Share

บทที่ 13

last update Last Updated: 2025-04-07 09:41:55

หลังจากขึ้นรถม้ามา สี่เสวี่ยก็อดที่จะพูดพึมพำใส่ซูเจินจูได้ไม่

“เข็มเงินร้านข้างนอกชุดละหกตำลึงเท่านั้นนะเจ้าคะคุณหนู”

“ข้ารู้ แต่คุณภาพต่างกันมากนัก เข็มเงินของท่านอาฮุ่ยซิ่วทั้งตรง กลม และแหลมในขนาดที่สมส่วน ขนาดเข็มแต่ละเล่มก็มีความสั้นยาวสูงต่ำตามที่ข้าต้องการ หากไปซื้อร้านด้านนอก วันนึงก็ต้องกลับมาสั่งทำอยู่ดี เมื่อถึงวันนั้นต้นแบบก็ไม่มี ไม่รู้จะได้เข็มเงินที่ถูกใจเช่นนี้หรือไม่”

“แต่ว่า คุณหนูใช้เงินจนจะหมดอีกแล้วนะเจ้าคะ เหลือเพียงหนึ่งร้อยสิบเอ็ดตำลึงเท่านั้น อีกทั้งกลับไปคราวนี้ยังต้องจ้างช่างเฉินมาทำสร้างห้องบ่าวไพร่ จะให้บ่าวไพร่มาอยู่ร่วมเรือนไม่ได้นะเจ้าคะ”

“ข้ารู้แล้ว อย่างไรเสียช่วงนี้พวกเราก็ไม่ได้อยู่ สร้างก่อนสองห้อง สามวันก็คงเสร็จ”

รถม้าพุ่งออกจากอำเภอเหอ แวะซื้อข้าวของจำเป็นที่ตำบลจางหนาน จ้างเกวียนเทียมวัวอีกหนึ่งคันเพื่อบรรทุกข้าวของ ก่อนมุ่งหน้าเข้าหมู่บ้านซาน

เมื่อมาถึงที่บ้านก็ให้สี่เสวี่ยบอกกล่าว ดูแล และจัดการเรื่องในบ้าน ส่วงซูเจินจูเดินไปหาหัวหน้าหมู่บ้านหวังที่เรือน

“ท่านลุงหวัง อยู่บ้านหรือไม่เจ้าคะ”

“แม่หนูเจินจูหรือ อยู่ๆ ข้าอยู่บ้าน เจ้าขนของย้ายเข้าบ้านหรือ มาๆเข้ามาข้างในก่อน”

“ข้ายังไม่ย้ายมาเจ้าค่ะ แต่พาคนมาอยู่ที่เรือนก่อน วันนี้ข้ามารบกวนลุงหวังแจ้งข่าวช่างเฉินให้หน่อยเจ้าค่ะ ข้าต้องการสร้างเรือนเพิ่ม”

“ได้ๆ พรุ่งนี้ข้าจะให้เขาเข้ามาหาเจ้า”

“ข้าต้องกลับเข้าเมืองวันนี้ ไม่สามารถอยู่รอช่างเฉินได้เจ้าค่ะ ข้าเพียงฝากลุงหวังแจ้งช่างเฉินว่า ข้าต้องการสร้างห้องบ่าวไพร่ที่เรือนชั้นนอกฝั่งขวา สิบห้าห้องเจ้าค่ะ เมื่อคราวก่อนข้าได้คุยกับช่างเฉินไว้แล้ว หากติดขัดตรงไหนให้คุยกับคนของข้าที่อยู่ที่เรือนได้เลยเจ้าค่ะ”

“เป็นเรื่องง่าย ข้าจะแจ้งเขาให้”

“นี่เป็นตั๋วเงินแปดสิบตำลึง ข้าฝากท่านให้ช่างเฉินด้วยเจ้าค่ะ”

“แม่หนู เฮ้อ ข้าน่ะอยากจะเตือนเจ้าไว้ การฝากเงินจำนวนมากถึงเพียงนี้ไว้กับผู้อื่นไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลย ต่อไปเรื่องเงินเรื่องทองเจ้าละเอียดมากกว่านี้หน่อยเถอะ”

“ข้าทราบเจ้าค่ะ แต่ลุงหวังดีกับข้ามาก เป็นธุระจัดการเรื่องราวให้ข้ามากมายนัก หากไม่มีท่านข้าคงซื้อที่ดินดีๆแบบนี้ไม่ได้ ไหนจะออกหน้าพาข้าไปซื้อต้นไม้ เงินทองอะไรก็ปฏิเสธข้าเสียหมด หากข้ายังคิดเล็กคิดน้อยไม่ไว้ใจท่านแม้แต่เงินจำนวนเท่านี้ ข้าคงต้องละอายใจไม่กล้าสู้หน้าใครแล้วเจ้าค่ะ”

“ฮ่าๆ แม่หนู เจ้าช่างปากหวานกับคนแก่อย่างข้า เอาเถอะๆ ข้าจะจัดการให้ ไม่ต้องเป็นห่วง”

 หลังจากกลับมาจากบ้านหัวหน้าหมูบ้านหวัง สี่เสวี่ยก็มารายงานว่านางให้หลิวหยางและจางหมิ่นนอนห้องเดียวกันไปก่อน และบอกสิ่งที่ต้องทำ ต้องดูแลสิ่งใดบ้าง อาหารต่างๆอยู่ที่ใดอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่นางย้ำหนักหนาว่าคุณหนูไม่เคยหวงอาหาร นางต้องการให้ทุกคนกินให้อิ่ม อยู่กับนางไม่อนุญาตให้มีผู้ใดอดอยาก

ซูเจินจูให้หลิวหยางเตรียมม้าเพื่อกลับเข้าอำเภอ และกำชับกับทั้งสองว่า พรุ่งนี้ช่างเฉินจะมาสร้างห้องฝั่งเรือนชั้นนอก ให้กำชับช่างเฉินสร้างห้องของพวกเขาสองคนให้เสร็จภายในสามวันและอีกสามวันนางจะกลับเข้ามา

เมื่อกลับมาถึงบ้านในอำเภอเหอ ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย และเสียงร่ำไห้ออกมาเป็นระยะๆ ซูเจินจูคาดว่าฮูหยินใหญ่มีเรื่องกับอนุลั่วเยี่ยน จึงเดินเลี่ยงโถงหน้าเดิมอ้อมสวนมาเข้าเรือนของตน แต่เมื่อเข้าเรือนมากลับเจอมารดาของนางนั่งจิบชากินขนมอยู่ในห้อง

“คารวะท่านแม่ มาที่เรือนข้ามีอันใดหรือเจ้าคะ”

“มารยาทเจ้าชักจะต่ำทรามลงทุกที ไม่เคยมีผู้ใดสอนเจ้าหรือว่าคำถามมากมายให้เก็บไว้ในใจ หากข้ามีธุระคุยกันไปสักพักข้าจะเกริ่นให้เจ้าถามเอง”

“ท่านแม่ เหตุใดต้องทำให้ยุ่งยากถึงเพียงนั้น อย่างไร เราสองคนก็เป็นบุตรีกับมารดา หากท่านมีธุระ ไม่สู้รีบพูดออกมา ข้าเป็นสิ่งที่ข้าช่วยได้ ไหนเลยจะไม่ช่วยละเจ้าคะ”

“เงินในหีบเจ้าไปไหนหมด”

“เงินของข้า ไม่ได้เก็บไว้ในหีบแล้วเจ้าค่ะ”

“แล้วเงินเจ้าเอาไปเก็บไว้ที่ใด”

“ข้าเก็บไว้อย่างดีเจ้าค่ะ”

“ข้ารู้แล้วว่าเจ้าเก็บไว้อย่างดี แต่ข้าถามเจ้าว่าเก็บไว้ที่ใด”

“ท่านแม่ต้องการเงินหรือเจ้าคะ”

“อาจู เจ้าเสียมารยาทถามข้าเช่นนี้ได้อย่างไร”

“ท่านแม่ ข้าเพียงถามเท่านั้นเจ้าค่ะ หากท่านต้องการเงิน ต่อไปนี้เงินเดือนสิบตำลึงของข้า ข้าจะยกให้ท่าน”

“เอาตามเจ้าว่าเถอะ อืม ข้าเห็นว่าในหีบมีปิ่นทองกับจดหมาย เป็นของคุณชายหลินหรือ”

“ใช่เจ้าค่ะ คุณชายหลินให้ข้ามาก่อนออกเดินทางไปเมืองหลวง”

“เช่นนั้นเจ้าก็เก็บไว้ให้ดี ต่อไปเมื่อเขามาที่บ้านเจ้าก็ปักปิ่นให้เขาดู เห็นทีว่าคุณชายหลินคงหลงเสน่ห์เจ้าเข้าแล้ว อีกหน่อยเวลาเจ้าต้องการใช้เงินก็ไปขอคุณชายหลิน เอาใจสักนิดสักหน่อย จะสิบตำลึงยี่สิบตำลึงก็คงได้มาง่ายๆ”

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

“รีบยั่วยวนคุณชายหลินให้ตกเป็นของเจ้าให้ได้ ต่อไปจะร้อยตำลึงสองร้อยตำลึงหากเจ้าอยากได้คุณชายหลินก็ต้องนำมาให้เจ้า คุณชายหลินอนาคตไกลนักต่อไปเจ้าจะได้ไม่ต้องตกระกำลำบาก”

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

“เจ้าพักผ่อนเถอะ ต่อไปก็ไม่ต้องไปรับเงินแล้ว ข้าจะไปรับเงินแทนเจ้าเอง”

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

มี่ซิ่นที่เห็นว่าซูเจินจูช่างว่านอนสอนง่ายอีกทั้งเงินเดือนสิบตำลึงยังยกให้นางก็คร้านจะดุด่าให้มากความเดินออกจากเรือนของซูเจินจูไปอย่างอารมณ์ดี

“คุณหนู เหตุใดรับคำง่ายๆเช่นนั้นละเจ้าคะ”

“เพราะข้าเป็นลูกกตัญญูยังไงเล่า แค่คำตอบรับง่ายๆก็ทำให้ท่านแม่มีความสุขได้ แล้วยังออกจากห้องข้าไปง่ายๆไม่ซักไซ้เรื่องเงินอีกด้วย”

“แต่รับคำแล้ว ไม่ทำได้หรือเจ้าคะ”

“ได้สิ การที่ข้ารับคำหมายความว่าข้าได้รับรู้สิ่งที่นางต้องการบอกข้าแล้ว ส่วนจะทำหรือไม่ นางไม่รู้หรอก”

“บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูจะให้บ่าวทำบัญชีของวันนี้เลยหรือไม่เจ้าคะ”

“เอาไว้ก่อน ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้าไปเตรียมน้ำเถอะ”

วันถัดมา สี่เสวี่ยวิ่งเข้ามาหาซูเจินจูพูดจาติดๆขัดๆ หน้าซีดจนซูเจินจูตกใจ กว่าจะปลอบให้สงบได้ก็ใช้เวลาไปเกือบหนึ่งเค่อ

“เกิดอะไรขึ้น ค่อยๆเล่าเถอะ ร้อนรนถึงเพียงนี้ข้าฟังไม่รู้เรื่อง”

“พี่เหลียนฮัว บ่าวของคุณหนูรองถูกคนของฮูหยินตีจนตายแล้วเจ้าค่ะ ศพถูกโยนทิ้งไว้ที่สุสานไร้ญาตินอกเมือง ส่วนคุณหนูรองถูกฮูหยินสั่งกักบริเวณเจ้าค่ะ”

“ไอหย๋า ตีจนตายเลยรึ ไหนๆ เจ้าเล่าต่อสิ”

“เมื่อวานคุณหนูรองกับพี่เหลียนฮัวไปหานายน้อยไฉที่ร้านชำเจ้าค่ะ แต่คนงานบอกว่านายน้อยไฉไม่อยู่ คุณหนูรองไม่เชื่อ แต่นายน้อยไฉไม่อยู่จริงๆจึงคร้านจะห้ามนาง ปล่อยให้นางเข้าไปนั่งรอนายน้อยไฉด้านในห้อง อันที่จริงแค่นั่งรอเฉยๆก็ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ แต่พี่เหลียนฮัวไม่รู้ว่าไปซื้อธูปราคะปลุกกำหนัดจากที่ใด นำไปจุดไว้ในห้องทำงานของนายน้อยไฉเพราะคิดว่านายน้อยไฉคงแอบอยู่ในห้อง แต่ห้องทำงานของนายน้อยไฉก็เล็กไปหน่อย ช่องประตู รูหน้าต่างก็มิได้แน่นหนา กลิ่นธูปจึงโชยออกมาที่ลานขนข้าวด้านหลัง เอ่อ แล้วก็ บังเอิญว่า นายท่านไฉถังเทียนบิดาของนายน้อยไฉตงชุนก็ทำงานอยู่ลานขนข้าวพอดีเจ้าค่ะ”

