กราบขอบพระคุณนักอ่านที่น่ารักทุกท่านมากๆ เลยนะคะ ที่ติดตามและอ่านนิยายมาจนถึงตอนจบ และขอฝากเรื่องอื่น ๆ ของนามปากกา J.Jusmin ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านนิยายนะคะ
ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป คำคมสอนใจที่ได้ยินอยู่บ่อยครั้งคนเราเกิดมาย่อมมีโชคชะตาแตกต่างกัน บางคนเกิดมารวยล้นฟ้าเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน หมื่นล้าน ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ในขณะที่บางคนก็เป็นแค่ชาวรากหญ้าหาเช้ากินค่ำ ต้องดิ้นรนทำงานเพื่อแลกเงินประทังชีวิตให้ผ่านพ้นไปวัน ๆเกิดมาทั้งทีก็ต้องใช้ชีวิตให้อยู่รอดเผื่อว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีกว่า และนั่นก็เป็นถ้อยคำสอนของผู้เป็นยายที่ใช้สอนหลานสาวอันเป็นแก้วตาดวงใจมาโดยตลอดแต่ชีวิตแสนธรรมดาของนักศึกษาอย่างเธอมันกลับไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ*****@ SA9 Pub and Restaurantเอสเอไนน์ หนึ่งในสถานบันเทิงชื่อดังใจกลางเมืองกรุงเทพฯ (ชื่อSA ก็ย่อมาจาก sex appeal หมายถึง เสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม) ซึ่งได้เปิดเป็นร้านอาหารกึ่งผับที่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม ชั้นล่างได้ถูกแบ่งเป็นโซนทั่วไปและบนชั้นสองเป็นห้องแบบวีไอพี มีสาวนั่งดริงและสาวไซด์ไลน์ที่เลือกทำด้วยความสมัครใจ“คืนแรกก็โชคดีเลยนะชะเอม มีลูกค้าวีไอพีจองตัวไปนั่งดื่มด้วย” เสียงของจีจี้เอ่ยกับสาวรุ่นน้องชะเอม สาวสวยดวงตากลมโต ผมยาวสลวยถึงกลางหลัง คืนนี้เธอได้ถูกแปลงโฉ
สามวันก่อนหน้า“ออเดอร์จีสองหนึ่งห้าได้แล้วค่ะ” เสียงเจ้าของร้านอาหารเอ่ยเรียกพนักงานส่งอาหารที่มายืนรออยู่หน้าร้านพนักงานสาวยื่นมือออกไปรับออเดอร์ด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม แล้วนำถุงอาหารไปใส่ไว้ในกล่องที่ผูกติดกับท้ายรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อนำไปส่งลูกค้าที่สั่งผ่านบริการออนไลน์ให้ทันเวลาทุกวันหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดชะเอมก็จะมารับจ็อบหางานเสริม เนื่องจากความอาภัพ พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็กจึงทำให้อยู่กับยายเพียงแค่สองคน และตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย เธอก็ต้องหางานทำเพื่อนำไปเป็นค่าเล่าเรียน และเลี้ยงดูผู้เป็นยายที่มีโรคประจำตัวซึ่งอยู่บ้านร้อยพวงมาลัยส่งขายตลาด รายได้ต่อวันก็แค่ร้อยสองร้อยตอนนี้เธอเรียนอยู่ปีที่สามคณะคหกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ ของมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งชะเอมมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเองตั้งแต่เด็ก หวังว่าเรียนจบแล้วจะสามารถเก็บเงินได้สักก้อนและเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง จะได้มีเงินเลี้ยงดูยาย ไม่ต้องมาร้อยพวงมาลัยให้หลังขดหลังแข็งอีกต่อไปหลังจากส่งอาหารเสร็จก็ต้องรีบกลับบ้านไปอาบน้ำ เตรียมตัวไปทำงานเสริมอีกที่หนึ่ง“ยายจ๋า หนูไปทำงานก่อนนะคะ ก
