะ ส่วนต้นนั้นที่เกิดอยู่ทางด้านนั้นที่มีดอกสีขาวนั้นเรียกว่าฝ้ายสามารถนำมาบุข้างในเสื้อทำเป็นเสื้อกันหนาวได้เจ้าค่ะ”“จริงหรือ เจ้าพูดจริง ๆ ใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนี้พวกเราก็ไม่ต้องทนหนาวอีกต่อไป”“จริงเจ้าค่ะ ข้าเคยโกหกท่านพี่หรือเจ้าคะ เอาล่ะน้องรองน้องเล็กพวกเจ้าเก็บดอกฝ้ายมาเถอะพี่สะใภ้จะสอนเก็บ ส่วนท่านพี่ท่านปีนขึ้นไปแล้วทำให้ฝักสีน้ำตาลร่วงลงมาข้าจะคอยเก็บอยู่ข้างล่าง”“ได้ ๆ ตกลง เจ้าพาน้องรอง
หลังจากจัดการฝ้ายและงานที่ต้องทำในตอนเช้าจนเสร็จแล้วทั้งสี่คนรีบลงมือกินอาหารเช้าทันทีและหลังจากนั้นพวกเขาเตรียมตัวเข้าป่าด้วยกันอีกครั้งและครั้งนี้เฉิงคุณจะวางกับดักสัตว์เอาไว้ด้วยหากว่าโชคดีอาจจะได้สัตว์ป่าไปขายในเมืองเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวด้วยสองสามวันมานี้เงินที่เขาหามาได้ก็ใช้จ่ายไปเกือบจะหมดแล้ว ถึงแม้ว่าในแต่ละวันจะมีอาหารการกินเพิ่มขึ้นมาแต่เงินก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดสิ่งหนึ่งในบ้านตอนนี้“เตรียมของเสร็จแล้วใช่หรือไม่ น้องรองน้องเล็ก แล้วพี่สะใภ้เจ้าล่ะนางอยู่ไหน”“เตรียมเสร็จแล้วขอรับ พี่สะใภ้กำลังห่ออาหารสำหรับเอาไปกินในป่าขอรับ” ฮั่นคุณ“อืม เตรียมน้ำดื่มเอาไปให้พอด้วยนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าพวกเราจะเดินเข้าป่าไปลึกมากแค่ไหน หากไม่เจอแหล่งน้ำแล้วจะแย่เอา”“ขอรับพี่ใหญ่ ข้าจัดการเรียบร้อยแล้วมีพอสำหรับทุกคนแน่นอนขอรับ”“รอนานหรือไม่เจ้าคะท่านพี่ ไปกันเถอะเจ้าค่ะเดี๋ยวสายมากกว่านี้จะร้อนเอาและข้าไม่อยากกลับมาช้าด้วย อย่าลืมว่าพวกเราตากฝ้ายเอาไว้หลังบ้าน ข้ากลัวคนอื่นจะมาพบเจอเข้า”“วางใจเถอะเราตากในที่ลับตาคนอีกอย่างบ้านเราอยู่ท้ายหมู่บ้านไม่มีใครมาหรอก หากเจ้
เช้าวันใหม่ลี่ถิงตื่นขึ้นในยามอิ๋นของทุกวัน สามีและน้องชายของนางเองก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน เนื่องจากวันนี้พวกเขาทั้งสี่คนตกลงใจกันว่าจะเข้าเมืองไปด้วยกันทั้งหมดเช่นนั้นงานที่ต้องทำในแต่ละวันจึงต้องช่วยกันทำ ปลายยามเหม่างานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย วันนี้มื้อเช้าลี่ถิงทำโจ๊กขาวกับข้าว มีผักป่าผัดกับกระเทียม