ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง
“หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”
เลย์ได้โทรหาสกายเนื่องจากมีธุระเรื่องงานจะคุยด้วย แต่ว่าไอ้หน้าหล่อดันปิดเครื่อง เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายโทรไปหาโฬมลูกน้องคนสนิทของสกายแทน
“ครับคุณเลย์”
“ลูกพี่มึงหายหัวไปไหนวะ โทรหาก็ไม่ติด”
“คุณสกายพักผ่อนอยู่ที่คฤหาสน์ครับ”
เลย์ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกทะแม่งชอบกล
“ไม่ถูกว่ะ ปกติเวลานี้มันต้องอยู่สนามยิงปืน ลูกพี่มึงต้องมีเรื่องปิดบังกูอยู่ใช่ไหมวะไอ้โฬม”
เลย์เริ่มคาดคั้น และมันก็ทำให้เขาได้รู้ความจริงก่อนจะวางสาย แล้วรีบบึ่งรถสปอร์ตคันหรูมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเพื่อนทันที
“ไอ้โฬมนี่มันเก็บความลับกับมึงไม่ได้เลยจริง ๆ”
โฬมเป็นคนซื่อสัตย์และเป็นคนที่เขาไว้ใจได้มากที่สุด จึงเป็นลูกน้องที่ติดตามสกายมานานจนสนิทราวกับเป็นเพื่อนคนหนึ่ง แต่มันก็มักจะมาพลาดท่าปากพล่อยกับเรื่องผู้หญิง ไม่ว่าเจ้านายหนุ่มลูกครึ่งจะพาเข้าบ้านมากี่คนโดยไม่บอกใคร แต่เลย์ก็มักจะรู้ข่าวอยู่เสมอ
“อย่าไปว่ามันเลย ว่าแต่น้องชะเอมของมึงเถอะ เป็นยังไงบ้างวะ งานดีถูกใจมึงไหม”
คำถามของเพื่อนทำให้ริมฝีปากของมาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างลืมตัว พลันทำให้นึกถึงใบหน้าหวานที่เหยเก ส่งเสียงหวานครางกระเส่าบนเตียง ยามที่เขาสอดนิ้วเข้าออกจนเธอพ่นน้ำสีใสเยิ้มออกมา
“เออ เกือบจะถูกใจอยู่ละ แต่กูยังไม่ได้กินก็เพราะมึงนี่แหละไอ้เลย์ ไอ้เชี่ยดันมาตอนที่กูกำลังจะ…”
สกายชะงักคำพูดไว้เพียงเท่านี้ก็พลันรู้สึกเสียดาย
“ฮ่าฮ่าฮ่า เอาน่า เดี๋ยวมึงก็ได้กิน ใจเย็นก่อนสิเพื่อน”
“สรุปมึงมาหากูมีเรื่องอะไร”
“โห ไอ้เวร เดี๋ยวนี้กล้าถามเพื่อนแบบนี้แล้วเหรอ กูว่าดื่มไปคุยไปดีกว่าว่ะ ยืนคุยกับมึงแล้วรู้สึกคอแห้ง”
เลย์ยกมือลูบที่คอกลืนน้ำลายดังอึก พยักเพยิดใบหน้าเบี่ยงสายตามองไปทางด้านปีกซ้ายของตึก ทั้งสองหนุ่มจึงพากันเดินไปยังห้องสังสรรค์ สกายก็หยิบเหล้าและแก้วสองใบมานั่งดื่มกันที่โซฟาและเริ่มคุยธุระ
“สายของกูรายงานมาว่าปืนล็อตใหม่ที่จะเข้ามาวันศุกร์นี้มีคนจ้องอยู่ว่ะ”
“มึงหมายถึงไอ้อคิณ”
“อือ”
ธุรกิจของสกายไม่ได้มีแค่สนามยิงปืนทั่วทุกภาคของประเทศไทยเท่านั้น เขายังนำเข้าอาวุธปืนหลากหลายรุ่นเพื่อขายต่อให้กับพวกนายหน้าค้าอาวุธ โดยมีเพื่อนอย่างเลย์เป็นคนจัดการเรื่องการขนส่งและดูแลโกดังเก็บปืนให้
“ไอ้นี่ก็จองเวรกับมึงไม่เลิก มึงคิดไม่ออกจริง ๆ เหรอว่าไปทำห่าอะไรมันไว้”
เลย์ถอนหายใจ ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มดับอารมณ์ร้อนที่ปะทุขึ้น
อคิณคือคู่แข่งตัวฉกาจที่ขัดแข้งขัดขากันเรื่องธุรกิจค้าปืน ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน แต่พอปีนี้ก็เริ่มขายตัดหน้าในราคาที่ถูกกว่า เมื่อหลายเดือนก่อนก็ส่งคนมารอดักปล้นที่ท่าเรือ แต่ดีที่คนของเลย์ไหวตัวได้ทันและป้องกันเอาไว้ได้
และครั้งล่าสุดก็เมื่อสามวันก่อน ในคืนที่สกายและเลย์ไปดื่มกันที่เอสเอไนน์และเจอกับชะเอมที่นั่น อคิณก็ส่งคนลักลอบเข้ามาที่โกดัง และราดน้ำมันมุ่งหวังจะจุดไฟเผาปืนที่ถูกเก็บอยู่ในนั้น แต่ดีที่คนเฝ้าโกดังกำลังเดินตรวจตราโดยรอบไปเห็นเข้าพอดีจึงช่วยกันดับไฟ ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นไม่มาก และไอ้คนวางเพลิงก็ถูกจับได้และถูกซ้อมปางตาย ก่อนจะนำตัวไปทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของอคิณ เพื่อส่งสัญญาณเตือนว่าอย่าคิดจะมาเล่นสกปรก
“คนอย่างกูไม่เคยทำใครก่อน ส่วนวันที่มึงไปรับของก็เพิ่มกำลังคนของเราให้มากขึ้นหน่อย”
เอ่ยจบสกายก็ยกน้ำสีอำพันกลืนลงคอหลายอึก เขาไม่ได้ให้ค่าอคิณเลยสักนิด มันอยากจะทำอะไรก็ทำ เพราะทุกครั้งก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่คิดหาวิธีป้องกัน คนที่ถูกสอนเรื่องเอาตัวรอดและการป้องกันตัวมาตั้งแต่เด็กอย่างเขา ต้องคิดหาวิธีรับมือเอาไว้อยู่แล้ว
ของอะไรที่เป็นของเขา มันก็ยังจะเป็นของเขาอยู่วันยังค่ำ ถ้าหากวันไหนพวกมันทำได้สำเร็จ เขาก็จะไล่ล่าตามกลับมา และจะมอบบทเรียนราคาแพงให้อย่างสาสม
“รับทราบครับลูกพี่ กูจะเอาปืนทุกกระบอกมาไว้ในโกดังของมึงให้ครบเลย มีกูไปคุมงานด้วยตัวเอง มึงสบายใจได้”
เลย์ชงเหล้าเข้ม ๆ ใส่แก้วทั้งสองใบแล้วยื่นให้กับเพื่อน ทั้งสองคนนั่งดื่มด้วยกันจนเหล้าหมดขวด เลย์ก็ขอตัวกลับ
แต่ก่อนที่เลย์จะกลับก็ได้มอบของบางอย่างยัดใส่มือสกาย แล้วตบที่บ่าเบา ๆ พร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เพื่อน
*****
แกร๊ก!
สกายเดินขึ้นบันไดไปบนชั้นสองก็นึกขึ้นได้ว่าปล่อยหญิงสาวอยู่บนห้องตามลำพังเป็นเวลาหลายชั่วโมง จึงถือวิสาสะหยิบกุญแจที่พกไว้ในกระเป๋ากางเกงเปิดเข้าไปในห้องที่ถูกล็อกลูกบิดจากด้านในตอนที่เขาออกมาเมื่อช่วงบ่าย
ชะเอมที่เอนหลังพิงหัวเตียงเล่นเกมในโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ซื้อมานานกว่าสามปีในราคาไม่กี่พัน ก็สะดุ้งโหยงเบี่ยงสายตามองไปที่ประตูโดยอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงลูกบิดดังขึ้น ก็เผยให้เห็นร่างของคนตัวสูงที่เดินเข้ามาในห้อง
ตึกตัก ตึกตัก
ใจดวงน้อยเริ่มกระตุกวูบ ใบหน้าหล่อของเจ้าของคฤหาสน์ตอนนี้มีสีเลือดฝาด และสายตาคู่คมที่หรี่เล็กกว่าปกติก็จ้องมองมาทางเธอไม่วางตา
“คุณเข้ามาทำไมคะ”
เธอเอ่ยพลางกระชับผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมจนถึงหน้าอก หรือว่าเมื่อช่วงกลางวันเขายังไม่ได้ทำอะไรเธอ ตอนนี้เลยนึกอยากจะทำขึ้นมา
“ทำไมยังไม่อาบน้ำ”
“เอ่อ คือฉัน…”
ชะเอมไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่ที่เธอยังไม่อาบก็เพราะอยากให้สกายเห็นว่าเธอชอบหมักหมมความสกปรก จะได้รู้สึกรังเกียจไม่อยากเข้าใกล้ มันก็แค่ข้ออ้างที่จะทำให้เธอรอดพ้นเงื้อมมือของเสือร้ายไปอีกหนึ่งวัน
“ลุกขึ้น”
ชะเอมได้ยินเสียงออกคำสั่งแต่กลับนั่งนิ่ง และเผลอจ้องเข้าไปในดวงตาคู่คมของคนตรงหน้า แววตาที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลย เหมือนดั่งคนคุ้มดีคุ้มร้าย
“ฉันบอกให้ลุกขึ้น”
เขาว่าพลางเดินปรี่เข้าไปหาหญิงสาวและกระชากแขนของเธอให้ลงมายืนอยู่ข้างเตียง ก่อนจะดึงเธอออกจากห้อง
“โอ๊ย ฉันเจ็บนะ ปล่อย”
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็เดินตามมาดี ๆ”
ได้ยินคำว่าเจ็บตัวเธอก็ไม่กล้าที่จะขัดขืนอีก จึงปล่อยให้เขาจับข้อมือและพาเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างของคฤหาสน์หลังใหญ่
อยู่ที่นี่เธอคงไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะอ้าปากพูดอะไรเลยสินะ ถึงได้บังคับและชอบข่มขู่เธอตลอดเวลา
“กับข้าวอยู่ในตู้เย็น เอาไปอุ่นกินซะ ฉันจะนั่งรอเป็นเพื่อน”คนตัวสูงพาเธอมาหยุดอยู่ที่ห้องครัว ใบหน้าหล่อพยักเพยิดไปทางตู้เย็นที่อยู่ติดกับผนังพร้อมกับออกคำสั่ง ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกเธอก็คงไม่ต้องถูกกระชากลงจากเตียง และก็คงจะตอบเขาดี ๆ แต่ตอนนี้ไม่อยากพูดดีด้วยแล้ว“ยังไม่หิวค่ะ”จ๊อก…“ดูเหมือนว่าท้องเธอกำลังประท้วงอยู่นะ”สกายยืนกอดอกจ้องมองคนพูดอ้อมค้อมที่ยกมือขึ้นวางที่หน้าท้องตัวเอง แค่ยอมรับว่าหิวข้าวมันพูดยากนักหรือไง“เอ่อ…”ชะเอมอ้ำอึ้งทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เธอเข้ามาในบ้านก็แค่ฐานะผู้หญิงบนเตียง ไม่รู้ว่าต้องอยู่ต้องกินยังไง เพราะเขาไม่ได้บอกอะไรสักอย่าง เล่นพามาทิ้งไว้บนห้องแล้วก็หายออกไปเลย เธอก็ไม่กล้าที่จะเดินป้วนเปี้ยนภายในบ้าน กลัวว่าจะโดนตำหนิและทำให้ไม่พอใจอีก“ไปอุ่นอาหารแล้วมานั่งกิน ฉันจะเฝ้าจนกว่าเธอจะกินเสร็จ”“ทำไมต้องเฝ้าคะ ฉันนั่งกินคนเดียวได้”“นี่มันบ้านฉัน ไม่ใช่บ้านเธอ และเธอก็ไม่มีสิทธิ์แสดงความเห็นใด ๆ ในบ้านหลังนี้ทั้งนั้น”ชะเอมยู่ปากลอบถอนหายใจแล้วก็เงียบไป เพราะขี้เกียจจะเถียงคนเอาแต่ใจ เถียงไปก็ไม่มีวันชนะ หันไปเปิดตู้เย็นนำกับข
คำร้องขอของชะเอมก็ทำให้มาเฟียเจ้าเล่ห์พึงพอใจ เขาอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิงก็พาออกจากห้องน้ำ และวางร่างของหญิงสาวลงบนเตียงอย่างหมดความอดทน ถ้าเมื่อช่วงบ่ายเพื่อนไม่มาขัดจังหวะเขาคงได้จัดการเธอไปแล้วแต่ตอนนี้มันก็ยังไม่สายสกายเลื่อนมือไปถอดกางเกงของตนและหยิบซองสี่เหลี่ยมออกมาจากกระเป๋ากางเกง ท่อนเอ็นแข็งแกร่งถูกจับชักรูดเตรียมความพร้อม ก่อนจะฉีกซองและนำเครื่องป้องกันมาสวมใส่ชะเอมนอนมองคนรูปร่างสูงโปร่ง ผิวกายขาวสะอาดมีซิกซ์แพ็กที่หน้าท้องจนอยากสัมผัส และแก่นกายขนาดใหญ่ก็ทำให้เธอรู้สึกมวนท้อง และเสียววาบไปทั่วทั้งตัวเขาขึ้นมาบนเตียงก็จับสองขาของหญิงสาวที่นอนหายใจไม่ทั่วท้องชันเข่าและอ้าออกกว้าง มือทั้งสองข้างของชะเอมกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเพื่อข่มอารมณ์ที่พลุกพล่านมากขึ้น สกายก็จับปลายหัวบานชมพูถูไถกลีบกุหลาบงามและกดจ่อปากทางรักที่มีน้ำหวานเยิ้มออกมาเฉอะแฉะ แล้วดันตัวตนเข้าไปด้านใน“อื้อ…” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นชะเอมหลับตาปี๋ กัดกรามเอาไว้แน่น ทันทีที่สิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่รุกล้ำเข้าไปในร่องอ่อนนุ่ม ร่างกายของเธอโดยเฉพาะช่วงล่างก็รู้สึกเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ แม้ว่ามันจะยังเข้
หลังจากเสร็จกิจและฉีดพ่นน้ำสีขาวขุ่นเข้าใส่ร่องอ่อนนุ่มของชะเอม สกายก็ถอนเจ้ามังกรไซซ์ยุโรปของเขาออก แล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำในสภาพล่อนจ้อนชะเอมรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมเรือนร่างเปลือยเปล่าที่หว่างขาเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำสีข้น เลื่อนสายตาไปพบกับถุงยางอนามัยที่ถูกโยนทิ้งตรงพื้นข้างเตียง แต่มันมีเพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเขาก็ได้ตอกเธอสด ๆ โดยไร้เครื่องป้องกันมือเล็กสอดเข้าไปใต้กลุ่มผมสลวยแล้วดึงทึ้งผมตัวเอง หลับตาลงอย่างหมดเรี่ยวแรง นึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จนกระทั่งชายหนุ่มเดินคลุมผ้าเช็ดตัวสีขาวแค่ท่อนล่างเดินออกมาจากห้องน้ำ และยืนอยู่ที่ปลายเตียงหยิบกางเกงของตนขึ้นมาสวมใส่“ไม่ลุกไปอาบน้ำล่ะ หรือว่าลุกไม่ไหว”“เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึง...”‘อยากมีอะไรกับเขาขนาดนั้น’ ประโยคนี้เธอได้เก็บเงียบไว้ ไม่ได้เอ่ยออกมาเป็นคำพูด“ฉันว่าเธอเข้าใจดีกว่าใครนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น”“คุณวางยาและข่มขืนฉัน” เธอว่าพลางกระชับผ้าห่มตรงช่วงหน้าอกเอาไว้แน่น“มั่นใจเหรอว่าฉันข่มขืน ลองนึกดูดี ๆ สิว่าเธอสมยอมและอ้าขาให้ฉันเอง ตอนโดนฉันเอาไม่เห็นจะพูดอะไรเลยสักคำ
“ฉันต้องทำงานหาเงินไปจ่ายค่าผ่าตัดของยาย พูดมาแค่นี้คงเข้าใจใช่ไหมคะ ว่าฉันต้องการเงินและเวลาส่วนตัวไปทำไม”ชะเอมตอบเขา ดวงตาก็กระพริบถี่ไล่ความร้อนที่แผ่ซ่านขึ้นมาเพราะอยากจะร้องไห้ เธอไม่ได้อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น แต่เขาก็เค้นถามจนเธอต้องยอมบอกความจริง“อือ” เสียงทุ้มตอบกลับสั้น ๆพอได้รู้คำตอบเขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และหลังจากกินข้าวด้วยกันเสร็จ สกายก็หยิบบัตรเครดิตสีดำ หรือที่เรียกกันว่า Black Card (แบล็ก การ์ด) ออกมาจากกระเป๋าเงินที่เหน็บอยู่ตรงกระเป๋ากางเกงด้านหลัง แล้ววางลงบนโต๊ะด้านหน้าหญิงสาวชะเอมเห็นดังนั้นก็รู้สึกตกใจ บัตรใบนี้ใช่ว่าใครก็จะมีได้ เธอช้อนดวงตาขึ้นมองใบหน้าหล่อที่เอนแผ่นหลังพิงเก้าอี้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม“ต้องการเงินค่ารักษาอีกเท่าไหร่ก็ใช้บัตรใบนี้รูดได้เลย”“มะ หมายความว่ายังไงคะ”“ก็ตามที่พูด”“คุณไว้ใจฉันขนาดนั้นเลยเหรอคะ ไม่กลัวว่าฉันจะขโมยเงินของคุณไปทำอย่างอื่น”“ถ้ากล้าก็ลองดูสิ”แม้ว่าเขาจะขู่มาอย่างนั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอกลัวเลยสักนิดชะเอมเผลอจ้องคนตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนดีมีน้ำใจ ต่างจากนิสัยชอบข่มขู่และเอาแต่ใจ
“ขึ้นรถ”ทันทีที่กระจกข้างถูกปรับให้เลื่อนลง มาเฟียหนุ่มก็ส่งเสียงกร้าวบอกหญิงสาวที่ตั้งใจขัดคำสั่ง ไม่คิดว่าพอออกนอกบ้านเธอจะกล้าหือกับเขาขนาดนี้ตึกตัก ตึกตักใจดวงน้อยส่งเสียงสั่นรัวด้วยความตื่นตระหนก คราแรกเธอก็แค่อยากมาเยี่ยมยายตามลำพังโดยไม่ให้ใครตาม แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะออกมารับด้วยตัวเอง บวกกับสีหน้าและน้ำเสียงแบบนี้ก็บ่งบอกได้ว่าไม่พอใจเป็นอย่างมากชะเอมยื่นมือเล็กเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างคนขับ พอประตูปิดสนิทสกายก็เหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่เธอก็ยังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย“มันเร็วไปแล้วนะคะ”เธอรีบดึงเข็มขัดมาคาดกลางลำตัว แต่ก็ได้รับเพียงความเงียบกับสายตาดุดันที่จ้องมองถนนด้านหน้ากลับมาแทน*****@ คฤหาสน์สกายเอี๊ยด…เสียงเบรกกะทันหันขณะที่ขับเข้ามาในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว ก็ทำให้เกิดรอยสีดำของยางลากไปตามพื้นเป็นทางยาวชะเอมหน้าแทบจะทิ่มกับแผงคอนโซลหน้ารถ เธอหลับตาแน่นสนิท ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ยังไม่ทันที่จะดึงสติกลับมาก็ได้ยินเสียงประตูฝั่งที่เธอนั่งได้เปิดออก พร้อมกับมือหนาที่ปลดเข็มขัดและดึงข้อมือเธอลงจากรถ“ปล่อยนะคะ ฉันเจ็บ ฉันเดินเองได้”“มีปากแล้วเหรอ แล้วส
ชะเอมทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยความเหนื่อยหอบ เวลาผ่านนานร่วมชั่วโมงที่โดนเขาจับเธอลุกขึ้น แล้วให้นั่งคุกเข่าอยู่บนเบาะของโซฟาหลุยส์ ดึงรั้งกางเกงตัวจิ๋วที่ปกปิดของสงวนออกจากเรียวขา โก่งบั้นท้ายหันหลังให้เขากระทำโดยไร้เครื่องป้องกัน ฉีดพ่นน้ำสีขาวขุ่นปริมาณมากจนไหลออกมาเปื้อนเรียวขาขาว“ดูเหมือนเธอจะติดใจน้องชายฉันนะ ถึงได้หาเรื่องให้ฉันกระแทก” สกายเอ่ยขณะที่กำลังสวมใส่กางเกงของตน“ฉันไม่ได้หาเรื่อง ฉันแค่ไปเยี่ยมยายที่โรงพยาบาล คุณเองก็น่าจะรู้เพราะเป็นคนไปรับฉันเอง”แม้จะโดนเขาทำโทษจนเธอจุกเสียดท้องน้อย แต่ก็ยังมีแรงโต้กลับในส่วนที่ไม่เป็นความจริงจากคนที่ตั้งใจปรักปรำให้เธอกลายเป็นคนผิด“ใครไปรับเธอ ฉันแค่ขับรถผ่านไปทางนั้น แล้วเห็นเธอยืนอยู่ข้างทางต่างหาก” สกายเถียงกลับความจริงเขาก็ตั้งใจไปดูให้เห็นกับตา เนื่องจากชะเอมได้บอกกับลูกน้องคนสนิทว่าจะไปเยี่ยมยายมันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ แต่ที่มันน่าโกรธคือเวลาเกือบจะสองทุ่มที่เธอไม่บอกให้คนของเขาไปรับกลับมายังคฤหาสน์เสียทีนี่สิ ดังนั้นเขาจึงต้องลงโทษให้เธอหลาบจำ วันหลังจะได้ไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียวอีก“คุณลงโทษฉันเสร็จรึยังคะ ฉันอยากขึ
รถสปอร์ตมูลค่าหลายล้านของสกายและเลย์พากันขับหลบหนี พร้อมกับเลื่อนกระจกรถขึ้น เนื่องจากทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงจึงได้สั่งทำกระจกนิรภัยแบบกันกระสุนเตรียมเอาไว้ แต่ล้อรถนี่สิที่ไม่ได้เป็นแบบนั้นทันทีที่กระสุนเจาะเข้าที่ยาง ก็ทำให้รถของสกายเสียหลักเกือบจะพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ข้างทาง แต่ดีที่โฬมถูกฝึกมาอย่างดีเพื่อป้องกันเจ้านายของเขา จึงทำให้มีสติและประคองรถเอาไว้ได้สกายเห็นท่าไม่ดี รถของตนก็ขับเคลื่อนไปต่อได้ช้าลง จึงตัดสินใจลดกระจกประตู หยิบปืนบรรจุกระสุนที่เหน็บอยู่ตรงเอวมาขึ้นลำ และจ่อไปยังรถที่ขับตามหลังก่อนจะลั่นไกสวนกลับไปส่วนเลย์ที่เห็นว่ารถของเพื่อนโดยยิงเจาะยาง ก็ลดกระจกมาช่วยยิงสกัดรถทั้งสองคันที่ขับไล่ตามมาเช่นเดียวกันปัง ปัง ปัง!!!*****@ คฤหาสน์สกายเฮือก!ชะเอมสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมตามกรอบหน้าและลำคอราวกับอากาศในห้องนั้นร้อนจัด ทั้งที่เปิดแอร์อุณหภูมิยี่สิบองศาอกข้างซ้ายสั่นระรัวไปด้วยความตื่นตระหนก เมื่อครู่เธอฝันว่าเห็นสกายได้เดินมายืนอยู่ข้างเตียง หยิบบัตรแบล็กการ์ดในกระเป๋าเงินของเขามายัดใส่ในมือเธอ และตอนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นถามว่าเขานำมาให้เธอทำไม ก็เห็นคราบเ
“นึกว่าจะเป็นห่วงฉันซะอีก” สกายเอ่ยเสียงแผ่ว เวลานี้เขาไม่มีแรงจะต่อว่าหรือโต้เถียงใด ๆ ทั้งนั้น“ก็…”ชะเอมถึงกับพูดไม่ออก มันจุกอยู่กลางอกอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสองจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ราวกับว่าเวลาได้หยุดเดินชั่วขณะลึก ๆ ในใจเกิดกระตุกวูบ ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกเจ็บไปด้วยเมื่อเห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บ และยังรู้สึกเป็นห่วงเขามาก ก่อนที่หญิงสาวจะกระพริบตาถี่ ก้มใบหน้าที่ร้อนผ่าวสูดหายใจลึกเพื่อข่มกลั้นหยดน้ำตา มองไปที่แผลของเขาแทน จัดการใส่ยาและพันทับด้วยผ้าขาวสะอาด“เจ็บมากไหมคะ”“ลองมาโดนยิงดูสิ”ความเป็นห่วงก่อนหน้าดูเหมือนจะมลายหายไป ทำเอาชะเอมถึงกับลอบถอนหายใจ สงสัยจะไม่เป็นอะไรมาก เพราะสกิลหมาในปากของเขายังคงเหมือนเดิม เธอก็อุตส่าห์ถามด้วยความหวังดี ดันแช่งให้เธอไปลองโดนยิง ใครจะอยากเจ็บตัวกันล่ะเธอจัดการเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงในกล่อง และนำสำลีที่เปื้อนเลือดไปทิ้งถังขยะ ก่อนจะกลับเข้ามาหาสกายที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น“ขึ้นไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันพาไป”เธอแทรกตัวเข้ามายืนอีกข้างที่ไม่ได้เป็นอะไร แล้วยกแขนของเขาขึ้นมาพาดคอ ก่อนจะประคองเดินขึ้นบันไดพาไปยังห้องนอนของสกาย“คืนนี้มาน
@ มหาวิทยาลัย1 ปีต่อมาเหล่ารุ่นน้องได้ยืนรายล้อมรุ่นพี่บัณฑิตที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี พร้อมกับร้องเพลงบูมกันดังกึกก้องไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ท่ามกลางสายตาของคนที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันรับปริญญาชะเอมอยู่ในชุดนักศึกษาที่สวมชุดครุยสีดำทับอีกชั้น ได้ยืนอยู่กลางวงล้อมของเหล่ารุ่นน้อง ทั้งร่วมร้องเพลงและขยับร่างกายเป็นจังหวะตามเนื้อเพลงที่ดังขึ้นหลังจากนั้นเธอก็ไปถ่ายรูปร่วมเฟรมกับเพื่อนรัก ผลัดกันแสดงความยินดี“ดีใจด้วยนะแก”“ยินดีกับแกเหมือนกันนะน้ำหวาน”“เรียนจบแล้วก็อย่าลืมเพื่อนอย่างฉันล่ะ” น้ำหวานทำหน้าหงอยเล็กน้อย เมื่อคิดว่าเรียนจบแล้วคงจะได้เจอกันน้อยลง ด้วยอายุที่มากขึ้น และต่างคนก็ต้องไปทำหน้าที่ของตนเอง“จะลืมได้ยังไง แกเป็นเพื่อนรักของฉันนะ ฉันยังอยู่กรุงเทพฯ พักที่บ้านพี่สกาย ถ้ามีเวลาก็มาเจอกันบ่อย ๆ นะ”ขณะที่สองสาวกอดกัน ก็มีเสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ ๆ และพอหันไปมองก็พบว่าเป็นธามไท หนุ่มเจ้าของโรงแรมที่พวกเธอไปฝึกงาน“ยินดีด้วยนะครับน้องน้ำหวาน น้องชะเอม”“ขอบคุณนะคะพี่ธามไท ว่าแต่มาแสดงความยินดีกับพวกเราสองคน ทำไมมีดอกไม้แค่ช่อเดียวคะ” ชะเอมเอ่ยทักทายหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะเ
@ โรงแรมธามไทสกายขับรถมาส่งแฟนสาวด้วยตัวเอง วันนี้เธอต้องฝึกงานเป็นวันแรกในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ได้ติดต่อโรมแรมของเพื่อน เพื่อขอให้แฟนสาวและเพื่อนรักของเธอมาฝึกงานที่นี่“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม แล้วโน้มตัวไปจูบที่แก้มของเขา“ปากด้วยสิครับ”จุ๊บ!“หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวยัยน้ำหวานจะบ่นเอาว่ามาถึงช้า”ที่ช้าก็เพราะถูกเขาจับกินตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งบนเตียง ในห้องน้ำ จนได้อาบน้ำด้วยกัน กว่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วลงมากินมื้อเช้า ก็ทำให้ออกจากบ้านช้ากว่าที่กำหนด“ครับ”สิ้นเสียงขานรับชะเอมก็เปิดประตูลงจากรถ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงประตูอีกฝั่งที่เปิดออก จึงรีบหันไปมองด้วยความสงสัย“พี่สกาย จะลงมาทำไมอีกคะ”“รีบไม่ใช่เหรอครับ เข้าไปข้างในสิ พี่แค่จะเข้าไปส่งเมีย”ชะเอมกระตุกยิ้มพร้อมกับมือที่โดนอีกฝ่ายกอบกุม แล้วพากันเดินเข้าไปในโรงแรมของเพื่อนแฟนหนุ่ม“ชะเอม”ทันทีที่น้ำหวานเห็นเพื่อนเดินเข้ามากับแฟน ก็โบกมือแล้วเอ่ยเรียกเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอหนุ่มรุ่นพี่ใจดีที่เป็นธุระเรื่องฝึกงานให้เธอกับชะเอม“สวัสดีค่ะพี่สกาย ห
ร่างของหญิงสาวถูกอุ้มคีบเอวขณะที่ริมฝีปากก็บดจูบกันอย่างเร่าร้อน และวางลงข้างโต๊ะสนุกเกอร์ เท้าแตะพื้นโน้มตัวคว่ำหน้านอนบนนั้น แอ่นก้นงามให้เขากระแทกร่องสาวจากทางด้านหลัง“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า... พี่สกาย”เสียงร้องครางดังระงมของทั้งคู่ประสานกันลั่นห้อง เขาได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มกินดุ กินโหด เพราะฉะนั้นน้ำเดียวไม่เคยพอ“อ่า... เมียพี่ตอดดีมาก”“อื้อ จะ จุก ซี้ด...”“พี่ขออีกน้ำนะครับ”ปัก ปัก ปัก!!!คนทั้งสองผลัดเปลี่ยนกันมอบบทรัก จนกระทั่งน้ำสีขาวขุ่นหลั่งออกมาเป็นครั้งที่สาม สกายก็อุ้มหญิงสาวมานั่งอยู่บนตักตรงโซฟาดังเดิมเพื่อพักให้หายเหนื่อย“ขอบคุณนะคะที่พายายมาอยู่ด้วย”“เราขอบคุณพี่หลายรอบแล้วนะ”เอ่ยพลางยื่นมือหนาเชยปลายคางของหญิงสาวให้เงย ก่อนจะก้มลงไปจูบแผ่วเบา ทำเอาคนโดนจูบคลี่ยิ้มเขิน“ก็พี่แสนดีแบบนี้ไงล่ะคะ ให้ขอบคุณวันละล้านรอบก็ยังตอบแทนไม่หมดเลย”“ไม่ต้องล้านรอบหรอก ตอบแทนเป็นตัวกับหัวใจวันละน้ำสองน้ำก็พอ”“คนบ้า”หญิงสาวคลี่ยิ้มส่งสายตามองค้อนให้คนเจ้าเล่ห์ พูดดีด้วยหน่อยไม่ได้ ต้องวกเข้าเรื่องสิบแปดบวกตลอดทั้งสองต่างจ้องตาและหลุดยิ้มออกมา พักกันพอหายเหนื่อย สกายและชะเอมก็พากันไปยั
@ โรงพยาบาลสามทุ่มของวันนี้ยายของหญิงสาวจะเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ เมื่อช่วงพลบค่ำได้ตรวจเลือดและสภาพร่างกายโดยรวมแล้วมีความพร้อมทุกอย่างปรียานุชแม่ของสกายได้จัดการติดต่อกับทางโรงพยาบาลทั้งสองแห่งเรื่องการผ่าตัด เพราะหัวใจที่นำออกมาแล้วนั้น จำเป็นต้องนำไปปลูกถ่ายให้กับยายของชะเอมโดยด่วน จะให้มีเรื่องผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด“เจอกันอีกแล้วนะพ่อหนุ่ม”ผู้เป็นยายเอ่ยทักทายสกายทันทีที่เห็นเด็กทั้งสองเดินเข้าไปหาในห้องพักผู้ป่วย ทำเอาชะเอมงุนงงว่าไปรู้จักกันตอนไหน เพราะเธอไม่เคยพาแฟนหนุ่มมาเยี่ยมยายเลยสักครั้ง“ยายรู้จักพี่สกายด้วยเหรอคะ”“รู้จักสิ เขาก็เคยมาเยี่ยมยาย”ชะเอมยังไม่อยากคาดคั้นสิ่งที่อยากรู้ในตอนนี้ เลยได้แต่คลี่ยิ้มส่งกำลังใจให้ผู้เป็นยาย สักพักก็มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่เวรเปลมาพายายไปที่ห้องผ่าตัด“หนูจะรออยู่ตรงนี้นะคะ”หญิงสาวที่จับมือของยายมาตลอดทางก็ปล่อยมือออกเพราะเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยไม่ได้ สกายจึงโอบไหล่พาชะเอมไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้องผ่าตัดผู้เป็นยายเข้าไปได้ไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่วิ่งออกมาจากลิฟต์ ในมือยังถือกระติกสี่เหลี่ยม เข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็วหัวใจข
@ ทะเลชะเอมถูกแฟนหนุ่มจูงมือเข้าไปยังร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่ง ทั้งสองเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้วเปิดดูเมนูเพื่อสั่งอาหาร“พามากินข้าวไกลจังเลยนะคะ”“เราเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมาด้วยกัน พี่เลยอยากพาเธอมาเปิดหูเปิดตา เผื่อว่าจะรู้สึกดีขึ้น”“ขอบคุณนะคะ ตอนนี้หนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ” เธอยิ้มให้กับคนตรงหน้าทั้งสองนั่งรออาหารไม่นานก็มีพนักงานเดินมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ หลังจากนั้นสกายก็พาชะเอมไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับชายทะเล เปิดประตูออกมานั่งเล่นรับลม และลงเล่นน้ำทะเลที่ด้านหน้าได้เลย“คืนนี้นอนกันที่นี่นะ”ชะเอมที่กำลังแง้มผ้าม่านมองดูคลื่นของน้ำทะเลก็หันมาถามกลับ“แต่เราไม่ได้เอาเสื้อผ้ามานะคะ”“พี่เตรียมมาให้แล้วครับ”“ไปแอบเตรียมมาตอนไหนคะ หนูไม่เห็นพี่หิ้วกระเป๋าลงมาจากห้องเลย”“ถ้าเห็นจะเรียกว่าแอบเหรอ”ชายหนุ่มกระตุกยิ้มหย่อนก้นลงนั่งที่ปลายเตียง จับหญิงสาวนั่งลงบนตักแล้วสวมกอดเธอทางด้านหลัง เกยปลายคางลงที่ไหล่บาง เอ่ยกระซิบข้างใบหู“เราจะทำอะไรดี”“ไปเดินเล่นกันไหมคะ”“ดูแดดสิครับ เดี๋ยวผิวเมียพี่ก็เสียหมด เรามานอนพักกันดีกว่า”“ว้าย พี่สกาย ไม่เอา นี่มันกลางวันอยู่เลยนะคะ”เสียงหว
ชะเอมกดเบอร์โทรออกไปหาเพื่อน และทันทีที่น้ำหวานรับสายก็ส่งเสียงเอ็ดเธอด้วยความเป็นห่วง“แกไปอยู่ไหนมา ฉันติดต่อไม่ได้เลย รู้ไหมว่ามีคนเป็นห่วง ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน คิดว่าแกคงจะเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ ถึงได้หายไปเลย สรุปมันเกิดอะไรขึ้นบอกฉันมาเดี๋ยวนี้”“เอาทีละคำถามได้ไหม ฉันฟังไม่ทัน”“ก็ฉันเป็นห่วงแกนี่ เล่นหายออกไปแล้วให้คนอื่นมาบอก ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย”“แกตั้งสติก่อนนะ เมื่อวานฉันถูกคุณอคิณจับตัวไป”“คุณอคิณ ทำไมต้องจับตัวแกไปด้วย ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก ไอ้ปีศาจในคราบนักบุญ หน้าหล่อเสียเปล่าแต่สันดานแย่สุด ๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ฉันน่าจะผลักให้ตกเรือตั้งแต่ไปช่วยน้ำท่วม”น้ำหวานรู้สึกโกรธแทนเพื่อน และโมโหตัวเองด้วยที่หลงไหลเพียงหน้าตาหล่อเหลา โดยไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริง“เอาน่า อย่าโมโหไปเลย ตอนนี้ฉันปลอดภัยแล้ว พี่สกายเป็นคนไปช่วย”“พี่สกาย พี่รถสปอร์ตที่แกแอบชอบน่ะเหรอ นั่นไง ฉันคิดไว้แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องชอบแกเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงชีวิตไปช่วยแกทำไม แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหน ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม”“ฉันอยู่โรงพยาบาล”“นี่มันทำแกเจ็บถึงขนาดเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ”“เป
เช้าวันต่อมาปรียานุชและสามีทราบข่าวว่าลูกชายคนเล็กได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก็เร่งรีบพากันออกจากคฤหาสน์ตั้งแต่เช้ามืด แต่พอเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าสกายได้นอนกอดกับหญิงสาวคนหนึ่งอยู่บนเตียงคนป่วย“คุณว่าใช่เด็กคนนี้ไหมคะที่ลูกเราบอกว่าเป็นคนรู้จัก” ปรียานุชเอ่ยกับสามี“กอดกันขนาดนี้ก็ชัดแล้วล่ะว่าเป็นมากกว่านั้น” ลูอีสที่กอดอกมองคนทั้งสองบนเตียงก็ตอบกลับภรรยาสกายและชะเอมต่างก็ได้ยินเสียงซุบซิบดังเข้ามาในหู บวกกับแสงสว่างของผ้าม่านที่ถูกปรียานุชเลื่อนไปด้านข้าง ก็ทำให้ทั้งสองคนปรือดวงตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ก่อนที่ชะเอมจะเบิกตาโพลงรีบดันตัวลุกขึ้นแล้วจัดทรงผมให้เรียบร้อย“ไม่ต้องตกใจหรอกจ้ะ พวกเราเป็นพ่อแม่ของสกาย”“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า”ชะเอมยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม ก่อนจะก้าวลงจากเตียงผิดด้าน แล้วก้มมองหารองเท้าที่ถอดทิ้งไว้เพราะทำตัวไม่ถูก“รองเท้าอยู่ฝั่งนี้”สกายกระตุกยิ้มเอ่ยกับหญิงสาว ชะเอมก็ก้มหน้าเขินอายเดินอ้อมไปอีกด้านแล้วใส่รองเท้า“หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” เอ่ยจบเธอก็รีบเดินออกไปไม่คิดว่าพ่อแม่ของเขาจะมาเยี่ยม แล้วมาเห็นเธอ
รถห้าคันขับเข้ามาจอดต่อท้ายรถของสกาย ชายฉกรรจ์หลายคนเปิดประตูลงจากรถได้ก็ขึ้นลำปืน และเล็งไปยังบริเวณโดยรอบเผื่อว่าลูกน้องของอคิณจะซุ่มอยู่“กูมาช่วยมึงแล้วเพื่อน”“คุณสกายเป็นยังไงบ้างครับ”เลย์กับโฬมรีบวิ่งเข้าไปหาสกายด้วยความเป็นห่วง“ฮึก คุณสกายถูกยิงค่ะ” ชะเอมบอกออกไปด้วยน้ำเสียงสะอื้น“มาครับน้องชะเอม เดี๋ยวพี่ช่วย”เลย์เห็นเพื่อนถูกยิงหมดแรงซบไหล่สาวก็อาสาเข้าช่วย และพอเข้าไปประคองสกายเอาแขนยกขึ้นพาดบ่าพาเดินออกมา สกายก็ลืมตาขึ้นและส่งเสียงเอ็ดเพื่อน“ไอ้สัส กูไม่ได้เป็นอะไรมาก”“อยากอ้อนเมียก็บอกกูก่อนดิวะ ไหน ๆ กูก็ช่วยประคองละ มึงค่อยไปอ้อนต่อในรถแล้วกัน”“โอ๊ย”สกายเปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อไอ้เพื่อนเวรเปิดประตูแล้วปล่อยเขานั่งลงบนเบาะหลังอย่างรวดเร็ว จนแผลกระทบกระเทือน“ฝากดูแลมันด้วยนะครับน้องชะเอม เดี๋ยวพี่ไปขับรถให้”เลย์บอกกับหญิงสาวก็เดินอ้อมเปิดประตูเข้าไปนั่งที่เบาะคนขับ ก่อนจะสตาร์ตรถแล้วขับออกไป“เจ็บมากไหมคะ” ชะเอมที่นั่งกับสกายก็รีบเอ่ยถามอย่างร้อนใจ กลัวว่าชายหนุ่มจะเป็นอะไรมาก“มาก”สกายนิ่วหน้าเรียกร้องความเห็นใจ เขาเจ็บมากก็จริง แต่มันก็ยังพอทนได้ บ
อคิณพาสองสาวเดินลงบันไดมายังชั้นล่าง แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปใกล้มาก ส่วนสกายที่จิตใจจดจ่อแต่ชะเอมจนไม่ได้ระวังตัว ก็ถูกดนุสรณ์ที่ซ่อนตัวอยู่อีกมุมเดินเข้ามาประชิด ใช้ด้ามปืนตอกเข้าที่ท้ายทอยทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น ปืนที่อยู่ในมือก็กระเด็นออก ดนุสรณ์จึงใช้เท้าเตะให้ไกลออกไป“อย่าทำพี่สกาย”อลิสาสะบัดข้อมือออกจากพี่ชาย รีบวิ่งเข้าไปหาสกายที่ยกมือกุมท้ายทอยด้วยความเจ็บ“ลิสาเป่าให้นะคะ”หญิงสาวเข้าไปประคองคนที่เธอรักให้ลุกขึ้นยืน เขย่งปลายเท้าทั้งสองข้างเชิดหน้าขึ้นเป่าลมออกจากปากใส่ท้ายทอยของเขา แต่สกายก็สะบัดแขนออกอย่างไม่ใยดี เพราะไม่ต้องการให้หญิงอื่นมาโดนตัว“ปล่อย ฉันไม่รู้จักเธอ”“ฮึก หนูชื่อลิสา เป็นเมียพี่ไงคะ”อลิสาทำท่าจะกอดแต่สกายก็ขยับออกราวกับรังเกียจ มองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า“ได้ยินแล้วใช่ไหม น้องสาวฉันเคยเป็นผู้หญิงที่ไอ้สกายมันได้แล้วทิ้ง จนลิสาต้องมาตกอยู่ในสภาพที่จิตใจไม่ปกติแบบนี้ และอีกไม่นานเธอเองก็จะโดนมันทิ้งเหมือนกัน”ชะเอมมองไปที่สกายน้ำตาเอ่อคลอ ส่ายหน้าไล่ความคิดว่ามันไม่จริงใช่ไหม ที่ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเป็นเมียของเขา และอคิณก็ยังบอกว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพรา