ร้านอาหารหรูหราพร้อมกับเสียงเพลงคลาสสิกที่บรรเลงเบา ๆ มันควรจะสร้างบรรยากาศสงบและมีรสนิยม แต่สถานการณ์ในห้องรับรองกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ใบหม่อนนั่งอย่างอึดอัด เขาช็อกกับภาพที่เห็นตรงหน้า ชายหนุ่มที่เขาคาดหวังว่าจะแต่งงานด้วยไม่ใช่คนแบบที่เขาวาดฝันไว้เลย
คุณนุ หรือสีหนุ วสุธร ที่ปรากฏตัวตรงหน้าเขาแตกต่างจากคุณนันท์ราวฟ้ากับเหว
สีหนุเดินเข้ามาด้วยสภาพเหมือนคนไม่ได้อาบน้ำ ผมยาวกระเซอะกระเซิง เสื้อฮาวายสีสดใสที่ทับด้วยแจ็คเก็ตหนังสีดำเก่า ๆ ราวกับหนุ่มไบก์เกอร์หลงยุค เขาเดินเข้ามากลางห้องแล้วถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกอย่างไม่สนใจใคร
"เอาอาหารมาเยอะ ๆ เลย หิวชิบ" สีหนุสั่งเสียงดัง ไม่หันมองใครแม้แต่ครั้งเดียว ใบหม่อนรู้สึกเกร็งทันที
เขาเองก็อยากจะพาเงาะป่าไปถอดรูป อาบน้ำ ตัดผมให้เรียบร้อย แต่ดูแล้วนอกจากรูปลักษณ์ คำพูดคำจาก็กระโชกโฮกฮากแตกต่างกับผู้เป็นน้องโดนสิ้นเชิง
น่ากลัวอ่ะ
"ไม่ได้เจอพี่นุนานเลยนะครับ" นันท์พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มสุภาพเหมือนเคย แต่คำตอบที่ได้จากพี่ชายกลับทำให้บรรยากาศในห้องยิ่งตึงเครียดขึ้นไปอีก
"กูไม่ได้อยากเจอมึงหรอก" สีหนุตอบห้วน ๆ พร้อมกับตักอาหารเข้าปากราวกับไม่สนใจใครสักคน
ช็อก..ใบหม่อนช็อกไปอีกครั้งเมื่อเห็นการกินที่ดูไม่ห่วงภาพลักษณ์ใด ๆ สักนิด
"เรามาคุยเรื่องแต่งงานกันดีมั้ยครับพี่นุ" นันท์เอ่ยขึ้นอย่างสุภาพอีกครั้ง พยายามประคับประคองบทสนทนาให้เข้าประเด็น
"กูมาที่นี่เพราะจะมาแดกข้าวฟรี ไม่ได้มาฟังเรื่องไร้สาระจากคนเสแสร้งแบบมึง" สีหนุตอบพร้อมกับตักข้าวคำใหญ่ใส่ปากต่ออย่างไม่หยุดยั้ง
ช็อก..ใบหม่อนอึ้งแดกไปอีกหนึ่งช็อต
สายตาขอเขาเหลือบไปที่อาพิณที่พยายามรักษาสถานการณ์แล้วหันมาพูดกับหลานชายอย่างนุ่มนวล
"นุจ๊ะ รักษามารยาทหน่อยสิลูก นี่มันเป็นเรื่องสำคัญนะ"
"ผมเป็นวสุธรนอกคอก เป็นจุดด่างพร้อยของวสุธร ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในบริษัท มารยาทจะมีไปทำไมกันนักหนา" แต่คำตอบของสีหนุกลับทำให้ทุกคนเงียบสนิท
พิณธาราหน้าแห้งแต่ก็พยายามจะพูดเรื่องแต่งงานกับหลาชายคนโตขึ้นมาอีกครั้ง “นุ วันนี้เรามาคุยเรื่องการแต่งงานของนุกันนะ มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ "
สีหนุชะงักไปชั่วขณะก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ที่ผมมานี่เพราะจะบอกว่าผมไม่แต่ง เรื่องนี้มันไร้สาระสิ้นดี"
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นด้วยกับคุณนุ ใช่ มันไร้สาระจริง
"แต่พี่นุกำลังประสบเคราะห์นะครับ ดวงพี่ยิ่งไม่ค่อยดีเลย ถ้าไม่แต่งปีนี้ซินแสบอกว่าอาจจะถึงฆาต" นันท์พยายามอธิบายสถานการณ์อย่างจริงจัง
สีหนุหัวเราะเบา ๆ แต่เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ชั่วขณะหนึ่งเขาเหลือบตาไปมองซินแสร่างอวบที่พยายามทำตัวให้ลีบที่สุดหลังจากที่สีหนุปรากฏตัว
"ก็ปล่อยให้กูตายไปคนเดียวสิ ทำไมต้องมายุ่งกับกูนักหนา"
บรรยากาศในห้องเงียบงัน คำพูดของสีหนุทำให้ทุกคนในห้องตกอยู่ในความอึดอัด ใบหม่อนที่ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีได้แต่นั่งฟังอย่างระมัดระวัง ไม่คิดว่าการเจอกับว่าที่สามีครั้งแรกจะเป็นแบบนี้
พิณธาราถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่แฝงไปด้วยความห่วงใย
"อาพิณเป็นห่วงนุมากนะลูก อารักและเป็นนุมากจริง ๆ นะ อาทำใจไม่ได้หรอกถ้าเห็นเราเป็นอะไรไปโดยที่ไม่ทำอะไร" น้ำเสียงของผู้ใหญ่ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไป สีหนุที่เคยแสดงท่าทางแข็งกระด้างก็อ่อนลงเล็กน้อย
"อาไม่อยากให้เห็นหลานต้องเจอเรื่องร้าย ๆ อีกแล้ว รู้มั้ยว่าทุกครั้งที่นุเข้าโรงพยาบาลอาเจ็บปวดแค่ไหน ความเครียดมันสะสมทุกวันจนอาเริ่มป่วย ตอนนี้อาป่วยด้วยโรคหัวใจ ถ้าต้องเห็นนุตายไปต่อหน้าต่อตา อาต้องตายไปอีกคนแน่ ๆ " คุณพิณเอ่ยพร้อมกับตีบทเศร้าสะเทือนอารมณ์
ใบหม่อนยิ้มอ่อนมองการแสดงละครตรงหน้า
น้องค่ะ การแสดงถ้ามันเฟคมันดูออกนะคะ คุณพิณนี่นอกจากจะเล่นละครไม่เนียนแล้วยังเล่นบทเก่าอีก ไอ้พวกที่พ่อแม่ป่วยเป็นโรคหัวใจ บังคับให้ลูกแต่งงานมันตกยุคไปแล้ว ใครเชื่อก็โง่
ทันใดนั้น คุณนันท์ที่เคยสงบนิ่งกลับร้องห่มร้องไห้ทันที "พี่นุอย่าใจร้ายกับอาพิณเลยครับ"ใบหม่อนถึงกับตะลึงกับสกิลการตอแหลของสองอาหลาน"แต่งงานเถอะนะครับ พี่จะได้ไม่ต้องเจอเรื่องร้าย ๆ อีก" นันท์พยายามวิงวอนด้วยน้ำเสียงสะอื้นแบบปลอม ๆนับว่าเป็นบุญตาของใบหม่อนจริง ๆ ที่ได้มาเห็นคนแก่อายุสี่สิบกว่าสะอึกสะอื้นสีหนุส่ายหน้าไปมาอย่างหงุดหงิด เขารู้สึกว่าการมาพบกับน้องชายและอาของเขาในวันนี้มันไร้สาระสิ้นดี จนกระทั่งสายตาของเขาประสานเข้ากับใบหม่อน เด็กหนุ่มร่างเล็กที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา สีหนุเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนจะสงบลงในชั่วขณะ ดวงตากลมโตของใบหม่อนที่เต็มไปด้วยความสับสนคู่นั้นสะดุดใจเขาทันที“ใคร?”"นี่ใบหม่อนครับ คู่สมรสของพี่นุ" คุณนันท์แนะนำด้วยรอยยิ้มราวกับเมื่อครู่ไม่ได้สะอึกสะอื้นสีหนุหันไปพิจารณาหน้าของใบหม่อนอย่างละเอียด รู้สึกถึงความสวยโดดเด่นน่ามอง ท่าทางดูนอบน้อมเหมือนยอมรับชะตากรรม แต่ลึก ๆ แล้วสายตานั้นเหมือนเต็มไปด้วยความดื้อรั้น เหมือนมีคำด่าหลายล้านคำซ่อนอยู่สีหนุมองใบหม่อนนิ่ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา"อืม ตอแหลดีนะ เหมาะกับมึงมากกว่ามั้งนันท์"เอ้า กูอยู่เฉย ๆ
“ต้องอย่างนี้สินุ อาชื่นใจจริง” พิณธาราแทบจะกระโดดโลดเต้นเมื่อหลานชายผู้ดื้อรั้นและหาตัวยากตัดสินใจยินยอมแต่โดยดี“ไหนบอกว่าเป็นโรคหัวใจไงครับ อาดูแข็งแรงจังเลยนะ” พอโดนหลานนอกคอกทักเธอก็ค่อย ๆ นั่งลงช้า ๆ ด้วยท่าทางอ่อนแอแบบปลอม ๆ เหมือนเดิม สีหนุถึงกับส่ายหัวไปมากับครอบครัวของตนเอง ก่อนจะหันกลับมามองหน้าว่าที่ภรรยาของตน"แต่งก็ได้ แต่เธอต้องรู้นะ โดเรม่อน” ใบหม่อนคร้านจะแก้ชื่อของตัวเองเต็มที อยากเรียกอะไรก็เชิญ“ชีวิตฉันไม่ได้เรียบง่ายไฮโซแบบไอ้นันท์ ที่สำคัญ.. ไม่ต้องหวังจะได้เศษเสี้ยวความรักจากฉัน เพราะฉันไม่มีให้ เอาไง กล้ารึเปล่าต้องมาอยู่กับคนไร้ใจที่อันตรายแบบฉัน กลัวมั้ย"ฟังดูเบียว ๆ เหมือนพวกเด็กน้อยที่คลั่งหมาป่าเดียวดาย อย่างไรก็ตาม ใบหม่อนรู้ดีว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดขู่มันมีส่วนจริงใครจะอยากได้ความรัก เขาอยากได้เงินกันทั้งนั้นแหละ"ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าคุณแล้วจ้า" ใบหม่อนคิดในใจ...เดี๋ยวนะ เมื่อกี้กูไม่ได้คิดในใจนี่ว่า กูโพล่งออกไปเลยว๊ากกกกใบหม่อนถึงกับอ้าปากค้างทันทีที่รู้ว่าคำพูดนั้นหลุดออกจากความคิดของตน ทั้งโต๊ะเงียบกริบ นรภัทรกับพิณธารามองหน้ากันอย่างตกใจ ส่วนสีหนุ