ชุดสายเดี่ยวสีดำรัดรูปได้ถูกสวมใส่อยู่บนเรือนร่างของหญิงสาว และจีจี้ก็ได้ทำการผูกเชือกที่อยู่ตรงด้านหลังให้คืนนี้จีจี้ได้จัดการแปลงโฉมรุ่นน้องทั้งแต่งหน้าทำผม และเลือกชุดให้โชว์ผิวขาวมีออรา เพื่อให้ชะเอมได้กลายเป็นหญิงสาวที่มีความเซ็กซี และสวยที่สุดในเอสเอไนน์“สวยมากเลยชะเอม”“ชุดไม่โป๊ไปเหรอคะพี่จีจี้”ชะเอมมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่กับชุดโชว์ก้อนเนื้อหน้าอกที่โผล่พ้นเกาะอกเว้าหลัง และสั้นแค่พอคลุมก้น ก็ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ปกติเธอจะใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยีน สั้นสุดก็คงจะเป็นกระโปรงนักศึกษาที่ยาวประมาณหัวเข่า“แบบนี้สิผู้ชายชอบ มั่นใจเข้าไว้ อย่าลืมสิว่าเราตัดสินใจทำเพราะอะไร”จีจี้เรียกความมั่นใจให้คนที่เสมือนน้องสาว ทำให้ชะเอมฉุกคิดขึ้นได้ว่ายายยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอจะไม่มีวันลืมกับสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไป และจะไม่เสียใจที่เลือกทำแบบนี้เด็ดขาด“พี่จีจี้คะ หนูเลือกแขกเองได้ใช่ไหมคะ”“ได้สิจ๊ะ สาว ๆ ที่นี่ก็ไม่ใช่จะรับงานกับผู้ชายทุกคน มันอยู่ที่ข้อตกลงระหว่างเรากับแขก”จีจี้ได้สอนวิธีการพูดคุยเอาอกเอาใจลูกค้า การแสดงกิริยาท่าทางเพื่อเรียกให้แขกสนใจ และการดีลงานบนเตียง แต่ดูแล้วมันคง
@ โรงพยาบาลเช้าวันต่อมา“ความจริงพี่หมอไม่ต้องลำบากมาส่งชะเอมกับยายก็ได้นะคะ ชะเอมเกรงใจ”“ไม่เป็นไรเลยครับ พี่ดูแลคุณยายมาหลายปี ยังไงพี่ก็ต้องมาส่ง”คิริณ หนุ่มหล่อในชุดกาวน์ ผู้เป็นศัลยแพทย์หัวใจและเป็นแพทย์เจ้าของไข้ยายของชะเอมเอ่ยตอบเธอ“พี่หมอไม่โกรธใช่ไหมคะที่ชะเอมย้ายโรงพยาบาล”ชะเอมเองก็ลำบากใจไม่น้อย เพราะเขาก็ตรวจรักษายายของเธอมาเป็นเวลาหลายปีคิริณเป็นแพทย์ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา เขาเป็นคนสุภาพและดูแลคนไข้ได้ดีเสมือนญาติ เขาเป็นถึงลูกนักการเมืองในท้องถิ่น หากจะไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนที่มีรายได้สูงกว่านี้ก็คงไม่ยาก แต่พอเรียนจบเขาก็เลือกมาทำงานที่โรงพยาบาลรัฐ ซึ่งขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจแต่เธอก็แค่อยากหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับยายโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งนี้มีเครื่องมือที่ทันสมัย ครบครัน และเชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจโดยเฉพาะ อีกทั้งยังเป็นโรงพยาบาลเครือข่ายกับโรงพยาบาลต่างประเทศ โอกาสที่ยายของเธอจะได้รับการผ่าตัดมีเปอร์เซ็นที่สูงกว่าหลังจากที่คิริณรู้ว่าชะเอมได้ขอทำเรื่องย้ายผู้เป็นยายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ต่อ ก็อาสาช่วยติดต่อประสานงานและมาส่
“ไอ้บ้า ไอ้สารเลว”เสียงเล็กบ่นใส่คนในโทรศัพท์ที่กดวางสายไปแล้วมีครั้งไหนบ้างที่เขาไม่ขู่เธอ เวลาแค่สามวันที่เธอจะได้เป็นอิสระก็ยังให้ไม่ได้ แล้วถ้าย้ายไปอยู่กับเขา เธอก็คงจะไร้ซึ่งความเป็นตัวของตัวเอง ไร้ความเป็นอิสรเสรี จะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตทุกครั้งอย่างนั้นหรือ ไหนบอกว่าอยากทำอะไรก็ทำ เวลาไหนที่เขาต้องการก็แค่รอขึ้นเตียงเธอถอนหายใจอย่างเหลืออด แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเป็นคนเลือกเอง และก็รับเงินเขามาแล้วชะเอมเก็บเสื้อผ้าและของใช้บางส่วนเสร็จ ก็เดินลงบันไดไปดูคิริณที่นอนหลับอยู่บนโซฟาไม้ เพียงแค่เห็นเศษเสี้ยวของใบหน้าหล่อ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็ต่างกันลิบลับกับไอ้ผู้ชายปากเก่งที่เอาแต่ขู่ผู้หญิงพี่หมอของเธอยังคงเป็นคนที่มีความอบอุ่นและใจดีกับเธอที่สุด“ตื่นแล้วเหรอคะ”คิริณปรือดวงตาขึ้นเพื่อปรับแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาภายในตัวบ้าน ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไร แต่ก็มากพอให้รู้สึกว่านอนได้เต็มตื่น และระบายยิ้มตอบหญิงสาวที่นั่งมองมาทางเขา“ครับ”“จะกลับเลยไหมคะ เดี๋ยวชะเอมออกไปส่ง”จากนี้คงต้องอยู่ห่างคิริณบ้าง เพราะไม่รู้ว่าสกายจะเอาจริงขึ้นมาหรือเปล่า เกิดถ้าเขาไม่ได้แค่ขู่แต่คิดจะท
@ คฤหาสน์สกายนี่นะหรือคฤหาสน์ของเขา มันใหญ่โตสมกับคนมีฐานะร่ำรวย อาจจะถึงขั้นเป็นมหาเศรษฐีเลยก็ว่าได้ แถมยังอยู่ในซอยเปลี่ยวลึก รอบด้านติดกับป่า ไม่มีผู้คนสัญจรไปมา ทำไมถึงได้มาสร้างบ้านอยู่ในที่ลับตาคนแบบนี้กันนะชะเอมสอดสายตาผ่านกระจกหน้ารถมองเข้าไปยังบ้านหลังใหญ่ แต่แล้วความคิดที่มีก็ดับวูบเมื่อประตูรถได้ถูกเปิดออก พร้อมกับชายรูปร่างกำยำสองคนที่ยืนรออยู่ด้านนอก“เข้าไปข้างในกันเถอะครับ”โฬมเอ่ยจบก็เดินนำหญิงสาวเข้าไปในคฤหาสน์ที่อยู่ตรงปีกซ้ายฝั่งนี้ได้ถูกตกแต่งให้เป็นห้องสังสรรค์ไว้สำหรับนั่งดื่มเหล้ากับกลุ่มเพื่อนสนิทของมาเฟียหนุ่ม มีโต๊ะสนุกเกอร์ตั้งวางอยู่ด้านหลังโซฟา ส่วนอีกห้องที่โล่งกว้างขนาดใหญ่ได้ถูกจัดให้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมยิงปืนขนาดย่อมภายในห้องนั้นมีชั้นวางสำหรับจัดเก็บปืนกระบอกหลากหลายขนาด ต้องชื่นชอบขนาดไหนถึงได้นำมาเก็บไว้ในบ้านของตนเอง และไม่รู้ว่ามันเป็นปืนจริงหรือว่าปืนปลอม“มาได้สักทีนะ”เสียงทุ้มดังขึ้นก็ทำให้ชะเอมรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก เธอก้าวเข้าไปในห้องนั้นอย่างเชื่องช้าราวกับขาทั้งสองข้างไร้กำลัง พอเดินพ้นประตูชายที่เป็นลูกน้องคนสนิทของเขาก็จัดการปิดประต
