หน้าหลัก / โรแมนติก / พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่ / บทที่ 13 การล่อลวงของชินอ๋องซื่อจื่อ (1/4)

แชร์

บทที่ 13 การล่อลวงของชินอ๋องซื่อจื่อ (1/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-23 12:58:03

13

การล่อลวงของชินอ๋องซื่อจื่อ

เมื่อกลับถึงจวนฟ่านไห่ถิงส่งคนไปเรียกน้องสาวมาพบเพื่อจะสนทนาถึงเรื่องราวที่ไม่ชอบมาพากลของคนตระกูลซิว

“ตรากตรำอยู่ด้านนอกตั้งหลายวัน เจ้ากลับเรือนรับรองไปพักผ่อนเถิด ข้าจะสนทนากับน้องสาว”

“ข้าเหน็ดเหนื่อยที่ใดกัน” คืนนี้ยังมีแรงเหลือ สามารถไปยั่วยวนน้องน้อยที่เรือนได้

“หึ! ก่อนเดินทางเข้าเมืองหลวงใครกันที่พูดตลอดทางว่าเมื่อถึงเมืองหลวงห้ามข้าไปรบกวน จะเอนหลังนอนให้มากหน่อย”

‘เพราะข้าจะลอบไปหาซีอิ๋งน่ะสิ ถึงได้ห้ามเจ้ารบกวน’

“เมื่อครู่ก่อนกลับจวนได้เห็นมารยาสตรีแล้วข้าคล้ายจะตาสว่าง มีเรื่องให้ขบคิดมากมายจึงเปลี่ยนใจอยากอยู่ฟังเจ้าสนทนากับซีอิ๋ง เผื่อนางไม่เข้าใจข้าจะได้ช่วยอธิบายเพิ่มเติม”

“เจ้าไม่คิดว่าข้ากับซีซีจะมีเรื่องสนทนากันตามลำพังพี่น้องหรือ”

“ข้าเป็นสหายที่สนิทกับเจ้าที่สุด ส่วนซีอิ๋งก็เป็นสตรีที่ข้าเอ็นดู ดังนั้นข้าไม่ถือสายามเจ้าสนทนาเรื่องของพี่น้อง ทั้งยังยินดีให้คำเสนอแนะ”

“เจ้าคนหน้าหนา ข้าไล่ก็ไม่ยอมไป” คุณชายใหญ่ฟ่านส่ายหน้าอย่างเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 13 การล่อลวงของชินอ๋องซื่อจื่อ (2/4)

    “เอาตามที่ซืออี้บอก เจ้าไม่ต้องกังวล พี่จะไม่ยอมให้เจ้าพลาดท่าคนแซ่ซิวง่าย ๆ” เพราะเขาก็ไม่ได้อยากเกี่ยวดองกับตระกูลซิว “เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ” นางยอบกายเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานของพี่ชาย เมื่อเห็นว่าฟ่านซีอิ๋งเดินหายลับจากสายตาไปแล้ว จู่ ๆ ฟ่านไห่ถิงก็เอ่ยถึงเรื่องปิ่น “ดูเหมือนนางจะชอบปิ่นของเจ้าที่ข้ามอบให้นางมาก” เห็นใช้อยู่บ่อยครั้ง “เป็นเพราะเจ้าให้ นางถึงชื่นชอบอย่างไรเล่า” “จะว่าไป จนแล้วจนรอดข้าก็ยังหาปิ่นที่ข้าซื้อมาไม่เจอ” “เจ้าไปทำตกไว้ที่ใดหรือไม่” “หากไม่มีคนมาขโมยไป ข้ามั่นใจว่าอย่างไรมันก็ต้องอยู่ในเรือนนี้” “เช่นนั้นเจ้าก็ลองหาดูใหม่อีกรอบเผื่อจะเจอมันตกอยู่ที่ใดสักแห่งในเรือนแห่งนี้ ส่วนเรื่องความปลอดภัยของน้องสาวเจ้า ข้าคิดว่าตราบใดที่ซีอิ๋งยังไม่มีคู่หมั้น เจ้าซิวเมิ่งหยวนคงไม่ยอมรามือเป็นแน่” คังซืออี้รีบเปลี่ยนบทสนทนาเพื่อเลี่ยงความสนใจของสหาย หากอีกฝ่ายไม่เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาเขาคงลืมเรื่องที่ทำลงไปแล้ว “ความหมายของเจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 13 การล่อลวงของชินอ๋องซื่อจื่อ (3/4)

    “เดิมทีพี่เข้านอนแล้ว แต่นอนอย่างไรก็ไม่หลับ” ท่าทางของเขาคล้ายมีเรื่องกลัดกลุ้มทำให้มุมปากนางยกยิ้มเล็กน้อย ‘นี่เพิ่งปลายยามโหย่ว (17.00-18.59) ท่านคิดว่าข้าเชื่อหรือเจ้าคะ ว่าท่านจะเข้านอนแล้ว’ แม้จะไม่เชื่อวาจาบุรุษแต่ดวงหน้าหวานกลับแสดงสีหน้าห่วงใยออกมาได้อย่างไม่ติดขัด “เป็นอันใดไปเจ้าคะ เหตุใดถึงนอนไม่หลับ” “เจ้ากับบัณฑิตที่ชื่อโจวคุนต๋าเป็นแค่เพียงสหายกันจริงหรือ” “เป็นแค่เพียงสหายกันจริง ๆ เจ้าค่ะ แม้เขาจะปากไม่ค่อยดี แต่เขาก็มีน้ำใจกับข้าไม่น้อย ท่านคงไม่ได้ทุบไหน้ำส้มแตกเพราะเรื่องนี้หรอกนะเจ้าคะ” พรึ่บ! เขาตวัดมือคว้าเอวคอดกิ่วของนางก่อนจะรั้งเข้าไปใกล้ “ซีอิ๋ง พี่หวงแหนเจ้าเหลือเกิน พี่ต้องทำเช่นไรดี” “...” นางเงียบไม่เอ่ยวาจา เพราะกลัวว่าหากเอ่ยสิ่งใดไปประเดี๋ยวมันจะเข้าตัว “ซีอิ๋ง พี่บอกเรื่องของเรากับไห่ถิงได้หรือไม่ พี่ไม่อยากเกี้ยวพาเจ้าอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เช่นนี้” ‘ท่านเคยหลบซ่อนที่ใดกัน ข้ายังจำเรื่องที่เทศกาลโคมไฟได้’ จะว่าไปเรื่องราวในครั้งนั้นไม่เกิดเสียงเล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 13 การล่อลวงของชินอ๋องซื่อจื่อ (4/4)

    ‘ทั้งที่ข้าคิดว่าการที่นางเขินอายข้า คือมีใจให้ข้าแล้ว แต่กลับไม่ใช่ เช่นนั้นข้าควรเร่งมือล่อลวงนางใช่หรือไม่’ ‘อย่างน้อยก่อนที่ไห่ถิงจะทราบ ซีอิ๋งก็ควรจะมีใจให้ข้ามากพอที่จะไม่สนใจคำทัดทานของพี่ชาย’ แม้เขาจะไม่จำเป็นต้องรับสตรีเข้าเรือนมากกว่าหนึ่งคนได้ แต่สหายคงไม่คิดเชื่อถืออีกทั้งการเป็นพระชายาของอ๋องผู้นี้ก็ค่อนข้างมีกฎเกณฑ์มากมายที่แม้เขาจะไม่ถือสา แต่คนอื่นคงไม่คิดเห็นเช่นนั้น ซึ่งฟ่านไห่ถิงที่รักน้องสาวมากคงไม่คิดยอมให้นางไปเป็นพระชายาของเขาง่าย ๆ “น้ำพร้อมแล้วขอรับ” จือซวนรายงานผู้เป็นนาย “อืม” เขารับคำก่อนจะเดินเข้าหลังฉากกั้นเพื่อปลดเปลื้องอาภรณ์ออก แต่เมื่อไปถึงถังอาบน้ำเขากลับต้องชะงักฝีเท้า นี่มันอันใดกัน! ถังที่มีน้ำใส่ไว้เกินครึ่ง มีดอกไม้ลอยอยู่เต็มพร้อมทั้งมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมา “เปลี่ยนใหม่ ข้าต้องการเพียงน้ำร้อนไว้อาบ ห้ามใส่เครื่องหอมหรือดอกไม้ใด ๆ” “แต่กลิ่นคาวเลือด...” “ช่างมัน ประเดี๋ยวเตรียมสุราให้ข้า ยามที่ข้าอาบน้ำเสร็จข้าจะจิบมัน” “ขอรับ” จือซวนรับคำก่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-23
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 14 ข้าชอบให้ท่านเกี้ยวพา (1/4)

    14ข้าชอบให้ท่านเกี้ยวพา นี่ก็ปลายยามไฮ่ (21.00-22.59) แล้วฟ่านซีอิ๋งยังคงนอนพลิกตัวไปมาคล้ายกับนอนไม่หลับเสียที ‘เฮ้อ! ไม่น่ากลั่นแกล้งพี่ซืออี้เลย ไม่รู้ป่านนี้เขาจะเปลี่ยนใจไปจากข้าแล้วหรือไม่’ และหากเขาเปลี่ยนใจนางที่หวั่นไหวไปกับการล่อลวงของเขาแล้วจะทำเช่นไร นางพลิกตัวไปมาอีกสองสามครั้งสุดท้ายจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่งบนเตียงเมื่อหูพลันได้ยินเสียงกุกกักที่หน้าเรือน ‘ใครกันมาเรือนข้าเอายามนี้’ นางคิดพลันรู้สึกตื่นตัว เพราะหากเป็นคนร้ายนางจะรีบปีนหนีออกทางหน้าต่าง “ซีอิ๋ง...” เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยทำให้นางรีบสาวเท้าเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดออก “พี่ซืออี้! เหตุใดท่านถึงมานั่งอยู่ที่หน้าเรือนข้ายามนี้เจ้าคะ” นางเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองจึงได้เห็นว่าเขายังอยู่ในอาภรณ์บางเบาเช่นเดิมและยังคงสวมเสื้อคลุมของนางอยู่ “ซีอิ๋ง ที่เจ้าไม่ยอมเป็นคนรักของพี่แท้จริงเจ้ามีใจให้เจ้าบัณฑิตหน้าอ่อนนั่นใช่หรือไม่” ท่าทางชี้นิ้วสะเปะสะปะทำให้นางรับรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังเมามาย ไหนจะกลิ่นสุราที่คละคลุ้งยามขยับตัวนั่นอีก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 14 ข้าชอบให้ท่านเกี้ยวพา (2/4)

    “ท่านไม่เมาก็ได้เจ้าค่ะ ว่าแต่ตอบข้าก่อนได้หรือไม่ว่าท่านดื่มสุราไปกี่ไห” “เจ้ายังไม่ตอบคำถามของพี่ เหตุใดพี่ต้องตอบคำถามของเจ้า” กล่าวจบก็ทำหน้าน้อยใจ ท่าทางคล้ายเสี่ยวโก่ว[1]ถูกทิ้งทำให้ฟ่านซีอิ๋งอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง “ท่านตอบคำถามของข้ามาก่อน ว่าท่านดื่มสุราไปกี่ไห แล้วข้าจะตอบทุกอย่างที่ท่านอยากรู้” “หนึ่งไห สองไห หรือสามไหกันนะ ขออภัยพี่ไม่ได้นับ” “อืม...ดื่มไปหลายไหไม่น้อย เช่นนั้นคงเมามากกลิ่นสุราถึงได้คละคลุ้งเช่นนี้” “ใครว่าพี่เมา หากพี่เมาจะยังนั่งสนทนากับเจ้าเช่นนี้ได้หรือ” “แล้วยามท่านดื่มสุรา ท่านมักจะจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้หรือไม่” “หากดื่มเพียงครึ่งไหก็ย่อมจำได้ แต่หากดื่มมากกว่านั้นก็จะจำไม่ได้ บางทีก็ได้รอยปูดบนหัวมาโดยไม่รู้ตัว” ที่เขากล่าวมาล้วนเป็นลักษณะของฟ่านไห่ถิงยามเมามาย “ยามค่ำคืนที่ข้าชอบพบท่านสวมอาภรณ์บางเบา แท้จริงท่านตั้งใจมาล่อลวงข้าใช่หรือไม่” นางกล่าวพลางเดินเข้าไปใกล้ “ย่อมใช่” “นี่ท่านคิดล่อลวงข้าตั้งแต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 14 ข้าชอบให้ท่านเกี้ยวพา (3/4)

    “มันเป็นความปรารถนาที่พี่มีต่อเจ้า อยู่อย่างนี้สักพักประเดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” กล่าวจบเขาก็โอบกอดร่างหอมกรุ่นอีกครั้ง นางสะดุ้งเล็กน้อยยามที่ริมฝีปากของเขาสัมผัสบริเวณคอซึ่งไร้อาภรณ์ปกปิด “แต่พี่ซืออี้เจ้าคะ ยามนี้ข้าง่วงยิ่งนัก” “มิเป็นไร หากเจ้าง่วงนอนเจ้าสามารถนอนได้เลย ประเดี๋ยวพี่จะช่วยกล่อมเจ้านอน” “แต่หากยังถูกท่านกอดรัดเช่นนี้ข้าเกรงว่าจะนอนไม่หลับ” “อีกไม่นานเจ้าก็คุ้นชินเอง อย่าได้กังวล” เขากล่าวทั้ง ๆ ที่ใบหน้ายังซบอยู่บริเวณซอกคอนาง ทำให้ยามเขาเอ่ยวาจาริมฝีปากจึงขยับไปด้วย สร้างความรู้สึกวาบหวามแสนแปลกประหลาดให้นาง ไหนจะลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดซอกคอนางอีก ‘โอ๊ย! ไม่ไหวแล้วหากเขายังป้อนคำหวาน มอมเมานางด้วยจุมพิตเช่นนี้ นางคงยอมพลีกายเป็นของเขาในค่ำคืนนี้แน่’ นางคิดก่อนจะหาทางเอาตัวรอดด้วยการแสร้งหลับ ในเมื่อต่อรองแล้วเขาไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ นางคงได้แต่เพียงแสร้งทำเป็นหลับอย่างช้า ๆ “ซีอิ๋ง พี่ดีใจยิ่งนักที่เจ้ามีใจให้พี่เช่นกัน” “...” “ระหว่างรอพี่เกี้ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 14 ข้าชอบให้ท่านเกี้ยวพา (4/4)

    เช้าวันต่อมาคังซืออี้ยังคงทำตัวตามปกติ การเอาใจใส่แกะกุ้งเลาะก้างปลา คีบอาหารให้น้องสาวของสหายคล้ายเป็นภาพที่เจ้ากรมยุติธรรม ฟ่านฮูหยินและฟ่านไห่ถิงคุ้นชินสายตา “อยากได้กุ้งเพิ่มอีกหรือไม่พี่จะแกะให้” เขาหันไปเอ่ยถามสตรีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ “แค่นี้พอแล้วเจ้าค่ะ” นางตอบเสียงเบาเพราะยังรู้สึกเขินอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน “ซืออี้ ตั้งแต่เจ้ามาอยู่ที่เรือนรับรอง เจ้าก็แย่งหน้าที่ดูแลซีซีของข้าไป” ‘อีกไม่นานข้าก็จะแย่งน้องสาวเจ้า แล้วพากลับตำหนักไปด้วย’ เมื่อใดนางตกลงปลงใจ เมื่อนั้นตำหนักอ๋องที่ปรับปรุงก็จะแล้วเสร็จพอดี “มาอาศัยอยู่จวนฟ่านก็นาน ข้าจึงอยากช่วยเหลือแบ่งเบาภาระหน้าที่ของเจ้า” คำตอบของผู้สูงศักดิ์ทำให้ผู้นำตระกูลฟ่านและฮูหยินลอบมองหน้ากัน “เป็นคนที่รู้คุณดีมาก เช่นนี้ค่อยน่าคบหา” ฟ่านไห่ถิงเอ่ยก่อนจะคีบผักเข้าปาก ‘จะโดนสหายขโมยน้องสาวไปยังไม่รู้ตัวอีก’ ฟ่านฮูหยินคิด แต่ก็ไม่ได้คิดห้ามแต่อย่างใด เพราะหากได้บุรุษผู้นี้มาเป็นเขยย่อมดีไม่ใช่หรือ ชาติตระกูลดีพร้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 15 พลาดพลั้ง (1/4)

    15พลาดพลั้ง ขนาดสตรีที่ถูกสั่งห้ามออกเรือนเช่นฟ่านซีอิ๋งยังทราบเรื่อง บุรุษผู้เก่งกาจทั้งสองมีหรือจะไม่ทราบ “จะเรียกว่าคุณหนูซิวฉลาดหรือชั่วช้าดี ปล่อยเรื่องราวฉาวโฉ่ของสหายออกมาเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่ตนเองถูกบุรุษโอบกอดหน้าโรงเตี๊ยม” “เจ้าอย่าแสร้งเป็นบัณฑิตด่าทอผู้อื่นไม่เป็นเลย คนตระกูลซิวชั่วช้าก็คือชั่วช้า จะมาเอ่ยวาจาให้ดูดีด้วยเหตุใด” ชินอ๋องซื่อจื่อเอ่ยด้วยท่าทางรำคาญ “ดูเหมือนการจัดการเก็บกวาดของซิวเมิ่งหยวนจะไม่อาจดูแคลนได้” “อืม หากเราไม่ทราบเรื่องอยู่ก่อนแล้วก็คงไม่ได้สนใจ คิดว่าชายหน้าบากผู้นั้นโดนคนคิดแค้นจึงถูกสังหาร” คังซืออี้ยกชาขึ้นจิบ “ก็ใครจะคิดว่าฉากหน้าของผู้ใจบุญแท้จริงจะเป็นเช่นนั้น” ฟ่านไห่ถิงกล่าว “ในงานเลี้ยงจวนราชครูเจ้าคงต้องระวังให้มาก ข้ากลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีกับซีอิ๋ง” เขารู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก “เจ้าอย่าได้ห่วง แล้วเจ้าเล่าไม่เปลี่ยนใจไปร่วมงานด้วยกันหรือ” “ข้าจะลอบเข้าไปสืบในห้องทำงานของราชครูซิว ยามจวนมีงานเลี้ยงเวรยามย่อมหละหลวมง่ายต่อก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25

บทล่าสุด

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (5/5)

    “ในเมื่อพี่ตกลงกราบไหว้ฟ้าดินกับเจ้าแล้ว ชั่วชีวิตไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขพี่ย่อมมีเจ้าเป็นสตรีเพียงคนเดียวในเรือนหลัง หากเจ้าลองสังเกตดี ๆ เจ้าจะพบว่านอกจากบิดาของพี่จะมีฮูหยินเพียงคนเดียวแล้ว สหายของพี่ที่เป็นถึงชินอ๋อง ก็ยังแต่งพระชายาคือน้องสาวของพี่เพียงคนเดียว ไร้อนุฯ หรือสาวใช้อุ่นเตียง บ่งบอกว่าพวกเราคนตระกูลฟ่านต้องการมีรักเดียวชั่วชีวิต” “นี่ท่าน!” หูเซียงเฟยตกใจยิ่งนัก มิคิดว่าเขาจะคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด “เช่นนั้นเจ้าอย่าได้เอ่ยถึงเรื่องข้อเสนอนั่นอีกเลย ในเมื่อการกราบไหว้ฟ้าดินของเราเกิดขึ้นเพราะความเต็มใจ” สิ้นเสียงเขาก็เชยคางมนขึ้นก่อนจะกดริมฝีปากทาบทับลงบนกลีบปากสีอ่อน ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนุ่มเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เขาจงใจทำให้นางคุ้นเคยกับสัมผัสของเขาจึงทำเพียงกินเต้าหู้นางเล็ก ๆ น้อย ๆ ลิ้นร้อนลิ้มรสความหวานจากโพรงปากนุ่ม ลิ้นเรียวเล็กของนางพยายามตอบรับสัมผัสของเขาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ยิ่งทำให้เข้าปรารถนาอยากจะกดนางลงบนเตียงแล้วทำให้นางกลายเป็นฮูหยินของเขาเต็มตัว “เซียงเซียง เจ้าหวานเหลือเกิน” เขากล่าวพลางจ้องมองนางด้ว

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (4/5)

    “ท่านพี่เหนื่อยหรือไม่เจ้าคะ” นางถามไถ่เขาเช่นนี้ทุกวัน นางช่างเป็นสตรีที่น่าอิจฉา ครอบครัวของสามีดีกับนางเหลือเกิน สามีหรือก็ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นบุรุษมักมากพร้อมรับสตรีเข้าเรือนมากมาย ทำให้นางยิ่งสำนึกในบุญคุณของเขา จึงพยายามปรนนิบัติดูแลเขาให้ดีที่สุด “เหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง” “เช่นนั้นไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนกินข้าวดีหรือไม่เจ้าคะ” “ไม่ล่ะ อาบน้ำร้อนทุกวันไม่ดีกับร่างกายกระมัง เจ้ากินข้าวก่อนเถิด วันนี้พี่มีงานมากมายจึงมาบอกเจ้าว่าอย่ารอพี่เข้านอน เพราะพี่อาจจะนอนที่ห้องหนังสือเลย” “เจ้าค่ะ” ฮูหยินน้อยจวนฟ่านคล้ายจะรู้สึกผิดหวัง นางก้มหน้าเล็กน้อยเพื่อซ่อนแววตาเสียใจ “เช่นนั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ” เขากล่าวก่อนจะเดินออกจากห้องไป ไม่มีท่าทางหยอกเย้าหรือกินเต้าหู้นางเช่นทุกวัน” ‘เขาโกรธอันใดข้าหรือไม่’ ‘หรือเขาเบื่อหน่ายข้าแล้ว จึงพยายามหลีกเลี่ยงเช่นนี้’ หูเซียงเฟยไม่เข้าใจตนเองเช่นกันว่าเหตุใดถึงรู้สึกเสียใจเมื่อเห็นท่าทางเมินเฉยของเขา ในเมื่อเขาบอกว่าอาจจะไม่กลับมา นางจึงถ

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (3/5)

    “แต่หากเจ้าไม่อยาก...” เขากำลังจะบอกว่าไม่อยากฝืนใจนาง เขามีเวลาเป็นปีที่จะยั่วยวนจนนางหลวมตัวหลวมใจยินดีที่จะเป็นฟ่านฮูหยินตลอดไป “ท่านได้โปรดชี้แนะข้าด้วย” นางรีบกล่าวคล้ายกลัวเขาเข้าใจผิด ที่เขายอมรับข้อเสนอตบแต่งนางเป็นฮูหยินเอกนับว่ามีพระคุณกับนางยิ่งนัก “หากพี่สอน เจ้าจะหาว่าพี่หน้าไม่อายหรือไม่” “ไม่ว่าเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นลองสัมผัสมันดูหรือไม่ ทำความคุ้นเคยกับมันก่อน” น้ำเสียงที่แฝงด้วยยั่วเย้าและแววตาที่ล่อลวงทำให้นางหลวมตัวพยักหน้าตอบรับด้วยใจหนึ่งก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็น แม้ก่อนออกเรือนมารดาจะนำหนังสือปกขาวที่เคยได้รับมามอบให้ แต่ทว่านางลองศึกษาแล้วยังไม่กระจ่างเท่าใด ทราบแต่เพียงว่าครั้งแรกจะเจ็บมากเท่านั้น “เจ้าค่ะ” นางตอบรับด้วยสีหน้าเขินอาย แต่ก็ยอมเอื้อมมือไปจับเจ้าสิ่งนั้นที่คล้ายผงกหัวเรียกนางอยู่ “เป็นอย่างไรบ้าง” “มันเหมือนมีชีวิตเลยนะเจ้าคะ” “เพราะมันปรารถนาอยากจะปลดปล่อยอย่างไรเล่า” “แล้วยามที่มันแข็งขึงเช่นนี้ ท่านปวดหรือไม่เจ้าคะ”

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (2/5)

    ‘หากเจ้ายอมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ข้าฟังตามจริง ข้าอาจจะตบแต่งกับเจ้าตามข้อตกลงก็ได้’ ‘เช่นนั้นเราเปลี่ยนที่สนทนาได้หรือไม่เจ้าคะ’ ‘ย่อมได้’ เขากล่าวพลางวางตะเกียบลง ‘ท่านกินให้อิ่มก่อนก็ได้เจ้าค่ะ ข้ารอได้’ อย่างไรกลับไปก็โดนหาเรื่องอยู่แล้ว หากนางจะกลับช้าอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป ‘เช่นนั้นก็รอข้า’ ‘เจ้าค่ะ’ หลังจากย้ายที่สนทนาแล้วนางก็เล่าเรื่องราวที่ตนต้องเข้าร่วมการคัดเลือกนางสนมของฮ่องเต้ ซึ่งพี่สาวที่เข้าเกณฑ์จะต้องเข้าร่วมเช่นกันกับฮูหยินรองที่ยามนี้ทำตัวเช่นฮูหยินเอกกดขี่นางและมารดา พยายามหาบุรุษมีตำหนิมาแต่งกับนางเพื่อจะได้ตัดคู่แข่งในการคัดเลือกนางสนมออกไป ซึ่งตัวหูเซียงเฟยที่ไม่ได้อยากเป็นสนมของฮ่องเต้ จึงคิดเลือกบุรุษสักคนด้วยความคิดที่ว่าหากต้องพลีกายให้กับใครสักคน นางขอเป็นคนเลือกเอง ทว่าสถานที่เลือกบุรุษของนางกลับเป็นร้านบะหมี่ข้างทาง ไม่ใช่โรงเตี๊ยมที่คุณชายมักจะไปนั่งจิบชา ซึ่งนางให้เหตุผลว่าที่มาเลือกบุรุษในที่นี่ก็เพราะ ในสายตานางบะหมี่ร้านนี้รสเลิศกว่าอาหารในโรงเตี๊ยม แต่กลับถ

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (1/5)

    การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง วันต่อมาฟ่านฮูหยินพาบุตรชายและแม่สื่อมาเยือน แน่นอนว่าพระชายาชินอ๋องที่ทราบถึงเรื่องราวโสมมในจวนโหวย่อมมาร่วมด้วย โดยชินอ๋องที่ได้ฟังพระชายาเล่าเรื่องการมาเยือนจวนโหวครั้งก่อนให้ฟังยังคงติดตามมาด้วยเพราะรู้สึกไม่พอใจกับความไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงของอี๋เหนียงจวนโหว แน่นอนว่าผู้สูงศักดิ์ที่โอรสสวรรค์ยังต้องหยุดฟังมาเยือนถึงจวน ท่านโหวย่อมว่าง่ายและไม่ขัดข้องต่อความประสงค์ของฟ่านฮูหยินเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นเจ็ดวันคุณหนูรองหูแต่งเข้าเป็นฮูหยินน้อยจวนฟ่าน ตามธรรมเนียมหากฝ่ายชายส่งสินสอดให้เท่าใด สินเดิมของสตรีต้องมากกว่าแม้สักเล็กน้อยก็ยังดี ทำให้อี๋เหนียงต้องกัดฟันขนข้าวของที่ซุกซ่อนไว้ ซึ่งเป็นสินเดิมของฮูหยินเอกมอบคืนไปพร้อมกับแช่งชักหักกระดูกคนจวนฟ่านที่กล้าดีส่งสินสอดมามากถึงยี่สิบหีบ ทำให้ตนต้องคืนสินเดิมที่ยักยอกไปทั้งหมด หลังจากนี้คงได้แต่สั่งริบเบี้ยหวัดของฮูหยินและอนุฯ ทั้งหลายเพื่อเติมเต็มสินเดิมเตรียมเอาไว้ให้บุตรสาว กล่าวถึงเรื่องราวหลังจากดื่มสุรามงคลของฟ่านไห่ถิงและฮูหยินน้อยจวนฟ่าน ซึ่งฟ่านไห่ถิง

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : ฟ่านไห่ถิงน่ะหรือจะแต่งงาน (5/5)

    “เจ้าน่ะหรือหูเซียงเฟย ท่านโหว นางคือคุณหนูรองหูตัวจริงใช่หรือไม่ ท่านไม่ได้กำลังหลอกลวงเบื้องสูงนำตัวแทนมาอีกใช่หรือไม่ บอกตามตรงเปิ่นหวางเฟยไม่ใคร่จะไว้ใจท่านโหวแล้ว” วาจาของพระชายาชินอ๋องทำให้หูโหวหน้าชา วันนี้เขาโดนพระชายาต่อว่าไปหลายเรื่องทีเดียว “เป็นหม่อมฉันหูเซียงเฟยจริง ๆ วันนี้พระชายาคงมาพบหม่อมฉันเพราะเรื่องคุณชายฟ่านใช่หรือไม่เจ้าคะ” “ย่อมใช่ แต่เพื่อยืนยันว่าเจ้าคือหูเซียงเฟยจริง ๆ เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ ว่าเจ้าเข้าไปสนทนากับพี่ชายข้าครั้งแรกเมื่อใด” “ที่ร้านบะหมี่เจ้าอร่อย ข้างทาง...” หูเซียงเฟยเล่าถึงที่ตั้งของร้านบะหมี่ที่ตนเดินเข้าไปยื่นข้อเสนอให้กับคุณชายฟ่าน หากพระชายาผู้นี้มาหานางถึงจวนได้ มิแคล้วก็คงพอจะทราบเรื่องข้อเสนอนั่นด้วยกระมัง “ข้าเชื่อแล้วว่าเจ้าคือหูเซียงเฟย สตรีที่จะมาเป็นพี่สะใภ้ของข้า” คำเรียกขานตนเองอย่างถือตัวเปลี่ยนไป ทำให้ท่านโหวเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของบุตรสาวคนรองที่อยู่นอกสายตามาโดยตลอด “เพคะ” “ที่จวนโหวมีสวนพอให้เปิ่นหวางเฟยพาว่าที่พี่สะใภ้ไปเดินเล่นได้หรือไม่ท่

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : ฟ่านไห่ถิงน่ะหรือจะแต่งงาน (4/5)

    “เปิ่นหวางเฟยต้องขออภัยอี๋เหนียงจริง ๆ ที่ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ของจวนโหว ที่แท้ท่านโหวใจกว้างยกอี๋เหนียงให้มีเกียรติเทียบเท่าฮูหยินเอก เรื่องนี้ทำให้เปิ่นหวางเฟยเปิดหูเปิดตายิ่งนัก ดี ๆ ที่ได้รู้เช่นนี้ วันหน้าหากท่านอ๋องคิดจะรับพระชายารอง เปิ่นหวางเฟยคงต้องคิดไตร่ตรองให้หนักมิเช่นนั้น พระชายารองคงขึ้นมาเหยียบหัวเปิ่นหวางเฟยเล่นเช่นที่อี๋เหนียงทำเป็นแน่” “พระชายาได้โปรดให้อภัยอี๋เหนียงของกระหม่อมเถิดพ่ะย่ะค่ะ นางเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านไม่ค่อยรู้ความ จึงอาจเอ่ยวาจาที่ไม่ทันได้คิดไปบ้าง” “ที่แท้ท่านโหวก็รักใคร่อี๋เหนียงมากถึงเพียงนี้ เปิ่นหวางเฟยเข้าใจแล้ว ลุกขึ้นมานั่งสนทนากันดี ๆ เถิด” “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” “ขอบพระทัยเพคะ” “แล้วฮูหยินเอกไปที่ใดหรือท่านโหว เหตุใดนางถึงไม่มาต้อนรับเปิ่นหวางเฟย” “นาง เอ่อ...” หูโหวไม่รู้จะเอ่ยวาจาอย่างไร จะบอกว่าเขาลงโทษฮูหยินเอกด้วยความผิดเล็ก ๆ อย่างเช่นการไม่อบรมสาวใช้ในจวนให้ดีเพื่อเอาใจอี๋เหนียงของตนก็ไม่ได้ เช่นนั้นเรื่องราวในจวนเขาคงถูกเล่าขานหากพระชายาชินอ๋องผู้นี้เป็นคนปา

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : ฟ่านไห่ถิงน่ะหรือจะแต่งงาน (3/5)

    “แล้วเจ้าก็ไตร่ตรองดูเถิดว่าจะบอกมารดาเช่นใดจึงจะเหมาะสม” “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ แท่งหยกของท่านคล้ายจะเรียกหาข้าแล้ว เช่นนี้ ข้าไม่เกรงใจท่านแล้วนะเจ้าคะ” กล่าวจบนางก็ล้วงมือเข้าไปในอาภรณ์ของเขาอย่างรวดเร็ว “อ๊า...ซีอิ๋ง” ชินอ๋องซื่อจื่อครวญคราง ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อชายาตัวน้อยอ้าปากครอบครองส่วนหัวของแท่งหยกมือเรียวก็กอบกุมสลับรูดขึ้นลง ยามนางดูกลืนส่วนหัวพลางโลมเลีย เขาแสดงสีหน้าสุขสมยิ่งนัก “ท่านต้องปลดปล่อยก่อนหนึ่งครั้งข้าถึงจะขึ้นควบขี่ให้นะเจ้าคะ” “ย่อมได้ ซีอิ๋ง อ๊า...เจ้าดียิ่งนัก” คังซืออี้จ้องมองการกระทำของนางด้วยแววตาลุ่มหลง เขาส่งเสียงร้องครวญครางสุขสมดังขึ้นยามนางขยับมือและโลมเลียให้เร็วขึ้น ก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำสีขาวขุ่นในปากของนาง “ท่านนี่นะ ปลดปล่อยอยู่ทุกวัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เคยลดลงเลย” นางกล่าวก่อนจะแลบลิ้นเลียที่เปรอะเปื้อนรอบริมฝีปาก ท่าทางของนางช่างยั่วยวนให้เขาเขาปรารถนาอยากจะปลดปล่อยในกายนางอีกครั้ง ฟ่านซีอิ๋งไม่ปล่อยให้พระสวามีได้พัก นางรุกเร้าเขาอีกครั้งด้วยการ

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : ฟ่านไห่ถิงน่ะหรือจะแต่งงาน (2/5)

    “ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดมากหรอกเจ้าค่ะ แต่หากท่านมีใจอยากช่วยไขข้อข้องใจ น้องย่อมยินดี” นางกล่าวพลางช่วยเขาปลดสายรัดเอวแล้วถอดอาภรณ์ตัวนอกออก “กล่าวมาเถิด ขอเพียงเจ้าเอ่ยถาม หากพี่สามารถหาคำตอบมาให้เจ้าได้ พี่ย่อมลงแรงเต็มที่” เมื่อถอดอาภรณ์เสร็จเขาจึงโอบเอวพระชายาของตนเดินไปที่เตียง “วันนี้ท่านแม่ร้อนใจนักจึงมาปรึกษาข้า เรื่องที่พี่ใหญ่จู่ ๆ ก็มาคุกเข่าขอร้องให้ท่านแม่ไปสู่ขอสตรีให้ ทั้งยังเร่งรีบจะเอาคำตอบเช้าวันพรุ่งนี้” “แท้จริงเรื่องนี้นั้น เป็นความลับของสหายพี่ หากพี่บอกเจ้าเรื่องนี้ เจ้ามีสิ่งใดมอบให้พี่เป็นการตอบแทน” “พรุ่งนี้ข้าจะทำขนมที่ท่านชื่นชอบให้เจ้าค่ะ” “ความลับของไห่ถิงมีค่าเพียงเท่านั้นเองหรือ” “เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะปรนนิบัติท่านอาบน้ำเจ้าค่ะ ท่านชอบให้ข้าถูหลังมิใช่หรือ” ถูไป ลูบไป ถูกใจเขายิ่งนัก “นั่นเจ้าย่อมต้องทำอยู่แล้ว สิ่งตอบแทนเจ้าไม่คุ้มค่าที่พี่ต้องหักหลังสหายบอกความลับสำคัญแก่เจ้าเลย” เมื่อได้ยินสวามีบอกนางจึงงัดไม้ตายที่เขายอมสยบทุกครั้ง “คืนนี้ข้าจะ

DMCA.com Protection Status