ทุกก้าวของชีวิตคือการเลือกทางแยก และไม่ว่าใคร ก็ย่อมเลือก-เส้นทางที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่การเลือกนั้นจะสำคัญถึงขั้นชี้ชะตา บางครั้ง--หากเพียงก้าวพลาดไปเพียงครั้งเดียว ชีวิตอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เช่นเดียวกับเวลานี้…ณ สำนักงานเขตแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯใบหม่อน หรือ ภควัต หนุ่มน้อยวัย 25 ปี กำลังนั่งอยู่ในสำนักงานเขตที่ตกแต่งอย่างทันสมัย รายล้อมด้วยผู้คนมากมายที่ปะปนกันอย่างคึกคัก เสียงพูดคุยของผู้คนที่เดินสวนกันไปมา และแสงแดดที่สาดส่องผ่านกระจกทำให้สถานที่ดูมีชีวิตชีวา กลับไม่อาจทำให้ใจของเขารู้สึกอบอุ่นได้เลยสถานที่แห่งนี้ควรจะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสุข จากการเริ่มต้นชีวิตคู่ของหลาย ๆ คน ทว่ากลับกลายเป็นบรรยากาศที่อึมครึมและอึดอัดกดทับความรู้สึกของใบหม่อนจนเขาหายใจติดขัดใบหม่อนนั่งอยู่มุมหนึ่งของห้อง เขาเป็นคนรูปร่างเล็ก ผิวขาวเนียนละเอียดสูงประมาณ 174 เซนติเมตร ใบหน้าของเขาเรียวเล็ก ริมฝีปากบางที่แสดงถึงบุคลิกขี้เล่น ดูแล้วมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างเต็มเปี่ยม ผิวพรรณของเขาขาวสะอาดดูสุขภาพดี ทำให้เขาดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คนยามปกติแล้วดวงตากลมโตมีประกายซุกซนแฝงค
ถึงแม้สีหนุจะหล่อในแบบเซอร์ ๆ ที่หลายคนชื่นชอบ แต่สำหรับตัวใบหม่อนแล้ว เขากลับรู้สึกขัดตาและขัดใจไม่ชอบคนเซอร์ปากมอม เขาชอบพ่อใหญ่ใจดีแบบคุณนันท์ต่างหากโว้ย!แล้วดูสภาพ นี่กูจะมีผัวเป็นแฺฮกริด หรือว่าพี่โป่งหินเหล็กไฟวะเนี่ย แต่ดูจากท่าเดินแล้วขอฟันธงว่าเป็นอาจารย์แดงแหง ๆแม้ว่าจะเป็นทายาทของตระกูลใหญ่ แต่ตอนนี้สีหนุกลับไม่ได้มีอำนาจบริหารอะไรทั้งสิ้น หลายปีที่ผ่านมาไม่มีข่าวคราวตามหน้าสื่อว่าเขามุดหัวอยู่ที่ไหน แต่ใบหม่อนกล้าพนันได้เลยว่า ต้องไม่ใช่ที่ดี ๆ แน่นอน“เงียบไปเถอะครับคุณนุ” ใบหม่อนเอ่ยออกมาเบา ๆ ขณะที่สายตายังคงเหลือบไปมองว่าที่สามีตรงหน้า สภาพว่าที่คู่สมรสทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่ได้เต็มใจสักเท่าไหร่ ทั้งคู่รู้สึกเหมือนกำลังถูกบังคับให้เดินไปสู่ประตูวิวาห์อย่างไม่เต็มใจก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงของคุณพิณก็ขัดขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น “นายทะเบียนมาแล้ว เซ็นเลยจ้ะ เดี๋ยวจะเลยฤกษ์มงคลที่ซินแสให้มา” คุณพิณธาราผู้ผลักดันให้การแต่งงานนี้เกิดขึ้น เอ่ยเร่งเร้าอย่างยิ้มแย้มทั้งใบหม่อนและสีหนุต่างรู้ดีว่า ผู้ที่อยากให้พวกเขาแต่งงานกันมากที่สุดก็คือคุณพิณนี่แหละนาย
ก่อนหน้านั้น…เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากความสวยและความมั่นหน้าของใบหม่อนเองใบหม่อน ภควัต หนุ่มน้อยวัย 25 ปีที่เพิ่งเข้าสู่วัยหนุ่มเต็มตัว เขามีหน้าตาน่ารัก พูดจาอ่อนหวาน ใครได้พบก็อดเอ็นดูไม่ได้ โดยเฉพาะเหล่าลูกค้าที่ต่างเมตตาและช่วยให้เขามีกินมีใช้จนถึงทุกวันนี้ ถ้าถามว่าเขามีข้อดีอะไรบ้าง ก็คงบอกได้ว่า นอกจากหน้าตาและความปากดีแล้ว คงไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เพราะสิ่งที่ทำให้เขาพลิกชีวิตจากความล้มละลายของครอบครัวมาได้ ก็คือภาพลักษณ์ ทักษะทางภาษา และการใช้ปากทำงานอย่างชาญฉลาดบอกเลยว่าที่ผ่านมาเขามีการมีงานที่ดีทำ ไม่ได้เป็นนักขุดทองที่วาดฝันคิดจะจับผู้ชายรวย ๆ มาก่อนเห็นตัวเล็กสเปคเกย์รุกแบบนี้ แต่ใบหม่อนนั้นเป็นถึงที่ปรึกษาด้านการลงทุนในอสังหาของบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง หน้าที่ของเขาก็คือต้องดูแลลูกค้า VVIP ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนหรือเพื่ออยู่อาศัย บริษัท Astoria Real Estate Group มีโครงการมากมายให้เลือกสรร แต่แน่นอนว่าลูกค้าที่เขาดูแล ก็มักจะลงทุนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านอยู่แล้วส่วนใหญ่ลูกค้าของใบหม่อนจะเป็นคนต่างชาติ แต่คราวนี้กลับมีลูกค้าคนไทยระดับ VVIP ที่โดดเด่นที่สุด
คุณไซรัส หรือบิ๊กบอสของใบหม่อน เขาเป็นชาวต่างชาติที่สร้างอาณาจักร Astorial ที่อเมริกาจนมีสาขามากมายทั่วโลก ไซรัสเป็นบุคคลสำคัญอีกคนในชีวิตของเขา แม้จะเคยได้พูดคุยกันแค่ครั้งเดียว แต่ที่ใบหม่อนได้เข้ามาทำงานที่นี่ เพราะการชักชวนและผลักดันจากไซรัส ชายผู้ที่ครั้งหนึ่งได้ฉุดเขาขึ้นมาจากความมืดมิดในชีวิต หลังจากเกือบจะตัดสินใจดับชีวิตตัวเองเพราะปัญหาส่วนตัว เขานับถือไซรัสเป็นผู้มีพระคุณที่ทำให้เขาลุกขึ้นมามั่นหน้ามั่นโหนกได้จนถึงทุกวันนี้“พี่ก็พูดอะไรก็ไม่รู้ ยุให้ผมถวายตัวให้คุณไซรัส ถ้าผมได้เป็นเมียเจ้านาย สัญญาเลยว่าจะไล่พี่ออกเป็นคนแรก” ใบหม่อนแกล้งทำหน้าขึงขังพลางยักคิ้วให้พีระ“ไอ้...” พีระเกือบจะหยุมหัวมันแล้ว ถ้าไม่ติดว่าใบหม่อนจัดทรงผมเรียบร้อยแบบนี้ เขาคงได้กระชากสักทีโทษฐานกวนประสาทไม่เลิก“ไม่ต้องห่วงนะพี่พี ผมไม่มีความคิดจะปีนเตียงเจ้านายหรอก อีกอย่าง ผมรู้สึกได้ว่าคุณนันท์เป็นคนดีจริง ๆ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย ผมไม่เคยคบใครจริงจังมาก่อน แต่ครั้งนี้ผมอยากลองเปิดใจกับเขาดูสักครั้ง”พีระถอนหายใจเบา ๆ “เออ ขอให้ไม่นกแล้วกันนะ” เขาพูดพร้อมกับส่งสายตาหมั่นไส้ไปให้ “ขอให้ได้เป็นค
"ว่าแต่คุณใบหม่อนนอกจากทำงานกับ Astoria แล้ว ได้ทำอย่างอื่นด้วยรึเปล่าครับ" นันท์เอ่ยถาม"ผมก็มีลงทุนนิด ๆ หน่อย ๆ ครับ ปล่อยเงินไว้กับคริปโตบ้าง ฟอเร็กซ์บ้าง ให้เงินมันทำงานครับ" ใบหม่อนตอบอย่างคล่องแคล่ว เหมือนคุยกับลูกค้าทั่วไป"คุณใบหม่อนนี่ เป็นคนรุ่นใหม่ที่เก่งมากเลยนะครับ คนรุ่นผมนี่ตามเรื่องพวกนี้ไม่ทันเลย คุณเก่งและมีเสน่ห์มาก คนที่ได้อยู่ใกล้คุณคงตกหลุมรักได้ไม่ยาก" นันท์ยิ้มบาง ๆ พร้อมจิบไวน์แดง สายตาอบอุ่นของเขามองใบหม่อนไม่วางตานั่น ๆ ๆ เอาแหล่ว ๆ ๆ ๆ ผู้ชายชูสฉันแล้วแน่ ๆใบหม่อนคิดในใจขณะเอาผมทัดหูอย่างไม่รู้ตัว เขาแอบช้อนตาขึ้นมองนันท์ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปสักพัก ใบหม่อนเริ่มกระวนกระวายเอ้า เงียบอีกแล้ว สรุปยังไง เขาชอบเราหรือไม่ชอบเราวะแล้วตกลงนี่มันคือการเดทหรือมาคุยงานกันแน่ ใบหม่อนงงไปหมดแต่สิ่งเดียวที่ไม่งงคือเขาอยากได้คุณนันท์มาเป็นแด๊ดดี้ของฟ้าจนแทบรอไม่ไหว"จริง ๆ วันนี้ผมมีเรื่องบางอย่างอยากจะคุยกับคุณใบหม่อนครับ" นันท์ปรับท่าทางให้ดูจริงจังขึ้น ท่ามกลางเสียงเพลงโรแมนติกที่ดังคลอเบา ๆ และแสงไฟระยิบระยับจากตึกสูงด้านนอก บรรยากาศรอบตัวอบอวลไปด้วยความหวา
“ให้เธอได้กับเขา และจงโชคดี อย่ามีอะไรให้เสียใจ ส่วนตัวฉันจะลืม ว่าเคยร้องไห้ ลืมว่าเคยต้องเป็นใคร…ที่เธอไม่เอา”เสียงเพลงเศร้าคลอไปกับบรรยากาศคึกคักในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง คืนวันศุกร์แบบนี้ ยิ่งดึกคนก็ยิ่งแน่น ใบหม่อนแหกปากร้องเพลงไม่สนใจใคร หลังจากเริ่มเปิดเหล้าขวดที่สอง“มึงเมาเหมือนหมาเลยนะ กูนึกว่าคืนนี้เพื่อนกูจะมีผัวเสียอีก” มีนเอ่ยขึ้นมาก่อนจะหันไปสบตากับอิงฟ้าด้วยสายตาเอือมระอาหลังจากถูกนันท์ปฏิเสธรักแบบซึ่ง ๆ หน้า ใบหม่อนก็พุ่งตัวออกจากร้านอาหารฝรั่งเศสระดับมิชลินสองดาว มุ่งตรงสู่ร้านเหล้าแห่งนี้พร้อมกับสองเพื่อนซี้ที่หนีบมาร่วมเมาด้วยกันเมา เมาให้ลืมอายอิงฟ้า เพื่อนสาวสุดแซ่บของเขาเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ยอมรับในตัวเขาและไม่ซ้ำเติมคุณหนูตกยากเหมือนเพื่อนคนอื่น ด้วยความจริงใจและความปากดีจึงทำให้ทั้งคู่คบหากันมานานจวบจนปัจจุบันส่วนมีนนั้น มีนเป็นเพื่อนของอิงฟ้าอีกที แม้จะเพิ่งเริ่มสนิทกันไม่กี่ปี แต่ก็เป็นอีกคนที่เข้าใจใบหม่อนดีไม่แพ้ใคร“สภาพพพ กูงงไปเลยนะ ปกติเห็นแต่มึงหักอกคนอื่น เลิกกับคนคุยคนไหนก็ไม่เคยจะเศร้าสักครั้ง” อิงฟ้าพูดขึ้น
“ต้องอย่างนี้สินุ อาชื่นใจจริง” พิณธาราแทบจะกระโดดโลดเต้นเมื่อหลานชายผู้ดื้อรั้นและหาตัวยากตัดสินใจยินยอมแต่โดยดี“ไหนบอกว่าเป็นโรคหัวใจไงครับ อาดูแข็งแรงจังเลยนะ” พอโดนหลานนอกคอกทักเธอก็ค่อย ๆ นั่งลงช้า ๆ ด้วยท่าทางอ่อนแอแบบปลอม ๆ เหมือนเดิม สีหนุถึงกับส่ายหัวไปมากับครอบครัวของตนเอง ก่อนจะหันกลับมามองหน้าว่าที่ภรรยาของตน"แต่งก็ได้ แต่เธอต้องรู้นะ โดเรม่อน” ใบหม่อนคร้านจะแก้ชื่อของตัวเองเต็มที อยากเรียกอะไรก็เชิญ“ชีวิตฉันไม่ได้เรียบง่ายไฮโซแบบไอ้นันท์ ที่สำคัญ.. ไม่ต้องหวังจะได้เศษเสี้ยวความรักจากฉัน เพราะฉันไม่มีให้ เอาไง กล้ารึเปล่าต้องมาอยู่กับคนไร้ใจที่อันตรายแบบฉัน กลัวมั้ย"ฟังดูเบียว ๆ เหมือนพวกเด็กน้อยที่คลั่งหมาป่าเดียวดาย อย่างไรก็ตาม ใบหม่อนรู้ดีว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดขู่มันมีส่วนจริงใครจะอยากได้ความรัก เขาอยากได้เงินกันทั้งนั้นแหละ"ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าคุณแล้วจ้า" ใบหม่อนคิดในใจ...เดี๋ยวนะ เมื่อกี้กูไม่ได้คิดในใจนี่ว่า กูโพล่งออกไปเลยว๊ากกกกใบหม่อนถึงกับอ้าปากค้างทันทีที่รู้ว่าคำพูดนั้นหลุดออกจากความคิดของตน ทั้งโต๊ะเงียบกริบ นรภัทรกับพิณธารามองหน้ากันอย่างตกใจ ส่วนสีหนุ
ทันใดนั้น คุณนันท์ที่เคยสงบนิ่งกลับร้องห่มร้องไห้ทันที "พี่นุอย่าใจร้ายกับอาพิณเลยครับ"ใบหม่อนถึงกับตะลึงกับสกิลการตอแหลของสองอาหลาน"แต่งงานเถอะนะครับ พี่จะได้ไม่ต้องเจอเรื่องร้าย ๆ อีก" นันท์พยายามวิงวอนด้วยน้ำเสียงสะอื้นแบบปลอม ๆนับว่าเป็นบุญตาของใบหม่อนจริง ๆ ที่ได้มาเห็นคนแก่อายุสี่สิบกว่าสะอึกสะอื้นสีหนุส่ายหน้าไปมาอย่างหงุดหงิด เขารู้สึกว่าการมาพบกับน้องชายและอาของเขาในวันนี้มันไร้สาระสิ้นดี จนกระทั่งสายตาของเขาประสานเข้ากับใบหม่อน เด็กหนุ่มร่างเล็กที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา สีหนุเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนจะสงบลงในชั่วขณะ ดวงตากลมโตของใบหม่อนที่เต็มไปด้วยความสับสนคู่นั้นสะดุดใจเขาทันที“ใคร?”"นี่ใบหม่อนครับ คู่สมรสของพี่นุ" คุณนันท์แนะนำด้วยรอยยิ้มราวกับเมื่อครู่ไม่ได้สะอึกสะอื้นสีหนุหันไปพิจารณาหน้าของใบหม่อนอย่างละเอียด รู้สึกถึงความสวยโดดเด่นน่ามอง ท่าทางดูนอบน้อมเหมือนยอมรับชะตากรรม แต่ลึก ๆ แล้วสายตานั้นเหมือนเต็มไปด้วยความดื้อรั้น เหมือนมีคำด่าหลายล้านคำซ่อนอยู่สีหนุมองใบหม่อนนิ่ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา"อืม ตอแหลดีนะ เหมาะกับมึงมากกว่ามั้งนันท์"เอ้า กูอยู่เฉย ๆ
ร้านอาหารหรูหราพร้อมกับเสียงเพลงคลาสสิกที่บรรเลงเบา ๆ มันควรจะสร้างบรรยากาศสงบและมีรสนิยม แต่สถานการณ์ในห้องรับรองกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ใบหม่อนนั่งอย่างอึดอัด เขาช็อกกับภาพที่เห็นตรงหน้า ชายหนุ่มที่เขาคาดหวังว่าจะแต่งงานด้วยไม่ใช่คนแบบที่เขาวาดฝันไว้เลยคุณนุ หรือสีหนุ วสุธร ที่ปรากฏตัวตรงหน้าเขาแตกต่างจากคุณนันท์ราวฟ้ากับเหวสีหนุเดินเข้ามาด้วยสภาพเหมือนคนไม่ได้อาบน้ำ ผมยาวกระเซอะกระเซิง เสื้อฮาวายสีสดใสที่ทับด้วยแจ็คเก็ตหนังสีดำเก่า ๆ ราวกับหนุ่มไบก์เกอร์หลงยุค เขาเดินเข้ามากลางห้องแล้วถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกอย่างไม่สนใจใคร"เอาอาหารมาเยอะ ๆ เลย หิวชิบ" สีหนุสั่งเสียงดัง ไม่หันมองใครแม้แต่ครั้งเดียว ใบหม่อนรู้สึกเกร็งทันทีเขาเองก็อยากจะพาเงาะป่าไปถอดรูป อาบน้ำ ตัดผมให้เรียบร้อย แต่ดูแล้วนอกจากรูปลักษณ์ คำพูดคำจาก็กระโชกโฮกฮากแตกต่างกับผู้เป็นน้องโดนสิ้นเชิงน่ากลัวอ่ะ"ไม่ได้เจอพี่นุนานเลยนะครับ" นันท์พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มสุภาพเหมือนเคย แต่คำตอบที่ได้จากพี่ชายกลับทำให้บรรยากาศในห้องยิ่งตึงเครียดขึ้นไปอีก"กูไม่ได้อยากเจอมึงหรอก" สีหนุตอบห้วน ๆ พร้อมกับตักอาหารเข้าปากราวกับไม่สนใจใครส
ใบหม่อนรู้สึกถึงแรงกดดันที่ค่อย ๆ ถาโถมเข้ามาจากทั้งสองคน คุณนันท์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณใบหม่อน ช่วยพวกเราเถอะครับ นอกจากเงินยี่สิบล้านที่ผมจะโอนให้ทันทีหลังจดทะเบียนสมรสแล้ว ผมจะให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนอีกเดือนละสามแสน ตลอดเวลาที่คุณเป็นภรรยาของพี่นุ ช่วยพวกเราเถอะครับ”ใบหม่อนนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ไม่ เขาไม่ได้กำลังซาบซึ้งกับฉากเว้าวอนของคุณพิณและคุณนันท์ตรงหน้า แต่กำลังบวกเลขอยู่ต่างหากสามแสนคูณสิบสองได้สามล้านหก บวกกับยี่สิบ เป็นยี่สิบสามล้านหกแสนทำงานทั้งชีวิตไม่รู้เมื่อไหร่จะเก็บเงินได้ขนาดนี้ ดีไม่ดีผัวแก่คนนี้ดวงซวยหนักตายกะทันหันขึ้นมา ทรัพย์สมบัติก็จะตกเป็นของเมียในนามแบบเขาด้วยสินะนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าไม่น้อยใบหม่อนเหลือบสายตาไปมองคุณนันท์ หนุ่มหล่อมากเสน่ห์ทรงแด๊ดดี้ที่เคยขยี้ใจเขาได้สักครั้ง หากสามีที่เขาต้องแต่งงานด้วยเป็นฝาแฝดของคุณนันท์ หน้าตาก็คงไม่ต่างกันมากนักใครไม่เอาก็คงจะโง่แล้ว ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งผัวตรงสเปค นี่มันคือโอกาสทองที่หาไม่ได้ง่าย ๆในใจของเขากำลังคิดแผนล้ำลึก ใบหม่อนสัญญาเลยว่าจะเป็นเมียให้ดีที่สุด จะไม่ดื้อ จะทำตัวน่า
“อาคุณพิณ อั๊วะเอาดวงชะตาของอาหนูใบหม่อนมาตรวจดูแล้ว” ซินแสเอี๊ยงกล่าวเสียงนุ่ม “ดวงของเขามีส่วนคล้ายกับอาคุณนุ ขึ้นสุดลงสุด แต่สามารถอยู่รอดด้วยสติปัญญาของตนเอง”เดี๋ยวนะ แล้วไปเอาดวงชะตาของเขามาจากไหน ใครอนุญาตใบหม่อนตวัดสายตามามองทางอดีตขวัญใจอย่างคุณนันท์ด้วยสายตาหงุดหงิด ใจคอไม่คิดจะขอกันเลยเหรอ แล้วเรื่องดวงมันมาเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบคนบ้านนี้งมงายกันจริง ๆ"ดวงชะตาของอาคุณหนูใบหม่อนนี้บ่งบอกชัดเจนเลยว่าเจ้าชะตาเป็นคนมีรูปเป็นทรัพย์ ใครเห็นก็ต้องตาต้องใจ มีเสน่ห์เหลือร้าย แถมยังมีสติปัญญาเฉียบแหลม พลิกวิกฤตเป็นโอกาส จิตใจเด็ดเดี่ยวไม่ย่อท้อ" ซินแสเอี๊ยงทำนายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอ่าา นับว่าเป็นซินแสที่ดูดวงชะตาได้แม่นยำจริง ๆถ้าเป็นแบบนี้ใบหม่อนจะถือว่าไม่งมงายก็แล้วกัน"ดีจริง ๆ เลยค่ะ แบบนี้ดวงของใบหม่อน เข้าคู่กับดวงของตานุมั้ยคะ? " คุณพิณถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น"เข้าคู่สมพงษ์เลยครับ หนึ่งในร้อยทีเดียว" ซินแสตอบด้วยความมั่นใจ "ชะตาของอาคุณนุเจอวิบากกรรม อาคุณหนูใบหม่อนนี่แหละจะมาช่วยเสริมดวงและค้ำยันชะตาของอาคุณนุ ถ้าแต่งงานกันได้ครบหนึ่งปี อาคุณนุรอดตายแน่นอน"ใบหม่อนขมวดคิ
สองวันต่อมา ใบหม่อนแต่งตัวอย่างเรียบร้อยเป็นทางการไปพบกับคุณนันท์อีกครั้งตามที่นัดไว้ คราวนี้แน่นอนว่ามันไม่ใช่เดท แต่เป็นการเจรจาธุรกิจสำคัญ ธุรกิจที่เขาต้องเอาความโสดของตัวเองแลกกับเงิน 20 ล้านสถานที่นัดพบคือร้านอาหารหรู Fine dining เช่นเดิม พอเขามาถึงก็เห็นคุณนันท์ยืนรออยู่พร้อมรอยยิ้มกว้างสว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์ ความหล่อเหลาที่อาบเสน่ห์ในแบบฉบับแด๊ดดี้ ยังคงมีผลต่อหัวใจของใบหม่อน แม้ว่าจะถูกหักอกมาแล้วก็ตามหึ...ไม่รักไม่ต้องมาแคร์ ไม่ต้องมาดีกับฉัน“คุณใบหม่อนครับ ผมดีใจมากเลยที่คุณมาวันนี้” เสียงของนันท์ยังคงนุ่มนวลสุภาพตามแบบฉบับ ใบหม่อนพยายามทำใจให้เข้มแข็ง แต่อีกฝ่ายกลับมีน้ำเสียงที่อ่อนโยนจนน่าอึดอัดใจ ราวกับย้ำเตือนให้เขาจำเรื่องราวเมื่อคืนที่เขาเพิ่งถูกปฏิเสธไปดวงตาของเขายังคงบวมช้ำจากการร้องไห้เมื่อคืนอยู่เลย ให้ตายเถอะ อย่ามาทำดีใส่กันอีกเลย“เข้าไปคุยกันในห้องเถอะครับ ทุกคนรออยู่” นันท์กล่าวด้วยท่าทีให้เกียรติ พร้อมกับนำทางใบหม่อนไปยังห้องรับรองส่วนตัวเมื่อเปิดประตูเข้ามา ใบหม่อนก็พบว่ามีอีกสองคนรออยู่ในห้องแล้ว“ผมขอแนะนำให้คุณใบหม่อนรู้จักครับ นี่คือคุณอาพิณ อาของ
ราวกับต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาได้รับน้ำชุ่มฉ่ำ ในช่วงบ่ายของวันนี้ คนที่เพิ่งสูญเงินไปเป็นล้านกำลังนั่งสุมหัวกับเพื่อนอีกสองคนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเด็กน้อยตื่นเต้นกับการค้นหาข้อมูลสำคัญ“ไอ้คนที่หักอกชื่ออะไรนะ นรภัทร วสุธร ใช่มั้ย นี่ ๆ ๆ ข้อมูลขึ้นแล้ว โอ้โห รวยฉิบหาย เป็นประธานบริษัทด้วย” อิงฟ้าขึ้นหลังจากที่ค้นหาข้อมูลในกูเกิ้ลให้กับเพื่อนสนิท ตามคติที่ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ในเมื่อเพื่อนสนิทตั้งใจจะถวายตัวแลกเงินแล้ว เพื่อนก็ย่อมต้องช่วยเพื่อนให้เต็มที่“มึงแน่ใจนะว่าจะไปแต่งกับพี่ชายเขา พวกคนรวย ๆ ชีวิตมันซับซ้อนนะ ระวังจะซวย” มีนเอ่ยแทรกขึ้นด้วยความห่วงใยอิงฟ้ารีบโต้ตอบทันที “อู๊ย คิดมากไปแล้วค่ะ ถ้าเป็นกูมีคนมาเสนอเงินให้ตั้งยี่สิบล้านกูแพ็คกระเป๋าย้ายบ้านไปอยู่ด้วยแล้วค่ะ โลกนี้มันหมุนด้วยเงิน จริงป่ะใบหม่อน” ใบหม่อนทำหน้าครุ่นคิด หัวใจเต้นแรงด้วยความลังเล ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบา ๆ “กูก็ยังไม่แน่ใจหรอก เลยต้องมาหาข้อมูลก่อนนี่ไงว่า ว่าที่ผัวกูมันเป็นใครกันแน่ แล้วทำไมต้องมาแต่งงานในนามกับกูด้วย”อิงฟ้าคลิกหน้าจอเร็วปรื๋อเหมือนนักสืบผู้ชำนาญ ไม่นานก็พบข้อมูลที่ต้องการ
เฮือก!! ใบหม่อนสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เขามองซ้ายมองขวาก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงในคอนโดขนาดกลางของตัวเอง คอนโดที่เก็บเงินซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตน เวลานี้เป็นตอนเช้าแล้วใบหม่อนรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ก่อนจะเห็นว่ามีนกำลังนั่งอยู่ไม่ไกลจากเตียง มองมาทางเขาด้วยสายตากึ่งเป็นห่วงกึ่งเอือมระอา“แม่ร่วง!!” ใบหม่อนสะดุ้งตื่นพลางผงะไปเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างงุนงง“อะไรของมึง กูตกใจหมด” มีนโวยด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า“กูสิต้องตกใจที่มึงมาจ้องหน้าแบบนี้” ใบหม่อนวีนกลับทันทีอย่างไม่ยอมแพ้“เหอะ กูแค่จะดูว่ามึงตายรึยังเฉย ๆ” มีนตอบกลับด้วยท่าทีขำ ๆ แต่ก็อดห่วงเพื่อนไม่ได้ “ว่าแต่มึงโอเครึยัง”“ไม่ ไม่โอเค เมื่อกี้กูฝันร้ายมาก กูฝันว่าเงินเก็บกูทั้งหมดแม่งโดนแชร์ลูกโซ่เชิดไปหมดแล้ว น่ากลัวฉิบหาย” เขาพูดพลางเอามือลูบหน้าอก คล้ายพยายามจะปลอบใจตัวเองที่ยังไม่หายช็อกจากฝันร้าย“ไม่จ้ะเพื่อน มึงไม่ได้ฝัน” มีนถอนหายใจยาว มองเพื่อนสนิทด้วยสายตาเวทนา “เงินทองเสียไปแล้วก็หาใหม่ได้ มึงอย่าคิดมาก หน้าที่การงานมึงก็ดี เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อย แจ้งความไว้ก่อน เผื่อจับตัวต้นเรื่องได้ จะได
ตอนนี้ใบหม่อนทั้งเสียหน้าและอับอาย แต่ดีที่โปรเจกต์ของคุณนันท์จบไปเรียบร้อยแล้ว เท่ากับว่าอีกฝ่ายคงไม่โผล่หน้ามาให้เขาอายซ้ำอีกกูทำไปได้ยังไงวะ กล้าไปสารภาพรักต่อหน้าคุณนันท์ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น นอกจากเขาไม่เอาแล้วยังโยนไปให้พี่ชายด้วย เห็นแบบนี้ใบหม่อนก็มีศักดิ์ศรีนะ ไม่ใช่ว่าจะคว้าใครก็ได้ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่โสดมานานขนาดนี้“เชี่ยยยยย เวรแล้วมึง” อิงฟ้าร้องลั่น สีหน้าซีดเซียว ขณะก้มมองโทรศัพท์ด้วยท่าทางวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม“เกิดอะไรขึ้นวะ” มีนถามด้วยความงง“ข่าวเพิ่งออก ไอ้ฟอเร็กซ์ที่กูลงทุนดันเป็นแชร์ลูกโซ่ ตำรวจแม่งรวบตัวการไปแล้ว แต่มีคนหอบเงินหนีไปได้สามคน” อิงฟ้าพูดออกมาอย่างช็อก ๆ ขณะจิ้มโทรศัพท์เข้าไปดูเว็บไซต์ของฟอเร็กซ์อีกครั้ง“มึง…เว็บปิดแล้วว่ะ ผู้เสียหายเป็นพัน ยอดเงินรวมกันเป็นพันล้าน กูจะเป็นลม เงินกูตั้งหกหมื่นเลยนะเว้ย!” อิงฟ้าแทบวีนแตกกลางร้านเหล้า“กูจะไปแจ้งความ พวกมึงมากับกูเลย” อิงฟ้าเอ่ยเสียงแข็ง ทว่าพอหันไปมองใบหม่อนที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ เธอก็ต้องเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“มึงเป็นอะไรไป อกหักจนผีเข้าเหรอใบหม่อน”ใบหม่อนยืนนิ่ง ก่อนจะตอบเสียงแผ่ว “มึง... กูก็ล