“ไอหย๋า ไอหย๋า ไอหย๋า อย่างนี้พี่รองข้าก็จะมีข่าวดีใช่หรือไม่ ใช่หรือไม่เจ้ารีบเล่าต่อสิ”

“คุณหนู บ่าวยังเล่าไม่จบ อย่าเพิ่งขัดบ่าวสิเจ้าคะ!! คือว่า เรื่องมันไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้นเจ้าค่ะ”

“อ๋อ เพราะเหลียนฮัวอยู่ในห้องด้วยสินะ”

“ถูกกึ่งนึงเจ้าค่ะ แต่ว่าเรื่องทั้งหมดไม่ได้เกิดในห้อง คุณหนูรองกับพี่เหลียนฮัวได้ยินเสียงคนมาจากลานขนข้าว จึงเดินออกมาดู คิดว่าเป็นนายน้อยไฉกำลังหนี แต่กลับ เจอ เอ่อ เจอนายท่านไฉ เอ่อ อยู่กับคนงานอีกสองคนเจ้าค่ะ”

“ไอหย๋า!!!!!!”

“น่าอับอายเหลือเกินเจ้าค่ะ บ่าวได้ยินว่า เอ่อ ทำเรื่องบัดสีกันกลางลานขนข้าว นายท่านไฉโกรธมาก ยังแต่งตัวไม่ทันเรียบร้อยก็ทิ้งคุณหนูรองกับพี่เหลียนฮัวที่เสื้อผ้าฉีกขาดจนหมดไว้ที่ลานขนข้าวกับคนงานเจ้าค่ะ”

“เพ้ย ถึงจะโกรธแค่ไหนก็ไม่ควรทิ้งพี่รองข้าไว้เช่นนั้น”

“ใช่ไหมล่ะเจ้าคะ สุดท้ายคุณหนูรองกับพี่เหลียนฮัวก็ต้องใส่เสื้อผ้าของคนงานกลับมาเจ้าค่ะ บ่าวได้ยินคนเฝ้าประตูเล่าว่า เสื้อผ้าที่ใส่กลับมาทั้งสกปรก ทั้งเหม็น แถมยังมีรอยช้ำสีแดงสีม่วงเต็มตัวด้วยเจ้าค่ะ ตอนเข้ามาคุณหนูรองทั้งหลบทั้งเลี่ยงเจอบ่าวคนไหนก็ขู่บ่าวคนนั้นว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร แต่ตอนเย็นฮูหยินไฉก็มาเป็นแม่สื่อสู่ขอคุณหนูรองให้คนงาน เรื่องเลยรู้ถึงหูฮูหยินเจ้าค่ะ

“ไอหย๋า สู่ขอพี่รองข้าไปให้คนงาน ฮูหยินไฉช่างหน้าใหญ่เสียจริง”

“หน้าใหญ่จริงๆด้วยเจ้าค่ะ อย่างไรซะคุณหนูรองก็ยังเป็นถึงคุณหนูตระกูลซู การค้าของตระกูลซูก็กว้างขวางกว่าบ้านไฉมาก ทำแบบนี้ตั้งใจฉีกหน้าตระกูลซูของคุณหนูชัดๆ”

“มิน่า เมื่อวานท่านแม่ข้าจึงดูเหมือนคนเพิ่งดูงิ้วจบ ที่แท้มีงิ้วโรงใหญ่นี่เอง เจ้าเองก็ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้มาก หากเจ้าสนใจมากไปคนจะโยงไปถึงเรื่องที่ไฉตงชุนเคยส่งแม่สื่อมาสู่ขอข้า ข้าไม่อยากเป็นนักแสดงงิ้ว”

“บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ”

 ...

เมื่อครบกำหนดสามวัน ซูเจินจูเข้าไปบอกฮูหยินว่าตนจะไปทำการค้าต่างเมือง แต่ฮูหยินซูปิดประตูไม่รับแขก จึงเพียงบอกสาวใช้เข้าไปบอกให้

ซูเจินจูเข้าไปรับเข็มเงินที่โรงเหล็กอู่จินชาง และไปที่ตลาดค้าทาสอีกครั้ง ครั้งนี้ซูเจินจูซื้อทาสหญิงรับใช้ที่ทำกับข้าวได้หนึ่งคน เมื่อรับคน จ่ายเงินเรียบร้อยก็เช่ารถม้าเพื่อตรงไปยังหมู่บ้านซานทันที

 ..

“หมดแล้ว คราวนี้หมดจริงๆแล้วเจ้าค่ะคุณหนู”

“อะไรหมด เจ้าบ่นอะไรนะ ตั้งแต่ขึ้นรถมาเจ้ายังบ่นไม่หยุดเลย”

“ก็เงินหมดแล้วไงเจ้าค่ะ คุณหนู เหลือเงินเพียงสิบสี่ตำลึงเองนะเจ้าคะ”

“ข้าให้เจ้านำปิ่นทองดอกเหมยไปขาย เจ้าทำอิดออดไม่ยอมไปจนข้าหมดตัวแล้ว” ซูเจินจูพูดไปขำไป ที่เห็นหน้าสี่เสวี่ยทำหน้าเจ็บปวด

“โถ่คุณหนู ของที่คุณชายหลินให้มา ขายไม่ได้นะเจ้าคะ”

“เอาล่ะๆ เจ้าไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นแล้ว คราวนี้เจ้าวาดผ้าให้ข้าสักสามพับข้าก็จะมีเงินแล้วไม่ใช่หรือ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 14

    เมื่อถึงบ้านชนบท ซูเจินจูเข้าไปทำลายผ้าทันที สี่เสวี่ยจัดการบอกกล่าวกฎระเบียบในบ้านให้ซินซียงทาสที่ซื้อมาใหม่ฟัง เมื่อเห็นว่าหลิวหยางและจางหมิ่นออกไปอยู่ที่เรือนชั้นนอกแล้ว ก็ให้ซินเซียงเข้าไปพักอยู่ห้องเดิมของทั้งสองคนก่อน ตรวจดูความเรียบร้อยในบ้านและในครัวแล้วเห็นว่าข้าวและธัชพืชเหลือเล็กน้อย จึงให้หลิวหยางเตรียมรถม้าและพาซินเซียงไปตลาดในตำบล สี่เสวี่ยซื้อชุดเครื่องนอนใหม่และผ้าฝ้ายสำหรับตัดชุดหนึ่งพับให้ซินเซียง ข้าวสาร ธัญพืช ผักดอง เกลือ น้ำตาล เพียงพอที่จะใช้ไปถึงสองเดือน สี่เสวี่ยจ่ายเงินสามตำลึงอย่างเจ็บปวดและยัดของทุกอย่างเข้าไปในรถม้า วันนี้คุณหนูไม่ได้มาด้วย นางไม่จำเป็นต้องจ้างเกวียนเทียมวัวเพิ่มเมื่อกลับมาถึงบ้าน แต่ละคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนเอง สี่เสวี่ยไปวาดลายผ้าที่ลานหิน ซินเซียงเก็บข้าวของและเข้าครัวทำกับข้าว หลิวหยางตรวจตราบริเวณหน้าบ้านไม่ให้คนงานเข้ามาวุ่นวายที่เรือนชั้นใน จางหมิ่นตรวจตราบริเวณหลังบ้าน ดูแลสวนดอกหอมหมื่นลี้และดูแลซูเจินจูบริเวณลานหิน

    Last Updated : 2025-04-08
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 15

    คราแรกสี่เสวี่ยไม่ต้องการให้คุณหนูเลือกทาสที่ดูน่ากลัวผู้นี้ แต่คัดค้านความต้องการของคุณหนูไม่ได้ เมื่อฟังพ่อค้าทาสแล้วก็เบาใจขึ้นหลังจากจ่ายเงินสามสิบตำลึง สี่เสวี่ยไปซื้อรังผึ้งจากร้านชำบ้านไฉและพาเยว่ชิงออกเดินทางไปที่หมู่บ้านชนบททันทีซูเจินจูพาเฟยหลันมาที่ร้านผ้าซูเตี้ยน ให้นางเลือกชุดผ้าฝ้ายสำเร็จรูปสองชุดก็จะตรงไปที่โรงหลอมเหล็กอู่จินจาง“เจ้าเข้าไปเลือกอาวุธสักชิ้นเถอะ”“….”“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นวรยุทธ์ เข้าไปเลือกเถอะ”“คุณหนู เหตุใด...” นางแปลกใจ เฉพาะแผลเป็นบนใบหน้าก็ทำให้คนทั่วทั้งแคว้นรังเกียจนาง ผู้ที่ต้องการซื้อตัวนางล้วนเป็นบุรุษวัยกำดัด หากเป็นสตรีก็สตรีที่ชื่นชอบการเหยียบย่ำผู้อื่น แต่หากรู้ว่านางเป็นวรยุทธ์ก็จะยิ่งทรมานนางมากขึ้น ด้วยรู้นางไม่สามารถตอบโต้ได้ ก่อนหน้านี้นางถูกคุณหนูจวนแม่ทัพผิงซื้อตัวไป

    Last Updated : 2025-04-08
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 1

    “เด็กใหม่?”“ไม่ใช่ ... เด็กคนนี้คือคุณหนูเฟิงซือจู ลูกสาวของ คุณซือฉือกับคุณฟางเหนียง”“อ่อเด็กคนนั้น มีชื่อในใบสั่งตายแต่รอดชีวิตมาได้ เด็กกำพร้าวัยสองปีรึ เอามาไว้ที่ข้าเถอะ ข้าจะเลี้ยงให้เป็นนักฆ่าที่เก่งที่สุด”“มาอยู่แค่ชั่วคราวเท่านั้น ฝากเจ้าเลี้ยงไว้ที่นี่ก่อน ผู้สังหารต้องการฆ่าล้างครอบครัว หลังจากจัดการคนพวกนั้นได้ ค่อยส่งคุณหนูให้นายท่านเฟิงหม่าจู”“ถ้าฝากเลี้ยงแค่ชั่วคราวก็หาคนอื่นเถอะ”“เจ้า!!!”…....“คุณปู่ .. ทางนู้นมีทุ่งหญ้า แล้วก็มีดอกไม้เต็มไปหมด ภูเขาก็กว้างมากเลยค่ะ หลานชอบ” เด็กสาวตัวน้อยวิ่งมาด้วยรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจผู้มองพองโตเหมือนฤดูใบไม้ผลิ บรรยากาศรอบตัวอบอวลด้วยความสดใส มีชีวิตชีวา“ถ้าเจ้าชอบ เจ้าก็อยู่ที่นี่เถอะ ...” น้ำเสียงเจือความลำบากใจของเฟิงหม่าจูเอ่ยขึ้น พลันทำให้ผู้ติดตามก้มหน้ามองพื้นด้วยความสงสารเด็กน้อยที่ต้องตัดขาดจากโลกภายนอกด้วยวัยเพียง 4 ปี“นายท่าย ท่านหมอเหวิงและท่านหมอหยางมาถึงแล้วครับ”“นายท่าน ครูฝึกเซียวมาถึงแล้วครับ”“นายท่าน พ่อบ้าน แม่นม คนรับใช้ และผู้ดูแลทั้งหมด หนึ่งร้อยแปดชีวิตเข้าประจำที่คฤหาสน์ของตระกูลเฟิงเรียบร้อยแล้วคร

    Last Updated : 2025-04-03
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 2

    โอ้ย.. เจ็บหัว เจ็บหน้าผาก ทำไมเจ็บที่หน้าผากล่ะ??? อ่า จำได้ว่าตอนที่ขับเครื่องบินชมวิวอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ระหว่างข้ามน้ำตกไนแองการ่าฉันถูกตีที่ท้ายทอย ผู้ชายคนนั้น อดีตนายตำรวจใหญ่บิดาของจางเหว่ยซ่อนตัวอยู่บนเครื่องบิน กลับมาล้างแค้นสินะ หึหึ สุดท้ายก็ต้องตายด้วยน้ำมือฉันอยู่ดี สิบกว่าปีก็ยังคงรอคอยเพื่อแก้แค้นฉัน ทำอะไรฉันตอนอยู่ในประเทศจีนไม่ได้ก็ลอบติดตามมาทำร้ายฉันถึงแคนนาดา ยอมแลกชีวิตเพื่อแก้แค้นให้ลูกสาวเพียงคนเดียวที่ถูกฉันเฉือนเนื้อเถือกระดูกคนนั้น..ฮ่าๆ ฉันรอดชีวิต ตกมาจากความสูงขนาดนั้น ตกลงมากลางมหาสมุทร นี่ฉันรอดมาได้ยังไงนะ หรือว่าลอยมาติดเกาะ?ขณะที่เฟิงซือจูลืมตาลำแสงสีส้มยามเย็นลอดผ่านขอบหน้าต่างเข้ามา ยังไม่ทันสังเกตสถานที่นี้ให้ชัด ความเจ็บปวดรุนแรงที่ศรีษะก็ถาโถมเข้ามา เมื่อทนความเจ็บปวดไม่ไหวก็สลบไปอีกครั้งจวบจนเช้าอีกวัน เมื่อเฟิงซือจูลืมตาขึ้นก็ต้องประหลาดใจกับสถานที่ตรงหน้า ที่นี่ที่ไหน ไม่ใช่โรงพยาบาลเหรอ นั่น นั่น! โต๊ะเครื่องแป้งแบบโบราณ? ชุดโต๊ะไม้แดงกลางห้อง? ตู้เสื้อผ้าแบบเตี้ยสองบานพับ? เชิงเทียนรูปทรงแปลกๆนั่น? … นี่มันเฟอร์นิเจอร์จีนโบราณเหรอ แม่เจ

    Last Updated : 2025-04-03
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 3

    คำพูดทั้งหมดของหลินเฮงฉวนนั้นถูกส่งต่ออย่างครบถ้วน แต่คนฟังนั้นไม่ใช่ซูเจินจู แต่เป็นนายท่านซูเป่า“มันขู่ข้า มันขู่จะเอาร้านผ้ามาเปิดแข่งกับข้า เจ็บใจนักเพราะนังลูกอัปรีย์ ทำให้พวกมันขึ้นมาเหยียบบนหัวข้าแล้ว” เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความโกรธทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ“ท่านพี่ อย่าโกรธขนาดนี้เลยเจ้าค่ะ รักษาสุขภาพด้วย เจ้าเองก็เหมือนกันหนี่ย์เอ๋อร์ เรื่องพวกนี้บอกพ่อเจ้าได้เหรอ จะให้พ่อเจ้าโกรธตายรึยังไง” ฮูหยินซูเข้าไปปลอบสามีด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ แต่ไหนแต่ไรมานางไม่เคยเห็นนายท่านซูโกรธขนาดนี้“เจ้าสิตาย ปากเจ้าใหญ่แค่ไหนถึงกล้ามาแช่งข้า เพราะหนี่ย์เอ๋อรู้ความถึงได้บอกข้า ไม่บอกแล้วข้าจะรู้เหรอว่าไอ้จวนนายอำเภอมันตั้งใจจะเหยียบหัวข้า ทำการค้ามาตั้งกี่ปี จ่ายให้พวกมันไปตั้งเท่าไหร่ หนังเสือยังไม่ทันส่งเข้าเมืองหลวงก็ต้องส่งเข้าจวนนายอำเภอก่อนมันยังกล้าขู่ข้าขนาดนี้ อัปรีย์ ไอ้พวกอัปรีย์!! ไป ไปตามอาจูมา ข้าต้องถามนางให้รู้เรื่อง” ทำการค้ามาหลายปีจะมายอมขาดทุนแบบนี้ไม่ได้ กว่าจะเลี้ยงซูเจินจูมาหมดเงินไปตั้งเท่าไหร่ แต่งงานมีหน้ามีตาไม่ได้ ก็ต้องแต่งได้เส้นสาย แต่งเงินแต่งทองไม่ได้ก็ต้

    Last Updated : 2025-04-03
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 4

    ซูเจินจูออกจากบ้านตระกูลซูมาพร้อมสี่เสวี่ยตรงเข้าไปที่ “ร้านผ้าซูเตี้ยน”“คุณหนูสี่มาแล้ว” หลงจู๊ออกมาตอนรับซูเจินจูอย่างคุ้นเคย น้ำเสียงเจือความห่วงใย หลงจู๊ผู้นี้ทำงานอยู่ที่ร้านผ้าซูเตี้ยนมาตั้งแต่เริ่มเปิดร้านใหม่ๆ ได้รับความไว้ใจจากนายท่านผู้เฒ่าซูมาก ยิ่งเห็นซูเจินจูมาตั้งแต่เกิดจนโต ได้ยินข่าวเสียหายที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้วยิ่งเป็นห่วงคุณหนูผู้นี้จากใจจริง“ทำให้ท่านลุงฝูเป็นห่วงแล้ว”“คุณหนูรีบเข้าไปข้างในก่อนเถอะขอรับ” หลงจู๊พยายามพูดให้ซูเจินจูเข้าไปด้านในให้ได้ ด้วยเห็นสายตาจากหลายๆคนมองมาที่ซูเจินจูอย่างอยากรู้อยากเห็น เรื่องที่เกิดขึ้นในจวนนายอำเภอได้ถูกเล่าลือออกไปอย่างกว้างขวาง แต่ซูเจินจูกลับเพียงยืนนิ่งๆอยู่ตรงนั้นสักพัก หลังทักทายกันอีกสองสามประโยค ซูเจินจูจึงขอตัวเข้าไปดูเอกสารที่ห้องทำงานบนชั้นสองร้านผ้าซูเตี้ยนเป็นร้านผ้าที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของอำเภอเหอ ขายผ้าพับและเสื้อคลุมขนสัตว์ผ้าพ

    Last Updated : 2025-04-03
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 5

    เดือนละสิบตำลึง ปีนึงจะได้หนึ่งร้อยยี่สิบตำลึง หกปีก็จะมีเจ็ดร้อยยี่สิบตำลึง ในหีบนี้เหลือเงินห้าร้อยตำลึง หักจากที่นางสั่งทำอุปกรณ์ทำผ้าห้าตำลึง ซื้อกริชเงินสี่สิบตำลึง เจินจูคนเก่านับได้ว่าประหยัดจริงๆอืม... ปิ่นเงินแปดอัน ปิ่นทองหกอัน ปิ่นหยกสี่อัน ชุดเครื่องประดับเงินสองชุด ชุดเครื่องประดับทองสองชุด ต่างหูหยกหนึ่งคู่ ต่างหูปะการังแดงหนึ่งคู่เอ๊ะ!! เสื้อคลุมขนจิ้งจอกแดง“ปิ่นเงินหนึ่งอัน ปิ่นหยกหนึ่งอัน ต่างหูหยกหนึ่งคู่ เอาไว้เท่านี้พอ ที่เหลือเจ้าเอาไปขายซะ” ยิ่งคิดก็ยิ่งเข้าท่า ของพวกนี้มีไว้นางก็ไม่ได้ใช้ ไม่สู้เปลี่ยนเป็นเงินเตรียมไว้ดีกว่า“ไม่ได้นะเจ้าคะคุณหนู!!!! ของพวกนี้ต้องเก็บไว้เป็นสินเดิม หากคุณหนูแต่งงานออกไปแล้วไม่มีสินเดิมจะถูกครอบครัวฝ่ายชายรังแกเอานะเจ้าคะ” สี่เสวี่ยตกใจกับท่าที่ของคุณหนูของนาง ตั้งแต่ชนเสาคราวนั้นคุณหนูของนางก็ดูเปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าจะยังใจดีกับนาง แต่ท่าทางเฉยเมยตลอดเวลานั้นก็ราวกับเป็

    Last Updated : 2025-04-03
  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 6

    เช้าวันต่อมา ขณะที่ซูเจินจูกำลังจะออกไปร้านผ้า อิงชุ่ยก็ได้มาขวางหน้านางไว้“คุณหนูใหญ่ให้บ่าวมาเชิญคุณหนูสี่ไปชมดอกเหมยที่หมู่บ้านจั๋วมู่ด้วยกันเจ้าค่ะ” อิงชุ่ยพูดจาอ่อนหวานมีความเคารพต่อซูเจินจู เมื่อเช้าอิงเถาได้ออกไปจ้างอันธพาลไว้แล้ว นางต้องพาคุณหนูสี่ไปด้วยกันให้สำเร็จ“ข้าไม่ไป” ซูเจินจูไม่ได้สนใจอิงชุ่ย นางเดินออกไปทันที อิงชุ่ยที่ไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอ้าปากพะงาบๆเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาทุกๆสองวันซูหนี่ย์จะต้องให้อิงชุ่ยมาชวนนางออกไปข้างนอก ทุกครั้งซูเจินจูจะปฏิเสธกลับไป แต่ครั้งนี้ เป็นฮูหยินรองที่มาชวนนางออกไปเดินตลาด ซูเจินจูเพียงให้เงินนางไปสิบตำลึง และด้วยเห็นแก่เงินสิบตำลึง ฮูหยินรองมี่ซิ่นจึงไม่ได้รบเร้าเจินจูต่อและออกไปอย่างสบายใจ“ท่านน้า เจินจูเออร์ละเจ้าคะ ข้าสั่งบ่าวไพร่ให้ไปจองเหลาอาหารตือฟ่างกว่างไว้แล้ว จะได้ให้เจิ

    Last Updated : 2025-04-04

Latest chapter

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 15

    คราแรกสี่เสวี่ยไม่ต้องการให้คุณหนูเลือกทาสที่ดูน่ากลัวผู้นี้ แต่คัดค้านความต้องการของคุณหนูไม่ได้ เมื่อฟังพ่อค้าทาสแล้วก็เบาใจขึ้นหลังจากจ่ายเงินสามสิบตำลึง สี่เสวี่ยไปซื้อรังผึ้งจากร้านชำบ้านไฉและพาเยว่ชิงออกเดินทางไปที่หมู่บ้านชนบททันทีซูเจินจูพาเฟยหลันมาที่ร้านผ้าซูเตี้ยน ให้นางเลือกชุดผ้าฝ้ายสำเร็จรูปสองชุดก็จะตรงไปที่โรงหลอมเหล็กอู่จินจาง“เจ้าเข้าไปเลือกอาวุธสักชิ้นเถอะ”“….”“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นวรยุทธ์ เข้าไปเลือกเถอะ”“คุณหนู เหตุใด...” นางแปลกใจ เฉพาะแผลเป็นบนใบหน้าก็ทำให้คนทั่วทั้งแคว้นรังเกียจนาง ผู้ที่ต้องการซื้อตัวนางล้วนเป็นบุรุษวัยกำดัด หากเป็นสตรีก็สตรีที่ชื่นชอบการเหยียบย่ำผู้อื่น แต่หากรู้ว่านางเป็นวรยุทธ์ก็จะยิ่งทรมานนางมากขึ้น ด้วยรู้นางไม่สามารถตอบโต้ได้ ก่อนหน้านี้นางถูกคุณหนูจวนแม่ทัพผิงซื้อตัวไป

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 14

    เมื่อถึงบ้านชนบท ซูเจินจูเข้าไปทำลายผ้าทันที สี่เสวี่ยจัดการบอกกล่าวกฎระเบียบในบ้านให้ซินซียงทาสที่ซื้อมาใหม่ฟัง เมื่อเห็นว่าหลิวหยางและจางหมิ่นออกไปอยู่ที่เรือนชั้นนอกแล้ว ก็ให้ซินเซียงเข้าไปพักอยู่ห้องเดิมของทั้งสองคนก่อน ตรวจดูความเรียบร้อยในบ้านและในครัวแล้วเห็นว่าข้าวและธัชพืชเหลือเล็กน้อย จึงให้หลิวหยางเตรียมรถม้าและพาซินเซียงไปตลาดในตำบล สี่เสวี่ยซื้อชุดเครื่องนอนใหม่และผ้าฝ้ายสำหรับตัดชุดหนึ่งพับให้ซินเซียง ข้าวสาร ธัญพืช ผักดอง เกลือ น้ำตาล เพียงพอที่จะใช้ไปถึงสองเดือน สี่เสวี่ยจ่ายเงินสามตำลึงอย่างเจ็บปวดและยัดของทุกอย่างเข้าไปในรถม้า วันนี้คุณหนูไม่ได้มาด้วย นางไม่จำเป็นต้องจ้างเกวียนเทียมวัวเพิ่มเมื่อกลับมาถึงบ้าน แต่ละคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนเอง สี่เสวี่ยไปวาดลายผ้าที่ลานหิน ซินเซียงเก็บข้าวของและเข้าครัวทำกับข้าว หลิวหยางตรวจตราบริเวณหน้าบ้านไม่ให้คนงานเข้ามาวุ่นวายที่เรือนชั้นใน จางหมิ่นตรวจตราบริเวณหลังบ้าน ดูแลสวนดอกหอมหมื่นลี้และดูแลซูเจินจูบริเวณลานหิน

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 13

    หลังจากขึ้นรถม้ามา สี่เสวี่ยก็อดที่จะพูดพึมพำใส่ซูเจินจูได้ไม่“เข็มเงินร้านข้างนอกชุดละหกตำลึงเท่านั้นนะเจ้าคะคุณหนู”“ข้ารู้ แต่คุณภาพต่างกันมากนัก เข็มเงินของท่านอาฮุ่ยซิ่วทั้งตรง กลม และแหลมในขนาดที่สมส่วน ขนาดเข็มแต่ละเล่มก็มีความสั้นยาวสูงต่ำตามที่ข้าต้องการ หากไปซื้อร้านด้านนอก วันนึงก็ต้องกลับมาสั่งทำอยู่ดี เมื่อถึงวันนั้นต้นแบบก็ไม่มี ไม่รู้จะได้เข็มเงินที่ถูกใจเช่นนี้หรือไม่”“แต่ว่า คุณหนูใช้เงินจนจะหมดอีกแล้วนะเจ้าคะ เหลือเพียงหนึ่งร้อยสิบเอ็ดตำลึงเท่านั้น อีกทั้งกลับไปคราวนี้ยังต้องจ้างช่างเฉินมาทำสร้างห้องบ่าวไพร่ จะให้บ่าวไพร่มาอยู่ร่วมเรือนไม่ได้นะเจ้าคะ”“ข้ารู้แล้ว อย่างไรเสียช่วงนี้พวกเราก็ไม่ได้อยู่ สร้างก่อนสองห้อง สามวันก็คงเสร็จ”รถม้าพุ่งออกจากอำเภอเหอ แวะซื้อข้าวของจำเป็นที่ตำบลจางหนาน จ้างเกวียนเทียมวัวอีกหนึ่งคันเพื่อบรรทุกข้าวของ ก่อนมุ่งหน้าเข

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 12

    “พวกท่านให้บ่าวไปตามข้า มีอะไรหรือเจ้าคะ” ซูเจินจูเบื่อที่จะต้องเสแสร้งพูดจาสามส่วนเช่นนี้ นางอยากจะถามตั้งแต่ประโยคแรกที่มาถึงแล้วว่าเรียกนางมาทำไม นางไม่เข้าใจเหตุใดวาจาสามส่วนพูดอ้อมเจ็ดส่วนพวกนี้ถึงได้เป็นที่นิยมนัก“ข้าเพียงมาบอกเจ้าว่า พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปสอบก่งเซิ่น” เรื่องพวกนี้ต้องให้เขาเตือนด้วยหรือ นางที่จะเป็นเป็นสตรีของเขา เหตุใดจึงไม่ปักรองเท้าให้เขาเล่า ไม่ใช่ว่าเป็นที่รู้กันอยู่แล้วหรือว่ายามบุรุษไปสอบเคอจวี่ ต้องให้รองเท้าเป็นความหมายว่าให้เดินทางปลอดภัย หากการเย็บปักของนางไม่ดี อย่างน้อยเพียงผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนเพื่อเป็นความหมายว่านางรอเขากลับมาก็ควรต้องมีใช่หรือไม่ หรือนางต้องการใช้โอกาสนี้สนิทสนมกับไฉตงชุน จึงได้ทำเช่นนี้“อ่อ เช่นนั้นข้าขออวยพรให้ท่านเดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ” เอ้า ก็แค่ไปสอบ จะต้องมาบอกด้วยหรือ“เจินจูเอ๋อร์ เจ้าเสียมารยามใส่คุณชายหลินอีกแล้ว ดูน้องสาวคนนี้ของหนี่ย์เอ๋อร์สิเจ้าคะ จะเข้าไปเป็นสตรีของคุณชายอยู่แล้วยังขาดการ

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 11

    ซูเจินจูที่คุยกับฮูหยินรองจนหมดแรงเดินกลับมาที่เรือนก็เห็นว่าสี่เสวี่ยเตรียมข้าวของไว้เรียบร้อยแล้ว และยังไม่ลืมที่จะเตรียมเบาะรองนั่งอย่างดีไว้ให้นางถึงสี่ใบ“คุณหนูของที่ต้องเตรียมจากที่เรือนนี้ บ่าวเตรียมครบแล้วเจ้าค่ะ แต่ที่บ้านของคุณหนูไม่มีทั้งเครื่องเรือนแล้วครื่องครัว คุณหนูจะอยู่ลำบากเกินไปหรือไม่เจ้าคะ”“พรุ่งนี้ระหว่างทางก็แวะร้านค้าในตำบลเสียหน่อย ซื้อเครื่องนอนสองชุด ตะเกียงสี่ชุด เครื่องครัวก็ตามที่เจ้าเห็นสมควร ข้าวสาร ธัญพืชอีกเล็กน้อย แล้วก็แวะ

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 10

    เมื่อไปถึงหมู่บ้านจั๋วมู่ ซูเจินจูพาหัวหน้าหมู่บ้านจั๋วมู่กับชาวบ้านอีกสามคนขึ้นไปดูต้นไม้ที่นางต้องการ“กลิ่นดอกไม้ที่เราได้กลิ่นกันมาจากต้นไม้พวกนี้หรือ” หลังจากที่มาถึงที่ กลิ่นหอมอบอวนทำให้ชาวบ้านแปลกใจ ใจนึงก็คิดว่าหากเป็นกลิ่นดอกไม้พวกนี้แล้วนางขุดไป ต่อไปจะไม่มีคนมาชมดอกไม้ที่หมู่บ้านอีกเป็นแน่“ไม่ใช่หรอกเจ้าค่ะท่านลุง กลิ่นพวกนี้เป็นกลิ่นจากดอกเหมยด้านล่างรวมกับกลิ่นความชื้นของป่าที่สมบูรณ์แห่งนี้เจ้าค่ะ แต่หากว่ามีคนขึ้นมาบนนี้บ่อยๆ ต้นไม้และเถาวัลย์ถูกเหยียบย่ำก็จะทำให้กลิ่นของดอกเหมยลอยออกไป ไม่ติดค้างอยู่ที่ที่เจ้าค่ะ ท่านลุงลองดมกลิ่นหญ้าพวกนี้สิเจ้าคะ หญ้าพวกนี้ก็มีกลิ่นเช่นเดียวกัน” ซุเจินจูไม่สามารถพูดความจริง หากนางบอกความจริงคนพวกนี้ไม่มีทางให้นางขุดต้นไม้พวกนี้แน่ นางทำได้พียงหาข้ออ้างที่แม้แต่นางก็ยังรู้สึกไม่น่าเชื่อ ก็ได้แต่ภาวนาในใจว่า หวังว่าท่านลุงทั้งหลายจะเชื่อข้านะเจ้าคะ“เป็นอย่างที่เจ้าว่า เห็นทีว่าไม่ว่าอะไรที่อยู่ตรงนี้

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 9

    “คุณชายหลินกลับไปแล้วหรือเจ้าคะ” สี่เสวี่ยที่เห็นซูเจินจูเดินเข้าเรือนมาก็รีบออกมาหาทันที“กลับไปแล้ว สี่เสวี่ยเจ้าไปเอาเงินข้าออกมานับเร็ว ดูสิว่าข้าเหลือเงินเท่าไหร่”“นับเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ วันนี้คุณหนูซื้อที่ดินสองร้อยตำลึง ให้ลุงหวังสิบตำลึง มัดจำค่าปลูกบ้านสามร้อยตำลึง ค่ารถม้าสามร้อยอีแปะ ซาลาเปายี่สิบลูกแปดสิบอีแปะ ขนมร้านเสี่ยวซือกวงสองตำลึง บะหมี่ของคุณหนูสองชามของบ่าวหนึ่งชาม สิบห้าอีแปะ คุณหนูจะเหลือเงิน สามร้อยเก้าสิบห้าตำลึงกับหกร้อยสิบห้าอีแปะเจ้าค่ะ บ่าวแบ่งเงินที่ต้องจ่ายช่างเฉินออกมาอีก สองร้อยเจ็ดสิบห้าตำลึง คุณหนูจะเหลือเงินหนึ่งร้อยยี่สิบตำลึงกับหกร้อยสิบห้าอีแปะเจ้าค่ะ”“สี่เสวี่ย ต่อไปข้าคงต้องพึ่งพาฝีมือวาดรูปของเจ้า ให้เลี้ยงดูข้าเสียแล้ว” นางฟังที่สี่เสวี่ยเจื้อยแจ้วจัดการบัญชีให้นางดูเหมือนผู้จัดการตัวน้อย ทุกครั้งที่เงินในหีบนี้ลดลง สีหน้าของสี่เสวี่ยดูเจ็บปวดมากกว่านางที่เป็นเจ้าของเงินเสียอีก“หากคุณห

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 8

    เมื่อถึงวันนัด อิงเถากลับมารายงานซูหนี่ย์ว่าซูเจินจูออกจากบ้านไปตั้งแต่ยามเฉิน ไม่มีใครรู้ว่าไปที่ใด ซูหนี่ย์ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ออกไปพบคุณชายหลินเพียงลำพังด้านซูเจินจูที่ออกจากบ้านมานั้น นางออกจากอำเภอเหอ ผ่านตำบลจี๋หลง และตำบลจ้างหนาน จนถึงหมู่บ้านซานหมู่บ้านซานเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีคนอาศัยอยู่เพียงห้าสิบหลังคาเรือน พื้นดินแห้งแล้งทำให้ปลูกพืชผักได้น้อยกว่าหมู่บ้านอื่น จึงไม่ค่อยมีคนนอกหมู่บ้านเข้ามาวุ่นวาย เป็นตัวเลือกที่ดีของนางซูเจินจูเข้าไปพูดคุยกับหัวหน้าหมู่บ้าน แจ้งความต้องการว่าต้องการซื้อที่ดิน หลังการสอบถามจนแน่ใจว่าพวกนางจะไม่เป็นอันตรายต่อคนในหมู่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านก็พาพวกนางมาวัดที่ดินที่ว่างอยู่ท้ายหมู่บ้าน ที่ดินตรงนี้ด้านหน้าติดถนน รถม้าเข้าออกสะดวกด้านหลังลากยาวไปจนติดภูเขา ถัดไปอีกสิบจั้งก็เป็นลำธาร ติดตรงที่พื้นที่ตรงนี้กว้างถึงห้าสิบหมู่ ในตอนแรกซูเจินจูค่อนข้างลำบากใจถ้าหากต้องซื้อที่กว้างขนาดนี้ นางกลัวว่าเงินที่นางมีอยู่จะไม่พอ แต่

  • พ่ายรักบุปผาพิษ   บทที่ 7

    “เอ่อ.. เป็นตระกูลไฉ มาขอหมั้นคุณหนูสี่ให้นายน้อยไฉตงชุนเจ้าค่ะ” อิงชุ่ยพูดเสียงเบาด้วยรู้ว่าคุณหนูใหญ่เกลียดคุณหนูสี่ และยังไม่สามารถวางอุบายรังแกนางได้สำเร็จสักครั้ง“เจ้าว่าอะไรนะ ขอหมั้นนังจิ้งจอกนั่น!! นังแพศยา เตียงคุณชายหลินรออยู่ข้างหน้ายังกล้าให้ท่าบุรุษอื่นเชียวรึ” เหอๆ นังตัวดี คราวนี้เจ้าไม่รอดแน่ หากคุณชายหลินรู้ เจ้าไม่มีทางชูคออยู่บนเตียงได้แน่ และถ้าหากนายน้อยไฉรู้ว่าเจ้ามีค่าเพียงสาวใช้อุ่นเตียงก็อย่าหวังเลยว่าเจ้าจะเป็นแต่งเข้าไปเป็นฮูหยินฮูหยินซูก็ไม่ทำให้ลูกสาวสุดที่รักอย่างซูหนี่ย์ต้องผิดหวัง คนเราหากหวังดีปฏิเสธแม่สื่ออ้อมๆก็ยังพอรักษาหน้า แต่คนอย่างฮูหยินซู มีช่องให้ทำลายซูเจินจูมีหรือจะไม่ทำ เล่าวีรกรรมซูเจินจูที่เข้าไปให้ท่าคุณชายหลินถึงในจวนนายอำเภอ ออกอุบายให้คุณชายหลินทำลายชื่อเสียงตน ร้องขอขึ้นเป็นฮูหยินตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อนทั้งที่พิ่งจะอายุสิบสามปี เพราะความอิจฉาที่คุณชายหลินมีใจให้ซูหนี่ย์ คุณชายหลินทั้งสงสารทั้งรู้สึกผิดจึงเขียนสัญญาจะรับนางเข้าจวนไ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status