ซูเจินจูที่สั่งงานเสร็จเรียบร้อยก็เข้าไปปรุงยาในห้อง เพียงไม่นานยาทั้งสองชนิดก็เสร็จเรียบร้อย ซูเจินจูสะพายตะกร้า พร้อมผ้าและเชือกสำหรับปิดด้านบนตะกร้าขึ้นไปยังถ้ำแมงมุมทันที
ซูเจินจูเดินลัดเลาะขึ้นมาทางลัด นางจำได้ว่าหากมาจากอีกฝั่งก็จะเข้าไปในถ้ำได้เช่นกันแถมระยะทางก็ใกล้กว่า นางกระโดดขึ้นต้นไม้ตรวจสอบร่องรอยของทิศทางกระโดดจากต้นหนึ่งไปยังต้นหนึ่งอย่างมั่นคงเพียงนานก็มาถึงหน้าถ้ำแต่เมื่อซูเจินจูกระโดดลงมาจากต้นไม้สิ่งที่รอรับเท้าทั้งสองข้างของนางอยู่กลับไม่ใช่พื้นดิน
“โอ้ย” ซูเจินจูที่รั้งตัวเองไว้ไม่อยู่ก็ล้มลงไปหัวกระแทกพื้นดินเข้าอย่างจัง ความคิดชั่ววูบที่ผุดขึ้นมาคือการกระทบกระเทือนที่หัวจะทำให้วิญญาณนางหลุดออกจากร่าง ทำให้นางรีบจับเนื้อจับตัวของตัวเอง ลมหายใจหนักหน่วงประหนึ่งว่าโล่งใจที่ไม่ได้กลายเป็นวิญญาณเร่รอนถูกผ่อนออกมา เมื่อตั้งสติได้ก็หันมามองที่ต้นเหตุ
“เพ้ยยยย ศพคนนี่หว่า ไฉนมีคนมานอนตายหน้าถ้ำ บรื้ออ” นางใช้เท้าเขี่ยศพที่
ขณะเดียวกันหน้าถ้ำแมงมุมก็มีชายชุดดำคนหนึ่งคุกเข่าอยู่หน้าชายหนุ่มที่ซูเจินจูช่วยชีวิตไว้“คารวะท่านรองแม่ทัพ”“เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง”“ตอนนี้ท่านแม่ทัพเดินทางถึงเมืองหลวงแล้ว อาการก็พ้นขีดอันตราย ท่านจะเดินทางเข้าเมืองหลวงเลยหรือไม่ขอรับ”“ยังไม่ไป ในกองทัพมีสายลับ ข้าศึกรู้กลศึกของเราทั้งหมด หากหาตัวสายลับไม่เจอ ออกศึกคราวหน้าข้ากับท่านพี่คงต้องตายในสนามรบ ... เจ้าไปส่งข่าวให้ท่านพี่ข้าเก็บข่าวเรื่องข้าไว้เป็นความลับ ให้แจ้งกองทัพไปว่าหาข้าไม่พบ เป็นหรือตายไม่แน่ชัด ประกาศคัดเลือกรองแม่ทัพคนใหม่ ข้าเชื่อว่าผู้บงการเบื้องหลังต้องแย่งชิงตำแหน่งของข้าแน่”“ถ้าเช่นนั้น ท่านไปอยู่ที่หมู่บ้านเฟิงโจวก่อนดีหรือไม่ขอรับ ที่นั่นมีบ้านลับกองทัพฝั่งใต้ สะดวกต่อการติดต่อ”“ไม่ หากรู้ว่าข้าหายไปพวกมันต้องส่งคนออกตามหาแน่ เมืองฝั่งใต้ ตะวันตกฉียงใต้ และตะวังออกเฉียงใต้ล้วนอันตราย ฝั่งตะวั
หน้าถ้ำแมงมุมชายหนุ่มชุดดำที่เห็นหยางหย่งเจิ้งเดินเข้ามาก็โค้งตัวคารวะ“คารวะท่านรองแม่ทัพ”“เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง”“ท่านแม่ทัพดำเนินการตามแผนของท่านแล้วขอรับ แต่ก้านลู่ถูกลอบสังหารเมื่อคืนนี้ ยังไม่พบตัวคนร้ายขอรับ”“เล่ามา”“เมื่อคืนก้านลู่ไปที่หอห่าวซีเถียนตามปกติแต่เช้านี้กลับไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย ทางการตรวจศพแล้วไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่ข้าให้คนของเราเข้าไปแอบตรวจสอบอีกครั้งพบว่าเขาถูกวางยาพิษ เป็นพิษที่แปลกนักถูกพิษแต่ศพกลับเป็นปกติดูเหมือนนอนหลับตายไปเฉยๆ พิษหายากเช่นนี้คนธรรมดาไม่มีทางครอบครองได้ ข้าจึงคิดว่าเขาถูกฆ่าปิดปากขอรับ”“เข้าไปหาหลักฐานในที่พักแล้วส่งคนของเราเฝ้าเอาไว้ด้วย คนที่ลอบสังหารต้องกลับมาหาหลักฐานแน่นอน หากพวกมันมาก็ให้คนของเราสะกดรอยตามไป”“ทราบแล้วขอรับ”ในขณะเดียวกันเฟยหลันก็มารายงานเรื่องที่ซูเจินจูสั่งให้ทำ“จัดการเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ บ่าวอยู่รอจนเห็นว่าไม่มีใครสงสัยจึงค่อยกลับมาเจ้าค่ะ”“ดีมาก ระหว่างนี้เจ้าลองหาข่าวพวกพ้องของเจ้าเถอะ ข้ายินดีซื้อตัวพวกเขาไว้”“ขอบคุณคุณหนูเจ้าค่ะ” เฟยหลันรู้สึกยินดีมากหากพี่น้องของตนสามารถมารับใช้คุณหนูได้ นางยังจำความ
เมื่อวันส่งสินสอดมาถึง ชาวบ้านต่างมุงดูกันด้วยความอิจฉา ขบวนสินสอดยาวสามลี้ เต็มไปด้วยตำลึงเงิน ตำลึงทอง เครื่องประดับ ของล้ำค่าแปลกตาอีกมากมาย ครอบครัวซูที่สวมชุดแดงใบหน้ายิ้มแย้มเปิดประตูยืนตรวจรายการสินสอด ขานรายการของมีค่าแต่ละครั้ง ชาวบ้านแทบตาถลนออกมา รายการสินสอดล้วนเป็นไปด้วยของมีค่าที่มีเงินก็ใช่ว่าจะหาซื้อได้ทั้งนั้น“ข้าอิจฉาเจ้านัก น้องรอง ว่าที่สามีเจ้าช่างร่ำรวยยกขบวนสินสอดมายาวถึงสามลี้ เจ้าแต่งงานใหญ่โตถึงเพียงนี้ ถึงคราข้าต้องแต่ง มิขายหน้าเจ้าแย่หรือ”“พี่ใหญ่เหตุใดเย้าข้าเช่นนี้ ท่านก็รู้ว่างานแต่งนี้ข้าไม่ได้เต็มใจ”“น้องรอง เหตุใดพูดเช่นนั้น งานแต่งแต่ไหนแต่ไรพ่อแม่เป็นคนจัดการ ไม่ว่าเจ้าจะเต็มใจหรือไม่ วาจาท่านพ่อก็ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะไม่ฟังได้”“ข้ารู้ แต่ข้า...”“เม่ยเอ๋อร์ ไม่ใช่ว่าสามีของเจ้าไปทำการค้าต่างแคว้นบ่อยๆหรือ นั่นไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะไม่ค่อยได้เจอกับเขาใช่หรือไม่”“ท่านพ่อบอกเช่นนั้นเจ้าค่ะ”“แล้วเจ้าจะเศร้าไปไย ท่านพ่อเพียงไปทำงานค้าต่างอำเภอเดือนหนึ่งพวกเรายังเจอท่านไม่กี่วัน นี่ไปทำการค้าต่างแคว้นปีหนึ่งเจ้าจะเจอหน้าเขาได้สักกี่หน เจ้าอย่าได้เส
“เจ้า.. อุทานให้เหมือนสตรีมากกว่านี้ได้หรือไม่” หยางหย่งเจิ้งหันกลับมามองเด็กสาวที่มีเค้าความงามตรงหน้า ‘ชิบหายแล้ว’ อย่างนั้นหรือ คำอุทานหยาบคายเช่นนี้เด็กสาวตรงหน้าไปเรียนรู้มาจากที่ใดกัน“ไอหย๋า พี่ชาย คนตกใจแยกบุรุษ สตรีด้วยหรือ”หยางหย่งเจิ้งมองหน้าซูเจินจูอย่างคาดไม่ถึงว่านางจะกล้าต่อปากต่อคำกับเขา เขามองหน้านางนิ่งๆอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรจวบจนสายตาเลื่อนลงไปเห็นว่ากริชเงินที่นางถืออยู่เป็นของเขา“กริชเงินในมือเจ้าคุ้นตาข้านัก”“พี่ชาย ท่านเป็นโจรป่าหรือ เหตุใดจึงมาคุ้นตาของในมือผู้อื่นเล่า”“เจ้าเหมือนโจรยิ่งกว่าข้าเสียอีก”“ตาท่านบอดเสียแล้ว”“!!!!!”การต่อปากต่อคำของคนทั้งสองยังไม่จบก็ได้ยินเสียงสวบสาบดังขึ้นอีกครั้ง หยางหย่งเจิ้งรวบตัวซูเจินจูขึ้นมาก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ เสือตัวหนึ่งที่ตามกลิ่นเลือดของหมูป่าโผล่ออกมากระทันหัน เมื่อเห็นว่าเป็นเสือ หยางหย่งเจิ้งไม่รอช้ากระโดดออกมาจากจุดนั้นทันที“ไอหย๋า พี่ชายวรยุทต์ท่านล้ำเลิศนัก เป็นข้าเสียมารยาทดูเบาท่านไปเสียแล้ว”“เมื่อครู่เจ้ายังว่าข้าเป็นโจรป่าอยู่เลย”“เพ้ย หูท่านไม่ดีเสียแล้ว บุรุษที่สูงส่งเช่นท่านจะเป็นโจรป่าไปไ
