ชายหนุ่มไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะตามมาเอาเสื้อยืดแบรนด์เนม เธอคงทิ้งมันไปพร้อมกับความทรงจำช่วงระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันไม่กี่วันช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นเขายังทำตัวเป็นหนุ่มโสดอย่างเคย ในวันหยุดของเขามักไปเที่ยวสังสรรค์กับเจมส์ มาร์คัส ลูกพี่ลูกน้องหรือเพื่อน ๆ บอร์ดี้การ์ด เลขานุการ ด้วยความที่วันพักผ่อนไม่ได้มีกันบ่อยมีเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้ทำ...“ให้หวานไปส่งคุณไหมคะ... You want... to do it tonight...?” น้ำเสียงและแววตาเย้ายวนบอกว่าหญิงสาวต้องการอะไร จากบทรักร้อนแรงของหนุ่มหล่อล่ำขาประจำ มือเรียววางทาบบนเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทขณะที่เขาพิงร่างโงนเงนไว้กับผนัง ในสถานที่ที่มีเสียงอื้ออึง สปอร์ตไลท์หลากสีสะท้อนไปมา โซฟาล้อมรอบผู้คนที่รินเทน้ำสีอำพันลงในแก้ว แสงสีเสียงและเครื่องดื่มมึนเมา ไม่ได้เกิดรู้สึกวูบวาบหวือหวาหรืออารมณ์ทางเพศ อยากจับใครสักคนกลับไปทำเรื่องเร่าร้อนรุนแรงอย่างเคย “So sleepy...” เบ้ปากว่า เขาแค่อยากจะกลับบ้านนอน ดวงตาคู่คมสีฟ้าครามปรือมองอกอวบอัดภายใต้เดรสสีดำรัดรูปอย่างเฉยเมย ก่อนจะเดินออกจากร้านไปดื้อ ๆ โดยมีลูกครึ่งหนุ่มในชุดเรียบหรูดูดีเดินตามไป สไตล์ของเจมส์คือเสื้อยื
ความซ่าของนัชชาหายไปไม่มีเหลือ รับรู้ได้ถึงทุกสัมผัสแนบชิดสนิทกัน ขวางกั้นไว้แค่เสื้อผ้า เรือนกายกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามบดเบียดจนอกอวบอัดบี้อยู่บนเสื้อเชิ้ตหอม กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปกับกลิ่นโคโลญจน์ฉุนรุนแรง เสียงหวานเอ่ยอู้อี้ในคอ“คุณอลัน... ลุกเหอะ... ฉันหนัก...”“ทำไมล่ะ? ทำไม... ผมทำไม่ได้... แฟนคุณไม่ตัวหนักเรอะ” ในน้ำเสียงเย้ยหยัน เขาปล่อยเส้นผมนุ่มสลวยจากมือ ร่างหนาค่อยเท้าแขนพาร่างโงนเงนลุกขึ้นมองเธออีกครั้ง ภาพพร่ามัวเบื้องหน้าสายตาหากหรี่ตามองดี ๆ มันก็ชัดเจนขึ้น“ฉันไม่เคยให้ใครมาทับ... มาแตะต้องตัวฉัน แม่ฉันสอนมาดีย่ะ” ในท่าทีดุดันแต่คงไม่มากพอ เธอแน่ใจไม่มีทางสู้แรงฝรั่งยักษ์ได้! หากว่าคนเมาเกิดอารมณ์จะทำอะไรสักอย่างขึ้นมา ก็คงไม่ต่างจากมดตัวเล็ก ๆ สำหรับเขา“ออ... แปลว่าผมได้สิทธิพิเศษ”คนได้ยินลอบกลืนน้ำลายลงคอ หลุบตามองเนื้อแน่น ๆ ของหนุ่มล่ำกล้ามโตที่เคยเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวให้ทุกวัน อุณหภูมิร้อนจัดพุ่งเข้าหน้า ก่อนที่เธอจะส่ายหน้าหน้าแรง ๆ ดึงสติตัวเองกลับมาเอ่ยปากต่อว่า“นี่คุณอลัน คุณเมานะ แบบนี้มันไม่มึนตึงแล้ว... ลุกออกไปซะที อย่าให้ฉันสู้ คุณจะเจ็บตัว...”“อื
“No... of course not” (ไม่ใช่แน่นอน) “but I miss you...” สำเนียงอเมริกันจ๋าในทีเล่นทีจริง เลขานุการหนุ่มหลุบตาลงซ่อนประกายไหวสั่นในดวงตาไว้ไม่ให้ใครล่วงรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรกับกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ทำเอาหัวฟุ้งซ่านมาจนถึงตอนนี้ โทรหาก็ไม่โทร แล้วมาบอกว่าคิดถึงเขาเนี่ยนะ!“แม่ฉันไม่ชอบไอ้หน้าหนวดเป็นเลขาฯ เถื่อน คุณควรจะโกนทุกวัน จะได้สู้หน้าแกได้แบบสดใส เสื้อผ้า เบ้าหน้าผ่าน...”“หนวดผมมันทำไมครับ? ผมว่ามันไม่ได้ยาวมาก แล้วมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับการทำงานด้วย”“ก็เลยต้องไว้แบบเป็นตอ ๆ ไว้จั๊กจี๋สาว ๆ เหรอ? ว๊าย... จั๊กจี้จังเลยอ่ะ” เสียงแหลมปรี๊ดว่าอย่างหยอกล้อ นัชชาก็เป็นอย่างนั้นพอเห็นหนวดเป็นตอสั้น ๆ ก่อนที่ใบหน้าสดสวยจะเปื้อนยิ้มอีกครั้งกับสีหน้าเรียบเฉย“คุณหนูปริมมีแฟนแล้วนะครับ” ไม่รู้ว่าส่วนเกินอีกคนกำลังพูดกับใครแน่ หญิงสาวหันไปตอบ “เลิกแล้วลุง ตอนนี้ปริมโสดค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะ คนนี้ไม่ยุ่ง จุกจิกเกิน ไปดีกว่า...” ปลายเสียงบอกพลันสะบัดหน้าเดินหนีไปไว ๆ เธอคงไม่รู้ตัวว่าบางคนเผลอดีใจกับคำว่า ‘โสด’ “เดี๋ยวปริม... จะไปไหน?” เรียกตามหลังไป อลันรู้หน้าที่ตัวเองดีว
พ่ายรักนายเลขาฯเถื่อนChapter 1 ร่างสูงสง่าในเชิ้ตสีดำสนิทกางเกงสแล็คเข้ารูปหยุดก้าวลงข้าง ๆ บีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 3 หรูหราสมราคารถยนต์ที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของเขาเอง เพราะไม่ได้นำรถเจ้านายมาในวันนี้อลันไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่เลขาฯ ยังเป็นผู้อารักขาที่ดีตามแบบฉบับของพ่อ ตระกูล ‘แบรดฟอร์ด’ ตั้งแต่รุ่นทวดทุกคนมีการศึกษาอย่างน้อยระดับปริญญา ได้รับการฝึกฝนวิชาป้องกันตัวทุกขนาน ไม่น้อยหน้าไปกว่าบอร์ดี้การ์ดชั้นแนวหน้า ดาราคนดังเซเลบระดับโลก หรือแม้แต่ประธานาธิบดียินดีที่จะจ่ายเงินเดือนสูงลิบ สำหรับการมีเลขาฯ ดี ๆ ไว้ข้างกาย แม้ว่าพวกเขาจะสิ้นชื่อสิ้นเนื้อประดาตัวไปนานแล้ว หลังผู้นำครอบครัวอย่างนิคาซิโอ้ (Nicasio) เสียชีวิตในหน้าที่อย่างสมเกียรติ มรดกมากมายกว่าล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามพินัยกรรมตกเป็นของลูกชายเพียงคนเดียว ทรัพย์สินของพ่อเรียกได้ว่ามากพอจะทำให้อลันใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไปตลอดชาติ เขากลับไม่ได้แตะต้องเงินส่วนนั้นเลย ด้วยนิสัยความตระหนี่ถี่เหนียว ใช้เงินอย่างระมัดระวังหากต้องไปเที่ยวสังสรรค์นาน ๆ ครั้ง แบ่งสันปันส่วนการใช้จ่ายเงินอย่างสมเหตุสมผล ประสาคนซึ่งเรียนรู้คำว่า ‘เลขา
หญิงสาวในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทจีบรอบสั้นประเข่ายืนรอเพื่อนรักมาได้สักพัก ใต้กันสาดหน้าบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่าซึ่งมันไม่ได้ช่วยบดบังเม็ดฝนที่โหมกระหน่ำได้สักเท่าไร ผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตตามเทรนแฟชั่นลู่สนิทลงไปบนเรือนกายผุดผ่อง ขณะยกสองมือขึ้นกอดกุมเสื้อสีขาวที่เห็นขอบเส้นบราเซียอยู่บาง ๆ หวังให้มันได้คลายหนาวลงแต่ก็ไม่เลย... บางทีความเหน็บหนาวอาจมาจากก้นบึ้งของหัวใจเธอที่ไม่ว่าทำอะไรก็ไม่ถูกใจแม่ แม่บอกว่าเธอเอาแต่ใจมากเกินไป ดื้อรั้น ปากร้าย ใช้เงินฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักคำว่าอดทนอะไรในชีวิตสักอย่าง... ใบหน้าสดสวยสลดเศร้ามองพื้นขรุขระ เม็ดฝนที่กระแทกลงอย่างหนัก เสียงลมคำรามกรรโชกพัดผ่านโสตประสาทอย่างน่ากลัว เหมือนว่าจะมีพายุลูกใหญ่ในค่ำคืนนี้ นัชชาได้แต่หวังว่าเจ้าของบ้านจะไม่ปล่อยให้เธอต้องยืนตากฝนนาน ไม่นานนัก รถยนต์ยุโรปหรูสีดำสนิทจอดลงหน้าบ้านหลังใหญ่โต พร้อมกับการปรากฏตัวของเพื่อนรัก ปรายลดาเปิดประตูรถยนต์ออกมาพร้อมร่มคันใหญ่หนึ่งคัน ปล่อยให้คนขับรถไปจอดรถเสียก่อน เข้ามาหาเธอในทันที “ยัยปริม มายืนเป็นลูกหมาตกน้ำอะไรตรงนี้เนี่ย... ไม่ได้เอารถมาเหรอแก?” นัชชาหลุบตาลงต่ำ เบะปากเป
“คุณป้อม ผมว่า... ไม่ควรปล่อยเธอไปแบบนี้ ผมจะไปรับปริมกลับบ้านนะครับ” เสียงเข้มขรึมกึ่งอ้อนวอนของเลขานุการประจำบ้าน ‘ธนทรัพย์สกุล’ บอกว่าเขาอยากบึ่งรถไปรับคุณหนูมากแค่ไหน นัยน์ตาสีนิลสนิทรับวงหน้าหล่อเหลาเย็นยะเยือกสบมองไปยังดวงตาคู่สวยใต้อายไลเนอร์คมกริบที่เลื่อนจากเอกสารกองพะเนิน มือเล็กวางปากกาแท็บเล็ตในมือ ทิ้งแผ่นหลังลงบนโซฟามีพนักพิงของผู้บริหารพร้อมสีหน้าครุ่นคิด “อืม... เดี๋ยวนะ... แบร์นาร์ด คุณจะไปรับมันทำไม?” “ทำไมจะไปรับไม่ได้ล่ะ? ผมว่าสวย ๆ แบบหนูปริมป่านนี้อาจถูกผู้ชายหลอกไปทำไม่ดีไม่ร้ายแล้วก็ได้ อย่าบอกนะว่าคุณป้อมไม่ห่วงลูกสาวเลย?” ใบหน้าสดสวยของสาววัยสี่สิบห้าปีแลดูอ่อนกว่าวัยประสาคนมีเงินนิ่งเฉย ก็เพราะว่าห่วง... หวง รักมากเกินไป ลูกของเธอถึงได้กลายเป็นเด็กเอาแต่ใจแบบนี้! กระเป๋าแบรนด์ใบละเจ็ดแสนเธอก็ถอยให้ลูกได้ แบล็คการ์ดไม่จำกัดวงเงิน เธอให้ลูกเอาไปช้อปปิ้งได้วันเป็นล้าน! ลูกสาวสุดที่รักอยากได้รถยนต์ขับไปเรียน ไว้รับส่งเพื่อนที่กำลังจะตั้งตัวทำธุรกิจ เธอก็ถอยบีเอ็มดับบลิวตัวล่าสุดรุ่นท็อปให้ ‘คุณแม่ขา น้องปริมอยากได้จังเลยค่ะ’ ทั้งน้ำเสียงและสายตาเว้าว
ในรุ่งเช้าเวลาเจ็ดโมงกว่า นัยน์สีฟ้าครามเข้มเบิกโพล่งสะดุ้งตื่นจากนิทรา พลันผลักผ้านวมหนาที่คลุมห่มตัวอยู่อย่างงุนงง เมื่อคืนที่หลับไปทั้งชุดทำงานเขาไม่ได้หยิบจับอะไรสักอย่าง ผ้าห่มลายตุ๊กตาน่ารักจะเป็นฝีมือใครหากไม่ใช่เมียเจ้าของบ้าน! ร่างสูงในเชิ้ตสีดำยับยู่ยี่หยัดกายลุกขึ้นนั่ง พอดีกับที่โทรศัพท์สั่นดังจากข้างหมอน สายจากปรเมษฐ์โทรมาถามสารทุกข์สุกดิบของลูกเมีย และงานเฝ้าของเขาว่าเรียบร้อยดีไหม พร้อมส่งข่าวมาว่ากำลังจะกลับในวันพรุ่งนี้ทำให้ตื่นเต็มตาได้ไม่ยาก ทว่าพอวางสายจากเจ้านายหนุ่ม อลันมีความคิดบางอย่างเมื่อเหลือบมองตามบันไดทางขึ้นไปชั้นสองของบ้านสไตล์โมเดิร์นโทนสีเทาอบอุ่น ทำไมบ้านเงียบ? พุทราก็ไม่มาเรียกเขาสักคำ เพราะนิสัยของปรายลดาเป็นคนช่างห่วง ยังดูแลทุกคนรอบตัวเป็นอย่างดี เขาไม่ลังเลที่จะถือวิสาสะบุกห้องนอนตามหน้าที่ ก้าวขายาว ๆ เหยียบย่องขึ้นบันไดไป ชั้นสองมีสามห้องนอน ห้องโถงกลาง และห้องนอนสำหรับเล่นสนุกซุกซนของเจ้านาย ซึ่งคนเป็นเลขาฯ มานานถึงสิบปีต้องรู้ความลับเรื่องรสนิยมทางเพศของปรเมษฐ์เป็นอย่างดี ถึงเจ้าตัวจะเลิกราจากคู่ขาประหลาด ๆ ไปเพราะความรักในตัวลูกเลี้ยง
“ฉันหนาว... ขอ... ผ้าห่ม..” อ้อนวอนทั้งน้ำเสียงและแววตา ก่อนที่สติของเธอจะค่อย ๆ รางเลือน อลันถึงจะขี้หงุดหงิด ยังเป็นคนคิดเร็วทำเร็วอยู่สักหน่อย เขาคงไม่ปล่อยให้เธอต้องหนาวตายซะก่อน มือหนาสากลากชุดกระโปรงนอนออกจากเรือนกายแน่งน้อยออกอย่างระวัง เนื้อตัวของเธอส่งกลิ่นหอมอ่อนราวดอกไม้แรกแย้มบาน ก็คงจะใช่... นี่มันเด็กสาว! ยัยเด็กบ้านี่อายุห่างจากเขาตั้งสิบปี คิดพลางกลืนน้ำลายลงคออย่างหื่นกระหาย เมื่อทุกปลายนิ้วสัมผัสผิวนุ่มเนียนดุจแพรไหม ความขาวจัดจ้านเสียจนเห็นเส้นเลือดฝาดสะกดดวงตาของเขาไว้ ตัวของเธอร้อนแต่ดูเหมือนว่าตัวเขาจะร้อนยิ่งกว่า ม่านตาสีฟ้าครามจะเบิกกว้างตื่นตะลึงอีกครั้ง เมื่อเสื้อเปียกในมือหล่นแหมะจากมือหนาลงบนที่นอน ปรากฏสองเต้าเต่งตึง ยอดอกเต่งตึงประดับสีชมพูหวานติดตรึงเข้าไปในหัวสมอง ทั้งที่รสนิยมของอลันต้องสาวผิวแทนเท่านั้น! แต่เธอสวย! อืม.. ยัยเด็กแสบนี่สวยทั้งตัวจริง ๆ หน้าอกหน้าใจใหญ่ขนาดนี้ก็คงจะบีบได้พอดีมือ ไม่! จับไม่ได้เด็ดขาด... ความคิดหยุดลงพลางถอนหายใจหนัก นานแล้วที่ห่างหายไปจากเรื่องอย่างว่าเพราะมัวทำแต่งาน แต่เขาก็หนักแน่นมากพอหักห้ามใจ ท้ายทอยที่ช้