ฉันเดินลงจากชั้นสองของที่พักด้วยความเร่งรีบนิดนึงเพราะวันนี้ฉันต้องไปทำงาน และฉันไม่มีรถเพราะรถยังอยู่ที่อู่ ก็ใช่ รถของฉันที่โดนเปลี่ยนเครื่องไปนั่นแหละ ตอนนี้ช่างคนนั้นกำลังติดต่อหาเครื่องที่ดีกว่ามาใส่ให้ฉันอยู่ และเพราะฉันไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินมากเท่าไหร่ ฉันก็เลยรับงานเพิ่มด้วยการร้องเพลง ซึ่งจริงๆฉันไม่ใช่นักร้องประจำในวงแล้ว ก็ใช่ ฉันเคยเป็นนักร้องอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ฉันก็ออกมาทำธุรกิจขายเสื้อผ้าและตอนนี้กำลังมีแพลนเสื้อผ้าแบรนด์ของตัวเองด้วย แต่ว่าวันนี้น่ะนักร้องในวงป่วย ทางวงก็เลยขอให้ฉันไปช่วยแบบกระทันหัน
ส่วนการเอาเรื่องที่อู่เก่านั้น ฉันไปจัดการมาแล้วนะ แต่มันดันทำอะไรไม่ได้เลย เพราะอู่ไม่ยอมรับและฉันไม่มีหลักฐานอะไรนอกจากใบเสร็จรับเงิน ซึ่งจริงๆมันใช้เป็นหลักฐานได้ใช่ไหมล่ะ แต่อู่นั้นก็ถือว่าหัวหมออยู่ พวกมันยืนยันท่าเดียวว่าไม่ได้ทำ และถ้าฉันมีหลักฐานว่าเครื่องรถเครื่องเดิมไม่ใช่ตัวนี้ก็ให้เอามายืนยันและแจ้งตำรวจจับได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่มี เพราะรถคันนี้ฉันซื้อต่อมาจากลุงแถวบ้านที่พาครอบครัวย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดและฉันติดต่อลุงเขาไม่ได้แล้ว ก็นั่นแหละ ฉันคงต้องยอมเสียค่าโง่และปล่อยให้เวรกรรมตามทันพวกมันแทน ซึ่งฉันก็หวังว่าจะมีวันนั้น "ลลิส จะไปไหนน่ะ?" เสียงแว่วๆของพี่สาวฉันที่โผล่หน้าออกมาจากโซนรับแขกชั้นล่างถามขึ้น ฉันที่หันไปมองแค่แว่บเดียวแล้วก็หันกลับมาคว้ารองเท้าใส่ "ยัวร์โซน" ฉันตอบไปสั้นๆ "อ้าว วันนี้ไม่ว่างหรอกเหรอ" "งานด่วนอ่ะพี่อัญ" ฉันตอบอีก "อ้าว ทำไงดีล่ะ น้องมันพาเพื่อนมาสักซะด้วย" "ทำไมไม่โทรมาก่อน" "มันโทรมาแล้ว แต่พี่บอกว่าว่าง" "เอาไว้วันหลังได้มั้ย หรือไม่งั้นก็ให้คุยกับเฮียโจก็ได้ ลิสไม่ว่างจริงๆ" ฉันลุกขึ้นเมื่อใส่รองเท้าเสร็จพลางก้าวเท้าออกไปจากบ้านทันทีเพราะลุงแท็กซี่คนเก่าที่ฉันขอเบอร์ติดต่อไว้มารอรับฉันแล้ว "ฝากขอโทษลูกค้าด้วยนะ" พูดจบฉันก็วิ่งออกมา ได้ยินเสียงพี่สาวคนเดียวของฉันรับปากเออออไปแบบงงๆ ฟึ่บ~ ฉันขึ้นมานั่งบนรถแท็กซี่และปิดประตูพลางหันไปมองที่พักของตัวเอง ที่พักของฉันที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมคล้ายอาคารพาณิชย์ เป็นตึกเดี่ยวมีสองชั้นและมีดาดฟ้า ชั้นบนมีสองห้องเป็นที่พักของฉันหนึ่งห้องกับพี่สาวและพี่เขยอีกหนึ่งห้อง ส่วนชั้นล่างแบ่งเป็นส่วนหนึ่งเอาไว้รับแขก มีครัวและโต๊ะอาหารเล็กๆ ส่วนอีกโซนหนึ่งเป็นห้องที่มีผ้าม่านสีดำสนิท เป็นโซนที่ฉันเอาไว้ทำงาน อ้อ ฉันรับสักลายด้วยน่ะ มันเป็นอีกอาชีพเสริมของฉัน ฉันเห็นผู้ชายสามคนเดินออกมาจากประตูหน้า คนหนึ่งเป็นคนที่ฉันรู้จักเพราะเขาเคยมาสักกับฉัน ส่วนอีกคนก็พอจะจำได้ลางๆว่าเคยมาด้วยกัน และคนสุดท้ายที่เดินออกมาคนหลังสุด เป็นผู้ชายร่างสูง ใส่เสื้อยืดสีดำด้านในและเสื้อยีนส์แขนยาวทับด้านนอก กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มไม่ได้มีสีหน้าหงุดหงิดอะไร เขามีสไตล์เท่ๆและรอยยิ้มที่น่าหลงไหล ฉันนิ่งไปชั่วครู่เมื่อได้เห็นใบหน้าของเขา... *YourZone Pub "ลลิส" "คะ?" ฉันหันไปด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงพี่หนึ่งเรียก พี่หนึ่งเป็นเจ้าของวงที่ตามให้ฉันมาร้องเพลงไงล่ะ คน ลงของเขาจะสลับกันไปร้องเพลงตามผับบาร์ต่างๆ ผับประจำซึ่งเป็นที่ใหม่ที่เพิ่งจะดีลกันได้ก็คือยัวร์โซนนี่แหละ อาทิตย์นึงจะมาสองครั้ง แล้วแต่ตารางว่าจะมาวันไหน แล้วก็มีเดินสายไปตามที่ต่างๆอีกบ้าง ทีนี้ก็ตามวันว่างของแต่ละคนนั่นแหละ ส่วนฉัน ฉันแค่คิดว่าต้องหารายได้เพิ่ม งานหลักของฉันคือไลฟ์สดขายของออนไลน์ ก็จะเป็นเสื้อผ้าและอาจมีของอื่นๆบ้าง ฉันทำงานค่อนข้างเยอะเพราะอยากจะช่วยจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายอื่นๆเกี่ยวกับตัวเอง อีกส่วนหนึ่งคือเก็บเพื่ออนาคต ส่วนพี่สาวของฉันก็จะขายเสื้อผ้าตามตลาดนัดต่างๆ ทำอาหารตามสั่งหรือจัดอาหารตามงานจัดเลี้ยง ช่วยกันแพคของส่งน่ะ "ขอบใจมากเลยนะที่มาให้พี่วันนี้" พี่หนึ่งคว้ามือฉันไปจับตามมาด้วยคำขอบอกขอบใจ ฉันแสยะยิ้มให้เขา "ไม่เป็นไรค่ะ ลิสมาลิสก็ได้เงิน ไม่ได้มาฟรีๆสักหน่อย" "แต่ก็นั่นแหละ พี่ก็กลัวจะไปรบกวนอะไรลิส" เขาพูดอีกพลางลูบฝ่ามือฉันอย่างปลอบโยน "ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันตอบพลางหลุบตามองฝ่ามือของตัวเอง "ลิสขอตัวไปห้องน้ำนะคะ พี่...ปล่อยมือลิสเนอะ" ฉันช้อนสายตามองเขา เขายิ้มให้ฉันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะค่อยๆคลายมือที่จับมือฉันให้เป็นอิสระ ฉันยกยิ้มให้เขาอีกครั้งก่อนจะรีบเดินเลี่ยงออกจากตรงนี้ทันที "ลลิส!" ขวับ~ ฉันชะงักและหันไปตามเสียงเรียกที่ดังมากจนทำให้สะดุ้งได้ "แกจะเสียงดังทำไมวี่" ฉันถลึงตาใส่วีวี่เพื่อนสนิทของฉัน วันนี้ยัยนี่ตามมาดูฉันทำงานด้วย เอาจริงๆมันก็คงอยากจะมาเที่ยวนั่นแหละ "ฉันนึกว่าแกจะไม่มาซะแล้ว มองหาไม่เจอ แล้วนี่แกมาไงอ่ะ" "ลุงแท็กซี่คนเมื่อวานนั่นแหละ" ฉันตอบ "ดีเนอะ มีรถส่วนตัวแล้ว" ยัยวีวี่กระแซะไหล่ฉันแล้วพูดต่อ "แต่จะดีกว่านี้ถ้าเป็นปิ้กอัพสีดำไม่ใช่เขียวเหลืองและคนขับของแกก็เป็นถึงเจ้าของอู่คนนั้นน่ะ" อ้อ ลืมบอกใช่ไหม ว่าฉันก็เพิ่งรู้ตอนที่ไปถึงอู่เหมือนกันนะ ว่าเขาน่ะ เป็นเจ้าของอู่นี้เอง ถึงว่าสิ ดูเก่งกาจเชี่ยวชาญเรื่องซ่อมรถทั้งๆที่ดูหน้าตาท่าทางหรืออายุอานามก็น่าจะพอๆกับฉัน หรือบางทีอาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ แต่ก็นะ อายุแค่ยี่สิบต้นๆก็มีกิจการเป็นของตัวเองซะแล้ว เห็นแล้วก็แอบอิจฉาเหมือนกัน "แล้วสรุปเขาชื่ออะไร รู้ชื่อป่ะ" ส่วนที่ยัยวีวี่มาซอกแซกฉันอยู่เนี่ย เพราะเมื่อวานมันรอดูไลฟ์สดฉันอยู่ เมื่อไลฟ์จบมันก็โทรมา ฉันก็เลยได้เล่าให้มันฟัง แต่ก็ยังไม่ทันได้เล่าอะไรมากมายแบตฉันก็จะหมดและฉันต้องตอบแชทลูกค้าอีก ก็เลยวางสายก่อน "ไม่รู้ รู้แต่ว่าเป็นเจ้าของอู่นั่นแหละ ได้ยินพวกลูกน้องเรียกแค่เฮียๆ" "อ้าว แล้วทำไมแกไม่ถาม มารยาทไงแก เขาอุตส่าห์ช่วย ก็น่าจะทักทายกันบ้าง" ฉันมองหน้าเพื่อนอย่างรู้ทัน "ทักทายแล้วไงต่อ" "ก็...อาจจะได้สานต่อ เจ้าของอู่กับคาร์แคร์เลยนะแก มีกิจการส่วนตัว สำหรับฉันแค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องมาทำงานงกๆแบบนี้ทุกวัน" ฉันส่ายหน้าพลางผลักหัวมันทันที "แกจะให้ฉันเกาะผู้ชายกินหรือไง" "ก็ไม่ถึงขนาดนั้น ว่าแต่ แกได้เบอร์มาป่ะ" "ได้" "จริงอ่ะ เนี่ย บางทีเขาอาจจะชอบแกก็ได้ถึงให้เบอร์อ่ะ" "เบอร์อู่ย่ะ เขาก็ให้ลูกค้าทุกคนมั้ย เนี่ยฉันก็ต้องให้เบอร์ตัวเองเพื่อเอาไว้ติดต่อ แกนี่มโนนะวีวี่" "ว่าแต่ เขาหล่อมั้ยอ่ะ อยากเห็นหน้า วันไปรับรถพาฉันไปด้วยนะ" "เออๆ" "แล้ว..." "พอ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว" "แกอ่ะ" "ฉันจะไปห้องน้ำ เดี๋ยวต้องเตรียมร้องเพลงแล้ว" "เห้อ เวลานี่มันไวจริงๆ" "อย่าบ่นน่า แล้วก็ห้ามเมามากนะ เน้นว่าห้ามเมา ฉันไม่มีรถขนส่งแกถึงบ้านนะ ปล่อยข้างทางจริงๆด้วย" "จ้า ทราบแล้วจ้าาา" พูดจบฉันกับวีวี่ก็พากันเดินไปที่ห้องน้ำโดยที่ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องเขาอีก จริงๆแล้วฉันได้ยินพวกลูกน้องที่เขาตามให้มาช่วยลากรถเรียกเขาว่าเฮียก็จริงนะ แต่ตอนที่นั่งรถแท็กซี่มาน่ะ ลุงคนขับเม้าท์ให้ฉันฟังเยอะแยะ แต่ฉันดันไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ แต่ก็พอจะได้ยินลุงพูดชื่อเขาเหมือนกันนั่นแหละ... สวบ~ หลังจากอยู่ในห้องน้ำพักนึง ฉันก็เดินกลับมาในจุดที่จัดเอาไว้ให้พักสำหรับนักร้อง นักดนตรี และฉันก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแผ่นหลังของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนคุยกับพี่หนึ่งและพี่ๆในวงดนตรีอยู่ กึก~ "อ่ะ นั่นไง ลิสมาแล้ว" พี่เอมือกลองหันมาเห็นฉัน เขากวักมือเรียกทันที ฉันก็เลยเดินเข้าไปหา ฉันเดินเข้าไปหยุดยืนและเหลือบมองผู้หญิงข้างๆทันที ไหนว่าป่วย? "พี่ลิส เบบี้ขอโทษนะคะ" "หมายความว่าไง?" ฉันถาม ยัยนั่นทำสีหน้ารู้สึกผิดใส่ฉัน "แล้วไหนว่าไม่มา?" "ก็นี่แหละค่ะ เบบี้ถึงได้ขอโทษพี่" โอเค ฉันพอจะเข้าใจแล้วล่ะ! "ก็ตอนแรกเบบี้ปวดหัวมากเลย กะว่ามาไม่ไหวแน่ๆก็เลยโทรหาพี่หนึ่ง แต่พอกินยาไปแล้วมันก็ดีขึ้นค่ะ" "..." แล้วเบบี้ก็คิดว่า ต้องมีคนมารอดูเบบี้ร้องเพลงแน่ๆเลย ถ้าเบบี้ไม่มาก็คงจะเสียความรู้สึกแย่ เบบี้ก็เลยตัดสินใจมา..." "ทั้งๆที่ก็รู้ว่าฉันมาแทนแล้วอ่ะนะ" "เบบี้ขอโทษจริงๆนะคะพี่ลิส" ยัยนักร้องคนใหม่ในวงที่เบี้ยวงานด้วยคำว่าป่วยจนฉันต้องมาแทนแล้วอยู่ดีๆก็โผล่มาพร้อมกับคำว่าขอโทษพูดขึ้นอย่างน่าสงสาร ฉันจ้องหน้ายัยนี่ก่อนจะเริ่มมองหน้าทุกคน พวกเขามีสีหน้าเลิ่กลั่ก แน่นอนว่ายัยนี่เข้ามาก่อนที่ฉันจะออกจากวงได้ไม่นาน ฉันหันไปมองหน้าพี่หนึ่งอีกครั้ง "คือว่าพี่ก็ลำบากใจนะ..." "แต่เบบี้ไหวแล้วจริงๆนะคะพี่หนึ่ง วันนี้ก็เป็นคิวเบบี้ด้วย" ยัยเบบี้กระแซะเข้าไปหาพี่หนึ่ง ฉันมองฝ่ามือเล็กของยัยนี่ที่กอดแขนเขาแล้วเขย่าเบาๆ "พี่ก็เกรงใจลลิสนะ อุตส่ามาถึงที่แล้ว จะให้กลับมันก็..." "ไม่เป็นไรค่ะ ลิสไม่ขึ้นก็ได้" ฉันตอบ ยอมรับว่าหัวเสียเหมือนกัน ยิ่งคิดว่าฉันปฏิเสธลูกค้าที่มาสักในวันนี้ เงินที่ฉันควรจะได้มันปลิวไปแล้วนะเว้ย ฉันก็กะจะมาเอาตรงนี้ แต่ก็ดันจะมาปลิวออกไปต่อหน้าต่อตาอีก ใครจะไม่อารมณ์เสียบ้างล่ะ! "แต่อย่าหาว่าลิสอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ" "ครับ?" "ลิสเสียเวลามาแล้วอ่ะค่ะ" ฉันพูดออกไป "แล้วเพื่อนลิสก็มาดูด้วย" ทุกคนมองหน้าฉันอย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ "วันนี้ลิสก็เซ็งๆเหมือนกัน ก็คิดว่าถ้างั้นจะดื่มต่อกับเพื่อนเลยดีกว่า" "..." "ถ้าพี่หนึ่งจะเห็นใจลิสที่อุตส่าห์สละเวลามาให้จริงๆ..." ฉันยื่นมือไปจับข้อมือเขาพลางมองหน้าพี่หนึ่งและยิ้มบางๆให้ "โอเคๆ เดี๋ยวพี่เปิดโต๊ะให้แล้วกัน เป็นค่าเสียเวลานะ" "พี่หนึ่งใจดีกับลิสไม่เคยเปลี่ยนเลยนะคะ" ฉันยิ้มหวานให้เขาไปหนึ่งทีพร้อมกับค่อยๆคลายมือที่จับข้อมือเขาออก "ขอบคุณนะคะ" ฉันยิ้มให้เขาอีกครั้งก่อนจะหันไปพยักหน้ากับพี่ๆนักดนตรีในวงเพื่อเป็นสัญญาณว่าไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น ฉันไม่ตบยัยเด็กนี่หรอกน่า "เบบี้" ก่อนจะหันกลับมาหาเบบี้และยิ้มให้เธอ "ตั้งใจร้องเพลงนะ พี่รอฟังอยู่" "ค่ะ" ยัยเบบี้แอบกระแทกเสียงใส่ฉันนิดหน่อย แล้วฉันจำเป็นจะต้องสนใจไหมล่ะ ฉันหันไปหาพี่หนึ่งแล้วพูดกับเขา "มาที่โต๊ะลิสได้นะพี่หนึ่ง" "โอเคครับ" เขาตอบฉันออกมา ฉันยิ้มและเดินออกไปหาวีวี่ที่น่าจะจับจองโต๊ะไว้แล้ว วีวี่ วันนี้แกได้กินเหล้าฟรีแล้วนะเพื่อนรักตอนนี้เป็นเวลาน่าจะดึกแล้วเหมือนกัน เพราะนักท่องราตรีในยัวร์โซนดูกำลังได้ที่ โดยเฉพาะเพื่อนฉัน ที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกวาดลวดลายแบบเซ็กซี่ของมันอยู่ ส่วนฉันก็จิบเหล้าพลางมองบรรยากาศแสงสีที่แสนจะคุ้นตา "ขอโทษนะครับ" ฉันหันไปมองคนที่เดินเข้ามายืนข้างฉัน เขาเป็นผู้ชายหน้าตี๋ ตัวสูง ก็ถือว่าหน้าตาดีจากที่ฉันเห็นๆมาในผับวันนี้ล่ะนะ "มากันสองคนเหรอครับ?" ฉันหันไปมองยัยวีวี่พลางยื่นแขนไปดึงแขนมันที่กำลังจะเซไปชนโต๊ะชาวบ้านเขาให้ขยับเข้ามาใกล้ๆฉันก่อนจะหันไปมองเขา "พูดว่าอะไรนะคะ?" ก็พอดีว่าเสียงเพลงมันดังมาก ไหนจะเสียงกรีดร้องของยัยวีวี่ที่มีอารมณ์มันส์ไปกับเพลงอีกล่ะ ผู้ชายหน้าตี๋ยิ้มให้ฉันพลางก้มลงมาเพื่อจะกระซิบใกล้ๆ ฉันเลิ่กคิ้วนิดหน่อยและฟังเสียงของเขา "มากันสองคนเหรอครับ" แล้วเห็นมากี่คนล่ะคะ? "อ้อ ค่ะ" ฉันตอบพลางยิ้มให้เขาบ้าง เขาพยักหน้าพลางยื่นแก้วเหล้าใบหนึ่งส่งมาให้ฉัน "ชนแก้วกันดีมั้ยครับ" ฉันหลุบตาลงมองแก้วใบนั้น ก่อนจะช้อนสายตามองเขาที่ตัวสูงกว่า "ได้สิค๊าาา" แล้วก็เป็นยัยวี่ที่แทรกเสียงเข้ามาพร้อมกับถลาจะมาคว้าแก้วเหล้าใบนั้นแต่ฉันก็รั้งไว้ บอ
วันต่อมา... 08.45 น. "ไม่กลับบ้านเหรอ?" กึก~ ฉันชะงักเมื่อก้าวขาเข้ามาในบ้านและถูกใครคนหนึ่งทักขึ้น ฉันหันไปมองเห็นว่าเป็นผู้ชายร่างสูงใส่แว่นสไตล์แฟชั่นและมีรอยสักตามตัวแบบแมนๆ เขาเป็นผู้ชายที่ถึงแม้จะใส่แต่ก็ไม่ได้ดูเนิร์ด แถมยังถูกมองว่าเท่มากๆอีกต่างหาก ฉันก้าวขาเข้ามาในบ้านและกำลังจะเดินผ่านเขาไป "ไปนอนที่ไหนมาลลิส?" แต่เขาก็ก้าวขามาอีกก้าว ทำให้ฉันต้องชะงักปลายเท้าและเบนสายตาไปมองเขา "บ้านวีวี่" ฉันตอบ เขามองฉัน สายตาคมของเขาเหมือนไล่แสกนตัวฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า "ทำไมไม่กลับบ้านล่ะ" "วีวี่เมาหนัก ลิสก็เลยไปส่งและมันดึกมากแล้วก็เลยนอนที่นั่นเลย" "อัญชันบอกเฮียว่าลิสไปร้องเพลง ไหนว่าเลิกทำแล้ว" เขาพยักหน้าพลางยิงคำถามฉันมาอีก "พี่หนึ่งเขาขอให้ไปช่วย" "ถ้าไม่ว่างไม่ต้องไปก็ได้หนิ เห็นว่าเมื่อวานมีคนมาสักด้วยไม่ใช่เหรอ" "ลิสนัดเขาใหม่วันนี้ตอนเย็นแล้ว" ฉันตอบอีก และใช่ เพราะฉันต้องการมือถือคืน ฉันถึงได้ตกลงจะสักให้เขาจะได้จบๆไป แต่เขาว่างจากงานตอนช่วงเย็นเราก็เลยนัดกันช่วงนั้น อ้อ แล้วสงสัยใช่ไหมล่ะ ว่าคนที่ซักฉันยิ่งกว่าเครื่องซักผ้าคนนี้เนี่ยเป็น
การสักของเรย์กินเวลามากเกินไปจริงๆ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่กว่าจะสักเสร็จตอนนี้ก็ปาไปสามทุ่มกว่าๆแล้ว และตอนนี้เราก็จ่ายเงินกันเรียบร้อย ฉันเองก็กำลังเดินออกมาส่งเขาที่หน้าบ้านตามมารยาท "ดูแลตัวเองตามที่บอกด้วยนะคะ" ฉันแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังสักไปกับเขาแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าเขาต้องรู้อยู่แล้วเพราะนี่ไม่ใช่การสักครั้งแรก แต่ฉันก็ทำตามหน้าที่ของฉัน เรย์หันมายิ้มให้ฉัน "ดีจัง เหมือนมีคนเป็นห่วงเลย" "เชิญค่ะ" ฉันไม่ตอบโต้อะไรเขา แต่ทำการผายมือเป็นสัญลักษณ์บอกกับเขาว่าให้ไปได้แล้ว "โอเคคร้าบ" เขาพยักหน้าเหมือนเข้าใจ นั่งลงใส่รองเท้าผ้าใบของตัวเองก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอีกครั้ง ฉันมองแผ่นหลังกว้างของเขาที่กำลังจะเดินจากไป... ขวับ~ อ๊ะ! แต่อยู่ดีๆเขาก็หันกลับมา เล่นเอาฉันแอบสะดุ้งเบาๆไปเลย "พี่ครับ" "อะ อะไร" "ผมจะถามว่า แถวนี้มีร้านอะไรอร่อยบ้างมั้ยครับ พอดีว่าตั้งแต่เย็นผมยังไม่ได้กินอะไรมาเลย" เขาคงหิวแล้วสินะ "สำหรับฉัน...ก็มีอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าจะถูกปากนายหรือเปล่า" "ผมกินง่ายครับ แต่ก็อยากกินของอร่อยๆ ฮ่ะๆ" เขาหัวเราะเบาๆ เขาเป็นคนที่ดูอารมณ์ดี
สุดท้ายแล้วฉันก็ออกมาจากบ้านพร้อมกับเรย์ และไหนๆก็เลยตามเลยไปแล้วฉันก็เลยต้องไปนั่งกินข้าวกับเขาเพราะเขาเอาแต่ชวนฉันไม่หยุด ฉันตัดความรำคาญน่ะ และตอนนี้ฉันก็กำลังนั่งรออาหารที่สั่งไปก็รอมาได้สักพักแล้วล่ะเพราะว่าคนค่อนข้างเยอะ "ดูท่าน่าจะอร่อยจริงๆนะครับคนเยอะเชียว" เรย์พูดกับฉันด้วยหน้าตาที่ระรื่นขึ้นจากเมื่อกี้มาก และเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้สักนิด เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ ซึ่งฉันก็ว่ามันดีแล้วล่ะ "อืม" ฉันเองก็ได้แต่ตอบแค่นั้น Rrrr~ แต่ก่อนที่เราจะได้พูดอะไรกันไปมากกว่านี้เสียงมือถือของเรย์ก็ดังขึ้น มือถือของเขาวางอยู่บนโต๊ะข้างๆแขนเขานั่นแหละ Rrrr~ แต่มันก็เหมือนว่าเขาจะไม่สนใจหรืออาจจะไม่ได้ยินเพราะว่าเสียงตรงนี้ก็ค่อนข้างดัง ฉันเห็นว่าเขาเอาแต่มองไปรอบๆทำท่าเหมือนจะตื่นตาตื่นใจทั้งๆที่มันก็ไม่น่าจะดูน่าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยด้วยซ้ำ และมือถือของเขาก็ยังคงดังอยู่เรื่อยๆ เป็นฉันเองที่หลุบตามองหน้าจอมือถือเขาแบบไร้มารยาท ก็เห็นว่ามีคนโทรเข้ามาเบอร์ที่มีเมมไว้เป็นภาษาอังกฤษคำว่า ?baby "นี่..." "..." "นาย" "..." "เรย์!" "ครับ"
2 วันต่อมา... Rrrr~ ฉันชะงักเมื่อโทรศัพท์มือถือของตัวเองดังขึ้น ตอนนี้ฉันกำลังแพ็คของอยู่กับวีวี่ที่มาช่วยและหลังจากแพ็คของชุดนี้เสร็จเราก็จะไปส่งของและจะไปกินข้าวกัน เรากำลังคุยเล่นกันไปด้วยแต่ฉันก็ต้องชะงักและหันมารับสายก่อน "ฮัลโหลค่ะ" (ครับ คุณลลิสราใช่มั้ยครับ) "..." (คุณลลิสราใช่มั้ยครับ?) "คะ ค่ะ" ฉันตอบไป แอบตกใจนิดหน่อยตอนที่ได้ยินเสียงปลายสาย ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรที่มีเบอร์แปลกโทรมา เพราะปกติก็มักจะมีคนโทรมาหาฉันแแบบนี้อยู่แล้ว มือถือฉันมีสองซิม เบอร์แรกของฉันจะไม่มีใครรู้นอกจากพี่อัญ เฮียและวีวี่ ส่วนอีกเบอร์ก็จะเป็นเบอร์ติดต่อทั่วไป (ผมโทรมาจากอู่จีแอนด์อาร์คาร์แคร์อะไหล่รถยนต์นะครับ) "อ้อค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?" (พอดีจะโทรมาแจ้งว่ารถที่คุณเอามาซ่อม ตอนนี้เสร็จแล้วนะครับ ถ้าคุณสะดวก เข้ามารับรถได้เลยนะครับ) "เสร็จแล้วเหรอคะ งั้น..." "วันนี้เลยแก ฉันอยากเห็นหน้าเจ้าของอู่ตัวจริงแล้ว" ยัยวีวี่กระซิบกระซาบฉัน ฉันเหลือบมองมันพลางส่ายหัวกับความอยากรู้อยากเห็นของมัน "วันนี้ก็ได้ค่ะ น่าจะเข้าไปช่วงบ่ายสองโมง" (บ่ายสองโมง โอเคครับ เชิญเข้ามา
-เรย์- "มองอะไรขนาดนั้นอ่ะ?" เสียงกิวถามขึ้นทำให้ผมหันไปมองเธอ กิวเป็นรุ่นน้องที่วิทยาลัยของผม มีพี่สาวฝาแฝดชื่อเกลที่เป็นแฟนของไอ้กัสรุ่นน้องผมเหมือนกัน ตอนนี้ทั้งสองคนมาทำงานที่อู่ของผมกับไอ้เกียร์ ช่วยงานในเรื่องของเพจ การเงินและเอกสารต่างๆน่ะ ถามว่าทั้งสองคนนี้ได้เรียนทางด้านนี้มาไหม จริงๆก็ไม่หรอก แต่ของแบบนี้มันก็ฝึกฝนกันได้ถ้าตั้งใจจะทำจริงๆอ่ะนะ "ชอบอ่อ?" กิวถามอีก ผมเดินไปนั่งบนโซฟาที่จัดเอาไว้สำหรับลูกค้าและเหลือบมองเธอ "สวยๆ ขาวๆ ใครไม่ชอบบ้างล่ะกิว เนี่ยเกลยังคิดอยู่ ว่าพี่เรย์จะปล่อยให้หลุดมือไปมั้ย" คราวนี้เกลพูดขึ้นบ้าง ผมเบนสายตาไปมองเธอ "มองก็รู้แล้ว ว่ารู้จักกันมาก่อน" "ใช่ ทำมาเป็นนิ่ง แต่สายตาเฮียเรย์ไม่นิ่งเลยนะจ๊ะ" "รู้ดี" ผมกระตุกยิ้มเบาๆ "ทำมาเป็นพูด พี่เค้ามีแฟนหรือยังเถอะ ขืนไปจีบมั่วซั่ว แฟนเค้าจะตีหัวเอานา" เกลพูดขึ้นอีก "สืบมาหมดแล้วแหละ เชื่อเถอะเกล" กิวหันไปพยักหน้ากับพี่สาวฝาแฝดของตัวเอง ผมลุกขึ้นยืนพลางเดินไปเขกหัวสองแฝดที่ขยับมานั่งสุมหัวกันแซวผมไปคนละที "ทำงานได้แล้ว นินทาเจ้านายอยู่นั่นแหละ" "นินทาที่ไหน พูดกันต่อหน
เอี้ยด~ ฉันเหยียบเบรกรถทันทีที่ขับมาถึงที่หมาย ที่นี่เป็นบ้านพักของวีวี่เพื่อนฉันเอง ฉันจอดรถที่หน้ารั้วบ้านพร้อมกับเปิดประตูรถและพุ่งตัวออกมาอย่างรีบร้อน ฉันวิ่งเข้าไปในตัวรั้วบ้านของวีวี่ที่ถูกเปิดค้างไว้ในทันที เมื่อเข้ามาถึงในตัวบ้าน ฉันก็ต้องชะงักเพราะเห็นข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นไปหมด นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย! เพล้ง~ ฉันสะดุ้งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของแตกดังมาจากชั้นบนของบ้าน และด้วยความเป็นห่วงวีวี่ฉันก็รีบสาวเท้าไปที่บันไดทันที แต่ทว่า... "อ๊ะ!" ฉันชะงักเพราะถูกใครบางคนดึงแขนเอาไว้ ฉันหันขวับไปก็ต้องตกใจเพราะคนที่ดึงฉันไว้คือเรย์ "นาย!" เขามาได้ยังไงเนี่ย? "พี่ขับรถเร็วมากเลยนะ ผมเกือบตามไม่ทัน" "แล้วใครให้ตามมาเล่า" "ก็ผมตกใจ เห็นพี่รีบร้อนออกมา คิดว่าคงมีเรื่องอะไรแน่ๆ" แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับเขาไม่ใช่เหรอ... เพล้ง~ "วี่!" และเสียงของแตกอีกรอบนั่นทำให้ฉันไม่สนใจอะไรกับเรย์แล้ว ฉันรีบหันกลับมาพร้อมกับจะก้าวขาไปอีกรอบ แต่ก็ถูกเขาดึงเอาไว้อีก "นี่!" "พี่จะเหยียบแก้วอยู่แล้ว" เขาพูดแทรกขึ้นพร้อมกับส่งสายตามองลงไปบนพื้น นั่นทำให้ฉันห
*ร้านชนแก้ว ในขณะที่คนเรากำลังเศร้ามากๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยนะ ว่าเหล้าคือทางออกอย่างหนึ่งจริงๆที่จะทำให้เราลืมเรื่องบางเรื่องไปได้ และนั่นแหละ ฉันถึงพาวีวี่มาที่นี่ ฉันพามันมากินเหล้า ถึงฉันจะยังแอบเคืองมันอยู่ แต่นาทีนี้ก็ยังดีกว่าปล่อยให้มันไปไหนต่อไหนตัวคนเดียวไม่ใช่เหรอ ฉันปล่อยมันไปแบบนั้นไม่ได้หรอก และที่ๆฉันพามันมาคือร้านเหล้า เป็นร้านเหล้าแบบนั่งชิลล์ มีดนตรีสดและมีอาหารให้กิน ฉันไม่ได้พามันเข้าผับหรือบาร์อะไรหรอก เพราะสภาพมันไม่ได้ไง และที่ฉันเลือกมาที่นี่เพราะว่ามันมีห้องคาราโอเกะให้ด้วย วีวี่มันเพิ่งร้องไห้มาหมาดๆนะ สภาพหน้าไม่ได้โอเคเท่าไหร่ ฉันว่าที่นี่แหละดีสุดแล้ว ฉันเลือกพาวีวี่ไปที่ห้องคาราโอเกะของร้านที่มีความเป็นส่วนตัวและปล่อยให้มันได้เต็มที่กับความเสียใจของมันเพราะผู้ชายเฮงซวย สวบ~ แต่เดี๋ยวนะ... ขวับ~ "นายตามมาทำไมเนี่ย?" ใช่ เรย์ตามฉันกับวีวี่มาทำไมเนี่ย ฉันคิดว่าเขาขับรถแยกกลับบ้านไปแล้วนะ "ผมเป็นห่วง" เขาตอบออกมา "ฉันไม่ได้เป็นอะไร และเพื่อนฉันคนเดียวฉันดูแลได้" "ผมหิวด้วย" "ห้ะ?" "ก็ผมรีบตามพี่ออกมา เลยไม่ได้กินข้าว" ฉันกรอกตาและถอนหาย
ทางร้านจัดการแจ้งตำรวจให้เราเรียบร้อยแล้ว แต่เพราะวีวี่เมามาก ตำรวจก็เลยต้องขังพวกนั้นเอาไว้ที่สถานีก่อนและรอให้วีวี่มาให้ปากคำในวันพรุ่งนี้ แต่ก็ถือว่ายังดีนะที่ตรงนั้นมีกล้องวงจรปิด ถึงวีวี่จะจำอะไรไม่ได้ แต่ภาพจากกล้องมันก็ยืนยันได้อยู่แล้วนี่นาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่วนตอนนี้น่ะเหรอ ฉันกับวีวี่กำลังกลับบ้านโดยมีเรย์ขับรถตามมาส่งด้วย เพราะว่าฉันเองก็ดื่มไปเหมือนกัน ถึงจะไม่ได้เมาขนาดนั้นแต่เขาก็ยืนยันจะมาส่ง ฉันก็เหนื่อยจะพูดแล้วเหมือนกันก็เลยยอมๆไป "วี่ ถึงบ้านแล้ว" ฉันเขย่าตัววีวี่ให้รู้สติ มองเข้าไปในบ้านแล้วรู้สึกโชคดีหน่อยๆที่พี่สาวกับพี่เขยฉันยังไม่กลับมา เพราะฉันไม่รู้ว่าถ้าเฮียเจอเรย์ในตอนที่เขาไม่ได้เมาเขาจะมีปฏิกิริยายังไง ฉันไม่อยากเดาให้ปวดหัวเหมือนกัน "วีวี่" "อื้อ บ้านไหนนน" วีวี่ปรือตาขึ้นมาถามเสียงยานใส่ฉัน "ม่ายไป ฉันไม่เข้าบ้าน" "นี่บ้านเฮียโจ แกเข้าได้" "ม่าย แกอย่ามาหลอกฉัน" "ฉันจะหลอกแกทำไมล่ะ ฉันไม่พาแกไปบ้านนั้นหรอก ลงมาเร็ว" ฉันพยายามดึงแขนวีวี่ให้ลงมาจากรถ แต่วีวี่กลับเกาะเบาะรถเอาไว้แน่น ฉันส่ายหัวกับมัน แต่ก็เป็นฉันเองไม่ใช่เหรอ ที่พาม
*ร้านชนแก้ว ในขณะที่คนเรากำลังเศร้ามากๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยนะ ว่าเหล้าคือทางออกอย่างหนึ่งจริงๆที่จะทำให้เราลืมเรื่องบางเรื่องไปได้ และนั่นแหละ ฉันถึงพาวีวี่มาที่นี่ ฉันพามันมากินเหล้า ถึงฉันจะยังแอบเคืองมันอยู่ แต่นาทีนี้ก็ยังดีกว่าปล่อยให้มันไปไหนต่อไหนตัวคนเดียวไม่ใช่เหรอ ฉันปล่อยมันไปแบบนั้นไม่ได้หรอก และที่ๆฉันพามันมาคือร้านเหล้า เป็นร้านเหล้าแบบนั่งชิลล์ มีดนตรีสดและมีอาหารให้กิน ฉันไม่ได้พามันเข้าผับหรือบาร์อะไรหรอก เพราะสภาพมันไม่ได้ไง และที่ฉันเลือกมาที่นี่เพราะว่ามันมีห้องคาราโอเกะให้ด้วย วีวี่มันเพิ่งร้องไห้มาหมาดๆนะ สภาพหน้าไม่ได้โอเคเท่าไหร่ ฉันว่าที่นี่แหละดีสุดแล้ว ฉันเลือกพาวีวี่ไปที่ห้องคาราโอเกะของร้านที่มีความเป็นส่วนตัวและปล่อยให้มันได้เต็มที่กับความเสียใจของมันเพราะผู้ชายเฮงซวย สวบ~ แต่เดี๋ยวนะ... ขวับ~ "นายตามมาทำไมเนี่ย?" ใช่ เรย์ตามฉันกับวีวี่มาทำไมเนี่ย ฉันคิดว่าเขาขับรถแยกกลับบ้านไปแล้วนะ "ผมเป็นห่วง" เขาตอบออกมา "ฉันไม่ได้เป็นอะไร และเพื่อนฉันคนเดียวฉันดูแลได้" "ผมหิวด้วย" "ห้ะ?" "ก็ผมรีบตามพี่ออกมา เลยไม่ได้กินข้าว" ฉันกรอกตาและถอนหาย
เอี้ยด~ ฉันเหยียบเบรกรถทันทีที่ขับมาถึงที่หมาย ที่นี่เป็นบ้านพักของวีวี่เพื่อนฉันเอง ฉันจอดรถที่หน้ารั้วบ้านพร้อมกับเปิดประตูรถและพุ่งตัวออกมาอย่างรีบร้อน ฉันวิ่งเข้าไปในตัวรั้วบ้านของวีวี่ที่ถูกเปิดค้างไว้ในทันที เมื่อเข้ามาถึงในตัวบ้าน ฉันก็ต้องชะงักเพราะเห็นข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นไปหมด นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย! เพล้ง~ ฉันสะดุ้งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของแตกดังมาจากชั้นบนของบ้าน และด้วยความเป็นห่วงวีวี่ฉันก็รีบสาวเท้าไปที่บันไดทันที แต่ทว่า... "อ๊ะ!" ฉันชะงักเพราะถูกใครบางคนดึงแขนเอาไว้ ฉันหันขวับไปก็ต้องตกใจเพราะคนที่ดึงฉันไว้คือเรย์ "นาย!" เขามาได้ยังไงเนี่ย? "พี่ขับรถเร็วมากเลยนะ ผมเกือบตามไม่ทัน" "แล้วใครให้ตามมาเล่า" "ก็ผมตกใจ เห็นพี่รีบร้อนออกมา คิดว่าคงมีเรื่องอะไรแน่ๆ" แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับเขาไม่ใช่เหรอ... เพล้ง~ "วี่!" และเสียงของแตกอีกรอบนั่นทำให้ฉันไม่สนใจอะไรกับเรย์แล้ว ฉันรีบหันกลับมาพร้อมกับจะก้าวขาไปอีกรอบ แต่ก็ถูกเขาดึงเอาไว้อีก "นี่!" "พี่จะเหยียบแก้วอยู่แล้ว" เขาพูดแทรกขึ้นพร้อมกับส่งสายตามองลงไปบนพื้น นั่นทำให้ฉันห
-เรย์- "มองอะไรขนาดนั้นอ่ะ?" เสียงกิวถามขึ้นทำให้ผมหันไปมองเธอ กิวเป็นรุ่นน้องที่วิทยาลัยของผม มีพี่สาวฝาแฝดชื่อเกลที่เป็นแฟนของไอ้กัสรุ่นน้องผมเหมือนกัน ตอนนี้ทั้งสองคนมาทำงานที่อู่ของผมกับไอ้เกียร์ ช่วยงานในเรื่องของเพจ การเงินและเอกสารต่างๆน่ะ ถามว่าทั้งสองคนนี้ได้เรียนทางด้านนี้มาไหม จริงๆก็ไม่หรอก แต่ของแบบนี้มันก็ฝึกฝนกันได้ถ้าตั้งใจจะทำจริงๆอ่ะนะ "ชอบอ่อ?" กิวถามอีก ผมเดินไปนั่งบนโซฟาที่จัดเอาไว้สำหรับลูกค้าและเหลือบมองเธอ "สวยๆ ขาวๆ ใครไม่ชอบบ้างล่ะกิว เนี่ยเกลยังคิดอยู่ ว่าพี่เรย์จะปล่อยให้หลุดมือไปมั้ย" คราวนี้เกลพูดขึ้นบ้าง ผมเบนสายตาไปมองเธอ "มองก็รู้แล้ว ว่ารู้จักกันมาก่อน" "ใช่ ทำมาเป็นนิ่ง แต่สายตาเฮียเรย์ไม่นิ่งเลยนะจ๊ะ" "รู้ดี" ผมกระตุกยิ้มเบาๆ "ทำมาเป็นพูด พี่เค้ามีแฟนหรือยังเถอะ ขืนไปจีบมั่วซั่ว แฟนเค้าจะตีหัวเอานา" เกลพูดขึ้นอีก "สืบมาหมดแล้วแหละ เชื่อเถอะเกล" กิวหันไปพยักหน้ากับพี่สาวฝาแฝดของตัวเอง ผมลุกขึ้นยืนพลางเดินไปเขกหัวสองแฝดที่ขยับมานั่งสุมหัวกันแซวผมไปคนละที "ทำงานได้แล้ว นินทาเจ้านายอยู่นั่นแหละ" "นินทาที่ไหน พูดกันต่อหน
2 วันต่อมา... Rrrr~ ฉันชะงักเมื่อโทรศัพท์มือถือของตัวเองดังขึ้น ตอนนี้ฉันกำลังแพ็คของอยู่กับวีวี่ที่มาช่วยและหลังจากแพ็คของชุดนี้เสร็จเราก็จะไปส่งของและจะไปกินข้าวกัน เรากำลังคุยเล่นกันไปด้วยแต่ฉันก็ต้องชะงักและหันมารับสายก่อน "ฮัลโหลค่ะ" (ครับ คุณลลิสราใช่มั้ยครับ) "..." (คุณลลิสราใช่มั้ยครับ?) "คะ ค่ะ" ฉันตอบไป แอบตกใจนิดหน่อยตอนที่ได้ยินเสียงปลายสาย ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรที่มีเบอร์แปลกโทรมา เพราะปกติก็มักจะมีคนโทรมาหาฉันแแบบนี้อยู่แล้ว มือถือฉันมีสองซิม เบอร์แรกของฉันจะไม่มีใครรู้นอกจากพี่อัญ เฮียและวีวี่ ส่วนอีกเบอร์ก็จะเป็นเบอร์ติดต่อทั่วไป (ผมโทรมาจากอู่จีแอนด์อาร์คาร์แคร์อะไหล่รถยนต์นะครับ) "อ้อค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?" (พอดีจะโทรมาแจ้งว่ารถที่คุณเอามาซ่อม ตอนนี้เสร็จแล้วนะครับ ถ้าคุณสะดวก เข้ามารับรถได้เลยนะครับ) "เสร็จแล้วเหรอคะ งั้น..." "วันนี้เลยแก ฉันอยากเห็นหน้าเจ้าของอู่ตัวจริงแล้ว" ยัยวีวี่กระซิบกระซาบฉัน ฉันเหลือบมองมันพลางส่ายหัวกับความอยากรู้อยากเห็นของมัน "วันนี้ก็ได้ค่ะ น่าจะเข้าไปช่วงบ่ายสองโมง" (บ่ายสองโมง โอเคครับ เชิญเข้ามา
สุดท้ายแล้วฉันก็ออกมาจากบ้านพร้อมกับเรย์ และไหนๆก็เลยตามเลยไปแล้วฉันก็เลยต้องไปนั่งกินข้าวกับเขาเพราะเขาเอาแต่ชวนฉันไม่หยุด ฉันตัดความรำคาญน่ะ และตอนนี้ฉันก็กำลังนั่งรออาหารที่สั่งไปก็รอมาได้สักพักแล้วล่ะเพราะว่าคนค่อนข้างเยอะ "ดูท่าน่าจะอร่อยจริงๆนะครับคนเยอะเชียว" เรย์พูดกับฉันด้วยหน้าตาที่ระรื่นขึ้นจากเมื่อกี้มาก และเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้สักนิด เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ ซึ่งฉันก็ว่ามันดีแล้วล่ะ "อืม" ฉันเองก็ได้แต่ตอบแค่นั้น Rrrr~ แต่ก่อนที่เราจะได้พูดอะไรกันไปมากกว่านี้เสียงมือถือของเรย์ก็ดังขึ้น มือถือของเขาวางอยู่บนโต๊ะข้างๆแขนเขานั่นแหละ Rrrr~ แต่มันก็เหมือนว่าเขาจะไม่สนใจหรืออาจจะไม่ได้ยินเพราะว่าเสียงตรงนี้ก็ค่อนข้างดัง ฉันเห็นว่าเขาเอาแต่มองไปรอบๆทำท่าเหมือนจะตื่นตาตื่นใจทั้งๆที่มันก็ไม่น่าจะดูน่าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยด้วยซ้ำ และมือถือของเขาก็ยังคงดังอยู่เรื่อยๆ เป็นฉันเองที่หลุบตามองหน้าจอมือถือเขาแบบไร้มารยาท ก็เห็นว่ามีคนโทรเข้ามาเบอร์ที่มีเมมไว้เป็นภาษาอังกฤษคำว่า ?baby "นี่..." "..." "นาย" "..." "เรย์!" "ครับ"
การสักของเรย์กินเวลามากเกินไปจริงๆ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่กว่าจะสักเสร็จตอนนี้ก็ปาไปสามทุ่มกว่าๆแล้ว และตอนนี้เราก็จ่ายเงินกันเรียบร้อย ฉันเองก็กำลังเดินออกมาส่งเขาที่หน้าบ้านตามมารยาท "ดูแลตัวเองตามที่บอกด้วยนะคะ" ฉันแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังสักไปกับเขาแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าเขาต้องรู้อยู่แล้วเพราะนี่ไม่ใช่การสักครั้งแรก แต่ฉันก็ทำตามหน้าที่ของฉัน เรย์หันมายิ้มให้ฉัน "ดีจัง เหมือนมีคนเป็นห่วงเลย" "เชิญค่ะ" ฉันไม่ตอบโต้อะไรเขา แต่ทำการผายมือเป็นสัญลักษณ์บอกกับเขาว่าให้ไปได้แล้ว "โอเคคร้าบ" เขาพยักหน้าเหมือนเข้าใจ นั่งลงใส่รองเท้าผ้าใบของตัวเองก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอีกครั้ง ฉันมองแผ่นหลังกว้างของเขาที่กำลังจะเดินจากไป... ขวับ~ อ๊ะ! แต่อยู่ดีๆเขาก็หันกลับมา เล่นเอาฉันแอบสะดุ้งเบาๆไปเลย "พี่ครับ" "อะ อะไร" "ผมจะถามว่า แถวนี้มีร้านอะไรอร่อยบ้างมั้ยครับ พอดีว่าตั้งแต่เย็นผมยังไม่ได้กินอะไรมาเลย" เขาคงหิวแล้วสินะ "สำหรับฉัน...ก็มีอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าจะถูกปากนายหรือเปล่า" "ผมกินง่ายครับ แต่ก็อยากกินของอร่อยๆ ฮ่ะๆ" เขาหัวเราะเบาๆ เขาเป็นคนที่ดูอารมณ์ดี
วันต่อมา... 08.45 น. "ไม่กลับบ้านเหรอ?" กึก~ ฉันชะงักเมื่อก้าวขาเข้ามาในบ้านและถูกใครคนหนึ่งทักขึ้น ฉันหันไปมองเห็นว่าเป็นผู้ชายร่างสูงใส่แว่นสไตล์แฟชั่นและมีรอยสักตามตัวแบบแมนๆ เขาเป็นผู้ชายที่ถึงแม้จะใส่แต่ก็ไม่ได้ดูเนิร์ด แถมยังถูกมองว่าเท่มากๆอีกต่างหาก ฉันก้าวขาเข้ามาในบ้านและกำลังจะเดินผ่านเขาไป "ไปนอนที่ไหนมาลลิส?" แต่เขาก็ก้าวขามาอีกก้าว ทำให้ฉันต้องชะงักปลายเท้าและเบนสายตาไปมองเขา "บ้านวีวี่" ฉันตอบ เขามองฉัน สายตาคมของเขาเหมือนไล่แสกนตัวฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า "ทำไมไม่กลับบ้านล่ะ" "วีวี่เมาหนัก ลิสก็เลยไปส่งและมันดึกมากแล้วก็เลยนอนที่นั่นเลย" "อัญชันบอกเฮียว่าลิสไปร้องเพลง ไหนว่าเลิกทำแล้ว" เขาพยักหน้าพลางยิงคำถามฉันมาอีก "พี่หนึ่งเขาขอให้ไปช่วย" "ถ้าไม่ว่างไม่ต้องไปก็ได้หนิ เห็นว่าเมื่อวานมีคนมาสักด้วยไม่ใช่เหรอ" "ลิสนัดเขาใหม่วันนี้ตอนเย็นแล้ว" ฉันตอบอีก และใช่ เพราะฉันต้องการมือถือคืน ฉันถึงได้ตกลงจะสักให้เขาจะได้จบๆไป แต่เขาว่างจากงานตอนช่วงเย็นเราก็เลยนัดกันช่วงนั้น อ้อ แล้วสงสัยใช่ไหมล่ะ ว่าคนที่ซักฉันยิ่งกว่าเครื่องซักผ้าคนนี้เนี่ยเป็น
ตอนนี้เป็นเวลาน่าจะดึกแล้วเหมือนกัน เพราะนักท่องราตรีในยัวร์โซนดูกำลังได้ที่ โดยเฉพาะเพื่อนฉัน ที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกวาดลวดลายแบบเซ็กซี่ของมันอยู่ ส่วนฉันก็จิบเหล้าพลางมองบรรยากาศแสงสีที่แสนจะคุ้นตา "ขอโทษนะครับ" ฉันหันไปมองคนที่เดินเข้ามายืนข้างฉัน เขาเป็นผู้ชายหน้าตี๋ ตัวสูง ก็ถือว่าหน้าตาดีจากที่ฉันเห็นๆมาในผับวันนี้ล่ะนะ "มากันสองคนเหรอครับ?" ฉันหันไปมองยัยวีวี่พลางยื่นแขนไปดึงแขนมันที่กำลังจะเซไปชนโต๊ะชาวบ้านเขาให้ขยับเข้ามาใกล้ๆฉันก่อนจะหันไปมองเขา "พูดว่าอะไรนะคะ?" ก็พอดีว่าเสียงเพลงมันดังมาก ไหนจะเสียงกรีดร้องของยัยวีวี่ที่มีอารมณ์มันส์ไปกับเพลงอีกล่ะ ผู้ชายหน้าตี๋ยิ้มให้ฉันพลางก้มลงมาเพื่อจะกระซิบใกล้ๆ ฉันเลิ่กคิ้วนิดหน่อยและฟังเสียงของเขา "มากันสองคนเหรอครับ" แล้วเห็นมากี่คนล่ะคะ? "อ้อ ค่ะ" ฉันตอบพลางยิ้มให้เขาบ้าง เขาพยักหน้าพลางยื่นแก้วเหล้าใบหนึ่งส่งมาให้ฉัน "ชนแก้วกันดีมั้ยครับ" ฉันหลุบตาลงมองแก้วใบนั้น ก่อนจะช้อนสายตามองเขาที่ตัวสูงกว่า "ได้สิค๊าาา" แล้วก็เป็นยัยวี่ที่แทรกเสียงเข้ามาพร้อมกับถลาจะมาคว้าแก้วเหล้าใบนั้นแต่ฉันก็รั้งไว้ บอ