“คุณหนูท่านนี้ ต้องการทาสแบบใดบอกข้าน้อยได้เลยขอรับ” นายหน้าค้าทาสรีบออกมาต้องรับซูเจินจู เด็กสาวที่สามารถใส่ชุดผ้าไหมหยกพับละห้าสิบตำลึงได้ มีเพียงลูกผู้ดีมีเงินเท่านั้น“ข้าต้องการทาสหญิง พามาให้ข้าดูหน่อยเถอะ” คุณหนูรอสักครู่ ข้าจะรีบไปพาทาสหญิงมาให้ท่านดูขอรับ” นายหน้าค้าทาสพาเหล่าทาสหญิงมายืนเรียงหน้ากระดานตรงหน้าซูเจินจู ครึ่งหนึ่งเป็นหญิงงาม ไม่ถือว่าล่มเมืองแต่ก็ไม่ได้หาได้ดาษดื่นทั่วไป อีกฝั่งเป็นทาสหญิงที่หากไม่หน้าตาขี้ริ้วก็รูปร่างผิดสัดผิดส่วนการที่เด็กผู้หญิงวัยเดียวกับซูเจินจูมาซื้อทาส ส่วนใหญ่คือทาสที่กลายเป็นสินเดิม แต่งเข้าเรือนบุรุษ ทาสหญิงที่รูปโฉมงดงามมันถูกใช้เป็นสาวใช้อุ่นเตียงเพื่อไม่ให้ความโปรดปรานจากบุรุษตกไปเป็นของผู้อื่น ส่วนทาสหญิงที่หน้าตาไม่งดงามมักถูกซื้อจากเหล่าสตรีขี้หึงที่ไม่ชอบให้หญิงงามคนใดเข้าใกล้สามีตน“ข้าไม่ถูกใจ มีคนอื่นอีกหรือไม่”“คุณหนูต้องการทาสแบบใด ข้าจะไปพาตัวมาให้ขอรับ”“พาออกมาให้หมด ข้าจะเป็นคนเลือกเอง” ซูเจินจูปรายตามองทางเฟยหลัน เฟยหลันหยิบเงินตำลึงทองหนึ่งก้อนยัดใส่มือพ่อค้าทาส ก้อนตำลึงทองเย็นๆในมือมีหรือจะทำให้พ่อค้าทาสชักช้า
“เจ้าจะออกไปข้างนอกหรือ” หลินเฮงฉวนถามขึ้นระหว่างเดินตามซูเจินจูไปที่ศาลาในสวน“ข้าจะออกไปร้านผ้าซูเตี้ยนเจ้าค่ะ คุณชายมาหาข้าด้วยเหตุอันใดหรือเจ้าคะ”“เพียงมาหาเฉยๆเท่านั้น ช่วงนี้ข้ายังไม่ต้องเข้าไปที่สถานศึกษา มีเวลาว่างระหว่างรอผลสอบอีกห้าวัน จึงมาชวนเจ้าไปดูดอกเหมยที่หมู่บ้านจั๋วมู่” หลินเฮงฉวนแอบมองซูเจินจูที่เดินอยู่ข้างๆเขา เขารู้ว่าซูเจินจูชอบเขา การที่เขาเอ่ยปากชวนนางไปดูดอกเหมยเช่นนี้ นางต้องดีใจมากแน่ๆ“ขออภัยคุณชาย งานในมือข้ามากมายนัก คงไม่มีโอกาสได้ไปชมดอกเหมยเสียแล้ว”“เช่นนั้นข้าค่อยหาโอกาสหน้าแล้วกัน หากเจ้าต้องไปร้านผ้าก็ไปเถอะ”“เจ้าค่ะ” ซูเจินจูลุกขึ้นคารวะก่อนจะเดินจากมา แต่หลินเฮงฉวนก็ลุกขึ้นเดินตามนางมาในทันทีเช่นกัน ซูเจินจูที่เห็นว่าวันนี้ซูหนี่ย์คงยังตกใจเรื่องเมื่อคืนไม่ออกมาตอนรับหลินเฮงฉวน จึงหันกลับไปยิ้มให้เขาและเดินเคียงข้างออกมาส่งถึงหน้าเรือน ซูเจินจูหันกลับมาคารวะเขาอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นรถม้าที่จอดรออยู่“ไปเถอะ” เมื่อเห็นว่าผ้าไหมหอมหมื่นลี้ทั้งสิบหกพับอยู่ในรถม้าเรียบร้อยก็ออกคำสั่งให้คนขับรถออกรถ แต่รถม้ายังไม่ทันออกตัว หลินเฮงฉวนก็ขึ้นมาในรถม้
เมื่อเห็นว่าซูเจินจูก้มหน้าเงียบๆ หลินเฮงฉวนเองก็ไม่อยากกดดันนางเกินไปนักจึงได้แสร้างเปลี่ยนเรื่อง“เจ้าต้องการไปที่ใดต่อ”“ข้าต้องการไปตลาดค้าทาสเจ้าค่ะ เฟยหลันของข้าวิ่งทำงานให้ข้าจนร่างกายทรุดโทรมเสียแล้ว ข้อต้องการคนช่วยงานเพิ่ม”“ได้ ข้าจะพาเจ้าไปเอง”ตลาดค้าทาสอำเภอเหอ“คุณชายท่านนี้ต้องการท่าสแบบไหนบอกข้าน้อยได้เลยขอรับ” นายหน้าค้าทาสเห็นว่าเป็นหลินเฮงฉวนก็รีบออกมาต้อนรับ ด้วยรู้ว่าหากทำอะไรให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านนายอำเภอไม่พอใจ เขาก็ไม่มีสิทธิ์ค้าทาสอยู่ที่นี่อีกแล้วหลินเฮงฉวนมองซูเจินจูเป็นเชิงให้นางพูดคุยกับพ่อค้าทาสด้วยตนเอง“ข้าต้องการทาสหญิงไว้รับใช้ในเรือน พาคนที่เหมาะสมออกมาให้ข้าเลือกหน่อยเถอะ”หญิงสาวหน้าตาดีเกือบสิบคนยืนเรียงแถวหน้ากระดานตรงหน้าซูเจินจู พ่อค้าทาสเคยรู้มาบ้างว่าคุณชายหลินต้องรับสตรีตระกูลพ่อค้าเข้าไปเป็นสาวใช้อุ่นเตียง หากเขาเดาไม่ผิดก็คงเป็นเด็กสาวตรงหน้านี้แน่ ดังนั้นเขาจึงคิดประจบเอาใจหลินเฮงฉวนด้วยการคัดเฉพาะหญิงสาวหน้าตาดีด้วยรู้ว่าสตรีเล่านี้ล้วนต้องเข้าจวนพร้อมนาง“พวกนางล้วนเป็นสตรีที่งดงามที่สุดแล้วขอรับ”ซูเจินจูมองพวกนางที่ยืนเรียงแ
“เสี่ยวเหลียน ชอบกินขนมหรือไม่” ซูเจินจูที่ละสายตาจากสวนดอกเหมยตรงหน้าหันกลับไปถามเพียงเสี่ยวเหลียน ด้วยรู้ว่าเฟยหลันไม่ชอบกินขนม“ชะ ชอบเจ้าค่ะ”“เฟยหลัน เจ้ากับเสี่ยวเหลียนไปหาโต๊ะนั่งแล้วสั่งขนมกินเถอะ”“เจ้าค่ะ คุณหนู” เฟยหลันเลือกโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะเรียกเสี่ยวเอ้อมาสั่งขนมและน้ำชาหลินเฮงฉวนสังเกตเสี่ยวเหลียนตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้ว ถึงนางจะไม่ได้แต่งตัวดีเท่าซูเจินจูแต่เสื้อผ้าของนางก็ยังเป็นผ้าต่วนชั้นดี ผัดแป้งแต้มชาด อีกทั้งซูเจินจูยังพยายามเอาใจนางต่อหน้าเขา คงตั้งใจยกเสี่ยวเหลียนให้เป็นเมียบ่าวของเขาแน่ๆ เห็นทีเขาต้องหาโอกาสคุยกับนางสักหน่อยว่าเขาไม่ใช่คนเช่นนั้น เดิมทีเขาก็ต้องการมีฮูหยินเพียงคนเดียว การที่นางได้มาเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของเขานับเป็นขอยกเว้นเพียงคนเดียวเท่านั้นเมื่อซูหนี่ย์เห็นอิงชุ่ยเข้ามาก็ชวนคนทั้งหมดเข้าไปเดินเล่นในสวนดอกเหมย“คุณชายหลิน เจินจูเอ๋อร์มาที่นี่เป็นครั้งแรก เราเข้าไปเดินเล่นข้างในสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ”“คุณหนูสี่ซู หากเจ้าหายอ่อนล้าจากการนั่งรถม้าเมื่อสักครู่แล้ว เราก็เข้าไปเดินเล่นข้างในกันสักหน่อยเถอะ” หลินเฮงฉวนก็เห็นดีกับซูหนี่ย์ เพียงแต