หมูทอดส่วนซาลาเปาไส้หมูที่นางทำนั้นไม่ได้นำมาให้ทุกคนในบ้านกินเพราะลี่ถิงตั้งใจจะห่อและนำไปกินระหว่างเดินทางเข้าเมือง นอกจากนี้นางยังนำน้ำดื่มติดตัวไปด้วยและมีเพียงพอสำหรับทุกคนหลังจากที่กินมื้อเช้ากันเสร็จแล้ว เฉิงคุณเอาสัตว์ป่าที่ล่ามาได้ใส่ลงในตะกร้าไม้ไผ่ส่วนโสมนั้นเขาใช้ผ้าห่อทับอีกทีจากนั้นจึงใส่เอาไว้ในตะกร้าของลี่ถิงและเฉิงคุณยังเอาสมุนไพรที่เก็บมาวางทับเอาไว้ด้านบนเพื่อปกปิดสายตาของชาวบ้าน ส่วนตะกร้าของฮั่นคุณเป็นซาลาเปา ตะกร้าของสวี่คุณคือน้ำดื่มหลังจากเตรียมของเสร็จแล้วพวกเขาทั้งสี่ก็ออกเดินทางเพื่อไปรอเกวียนรับจ้างของลุงหลี่ที่หน้าหมู่บ้าน ระหว่างทางที่ทั้งสี่เดินผ่านไปนั้นชาวบ้านมองมาด้วยสายตาสนอกสนใจ โดยเฉพาะลี่ถิงที่ตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ ฮั่นคุณ
หลังจากนำเงิน 20 เหรียญทองไปฝากที่โรงรับฝากเงินเรียบร้อยแล้ว ลี่ถิงเอาเงิน 5 เหรียญทองให้เฉิงคุณเป็นคนเก็บเอาไว้และเงิน 500 เหรียญเงินนั้นนางจะนำไปซื้อเกวียนเทียมลา และของจำเป็นเข้าบ้านและซื้อเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มใหม่ทั้งหมดและนางยังให้สามีไปสอบถามช่างถึงเรื่องที่จะสร้างบ้านใหม่และทำกำแพงล้อมรอบที่ดินทั้งหมดของพวกเขาด้วย“ท่านพี่ ท่านไปสอบถามถึงราคาสร้างบ้านที่ร้านช่างไม้ได้หรือไม่เจ้าคะ ข้าอยากทราบหากเราต้องการสร้างบ้านหลังใหม่จะต้องใช้เงินเท่าไหร่”“อืม เอาไว้ซื้อของเสร็จแล้ว พวกเราค่อยไปด้วยกันดีหรือไม่ จะไปซื้ออะไรก่อนหรือ”“อืม ข้าต้องการไปที่ร้านขายข้าวกับธัญพืช จากนั้นก็ร้านขายเครื่องเทศ ร้านขายผ้า และไปซื้อเกวียนเทียมลาเจ้าค่ะ”“จริงหรือขอรับพี่สะใภ้ บ้านเราจะมีเกวียนเทียมลาแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่ขอรับ” สวี่คุณถามออกมา แถมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีก จนลี่ถิงไม่รู้ว่าเขาดีใจหรือเสียใจกันแน่“จริงสิ พี่สะใภ้เคยหลอกเจ้าหรือน้องรอง”“ไม่เคยขอรับ ข้าดีใจมากเลย ที่บ้านของเราจะมีเกวียนใช้แล้ว เวลาพี่ใหญ่เข้าเมืองจะได้ไม่ต้องเดินอีกเวลาที่เกวียนลุงหลี่ที่นั่งเต็ม”“น้องเล็กล่ะเจ้าอยากได
