เนื่องมาจากผู้ป่วยไม่รู้ว่าได้รับสารพิษตัวใดแน่ประกอบกับมีไข้สูง แพทย์จึงทำการล้างท้องเพื่อกำจัดสารแปลกปลอมออกจากร่างกาย ให้น้ำเกลือ และทำการตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยสาเหตุเพิ่มเติมในเบื้องต้น
ชายร่างกำยำในชุดสีเขียวของคนไข้ตอนนี้หมดสภาพอยู่บนเตียงผู้ป่วย ใบหน้าหล่อเหลาราวกระดาษขาวซีดกว่ากางเกงยีนที่ใส่มาในทีแรก ทั่วทั้งไรผมสีน้ำตาลเข้มเปียกชุ่มเหงื่อเพราะอุณหภูมิร้อนรุ่ม บางครั้งก็มีอาการหนาวสั่น “ญาติคนไข้ใช่ไหมคะ?” พยาบาลสาวถาม ก่อนหันไปมองฝรั่งหล่อล่ำกล้ามโต ก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกตั้งแต่เข็นเตียงผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลมาท่ามกลางสายตาวิบวับของเหล่าสาวน้อยใหญ่ ถ้าไม่มองนี่สิแปลก! “ค่ะ ใช่ค่ะ...” / “ไม่ใช่ครับ” เอ่ยพร้อมกัน พยาบาลสาวหน้าตาดีถึงกับงุนงง ทว่าไม่ทันจะได้ซักต่อ “คุณอลัน คุณมีญาติที่ไหนเล่า ก็ต้องยัยปริมเนี่ยล่ะตอนนี้ เลิกทะเลาะกันก่อนนะคะ... ยัยปริม แกอยู่ดูคุณอลันเลยนะ” ปลายเสียงต่อว่าเพื่อนในฝั่งตรงข้ามกัน ตัวต้นเหตุของเรื่องวุ่น ๆ ทั้งหมดคงรู้ตัวเป็นอย่างดี ในเหตุว่ามีเรื่องฉุกเฉินจำเป็นอะไร ต้องมีญาติคนไข้ลงนามยินยอมให้แพทย์ทำการรักษา สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลบ่อยนัก เรียกได้ว่าตั้งแต่มาอยู่เมืองไทย อลันไม่เคยป่วยคงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ “ก็ไม่ได้บอกว่าจะชิ่ง ฉันรับผิดชอบอยู่แล้วไม่ต้องห่วง มีอะไรฉันแจกลายเซ็นให้เอง แต่คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง” ตอบหน้าตาเฉย ขณะที่ผู้ป่วยแค่พริ้มตาปิดลงนอนขดตัวอยู่กับผ้าห่ม ด้วยตัวเขาเองคงไม่มีแรงต่อปากต่อคำกับใครในตอนนี้ นายแพทย์สูงอายุเปิดประตูห้องเข้ามาบอกอาการด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “หมอตรวจพบสารแคนทราลิดิน (Cantralidin) ในเลือดนะครับ แล้วก็... ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอนะ คงต้องแอดมิด” “หา! ว่าไงนะคะหมอ?” เสียงแหลมเล็กตกใจ ธรรมดาของคนทั่วไปคงจะเข้าใจแค่อย่างหลัง เป็นนัชชาที่ถามด้วยสีหน้าเฉยเมย “สารอะไรคะหมอ? ไม่เข้าใจค่ะ” อาจารย์แพทย์หนุ่มใหญ่ถือแฟ้มอยู่ค่อย ๆ ขมวดคิ้วเข้มเครียดด้วยว่าสารพวกนี้ที่จริงแล้วผิดกฎหมายและมันต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์และสถานพยาบาลเท่านั้น เขายังเลือกที่จะอธิบายให้ผู้ป่วยฟังอย่างอ้อมค้อม “คราวหน้าถ้ามีปัญหาเรื่องหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หมอแนะนำว่ามาปรึกษาแพทย์ดีกว่านะครับ ไม่ควรซื้อมาทานเอง ยาที่อ้างว่าปลุกเซ็กส์ได้บางตัวมีผลข้างเคียงร้ายแรง เช่นแมลงวันสเปนสกัดได้สารแคนทราลิดิน จัดเป็นยาควบคุมพิเศษในบ้านเรา ยาชนิดนี้ยังไม่ได้รับการประกอบขึ้นทะเบียน ไม่ปลอดภัยแน่นอน” “แมลงวันสเปน? หมอหมายถึงยาปลุกเซ็กส์เหรอคะ?” คนขี้สงสัยอย่างนัชชาถามขึ้นก่อนคุณแม่ที่ยังทำหน้างุนงงตกใจ คุณหมอรุ่นใหญ่จึงค่อย ๆ อธิบาย “ปัจจุบันยังไม่มียาชนิดใด กระตุ้นหรือปลุกอารมณ์ทางเพศได้นะครับ เป็นการแอบอ้างสรรพคุณทางการค้าในรูปแบบที่ผิดกฎหมายเพื่อขายของมากกว่า มีแต่ยาซิดิลนาฟิลที่ทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวนาน แต่ก็อาจจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณอวัยวะเพศตามมา ซึ่งอาการชาและบวมอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเกิดอารมณ์ทางเพศ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ครับ” สองสาวมองหน้ากันด้วยสีหน้าตื่นตะลึง หญิงสาวในชุดคลุมท้องยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองเบา ๆ พร้อมอารมณ์กร้าวโกรธชัดเจนเต็มวงหน้า “ขอบคุณค่ะหมอ ยังไงฉันขอใบรับรองแพทย์ด้วยนะคะว่าเขารับประทานอะไรมา” “ครับ” อาจารย์แพทย์อายุมากตอบ ก่อนจะขอตัวออกจากห้องไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพยาบาล ชี้แจงรายละเอียดเล็กน้อยเรื่องค่าใช้จ่ายหากมีสิทธิ์เบิกได้ ในเรื่องส่วนตัวของคนไข้เอง ทางโรงพยาบาลคงไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย บรรยากาศตึงเครียดภายในห้องผู้ป่วยพิเศษกว้างขวางสมราคาโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ใบหน้าบึ้งตึงของนัชชาบอกว่าเธอจะต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด! พอคนนอกออกจากห้องไปแล้ว เสียงเข่นเขี้ยวบอกคนในฝั่งตรงข้ามกันของเตียงผู้ป่วย “แกเอาเอกสารจากหมอ ไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนเลยนะ นังอสรพิษนี่มันต้องโดนของจริงบ้าง มันเห็นแกหงิม ๆ ไม่อะไรกับมันไง ดีนะที่ตัวเล็กไม่เป็นอะไร” “เออ... ฉันกับพี่เปาไม่ยอมมันแน่ ๆ” ปรายลดาเออออตามอย่างโมโหพอกัน ไม่อยากนึกว่าถ้าเธอรับประทานเข้าไปจะมีผลอย่างไรกับเด็กในครรภ์อ่อน ๆ ผู้ป่วยพอยาลดไข้ และน้ำเกลือเริ่มออกฤทธิ์ถ่ายสารพิษออกไปจากร่างกายเขาพอจะพูดได้ เอ่ยเสียงแหบสั่นพร่า “ผมจะ... จัดการให้นะ... ครับ” “ดูแลตัวเองก่อนเถอะค่ะ คุณอลัน ไม่ต้องมาห่วงฉันกับพี่เปา รักษาตัวให้หายก่อนค่อยกลับมาทำงานนะ” ตอบแล้วก็อดเป็นห่วงเขาไม่ไหว ดวงตาคู่สวยระรื่นมองคนบนเตียงอย่างสงสาร ตรงข้ามกับกันอีกคนที่ปากบ่น “ฮึ่ย... ไม่ดูตัวเองเลยจริง ๆ อยู่ดีไม่ว่าดี วัคซีนไม่รู้จักฉีดให้ครบ มาจูบฉันทำไม? สมน้ำหน้า” คนได้ยินสองคนเบิกตากว้าง อีกคนยกมือเรียวเล็กขึ้นป้องปากอ้าโตอย่างตกใจสุดขีด ตะกุกตะกักว่า “นะ... นี่แก กับคุณอลัน?” “ไม่ต้องมาทำหน้าสยอง ปล่อยเพื่อนไว้กับเสือโหยตัวโตขนาดนี้ ฉันไม่ถูกขย้ำไปก็ดีเท่าไร” ในทีท่าว่าไม่พอใจ นัชชาหลุบตามองคนป่วยที่ถ้าหากว่าเขามีแรงสักหน่อย คงเอาเลือดหัวเธอออกได้ในตอนนี้ “ให้ตายเถอะ... ผมไม่ทำมันอีกแน่ น่าจะปล่อยให้ป่วยตาย” “นั่นสิ... ฉันว่าคุณอลันน่ะ น่าสงสารกว่าเยอะ เขาน่าจะเป็นอันตรายเพราะแกมากกว่า ผู้ชายบนโลกนี้ควรหวาดกลัวแก ยัยปริม” หญิงสาวถึงกับสำลักเสียงหัวเราะออกมา ยกมือขึ้นกอดอกโดยไม่ละวางสายตาคมปลาบ ก่อนชี้ปลายนิ้วไปที่กลางผืนของผ้าห่ม อย่างให้รู้ว่าหมายถึงอะไร “หนอนน้อยน่ารักยังกับจู๋เด็ก ฉันไม่หน้ามืดเอามาทำพืชทำพันธุ์หรอก แกดูดี ๆ สิยัยพุด นี่ขนาดมันชูหน้าชูคอยังอันแค่นี้ ฉันไม่ได้ใส่ความเขาเลยนะ” ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามไม่มีความจริงสักนิด! ทำเอาคนถูกกล่าวหาถลึงตามองค้อนปานจะกินเลือดเนื้อ ไม่มีใครคิดว่านัชชาจะพูดมันออกมาหน้าตาเฉย ปรายลดาถึงพอรู้นิสัยความหยาบคายปากร้ายอยู่ด้วยความสนิทสนม ยังเผลอมองหนอนน้อยน่ารัก! ทำตาโตเท่าไข่ห่านก่อนเลื่อนมือขึ้นปิดตาสบถว่า “อี๋! อีปริม แกกล้าพูดเรื่องแบบนี้หน้าตาเฉยได้ไงวะ” “แหม... มาทำดัดจริต รู้เรื่องใต้เตียงดีกว่าฉันอีกมั้งคุณแม่ ไป ๆ ฉันขับรถไปส่งแกก่อน” เธอไม่รอช้าที่จะเดินไปโอบไหล่เพื่อนสาว แต่บอกกับอีกคนด้วยน้ำเสียงแสนสุภาพเสแสร้ง “ให้พยาบาลสาว ๆ ดูแลไปก่อนนะคะ รับรองว่าไม่เกินสิบห้านาที หื่นนิดก็อดทนหน่อย เดี๋ยวน้องปริมจะรีบมาเฝ้าคุณอลันเนอะ” สองหญิงสาวโบกมือลาคนป่วยก่อนเดินออกจากห้องไป อลันถึงหงุดหงิดผู้หญิงช่างกวนประสาทสักแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็พริ้มตาปิดลงหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะฤทธิ์ยา“หน็อย... นังเด็กบ้า!” เสียงตวาดกร้าวดัง มือทุบพวงมาลัยในรถยนต์ที่คนขับเหยียบคันเร่งแรงตามอารมณ์ ผ่านความมืดสลัวของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน น้ำตานองแก้มแดงก่ำบนใบหน้าสดสวยเพราะความโกรธและเสียใจ
ปิ่นแก้วคบ ๆ เลิก ๆ กับปรเมษฐ์มาตั้งแต่เรียนจบ หล่อนเคยที่จะเข้าออกบ้านได้ตลอดเหมือนเป็นญาติมิตรกันอีกคนหนึ่ง เคยนอนกกกอดทำเรื่องสนุก ๆ อยู่บนเตียงของเขา จนกระทั่งเขาปฏิเสธที่จะอยู่ในฐานะคู่นอน และคงความสัมพันธ์ฉันเพื่อนไว้ เพราะหัวใจมีแค่ผู้หญิงเพียงคนเดียวมาตลอด ‘ปิ่น... ผมจำเป็นต้องเลิกคบกับคุณนะ แล้วที่คุณเจตนาทำร้ายครอบครัวผม เตรียมทนายเอาไว้ด้วยล่ะ’ นั่นคือข้อความหลังจากที่เธอปิดเครื่องไป ด้วยกลัวความผิดอันสั่งสมมาจากความริษยา เธอจงใจใส่ยาปลุกเซ็กส์ลงไปในน้ำส้มดันเป็นอลันที่กินเข้าไปแทน ทีแรกเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอลันกับนัชชาจะอยู่ด้วย แผนการเฉดหัวลูกเลี้ยงออกจากบ้านล้มเหลวไม่เป็นท่า ยัยปริมดันพาเลขานุการหนุ่มไปโรงพยาบาล! อย่างน้อยถ้าอลันไม่ไป ก็ยังมีลุ้นว่าจะได้เห็นอะไรดี ๆ บ้าง เสียงโทรศัพท์สั่นดัง มือเรียวยกขึ้นปาดแก้มไว ๆ ก่อนรับสายผ่านลำโพงที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ภายในรถ ปิ่นแก้วเห็นอยู่ว่าปลายสายเป็นใคร พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปรกติ “นนท์เหรอ? อืม... เดี๋ยวไปหานะ ปิ่นต้องไปเคลียร์งานที่ฟิลิปปินส์ก่อน” [ผมแค่จะโทรบอกว่าไม่ต้องมา ผมกำลังจะหมั้นกับลูกสาวคุณนายนิตยาเร็ว ๆ นี้แล้ว เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกนะ] เสียงที่กรอกมาตามสายนั้นชัดเจน แม้กระทั่งในตอนที่ชายหนุ่มวางหูใส่เธออย่างไร้เยื่อใย ปิ่นแก้วใช้ชีวิตแบบผู้หญิงรักสนุก ไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับใคร “พวกแกสองคนมันมารจริง ๆ นังเด็กแสบ” แววตาคู่สวยเต็มไปด้วยโทสะ ไม่ต่างจากหมั่นไส้เด็กสาวทั้งสองคนไปอย่างคนแพ้แล้วพาล ความเจ็บแค้นใจวูบหนึ่งกลับปะทุขึ้นมา แต่ในเมื่อหล่อนไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ปิ่นแก้วไม่ลืมส่งข้อความหาน้องสาวก่อนจะออกเดินทางไปต่างประเทศ ‘ทิพย์... พี่ไปเคลียร์งานที่ฟิลิปปินส์หลายเดือนนะ ฝากบอกป๊าม๊าด้วย’พอปรเมษฐ์แวะเอากระเป๋าเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิงมาให้ เขาก็ขอตัวกลับไปดูแลภรรยา ปล่อยให้เป็นธุระของคนที่รับปากว่าจะรับผิดชอบอยู่ดูแลผู้ป่วย นัชชาไม่เคยจะต้องนอนเฝ้าไข้ใครมาก่อน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ หยิบชุดอยู่บ้านสบาย ๆ เสื้อยืดกางเกงขาสั้น ในกระเป๋ามาสวมค่อยย้อนกลับไปดูสายน้ำเกลือก่อนเป็นอย่างแรก “น้ำ... หิวน้ำ” เสียงแหบพร่าเรียกคนข้างกาย ในความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงแม้ว่าเขาจะนอนเฉย ๆ หญิงสาวก็เดินไปรินน้ำอุ่นใส่แก้ว เธอต้องวางมันลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงก่อน เพื่อปรับเบาะให้เอนขึ้นเล็กน้อยด้วยการกดปุ่มเล็ก ๆ ตรงขอบเตียง “ดีขึ้นไหม... คุณหิวหรือเปล่า? กินยาก่อนค่อยนอนนะ...” พูดพลางหยิบแก้วมาประคองป้อนให้ถึงปากคนที่ขยับคอขึ้นจิบน้ำ ใบหน้าหล่อเหลาขาวซีดราวกระดาษ ผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงพิงราบอยู่บนหมอน ปรือตามองคนเฝ้าอย่างไม่ได้รู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณ แต่มันเป็นหน้าที่ของเธอในตอนนี้ “ไม่หิว...” “ไม่หิวก็ต้องกิน ไม่งั้นจะหายได้ไงเล่า ตัวออกจะโตขนาดนี้ อย่าทำใจเสาะน่ะ กินยาเช็ดตัวแล้วค่อยนอนนะคะ” น้ำเสียงกึ่งสั่ง เธอเห็นอยู่ว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน! เอาแต่ใจตั
กลิ่นหอมอ่อนโชยผ่านโสตประสาทของคนป่วย ดวงตาของเขาเหมือนปะติดอยู่บนใบหน้าสะสวย ประดับความหวานไว้บนขนตาเป็นแพงอนงามเหนือนัยน์ตาสว่างใส “อืม... ก็เข้ากับหน้าตาดี ปากไม่ดีหน่อยพอให้อภัย” เอ่ยปากชมอย่างจริงใจ หญิงสาวตั้งใจทำงานแต่หัวเราะออกมาเบา ๆ “สวยแล้วยังใจดีใช่มะ?” “มั่นใจเหลือเกินนะครับ” “แน่นอน คนมันเกิดมาสวยนี่นะ” ตอบเร็ว ๆ ทุกครั้งที่ผ้าในมือเริ่มร้อนเธอก็จะชุบน้ำแล้วบิดมันใหม่ ทุกแรงเช็ดทั่วทั้งใบหน้า ลำคอ ไม่แรงไปแต่ก็ไม่เบาเสียจนไม่มีประโยชน์กับการเช็ดตัวเพื่อช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ มันไม่มีประโยชน์เลยต่างหาก! กับฝรั่งหื่นที่พกพาความร้อนระอุมาเต็มเรือนกายคงรู้สึกว่ามันร้อนขึ้นเรื่อย ๆ กับความช่างเอาอกเอาใจของสาวไทยคนแรก หากไม่นับงานวันไนต์สแตนด์ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปในรุ่งเช้า หน้าอกเต่งตึงเด้งตามแรงขยับบางครั้งหากเข้ามาใกล้ ๆ มันก็ทิ่มหน้ากันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเช้าพอเธอหายเข้าห้องน้ำไป เขาก็ได้แต่มองตามจนถึงกระทั่งตอนนี้ กลิ่นหอมอ่อนของแชมพูของคนที่เพิ่งอาบน้ำสระผม มือนุ่มนิ่มที่ไม่เคยได้ลองจับดูสักครั้งลากผ้าอุ่นเย็นไปมาบนใบหน้าไล่ไปถ
‘ผู้หญิงของเจ้านายคุณน่ะ ระวังตัวไว้ดี ๆ ก็แล้วกัน ฉันโทรมาเตือนครั้งสุดท้าย’ คำขู่ของหญิงสาวผู้เต็มไปด้วยความริษยาอาฆาตแค้นเมื่อหลายวันก่อนทำให้เขาไม่สบายใจ อลันได้สืบสาวเรื่องราวบางอย่างมาว่ามีอะไรแปลก ๆ เกี่ยวกับปิ่นแก้ว เขารายงานเจ้านายไปก่อนหน้านี้ นอกจากเรื่องที่เธอไปหาปองกานต์ ยังไปยุ่งวุ่นวายกับพวกกู้หนี้นอกระบบ บ่อน ซึ่งเขาได้ฝากให้ลูกพี่ลูกน้องแอบตามไป สัญชาตญาณเลขาฯ ไฟแรงเขาคงอยากลุกขึ้นมาสะสางปัญหาเรื่องผู้หญิงของเจ้านายให้เรียบร้อย คนที่หยุดปลายเท้าลงข้างเตียงดันทักขึ้นเสียก่อน “คุณอลัน... กินข้าวต้ม กินยาให้ครบ ไม่ไหวก็ไม่ต้องลุก เดี๋ยวฉันจะกลับแล้วนะ” ในน้ำเสียงกึ่งสั่ง ใบหน้าหล่อเหลาซีดขาวราวกระดาษมองกลับไปยังร่างบางในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นงานแบรนด์สมฐานะคุณหนู สี่วันสามคืนอยู่กินกันฉันผัวเมีย! นัชชาถึงปากร้ายไปสักหน่อยเธอกลับดูแลเขาเป็นอย่างดี ตั้งแต่นอนเฝ้าไข้ยันขับรถยนต์พาเขากลับมาส่งถึงคอนโดฯ วันนี้ก็ยังเตรียมข้าวต้มอร่อย ๆ ไว้ให้เรียบร้อยโดยที่เขาไม่ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรเลยสักอย่าง เป็นธรรมดาที่ฝรั่งไร้ญาติจะเกิดความรู้สึกเศร้าเสียดาย อยากให้เธออยู่ชวนทะเลา
ฟังดูแล้วอาจเป็นเรื่องธรรมดาหากคนคบกันจะคบอีกคนหนึ่งไปด้วยในฐานะกิ๊ก คู่นอน หรืออะไรก็ตามแต่ เธอไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก[แล้วทีปริมล่ะ? ปริมจะหมั้นกับคนของแม่ปริม ปริมไม่บอกพี่สักคำ คุณอานนท์ นักธุรกิจคนดัง พ่อพี่ก็รู้จัก]“ปริมไม่หมั้นกับใครทั้งนั้น ปริมไม่สน จะแม่หรือใครก็บังคับปริมไม่ได้” ถ้อยคำหนักแน่นบอกว่าเธอไม่มีวันยอมให้แม่มาคลุมถุงชน! ธามไทเองก็น่าจะรู้ว่าเธอมีนิสัยยังไง ความขุ่นเคืองใจของเขาจึงเบาบางลง[แล้วนี่... ปริมอยู่ไหนอ่ะ พี่ไปหาได้ไหม?]“ห้องพุด กำลังจะทำงานหญิงแย้มให้เสร็จ พุดมันดองงานมานานละ ปริมจะรีบทำรีบส่งไปสักที”[ให้พี่ช่วยเปล่า?]“ก็มาสิ แต่เจอกันข้างนอกนะคะ เกรงใจ ห้องเพื่อน”[ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่โทรบอกพุทราเอง]ปลายสายวางไปไม่ทันให้เธอได้พูดอะไร นัชชาถอนหายใจเฮือกใหญ่ “จริง ๆ เลยนะพี่ธามนี่ เก็บกดจากยัยพุดมาหรือไง”ตลอดระยะเวลาสามเดือนที่คบหากันแม้ว่าเขาจะจบการศึกษาไปก่อนแล้วนั้น ธามไทเป็นผู้ชายรุกหนักกว่าตอนคบหากับปรายลดาเป็นเท่าตัว เธอไม่ได้บอกหรือเล่าให้ใครฟัง... นัชชาได้รับสายอีกทีคือไม่ถึงสิบนาทีถัดมาว่าเขาจะมาหาถึงที่! ด้วยความหวังดีของเพื่อนที่คงอยากให้
ลูกสาวคนเดียวไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์! ไม่ส่งเสียงมาตามสายให้หายคิดถึง ทั้งที่เคยเห็นหน้ากันมาแต่ตัวเล็ก ๆ จนโตเป็นสาวอายุยี่สิบเอ็ดย่างเข้ายี่สิบสองปี คนเป็นแม่หรือจะอยู่เฉยไหว “แบร์นาร์ด... นี่เลิกโกรธสักทีได้ไหม? ฉันกำลังคิดเรื่องที่คุณพูดนะ”“ก็ควรเป็นอย่างนั้น ผมไม่ชอบมัน...” เสียงเข้มเอ่ยกับเจ้าของร่างบางในเดรสสีดำสนิทเข้ารูปทรงสมส่วนคุณแม่ยังสาว ถึงปีนี้เธอจะย่างเข้าสี่สิบห้าปีก็ไม่ดูแก่ขึ้นสักเท่าไรเลยเลขานุการหนุ่มทำตัวสบาย ๆ แต่งตัวสบาย ๆ กางเกงขาสั้นเสื้อยืดด้วยความที่หยุดงานมาเป็นอาทิตย์ ลาพักร้อนแต่ก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหน ใช้เวลาพักผ่อนอย่างคุ้มค่าในห้องชุดคอนโดมิเนียมของตัวเอง“อ้อ... ไม่ใช่สิ ผมไม่ควรเรียกว่าที่ลูกเขยของคุณนายว่ามัน ต้องเป็นคุณอานนท์... ผมไม่อยากบอกเลยจริง ๆ นะว่าเขาอยู่ในกรุ๊ปไลน์ FWB เพื่อนกันมันดี นอนกับผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคนภายในหนึ่งอาทิตย์ คุณยังอยากได้มาเป็นลูกเขยไหม?”นิตยายืนนิ่งเงียบโดยที่เธอยังกำกุญแจห้อง สะพายกระเป๋าสไตล์คุณนายอยู่อย่างนั้น ทั้งโมโหทั้งน้อยใจ ความรู้สึกหลายอย่างปนเปกันไป และเธอยิ่งโมโหอีกคนก็ทำไม่สนใจอะไรเลย หยิบรีโมตโทรทัศน์ขึ
ชายหนุ่มไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะตามมาเอาเสื้อยืดแบรนด์เนม เธอคงทิ้งมันไปพร้อมกับความทรงจำช่วงระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันไม่กี่วันช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นเขายังทำตัวเป็นหนุ่มโสดอย่างเคย ในวันหยุดของเขามักไปเที่ยวสังสรรค์กับเจมส์ มาร์คัส ลูกพี่ลูกน้องหรือเพื่อน ๆ บอร์ดี้การ์ด เลขานุการ ด้วยความที่วันพักผ่อนไม่ได้มีกันบ่อยมีเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้ทำ...“ให้หวานไปส่งคุณไหมคะ... You want... to do it tonight...?” น้ำเสียงและแววตาเย้ายวนบอกว่าหญิงสาวต้องการอะไร จากบทรักร้อนแรงของหนุ่มหล่อล่ำขาประจำ มือเรียววางทาบบนเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทขณะที่เขาพิงร่างโงนเงนไว้กับผนัง ในสถานที่ที่มีเสียงอื้ออึง สปอร์ตไลท์หลากสีสะท้อนไปมา โซฟาล้อมรอบผู้คนที่รินเทน้ำสีอำพันลงในแก้ว แสงสีเสียงและเครื่องดื่มมึนเมา ไม่ได้เกิดรู้สึกวูบวาบหวือหวาหรืออารมณ์ทางเพศ อยากจับใครสักคนกลับไปทำเรื่องเร่าร้อนรุนแรงอย่างเคย “So sleepy...” เบ้ปากว่า เขาแค่อยากจะกลับบ้านนอน ดวงตาคู่คมสีฟ้าครามปรือมองอกอวบอัดภายใต้เดรสสีดำรัดรูปอย่างเฉยเมย ก่อนจะเดินออกจากร้านไปดื้อ ๆ โดยมีลูกครึ่งหนุ่มในชุดเรียบหรูดูดีเดินตามไป สไตล์ของเจมส์คือเสื้อยื
ความซ่าของนัชชาหายไปไม่มีเหลือ รับรู้ได้ถึงทุกสัมผัสแนบชิดสนิทกัน ขวางกั้นไว้แค่เสื้อผ้า เรือนกายกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามบดเบียดจนอกอวบอัดบี้อยู่บนเสื้อเชิ้ตหอม กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปกับกลิ่นโคโลญจน์ฉุนรุนแรง เสียงหวานเอ่ยอู้อี้ในคอ“คุณอลัน... ลุกเหอะ... ฉันหนัก...”“ทำไมล่ะ? ทำไม... ผมทำไม่ได้... แฟนคุณไม่ตัวหนักเรอะ” ในน้ำเสียงเย้ยหยัน เขาปล่อยเส้นผมนุ่มสลวยจากมือ ร่างหนาค่อยเท้าแขนพาร่างโงนเงนลุกขึ้นมองเธออีกครั้ง ภาพพร่ามัวเบื้องหน้าสายตาหากหรี่ตามองดี ๆ มันก็ชัดเจนขึ้น“ฉันไม่เคยให้ใครมาทับ... มาแตะต้องตัวฉัน แม่ฉันสอนมาดีย่ะ” ในท่าทีดุดันแต่คงไม่มากพอ เธอแน่ใจไม่มีทางสู้แรงฝรั่งยักษ์ได้! หากว่าคนเมาเกิดอารมณ์จะทำอะไรสักอย่างขึ้นมา ก็คงไม่ต่างจากมดตัวเล็ก ๆ สำหรับเขา“ออ... แปลว่าผมได้สิทธิพิเศษ”คนได้ยินลอบกลืนน้ำลายลงคอ หลุบตามองเนื้อแน่น ๆ ของหนุ่มล่ำกล้ามโตที่เคยเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวให้ทุกวัน อุณหภูมิร้อนจัดพุ่งเข้าหน้า ก่อนที่เธอจะส่ายหน้าหน้าแรง ๆ ดึงสติตัวเองกลับมาเอ่ยปากต่อว่า“นี่คุณอลัน คุณเมานะ แบบนี้มันไม่มึนตึงแล้ว... ลุกออกไปซะที อย่าให้ฉันสู้ คุณจะเจ็บตัว...”“อื
“No... of course not” (ไม่ใช่แน่นอน) “but I miss you...” สำเนียงอเมริกันจ๋าในทีเล่นทีจริง เลขานุการหนุ่มหลุบตาลงซ่อนประกายไหวสั่นในดวงตาไว้ไม่ให้ใครล่วงรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรกับกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ทำเอาหัวฟุ้งซ่านมาจนถึงตอนนี้ โทรหาก็ไม่โทร แล้วมาบอกว่าคิดถึงเขาเนี่ยนะ!“แม่ฉันไม่ชอบไอ้หน้าหนวดเป็นเลขาฯ เถื่อน คุณควรจะโกนทุกวัน จะได้สู้หน้าแกได้แบบสดใส เสื้อผ้า เบ้าหน้าผ่าน...”“หนวดผมมันทำไมครับ? ผมว่ามันไม่ได้ยาวมาก แล้วมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับการทำงานด้วย”“ก็เลยต้องไว้แบบเป็นตอ ๆ ไว้จั๊กจี๋สาว ๆ เหรอ? ว๊าย... จั๊กจี้จังเลยอ่ะ” เสียงแหลมปรี๊ดว่าอย่างหยอกล้อ นัชชาก็เป็นอย่างนั้นพอเห็นหนวดเป็นตอสั้น ๆ ก่อนที่ใบหน้าสดสวยจะเปื้อนยิ้มอีกครั้งกับสีหน้าเรียบเฉย“คุณหนูปริมมีแฟนแล้วนะครับ” ไม่รู้ว่าส่วนเกินอีกคนกำลังพูดกับใครแน่ หญิงสาวหันไปตอบ “เลิกแล้วลุง ตอนนี้ปริมโสดค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะ คนนี้ไม่ยุ่ง จุกจิกเกิน ไปดีกว่า...” ปลายเสียงบอกพลันสะบัดหน้าเดินหนีไปไว ๆ เธอคงไม่รู้ตัวว่าบางคนเผลอดีใจกับคำว่า ‘โสด’ “เดี๋ยวปริม... จะไปไหน?” เรียกตามหลังไป อลันรู้หน้าที่ตัวเองดีว