ซูเจินจูรับสัญญาเช่าร้านพร้อมกุญแจหนึ่งดอกเดินออกมาจากสถานศึกษาด้วยความพอใจ“เฮ้ออ ท่านเหล่าซือหัวแข็งนัก คราแรกข้านึกว่าจะไม่ได้ร้านนี้เสียแล้ว”“นั่นสิเจ้าคะ บ่าวเองก็เพิ่งเคยเห็นคนไม่อยากได้เงินก็คราวนี้เอง”“บัณฑิตล้วนมองข้ามเงินทอง สิ่งที่เหล่าบัณฑิตถือไว้มีเพียงพู่กันและกระดานหมากเท่านั้น”“หมายความว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ”“หมายความว่าบัณฑิตคือคนที่ขายของให้ได้ยากที่สุดเพราะเขาไม่สนเงินจึงไม่มีเงินมาซื้อของของข้าไงเล่า ไปเถอะ ข้าหิวแล้ว วันนี้ข้าจะพาเจ้าไปกินข้าวที่เหลาเล่าลี่”ไม่สนเงินจึงไม่มีเงินงั้นหรือ เฟยหลันมองคุณหนูของตนที่เดินนำหน้าออกไปแล้วกลั้นยิ้มไว้ไม่ไหว คุณหนูของนางช่าง..น่าเอ็นดูเสียเหลือเกินเหลาเล่าลี่แห่งตำบลเป่ยเป็นเหลาอาหารที่ใหญ่ที่สุดในตำบล แต่ละวันรับลูกค้าจำนวนมากเพราะตำบลเป่ยคือตำบลที่เป็นทางผ่านไปยังหมู่บ้านจั๋วมู่ คนมากมายที่ไปชมดอกเหมยที่หมู่บ้านจั๋วมู่มักมากินอาหารที่เหลามากกว่ากินตามริมทางของหมู่บ้าน“คารวะคุณหนู ห้องส่วนตัวด้านบนหรือโถงด้านล่างขอรับ”“ห้องส่วนตัว”“คุณหนูเชิญตามข้ามาขอรับ”สำหรับห้องส่วนตัวในเหลาเล่าลี่ต้องสั่งชุดอาหารห้าสิบตำลึงเท่า
เฟยหรงกลับมารายงานเรื่องของเฟยอวี่ให้ซูเจินจูรู้“พวกค้ามนุษย์ยี่สิบคนหรือ เฟยหรง เจ้าไปบอกให้นางหาสัญญาทาสของตนเองให้เจอ เราจะบุกเข้าไปฆ่าพวกมันทั้งหมด” ในเมื่อเป็นคนเลวก็ไม่จำเป็นต้องต่อรองอะไร คนที่ขโมยชีวิตของผู้อื่นมาขายแลกเงินไปปรนเปรอตัวเอง ก็สมควรเอาชีวิตของมันปรนเปรอเหล่าเด็กๆที่ต้องตาย ชดใช้แก่ครอบครัวที่ต้องพลัดพรากจากกัน“คุณหนู ตอนที่บ่าวออกมา สังเกตว่านางน่าจะถูกเฆี่ยนตีมาก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่านางจะรับมือคนพวกนั้นไหวหรือไม่ คุณหนูอยู่ข้างนอกนี่เถอะเจ้าคะ หากถูกจับได้คุณหนูจะได้ไม่เดือดร้อน”“เช่นนั้นหรือ ... เฟยหลัน พิษแมงมุมที่ข้าเคยให้เจ้ายังเหลืออยู่หรือไม่”“เหลืออยู่เจ้าค่ะ”“เช่นนั้นก็ใช้พิษเถอะ จัดการพวกมันเงียบๆอาจจะดีกว่า เจ้ามอบพิษแมงมุมให้เฟยหรง เฟยหรงเจ้าส่งยาพิษเข้าไปให้เฟยอวี่ ใช้เพียงสองหยดเท่านั้น ให้ยาแก้พิษนางไปด้วย คืนนี้เราจะลงมือ เมื่อนางออกมาข้ากับนางจะเอาเอกสารไปที่โรงค้าทาสทำเรื่องซื้อตัวนาง เฟยเมี่ยวเมื่อข้าทำเรื่องซื้อตัวนางเสร็จแล้วเจ้าไปแจ้งทางการอย่างลับๆให้มาช่วยเด็กพวกนั้น”“บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ”คืนเดือนมืดไร้แสงดาวแม้แต่แสงจันทร์ก็ไม่กระจ่า