หลังจากที่นายช่างเข้ามาดูที่ดินของพวกเขาแล้วและรับปากว่าอีก 5 วันจะเข้ามาทำการก่อสร้างกำแพงให้ก่อน ตอนนี้เขาต้องไปจัดการเตรียมอิฐให้เพียงพอเสียก่อนจากนั้นจึงจะทยอยขนอิฐและคนงานเข้ามาทำการก่อสร้าง ซึ่งลี่ถิงบอกกับนายช่างใหญ่ว่าจะมีอาหารกลางวันให้หนึ่งมื้อ ขอนายช่างอย่าได้เกรงใจเพียงแค่สร้างกำแพงบ้านของนางให้งดงามก็พอ พอนายช่างได้ยินนางพูดแบบนั้นก็ได้แต่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจแม่นางคนนี้ช่างตลกเสียจริงกำแพงอิฐมันจะงดงามได้ขนาดไหนกันอย่างมากก็งดงามกว่ากำแพงดินล่ะนะ“ท่านพี่ ปลาขายได้ราคาหรือไม่เจ้าคะ”“ได้นะหากเป็นปลาสด ๆ และตัวขนาดใหญ่หากเป็นปลาที่ยังไม่ตายจะได้ราคาดีไม่น้อย”“เช่นนั้นหรือเจ้าคะ ถ้าอย่างนั้นท่านพี่ช่วยไปตัดไม้ไผ่มาให้ข้าได้หรือไม่ เอามามากหน่อยนะเจ้าคะ”“ได้ ๆ เดี๋ยววันนี้พี่จะเข้าป่าไปตัดมาให้ หรือเจ้าจะไปด้วยกันก็ย่อมได้ ให้น้องรองกับน้องเล็กอยู่เฝ้าบ้าน”“ได้เจ้าค่ะ ข้าขอไปเตรียมอาหารก่อนนะเจ้าคะ”“ไปเถอะ งานในสวนพี่จะทำให้เองต่อไปเจ้าไม่ต้องไปหาบน้ำมารดผักแล้วพี่จะหาถังใบใหญ่เอามาวางไว้แล้วค่อยไปตักน้ำมาเติมเจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก”“เจ้าค่ะท่านพี่ ขอบพระคุณมากเจ
เช้าวันรุ่งขึ้นลี่ถิงที่ตื่นตั้งแต่ยามอิ๋นจนเป็นนิสัย เฉิงคุณเองก็ตื่นขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนน้องชายทั้งสองนั้นลี่ถิงให้พวกเขาตื่นยามเหม่าเพราะเด็กต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ในบ้านเองก็ไม่ได้มีงานอะไรมากมายนักแปลงผักที่ปลูกเอาไว้แค่ไม่กี่แปลง เฉิงคุณจัดการรดน้ำผักเรียบร้อยแล้วก็ออกไปเก็บกับดักปลาที่วางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานลี่ถิงให้อาหารไก่และเก็บไข่มาบางส่วน วันนี้ตอนเช้านางจะทำซาลาเปาไส้หน่อไม้ ลี่ถิงเอาหน่อไม้ที่นางต้มจนไม่มีรสขมแล้ว มาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ๆจากนั้นก็นำต้นหอมที่เพิ่งเก็บมาจากแปลงผักหลังบ้านนำมาซอยละเอียด นำไปผัดกับหมูสับปรุงรสด้วยเหลือน้ำตาลและซีอิ๊วนิดหน่อยหลังจากที่ผัดไส้ของซาลาเปาแล้วลี่ถิงลงมือทำซาลาเปาทันที เฉิงคุณที่ไปเก็บกับดักปลาในลำธารกับดักปลาอันแรกที่เขายกขึ้นมาจากน้ำนั้นหนักอึ้งเมื่อมองดูก็พบว่ามีปลาตัวเล็กตัวใหญ่และกุ้งอยู่ในกับดักเต็มไปหมด เฉิงคุณตกตะลึงกับภาพตรงหน้าเขา หลังจากที่ยืนอึ้งมองกับดักอยู่เป็นนานสองนานเขาก็รีบวางกับดักในมือลงและรีบไปยกอีกอันขึ้นมาทันทีและก็เป็นเช่นเดิมข้างในกับดักเต็มไปด้วยปลาและกุ้ง เฉิงคุณรีบนำกับดักปลาทั้ง
หลังจากที่เฉิงคุณได้ซื้อพื้นที่ภูเขาและป่าเอาไว้เป็นจำนวนมากต่อมาไม่นานฮั่นคุณได้แต่งภรรยาเข้ามาในบ้าน เป็นบุตรสาวคนเล็กของท่านเจ้าเมือง ตอนที่เขามาบอกว่าจะตบแต่งภรรยาให้พี่สะใภ้อย่างลี่ถิงส่งแม่สื่อไปสู่ขอ ลี่ถิงตกใจมากแต่ไม่ได้ถามไถ่ให้มากความเพราะเชื่อว่าน้องชายของสามีคงดูคนไม่ผิดซึ่งก็ไม่ต่างกับที่ลี่ถิงคิดเอาไว้ เยว่ซินบุตรสาวของเจ้าเมืองคนนี้หน้าตางดงามอีกทั้งงานบ้านงานเรือนนางจัดการได้เรียบร้อยดีมาก หลังจากที่ฮั่นคุณแต่งภรรยาได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็ตั้งครรภ์อีกไม่นานเขาเองก็จะได้เป็นท่านพ่อแล้ว ส่วนสวี่คุณนั้นไม่มีทีท่าว่าจะแต่งงานเลยไม่อยากแต่งงานไม่ว่าแต่เขากลับทำหน้านิ่งทุกครั้งที่มีสตรีชายตามอง ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากแต่งภรรยาแต่เขายังไม่เจอสตรีที่เขาอยากจะอยู่ด้วยตอนนี้คงต้องเลี้ยงหลานไปก่อน ในที่สุดหมู่บ้านตระกูลหยางได้ก่อตั้งขึ้น เฉิงคุณเป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน หมู่บ้านตระกูลหยางมีบริเวณกว้างใหญ่และเจริญรุ่งเรืองมาก คนงานในไร่ที่ตอนนี้กลายมาเป็นคนในหมู่บ้านตระกูลหยางแล้ว เหวินข่ายเองก็ช่วยงานเฉิงคุณอย่างไม่ขาดตกบกพร่องที่หุบเขาหนานซานไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงในด้านการแพทย์แต
หลังจากที่ลี่ถิงปวดท้องได้ไม่นานยายเฒ่าหมอตำแยและหนี่ฮวาพร้อมทั้งสาวใช้ในเรือนคอยช่วยอยู่ไม่ห่าง อยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาทั้งฟ้าร้องฟ้าผ่าทั้ง ๆ ที่ไม่มีวี่แววว่าฝนจะตกลงมาเหตุการณ์นี้ทำให้เฉิงคุณเป็นกังวลใจเป็นอย่างมากแต่ลูกชายทั้งสามนั้นบอกว่าไม่มีอะไร ขอท่านพ่ออย่าได้กังวล ในเวลาไม่นานเสียงทารกร้องไห้จ้าดังออกมาจากข้างในห้องพลันพายุฝนที่โหมกระหน่ำอยู่เมื่อสักครู่ก็หยุดลงเหมือนกับว่าไม่เคยมีพายุฝนเกิดขึ้นมาก่อน เรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านและคนบ้านตระกูลหยางไม่ได้ ยังไม่ทันหายตกใจ อยู่ ๆ ฟ้าก็ผ่าลงมาอีกครั้งนี้ไม่มีลมหรือพายุฝนแต่กลับมีสายฟ้าผ่าลงมานับไม่ถ้วนท่ามกลางสายฟ้าที่กระหน่ำลงมาเสียงเด็กทารกร้องไห้จ้าขึ้นมาอีกครั้งและครั้งนี้ก็เหมือนเดิมสายฟ้าที่กระหน่ำฟาดลงมาปานทัณฑ์สวรรค์ก็มิปาน พอเด็กทารกคลอดออกมาและส่งเสียงร้องไห้จ้าเหตุการณ์น่าสะพรึงเมื่อสักครู่ก็หายไปทันทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่เว้นแม้กระทั่งบรรดาเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ยังไม่ทันที่คนบ้านหยางจะได้ตั้งตัวครั้งนี้กลับมีนกจำนวนมากบินอยู่เหนือพื้นที่บ้านตระกูลหยางราวกับว่าพวกมันกำลังดีใจและแ
หลังจากที่ทั้งสองคนได้ตกลงนัดแนะเวลาเดินทางกลับบ้านในครั้งนี้แล้ว เป็นเวลากว่า 4 ปีที่พวกเขาจากบ้านมา ครั้งนี้ซูไคไม่ได้ตามกลับไปด้วยเพราะต้องดูแลในส่วนของกองกำลังลับการเดินทางครั้งนี้จึงมีเพียงต้าหลง เสี่ยวหลง และผู้ติดตามเท่านั้นส่วนองครักษ์เงานั้นต้าหลงได้สั่งให้ไปดูแลที่บ้านตระกูลหยางก่อนหน้านั้นแล้วจำนวน 50 นาย ตอนนี้หวังเต๋อคือมือขวาของต้าหลง เสิ่นหยางคือมือขวาของเสี่ยวหลงเสี่ยวอั่งเป่าและเสี่ยวกู่จื่อม้าทั้งสองตัวตอนนี้มันเติบโตขึ้นมาอย่างสง่างามสมเป็นม้าฝีเท้าดี ที่รู้ใจเจ้านายของมันมาก ตอนนี้พวกมันเองก็ดีใจเป็นอย่างมากที่จะได้กลับบ้านไปเจอพ่อแม่พี่น้องและฝูงของมัน“ท่านประมุขขอรับ เรื่องของฝากให้นายหญิงใหญ่ข้าเตรียมเอาไว้หมดแล้วขอรับ”“ดีมาก เจ้าส่งคนไปแจ้งที่หุบเขาหนานซานหรือยัง พี่ชายข้าว่ายังไงบ้าง”“ท่านประมุขชิงหลง บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีขอรับ เจอกันที่จุดนัดพบได้เลย”“อืม เจ้าไปเรียกประชุมผู้อาวุโสข้าจะไปแจ้งอาจารย์ปู่"“ขอรับ ท่านประมุข”หลังจากจัดการทุกอย่างที่หุบเขาเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนออกเดินทางกลับบ้านทันที เสี่ยวหลงพาคนติดตามมารอพี่ชายที่จุดนัดพบเมื่อต้าหลงมา
หลังจากผ่านพ้นงานแต่งงานอันแสนวุ่นวายของต้าเซิ้นไปได้เพียง 3 เดือน ก็มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อบรรดาภรรยาเหล่าต้าพร้อมใจกันคลอดลูกในวันเดียวกันยกเว้นแต่ภรรยาของต้าหวังที่คลอดไปก่อนหน้านั้นแล้วเฉิงคุณและคนงานในไร่ต่างวุ่นวายกันมากการที่แม่วัวทั้งสามตัวต่างคลอดลูกในวันและเวลาเดียวกันทำเอาเสี่ยวตั้นและสวี่คุณวิ่งวุ่นไม่แพ้ผู้เป็นพี่ชายและนายท่านส่วนพ่อวัวทั้งหลายก็พากันตื่นเต้นและยังคุยกันว่าใครจะได้ลูกชายหรือใครจะได้ลูกสาว ต้าหลางได้แต่มองบนใส่บรรดาเหล่าต้าเกอของมันจะตื่นเต้นอะไรนักหนากะอีแค่คลอดลูกได้ทีละตัวเนี่ย ต้าหลางนั้นใคร ๆ ก็มองว่ามันยังโสดไม่มีภรรยาแต่หารู้ไม่ว่าต้าหลางนั้นเก็บความลับของมันได้ดีมากไม่มีใครระแคะระคายเรื่องนี้เลยต้าหลางความจริงแล้วไม่ได้โสดสนิทขึ้นคานเหมือนที่ต้าเซิ้นปรามาสเอาไว้ ต้าหลางมีภรรยาแล้วอีกทั้งนางยังเป็นจ่าฝูงของหมาป่าขนเงินที่อยู่กลางป่าลึกและที่สำคัญนางยังให้กำเนิดลูกชายให้ต้าหลาง 11 ตัวตอนนี้ลูก ๆ ของมันมีอายุได้ 3 เดือนแล้ว ไม่แปลกที่มันจะมองบนใส่เหล่าต้าเกอของมัน หลังจากวุ่นวายมา 2 ชั่วยาม ภรรยาต้าฟง คลอดวัวตัวผู้ออกมา เช่นเดียว
เหวินข่ายให้หนี่ฮวาไปตามนายหญิงส่วนตัวเขารีบควบม้าเข้าเมืองเพื่อไปตามนายน้อยทันที ครั้งนี้ต้าเซิ้นทำเกินไปจริง ๆ ใครจะไปคิดว่าเจ้าลิงนี่ที่วัน ๆ เอาแต่อยู่โรงหมอและเข้าป่าหาสมุนไพรจะก่อเรื่องขึ้นได้ลี่ถิงเองก็ตกใจมากนางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่หนี่ฮวามาเรียก นางก็รีบพาลูกชายลูกสาวไปหาสามีที่ศาลาริมธารท้ายไร่ทันที“หนี่ฮวามีใครไปบอกน้องรองแล้วหรือยัง”“มีแล้วเจ้าค่ะ ข้าให้เสี่ยวตั้นไปเรียนนายน้อยแล้วเจ้าค่ะนายหญิง”“เจ้ารู้หรือไม่มีเรื่องอะไรกัน ต้าเซิ้นก่อเรื่องอะไรขึ้น ปกติข้าไม่เห็นว่าต้าเซิ้นจะเกเรเลยสักครั้ง”“ข้าเองก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ พี่เหวินข่ายบอกข้าให้มาเรียนนายหญิงส่วนเขาเข้าเมืองไปตามนายน้อยตามคำสั่งนายท่านเจ้าค่ะ”ลี่ถิงและลูก ๆ มาถึงศาลาริมธารท้ายไร่ ก็ตกใจกับฝูงลิงขนาดใหญ่ นางไม่รู้ว่ามีกี่ตัวกันแน่ แล้วมีตัวที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าฝูงนั่งจ้องต้าเซิ้นอยู่ไม่วางตาแต่ยังไม่กล้าลงมือต้าหลางอยู่ตรงกลางระหว่างฝูงลิง ต้าหวัง ต้าฟง เสี่ยวซี เสี่ยวเป่าและบรรดาภรรยาวัวมากันครบ ส่วนเมียของต้าหวังไม่ได้ออกมาจากคอกเพราะนางท้องแก่เต็มที“เกิดอะไรขึ้นท่านพี่ ลิงพวกนี้มาทำไมเจ้าคะ”
หลังจากที่เหล่าต้าทั้งหลายเข้าป่าเพื่อหาของป่าตามที่คุณชายระบุในจดหมายครบแล้ว เวลาก็ผ่านมาได้ 5 วันแล้วทุกอย่างเตรียมเรียบร้อย ถังหูลู่ 500 ไม้ เนื้อแห้งอีกหลาย 100 ชั่ง ลี่ถิงไม่รู้ว่าลูกชายทั้งสองต้องการของมากมายขนาดนี้ไปทำไม เหมือนกับว่าจะเอาไปเลี้ยงคนได้หลายสิบคนเลยทีเดียวแต่ลี่ถิงเองก็ไม่ได้สงสัยในตัวลูกชายทั้งสองนางยังเคารพในการตัดสินใจของลูกชายเสมอ ส่วนเฉิงคุณก็เอาผักดองแบบกิมจิมาจากร้านของฮั่นคุณเอาใส่รถม้าไปให้ลูกชายด้วยเพราะเขารู้ว่าลูกชายอย่างเสี่ยวหลงนั้นชอบมากส่วนคำขอที่ลูกชายได้ขอมานั้นเขาและภรรยาตกลงที่จะทำตามคำขอ แต่ต้องรอให้น้องชายน้องสาวมีอายุครบ 5 ขวบเสียก่อนต้าหลงและเสี่ยวหลงนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าหุบเขาหนานซาน หมอเทวดาอู๋จี้ผู้เป็นเจ้าหุบเขาเวลานี้ได้มีการพูดคุยกับทั้งสองคนเอาไว้แล้วและให้สองคนพี่น้องไปตกลงกันเอง เขาไม่ได้ระบุว่าใครขอเพียงเป็นหนึ่งในสองคนนี้ก็พอแล้ว ส่วนซูไคตอนนี้ไม่ว่าศิษย์หลานทั้งสองจะทำอะไรเขาก็เห็นดีเห็นงามไปหมดทุกเรื่อง และซูไคเป็นอีกคนที่ตามใจสองแฝดมาก เขาทำประหนึ่งว่าเด็กทั้งสองคนเป็นลูกของเขาเสียอ
หลังจากที่ลูกชายออกไปได้ไม่นานลี่ถิงเดินหันหลังกลับเข้าบ้าน เพื่อดูแลลูกสาวคนเล็กทันที ถึงแม้ว่าลูกทั้งสองจะไม่มีอะไรให้นางต้องเป็นห่วง แต่หัวอกคนเป็นแม่ย่อมรักลูกเสมอ สำหรับลี่ถิงแล้วนางรักลูกเท่ากันทุกคนวันนี้สามีของนางยังคงยุ่งกับการค้าอยู่ตลอดเวลา ฮั่นคุณเองก็กลายมาเป็นกำลังหลักเพื่อช่วยเหลือพี่ชายที่โรงหมอของสวี่คุณถือว่าไม่มีอะไรวุ่นวายนัก มีแค่ชาวบ้านเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เขาเองไม่ได้คิดอยากจะหาเงินกับโรงหมอ ที่เขาเปิดโรงหมอขึ้นในหมู่บ้านเช่นนี้เพราะต้องการช่วยเหลือชาวบ้าน ถ้าตอนนั้นที่หมู่บ้านของพวกเขามีหมออยู่ท่านแม่คงไม่จากไปเร็วขนาดนี้“พี่รอง วันนี้ไม่ไปโรงหมอหรือ”ฮั่นคุณที่เดินมาดูร้านผักของหลานชายก่อนที่เขาจะออกไปทำงานช่วยพี่ชายในเมืองเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าพี่ชายอีกคนของตัวเองกำลังสั่งให้คนงานขนผักและไข่ไก่มาเติม“เดี๋ยวไป แวะมาดูร้านให้เจ้าใหญ่ เจ้ารองน่ะ”“ขอรับ เช่นนั้นพี่รองก็ดูไปเถอะ ข้าไปช่วยพี่ใหญ่ก่อน ตอนนี้ร้านค้าในเมืองยุ่งมาก”“แล้วพี่สะใภ้ว่าอย่างไรบ้าง”“พี่สะใภ้บอกว่าต่อไปหากมีคู่ค้าคนไหนยินดีมารับผลผลิตที่หน้าไร่ พวกเรา
หลังจากวันที่หนิงฮวาพาครอบครัวย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเดิม ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาได้นับเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาลี่ถิงและสามีก็ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือนางกับสามีด้วยความเต็มใจกัวจื่อเหลียงลี่ถิงให้ไปฝึกงานกับจางอ้ายเทียนที่โรงเตี๊ยม ส่วนหนิงฮวานั้นลี่ถิงหางานอย่างอื่นให้นางทำที่บ้านจะได้ดูแลลูก ๆ ที่ยังเล็กอยู่ของนาง ด้วยความช่วยเหลือจากคนบ้านหยางทำให้หนิงฮวาและครอบครัวไม่ได้รับความลำบากมากมายอย่างที่คิดเอาไว้ หนิงฮวาย้อนคิดถึงอดีตหากว่าตอนนั้นนางร่วมมือกับท่านแม่ทำร้ายลี่ถิง นอกจากนางจะทำไม่สำเร็จแล้วนางยังจะได้มีชีวิตที่ดีอย่างเช่นทุกวันนี้อยู่หรือไม่ลี่ถิงกับเฉิงคุณนับว่าเป็นคนที่ดีมากหนิงฮวาได้แต่คิดว่านางต้องติดหนี้บุญคุณลี่ถิงอีกกี่ครั้ง เพราะลี่ถิงเป็นคนที่มีจิตใจดี หากว่าเป็นคนอื่นจะยอมให้อภัยและให้ความช่วยเหลือแก่นางหรือ เรื่องนี้หนิงฮวาย่อมกำชับสามีให้ทำงานด้วยความตั้งใจและซื่อสัตย์อย่าได้มีใจมักได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง ซึ่งนางเองก็ทราบดีว่าสามีของนางเองไม่ได้เป็นคนที่มีนิสัยแบบนั้น แต่นางเพียงต้องเตือนเขาเอาไว้แล้วก็มาถึงวันที่โรงหมอของสวี่คุณเปิดให้การรักษา ทุกอย่างดำเนินไ
อันหนิงฮวาพาสามีและลูกชายหญิงกลับมาถึงบ้านเดิมที่เมืองจินหลิง นางเองก็ไม่แน่ใจว่าบ้านของนางยังจะสามารถพักอาศัยอยู่หรือไม่ เพราะนางออกจากบ้านไป 8 ปีกว่า ๆเมื่อนางกลับมาถึงบ้าน ก็ต้องตกใจเพราะสภาพบ้านของนางไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะลี่ถิงคอยมาดูแลและซ่อมแซมให้อยู่เสมอ“ท่านพี่ถึงแล้วเจ้าค่ะ”"ถึงแล้วหรือ นี่มันดีมากเลย พี่ขอโทษนะฮวาเอ๋อร์ที่ไม่สามารถดูแลพวกเจ้าแม่ลูกให้อยู่อย่างสบายได้ ทำให้เจ้าต้องบากหน้ากลับบ้านเดิมมาทั้งอย่างนี้“ท่านพี่อย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ ดีแล้วที่พวกเราออกมาจากตรงนั้นเสียได้ หากเราไม่ออกมาชีวิตพวกเราแม่ลูกยิ่งจะแย่มากไปกว่านี้นะเจ้าคะ ท่านคิดว่าป้าสะใภ้ของท่านจะปล่อยให้พวกเราแม่ลูกมีชีวิตที่ดีหรือเจ้าคะ”“พี่เข้าใจแล้ว ต่อไปนี้คนพวกนั้นจะไม่สามารถมารังแกพวกเราได้อีก”“เข้าบ้านกันเถอะเจ้าค่ะ ลูก ๆ คงหิวแล้ว”“ท่านแม่นี่คือบ้านของเราหรือขอรับ”“ใช่แล้วลูก นี่คือบ้านของพวกเราต่อไปนี้เราจะอยู่กันที่นี่ ต่อไปนี้จะไม่มีใครมาทำร้ายพวกเจ้าได้อีก”“ใหญ่โตมากเลยขอรับ”หลังจากนั้นหนิงฮวาและสามีก็ช่วยกัน ทำความสะอาดบ้านและหุงหาอาหารให้กับตัวเองและลูก ๆ เมื่อก