เขาว่าพรางปัดมือเธอทิ้งแล้วจับขาหญิงสาวแยกออกกว้าง นิ้วเรียวใหญ่ถูไถที่กลีบกุหลาบมีใบหญ้าขึ้นบางเบา ผิวกายของเธอขาวเนียนนุ่มราวกับผิวเด็ก และตรงส่วนนั้นก็อมชมพูจนเขาอยากจะเข้าไปเชยชมใกล้ ๆติดอยู่แค่อย่างเดียวเขาไม่เคยใช้ลิ้นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แม้แต่จูบก็ไม่ทำ ยิ่งเป็นตุ่มไตตรงหน้าอก หรือกลางกายสาวเขาก็ยิ่งไม่ทำให้ใครทั้งนั้น นอกเสียว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นคนรักของเขา ซึ่งตอนนี้มันยังไม่มีจึงต้องซื้อกินไปก่อน“อื้อ”ชะเอมหลับตาแน่นทำหน้าเหยเก ส่งเสียงร้องด้วยความสะดุ้งเจ็บ เมื่อนิ้วร้ายได้สอดแทรกเข้าไปภายในช่องสงวนได้สำเร็จ แล้วถูกนิ้วชักเข้าออกด้วยความฝืดเคือง“ซิงจริง ๆ สินะ”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างพึงพอใจ พอนิ้วของเขาแทงเข้าไปในรูอันคับแคบ ร่องภายในของเธอก็เริ่มต่อต้านด้วยการบีบรัดเพื่อขับไล่นิ้วของเขาให้หลุดออกแต่สกายก็ดันนิ้วเข้าไปจนสุดก็เริ่มเร่งจังหวะขึ้นทีละนิดเพื่อให้รูสาวได้ปรับตัวผลิตน้ำหล่อลื่นชโลมนิ้ว และพอขยับได้คล่องก็จัดการเร่งจังหวะให้ถึงใจคนที่พยายามจะหนีบขาชิด แต่ก็ถูกเขาแยกออกเหมือนเดิมมือเล็กกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น จากความเจ็บที่ถูกนิ้วร้ายเข้าไปในโพลงอ่อนนุ่มเป็นค
ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง“หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”เลย์ได้โทรหาสกายเนื่องจากมีธุระเรื่องงานจะคุยด้วย แต่ว่าไอ้หน้าหล่อดันปิดเครื่อง เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายโทรไปหาโฬมลูกน้องคนสนิทของสกายแทน“ครับคุณเลย์”“ลูกพี่มึงหายหัวไปไหนวะ โทรหาก็ไม่ติด”“คุณสกายพักผ่อนอยู่ที่คฤหาสน์ครับ”เลย์ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกทะแม่งชอบกล“ไม่ถูกว่ะ ปกติเวลานี้มันต้องอยู่สนามยิงปืน ลูกพี่มึงต้องมีเรื่องปิดบังกูอยู่ใช่ไหมวะไอ้โฬม”เลย์เริ่มคาดคั้น และมันก็ทำให้เขาได้รู้ความจริงก่อนจะวางสาย แล้วรีบบึ่งรถสปอร์ตคันหรูมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเพื่อนทันที“ไอ้โฬมนี่มันเก็บความลับกับมึงไม่ได้เลยจริง ๆ”โฬมเป็นคนซื่อสัตย์และเป็นคนที่เขาไว้ใจได้มากที่สุด จึงเป็นลูกน้องที่ติดตามสกายมานานจนสนิทราวกับเป็นเพื่อนคนหนึ่ง แต่มันก็มักจะมาพลาดท่าปากพล่อยกับเรื่องผู้หญิง ไม่ว่าเจ้านายหนุ่มลูกครึ่งจะพาเข้าบ้านมากี่คนโดยไม่บอกใคร แต่เลย์ก็มักจะรู้ข่าวอยู่เสมอ“อย่าไปว่ามันเลย ว่าแต่น้องชะเอมของมึงเถอะ เป็นยังไงบ้างวะ งานดีถูกใจมึงไหม”คำถามของเพื่อนทำให้ริมฝีปากของมาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างลืมตัว พล
@ มหาวิทยาลัย1 ปีต่อมาเหล่ารุ่นน้องได้ยืนรายล้อมรุ่นพี่บัณฑิตที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี พร้อมกับร้องเพลงบูมกันดังกึกก้องไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ท่ามกลางสายตาของคนที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันรับปริญญาชะเอมอยู่ในชุดนักศึกษาที่สวมชุดครุยสีดำทับอีกชั้น ได้ยืนอยู่กลางวงล้อมของเหล่ารุ่นน้อง ทั้งร่วมร้องเพลงและขยับร่างกายเป็นจังหวะตามเนื้อเพลงที่ดังขึ้นหลังจากนั้นเธอก็ไปถ่ายรูปร่วมเฟรมกับเพื่อนรัก