“พลอย...มีคนมาขอพบเธอแน่ะ เขารออยู่ในสวนข้างห้องอาหารของรีสอร์ทจ้ะ”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ร่างเล็กบอบบางซึ่งอยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟของห้องอาหารในรีสอร์ทหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาวางถาดในมือลง หญิงสาวเจ้าของใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตเป็นประกาย จมูกโด่งและริมฝีปากเป็นกระจับสีชมพูอ่อนภายใต้กรอบเรือนผมยาวดำขลับย่นคิ้วด้วยความประหลาดใจ
“ใครน่ะ มิ้นท์...เขาบอกหรือเปล่าว่าชื่ออะไร?”
พลอยพิชญาถามด้วยความสงสัยและเห็นมินตราเพื่อนของเธอทำหน้าครุ่นคิด
“เขาแค่บอกว่าต้องการพบพนักงานเสิร์ฟที่ชื่อพลอยพิชญา และเขาจะขอคุยธุระด้วยไม่นาน อืม...แต่...เขาเป็นคนต่างชาติ หล่อมากเลยนะ”
“ผู้ชายต่างชาติ...งั้นหรือ?”
ร่างเล็กบอบบางรำพึงคำถามกับตัวเอง หญิงสาวหันไปยังห้องอาหารที่มีแขกนั่งบางตาก่อนบอกกับเพื่อนของเธอ
“มินท์...ถ้าอย่างนั้นพลอยจะออกไปพบเขาก่อนก็แล้วกัน ทางนี้ฝากมิ้นท์แป๊บนึงนะ”
“โอเคจ้ะ”
มินตรารับปากก่อนที่พลอยพิชญาจะเดินออกไปทางประตูด้านหลังห้องอาหารที่มีทางเดินเล็ก ๆ ตรงไปยังสวนดอกไม้ของรีสอร์ท แสงจากโคมไฟในยามราตรีอาบไล้ไปทั่วพื้นหญ้าและและดงดอกไม้สีสันลานตาทั้งยังส่งกลิ่นหอมในยามค่ำคืน แสงสว่างทำให้เธอมองเห็นแผ่นหลังของร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ เขาเป็นชายชาวต่างชาติอย่างที่มินตราบอก และกำลังยืนหันหน้าไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังไหลเอื่อยเบื้องหน้าอย่างเพลินใจ
หญิงสาวชะงักเท้าลงเล็กน้อย เธอคุ้นเคยกับรูปร่างของบุรุษผู้นี้อย่างประหลาด ไหล่กว้างผึ่งผาย เรือนกายและความสูงสมส่วน ผมสีน้ำตาลประกายทองแดงเข้ม เธอคิดวาไม่น่าจะใช่กระทั่งเขาหันมา
“มาเรียส...”
อุทานออกมาเบา ๆ ทว่ามือเย็นเฉียบและตัวแข็งทื่อ กลีบปากบางอ้าค้างเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายที่ยังประทับในหัวใจไม่เคยลืม
“สวัสดีครับ...คุณคงจะใช่...คุณพลอยพิชญา ธรรมวงศ์ สินะครับ”
“มาเรียส...คุณ...”
หญิงสาวยังตกอยู่ในอาการตื่นตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่รำพึงชื่อนั้นออกมากระทั่งอีกฝ่ายก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าและกล่าวขึ้น
“ผมคือ เบน คริสเตียนเซน...ผมเป็นพี่ชายของ มาเรียส คริสเตียนเซน หวังว่าคุณคงจะจำเขาได้”
พลอยพิชญาเหมือนถูกกระชากออกจากภวังค์คิดเมื่อ เขา แนะนำตัวด้วยภาษาไทยอันชัดถ้อย เธอหายใจติดขัด เขา ไม่ใช่ มาเรียส คริสเตียนเซน คนที่เธอเคยรู้จัก ทว่าหน้าตายิ่งกว่าถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกัน
“สะ สวัสดีค่ะ...เอ้อ...ขอโทษทีค่ะ ฉันนึกว่าคุณคือ...”
“มาเรียส...น้องชายฝาแฝดของผมอย่างนั้นหรือครับ?”
เบนแทรกขึ้น นัยน์ตาสีน้ำเงินประกายเข้มมีบางอย่างฉายวาบขึ้นมาทว่าใบหน้าหล่อเหลายังคงเป็นปกติ
“ค่ะ...ฉันนึกว่าคุณคือมาเรียส เพราะหน้าตาคุณเหมือนเขามาก และที่สำคัญ ฉันไม่เคยรู้ว่าเขามีพี่ชายฝาแฝด เอ้อ...ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างคะ?”
หญิงสาวถามถึงคนอีกคนที่เธอไม่ได้พบเขามานานนับปี ใช่...เธอรู้จักมาเรียส แฝดผู้น้องของเบนในฐานะเพื่อนชายของ ดาริน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอและตอนนี้ดารินก็เดินทางไปอยู่ต่างประเทศหลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในคืนนั้น
“มาเรียสสบายดีครับ ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านในนอร์เวย์ บนเกาะสกรูวา ในหมู่เกาะโลโฟเตน”
“แล้วเขา...เอ้อ...สบายดีหรือคะ?”
พลอยพิชญาถามด้วยความตื่นเต้นขณะที่เบนยังคงอยู่ในท่าทีเยือกเย็น
“ครับ เขาหายดีแล้ว และที่ผมมาที่นี่ก็มาตามคำร้องขอของเขา”
“คะ?...คำร้องขอ”
ร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้เธออีก ใกล้จนหญิงสาวรู้สึกแปลก ๆ ไม่ใช่รังเกียจ แต่ร้อนวูบวาบไปหมดตามเนื้อตัวโดยเฉพาะใบหน้า
“ตั้งแต่ที่เขาประสบอุบัติเหตุและถูกส่งกลับไปรักษาตัวที่นอร์เวย์ เขามักพูดถึงเพื่อนคนหนึ่งของเขาเสมอ เพื่อนที่เขาพูดถึงเป็นสาวไทยตัวเล็ก เธอชื่อ พลอยพิชญา...มาเรียสบอกผมว่าเขาคิดถึงเพื่อนของเขาและอยากให้ผมพาเธอไปหาเขาที่โน่น”
พลอยพิชญาอึ้งไปนานทีเดียว เธอช้อนดวงตาสีน้ำตาลใสมองเขาอย่างไม่เข้าใจระคนลังเล ทำไมผู้หญิงที่มาเรียสคิดถึงจึงไม่ใช่ ดาริน
“ถ้ามาเรียสหายดีแล้วก็คงไม่จำเป็นกระมังคะที่ฉันต้องเดินทางไปถึงนอร์เวย์”
“จำเป็นสิครับ!”
เสียงนั้นดุดันจนหญิงสาวตกใจ ทว่าเพียงครู่เขากลับทำให้เธอประหลาดใจมากขึ้นอีกด้วยการจับมือบางไปเกาะกุมไว้และมีทีท่าอ่อนโยนลง
“ได้โปรดเถอะนะครับ...คุณพลอยพิชญา น้องชายของผมหายจากอาการบาดเจ็บก็จริง แต่เขามีอาการซึมเศร้าจนต้องพึ่งจิตแพทย์ ตอนนี้เราพยายามทำทุกวิถีทางให้เขามีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น และทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ และสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือการได้พบคุณ”
“แต่...”
“ได้โปรดเถอะนะครับ”
เบนโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ใกล้มากขนาดที่ลมหายใจร้อนเป่าปะทะผิวแก้มของหญิงสาว พลอยพิชญาตัวสั่นเล็กน้อย เธอไม่เคยชิดใกล้กับผู้ชายมากขนาดนี้เลย มันทำให้เธอหวั่นหวามจนบอกไม่ถูก
“ค่ะ...ฉันก็อยากให้มาเรียสหายเร็ว ๆ แต่...เอ...ฉันคงไม่มีเงินพอที่จะเดินทางไปประเทศของคุณหรอกค่ะ”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา ผมบอกแล้วยังไงว่าจะทำทุกอย่างตามที่น้องชายของผมต้องการ ผมยินดีจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประเทศของผมให้คุณทั้งหมด ถ้ามันจะช่วยให้มาเรียสพ้นจากอาการซึมเศร้าได้”ชายหนุมกล่าวขณะบีบมือบางไว้แน่น ใบหน้าคร้ามเข้มยังคงอยู่ใกล้หญิงสาวเสียจนเขาเองก็เห็นชัดว่าพลอยพิชญาเป็นผู้หญิงที่สวยมากแค่ไหน แต่ผู้หญิงยิ่งสวยก็ยิ่งอันตราย เบนคิดในใจกับความรู้สึกบางอย่างที่แล่นปรี่ขึ้นมา“ตกลงนะครับ”เขาเปลี่ยนจากกุมมือหญิงสาวเป็นจับไหล่ของเธอและจ้องลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลสวยใสคู่นั้น“พรุ่งนี้ผมจะให้คนมารับคุณไปสนามบิน คุณพักอยู่ที่พี.เค. อพาร์ตเม้นท์ ใกล้กับรีสอร์ตนี่ใช่ไหมครับ?”เบนทำให้เธอประหลาดใจอีกครั้ง เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือที่พัก เขาคงตั้งใจมาหาเธอตามความต้องการของมาเรียสจริง ๆ“ค่ะ...ค่ะ...เอ้อ คุณ...”“เรียกผมว่าเบนก็ได้ครับ คุณ...”“พลอยค่ะ”หญิงสาวหรุบเปลือกตาลงต่ำ เธอรู้สึกเขินอายที่อยู่ใกล้เขาจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อน เขาอยู่ใกล้เธอมากเกินไปแล้ว มากจนเธอมีอาการสั่นสะท้านขึ้นมาเล็ก ๆ“ครับ...คุณพลอย”ร่างสูงพูดเสียงนุ่มก่อนค่อย ๆ ปล่อยมือเรียวบางอย
“ขอบใจมากนะ พลอย พลอยน่ะเป็นเพื่อนที่เข้าใจดี้เสมอ แม้แต่เรื่องวันนั้น ดี้ไม่รู้ว่าจะตอบแทนเพื่อนของดี้คนนี้ยังไงให้สมกับความดีของพลอย”“ไม่เป็นไรหรอกนะ พลอยขอให้ดี้มีความสุขมาก ๆ ก็แล้วกันนะจ๊ะ”พลอยพิชญาอวยพรเพื่อนที่เธอรักก่อนสัญญาณจะขาดหายไป หญิงสาวเก็บโทรศัพท์และเริ่มว้าวุ่นในหัวใจ พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางไปนอร์เวย์ ถ้าได้เจอมาเรียสก็ยังนึกไม่ออกว่าจะบอกเขาเช่นไรว่าดารินมีแฟนใหม่และกำลังจะแต่งงานในเร็ววันนี้พลอยพิชญาคิดว่าคนของเบนที่มาหาเธอถึงอพาร์ตเม้นท์จะนำตั๋วเครื่องบินมาให้ แต่พวกเขากลับพาเธอไปยังสนามบินเพื่อที่หญิงสาวจะเห็นว่ามีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเตรียมพร้อมที่นั่นแล้ว เธอพากระเป๋าไปเพียงสองใบเพราะคิดว่าคงอยู่ที่นอร์เวย์เพียงไม่กี่วัน เธอยังคิดถึงเรื่องของดาริน ถ้าได้พบมาเรียสแล้วเธออาจบอกความจริงเพื่อให้เขาทำใจ ในเมื่อเวลานั้นก็ผ่านมาเกือบหนึ่งปีแล้ว“สวัสดีครับ...คุณพลอย”ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาทักท่ามกลางบรรยากาศของสนามบินในช่วงเย็นย่ำสนธยาที่แสงสปอร์ตไลต์เริ่มสว่างจ้าไปรอบ ๆ พลอยพิชญาตกตะลึงไปชั่วขณะกับภาพของเบนซึ่งดูหล่อเหลาและสูงสง่าแม้อยู่ในชุดลำลอง เขาเหมือนมาเรียสมาก
“เอ้อ...ผมหมายถึงมาเรียสอาจต้องการเวลาในการเยียวยาความรู้สึกนานกว่าหนึ่งสัปดาห์”“ฉันคงอยู่นานกว่านั้นไม่ได้หรอกค่ะ คือ...ฉันมีภาระต้องส่งเงินกลับไปให้ทางบ้าน ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ เบน ถ้าฉันจะมีเวลาอยู่ดูแลน้องชายของคุณได้ไม่นาน”“ไม่เป็นไรหรอกครับ”ชายหนุ่มจับมือเรียวบางมากุมไว้ หญิงสาวเผลอบีบมือแกร่งของเขาเบา ๆ ในช่วงจังหวะที่เครื่อง บินตกหลุมอากาศเล็ก ๆ เบนทำให้เธอหายใจติดขัดเพราะยิ่งอยู่ใกล้ ๆ ก็ยิ่งร้อนข้างในอย่างบอกไม่ถูก เขาตัวโตกว่าเธอมากและใบหน้าที่ยิ่งกว่าหลุดออกมาจากเบ้าหลอมเดียวกับมาเรียสก็ทำให้เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์ฝันกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่กำจายมาจากตัวเขาเหมือนเกรปฟรุต บางเบาแต่ก็บ่งบอกความเป็นชาย ใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้ เขาทำให้เธอตัวแข็งเหมือนขนมผิงเลยทีเดียว“ไม่ว่าคุณจะอยู่กับเรานานแค่ไหน แต่อย่างน้อยที่สุดคุณก็กำลังจะไปถึงที่นั่นแล้ว”น้ำเสียงนั้นเยือกเย็น หนุ่มนอร์วีเจียนสูดกลิ่นไอจากเส้นผมยาวดำขลับราวกับจะซึมซับทุกอย่างไว้ ทุกอย่างที่เป็นพลอยพิชญา จดจำเอาไว้ทั้งร่างกายและวิญญาณของเธอในที่สุดหญิงสาวก็เดินทางมาถึงที่อยู่ของ เบน คริสเตียนเซน หลังเดินทางด้วยเครื่องบ
พลอยพิชญาถามทว่ากลับเห็นแค่รอยยิ้มยกขึ้นบนมุมปากหยัก“ใช่...มาเรียส เคย อยู่ที่ห้องนี้ ผมไม่ได้โกหกคุณสักหน่อย พลอยพิชญา”“คุณกำลังเล่นตลกอะไรอยู่คะ เบน...คุณก็เห็นว่าห้องนี้ไม่มีใคร บอกฉันมาเถอะค่ะว่ามาเรียสอยู่ที่ไหนกันแน่”“ผมไม่ได้เล่นตลก ที่ผมพาคุณมาที่นี่ก็เพื่อให้คุณได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับน้องชายของผม!”น้ำเสียงลุ่มลึกนั้นแปรเปลี่ยนเป็นหน่วงหนัก ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาใกล้จนพลอยพิชญาถอยหลังไปติดผนัง“เบน...ความจริงเกี่ยวกับมาเรียส มันคืออะไรกันคะ”หญิงสาวเสียงสั่น ความกลัววิ่งพล่านตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงปลายเท้า เธอได้ยินเขาขบกรามดังกรอดก่อนกระชากแขนเรียวจนเซเข้าไปหาอกกว้าง“คุณไม่ควรตั้งคำถามนี้กับผม พลอยพิชญา! คุณแกล้งไม่รู้หรือไม่รู้จริง ๆ ว่ามาเรียสน้องชายของผมไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว!”ทันทีที่เขาพูดจบพลอยพิชญาก็ถึงกับตาเบิกกว้าง เรียวปากอ้าค้างด้วยนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินสิ่งที่ไม่คาดคิด“ไม่จริง! “ ร่างบางส่ายหน้าและน้ำตาเริ่มริน “มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาถูกส่งกลับมารักษาตัวที่นี่”“นั่นเป็นสิ่งที่คุณคิด!”เบนเหวี่ยงร่างเล็กลงบนเตียง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโก