ชุดสายเดี่ยวสีดำรัดรูปได้ถูกสวมใส่อยู่บนเรือนร่างของหญิงสาว และจีจี้ก็ได้ทำการผูกเชือกที่อยู่ตรงด้านหลังให้
คืนนี้จีจี้ได้จัดการแปลงโฉมรุ่นน้องทั้งแต่งหน้าทำผม และเลือกชุดให้โชว์ผิวขาวมีออรา เพื่อให้ชะเอมได้กลายเป็นหญิงสาวที่มีความเซ็กซี และสวยที่สุดในเอสเอไนน์
“สวยมากเลยชะเอม”
“ชุดไม่โป๊ไปเหรอคะพี่จีจี้”
ชะเอมมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่กับชุดโชว์ก้อนเนื้อหน้าอกที่โผล่พ้นเกาะอกเว้าหลัง และสั้นแค่พอคลุมก้น ก็ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ปกติเธอจะใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยีน สั้นสุดก็คงจะเป็นกระโปรงนักศึกษาที่ยาวประมาณหัวเข่า
“แบบนี้สิผู้ชายชอบ มั่นใจเข้าไว้ อย่าลืมสิว่าเราตัดสินใจทำเพราะอะไร”
จีจี้เรียกความมั่นใจให้คนที่เสมือนน้องสาว ทำให้ชะเอมฉุกคิดขึ้นได้ว่ายายยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอจะไม่มีวันลืมกับสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไป และจะไม่เสียใจที่เลือกทำแบบนี้เด็ดขาด
“พี่จีจี้คะ หนูเลือกแขกเองได้ใช่ไหมคะ”
“ได้สิจ๊ะ สาว ๆ ที่นี่ก็ไม่ใช่จะรับงานกับผู้ชายทุกคน มันอยู่ที่ข้อตกลงระหว่างเรากับแขก”
จีจี้ได้สอนวิธีการพูดคุยเอาอกเอาใจลูกค้า การแสดงกิริยาท่าทางเพื่อเรียกให้แขกสนใจ และการดีลงานบนเตียง แต่ดูแล้วมันคงจะกะทันหันเกินไปจึงทำให้ชะเอมปรับตัวและเรียนรู้ไม่ทัน
“ไม่เป็นไรนะ เอาเป็นว่าให้ทำตัวตามสบาย ปล่อยไปตามอารมณ์ ขอแค่ทำให้ลูกค้าคุยกับเราสนุก และให้ทิปหนัก ๆ ก็พอ ส่วนจะไปต่อกับใครก็เลือกได้เลย เดี๋ยวพี่จะช่วยคัดกรองลูกค้าให้อีกแรง”
“ขอบคุณนะคะพี่จีจี้”
และคืนนี้ก็โชคดีที่ชะเอมได้ถูกเลือกให้ไปบริการลูกค้าห้องวีไอพี โซนนี้มักจะเป็นพวกคนมีเงิน นักธุรกิจ หรือเหล่านักการเมืองทั้งหลายแหล่ ทำให้ไม่ต้องลงไปรับแขกโซนทั่วไปที่ชั้นล่างซึ่งอาจจะได้ทิปน้อยกว่า
ชะเอมยืนสูดหายใจอยู่หน้าห้องวีไอพีหมายเลขห้า จากทั้งหมดยี่สิบห้อง ย้ำคิดว่าเธอได้ตัดสินใจดีแล้ว จำเอาไว้ว่าทำเพื่อยาย ยายกำลังรอเธออยู่ จากนั้นก็ยื่นมือไปเปิดประตู
ภายในห้องมีลูกค้าชายหนุ่มอยู่สองคน อายุก็น่าจะยี่สิบปลาย ๆ ใบหน้าของทั้งคู่ดูดีมาก แม้จะแต่งตัวทั่วไปด้วยเสื้อยืดกางเกงยีน สวมทับด้วยเชิ้ตสีดำคล้ายกัน แต่ทุกชิ้นที่สวมใส่ก็เป็นแบรนด์เนมราคาแพงทั้งนั้น
เธอเข้าไปบริการชงเหล้าได้ไม่นาน ลูกค้าที่คุยเก่งและเรียกให้เธอมานั่งตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองก็ขอตัวกลับก่อนเนื่องจากมีงานเร่งด่วน จึงทำให้ภายในห้องนี้เหลือเพียงแค่เธอกับชายอีกคนที่ไม่ค่อยพูดจา ใบหน้าของเขานั้นหล่อเหลาเรียกได้ว่าใครเห็นก็คงต้องเผลอมอง และเธอเองก็เช่นกัน แต่สายตาคู่นั้นมันกลับไม่ค่อยเป็นมิตรเอาเสียเลย
แต่แล้วเธอก็ได้รับข้อเสนอในการซื้อตัวไปนอนกับเขาพร้อมกับเงื่อนไข รับเงินหนึ่งล้านแลกกับการเป็นของเล่นคนรวยและย้ายไปอยู่กับเขาหนึ่งปี
“เลือกเอาว่าจะนอนกับฉันแค่คนเดียวแล้วรับเงินหนึ่งล้านไป หรือจะอ้าขาให้ผู้ชายไม่ซ้ำหน้า”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นราวกับกดดัน ใบหน้าที่เรียบเฉยนั้นมันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอไม่กล้าปฏิเสธ
“ตกลงค่ะ”
เธอไม่มีเวลาคิดนานด้วยกลัวว่าเขาจะคิดว่าเธอเล่นตัวเกินไป แค่นี้ก็ถือว่าได้มากกว่าพวกรุ่นพี่ที่ทำกันมาก่อนหน้าหลายเท่า อีกอย่างข้อเสนอนี้มันก็ดูเข้าท่าดี อย่างน้อยก็เสียตัวให้เขาแค่คนเดียว
ไม่นานนักเสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชะเอมจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดดู ในใจก็เกิดความรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะทันทีที่เธอตอบตกลง ชายหนุ่มก็ได้ขอเลขบัญชีแล้วโอนเงินหนึ่งล้านให้ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าอะไรเลย
แต่มันมีค่ามากสำหรับเธอ ยายของเธอกำลังจะมีหนทางรอดแล้ว
“หึ ดูเธอจะดีใจกับเงินที่ฉันให้มากเลยนะ”
สกายแค่นหัวเราะอย่างเหยียดหยันที่เห็นหญิงสาวระบายยิ้มเล็กยิ้มน้อยพึงพอใจกับเงินที่ได้รับ
ผู้หญิงขายตัวมันก็เหมือนกันหมด ขอแค่ได้เงิน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการไหนก็ยอมทั้งนั้น และเงินของเขาก็ซื้อผู้หญิงแบบนี้มาหลายคน แต่สำหรับหญิงสาวคนนี้จะแตกต่างจากคนอื่นเป็นกรณีพิเศษ เพราะเขาไม่เคยจ่ายให้ใครมากขนาดนี้มาก่อน
แต่ในเมื่อเธอกล้าขอ เขาก็กล้าให้
เงินแค่หนึ่งล้าน แลกกับการนอนให้เขากระแทกทั้งปี ถือว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม และเขาก็จะเอาคืนแบบทบต้นทบดอกอย่างแน่นอน
“ฉันให้เวลาเธอหนึ่งวัน ลาออกจากที่นี่แล้วไปเก็บของซะ พรุ่งนี้เย็นฉันจะให้คนไปรับ”
“ขอเวลาหน่อยได้ไหมคะ”
ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ที่ต้องย้ายไปอยู่กับเขา และเธอก็ยังไม่ได้จัดการเรื่องย้ายโรงพยาบาลและทำเรื่องผ่าตัดให้ยายเลย
“จะดึงเกมอะไรอีก เห็นฉันใจดีมากนักหรือไง”
สกายเอ่ยออกมาเสียงแข็งกร้าว สายตาดุดันจ้องเข้าไปในดวงตาที่ไหววูบของคนข้างกายจนเธอรู้สึกขนลุก ไม่กล้ามองหน้า
“ปะ เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้ดึงเกม ฉันแค่ขอไปจัดการธุระให้เสร็จก่อน ว้าย...”
ขณะที่กำลังอธิบาย ชะเอมก็ร้องเสียงหลงเมื่อถูกอีกฝ่ายเลื่อนแขนมาโอบไหล่ ออกแรงรั้งให้ตัวเธอเข้าไปแนบชิด โน้มใบหน้าหล่อที่แฝงไปด้วยความน่ากลัวเข้ามาใกล้ และเอ่ยที่ข้างหูด้วยเสียงรอดไรฟัน
“สามวัน ถ้าช้ากว่านี้คงรู้นะว่าฉันจะจัดการกับเธอยังไง”
สกายจับมือเล็กที่สั่นเทามาวางข้างลำตัว ทำให้คนโดนข่มขู่ถึงกับเบิกตาโพลงนั่งนิ่ง
นั่นมันปืนใช่ไหม เป็นลำแข็ง มีด้ามจับ เหน็บอยู่ที่ขอบกางเกง
ใจดวงน้อยสั่นระริกด้วยความหวั่นกลัว เขาเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้กล้าพกปืนมาในสถานที่แบบนี้
@ โรงพยาบาลเช้าวันต่อมา“ความจริงพี่หมอไม่ต้องลำบากมาส่งชะเอมกับยายก็ได้นะคะ ชะเอมเกรงใจ”“ไม่เป็นไรเลยครับ พี่ดูแลคุณยายมาหลายปี ยังไงพี่ก็ต้องมาส่ง”คิริณ หนุ่มหล่อในชุดกาวน์ ผู้เป็นศัลยแพทย์หัวใจและเป็นแพทย์เจ้าของไข้ยายของชะเอมเอ่ยตอบเธอ“พี่หมอไม่โกรธใช่ไหมคะที่ชะเอมย้ายโรงพยาบาล”ชะเอมเองก็ลำบากใจไม่น้อย เพราะเขาก็ตรวจรักษายายของเธอมาเป็นเวลาหลายปีคิริณเป็นแพทย์ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา เขาเป็นคนสุภาพและดูแลคนไข้ได้ดีเสมือนญาติ เขาเป็นถึงลูกนักการเมืองในท้องถิ่น หากจะไปประจำอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนที่มีรายได้สูงกว่านี้ก็คงไม่ยาก แต่พอเรียนจบเขาก็เลือกมาทำงานที่โรงพยาบาลรัฐ ซึ่งขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจแต่เธอก็แค่อยากหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับยายโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งนี้มีเครื่องมือที่ทันสมัย ครบครัน และเชี่ยวชาญทางด้านโรคหัวใจโดยเฉพาะ อีกทั้งยังเป็นโรงพยาบาลเครือข่ายกับโรงพยาบาลต่างประเทศ โอกาสที่ยายของเธอจะได้รับการผ่าตัดมีเปอร์เซ็นที่สูงกว่าหลังจากที่คิริณรู้ว่าชะเอมได้ขอทำเรื่องย้ายผู้เป็นยายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ต่อ ก็อาสาช่วยติดต่อประสานงานและมาส่
“ไอ้บ้า ไอ้สารเลว”เสียงเล็กบ่นใส่คนในโทรศัพท์ที่กดวางสายไปแล้วมีครั้งไหนบ้างที่เขาไม่ขู่เธอ เวลาแค่สามวันที่เธอจะได้เป็นอิสระก็ยังให้ไม่ได้ แล้วถ้าย้ายไปอยู่กับเขา เธอก็คงจะไร้ซึ่งความเป็นตัวของตัวเอง ไร้ความเป็นอิสรเสรี จะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตทุกครั้งอย่างนั้นหรือ ไหนบอกว่าอยากทำอะไรก็ทำ เวลาไหนที่เขาต้องการก็แค่รอขึ้นเตียงเธอถอนหายใจอย่างเหลืออด แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเป็นคนเลือกเอง และก็รับเงินเขามาแล้วชะเอมเก็บเสื้อผ้าและของใช้บางส่วนเสร็จ ก็เดินลงบันไดไปดูคิริณที่นอนหลับอยู่บนโซฟาไม้ เพียงแค่เห็นเศษเสี้ยวของใบหน้าหล่อ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็ต่างกันลิบลับกับไอ้ผู้ชายปากเก่งที่เอาแต่ขู่ผู้หญิงพี่หมอของเธอยังคงเป็นคนที่มีความอบอุ่นและใจดีกับเธอที่สุด“ตื่นแล้วเหรอคะ”คิริณปรือดวงตาขึ้นเพื่อปรับแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาภายในตัวบ้าน ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไร แต่ก็มากพอให้รู้สึกว่านอนได้เต็มตื่น และระบายยิ้มตอบหญิงสาวที่นั่งมองมาทางเขา“ครับ”“จะกลับเลยไหมคะ เดี๋ยวชะเอมออกไปส่ง”จากนี้คงต้องอยู่ห่างคิริณบ้าง เพราะไม่รู้ว่าสกายจะเอาจริงขึ้นมาหรือเปล่า เกิดถ้าเขาไม่ได้แค่ขู่แต่คิดจะท
@ คฤหาสน์สกายนี่นะหรือคฤหาสน์ของเขา มันใหญ่โตสมกับคนมีฐานะร่ำรวย อาจจะถึงขั้นเป็นมหาเศรษฐีเลยก็ว่าได้ แถมยังอยู่ในซอยเปลี่ยวลึก รอบด้านติดกับป่า ไม่มีผู้คนสัญจรไปมา ทำไมถึงได้มาสร้างบ้านอยู่ในที่ลับตาคนแบบนี้กันนะชะเอมสอดสายตาผ่านกระจกหน้ารถมองเข้าไปยังบ้านหลังใหญ่ แต่แล้วความคิดที่มีก็ดับวูบเมื่อประตูรถได้ถูกเปิดออก พร้อมกับชายรูปร่างกำยำสองคนที่ยืนรออยู่ด้านนอก“เข้าไปข้างในกันเถอะครับ”โฬมเอ่ยจบก็เดินนำหญิงสาวเข้าไปในคฤหาสน์ที่อยู่ตรงปีกซ้ายฝั่งนี้ได้ถูกตกแต่งให้เป็นห้องสังสรรค์ไว้สำหรับนั่งดื่มเหล้ากับกลุ่มเพื่อนสนิทของมาเฟียหนุ่ม มีโต๊ะสนุกเกอร์ตั้งวางอยู่ด้านหลังโซฟา ส่วนอีกห้องที่โล่งกว้างขนาดใหญ่ได้ถูกจัดให้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมยิงปืนขนาดย่อมภายในห้องนั้นมีชั้นวางสำหรับจัดเก็บปืนกระบอกหลากหลายขนาด ต้องชื่นชอบขนาดไหนถึงได้นำมาเก็บไว้ในบ้านของตนเอง และไม่รู้ว่ามันเป็นปืนจริงหรือว่าปืนปลอม“มาได้สักทีนะ”เสียงทุ้มดังขึ้นก็ทำให้ชะเอมรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก เธอก้าวเข้าไปในห้องนั้นอย่างเชื่องช้าราวกับขาทั้งสองข้างไร้กำลัง พอเดินพ้นประตูชายที่เป็นลูกน้องคนสนิทของเขาก็จัดการปิดประต
เขาว่าพรางปัดมือเธอทิ้งแล้วจับขาหญิงสาวแยกออกกว้าง นิ้วเรียวใหญ่ถูไถที่กลีบกุหลาบมีใบหญ้าขึ้นบางเบา ผิวกายของเธอขาวเนียนนุ่มราวกับผิวเด็ก และตรงส่วนนั้นก็อมชมพูจนเขาอยากจะเข้าไปเชยชมใกล้ ๆติดอยู่แค่อย่างเดียวเขาไม่เคยใช้ลิ้นกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แม้แต่จูบก็ไม่ทำ ยิ่งเป็นตุ่มไตตรงหน้าอก หรือกลางกายสาวเขาก็ยิ่งไม่ทำให้ใครทั้งนั้น นอกเสียว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นคนรักของเขา ซึ่งตอนนี้มันยังไม่มีจึงต้องซื้อกินไปก่อน“อื้อ”ชะเอมหลับตาแน่นทำหน้าเหยเก ส่งเสียงร้องด้วยความสะดุ้งเจ็บ เมื่อนิ้วร้ายได้สอดแทรกเข้าไปภายในช่องสงวนได้สำเร็จ แล้วถูกนิ้วชักเข้าออกด้วยความฝืดเคือง“ซิงจริง ๆ สินะ”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างพึงพอใจ พอนิ้วของเขาแทงเข้าไปในรูอันคับแคบ ร่องภายในของเธอก็เริ่มต่อต้านด้วยการบีบรัดเพื่อขับไล่นิ้วของเขาให้หลุดออกแต่สกายก็ดันนิ้วเข้าไปจนสุดก็เริ่มเร่งจังหวะขึ้นทีละนิดเพื่อให้รูสาวได้ปรับตัวผลิตน้ำหล่อลื่นชโลมนิ้ว และพอขยับได้คล่องก็จัดการเร่งจังหวะให้ถึงใจคนที่พยายามจะหนีบขาชิด แต่ก็ถูกเขาแยกออกเหมือนเดิมมือเล็กกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น จากความเจ็บที่ถูกนิ้วร้ายเข้าไปในโพลงอ่อนนุ่มเป็นค
ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง“หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”เลย์ได้โทรหาสกายเนื่องจากมีธุระเรื่องงานจะคุยด้วย แต่ว่าไอ้หน้าหล่อดันปิดเครื่อง เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายโทรไปหาโฬมลูกน้องคนสนิทของสกายแทน“ครับคุณเลย์”“ลูกพี่มึงหายหัวไปไหนวะ โทรหาก็ไม่ติด”“คุณสกายพักผ่อนอยู่ที่คฤหาสน์ครับ”เลย์ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกทะแม่งชอบกล“ไม่ถูกว่ะ ปกติเวลานี้มันต้องอยู่สนามยิงปืน ลูกพี่มึงต้องมีเรื่องปิดบังกูอยู่ใช่ไหมวะไอ้โฬม”เลย์เริ่มคาดคั้น และมันก็ทำให้เขาได้รู้ความจริงก่อนจะวางสาย แล้วรีบบึ่งรถสปอร์ตคันหรูมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเพื่อนทันที“ไอ้โฬมนี่มันเก็บความลับกับมึงไม่ได้เลยจริง ๆ”โฬมเป็นคนซื่อสัตย์และเป็นคนที่เขาไว้ใจได้มากที่สุด จึงเป็นลูกน้องที่ติดตามสกายมานานจนสนิทราวกับเป็นเพื่อนคนหนึ่ง แต่มันก็มักจะมาพลาดท่าปากพล่อยกับเรื่องผู้หญิง ไม่ว่าเจ้านายหนุ่มลูกครึ่งจะพาเข้าบ้านมากี่คนโดยไม่บอกใคร แต่เลย์ก็มักจะรู้ข่าวอยู่เสมอ“อย่าไปว่ามันเลย ว่าแต่น้องชะเอมของมึงเถอะ เป็นยังไงบ้างวะ งานดีถูกใจมึงไหม”คำถามของเพื่อนทำให้ริมฝีปากของมาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างลืมตัว พล
“กับข้าวอยู่ในตู้เย็น เอาไปอุ่นกินซะ ฉันจะนั่งรอเป็นเพื่อน”คนตัวสูงพาเธอมาหยุดอยู่ที่ห้องครัว ใบหน้าหล่อพยักเพยิดไปทางตู้เย็นที่อยู่ติดกับผนังพร้อมกับออกคำสั่ง ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกเธอก็คงไม่ต้องถูกกระชากลงจากเตียง และก็คงจะตอบเขาดี ๆ แต่ตอนนี้ไม่อยากพูดดีด้วยแล้ว“ยังไม่หิวค่ะ”จ๊อก…“ดูเหมือนว่าท้องเธอกำลังประท้วงอยู่นะ”สกายยืนกอดอกจ้องมองคนพูดอ้อมค้อมที่ยกมือขึ้นวางที่หน้าท้องตัวเอง แค่ยอมรับว่าหิวข้าวมันพูดยากนักหรือไง“เอ่อ…”ชะเอมอ้ำอึ้งทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เธอเข้ามาในบ้านก็แค่ฐานะผู้หญิงบนเตียง ไม่รู้ว่าต้องอยู่ต้องกินยังไง เพราะเขาไม่ได้บอกอะไรสักอย่าง เล่นพามาทิ้งไว้บนห้องแล้วก็หายออกไปเลย เธอก็ไม่กล้าที่จะเดินป้วนเปี้ยนภายในบ้าน กลัวว่าจะโดนตำหนิและทำให้ไม่พอใจอีก“ไปอุ่นอาหารแล้วมานั่งกิน ฉันจะเฝ้าจนกว่าเธอจะกินเสร็จ”“ทำไมต้องเฝ้าคะ ฉันนั่งกินคนเดียวได้”“นี่มันบ้านฉัน ไม่ใช่บ้านเธอ และเธอก็ไม่มีสิทธิ์แสดงความเห็นใด ๆ ในบ้านหลังนี้ทั้งนั้น”ชะเอมยู่ปากลอบถอนหายใจแล้วก็เงียบไป เพราะขี้เกียจจะเถียงคนเอาแต่ใจ เถียงไปก็ไม่มีวันชนะ หันไปเปิดตู้เย็นนำกับข
คำร้องขอของชะเอมก็ทำให้มาเฟียเจ้าเล่ห์พึงพอใจ เขาอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิงก็พาออกจากห้องน้ำ และวางร่างของหญิงสาวลงบนเตียงอย่างหมดความอดทน ถ้าเมื่อช่วงบ่ายเพื่อนไม่มาขัดจังหวะเขาคงได้จัดการเธอไปแล้วแต่ตอนนี้มันก็ยังไม่สายสกายเลื่อนมือไปถอดกางเกงของตนและหยิบซองสี่เหลี่ยมออกมาจากกระเป๋ากางเกง ท่อนเอ็นแข็งแกร่งถูกจับชักรูดเตรียมความพร้อม ก่อนจะฉีกซองและนำเครื่องป้องกันมาสวมใส่ชะเอมนอนมองคนรูปร่างสูงโปร่ง ผิวกายขาวสะอาดมีซิกซ์แพ็กที่หน้าท้องจนอยากสัมผัส และแก่นกายขนาดใหญ่ก็ทำให้เธอรู้สึกมวนท้อง และเสียววาบไปทั่วทั้งตัวเขาขึ้นมาบนเตียงก็จับสองขาของหญิงสาวที่นอนหายใจไม่ทั่วท้องชันเข่าและอ้าออกกว้าง มือทั้งสองข้างของชะเอมกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเพื่อข่มอารมณ์ที่พลุกพล่านมากขึ้น สกายก็จับปลายหัวบานชมพูถูไถกลีบกุหลาบงามและกดจ่อปากทางรักที่มีน้ำหวานเยิ้มออกมาเฉอะแฉะ แล้วดันตัวตนเข้าไปด้านใน“อื้อ…” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นชะเอมหลับตาปี๋ กัดกรามเอาไว้แน่น ทันทีที่สิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่รุกล้ำเข้าไปในร่องอ่อนนุ่ม ร่างกายของเธอโดยเฉพาะช่วงล่างก็รู้สึกเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ แม้ว่ามันจะยังเข้
หลังจากเสร็จกิจและฉีดพ่นน้ำสีขาวขุ่นเข้าใส่ร่องอ่อนนุ่มของชะเอม สกายก็ถอนเจ้ามังกรไซซ์ยุโรปของเขาออก แล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำในสภาพล่อนจ้อนชะเอมรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมเรือนร่างเปลือยเปล่าที่หว่างขาเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำสีข้น เลื่อนสายตาไปพบกับถุงยางอนามัยที่ถูกโยนทิ้งตรงพื้นข้างเตียง แต่มันมีเพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นเขาก็ได้ตอกเธอสด ๆ โดยไร้เครื่องป้องกันมือเล็กสอดเข้าไปใต้กลุ่มผมสลวยแล้วดึงทึ้งผมตัวเอง หลับตาลงอย่างหมดเรี่ยวแรง นึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จนกระทั่งชายหนุ่มเดินคลุมผ้าเช็ดตัวสีขาวแค่ท่อนล่างเดินออกมาจากห้องน้ำ และยืนอยู่ที่ปลายเตียงหยิบกางเกงของตนขึ้นมาสวมใส่“ไม่ลุกไปอาบน้ำล่ะ หรือว่าลุกไม่ไหว”“เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึง...”‘อยากมีอะไรกับเขาขนาดนั้น’ ประโยคนี้เธอได้เก็บเงียบไว้ ไม่ได้เอ่ยออกมาเป็นคำพูด“ฉันว่าเธอเข้าใจดีกว่าใครนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น”“คุณวางยาและข่มขืนฉัน” เธอว่าพลางกระชับผ้าห่มตรงช่วงหน้าอกเอาไว้แน่น“มั่นใจเหรอว่าฉันข่มขืน ลองนึกดูดี ๆ สิว่าเธอสมยอมและอ้าขาให้ฉันเอง ตอนโดนฉันเอาไม่เห็นจะพูดอะไรเลยสักคำ
@ ชุมชนแออัดชะเอมและคณะเดินทางด้วยรถประจำทางปรับอากาศสองชั้น ไปถึงชุมชนแออัดที่ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ตอนนี้ผู้คนในชุมชนกำลังได้รับความเดือดร้อน แต่ดีที่วันนี้ฝนหยุดตกแล้ว และยังมีหน่วยงานกู้ภัยและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือชาวบ้านและมอบถุงยังชีพส่วนเหล่านักศึกษาคณะคหกรรมศาสตร์อย่างพวกเธอ ก็ทำได้แค่ช่วยหุงหาอาหารอยู่ที่ศาลากลางของหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูง ทำให้ตัวอาคารไม่ได้ถูกน้ำท่วมไปด้วย รอเวลาใกล้เที่ยงจะได้ตักอาหารใส่กล่องเตรียมไว้ให้กับหน่วยกู้ภัยและบุคคลที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ และนักศึกษาส่วนหนึ่งก็จะพากันนั่งเรือเล็ก เพื่อนำอาหารเข้าไปแจกจ่ายให้แต่ละบ้านด้วยเช่นกัน“ฉันขอโทรหายายแป๊บนึงนะ”ชะเอมบอกกับน้ำหวานก่อนจะเดินหลีกออกมา ในมือก็กดเบอร์ชายหนุ่มที่เน้นย้ำตอนมาส่งว่าต้องโทรไปรายงานเขา“ฉันมาถึงแล้วนะคะ”“อื้ม แล้วจะกลับกี่โมง”สกายถามกลับ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มที่ได้ยินเสียงอันคุ้นเคย“น่าจะไปถึงมหา’ลัยประมาณห้าโมงค่ะ แต่ว่าก่อนกลับฉันขอไปเยี่ยมยายได้ไหมคะ วันนี้มีนัดจ่ายค่ารักษาด้วยค่ะ”“อื้ม ไปสิ ไว้ฉั
@ สนามยิงปืน Sky Shooting Rangeหลังจากที่สกายกลับมาจากบริษัทจิลเวลลีของพี่ชายก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องทำงาน พร้อมกับอุปกรณ์สำหรับแกะจี้สร้อยเพชร“นี่มันสร้อยที่เพิ่งได้มานี่ครับ คุณสกายแกะมันทำไม”โฬมเห็นก็ชักสงสัย สร้อยก็ยังใหม่อยู่และสวยมากด้วย ทำไมเจ้านายของเขาถึงได้นำมาแกะเอาจี้เพชรออก แถมบนโต๊ะยังมีกล่องของเครื่องติดตามขนาดเล็กจิ๋ววางอยู่ด้วย“นี่มึงจะแอบใส่จีพีเอสไว้กับจี้เหรอวะ”เลย์ที่วันนี้มีเวลาว่างมานั่งเล่นเกมในห้องทำงานของสกาย พอได้ยินเสียงของโฬมก็ละสายตาจากมือถือแล้วถามขึ้นอีกคน“พวกมึงว่างกันนักหรือไงถึงได้มีเวลามาจับผิดกู ส่วนมึงไอ้โฬม เอาเวลาไปชงกาแฟให้กูดีกว่า”“ครับคุณสกาย”โฬมรับคำก็กระตุกยิ้มเดินออกจากห้อง ถ้าเขาเดาไม่ผิดสร้อยเส้นนี้น่าจะมอบให้กับชะเอม เจ้านายของเขาคงจะเป็นห่วงผู้หญิงคนนี้มาก แม้จะไม่ได้ตามเฝ้าด้วยตัวเอง แต่มันก็ทำให้รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน*****@ คฤหาสน์สกายวันออกค่ายอาสา“จะรีบไปไหน กินข้าวด้วยกันก่อนสิ”สกายที่ตื่นนอนพร้อมกับหญิงสาวก็ขยับพิงแผ่นหลังกับหัวเตียง จ้องมองคนที่กำลังทำตัวเร่งรีบ“คงไม่ได้ค่ะ ฉันจะไปไม่ทันแล้ว”ชะเอมเกือบจะตื่นสายเพราะ
@ บริษัท Levi's Bule Diamondสามวันต่อมา สกายขับรถสปอร์ตคันหรูออกจากคฤหาสน์ส่วนตัว มุ่งหน้าไปยังบริษัทจิลเวลลีใจกลางกรุงเทพฯ พอดับเครื่องยนต์และก้าวเท้าลงจากรถ ก็เป็นที่จับตามองของสองสาวสวยที่ทำงานอยู่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์“อุ้ย นั่นใครอะ หล่อเวอร์”“คนไหน”“ก็คนที่ใส่แจ็กเก็ตดำสวมแว่นตานั่นไง กรี๊ด… เดินเข้ามาแล้ว”“กรี๊ด… หุ่นแซ่บมาก ไปกินอะไรมาถึงได้ทั้งสูงทั้งยาว น่ากินอะ ฉันอยากได้แบบนี้”สองสาวทำท่าทางสะดีดสะดิ้งซุบซิบกัน ส่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองไปทางชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาออกไปทางยุโรป ที่กำลังเดินเข้ามายังล็อบบีของบริษัทและสาวคนหนึ่งก็ใจกล้าเดินออกมายืนดักหน้าชายหนุ่มและเอ่ยถามด้วยเสียงหวานหยดย้อย พร้อมกับส่งสายตาพราวเสน่ห์ไปให้“มาพบใครเหรอคะ”“พี่ลีวายส์”“เรียกท่านประธานซะสนิทเชียว ได้นัดไว้ไหมคะ สะดวกนั่งรอตรงด้านนั้นสักครู่ไหมคะ เดี๋ยวดิฉันขออนุญาตโทรขึ้นไปแจ้งก่อน” เธอเอ่ยพลางผายมือไปยังโซฟาสำหรับนั่งรอ“ไม่จำเป็น”สกายเอ่ยอย่างขอไปทีแล้วเดินหนีตรงไปยังลิฟต์ สงสัยจะเป็นพนักงานใหม่ถึงไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร และน้องชายเจ้าของบริษัทอย่างเขา ก็ไม่จำเป็นต้องโทร
พอเธอออกจากห้อง สกายก็ก้าวลงจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน แต่แผลที่แขนข้างขวาก็ทำให้หยิบจับอะไรได้ไม่ค่อยสะดวก“แม่งเอ๊ย รู้งี้ขอให้มาช่วยอาบน้ำให้ก็ดี”สกายรู้สึกหัวเสียกับอาการเจ็บ และจัดการตัวเองไปอย่างเงียบ ๆ แต่ก็รู้สึกว่าการมีคนดูแลมันดีกว่าส่วนชะเอมก็รีบกลับเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ดีที่ว่าวันนี้เป็นวันหยุดถึงได้มีเวลามาช่วยดูแลคนเจ็บ หลังจากทำข้าวต้มเสร็จก็นำขึ้นมาบนห้องพร้อมกับน้ำและยา“ทำไมมีแค่ชามเดียว”สกายเห็นถาดอาหารมีแค่ข้าวต้มหนึ่งชาม กระปุกยาสีขาว และน้ำขวดเล็กหนึ่งขวดพร้อมด้วยแก้วเปล่า คิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันขณะเงยหน้ามองคนที่เดินเข้าห้อง“ของคุณไงคะ หนึ่งชาม หรือว่ากินไม่อิ่ม”“ฉันหมายถึงทำไมไม่มีของเธอ”“ก็ฉันไม่ได้ป่วยนี่คะ ลงไปกินข้างล่างเอาก็ได้ ทำไมต้องมานั่งกินบนห้องนอน”เธอไม่ได้ขี้เกียจสันหลังยาวถึงขนาดต้องเสิร์ฟข้าวเสิร์ฟน้ำให้ถึงเตียงเสียหน่อย“เออ ๆ ตามใจ งั้นก็ช่วยป้อนฉันด้วย” สกายขมวดคิ้วเอ่ยอย่างขอไปทีชะเอมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะวางถาดอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง แล้วหยิบชามข้าวต้มมาคนไล่ความร้อน แล้วตักขึ้นมาเป่าด้วยลมที่ออกจากปากอีก
“นึกว่าจะเป็นห่วงฉันซะอีก” สกายเอ่ยเสียงแผ่ว เวลานี้เขาไม่มีแรงจะต่อว่าหรือโต้เถียงใด ๆ ทั้งนั้น“ก็…”ชะเอมถึงกับพูดไม่ออก มันจุกอยู่กลางอกอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสองจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ราวกับว่าเวลาได้หยุดเดินชั่วขณะลึก ๆ ในใจเกิดกระตุกวูบ ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกเจ็บไปด้วยเมื่อเห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บ และยังรู้สึกเป็นห่วงเขามาก ก่อนที่หญิงสาวจะกระพริบตาถี่ ก้มใบหน้าที่ร้อนผ่าวสูดหายใจลึกเพื่อข่มกลั้นหยดน้ำตา มองไปที่แผลของเขาแทน จัดการใส่ยาและพันทับด้วยผ้าขาวสะอาด“เจ็บมากไหมคะ”“ลองมาโดนยิงดูสิ”ความเป็นห่วงก่อนหน้าดูเหมือนจะมลายหายไป ทำเอาชะเอมถึงกับลอบถอนหายใจ สงสัยจะไม่เป็นอะไรมาก เพราะสกิลหมาในปากของเขายังคงเหมือนเดิม เธอก็อุตส่าห์ถามด้วยความหวังดี ดันแช่งให้เธอไปลองโดนยิง ใครจะอยากเจ็บตัวกันล่ะเธอจัดการเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงในกล่อง และนำสำลีที่เปื้อนเลือดไปทิ้งถังขยะ ก่อนจะกลับเข้ามาหาสกายที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น“ขึ้นไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันพาไป”เธอแทรกตัวเข้ามายืนอีกข้างที่ไม่ได้เป็นอะไร แล้วยกแขนของเขาขึ้นมาพาดคอ ก่อนจะประคองเดินขึ้นบันไดพาไปยังห้องนอนของสกาย“คืนนี้มาน
รถสปอร์ตมูลค่าหลายล้านของสกายและเลย์พากันขับหลบหนี พร้อมกับเลื่อนกระจกรถขึ้น เนื่องจากทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงจึงได้สั่งทำกระจกนิรภัยแบบกันกระสุนเตรียมเอาไว้ แต่ล้อรถนี่สิที่ไม่ได้เป็นแบบนั้นทันทีที่กระสุนเจาะเข้าที่ยาง ก็ทำให้รถของสกายเสียหลักเกือบจะพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ข้างทาง แต่ดีที่โฬมถูกฝึกมาอย่างดีเพื่อป้องกันเจ้านายของเขา จึงทำให้มีสติและประคองรถเอาไว้ได้สกายเห็นท่าไม่ดี รถของตนก็ขับเคลื่อนไปต่อได้ช้าลง จึงตัดสินใจลดกระจกประตู หยิบปืนบรรจุกระสุนที่เหน็บอยู่ตรงเอวมาขึ้นลำ และจ่อไปยังรถที่ขับตามหลังก่อนจะลั่นไกสวนกลับไปส่วนเลย์ที่เห็นว่ารถของเพื่อนโดยยิงเจาะยาง ก็ลดกระจกมาช่วยยิงสกัดรถทั้งสองคันที่ขับไล่ตามมาเช่นเดียวกันปัง ปัง ปัง!!!*****@ คฤหาสน์สกายเฮือก!ชะเอมสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมตามกรอบหน้าและลำคอราวกับอากาศในห้องนั้นร้อนจัด ทั้งที่เปิดแอร์อุณหภูมิยี่สิบองศาอกข้างซ้ายสั่นระรัวไปด้วยความตื่นตระหนก เมื่อครู่เธอฝันว่าเห็นสกายได้เดินมายืนอยู่ข้างเตียง หยิบบัตรแบล็กการ์ดในกระเป๋าเงินของเขามายัดใส่ในมือเธอ และตอนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นถามว่าเขานำมาให้เธอทำไม ก็เห็นคราบเ
ชะเอมทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยความเหนื่อยหอบ เวลาผ่านนานร่วมชั่วโมงที่โดนเขาจับเธอลุกขึ้น แล้วให้นั่งคุกเข่าอยู่บนเบาะของโซฟาหลุยส์ ดึงรั้งกางเกงตัวจิ๋วที่ปกปิดของสงวนออกจากเรียวขา โก่งบั้นท้ายหันหลังให้เขากระทำโดยไร้เครื่องป้องกัน ฉีดพ่นน้ำสีขาวขุ่นปริมาณมากจนไหลออกมาเปื้อนเรียวขาขาว“ดูเหมือนเธอจะติดใจน้องชายฉันนะ ถึงได้หาเรื่องให้ฉันกระแทก” สกายเอ่ยขณะที่กำลังสวมใส่กางเกงของตน“ฉันไม่ได้หาเรื่อง ฉันแค่ไปเยี่ยมยายที่โรงพยาบาล คุณเองก็น่าจะรู้เพราะเป็นคนไปรับฉันเอง”แม้จะโดนเขาทำโทษจนเธอจุกเสียดท้องน้อย แต่ก็ยังมีแรงโต้กลับในส่วนที่ไม่เป็นความจริงจากคนที่ตั้งใจปรักปรำให้เธอกลายเป็นคนผิด“ใครไปรับเธอ ฉันแค่ขับรถผ่านไปทางนั้น แล้วเห็นเธอยืนอยู่ข้างทางต่างหาก” สกายเถียงกลับความจริงเขาก็ตั้งใจไปดูให้เห็นกับตา เนื่องจากชะเอมได้บอกกับลูกน้องคนสนิทว่าจะไปเยี่ยมยายมันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ แต่ที่มันน่าโกรธคือเวลาเกือบจะสองทุ่มที่เธอไม่บอกให้คนของเขาไปรับกลับมายังคฤหาสน์เสียทีนี่สิ ดังนั้นเขาจึงต้องลงโทษให้เธอหลาบจำ วันหลังจะได้ไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียวอีก“คุณลงโทษฉันเสร็จรึยังคะ ฉันอยากขึ
“ขึ้นรถ”ทันทีที่กระจกข้างถูกปรับให้เลื่อนลง มาเฟียหนุ่มก็ส่งเสียงกร้าวบอกหญิงสาวที่ตั้งใจขัดคำสั่ง ไม่คิดว่าพอออกนอกบ้านเธอจะกล้าหือกับเขาขนาดนี้ตึกตัก ตึกตักใจดวงน้อยส่งเสียงสั่นรัวด้วยความตื่นตระหนก คราแรกเธอก็แค่อยากมาเยี่ยมยายตามลำพังโดยไม่ให้ใครตาม แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะออกมารับด้วยตัวเอง บวกกับสีหน้าและน้ำเสียงแบบนี้ก็บ่งบอกได้ว่าไม่พอใจเป็นอย่างมากชะเอมยื่นมือเล็กเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างคนขับ พอประตูปิดสนิทสกายก็เหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่เธอก็ยังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย“มันเร็วไปแล้วนะคะ”เธอรีบดึงเข็มขัดมาคาดกลางลำตัว แต่ก็ได้รับเพียงความเงียบกับสายตาดุดันที่จ้องมองถนนด้านหน้ากลับมาแทน*****@ คฤหาสน์สกายเอี๊ยด…เสียงเบรกกะทันหันขณะที่ขับเข้ามาในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว ก็ทำให้เกิดรอยสีดำของยางลากไปตามพื้นเป็นทางยาวชะเอมหน้าแทบจะทิ่มกับแผงคอนโซลหน้ารถ เธอหลับตาแน่นสนิท ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ยังไม่ทันที่จะดึงสติกลับมาก็ได้ยินเสียงประตูฝั่งที่เธอนั่งได้เปิดออก พร้อมกับมือหนาที่ปลดเข็มขัดและดึงข้อมือเธอลงจากรถ“ปล่อยนะคะ ฉันเจ็บ ฉันเดินเองได้”“มีปากแล้วเหรอ แล้วส
“ฉันต้องทำงานหาเงินไปจ่ายค่าผ่าตัดของยาย พูดมาแค่นี้คงเข้าใจใช่ไหมคะ ว่าฉันต้องการเงินและเวลาส่วนตัวไปทำไม”ชะเอมตอบเขา ดวงตาก็กระพริบถี่ไล่ความร้อนที่แผ่ซ่านขึ้นมาเพราะอยากจะร้องไห้ เธอไม่ได้อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น แต่เขาก็เค้นถามจนเธอต้องยอมบอกความจริง“อือ” เสียงทุ้มตอบกลับสั้น ๆพอได้รู้คำตอบเขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ และหลังจากกินข้าวด้วยกันเสร็จ สกายก็หยิบบัตรเครดิตสีดำ หรือที่เรียกกันว่า Black Card (แบล็ก การ์ด) ออกมาจากกระเป๋าเงินที่เหน็บอยู่ตรงกระเป๋ากางเกงด้านหลัง แล้ววางลงบนโต๊ะด้านหน้าหญิงสาวชะเอมเห็นดังนั้นก็รู้สึกตกใจ บัตรใบนี้ใช่ว่าใครก็จะมีได้ เธอช้อนดวงตาขึ้นมองใบหน้าหล่อที่เอนแผ่นหลังพิงเก้าอี้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม“ต้องการเงินค่ารักษาอีกเท่าไหร่ก็ใช้บัตรใบนี้รูดได้เลย”“มะ หมายความว่ายังไงคะ”“ก็ตามที่พูด”“คุณไว้ใจฉันขนาดนั้นเลยเหรอคะ ไม่กลัวว่าฉันจะขโมยเงินของคุณไปทำอย่างอื่น”“ถ้ากล้าก็ลองดูสิ”แม้ว่าเขาจะขู่มาอย่างนั้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอกลัวเลยสักนิดชะเอมเผลอจ้องคนตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนดีมีน้ำใจ ต่างจากนิสัยชอบข่มขู่และเอาแต่ใจ