“ขอบใจมากนะ พลอย พลอยน่ะเป็นเพื่อนที่เข้าใจดี้เสมอ แม้แต่เรื่องวันนั้น ดี้ไม่รู้ว่าจะตอบแทนเพื่อนของดี้คนนี้ยังไงให้สมกับความดีของพลอย”
“ไม่เป็นไรหรอกนะ พลอยขอให้ดี้มีความสุขมาก ๆ ก็แล้วกันนะจ๊ะ”
พลอยพิชญาอวยพรเพื่อนที่เธอรักก่อนสัญญาณจะขาดหายไป หญิงสาวเก็บโทรศัพท์และเริ่มว้าวุ่นในหัวใจ พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางไปนอร์เวย์ ถ้าได้เจอมาเรียสก็ยังนึกไม่ออกว่าจะบอกเขาเช่นไรว่าดารินมีแฟนใหม่และกำลังจะแต่งงานในเร็ววันนี้
พลอยพิชญาคิดว่าคนของเบนที่มาหาเธอถึงอพาร์ตเม้นท์จะนำตั๋วเครื่องบินมาให้ แต่พวกเขากลับพาเธอไปยังสนามบินเพื่อที่หญิงสาวจะเห็นว่ามีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเตรียมพร้อมที่นั่นแล้ว เธอพากระเป๋าไปเพียงสองใบเพราะคิดว่าคงอยู่ที่นอร์เวย์เพียงไม่กี่วัน เธอยังคิดถึงเรื่องของดาริน ถ้าได้พบมาเรียสแล้วเธออาจบอกความจริงเพื่อให้เขาทำใจ ในเมื่อเวลานั้นก็ผ่านมาเกือบหนึ่งปีแล้ว
“สวัสดีครับ...คุณพลอย”
ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาทักท่ามกลางบรรยากาศของสนามบินในช่วงเย็นย่ำสนธยาที่แสงสปอร์ตไลต์เริ่มสว่างจ้าไปรอบ ๆ พลอยพิชญาตกตะลึงไปชั่วขณะกับภาพของเบนซึ่งดูหล่อเหลาและสูงสง่าแม้อยู่ในชุดลำลอง เขาเหมือนมาเรียสมาก มากเสียจนคิดว่าเป็นคนคนเดียวกัน
“ค่ะ เบน” ร่างเล็กบอบบางในชุดกระโปรงและสวมแจ็คเก็ตหนาอีกชั้นมองเขาด้วยดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกาย ใบหน้านั้นเกลื่อนรอยยิ้มโดยเธอมิได้นึกกังขาใด ๆ ในตัวเขา
“ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าผมจะกลับนอร์เวย์พร้อมเครื่องบินส่วนตัว ทุกอย่างเร่งรีบไปหมดจนผมเองกลัวว่าจะไม่ทันเวลา”
“ฉันเสียอีกซีคะที่ต้องขอโทษคุณ” น้ำเสียงของเธออ่อนลงเล็กน้อย “คุณต้องมาเสียเวลาก็เพราะฉัน คุณคงเป็นห่วงน้องชายของคุณมากจริง ๆ “
รอยยิ้มทรงเสน่ห์จุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาเมื่อได้ฟังคำพูดที่แสดงออกถึงความเกรงอกเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมยินดีและพร้อมเสมอหากสิ่งนั้นเป็นความต้องการของมาเรียส...ขึ้นเครื่องกันเถอะครับ นักบินของผมพร้อมแล้ว”
ชายหนุ่มก้มลงหยิบกระเป๋าก่อนทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนผะผ่าวด้วยการจูงมือเธอก้าวขึ้นบันไดเครื่องบินราวกับเป็นคู่รัก พลอยพิชญาถึงกับตื่นตะลึงเมื่อเข้าไปด้านใน มันเป็นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวที่มีความหรูหรามากเสียจนหญิงสาวเริ่มสงสัยว่า เบน คริสเตียนเซน ทำธุรกิจอะไรถึงได้ร่ำรวยขนาดมีเครื่องบินหรูแบบนี้
เธอรู้จักก็แต่แฝดผู้น้องของเขาในฐานะนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ที่มีความสัมพันธ์เป็นคู่รักของเพื่อนสนิท แต่เธอไม่รู้จักภูมิหลังของมาเรียสและเริ่มแคลงใจตัวเองว่าตัดสินใจเร็วไปหรือไม่ที่ตามคนแปลกหน้าไปต่างประเทศแบบนี้
แต่เบนคือพี่ชายของมาเรียส...เธอมองในแง่ดีว่าเขาก็แค่พี่ชายที่ห่วงน้องตัวเองมากก็เท่านั้น ช่างมันเถอะ...เธอไม่อยากใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พลอยจะทำให้การเดินทางต้องมีอันสะดุด
“หนาวหรือเปล่าครับ...คุณพลอย?”
เบนถามขึ้นเมื่อเครื่องบินทะยานขึ้นจากรันเวย์มาอยู่ในระดับความสูงของการบินปกติ ภาพทิวทัศน์นอกหน้าต่างมืดลงทุกขณะหากแต่หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดเมื่อร่างสูงใหญ่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขานั่งชิดเธอมากบนเบาะตัวเดียวกันและความเป็นห่วงเป็นใยจากแววตาสีน้ำเงินเป็นประกายคู่นั้นก็ช่างมีเสน่ห์สะกดใจ
“ไม่ค่ะ...อากาศในนี้กำลังสบาย แล้วคุณล่ะคะ?”
“ผมชินแล้วครับ เพราะต้องเดินทางข้ามประเทศอยู่บ่อย ๆ “
“เดินทางข้ามประเทศหรือคะ?”
“ครับ...ผมต้องติดต่อลูกค้าเพราะมีโรงงานแปรรูปอาหารทะเลเล็ก ๆ อยู่บนเกาะสกรูวา มันเป็นเกาะเล็ก ๆ ในหมู่เกาะโลโฟเตน อยู่ทางเหนือของนอร์เวย์ จริง ๆ แล้วผมไม่ค่อยได้อยู่บ้านหรอกครับ แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุกับมาเรียส ผมก็เลยไม่ค่อยได้ไปไหน”
“คุณคงดูแลเขาตลอดเลยซีนะคะ”
“ครับ...ผมอยู่กับเขาตลอด มาเรียสน่ะเป็นคนสนุกสนานจนบางครั้งออกจะใจร้อนด้วยซ้ำ แต่เมื่อเกือบสองปีที่แล้วที่เขาไปอยู่เมืองไทยเราก็แทบไม่ได้ติดต่อกันเลย...เอ้อ...ไม่ทราบว่าคุณพลอยทำงานอยู่ที่รีสอร์ทนั่นนานแล้วหรือครับ?”
“ค่ะ...พลอยอยู่ที่วันเดอร์ฟูล รีเวอร์ รีสอร์ทมาสองปีแล้วค่ะ ผู้จัดการใจดีมาก เมื่อคืนพลอยบอกว่าจะขอลางานไปต่างประเทศหนึ่งสัปดาห์เขาก็ไม่ว่าอะไรค่ะ”
“หนึ่งสัปดาห์หรือครับ...คุณอาจอยู่นานกว่านั้นก็ได้”
พลอยพิชญาย่นคิ้ว ทว่าเพียงครู่น้ำเสียงที่เข้มขึ้นของเขาก็เบาลง
“เอ้อ...ผมหมายถึงมาเรียสอาจต้องการเวลาในการเยียวยาความรู้สึกนานกว่าหนึ่งสัปดาห์”“ฉันคงอยู่นานกว่านั้นไม่ได้หรอกค่ะ คือ...ฉันมีภาระต้องส่งเงินกลับไปให้ทางบ้าน ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ เบน ถ้าฉันจะมีเวลาอยู่ดูแลน้องชายของคุณได้ไม่นาน”“ไม่เป็นไรหรอกครับ”ชายหนุ่มจับมือเรียวบางมากุมไว้ หญิงสาวเผลอบีบมือแกร่งของเขาเบา ๆ ในช่วงจังหวะที่เครื่อง บินตกหลุมอากาศเล็ก ๆ เบนทำให้เธอหายใจติดขัดเพราะยิ่งอยู่ใกล้ ๆ ก็ยิ่งร้อนข้างในอย่างบอกไม่ถูก เขาตัวโตกว่าเธอมากและใบหน้าที่ยิ่งกว่าหลุดออกมาจากเบ้าหลอมเดียวกับมาเรียสก็ทำให้เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์ฝันกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่กำจายมาจากตัวเขาเหมือนเกรปฟรุต บางเบาแต่ก็บ่งบอกความเป็นชาย ใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้ เขาทำให้เธอตัวแข็งเหมือนขนมผิงเลยทีเดียว“ไม่ว่าคุณจะอยู่กับเรานานแค่ไหน แต่อย่างน้อยที่สุดคุณก็กำลังจะไปถึงที่นั่นแล้ว”น้ำเสียงนั้นเยือกเย็น หนุ่มนอร์วีเจียนสูดกลิ่นไอจากเส้นผมยาวดำขลับราวกับจะซึมซับทุกอย่างไว้ ทุกอย่างที่เป็นพลอยพิชญา จดจำเอาไว้ทั้งร่างกายและวิญญาณของเธอในที่สุดหญิงสาวก็เดินทางมาถึงที่อยู่ของ เบน คริสเตียนเซน หลังเดินทางด้วยเครื่องบ
พลอยพิชญาถามทว่ากลับเห็นแค่รอยยิ้มยกขึ้นบนมุมปากหยัก“ใช่...มาเรียส เคย อยู่ที่ห้องนี้ ผมไม่ได้โกหกคุณสักหน่อย พลอยพิชญา”“คุณกำลังเล่นตลกอะไรอยู่คะ เบน...คุณก็เห็นว่าห้องนี้ไม่มีใคร บอกฉันมาเถอะค่ะว่ามาเรียสอยู่ที่ไหนกันแน่”“ผมไม่ได้เล่นตลก ที่ผมพาคุณมาที่นี่ก็เพื่อให้คุณได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับน้องชายของผม!”น้ำเสียงลุ่มลึกนั้นแปรเปลี่ยนเป็นหน่วงหนัก ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาใกล้จนพลอยพิชญาถอยหลังไปติดผนัง“เบน...ความจริงเกี่ยวกับมาเรียส มันคืออะไรกันคะ”หญิงสาวเสียงสั่น ความกลัววิ่งพล่านตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงปลายเท้า เธอได้ยินเขาขบกรามดังกรอดก่อนกระชากแขนเรียวจนเซเข้าไปหาอกกว้าง“คุณไม่ควรตั้งคำถามนี้กับผม พลอยพิชญา! คุณแกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริง ๆ ว่ามาเรียสน้องชายของผมไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว!”ทันทีที่เขาพูดจบพลอยพิชญาก็ถึงกับตาเบิกกว้าง เรียวปากอ้าค้างด้วยนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินสิ่งที่ไม่คาดคิด“ไม่จริง! “ ร่างบางส่ายหน้าและน้ำตาเริ่มริน “มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาถูกส่งกลับมารักษาตัวที่นี่”“นั่นเป็นสิ่งที่คุณคิด!”เบนเหวี่ยงร่างเล็กลงบนเตียง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโก
“พลอย...มีคนมาขอพบเธอแน่ะ เขารออยู่ในสวนข้างห้องอาหารของรีสอร์ทจ้ะ”เสียงที่ดังขึ้นทำให้ร่างเล็กบอบบางซึ่งอยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟของห้องอาหารในรีสอร์ทหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาวางถาดในมือลง หญิงสาวเจ้าของใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตเป็นประกาย จมูกโด่งและริมฝีปากเป็นกระจับสีชมพูอ่อนภายใต้กรอบเรือนผมยาวดำขลับย่นคิ้วด้วยความประหลาดใจ“ใครน่ะ มิ้นท์...เขาบอกหรือเปล่าว่าชื่ออะไร?”พลอยพิชญาถามด้วยความสงสัยและเห็นมินตราเพื่อนของเธอทำหน้าครุ่นคิด“เขาแค่บอกว่าต้องการพบพนักงานเสิร์ฟที่ชื่อพลอยพิชญา และเขาจะขอคุยธุระด้วยไม่นาน อืม...แต่...เขาเป็นคนต่างชาติ หล่อมากเลยนะ”“ผู้ชายต่างชาติ...งั้นหรือ?”ร่างเล็กบอบบางรำพึงคำถามกับตัวเอง หญิงสาวหันไปยังห้องอาหารที่มีแขกนั่งบางตาก่อนบอกกับเพื่อนของเธอ“มินท์...ถ้าอย่างนั้นพลอยจะออกไปพบเขาก่อนก็แล้วกัน ทางนี้ฝากมิ้นท์แป๊บนึงนะ”“โอเคจ้ะ”มินตรารับปากก่อนที่พลอยพิชญาจะเดินออกไปทางประตูด้านหลังห้องอาหารที่มีทางเดินเล็ก ๆ ตรงไปยังสวนดอกไม้ของรีสอร์ท แสงจากโคมไฟในยามราตรีอาบไล้ไปทั่วพื้นหญ้าและและดงดอกไม้สีสันลานตาทั้งยังส่งกลิ่นหอมในยามค่ำคืน แสงสว่างทำให้เธอมองเห็
“นั่นไม่ใช่ปัญหา ผมบอกแล้วยังไงว่าจะทำทุกอย่างตามที่น้องชายของผมต้องการ ผมยินดีจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประเทศของผมให้คุณทั้งหมด ถ้ามันจะช่วยให้มาเรียสพ้นจากอาการซึมเศร้าได้”ชายหนุมกล่าวขณะบีบมือบางไว้แน่น ใบหน้าคร้ามเข้มยังคงอยู่ใกล้หญิงสาวเสียจนเขาเองก็เห็นชัดว่าพลอยพิชญาเป็นผู้หญิงที่สวยมากแค่ไหน แต่ผู้หญิงยิ่งสวยก็ยิ่งอันตราย เบนคิดในใจกับความรู้สึกบางอย่างที่แล่นปรี่ขึ้นมา“ตกลงนะครับ”เขาเปลี่ยนจากกุมมือหญิงสาวเป็นจับไหล่ของเธอและจ้องลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลสวยใสคู่นั้น“พรุ่งนี้ผมจะให้คนมารับคุณไปสนามบิน คุณพักอยู่ที่พี.เค. อพาร์ตเม้นท์ ใกล้กับรีสอร์ตนี่ใช่ไหมครับ?”เบนทำให้เธอประหลาดใจอีกครั้ง เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือที่พัก เขาคงตั้งใจมาหาเธอตามความต้องการของมาเรียสจริง ๆ“ค่ะ...ค่ะ...เอ้อ คุณ...”“เรียกผมว่าเบนก็ได้ครับ คุณ...”“พลอยค่ะ”หญิงสาวหรุบเปลือกตาลงต่ำ เธอรู้สึกเขินอายที่อยู่ใกล้เขาจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อน เขาอยู่ใกล้เธอมากเกินไปแล้ว มากจนเธอมีอาการสั่นสะท้านขึ้นมาเล็ก ๆ“ครับ...คุณพลอย”ร่างสูงพูดเสียงนุ่มก่อนค่อย ๆ ปล่อยมือเรียวบางอย