“คุณหนูกลับมาแล้ว บ่าวคารวะคุณหนูขอรับ”“ท่านลุงฝู คราวนี้มีลายใหม่มาด้วยเจ้าค่ะ ท่านไปคุยกับข้าในห้องก่อนเถอะ”“ได้ขอรับ” “เจ้าสองคนน่ะคนนึงไปชงชา อีกคนไปซื้อขนมร้านเสี่ยวซือกวงในคุณหนู ไปๆให้ไว”คนงานสองกันช่วยกันลำเลียงผ้าทั้งยี่สิบสองผืนลงมาจากรถม้าเข้าไปยังห้องทำงานของหลงจู๊ฝู หลงจู๊ฝูเห็นผ้ามากมายหลายพับก็ยิ้มดีใจจนตาแทบจะปิดสนิท“ท่านลุงฝู ผ้าไหมหอมหมื่นลี้ลายดอกเหมย ลายดอกท้อ และลายดอกบัวทั้งหมดสิบแปดพับ เป็นของที่ร้านสิบเจ็ดพับนะเจ้าคะ พับสีม่วงลายดอกบัวนี้ข้าจะนำกลับไปให้ท่านแม่”“ขอรับคุณหนู” หลงจู๊ฝูใช้พู่กันในมือขีดฆ่าจำนวนเดิมที่ลงไว้แล้วเขียนจำนวนใหม่ลงไปข้างๆ ฮูหยินรองที่ไม่มีบ้านเดิมสนับสนุน ไม่ได้รับความรักจากนายท่าน อย่างน้อยก็ยังมีลูกกตัญญูเช่นคุณหนูสี่ นับว่าสวรรค์ยังเมตตาจริงๆ“สามพับนี้เป็นลายโบตั๋นเจ้าค่ะ ส่วนพับนี้เป็นลายเป็ดยวนยาง” ซูเจินจูกับเฟยหลันช่วยกันคลี่ผ้าไหมหอมหมื่นลี้ลายเป็ดยวนยางออกมาให้หลงจู๊ฝูดู เมื่อเห็นว่าหลงจู๊ฝูมองผ้าพับลายเป็นยวนยางด้วยสายตาชื่นชมก็พูดต่อทันที“ผืนนี้ราคาห้าร้อยตำลึงเจ้าค่ะ“ไอหย๋า แพงถึงเพียงนั้น”“ไม่นับว่าแพงนะเจ้าคะท่านล
การเดินทางไปยังหมู่บ้านซานครั้งนี้เต็มไปด้วยความราบรื่น เฟยหลันเล่าเรื่องในเมืองหลวงให้ซูเจินจูฟังตลอดทาง นางเกิดและเติบโตที่เมืองหลวง ขนมร้านใดอร่อย อาหารเหลาใดเลิศรสนางล้วนรู้จัก แต่ละปีในเมืองหลวงจะจัดงานต่างๆมากมายที่นางชื่นชอบมากที่สุดคือเทศกาลดอกไม้ไฟ แต่ในทุกเทศกาลนางไม่เคยได้ปล่อยใจชื่นชมการแสดงเพราะนางต้องคอยคุ้มกันนายหญิงที่ออกพบปะเหล่าสตรีชั้นสูงในงานนั้น เหล่าสตรีในเมืองหลวงล้วนน่ากลัว อุบายแยบยลที่ถูกจัดวางอย่างดีราวกับหมากในกระดานที่ขอเพียงพวกนางเริ่มลงมือ หากรู้ตัวช้าก็ไม่มีหวังที่จะพลิกกระดานขึ้นมาเป็นฝ่ายกุมอำนาจได้ ด้วยเพราะเป็นการเดินทางที่ไม่เร่งรีบ หลีกเลี่ยงทางเล็กแคบเลือกเดินทางผ่านถนนเส้นหลักทำให้การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาเกือบสามชั่วยาม แต่เป็นสามชั่วยามที่ซูเจินจูเพลิดเหลินไปกับทิวทัศน์สองข้างทางและเรื่องเล่าของเฟยหลันที่ไม่ต่างจากเทพนิยายในโลกที่ซูเจินจูจากมา“คุณหนูของบ่าว มาแล้วหรือเจ้าคะ รีบเข้าไปพักก่อนเถอะเจ้าค่ะ บ่าวจะให้ซินเซียงไปยกขนมกับน้ำชามาให้”“สี่เสวี่ยเจ้าใจเย็นก่อน คิดถึงข้าเพียงนั้นเชียวหรือ ให้ข้าเดินดูพวกนางสักหน่อยเถอะ พวกนางล้วนเป็นคนปักผ
เช้าวันต่อมาเฟยหลันก็กลับมารายงานเรื่องที่ตนสืบได้“คุณหนู บ่าวสืบมาได้ว่าคุณหนูใหญ่เลี้ยงอันธพาลไว้ข้างนอกจำนวนมากแต่ละเดือนต้องจ่ายเงินให้พวกมันหนึ่งร้อยตำลึงเป็นค่าปิดปากไม่ให้พวกมันเอาเรื่องไปฟ้องคุณชายหลิน เมื่อวานคุณหนูใหญ่ไปของเงินฮูหยินซูแต่กลับถูกไล่ออกมา จึงเข้ามาขโมยหีบเงินของท่าน เมื่อไม่เจอหีบเงินจึงข่มขู่เสี่ยวเหลียนเห็นว่านางไม่พูดจึงใส่ร้ายว่านางขโมยผ้าไหมพับหนึ่งก่อนสั่งคนงานในบ้านให้โบยนางสิบไม้ คุณหนูใหญ่ให้อิงชุ่ยนำเครื่องประดับไปขาย ใช้เงินสามร้อยตำลึงจ้างอันธพาลสามสิบคนดักฉุดท่านวันที่ท่านต้องออกไปทำการค้าครั้งหน้า อันธพาลพวกนั้นส่วนหนึ่งเป็นคนที่เคยหาเรื่องท่านตอนไปสวนดอกเหมยเจ้าค่ะ”“สืบข่าวได้ว่องไว ไม่เสียแรงที่ข้าไว้ใจเจ้า”“คุณหนูจะให้บ่าวจัดการนางเลยหรือไม่เจ้าคะ”ซูเจินจูเคาะนิ้วลงกับโต๊ะ นางกำลังครุ่นคิด การฆ่าซูหนี่ย์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การตายไม่ใช่สิ่งที่นางปารถนาจะมอบให้แก่คนจิตใจวิปริตเช่นซูหนี่ย์ สตรีประเภทใดกันถึงชื่นชอบการทำลายสตรีผู้อื่นด้วยการให้บุรุษมากมายข่มเขงรังแก หากคนที่ถูกวางอุบายไม่ใช่นาง แต่เป็นเพียงสตรีอ่อนแอสักคน สตรีเหล่านั้นคงเลือกเส
หลังจัดการไก่ทั้งหกตัวจนหมด คนทั้งสี่ก็เก็บของลงจากบนเขา วันนี้ซูเจินจูไม่อยากกลับเย็นจนเกิดไปเพราะต้องนำสมุนไพรในตระกร้าไปปลูกและเก็บให้เรียบร้อยก่อนเดินทางกลับอำเภอเหอวันพรุ่งนี้หยางหย่งเจิ้งเดินมาส่งซูเจินจูถึงหน้าเรือนหอมหมื่นลี้ก่อนจะแยกตัวกลับไปที่กระท่อมริมลำธารของเขาทันทีที่หยางหย่งเจิ้งเปิดดประตูเข้ามา ชายชุดดำในกระท่อมก็โค้งคำนับเขาทันที“เหวินอี้คารวะท่านรองแม่ทัพ”“ไม่ต้องมากพิธี เจ้ามีข่าวใหม่หรือไม่”“ข้าสืบมาได้ว่าก้านลู่ร่วมมือกับผู้ช่วยนายอำเภอของอำเภออู๋เป็นสายให้แคว้นจิ้น ตอนนี้แคว้นจิ้นละทิ้งการโจมตีฝั่งใต้แต่ยกทัพเลียบเขามายังฝั่งตะวันออกเฉียงใต้แทน คงตั้งใจตีเข้ามาทางตำบลไป่เข้าอำเภออู่เลียบกำแพงเมืองหลวงแบ่งสองทัพเข้าทั้งทางประตูทิศใต้และทศตะวันออกขอรับ”“สืบต่อว่าผู้ช่วยนายอำเภออู๋ติดต่อกับใครอีกบ้าง สืบเรื่องของนายอำเภออู๋ด้วยหากไม่ใช่พวกเดียวกันก็ใช้เขาซ้อนแผนปล่อยข่าวลวงให้ทัพศัตรู ดูท่าคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว”“พวกข้าจะรีบไปสืบและส่งข่าวกลับมา ท่านรองแม่ทัพจะอยู่ที่หมู่บ้านนี้ต่อหรือขอรับ ข้าคิดว่าชาวบ้านที่นี่วุ่นวายกับท่านมากเกินไปนั
วันต่อมา ป้ายเรือนหอมหมื่นลี้ถูกแขวนไว้อย่างสวยงามโดไม่มีพิธีใดๆตามคำสั่งของซูเจินจู นางถือฤกษ์สะดวกและถือว่าเรือนหลังนี้ยังไม่เสร็จดี ไว้รอให้ทุกอย่างในเรือนเรียบร้อยค่อยจัดงานก็ยังไม่สายหลังจากตรวจดูความแน่นหนาและมั่งคงแล้วสี่เสวี่ยไปหาลุงหวังหัวหน้าหมู่บ้านให้ลุงหวังช่วยประกาศในหมูบ้านว่านางต้องการรับสมัครคนเย็บถุงหอมมีค่าแรงให้ใบละหนึ่งตำลึง ไม่ได้รับทุกคนในทันทีแต่นางจะให้ลองปักให้นางดูก่อน เฉพาะคนที่ผ่านการทดสอบเท่านั้นถึงจะได้รับงานนี้ เมื่อผ่านแล้วก็ไม่อนุญาตให้เอางานปักกลับไปทำ ต้องทำที่เรือนหอมหมื่นลี้เท่านั้น หากใครยอมรับตามนี้ได้ พรุ่งนี้เช้าให้ไปเจอนนางที่เรือนเมื่อกลับเข้าเรือนสี่เสวี่ยก็ให้ซินเซียงและเยว่ชิงช่วยกันเอาผ้าไหมมีตำหนิพับหนึ่งออกมาตัดให้เป็นขนาดถุงหอมเตรียมไว้ให้คนที่จะมาทดสอบวันพรุ่งนี้ขณะเดียวกันซูเจินจูก็ลงมือวาดผ้าลายโบตั๋น ด้วยเพราะมีผู้ช่วยฝีมือดีอย่างเยว่ชิงจึงใช้เวลาไม่นานนักผ้าไหมหอมหมื่นลี้ลายดอกโบตั๋นก็ทำเสร็จ เมื่อเห็นว่างานผ้าเรียบร้อยดีก็สั่งให้เฟยหลันและจางหมิ่นเตรียมตัวเพื่อขึ้นเขาจางหมิ่นเดินมาบอกหยางหย่งเจิ้งว่าคุณหนูกำลังขึ้นเขา หากเขา
ขณะเดียวกัน เฟยเมี่ยวก็เข้ามารายงานซูเจินจูที่แยกสมุนไพรอยู่ในห้องยา เฟยหลันบอกเอาไว้ก่อนออกไปซื้อม้าว่าให้คอยดูเพ่ยเพ่ยเอาไว้อย่าให้นางสร้างความเดือดร้อน นางเป็นเพียงคนที่คุณหนูบังเอิญช่วยไว้ ไม่ใช่คนของคุณหนู ดังนั้นเมื่อเห็นว่านางเหมือนจะก่อเรื่องก็เข้าไปรายงานซูเจินจูทันที“เจ้าถอยไปนะ ข้ามาอวยพรพี่สาว พี่สาวอยู่หรือไม่เจ้าคะ ข้ามาอวยพรวันเกิดท่านเจ้าค่ะ” แม่หนูน้อยยังไม่ละความพยายาม ตะโกนอยู่หน้าบ้านหวังเพียงซาลาเปาสักใบครึ่งใบไปให้น้องชายที่รอนางอยู่“ออกไป นังเด็กบ้า นังเด็กตัวเหม็น พวกเจ้าคนงานทางนั้นมาช่วยข้าจับนังเด็กนี่โยนออกไปเร็ว”คนงานมองหน้ากันไปมองหน้ากันมา วางอุปกรณ์ในมือก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเพ่ยเพ่ย“หยุด!! พวกเจ้าทำอะไรกัน” เสียงของซูเจินจูทำให้คนทั้งหมดที่กระอักกระอ่วนอยู่แล้วยิ่งทำอะไรไม่ถูกเด็กน้อยเนื้อตัวมอมแมมรีบวิ่งเข้ามาคุกเข่าหน้าซูเจินจูทันทีที่เห็นนางเดินออกมา“พี่สาว ข้ามาอวยพรวันเกิดให้ท่าน ขอให้ท่านอายุมั่นขวัญยืน ขอให้ท่านร่ำรวย มีอิ่ม มีหลับไม่ขาดเจ้าค่ะ”ซูเจินจูได้ฟังคำอวยพรผิดๆถูกๆก็ยิ้มมองเด็กสาวตรงหน้า“ขอบใจแม่หนู เฟยเมี่ยว เจ้าเข้าไปเอาซาลาเปา
เมื่อถึงหมู่บ้านซาน ซูเจินจูที่ยังไม่ทันได้ลงจากรถก็ได้ยินเสียงสี่เสวี่ยดังมาแต่ไกล“คุณหนู คุณหนูของบ่าวมาแล้ว”“ไอหย๋า เสียงดังมาจากไหน ตะโกนดังเพียงนี้เห็นที่ว่าบ้านข้าคงถล่มลงมาแล้ว”“คุณหนู บ่าวไม่ได้เสียงดังถึงเพียงนั้นนะเจ้าคะ ค่อยลงๆสิเจ้าคะ ทำไมกระโดดลงมาเช่นนั้น เยว่ชิงเจ้าเข้าไปเตรียมน้ำให้คุณหนู หลิวหยางจางหมิ่นมาช่วยกันยกของในรถม้า อ๊ะ แม่นางทั้งสอง”“นางคือเฟยหรงกับเฟยเมี่ยว เรื่องของพวกนางเฟยหลันจะเป็นคนจัดการ”“เจ้าค่ะ คุณหนูเข้าไปข้างในก่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้างนอกแดดแรง เดี๋ยวจะไม่สบาย”ผ้าสิบแปดพับและหีบเงินถูกย้ายเข้ามาวางในห้องโถงของเรือนใน คนทั้งหมดยืนตั้งแถวเป็นระเบียบอยู่หน้าซูเจินจู แต่ละคนต่อแถวเข้ามาอวยพร จนซูเจินจูที่นั่งรับคำอวยพรมีความสุขจนหุบยิ้มไม่ได้“เอาล่ะ อย่างที่พวกเจ้ารู้ว่าเมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของข้า ดังนั้นข้าจึงมอบของขวัญให้พวกเจ้าถือว่าเป็นการต่ออายุข้า ผ้าไหมคนละหนึ่งพับ ผ้าฝ้ายชั้นดีคนละหนึ่งพับ พวกเจ้ามาเลือกกันเถอะ”บ่าวทั้งหมดมองหน้ากันไปๆมาๆ หน้าตาประดับรอยยิ้มดีใจแต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าจะให้ผ้าไหมกับพวกเขาจริงๆ แม้ว่าจะเห็นสี่เสวี่ยใส่ผ้าไ