ผลัดกันแสดงความยินดี“ดีใจด้วยนะแก”“ยินดีกับแกเหมือนกันนะน้ำหวาน”“เรียนจบแล้วก็อย่าลืมเพื่อนอย่างฉันล่ะ” น้ำหวานทำหน้าหงอยเล็กน้อย เมื่อคิดว่าเรียนจบแล้วคงจะได้เจอกันน้อยลง ด้วยอายุที่มากขึ้น และต่างคนก็ต้องไปทำหน้าที่ของตนเอง“จะลืมได้ยังไง แกเป็นเพื่อนรักของฉันนะ ฉันยังอยู่กรุงเทพฯ พักที่บ้านพี่สกาย ถ้ามีเวลาก็มาเจอกันบ่อย ๆ นะ”ขณะที่สองสาวกอดกัน ก็มีเสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ ๆ และพอหันไปมองก็พบว่าเป็นธามไท หนุ่มเจ้าของโรงแรมที่พวกเธอไปฝึกงาน“ยินดีด้วยนะครับน้องน้ำหวาน น้องชะเอม”“ขอบคุณนะคะพี่ธามไท ว่าแต่มาแสดงความยินดีกับพวกเราสองคน ทำไมมีดอกไม้แค่ช่อเดียวคะ” ชะเอมเอ่ยทักทายหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะเ
@ โรงแรมธามไทสกายขับรถมาส่งแฟนสาวด้วยตัวเอง วันนี้เธอต้องฝึกงานเป็นวันแรกในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ได้ติดต่อโรมแรมของเพื่อน เพื่อขอให้แฟนสาวและเพื่อนรักของเธอมาฝึกงานที่นี่“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม แล้วโน้มตัวไปจูบที่แก้มของเขา“ปากด้วยสิครับ”จุ๊บ!“หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวยัยน้ำหวานจะบ่นเอาว่ามาถึงช้า”ที่ช้าก็เพราะถูกเขาจับกินตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งบนเตียง ในห้องน้ำ จนได้อาบน้ำด้วยกัน กว่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วลงมากินมื้อเช้า ก็ทำให้ออกจากบ้านช้ากว่าที่กำหนด“ครับ”สิ้นเสียงขานรับชะเอมก็เปิดประตูลงจากรถ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงประตูอีกฝั่งที่เปิดออก จึงรีบหันไปมองด้วยความสงสัย“พี่สกาย จะลงมาทำไมอีกคะ”“รีบไม่ใช่เหรอครับ เข้าไปข้างในสิ พี่แค่จะเข้าไปส่งเมีย”ชะเอมกระตุกยิ้มพร้อมกับมือที่โดนอีกฝ่ายกอบกุม แล้วพากันเดินเข้าไปในโรงแรมของเพื่อนแฟนหนุ่ม“ชะเอม”ทันทีที่น้ำหวานเห็นเพื่อนเดินเข้ามากับแฟน ก็โบกมือแล้วเอ่ยเรียกเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอหนุ่มรุ่นพี่ใจดีที่เป็นธุระเรื่องฝึกงานให้เธอกับชะเอม“สวัสดีค่ะพี่สกาย ห
ร่างของหญิงสาวถูกอุ้มคีบเอวขณะที่ริมฝีปากก็บดจูบกันอย่างเร่าร้อน และวางลงข้างโต๊ะสนุกเกอร์ เท้าแตะพื้นโน้มตัวคว่ำหน้านอนบนนั้น แอ่นก้นงามให้เขากระแทกร่องสาวจากทางด้านหลัง“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า... พี่สกาย”เสียงร้องครางดังระงมของทั้งคู่ประสานกันลั่นห้อง เขาได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มกินดุ กินโหด เพราะฉะนั้นน้ำเดียวไม่เคยพอ“อ่า... เมียพี่ตอดดีมาก”“อื้อ จะ จุก ซี้ด...”“พี่ขออีกน้ำนะครับ”ปัก ปัก ปัก!!!