เช้าวันใหม่ลี่ถิงตื่นขึ้นในยามอิ๋นของทุกวัน สามีและน้องชายของนางเองก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน เนื่องจากวันนี้พวกเขาทั้งสี่คนตกลงใจกันว่าจะเข้าเมืองไปด้วยกันทั้งหมด
เช่นนั้นงานที่ต้องทำในแต่ละวันจึงต้องช่วยกันทำ ปลายยามเหม่างานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย วันนี้มื้อเช้าลี่ถิงทำโจ๊กขาวกับข้าว มีผักป่าผัดกับกระเทียม หมูทอด
ส่วนซาลาเปาไส้หมูที่นางทำนั้นไม่ได้นำมาให้ทุกคนในบ้านกินเพราะลี่ถิงตั้งใจจะห่อและนำไปกินระหว่างเดินทางเข้าเมือง นอกจากนี้นางยังนำน้ำดื่มติดตัวไปด้วยและมีเพียงพอสำหรับทุกคน
หลังจากที่กินมื้อเช้ากันเสร็จแล้ว เฉิงคุณเอาสัตว์ป่าที่ล่ามาได้ใส่ลงในตะกร้าไม้ไผ่ส่วนโสมนั้นเขาใช้ผ้าห่อทับอีกทีจากนั้นจึงใส่เอาไว้ในตะกร้าของลี่ถิง
และเฉิงคุณยังเอาสมุนไพรที่เก็บมาวางทับเอาไว้ด้านบนเพื่อปกปิดสายตาของชาวบ้าน ส่วนตะกร้าของฮั่นคุณเป็นซาลาเปา ตะกร้าของสวี่คุณคือน้ำดื่ม
หลังจากเตรียมของเสร็จแล้วพวกเขาทั้งสี่ก็ออกเดินทางเพื่อไปรอเกวียนรับจ้างของลุงหลี่ที่หน้าหมู่บ้าน ระหว่างทางที่ทั้งสี่เดินผ่านไปนั้นชาวบ้านมองมาด้วยสายตาสนอกสนใจ
โดยเฉพาะลี่ถิงที่ตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ ฮั่นคุณที่เริ่มไม่พอใจเมื่อเห็นว่ามีคนมองมาที่พี่สะใภ้ของตัวเองมากขึ้น และมีเสียงซุบซิบนินทาเกิดขึ้นด้วย
เสียงซิบซุบนินทาของชาวบ้านไม่ได้เรียกความสนใจของลี่ถิงและเฉิงคุณแต่อย่างใด ฮั่นคุณเดินจับมือพี่สะใภ้และตลอดทางเขาเดินเชิดหน้าประหนึ่งจะอวดว่า
พี่สะใภ้ข้างามล่ะสิพวกเจ้าจึงได้มองด้วยสายตาอิจฉา สวี่คุณเองก็เดินมาขนาบข้างของพี่สะใภ้คนงาม ส่วนพี่ใหญ่อย่าเฉิงคุณขึ้นมาเดินอยู่ข้างหน้าลี่ถิง เขารู้สึกไม่ชอบใจสายตาที่มีชายหนุ่มในหมู่บ้านมามองภรรยาของเขาเช่นกัน
“ อ้าวเฉิงคุณวันนี้เจ้าพาน้องชายเข้าเมืองด้วยหรือ”
“ขอรับลุงหลี่ นี่ลี่ถิงภรรยาข้าขอรับ”
“โอ้ ที่ว่าเจ้าแต่งภรรยาเข้าบ้านแล้วเป็นเรื่องจริงหรือนี่”
“ขอรับเป็นเรื่องจริง”
“คารวะท่านลุงหลี่เจ้าค่ะ ”
“ไม่ต้องมากพิธีไป คนกันเองทั้งนั้นขึ้นเกวียนได้เลย จะได้เวลาออกเดินทางแล้ว”
เมื่อคนที่ต้องการโดยสารเกวียนรับจ้างเข้าเมืองขึ้นเกวียนหมดทุกคนแล้ว ลุงหลี่สารถีประจำหมู่บ้านก็ใช้แส้ตีก้นวัวให้วัวออกเดิน
ระหว่างทางก็ได้จอดรับคนจากหมู่บ้านอื่นด้วย บนเกวียนมีเด็กอายุประมาณฮั่นคุณอยู่หนึ่งคน เขาใช้สายตามองมาที่ตะกร้าของฮั่นคุณตลอด
อาจจะเป็นเพราะได้กลิ่นซาลาเปาหอม ๆ ลอยออกมาก็เป็นได้ ฮั่นคุณที่หันไปเห็นสายตาที่เขามองก็อดถามออกมาด้วยคงามสงสัยไม่ได้
“เจ้าอ้วนอ้ายตี้ เจ้ามองอะไรข้านักหนา มีอะไรก็พูดออกมาสิมาจ้องคนอื่นแบบนี้มันเสียมารยาทนะ”
“นี่ฮั่นคุณเจ้าเอาอะไรมาเหรอ ข้าได้กลิ่นหอมลอยออกมาจากตะกร้าของเจ้า”
“นี่อย่าบอกนะว่า ที่เจ้าจ้องข้ามาตั้งนานเนี่ยเพราะได้กลิ่นอาหารน่ะ เจ้าจะจมูกดีเกินไปแล้ว”
“ก็ใช่น่ะสิ ทำให้ท้องของข้าร้องขึ้นมาเลยล่ะ”
“นี่เจ้าเด็กคนนี้นี่ ทำไมทำตัวเสียมารยาทแบบนี้นี่ ขอโทษด้วยนะจ้ะฮั่นคุณอย่าไปใส่ใจเจ้าเด็กคนนี้เลย เขาก็เป็นแบบนี้เองล่ะจ้ะ”
“ไม่เป็นไรขอรับท่านป้าจาง มันช่วยไม่ได้ที่ซาลาเปาที่พี่สะใภ้ของข้าทำอร่อยและหอมมาก เจ้าอ้วนจะได้กลิ่นก็ไม่แปลก”
“เช่นนั้นหรือจ้ะ ป้ารู้สึกว่าพวกเจ้าพี่น้องอ้วนขึ้นนะ ตั้งแต่พี่ชายเจ้าแต่งภรรยาเข้าบ้าน”
“ขอรับ พี่สะใภ้ดูแลพวกเราพี่น้องดีมาก หาอาหารให้พวกเรากินจนอิ่มพี่สะใภ้บอกว่าพวกข้ากำลังโตจะปล่อยให้ท้องหิวไม่ได้ หากข้ากินไม่อิ่มข้าจะไม่โตขอรับ”
“โอ้ ดีจริง ๆ พี่ใหญ่ของเจ้าหาเมียได้ดีจริง ๆ พวกเจ้าต้องเคารพนางให้มาก ๆ เล่า”
“ขอรับ ป้าจาง”
“นี่ฮั่นคุณ ซาลาเปาของเจ้าหอมมากเลยขอข้าชิมสักนิดได้หรือไม่”
“เจ้าเด็กคนนี้นี่ ไม่มีมารยาท เดี๋ยวค่อยไปกินในเมืองก็ได้ จะไปกินอาหารกลางวันของคนอื่นได้ยังไง”
“ก็มันหอมนี่ขอรับท่านแม่”
“เอาไว้แม่เอาผ้าปักไปส่งที่ร้านแล้วแม่จะซื้อให้เจ้าก็แล้วกันนะ”
“ก็ได้ ๆ ท่านแม่สัญญาแล้วนะไม่ใช่โกหกข้าล่ะ”
“เจ้าเด็กคนนี้นี่ ไม่รู้ไปได้นิสัยแบบนี้มาจากไหน ขอโทษด้วยนะจ้ะเฉิงคุณ เมียเฉิงคุณอย่าถือสาอ้ายตี้เลย”
“ไม่เป็นไรขอรับท่านป้าจาง”
“น้องเล็กแบ่งซาลาเปาให้เพื่อนสักลูกสิจ้ะ”
“ขอรับพี่สะใภ้ นี่เจ้าอ้วนข้าให้เจ้าได้แค่ลูกเดียวนะ กินหมดแล้วห้ามมามองข้าอีกล่ะเข้าใจไหม”
“จริงเหรอ ให้ข้าจริงหรือ ขอบใจนะ”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะฮั่นคุณ ป้าขอบใจนะจ้ะเจ้าเก็บไว้กินเถอะ”
“ไม่เป็นไรขอรับท่านป้า พี่สะใภ้ทำมาพอให้พวกเราได้กินและจะทำเผื่อทุกครั้ง เพราะกลัวพี่ใหญ่ไม่อิ่มขอรับ”
“ขอบใจมากจ้ะ เจ้าอ้วนนี่วัน ๆ เอาแต่กินกับนอน ไม่เหมือนพวกเธอพี่น้องช่วยที่บ้านทำงาน วันหลังช่วยสั่งสอนเขาด้วยนะจ้ะ”
“ได้ขอรับท่านป้าจาง วันหลังข้าจะพาเจ้าอ้วนไปจับปลาในลำธารเองขอรับ”
หลังจากที่ฮั่นคุณแบ่งซาลาเปาให้อ้ายตี้แล้วตัวเขาเองก็กินด้วยเช่นกันในหมู่บ้านนี้ทุกคนย่อมรู้ว่าการเป็นอยู่ของสามพี่น้องเป็นอย่างไร ตั้งแต่เสียพ่อแม่ไป
มีหลายครอบครัวที่ดีต่อพวกเขาไม่น้อยและมีหลายครอบครัวที่ไม่ชอบและไม่เกลียดแต่ไม่ยุ่งกับครอบครัวเขา ต่างคนต่างอยู่
สมัยที่พ่อแม่ของเฉิงคุณมีชีวิตอยู่เขาเป็นที่เคารพนับถือและเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ไม่น้อยและชาวบ้านพวกนี้ยังรังเกียจการกระทำของครอบครัวของอันหนิงฮวา
ที่กระทำต่อครอบครัวหยางเป็นอย่างมาก ป้าจางเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความปรารถนาดีต่อครอบครัวหยางอย่างแท้จริง นางคอยช่วยเหลือพวกเขาพี่น้องอยู่บ่อยครั้ง อ้ายตี้เองก็เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของฮั่นคุณ
“อร่อยมากเลยล่ะ ฮั่นคุณข้าชักอิจฉาเจ้าเสียแล้วสิ พี่สะใภ้ของเจ้าทั้งงดงามทั้งทำอาหารอร่อย”
“อิจฉาข้าทำไม เจ้าก็บอกพี่ชายเจ้าแต่งเมียเข้าบ้านสิ”
“ท่านแม่ เมื่อไหร่พี่ใหญ่จะแต่งภรรยาเข้าบ้านเล่าขอรับ"
“ยังไม่ถึงเวลาสักหน่อยพี่ใหญ่ของเจ้าอายุเท่าไหร่กันเชียว เพิ่งจะ 18 อีกอย่างบ้านเราก็ฐานะไม่ดีจะมีหญิงสาวที่ไหนยอมแต่งเข้ามาเล่า”
“ท่านป้าจางอย่าคิดมากเลยขอรับ อ้ายเทียนเป็นคนดีขยันขันแข็งข้าเชื่อว่าเขาต้องหาเมียแต่งเข้าบ้านได้ ท่านดูอย่างข้าสิ บ้านข้ายากจนกว่าท่านมากนัก ท่านพ่อท่านแม่ก็ไม่อยู่แล้ว ข้ายังสามารถแต่งเมียที่ดีขนาดนี้ได้เลย”
“อืม ป้าไม่รีบร้อนหรอกเฉิงคุณ อีกอย่างอ้ายเทียนเองก็บอกว่ายังไม่อยากแต่งงานตอนนี้ อยากทำงานหาเงินทำให้ครอบครัวอยู่ดีกินดีขึ้นมากกว่านี้ก่อนน่ะจ้ะ”
“ขอรับ”
“ท่านพี่เจ้าคะ อีกไกลหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่ไกลหรอก อีกไม่ถึง 5 ลี้หรอก เจ้าเหนื่อยหรือไม่”
“ไม่เหนื่อยเจ้าค่ะ ข้าแค่ถามดูเพราะตอนที่ท่านพี่พาข้ามาที่หมู่บ้าน มันก็มืดแล้วข้าจำอะไรไม่ได้ก็เลยถามดูเท่านั้น”
เมื่อเกวียนขับมาจนถึงประตูเมือง ลุงหลี่ก็จอดให้ทุกคนลงก่อนแยกจากกัน อ้ายตี้ได้บอกกับฮั่นคุณว่าถ้าหากวันไหนฮั่นคุณจะไปจับปลาให้มาเรียกเขาด้วย
เขาจะไปจับปลามาให้ท่านแม่ของเขาทำอาหาร ซึ่งฮั่นคุณก็ได้รับปากว่าจะไปเรียกให้อ้ายตี้ไปด้วยกันแน่นอนจากนั้นจึงได้แยกย้ายกันไป
เฉิงคุณพาลี่ถิงและน้องชายเดินไปที่เหลาอาหารก่อนเพื่อนำกระต่ายและไก่ไปขาย หลังจากนั้นจึงจะไปที่ร้านรับซื้อสมุนไพรและวันนี้เขาจะพาภรรยาและน้องชายเดินเที่ยวในตลาด
ก่อนกลับบ้านและซื้อข้าวสารกลับไปด้วยแป้งสาลีก็เหลือน้อยแล้ว ลี่ถิงต้องการดูว่าที่ร้านขายเครื่องเทศมีเครื่องปรุงชนิดอื่นขายหรือไม่นอกจากเกลือและน้ำตาล หากไม่มีนางจะได้ลองทำออกมาขายดู และจะเปิดร้านขายเองเสียเลยในอนาคต
“ ท่านพี่เจ้าคะ ท่านว่าที่ร้านสมุนไพรจะรับซื้อหรือไม่”
“รับแน่นอนอยู่แล้วเพียงแต่เราไม่รู้ราคาว่าจะรับซื้อเท่าไร่”
“คงต้องลองถามดูหลาย ๆ ร้านก่อนค่อยตัดสินใจขายดีหรือไม่เจ้าคะ”
“ได้ เอาตามที่เจ้าว่า เราลองไปถามดูก่อนก็แล้วกัน”
หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วเฉิงคุณก็พาทั้งสามคนเดินมุ่งหน้าตรงไปที่ร้านรับซื้อสมุนไพรทันที ร้านแรกที่พวกเข้าเลือกที่จะเข้าไปเป็นร้านเก่าแก่ของที่นี่ และเฉิงคุณคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับหมอชราเพราะสมัยที่ท่านแม่ยังมีชีวิตอยู่เขามาซื้อยาและพาท่านแม่มารักษากับหมอชราที่นี่เป็นประจำ
“คารวะท่านหมอขอรับ”
“อ้าวเจ้าเองหรอกหรือ วันนี้มีใครในบ้านของเจ้าป่วยหรือยังไง อาการเป็นยังไงบ้าง”
“เปล่าขอรับท่านหมอบ้านข้าไม่มีคนป่วย เพียงแต่พวกเรานำสมุนไพรมาขายเท่านั้นขอรับ”
“อ่อเช่นนั้นหรือ ได้ ๆ ไหนพวกเจ้าได้สมุนไพรอะไรมา เอาออกมาให้ข้าดูหน่อยสิ”
เฉิงคุณรับตะกร้าจากลี่ถิงยื่นให้กับหมอชราเพื่อตรวจดูสมุนไพร หมอชราเห็นว่าสมุนไพรที่พวกเขานำมาวันนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากและเก็บมาด้วยวิธีการที่ถูกต้องทำให้สรรพคุณทางยาไม่ลดถอยลง
“อืม สมุนไพรขั้นพื้นฐานพวกนี้ ข้าให้พวกเจ้า 50 อิแปะก็แล้วกันพอใจหรือไม่”
“พอใจขอรับ ท่านหมอรับซื้อโสมหรือไม่ขอรับ”
“เจ้าว่าอะไรนะ โสมรึ โสมอะไร ไหน เอามาให้ข้าดู ไม่สิรีบ ๆ ตามข้าเข้ามาข้างในก่อน” หมอชรารีบเรียกให้ตามเข้าไปข้างในทันที
“นี่ขอรับ โสมซานซี ข้ากับภรรยาและน้อง ๆ พบบนเขา มีเพียงสามต้นเท่านั้น ท่านหมอจะให้ราคาเท่าไหร่ขอรับ”
“ทำไม เจ้ากลัวข้ากดราคาเจ้ารึไง ข้าจะบอกให้นะ ข้าน่ะให้ราคาเป็นธรรมที่สุดแล้ว ขอข้าดูก่อน”
“อืม พวกเจ้าขุดออกมาได้ดีมาก ทั้งสามต้นนี้ มีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี เลยทีเดียว ถึงแม้จะไม่ใช่โสมคนแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหาเจอได้ง่าย ๆ พวกเจ้าช่างมีวาสนานัก โสมซานซีทั้งสามต้นนี้ ข้าให้พวกเจ้าราคาต้นละ 10 เหรียญทอง พอใจหรือไม่ นี่ข้าให้พวกเจ้าราคาสูงมากแล้วนะ”
“พอใจขอรับ ขอบพระคุณท่านหมอมากขอรับ”
“ต่อไปหากพวกเจ้าพบเจอสมุนไพรล้ำค่าหายาก พวกเจ้าต้องรับปากข้าก่อน ว่าจะต้องเอามาขายให้ข้าก่อนเข้าใจหรือไม่”
“ได้แน่นอนขอรับหากข้ามีสมุนไพรอีกข้าจะต้องนำมาขายให้ท่านแน่นอน”
“อืม ขอบใจมาก นี่เงินของพวกเจ้า อ่อ ข้าลืมถามไปเจ้าจะเอาเป็นเหรียญทองหรือเหรียญเงินล่ะ ข้าจะได้เตรียมให้ถูก”
“ข้าขอเป็นตั๋วแลกเงิน 20 เหรียญทองเจ้าค่ะ ส่วนอีก 10 เหรียญทอง ขอเป็น 500 เหรียญเงิน กับ 5 เหรียญทองเจ้าค่ะ”
“ได้ ๆ รอข้าสักประเดี๋ยวข้าจะไปจัดการให้”
หลังจากได้รับเงินจากหมอชราแล้วเฉิงคุณเดินออกมาจากร้านโดยที่ไม่พูดอะไร พอเดินพ้นร้านหมอออกมา เขาถึงกับเข่าอ่อนนั่งลงข้างร้านทันที
ลี่ถิงและน้องชายทั้งสองตกใจมากคิดว่าเขาไม่สบายอีกทั้งเหงื่อเขายังออกมากอีกด้วย
“ท่านพี่ ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ กลับเข้าไปให้หมอชราตรวจดูดีหรือไม่”
“ข้า ข้า ไม่ได้เป็นอะไร ข้าแค่ดีใจและตกใจมากเท่านั้นเองพาลให้แข้งขาอ่อนไปหมด”
“พี่ใหญ่ ท่านตกใจอะไรหรือขอรับ”
“นั่นสิเจ้าคะ ท่านตกใจอะไรหรือตกใจที่เรามีเงินจากการขายสมุนไพรหรือเจ้าคะ”
“อืม ใช่ ขายหน้าเจ้าแล้ว”
“ฮ่า ๆ ท่านพี่ ท่านนี่จริง ๆ เลย ทำเอาพวกข้าตกใจหมด”
“พี่สะใภ้เรามีเงินเยอะหรือขอรับ”
“จะว่าเยอะก็เยอะอยู่นะ จะว่าไม่เยอะก็ไม่เยอะ เอาเป็นว่ามีซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ทุกคน และจะซื้อผ้าไปทำผ้าห่มและฟูกนอนด้วยดีหรือไม่”
“ดีมากขอรับ ดีจริง ๆ ฮือ ๆๆ”
“น้องเล็ก เจ้าร้องไห้ทำไม”
“ข้าดีใจขอรับต่อไปนี้พวกเราจะไม่ต้องทนหนาวอีกแล้ว ฮึก ไม่ต้องทนหิว ฮึก อีกแล้ว”
“เอาล่ะ ๆ ไม่ร้องแล้วไม่ต้องร้องแล้ว พี่สะใภ้ไม่ให้เจ้าอดข้าวหรอกนะ ท่านพี่ไปกันเถอะน้องรองอยากได้อะไรหรือไม่จะได้ซื้อกลับไปเสียทีเดียว"
“ข้า ข้า ซื้อได้จริง ๆ หรือขอรับ”
“ได้สิ วันนี้พี่สะใภ้จะซื้อของที่ทุกคนอยากได้ให้เอง”
“ท่านพี่ไปโรงรับฝากเงินกันก่อนเจ้าค่ะ จะใช้แล้วค่อยมาเบิกเอาบ้านเราไม่แข็งแรงเก็บเงินมาก ๆ ไว้กับตัวมันอันตราย”
“ได้ ตามมาทางนี้เลย”
หลังจากนำเงิน 20 เหรียญทองไปฝากที่โรงรับฝากเงินเรียบร้อยแล้ว ลี่ถิงเอาเงิน 5 เหรียญทองให้เฉิงคุณเป็นคนเก็บเอาไว้และเงิน 500 เหรียญเงินนั้นนางจะนำไปซื้อเกวียนเทียมลา และของจำเป็นเข้าบ้านและซื้อเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มใหม่ทั้งหมดและนางยังให้สามีไปสอบถามช่างถึงเรื่องที่จะสร้างบ้านใหม่และทำกำแพงล้อมรอบที่ดินทั้งหมดของพวกเขาด้วย“ท่านพี่ ท่านไปสอบถามถึงราคาสร้างบ้านที่ร้านช่างไม้ได้หรือไม่เจ้าคะ ข้าอยากทราบหากเราต้องการสร้างบ้านหลังใหม่จะต้องใช้เงินเท่าไหร่”“อืม เอาไว้ซื้อของเสร็จแล้ว พวกเราค่อยไปด้วยกันดีหรือไม่ จะไปซื้ออะไรก่อนหรือ”“อืม ข้าต้องการไปที่ร้านขายข้าวกับธัญพืช จากนั้นก็ร้านขายเครื่องเทศ ร้านขายผ้า และไปซื้อเกวียนเทียมลาเจ้าค่ะ”“จริงหรือขอรับพี่สะใภ้ บ้านเราจะมีเกวียนเทียมลาแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่ขอรับ” สวี่คุณถามออกมา แถมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีก จนลี่ถิงไม่รู้ว่าเขาดีใจหรือเสียใจกันแน่“จริงสิ พี่สะใภ้เคยหลอกเจ้าหรือน้องรอง”“ไม่เคยขอรับ ข้าดีใจมากเลย ที่บ้านของเราจะมีเกวียนใช้แล้ว เวลาพี่ใหญ่เข้าเมืองจะได้ไม่ต้องเดินอีกเวลาที่เกวียนลุงหลี่ที่นั่งเต็ม”“น้องเล็กล่ะเจ้าอยากได
หลังจากที่นายช่างเข้ามาดูที่ดินของพวกเขาแล้วและรับปากว่าอีก 5 วันจะเข้ามาทำการก่อสร้างกำแพงให้ก่อน ตอนนี้เขาต้องไปจัดการเตรียมอิฐให้เพียงพอเสียก่อนจากนั้นจึงจะทยอยขนอิฐและคนงานเข้ามาทำการก่อสร้าง ซึ่งลี่ถิงบอกกับนายช่างใหญ่ว่าจะมีอาหารกลางวันให้หนึ่งมื้อ ขอนายช่างอย่าได้เกรงใจเพียงแค่สร้างกำแพงบ้านของนางให้งดงามก็พอ พอนายช่างได้ยินนางพูดแบบนั้นก็ได้แต่หัวเราะออกมาอย่างชอบใจแม่นางคนนี้ช่างตลกเสียจริงกำแพงอิฐมันจะงดงามได้ขนาดไหนกันอย่างมากก็งดงามกว่ากำแพงดินล่ะนะ“ท่านพี่ ปลาขายได้ราคาหรือไม่เจ้าคะ”“ได้นะหากเป็นปลาสด ๆ และตัวขนาดใหญ่หากเป็นปลาที่ยังไม่ตายจะได้ราคาดีไม่น้อย”“เช่นนั้นหรือเจ้าคะ ถ้าอย่างนั้นท่านพี่ช่วยไปตัดไม้ไผ่มาให้ข้าได้หรือไม่ เอามามากหน่อยนะเจ้าคะ”“ได้ ๆ เดี๋ยววันนี้พี่จะเข้าป่าไปตัดมาให้ หรือเจ้าจะไปด้วยกันก็ย่อมได้ ให้น้องรองกับน้องเล็กอยู่เฝ้าบ้าน”“ได้เจ้าค่ะ ข้าขอไปเตรียมอาหารก่อนนะเจ้าคะ”“ไปเถอะ งานในสวนพี่จะทำให้เองต่อไปเจ้าไม่ต้องไปหาบน้ำมารดผักแล้วพี่จะหาถังใบใหญ่เอามาวางไว้แล้วค่อยไปตักน้ำมาเติมเจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก”“เจ้าค่ะท่านพี่ ขอบพระคุณมากเจ
เช้าวันรุ่งขึ้นลี่ถิงที่ตื่นตั้งแต่ยามอิ๋นจนเป็นนิสัย เฉิงคุณเองก็ตื่นขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนน้องชายทั้งสองนั้นลี่ถิงให้พวกเขาตื่นยามเหม่าเพราะเด็กต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ในบ้านเองก็ไม่ได้มีงานอะไรมากมายนักแปลงผักที่ปลูกเอาไว้แค่ไม่กี่แปลง เฉิงคุณจัดการรดน้ำผักเรียบร้อยแล้วก็ออกไปเก็บกับดักปลาที่วางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานลี่ถิงให้อาหารไก่และเก็บไข่มาบางส่วน วันนี้ตอนเช้านางจะทำซาลาเปาไส้หน่อไม้ ลี่ถิงเอาหน่อไม้ที่นางต้มจนไม่มีรสขมแล้ว มาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ๆจากนั้นก็นำต้นหอมที่เพิ่งเก็บมาจากแปลงผักหลังบ้านนำมาซอยละเอียด นำไปผัดกับหมูสับปรุงรสด้วยเหลือน้ำตาลและซีอิ๊วนิดหน่อยหลังจากที่ผัดไส้ของซาลาเปาแล้วลี่ถิงลงมือทำซาลาเปาทันที เฉิงคุณที่ไปเก็บกับดักปลาในลำธารกับดักปลาอันแรกที่เขายกขึ้นมาจากน้ำนั้นหนักอึ้งเมื่อมองดูก็พบว่ามีปลาตัวเล็กตัวใหญ่และกุ้งอยู่ในกับดักเต็มไปหมด เฉิงคุณตกตะลึงกับภาพตรงหน้าเขา หลังจากที่ยืนอึ้งมองกับดักอยู่เป็นนานสองนานเขาก็รีบวางกับดักในมือลงและรีบไปยกอีกอันขึ้นมาทันทีและก็เป็นเช่นเดิมข้างในกับดักเต็มไปด้วยปลาและกุ้ง เฉิงคุณรีบนำกับดักปลาทั้ง
หลังจากที่เฉิงคุณเสียเวลาทะเลาะกับโม่เซียวอี้ระหว่างทาง ทำให้เดินทางมาถึงในตัวเมืองช้านิดหน่อยแต่ก็ยังอยู่ในช่วงเวลาที่เหลาอาหารยังไม่เปิดรับซื้ออาหารป่าจากชาวบ้าน เฉิงคุณต้องการขายเป็นคนแรกเพราะเขาจะได้รีบกลับบ้านไปช่วยงานภรรยาและน้องชาย สหายของเขาได้แยกตัวไปเดินดูเครื่องประดับตั้งแต่เขาขับเกวียนมาถึงเหลาอาหารแล้ว เซียวอี้บอกว่าวันนี้จะกลับบ้านไปกับเฉิงคุณเช่นนั้นเขาจึงรีบแยกตัวไปเดินดูเครื่องประดับที่ร้านในตลาดและบอกกับเฉิงคุณว่าหากเขาขายปลาเสร็จแล้วให้ไปรับเขาที่ร้านขายข้าวเพราะเขาจะซื้อข้าวสารกับแป้งสาลีกลับไปด้วยเช่นกันซึ่งเฉิงคุณก็ตกลง และก็เป็นไปตามที่เฉิงคุณคำนวนเอาไว้เขามาถึงเป็นคนแรก เขาจอดเกวียนรออยู่ประตูด้านหลังของเหลาอาหาร รออยู่ประมาณ 1 เค่อ (15นาที) เสี่ยวเอ้อร์ก็เปิดประตูและเริ่มรับซื้อสินค้าจากชาวบ้านที่นำมาขาย“อ้าว เจ้านั่นเองวันนี้มีอะไรมาขายข้าหรือ” เสี่ยวเอ้อร์ทักเฉิงคุณที่กำลังยกถังปลาลงจากเกวียน“วันนี้ข้ามีปลาสด ๆ มาขายขอรับ รบกวนท่านเตรียมถังน้ำเอาไว้ด้วยเพราะปลาที่ข้าจับมายังมีชีวิตอยู่ทุกตัว”“จริงหรือ ไหน ๆ ข้าขอดูหน่อย โอ้ ปลาตัวใหญ่มาก เจ้ามีมากน้อยเ
หลังจากที่ทั้งสองสหายกินข้าวกันจนอิ่มแล้ว ก็เตรียมตัวเข้าป่า เหลือเวลาอีกหลายชั่วยามกว่าจะมืด เฉิงคุณจึงคิดว่าจะชวนสหายเข้าป่าไปเสี่ยงโชคเสียหน่อย หากว่าโชคดีเจอไก่ หรือกระต่ายป่า จะได้เอากลับมาให้ลี่ถิงทำมื้อเย็น เมื่อลี่ถิงเห็นว่าสามีและสหายกำลังจะเข้าไปในป่า นางจึงขอไปด้วยเผื่อจะได้ผักป่ามาเพิ่มเป็นอาหารในมื้อเย็น“ท่านพี่จะไปไหนกันเจ้าคะ”“พี่กับเซียวอี้จะเข้าป่าเสียหน่อยเผื่อจะได้ไก่หรือกระต่ายป่าเอามาให้เจ้าทำมื้อเย็น”“ข้าจะไปด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะไปดูว่ามีผักป่าอะไรที่พอจะเก็บกลับมาทำอาหารได้บ้าง”“ จริง ๆ พี่เก็บมาให้เจ้าก็ได้ไม่ต้องไปหรอก แต่ถ้าอยากจะไปพี่ก็ไม่ขัด”“ขอบคุณท่านพี่เจ้าค่ะ น้องรองกับน้องเล็กอยู่บ้านดูแลบ้านกับต้าหวังให้ดี รู้หรือไม่”“ขอรับพี่สะใภ้”“อาคุณ ต้าหวังนี่ใครหรือ”“ลาบ้านข้าเอง มันชื่อต้าหวัง”“เอ่อ อ่อ ๆๆ ข้าก็นึกว่ามีคนมาอยู่กับพวกเจ้าเพิ่ม”“ไม่มีใครมาอยู่เพิ่มหรอก ถิงเอ๋อร์ตัวคนเดียวไม่เหลือญาติแล้ว”“แต่เมียของเจ้าทำอาหารอร่อยมากเลย พรุ่งนี้ข้าจะมากินอีกนะ ฮ่า ๆ”“แล้วแต่เจ้าเถอะ ถ้าหากไม่ละอายใจก็มาเถอะ”“ไปกันหรือยังเจ้าคะท่านพี่ ข้าเตรียมของเสร็จ
เช้าวันรุ่งขึ้นลี่ถิงที่วันนี้ตื่นเช้ากว่าปกติ นางตรงเข้าครัวเพื่อทำอาหารเพราะวันนี้สหายของสามีจะมากินมื้อเช้าที่บ้านของนาง ความสามารถในการกินอาหารของพวกผู้ชายนั้นช่างน่ากลัวนัก หากนางทำน้อยไปก็กลัวว่าพวกเขาจะกินไม่อิ่ม วันนี้นางจึงตั้งใจจะทำให้มากหน่อย และทำเผื่อเอาไว้สำหรับกินมื้อกลางวันตอนเข้าเมืองอีกด้วย สามีของนางเองก็ตื่นแต่เช้าด้วยเช่นกัน เฉิงคุณออกไปตักน้ำมาใส่ถังไม้ที่เขาวางเอาไว้บริเวณแปลงผักจนเต็มน้องชายทั้งสองตื่นขึ้นมาในเวลาปกติพวกเขารีบล้างหน้าบ้วนปาก หลังจากนั้นก็ไปที่แปลงผัก รดน้ำถอนหญ้าออกจากแปลงผักจนเสร็จ หลังจากนั้นก็ไปล้างมือและเตรียมกินมื้อเช้า ปลายยามเหม่าเซียวอี้ก็มาถึงบ้านตามเวลานัดหมายที่ได้บอกเอาไว้ สำหรับเซียวอี้แล้วการที่สหายมีโชคดี ได้แต่งเมียที่ดีเข้าบ้านเหมือนตัวเขาเองที่เป็นสหายก็พลอยได้รับโชคดีนั้นไปด้วยเมื่อวานหลังจากเขากลับไปพร้อมกับหมูครึ่งตัวและปลาตากแห้ง น้อง ๆ ของเขาดีใจจนน้ำตาจะไหลเพราะเขาบอกว่าหมูจะไม่นำไปขายเพราะเฉิงคุณแบ่งให้เขาเอากลับมากินที่บ้าน และยังมีปลาแดดเดียวที่อร่อยมาก หลังจากที่ท่านแม่ทอดจนสุกเหลืองสวยแล้ว เพียงแค่เห็นก็ทำให้คนน้
หลังจากส่งเซียวอี้ถึงบ้านทันทีที่ขนของที่ซื้อมาลงเกวียนหมด ต้าหวังก็รีบออกตัวลากเกวียนเดินกลับบ้านทันที ในใจต้าหวังยังคิดว่า มนุษย์สหายของเจ้านายคนนี้ไม่ค่อยฉลาดเอาเสียเลย แค่ซื้อของไปแต่งเมียจะต้องมาเดือดร้อนนายหญิงของมันทำไมกัน ทำให้งานของนายหญิงล่าช้า เมื่องานที่บ้านของนายหญิงล่าช้ามันก็อดตามนายน้อยไปเที่ยวเล่นไม่ได้ เพราะนายน้อยต้องช่วยงานนายหญิงทั้ง ๆ ที่วันนี้นายน้อยบอกว่าจะพามันไปเล่นน้ำที่ลำธารแท้ ๆ ต้าหวังเดินลากเกวียนกลับบ้านด้วยความหงุดหงิดนายน้อยบอกกับมันว่าจะพามันไปเที่ยวป่าหาของป่าด้วย แต่ต้องรอให้กำแพงบ้านสร้างเสร็จเสียก่อน นายน้อยฮั่นคุณยังบอกกับมันว่าให้ช่วยกันดูแลบ้าน อย่ามาดูถูกว่ามันเป็นแค่ลา แต่มันเป็นลาที่พิเศษวิ่งเร็วกว่าม้าเสียอีก เพราะมันเป็นลาที่ได้พรจากฟ้า ต้าหวังลาผู้โอ้อวดคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะตอนที่มันเกิดก่อนที่จะถูกนำมาขาย มันถูกเลี้ยงมากับม้าและบังเอิญวิ่งชนะม้าขี้โรคมาครั้งหนึ่ง มันจึงคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันนั้นวิ่งเร็วกว่าม้า“ท่านพี่ ต้าหวังมันเป็นอะไรเจ้าคะข้ารู้สึกว่ามันจะอารมณ์ไม่ดี หรือมันจะหิว”“พี่ก็ไม่รู้ หรือว่ามันจะหิวแล้วจริง ๆ”“ข้าไม่ไ
ต้าหวังพาลี่ถิงและเฉิงคุณเดินเข้าไปในป่าตรงที่มันเจอเห็ดอัปลักษณ์ แต่นายหญิงของมันกลับดีใจจนกรีดร้องออกมาลั่นป่า มันเองไม่รู้ว่าเจ้าเห็ดนั่นทำอะไรได้ แต่ในเมื่อนายของมันบอกให้มันพาไปมันก็จะพาไป ต้าหวังเองก็ไม่รู้ว่าตรงที่มันเจอจะยังมีเห็ดอัปลักษณ์นั่นหลงเหลืออยู่หรือไม่ คงต้องไปหาดู“ต้าหวัง เดินช้า ๆ เมียข้าตามไม่ทัน”“ท่านพี่ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ต้าหวังรีบ ๆ เดินเดี๋ยวจะกลับบ้านมืดค่ำเอา”เดินมาได้ประมาณสัก 1 เค่อ ก็มาถึงตรงบริเวณที่ต้าหวังเจอเห็ดหลินจือ มันจึงหยุดเดินและพาคนทั้งคู่ตรงไปยังต้นไม้ที่เน่าและผุ ลี่ถิงไม่รอช้ารีบหาเห็ดหลินจือทันที ต้าหวังกับเฉิงคุณเองก็ช่วยหาด้วยเช่นกัน แต่น่าเสียดายพวกเขาได้มาเพิ่มเพียงแค่หนึ่งดอกเท่านั้น เมื่อหาจนทั่วบริเวณรอบ ๆ แล้วไม่เจออะไร ทั้งสองคนและหนึ่งลา จึงได้กลับออกจากป่าตรงไปยังป่าไผ่ในจุดที่วางตะกร้าหน่อไม้เอาไว้“ได้มาเพิ่มอีก 1 ดอก เท่านี้ก็นับว่าดีแล้วนะเจ้าคะท่านพี่ ขอบใจมากนะต้าหวัง เอาไว้ข้าจะทำฟูกนอนให้นะพอถึงฤดูหนาวเจ้าจะได้นอนสบาย ๆ ข้าทำเตาผิงให้เจ้าดีกว่า เจ้าไม่ใส่รองเท้าเดี๋ยวฟูกนอนสกปรกเลอะเทอะ ส่วนที่นอนของเจ้าปูฟางหนา ๆ ก็ได้แ
หลังจากที่เฉิงคุณได้ซื้อพื้นที่ภูเขาและป่าเอาไว้เป็นจำนวนมากต่อมาไม่นานฮั่นคุณได้แต่งภรรยาเข้ามาในบ้าน เป็นบุตรสาวคนเล็กของท่านเจ้าเมือง ตอนที่เขามาบอกว่าจะตบแต่งภรรยาให้พี่สะใภ้อย่างลี่ถิงส่งแม่สื่อไปสู่ขอ ลี่ถิงตกใจมากแต่ไม่ได้ถามไถ่ให้มากความเพราะเชื่อว่าน้องชายของสามีคงดูคนไม่ผิดซึ่งก็ไม่ต่างกับที่ลี่ถิงคิดเอาไว้ เยว่ซินบุตรสาวของเจ้าเมืองคนนี้หน้าตางดงามอีกทั้งงานบ้านงานเรือนนางจัดการได้เรียบร้อยดีมาก หลังจากที่ฮั่นคุณแต่งภรรยาได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็ตั้งครรภ์อีกไม่นานเขาเองก็จะได้เป็นท่านพ่อแล้ว ส่วนสวี่คุณนั้นไม่มีทีท่าว่าจะแต่งงานเลยไม่อยากแต่งงานไม่ว่าแต่เขากลับทำหน้านิ่งทุกครั้งที่มีสตรีชายตามอง ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากแต่งภรรยาแต่เขายังไม่เจอสตรีที่เขาอยากจะอยู่ด้วยตอนนี้คงต้องเลี้ยงหลานไปก่อน ในที่สุดหมู่บ้านตระกูลหยางได้ก่อตั้งขึ้น เฉิงคุณเป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน หมู่บ้านตระกูลหยางมีบริเวณกว้างใหญ่และเจริญรุ่งเรืองมาก คนงานในไร่ที่ตอนนี้กลายมาเป็นคนในหมู่บ้านตระกูลหยางแล้ว เหวินข่ายเองก็ช่วยงานเฉิงคุณอย่างไม่ขาดตกบกพร่องที่หุบเขาหนานซานไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงในด้านการแพทย์แต
หลังจากที่ลี่ถิงปวดท้องได้ไม่นานยายเฒ่าหมอตำแยและหนี่ฮวาพร้อมทั้งสาวใช้ในเรือนคอยช่วยอยู่ไม่ห่าง อยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาทั้งฟ้าร้องฟ้าผ่าทั้ง ๆ ที่ไม่มีวี่แววว่าฝนจะตกลงมาเหตุการณ์นี้ทำให้เฉิงคุณเป็นกังวลใจเป็นอย่างมากแต่ลูกชายทั้งสามนั้นบอกว่าไม่มีอะไร ขอท่านพ่ออย่าได้กังวล ในเวลาไม่นานเสียงทารกร้องไห้จ้าดังออกมาจากข้างในห้องพลันพายุฝนที่โหมกระหน่ำอยู่เมื่อสักครู่ก็หยุดลงเหมือนกับว่าไม่เคยมีพายุฝนเกิดขึ้นมาก่อน เรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านและคนบ้านตระกูลหยางไม่ได้ ยังไม่ทันหายตกใจ อยู่ ๆ ฟ้าก็ผ่าลงมาอีกครั้งนี้ไม่มีลมหรือพายุฝนแต่กลับมีสายฟ้าผ่าลงมานับไม่ถ้วนท่ามกลางสายฟ้าที่กระหน่ำลงมาเสียงเด็กทารกร้องไห้จ้าขึ้นมาอีกครั้งและครั้งนี้ก็เหมือนเดิมสายฟ้าที่กระหน่ำฟาดลงมาปานทัณฑ์สวรรค์ก็มิปาน พอเด็กทารกคลอดออกมาและส่งเสียงร้องไห้จ้าเหตุการณ์น่าสะพรึงเมื่อสักครู่ก็หายไปทันทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่เว้นแม้กระทั่งบรรดาเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ยังไม่ทันที่คนบ้านหยางจะได้ตั้งตัวครั้งนี้กลับมีนกจำนวนมากบินอยู่เหนือพื้นที่บ้านตระกูลหยางราวกับว่าพวกมันกำลังดีใจและแ
หลังจากที่ทั้งสองคนได้ตกลงนัดแนะเวลาเดินทางกลับบ้านในครั้งนี้แล้ว เป็นเวลากว่า 4 ปีที่พวกเขาจากบ้านมา ครั้งนี้ซูไคไม่ได้ตามกลับไปด้วยเพราะต้องดูแลในส่วนของกองกำลังลับการเดินทางครั้งนี้จึงมีเพียงต้าหลง เสี่ยวหลง และผู้ติดตามเท่านั้นส่วนองครักษ์เงานั้นต้าหลงได้สั่งให้ไปดูแลที่บ้านตระกูลหยางก่อนหน้านั้นแล้วจำนวน 50 นาย ตอนนี้หวังเต๋อคือมือขวาของต้าหลง เสิ่นหยางคือมือขวาของเสี่ยวหลงเสี่ยวอั่งเป่าและเสี่ยวกู่จื่อม้าทั้งสองตัวตอนนี้มันเติบโตขึ้นมาอย่างสง่างามสมเป็นม้าฝีเท้าดี ที่รู้ใจเจ้านายของมันมาก ตอนนี้พวกมันเองก็ดีใจเป็นอย่างมากที่จะได้กลับบ้านไปเจอพ่อแม่พี่น้องและฝูงของมัน“ท่านประมุขขอรับ เรื่องของฝากให้นายหญิงใหญ่ข้าเตรียมเอาไว้หมดแล้วขอรับ”“ดีมาก เจ้าส่งคนไปแจ้งที่หุบเขาหนานซานหรือยัง พี่ชายข้าว่ายังไงบ้าง”“ท่านประมุขชิงหลง บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีขอรับ เจอกันที่จุดนัดพบได้เลย”“อืม เจ้าไปเรียกประชุมผู้อาวุโสข้าจะไปแจ้งอาจารย์ปู่"“ขอรับ ท่านประมุข”หลังจากจัดการทุกอย่างที่หุบเขาเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนออกเดินทางกลับบ้านทันที เสี่ยวหลงพาคนติดตามมารอพี่ชายที่จุดนัดพบเมื่อต้าหลงมา
หลังจากผ่านพ้นงานแต่งงานอันแสนวุ่นวายของต้าเซิ้นไปได้เพียง 3 เดือน ก็มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อบรรดาภรรยาเหล่าต้าพร้อมใจกันคลอดลูกในวันเดียวกันยกเว้นแต่ภรรยาของต้าหวังที่คลอดไปก่อนหน้านั้นแล้วเฉิงคุณและคนงานในไร่ต่างวุ่นวายกันมากการที่แม่วัวทั้งสามตัวต่างคลอดลูกในวันและเวลาเดียวกันทำเอาเสี่ยวตั้นและสวี่คุณวิ่งวุ่นไม่แพ้ผู้เป็นพี่ชายและนายท่านส่วนพ่อวัวทั้งหลายก็พากันตื่นเต้นและยังคุยกันว่าใครจะได้ลูกชายหรือใครจะได้ลูกสาว ต้าหลางได้แต่มองบนใส่บรรดาเหล่าต้าเกอของมันจะตื่นเต้นอะไรนักหนากะอีแค่คลอดลูกได้ทีละตัวเนี่ย ต้าหลางนั้นใคร ๆ ก็มองว่ามันยังโสดไม่มีภรรยาแต่หารู้ไม่ว่าต้าหลางนั้นเก็บความลับของมันได้ดีมากไม่มีใครระแคะระคายเรื่องนี้เลยต้าหลางความจริงแล้วไม่ได้โสดสนิทขึ้นคานเหมือนที่ต้าเซิ้นปรามาสเอาไว้ ต้าหลางมีภรรยาแล้วอีกทั้งนางยังเป็นจ่าฝูงของหมาป่าขนเงินที่อยู่กลางป่าลึกและที่สำคัญนางยังให้กำเนิดลูกชายให้ต้าหลาง 11 ตัวตอนนี้ลูก ๆ ของมันมีอายุได้ 3 เดือนแล้ว ไม่แปลกที่มันจะมองบนใส่เหล่าต้าเกอของมัน หลังจากวุ่นวายมา 2 ชั่วยาม ภรรยาต้าฟง คลอดวัวตัวผู้ออกมา เช่นเดียว
เหวินข่ายให้หนี่ฮวาไปตามนายหญิงส่วนตัวเขารีบควบม้าเข้าเมืองเพื่อไปตามนายน้อยทันที ครั้งนี้ต้าเซิ้นทำเกินไปจริง ๆ ใครจะไปคิดว่าเจ้าลิงนี่ที่วัน ๆ เอาแต่อยู่โรงหมอและเข้าป่าหาสมุนไพรจะก่อเรื่องขึ้นได้ลี่ถิงเองก็ตกใจมากนางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่หนี่ฮวามาเรียก นางก็รีบพาลูกชายลูกสาวไปหาสามีที่ศาลาริมธารท้ายไร่ทันที“หนี่ฮวามีใครไปบอกน้องรองแล้วหรือยัง”“มีแล้วเจ้าค่ะ ข้าให้เสี่ยวตั้นไปเรียนนายน้อยแล้วเจ้าค่ะนายหญิง”“เจ้ารู้หรือไม่มีเรื่องอะไรกัน ต้าเซิ้นก่อเรื่องอะไรขึ้น ปกติข้าไม่เห็นว่าต้าเซิ้นจะเกเรเลยสักครั้ง”“ข้าเองก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ พี่เหวินข่ายบอกข้าให้มาเรียนนายหญิงส่วนเขาเข้าเมืองไปตามนายน้อยตามคำสั่งนายท่านเจ้าค่ะ”ลี่ถิงและลูก ๆ มาถึงศาลาริมธารท้ายไร่ ก็ตกใจกับฝูงลิงขนาดใหญ่ นางไม่รู้ว่ามีกี่ตัวกันแน่ แล้วมีตัวที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าฝูงนั่งจ้องต้าเซิ้นอยู่ไม่วางตาแต่ยังไม่กล้าลงมือต้าหลางอยู่ตรงกลางระหว่างฝูงลิง ต้าหวัง ต้าฟง เสี่ยวซี เสี่ยวเป่าและบรรดาภรรยาวัวมากันครบ ส่วนเมียของต้าหวังไม่ได้ออกมาจากคอกเพราะนางท้องแก่เต็มที“เกิดอะไรขึ้นท่านพี่ ลิงพวกนี้มาทำไมเจ้าคะ”
หลังจากที่เหล่าต้าทั้งหลายเข้าป่าเพื่อหาของป่าตามที่คุณชายระบุในจดหมายครบแล้ว เวลาก็ผ่านมาได้ 5 วันแล้วทุกอย่างเตรียมเรียบร้อย ถังหูลู่ 500 ไม้ เนื้อแห้งอีกหลาย 100 ชั่ง ลี่ถิงไม่รู้ว่าลูกชายทั้งสองต้องการของมากมายขนาดนี้ไปทำไม เหมือนกับว่าจะเอาไปเลี้ยงคนได้หลายสิบคนเลยทีเดียวแต่ลี่ถิงเองก็ไม่ได้สงสัยในตัวลูกชายทั้งสองนางยังเคารพในการตัดสินใจของลูกชายเสมอ ส่วนเฉิงคุณก็เอาผักดองแบบกิมจิมาจากร้านของฮั่นคุณเอาใส่รถม้าไปให้ลูกชายด้วยเพราะเขารู้ว่าลูกชายอย่างเสี่ยวหลงนั้นชอบมากส่วนคำขอที่ลูกชายได้ขอมานั้นเขาและภรรยาตกลงที่จะทำตามคำขอ แต่ต้องรอให้น้องชายน้องสาวมีอายุครบ 5 ขวบเสียก่อนต้าหลงและเสี่ยวหลงนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าหุบเขาหนานซาน หมอเทวดาอู๋จี้ผู้เป็นเจ้าหุบเขาเวลานี้ได้มีการพูดคุยกับทั้งสองคนเอาไว้แล้วและให้สองคนพี่น้องไปตกลงกันเอง เขาไม่ได้ระบุว่าใครขอเพียงเป็นหนึ่งในสองคนนี้ก็พอแล้ว ส่วนซูไคตอนนี้ไม่ว่าศิษย์หลานทั้งสองจะทำอะไรเขาก็เห็นดีเห็นงามไปหมดทุกเรื่อง และซูไคเป็นอีกคนที่ตามใจสองแฝดมาก เขาทำประหนึ่งว่าเด็กทั้งสองคนเป็นลูกของเขาเสียอ
หลังจากที่ลูกชายออกไปได้ไม่นานลี่ถิงเดินหันหลังกลับเข้าบ้าน เพื่อดูแลลูกสาวคนเล็กทันที ถึงแม้ว่าลูกทั้งสองจะไม่มีอะไรให้นางต้องเป็นห่วง แต่หัวอกคนเป็นแม่ย่อมรักลูกเสมอ สำหรับลี่ถิงแล้วนางรักลูกเท่ากันทุกคนวันนี้สามีของนางยังคงยุ่งกับการค้าอยู่ตลอดเวลา ฮั่นคุณเองก็กลายมาเป็นกำลังหลักเพื่อช่วยเหลือพี่ชายที่โรงหมอของสวี่คุณถือว่าไม่มีอะไรวุ่นวายนัก มีแค่ชาวบ้านเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เขาเองไม่ได้คิดอยากจะหาเงินกับโรงหมอ ที่เขาเปิดโรงหมอขึ้นในหมู่บ้านเช่นนี้เพราะต้องการช่วยเหลือชาวบ้าน ถ้าตอนนั้นที่หมู่บ้านของพวกเขามีหมออยู่ท่านแม่คงไม่จากไปเร็วขนาดนี้“พี่รอง วันนี้ไม่ไปโรงหมอหรือ”ฮั่นคุณที่เดินมาดูร้านผักของหลานชายก่อนที่เขาจะออกไปทำงานช่วยพี่ชายในเมืองเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าพี่ชายอีกคนของตัวเองกำลังสั่งให้คนงานขนผักและไข่ไก่มาเติม“เดี๋ยวไป แวะมาดูร้านให้เจ้าใหญ่ เจ้ารองน่ะ”“ขอรับ เช่นนั้นพี่รองก็ดูไปเถอะ ข้าไปช่วยพี่ใหญ่ก่อน ตอนนี้ร้านค้าในเมืองยุ่งมาก”“แล้วพี่สะใภ้ว่าอย่างไรบ้าง”“พี่สะใภ้บอกว่าต่อไปหากมีคู่ค้าคนไหนยินดีมารับผลผลิตที่หน้าไร่ พวกเรา
หลังจากวันที่หนิงฮวาพาครอบครัวย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเดิม ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาได้นับเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาลี่ถิงและสามีก็ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือนางกับสามีด้วยความเต็มใจกัวจื่อเหลียงลี่ถิงให้ไปฝึกงานกับจางอ้ายเทียนที่โรงเตี๊ยม ส่วนหนิงฮวานั้นลี่ถิงหางานอย่างอื่นให้นางทำที่บ้านจะได้ดูแลลูก ๆ ที่ยังเล็กอยู่ของนาง ด้วยความช่วยเหลือจากคนบ้านหยางทำให้หนิงฮวาและครอบครัวไม่ได้รับความลำบากมากมายอย่างที่คิดเอาไว้ หนิงฮวาย้อนคิดถึงอดีตหากว่าตอนนั้นนางร่วมมือกับท่านแม่ทำร้ายลี่ถิง นอกจากนางจะทำไม่สำเร็จแล้วนางยังจะได้มีชีวิตที่ดีอย่างเช่นทุกวันนี้อยู่หรือไม่ลี่ถิงกับเฉิงคุณนับว่าเป็นคนที่ดีมากหนิงฮวาได้แต่คิดว่านางต้องติดหนี้บุญคุณลี่ถิงอีกกี่ครั้ง เพราะลี่ถิงเป็นคนที่มีจิตใจดี หากว่าเป็นคนอื่นจะยอมให้อภัยและให้ความช่วยเหลือแก่นางหรือ เรื่องนี้หนิงฮวาย่อมกำชับสามีให้ทำงานด้วยความตั้งใจและซื่อสัตย์อย่าได้มีใจมักได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง ซึ่งนางเองก็ทราบดีว่าสามีของนางเองไม่ได้เป็นคนที่มีนิสัยแบบนั้น แต่นางเพียงต้องเตือนเขาเอาไว้แล้วก็มาถึงวันที่โรงหมอของสวี่คุณเปิดให้การรักษา ทุกอย่างดำเนินไ
อันหนิงฮวาพาสามีและลูกชายหญิงกลับมาถึงบ้านเดิมที่เมืองจินหลิง นางเองก็ไม่แน่ใจว่าบ้านของนางยังจะสามารถพักอาศัยอยู่หรือไม่ เพราะนางออกจากบ้านไป 8 ปีกว่า ๆเมื่อนางกลับมาถึงบ้าน ก็ต้องตกใจเพราะสภาพบ้านของนางไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะลี่ถิงคอยมาดูแลและซ่อมแซมให้อยู่เสมอ“ท่านพี่ถึงแล้วเจ้าค่ะ”"ถึงแล้วหรือ นี่มันดีมากเลย พี่ขอโทษนะฮวาเอ๋อร์ที่ไม่สามารถดูแลพวกเจ้าแม่ลูกให้อยู่อย่างสบายได้ ทำให้เจ้าต้องบากหน้ากลับบ้านเดิมมาทั้งอย่างนี้“ท่านพี่อย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ ดีแล้วที่พวกเราออกมาจากตรงนั้นเสียได้ หากเราไม่ออกมาชีวิตพวกเราแม่ลูกยิ่งจะแย่มากไปกว่านี้นะเจ้าคะ ท่านคิดว่าป้าสะใภ้ของท่านจะปล่อยให้พวกเราแม่ลูกมีชีวิตที่ดีหรือเจ้าคะ”“พี่เข้าใจแล้ว ต่อไปนี้คนพวกนั้นจะไม่สามารถมารังแกพวกเราได้อีก”“เข้าบ้านกันเถอะเจ้าค่ะ ลูก ๆ คงหิวแล้ว”“ท่านแม่นี่คือบ้านของเราหรือขอรับ”“ใช่แล้วลูก นี่คือบ้านของพวกเราต่อไปนี้เราจะอยู่กันที่นี่ ต่อไปนี้จะไม่มีใครมาทำร้ายพวกเจ้าได้อีก”“ใหญ่โตมากเลยขอรับ”หลังจากนั้นหนิงฮวาและสามีก็ช่วยกัน ทำความสะอาดบ้านและหุงหาอาหารให้กับตัวเองและลูก ๆ เมื่อก