คนทั้งสองผลัดเปลี่ยนกันมอบบทรัก จนกระทั่งน้ำสีขาวขุ่นหลั่งออกมาเป็นครั้งที่สาม สกายก็อุ้มหญิงสาวมานั่งอยู่บนตักตรงโซฟาดังเดิมเพื่อพักให้หายเหนื่อย“ขอบคุณนะคะที่พายายมาอยู่ด้วย”“เราขอบคุณพี่หลายรอบแล้วนะ”เอ่ยพลางยื่นมือหนาเชยปลายคางของหญิงสาวให้เงย ก่อนจะก้มลงไปจูบแผ่วเบา ทำเอาคนโดนจูบคลี่ยิ้มเขิน“ก็พี่แสนดีแบบนี้ไงล่ะคะ ให้ขอบคุณวันละล้านรอบก็ยังตอบแทนไม่หมดเลย”“ไม่ต้องล้านรอบหรอก ตอบแทนเป็นตัวกับหัวใจวันละน้ำสองน้ำก็พอ”“คนบ้า”หญิงสาวคลี่ยิ้มส่งสายตามองค้อนให้คนเจ้าเล่ห์ พูดดีด้วยหน่อยไม่ได้ ต้องวกเข้าเรื่องสิบแปดบวกตลอดทั้งสองต่างจ้องตาและหลุดยิ้มออกมา พักกันพอหายเหนื่อย สกายและชะเอมก็พากันไปยั
@ โรงพยาบาลสามทุ่มของวันนี้ยายของหญิงสาวจะเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ เมื่อช่วงพลบค่ำได้ตรวจเลือดและสภาพร่างกายโดยรวมแล้วมีความพร้อมทุกอย่างปรียานุชแม่ของสกายได้จัดการติดต่อกับทางโรงพยาบาลทั้งสองแห่งเรื่องการผ่าตัด เพราะหัวใจที่นำออกมาแล้วนั้น จำเป็นต้องนำไปปลูกถ่ายให้กับยายของชะเอมโดยด่วน จะให้มีเรื่องผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด“เจอกันอีกแล้วนะพ่อหนุ่ม”ผู้เป็นยายเอ่ยทักทายสกายทันทีที่เห็นเด็กทั้งสองเดินเข้าไปหาในห้องพักผู้ป่วย ทำเอาชะเอมงุนงงว่าไปรู้จักกันตอนไหน เพราะเธอไม่เคยพาแฟนหนุ่มมาเยี่ยมยายเลยสักครั้ง“ยายรู้จักพี่สกายด้วยเหรอคะ”“รู้จักสิ เขาก็เคยมาเยี่ยมยาย”ชะเอมยังไม่อยากคาดคั้นสิ่งที่อยากรู้ในตอนนี้ เลยได้แต่คลี่ยิ้มส่งกำลังใจให้ผู้เป็นยาย สักพักก็มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่เวรเปลมาพายายไปที่ห้องผ่าตัด“หนูจะรออยู่ตรงนี้นะคะ”หญิงสาวที่จับมือของยายมาตลอดทางก็ปล่อยมือออกเพราะเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยไม่ได้ สกายจึงโอบไหล่พาชะเอมไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้องผ่าตัดผู้เป็นยายเข้าไปได้ไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่วิ่งออกมาจากลิฟต์ ในมือยังถือกระติกสี่เหลี่ยม เข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็วหัวใจข
@ ทะเลชะเอมถูกแฟนหนุ่มจูงมือเข้าไปยังร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่ง ทั้งสองเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้วเปิดดูเมนูเพื่อสั่งอาหาร“พามากินข้าวไกลจังเลยนะคะ”“เราเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมาด้วยกัน พี่เลยอยากพาเธอมาเปิดหูเปิดตา เผื่อว่าจะรู้สึกดีขึ้น”“ขอบคุณนะคะ ตอนนี้หนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ” เธอยิ้มให้กับคนตรงหน้าทั้งสองนั่งรออาหารไม่นานก็มีพนักงานเดินมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ หลังจากนั้นสกายก็พาชะเอมไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับชายทะเล เปิดประตูออกมานั่งเล่นรับลม และลงเล่นน้ำทะเลที่ด้านหน้าได้เลย“คืนนี้นอนกันที่นี่นะ”ชะเอมที่กำลังแง้มผ้าม่านมองดูคลื่นของน้ำทะเลก็หันมาถามกลับ“แต่เราไม่ได้เอาเสื้อผ้ามานะคะ”“พี่เตรียมมาให้แล้วครับ”“ไปแอบเตรียมมาตอนไหนคะ หนูไม่เห็นพี่หิ้วกระเป๋าลงมาจากห้องเลย”“ถ้าเห็นจะเรียกว่าแอบเหรอ”ชายหนุ่มกระตุกยิ้มหย่อนก้นลงนั่งที่ปลายเตียง จับหญิงสาวนั่งลงบนตักแล้วสวมกอดเธอทางด้านหลัง เกยปลายคางลงที่ไหล่บาง เอ่ยกระซิบข้างใบหู“เราจะทำอะไรดี”“ไปเดินเล่นกันไหมคะ”“ดูแดดสิครับ เดี๋ยวผิวเมียพี่ก็เสียหมด เรามานอนพักกันดีกว่า”“ว้าย พี่สกาย ไม่เอา นี่มันกลางวันอยู่เลยนะคะ”เสียงหว
ชะเอมกดเบอร์โทรออกไปหาเพื่อน และทันทีที่น้ำหวานรับสายก็ส่งเสียงเอ็ดเธอด้วยความเป็นห่วง“แกไปอยู่ไหนมา ฉันติดต่อไม่ได้เลย รู้ไหมว่ามีคนเป็นห่วง ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน คิดว่าแกคงจะเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ ถึงได้หายไปเลย สรุปมันเกิดอะไรขึ้นบอกฉันมาเดี๋ยวนี้”“เอาทีละคำถามได้ไหม ฉันฟังไม่ทัน”“ก็ฉันเป็นห่วงแกนี่ เล่นหายออกไปแล้วให้คนอื่นมาบอก ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย”“แกตั้งสติก่อนนะ เมื่อวานฉันถูกคุณอคิณจับตัวไป”“คุณอคิณ ทำไมต้องจับตัวแกไปด้วย ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก ไอ้ปีศาจในคราบนักบุญ หน้าหล่อเสียเปล่าแต่สันดานแย่สุด ๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ฉันน่าจะผลักให้ตกเรือตั้งแต่ไปช่วยน้ำท่วม”น้ำหวานรู้สึกโกรธแทนเพื่อน และโมโหตัวเองด้วยที่หลงไหลเพียงหน้าตาหล่อเหลา โดยไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริง“เอาน่า อย่าโมโหไปเลย ตอนนี้ฉันปลอดภัยแล้ว พี่สกายเป็นคนไปช่วย”“พี่สกาย พี่รถสปอร์ตที่แกแอบชอบน่ะเหรอ นั่นไง ฉันคิดไว้แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องชอบแกเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงชีวิตไปช่วยแกทำไม แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหน ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม”“ฉันอยู่โรงพยาบาล”“นี่มันทำแกเจ็บถึงขนาดเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ”“เป
เช้าวันต่อมาปรียานุชและสามีทราบข่าวว่าลูกชายคนเล็กได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก็เร่งรีบพากันออกจากคฤหาสน์ตั้งแต่เช้ามืด แต่พอเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าสกายได้นอนกอดกับหญิงสาวคนหนึ่งอยู่บนเตียงคนป่วย“คุณว่าใช่เด็กคนนี้ไหมคะที่ลูกเราบอกว่าเป็นคนรู้จัก” ปรียานุชเอ่ยกับสามี“กอดกันขนาดนี้ก็ชัดแล้วล่ะว่าเป็นมากกว่านั้น” ลูอีสที่กอดอกมองคนทั้งสองบนเตียงก็ตอบกลับภรรยาสกายและชะเอมต่างก็ได้ยินเสียงซุบซิบดังเข้ามาในหู บวกกับแสงสว่างของผ้าม่านที่ถูกปรียานุชเลื่อนไปด้านข้าง ก็ทำให้ทั้งสองคนปรือดวงตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ก่อนที่ชะเอมจะเบิกตาโพลงรีบดันตัวลุกขึ้นแล้วจัดทรงผมให้เรียบร้อย“ไม่ต้องตกใจหรอกจ้ะ พวกเราเป็นพ่อแม่ของสกาย”“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า”ชะเอมยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม ก่อนจะก้าวลงจากเตียงผิดด้าน แล้วก้มมองหารองเท้าที่ถอดทิ้งไว้เพราะทำตัวไม่ถูก“รองเท้าอยู่ฝั่งนี้”สกายกระตุกยิ้มเอ่ยกับหญิงสาว ชะเอมก็ก้มหน้าเขินอายเดินอ้อมไปอีกด้านแล้วใส่รองเท้า“หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” เอ่ยจบเธอก็รีบเดินออกไปไม่คิดว่าพ่อแม่ของเขาจะมาเยี่ยม แล้วมาเห็นเธอ
รถห้าคันขับเข้ามาจอดต่อท้ายรถของสกาย ชายฉกรรจ์หลายคนเปิดประตูลงจากรถได้ก็ขึ้นลำปืน และเล็งไปยังบริเวณโดยรอบเผื่อว่าลูกน้องของอคิณจะซุ่มอยู่“กูมาช่วยมึงแล้วเพื่อน”“คุณสกายเป็นยังไงบ้างครับ”เลย์กับโฬมรีบวิ่งเข้าไปหาสกายด้วยความเป็นห่วง“ฮึก คุณสกายถูกยิงค่ะ” ชะเอมบอกออกไปด้วยน้ำเสียงสะอื้น“มาครับน้องชะเอม เดี๋ยวพี่ช่วย”เลย์เห็นเพื่อนถูกยิงหมดแรงซบไหล่สาวก็อาสาเข้าช่วย และพอเข้าไปประคองสกายเอาแขนยกขึ้นพาดบ่าพาเดินออกมา สกายก็ลืมตาขึ้นและส่งเสียงเอ็ดเพื่อน“ไอ้สัส กูไม่ได้เป็นอะไรมาก”“อยากอ้อนเมียก็บอกกูก่อนดิวะ ไหน ๆ กูก็ช่วยประคองละ มึงค่อยไปอ้อนต่อในรถแล้วกัน”“โอ๊ย”สกายเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อไอ้เพื่อนเวรเปิดประตูแล้วปล่อยเขานั่งลงบนเบาะหลังอย่างรวดเร็ว จนแผลกระทบกระเทือน“ฝากดูแลมันด้วยนะครับน้องชะเอม เดี๋ยวพี่ไปขับรถให้”เลย์บอกกับหญิงสาวก็เดินอ้อมเปิดประตูเข้าไปนั่งที่เบาะคนขับ ก่อนจะสตาร์ตรถแล้วขับออกไป“เจ็บมากไหมคะ” ชะเอมที่นั่งกับสกายก็รีบเอ่ยถามอย่างร้อนใจ กลัวว่าชายหนุ่มจะเป็นอะไรมาก“มาก”สกายนิ่วหน้าเรียกร้องความเห็นใจ เขาเจ็บมากก็จริง แต่มันก็ยังพอทนได้ บ
อคิณพาสองสาวเดินลงบันไดมายังชั้นล่าง แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปใกล้มาก ส่วนสกายที่จิตใจจดจ่อแต่ชะเอมจนไม่ได้ระวังตัว ก็ถูกดนุสรณ์ที่ซ่อนตัวอยู่อีกมุมเดินเข้ามาประชิด ใช้ด้ามปืนตอกเข้าที่ท้ายทอยทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น ปืนที่อยู่ในมือก็กระเด็นออก ดนุสรณ์จึงใช้เท้าเตะให้ไกลออกไป“อย่าทำพี่สกาย”อลิสาสะบัดข้อมือออกจากพี่ชาย รีบวิ่งเข้าไปหาสกายที่ยกมือกุมท้ายทอยด้วยความเจ็บ“ลิสาเป่าให้นะคะ”หญิงสาวเข้าไปประคองคนที่เธอรักให้ลุกขึ้นยืน เขย่งปลายเท้าทั้งสองข้างเชิดหน้าขึ้นเป่าลมออกจากปากใส่ท้ายทอยของเขา แต่สกายก็สะบัดแขนออกอย่างไม่ใยดี เพราะไม่ต้องการให้หญิงอื่นมาโดนตัว“ปล่อย ฉันไม่รู้จักเธอ”“ฮึก หนูชื่อลิสา เป็นเมียพี่ไงคะ”อลิสาทำท่าจะกอดแต่สกายก็ขยับออกราวกับรังเกียจ มองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า“ได้ยินแล้วใช่ไหม น้องสาวฉันเคยเป็นผู้หญิงที่ไอ้สกายมันได้แล้วทิ้ง จนลิสาต้องมาตกอยู่ในสภาพที่จิตใจไม่ปกติแบบนี้ และอีกไม่นานเธอเองก็จะโดนมันทิ้งเหมือนกัน”ชะเอมมองไปที่สกายน้ำตาเอ่อคลอ ส่ายหน้าไล่ความคิดว่ามันไม่จริงใช่ไหม ที่ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเป็นเมียของเขา และอคิณก็ยังบอกว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพรา